พนักงานในทีมดูแลนายแบบและนางแบบถึงกับเสียดายที่ไม่ได้เห็นรูปของว่าที่นางแบบคนใหม่ที่พี่ลูซี่เอ่ยปากชมนักชมหนา ทุกคนลุกจากที่นั่งแล้วเดินออกจากห้องประชุมไปทำงานของตนเองเช่นกัน
“ถ้าระดับพี่ลูซี่ไปตามจีบมาด้วยตัวเองคงจะสวยน่าดู ชักอยากจะเห็นแล้วสิ” ธัญญ่าที่ทำหน้าที่ดูแลนางแบบชื่อดังของโมเดลลิ่งนี้หลายคนเอ่ยออกมา
“ว่าแต่ถ้าน้องเค้าตกลงเป็นนางแบบของโมเดลลิ่งเราแล้ว งานดูแลน้องเค้าจะตกเป็นของใครล่ะ” อาคมเอ่ย เขามีหน้าที่ดูแลพวกนายแบบชายของโมเดลลิ่ง
“ก็คงแล้วแต่พี่ลูซี่จะแจกงานให้แหละ แต่แค่ในมือของพี่ตอนนี้ก็เยอะแล้วล่ะ แต่ละนางธรรมดาที่ไหนกัน มีน้องอิงค์คนเดียวที่ยังไม่เปลี่ยนไป เสมอต้นเสมอปลายมาตลอด” ธัญญ่าตอบพลางบ่นออกมาเล็กน้อย ยิ่งมีชื่อเสียงก็ยิ่งเรื่องเยอะเรื่องมาก
สองหนุ่มสาวที่ถือว่าเป็นผู้จัดการส่วนตัวของเหล่านายแบบนางแบบของอเดลโมเดลลิ่งแห่งนี้แยกย้ายกันไปจัดการงานของตน เพราะเชื่อว่าทั้งคู่ไม่มีใครจะได้งานเพิ่มแน่นอน
“ถ้าอย่างนั้นก็เหลือเจ๊พุดซ้อน กับเจ๊จีจี้แล้วล่ะ” ผู้ช่วยสาวที่เดินตามหลังของเจ้าของชื่อทั้งสองมาเอ่ยขึ้น
“ฉันยังไงก็ได้ นางแบบที่ฉันดูแลอยู่ก็ไม่ได้มีงานมากมายเหมือนกับนางแบบของพี่ธัญญ่า รับมาเพิ่มอีกสักคนก็ไม่เหลือบ่ากว่าแรงหรอก”
พุดซ้อนบอกก่อนที่จะเดินไปห้องสันทนาการของบริษัทเพื่อชงกาแฟก่อนที่จะเริ่มงานอย่างเช่นที่ทำเป็นประจำ ส่วนเจ๊จีจี้ยักไหล่แล้วเดินไปยังโต๊ะทำงานของตน วันนี้เธอต้องออกไปทำงานแทนเจ๊ลูซี่ที่มีนัดกับว่าที่นางแบบใหม่ของโมเดลลิ่ง ผู้ช่วยที่เดินรั้งท้ายสองคนส่ายหน้าไปมา เพราะเจ๊พุดซ้อนกับเจ๊จีจี้นั้นไม่ค่อยเลือกนางแบบที่ตนดูแลมาก ถึงได้แต่พวกนางแบบนายแบบที่ดันไม่ค่อยดัง
ภายในห้องพักของโรงแรมระดับห้าดาวที่อลินาเพิ่งจะมาเช็กอินเข้าพักเมื่อเช้า เสียงน้ำในห้องน้ำตกกระทบกับพื้น เรือนร่างเปลือยเปล่าที่สวยงามมีกล้ามเนื้อที่หน้าท้องเล็กน้อยจากการออกกำลังกายบ่อยครั้งกำลังมีฟองสบู่กระจายอยู่ทั่วตัว ก่อนที่ผู้เป็นเจ้าของเรือนร่างงามจะล้างออกด้วยน้ำที่ไหลลงมาจากฝักบัวแบบเรนชาวเวอร์ ตอนเช้าอลินาเช็กเอาท์ออกจากโรงแรมที่เข้าพักครั้งแรกหลังจากมาถึงประเทศไทย แล้วมาเช็กอินเข้าพักอยู่โรงแรมที่ใกล้กับอเดลโมเดลลิ่งแทน
หลังจากเช็ดตัวและเป่าผมที่ยาวประบ่าจนแห้ง อลินาจึงเดินออกไปหยุดอยู่ที่หน้าตู้เสื้อผ้าแล้วเลือกชุดเดสสั้นแค่เข่าสีน้ำตาลมาสวมใส่ เธอแต่งหน้าด้วยเครื่องสำอางเพียงบางเบาก่อนที่จะสำรวจร่างกายอีกครั้งแล้วออกจากห้องพักไปเมื่อมองนาฬิกา แม้จะใช้เวลาเดินจากโรงแรมที่เธอพักอยู่เพียงแค่ห้านาที แต่หญิงสาวก็เป็นคนที่ตรงต่อเวลาตามนิสัยของชาวต่างชาติที่มักจะไปก่อนเวลานัดอย่างน้อยสิบห้านาที
ตึกสูงเพียงห้าชั้นเป็นที่ตั้งของบริษัทอเดลโมเดลลิ่ง ร่างระหงเยื้องย่างมาหยุดยืนมองด้านหน้าเพียงครู่เดียวก่อนที่จะตัดสินใจเข้าไปด้านใน พอประตูเปิดออกก็มีพนักงานที่ยืนอยู่ตรงเคาน์เตอร์รอต้อนรับผู้ที่มาติดต่องานกับทางโมเดลลิ่ง พนักงานต้อนรับตกตะลึงในความสวยของผู้มาเยือนทันทีที่แว่นตาสีชาถูกถอดออก
“สวัสดีค่ะ ดิฉันมาพบพี่ลูซี่ค่ะ” อลินาส่งยิ้มให้เมื่อพูดจบแต่อีกฝ่ายกลับยืนนิ่งแถมยังอ้าปากค้างอีกต่างหากทำให้หญิงสาวนึกขำในใจ
“ขอโทษนะคะ ดิฉันมาพบพี่ลูซี่ค่ะ” เท่านั้นแหละพนักงานคนนั้นถึงได้สติกลับมา เธอส่งยิ้มแห่งๆ มาให้หญิงสาวตรงหน้า
“อ๊ะ....ค่ะ เดี๋ยวเชิญนั่งรอที่ห้องรับรองด้านซ้ายก่อนเลยนะคะ เดี๋ยวดิฉันจะตามพี่ลูซี่ให้ค่ะ” อลินาพยักหน้าก่อนที่จะเยื้องย่างไปทางห้องที่มีป้ายบอกอยู่ด้านหน้าว่าเป็นห้องรับรองลูกค้า
“หือ....สวยมาก สวยตาแตก ฉันนึกว่าเธอจะพูดภาษาอังกฤษเสียอีก พูดไทยได้ชัดแจ๋วเลย” เพราะอลินานั้นหน้าตาไปทางพ่อมากกว่ามาทางแม่จึงทำให้เธอคล้ายฝรั่งมากกว่าลูกครึ่ง
“คนนี้หรือเปล่าที่พวกผู้จัดการนายแบบนางแบบอยากเห็นหน้ากันตั้งแต่เช้า”
“ไม่รู้สิ เธอรีบโทรตามพี่ลูซี่มาเถอะ” เพื่อนอีกคนรีบบอก พนักงานต้อนรับสาวนึกได้จึงรีบต่อสายไปหาพี่ลูซี่ ผู้จัดการแผนกจัดหานายแบบและนางแบบหน้าใหม่ทันที
ผ่านไปไม่ถึงห้านาทีร่างอวบอัดของเจ๊ลูซี่ก็รีบพุ่งออกมาจากประตูลิฟต์ พอสองพนักงานสาวต้อนรับชี้ไปที่ห้องรับรอง ผู้จัดการสาวประเภทสองจึงรีบสาวเท้าไปทางห้องนั้นทันที
“สวัสดีค่ะน้องฮาน่า พี่นึกว่าหนูจะมาช้าสักหน่อย ขอโทษที่ให้รอนะคะพี่เพิ่งจะประชุมเสร็จ”
“สวัสดีค่ะพี่ลูซี่ ไม่เป็นไรเลยค่ะ ฮาน่ามาเร็วกว่าเวลาที่เรานัดกันเอาไว้มากกว่าค่ะ” อลินายกมือไหว้ผู้มาใหม่พร้อมกับตอบออกไป
“ขอฮาน่าทราบรายละเอียดการทำงานกับโมเดลลิ่งหน่อยได้ไหมคะ” ไม่รอช้าอลินาเริ่มพูดคุยเรื่องงานทันที เพราะเธอจะได้ตัดสินใจว่าจะทำหรือไม่ทำ ไม่ทันที่เจ๊ลูซี่จะอธิบายเสียงเคาะประตูหน้าห้องก็ดังขึ้น
“เข้ามาได้ค่ะ” เจ๊ลูซี่เอ่ยปากอนุญาต ผู้หญิงรูปร่างสมส่วนสวมแว่นตาจึงเปิดประตูห้องเดินถือเอกสารเข้ามาวางไว้ที่โต๊ะตรงหน้าของอลินา
พุดซ้อนลอบมองใบหน้าสวยเฉี่ยว จมูกโด่งรั้นของหญิงสาวที่ตกเป็นประเด็นในการพูดคุยกันเมื่อเช้าก็รู้สึกเห็นด้วยกับเจ๊ลูซี่ ว่าหญิงสาวตรงหน้านั้นสวยแบบธรรมชาติจริงๆ แม้บนใบหน้าจะมีเครื่องสำอางแต่ก็เพียงบางเบาเท่านั้น ไม่รู้ว่านิสัยกับหน้าตาจะเหมือนกันหรือเปล่าเรื่องนี้คือสิ่งที่เธอเองก็เป็นกังวล
“นี่เป็นรายละเอียดการทำงานและการแบ่งส่วนแบ่งค่าตัวให้กับนางแบบของทางบริษัทเราค่ะ เชิญหนูอ่านดูได้เลยนะคะ ถ้าไม่เข้าใจหรือสงสัยตรงไหนถามพี่ได้เลย”
อลินาหยิบเอกสารที่เจ๊ลูซี่บอกขึ้นมาอ่านก็พบว่าเป็นการรับงานที่ไม่ได้เอาเปรียบตัวนางแบบ เรียกได้ว่าต่างฝ่ายต่างได้ประโยชน์ อลินานั่งอ่านรายละเอียดของส่วนแบ่งของค่าตัวที่จะได้รับและขอบเขตการทำงานของนางแบบในโมเดลลิ่งนี้ก็รู้สึกว่าเป็นที่น่าพอใจ ทั้งเจ๊ลูซี่และพุดซ้อนต่างพากันแอบลุ้นกับการตัดสินใจของหญิงสาวตรงหน้าจนในที่สุดเสียงหวานก็เปล่งออกมาจากริมฝีปากอิ่ม
“ฮาน่าจะลองดูค่ะ”
“เดลก็กินบ้างสิคะ มัวแต่แกะให้ฮาน่า คุณไม่กลัวฮาน่าอ้วนเหรอคะ” หญิงสาวเอ่ยถามสามียิ้มๆ“ลูกสามแล้วหุ่นยังดีอยู่เลย เอาตรงไหนมาอ้วน อีกอย่าง...เราก็ออกกำลังกายกันทุกวัน” เขาตอบเธอพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์อลินารู้ดีว่าออกกำลังกายที่เขาเอ่ยถึงในที่นี้คือการออกกำลังกายแบบไหน หญิงสาวหลบตามองกุ้งในจานแล้วตักขึ้นมากินเลิกสนใจสามีจอมหื่นที่แม้จะลูกสามแล้วแต่ทว่าเรื่องบนเตียงกลับไม่เคยแผ่ว เอเดนหัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนที่จะยกแก้วไวน์ขึ้นมาจิบ สายตากรุ้มกริ่มก็มองไปยังภรรยาภายในห้องพักสุดหรูของโรงแรมใจกลางกรุงฯ เสียงของเครื่องปรับอากาศกำลังทำงานดังปะปนกับเสียงครางทุ้มหวานของชายหญิงบนเตียงกว้าง“อื้อ....อ๊า....” เสียงหวานครางออกมาในขณะที่ร่างสูงใหญ่กำลังเคลื่อนไหวอยู่บนกายเธอ“ดีไหม...หืม...” เสียงทุ้มเอ่ยถามคนใต้ร่างที่กำลังแสดงสีหน้าเย้ายวนออกมา“ดะ...ดี....อ๊า.....”บั้นท้ายหนากดกระแทกเข้าออกช่องทางรักสีหวานของหญิงสาวในจังหวะที่เร็วและแรงขึ้นทำให้เธอแทบจะหายใจไม่ทันกับบทรักที่ร้อนแรงของฝรั่งหนุ่ม“อิงค์....อา......”เสียงทุ้มครางชื่อของหญิงสาวที่กำลังร่วมรักออกมาพร้อมกับพาหญิงสาวไปถึงปลายทางที่เรี
สองปีต่อมางานแต่งงานที่ผู้หญิงทั้งหลายใฝ่ฝันอยากจะมีสักครั้งกำลังปรากฏอยู่เบื้องหน้า สถานที่จัดงานเป็นชายหาดที่มีเม็ดทรายสีขาวสะอาดตา ซึ่งเป็นชายหาดทะเลทางภาคใต้ของประเทศไทยนั่นเอง แขกที่ได้รับเชิญให้มาร่วมงานนั้นมีเพียงแค่ญาติและเพื่อนสนิทของทั้งสองฝ่ายเท่านั้น เจ้าบ่าวเจ้าสาวต่างสัญชาติยืนยิ้มแย้มถ่ายภาพกับเพื่อนๆ เพื่อเก็บเอาไว้เป็นความทรงจำที่ดี“ร้อนหน่อยนะคะบุ๊ซ”เสียงหวานบอกเจ้าบ่าวสุดหล่อของเธออย่างห่วงใยพลางใช้ผ้าเช็ดหน้าซับเหงื่อให้เขา สำหรับเธอนั้นเคยชินกับอากาศร้อนของประเทศไทยอยู่แล้วจึงไม่มีปัญหาอะไร แต่คงจะไม่ใช่กับเขาที่มาจากเมืองหนาว“ไม่ร้อนเท่าไหร่เลยที่รัก” เขาตอบกลับพลางมองใบหน้าสวยที่แต่งแต้มเครื่องสำอางบางเบา แต่ก็ยังคงมองดูสวยงามในสายตาของเขา“ขอแสดงความยินดีด้วยอีกครั้งนะคะพี่พุดซ้อน วันนี้พี่พุดซ้อนสวยกว่าทุกวันเลยค่ะ”อลินาเอ่ยแสดงความยินดีพลางพูดแซวอดีตผู้จัดการส่วนตัวออกมายิ้มๆ อีกหน่อยพุดซ้อนก็จะได้ย้ายตามบุ๊ซไปอยู่ที่อเมริกา และงานที่เธอจะทำที่นั่นก็คือพี่เลี้ยงเด็ก ส่วนเด็กที่ว่าก็คือลูกคนที่สามของเธอกับเอเดนนั่นเอง เธอตั้งครรภ์หลังกลับจากฮันนีมูนที่ประ
“อืม....เห็นว่าผลงานของน้องฮาร่าสามารถขายได้ถึงหนึ่งล้านเลยไม่ใช่เหรอ” เมริสาก็ได้ยินข่าวเรื่องนี้มาบ้างเช่นกัน สองสาวนั่งสนทนากันเพราะไม่ได้เจอกันมานานหลายปี ส่วนมาเฟียหนุ่มกับเพื่อนสนิทอย่างฮิวโกก็นั่งจิบบรั่นดีอยู่ไม่ไกล“ขยันจังนะนายเนี่ย เผลอแป๊บเดียวเป็นคุณพ่อลูกสองละฮ่าๆๆ” ฮิวโก้เอ่ยแซวเพื่อนสนิทออกมา“หึๆ ทำมาเป็นพูด นายก็ลูกหนึ่งแล้วไหม พอฉันมีเจ้าฮาล นายก็มีน้องเค้กพร้อมกับฉันเลยนี่นา”เอเดนสวนกลับเพื่อนสนิททันที สองหนุ่มยกแก้วบรั่นดีขึ้นมาชนกันอย่างรู้ใจ บอดี้การ์ดทั้งสองของเอเดนทำหน้าที่ปิ้งบาร์บีคิวให้กับพวกเจ้านายอย่างเชี่ยวชาญ นั่นก็เป็นเพราะตอนอยู่เมืองชิคาโก้ เจ้านายจะพาครอบครัวออกไปปิกนิกตามสวนสาธารณะอยู่บ่อยๆ หน้าที่เหล่านี้จึงกลายเป็นของพวกเขาไปโดยปริยาย“เห้ย!!! มัวแต่มองอะไรน่ะบุ๊ซ เนื้อจะไหม้แล้วเนี่ยเดี๋ยวก็โดนเจ้านายด่าหรอก” เกริกโวยวายใส่เพื่อนสนิททันทีที่เห็นว่าอีกฝ่ายกำลังเหม่อมองไปยังคุณหนูทั้งสาม“เห็นเด็กๆ แล้วอยากมีลูกกับเขาบ้าง” บุ๊ซเอ่ยออกมายิ้มๆ ไม่สมกับใบหน้าสุดโหดของตนจนเกริกต้องหัวเราะออกมา"ฮ่าๆๆๆ เมียยังไม่มีเลย อยากจะมีลูกซะแล้ว นายไม่คิดข้ามขั
แสงแดดที่เริ่มลดความร้อนแรงลงไปตกกระทบกับผิวน้ำทะเลที่กำลังซัดคลื่นเข้าฝั่งเสียงดังซ่า...ซ่า มองดูแล้วช่างเป็นบรรยากาศที่เหมาะกับการมาพักผ่อน นัยน์ตากลมจ้องมองไปยังร่างเล็กทั้งสองที่กำลังวิ่งเล่นกับคนตัวโตอยู่ที่ริมชายหาด ริมฝีปากอิ่มเผยรอยยิ้มออกมา ก่อนที่ใบหน้างามจะสัมผัสกับความเย็นของเครื่องดื่มที่ผู้เป็นสามีส่งมาให้“ขอบคุณค่ะที่รัก”เสียงหวานเอื้อนเอ่ยออกมาก่อนที่จะยกแก้วพั้นซ์ขึ้นมาจิบ อลินาใช้เวลานานกว่าที่คิดกว่าจะได้กลับมาเยือนประเทศไทยก็เป็นวันครบรอบแต่งงานสามปีของเธอกับสามีแล้ว และการมาในครั้งนี้ยังมีลูกน้อยมาด้วยถึงสองคน“วันนี้ฮิวโก้จะพาคุณเมย์มาที่นี่ด้วย”“น้องเค้กมาด้วยกันไหมคะ”อลินาเอ่ยถามถึงลูกสาวของเพื่อนสนิท เมริสาแต่งงานกับฮิวโก้เมื่อสองปีก่อน และทั้งคู่ก็มีทายาทกันเลยซึ่งตอนนั้นอลินาตั้งท้องลูกคนที่สองพอดี เท่ากับตอนนี้ลูกสาวของเพื่อนสนิทอายุเท่ากับลูกชายคนเล็กของเธอ“มาครับ คุณก็รู้ว่าน้องเค้กติดพ่อของเธอมากขนาดไหน”“ดีจังเลยค่ะ เด็กๆ จะได้มีเพื่อนเล่นเพิ่ม สงสารพวกบุ๊ซกับเกริก ทำงานให้คุณก็เหนื่อยพอแล้วยังต้องมาเป็นเพื่อนเล่นกับลูกของเราอีก” อลินามองไปยังสองบอ
“คุณเป็นอะไรที่รัก ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่าหืม...”น้ำเสียงที่อ่อนโยนของสามีทำให้อลินายิ้มออกมา เขาไม่เคยแสดงความเห็นแก่ตัวกับเธอ ความจริงแล้วเขาจะทำต่อก็ได้ แต่ว่าเขายอมหยุดเพียงเพราะได้ยินว่าเธอรู้สึกไม่ดี“ฮาน่าก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ สองสามวันมานี้ฮาน่ารู้สึกเพลียๆ”“คุณทำงานจนไม่นอนพักกลางวันใช่ไหม” เขาถามออกมาด้วยความสงสัย เพราะแน่นอนว่าตอนกลางคืนเขาและเธอมักจะใช้เวลาบนเตียงร่วมกัน“ฮาน่าก็นอนนะคะเดล อืม... มีอีกอย่าง ฮาน่ารู้สึกว่าช่วงนี้หิวบ่อย เหมือนจะอ้วนขึ้นด้วยนะคะ” เธอลูบลงไปบนหน้าท้องที่ดูมีไขมันขึ้นเล็กน้อย แต่ในสายตาของเอเดนมันก็ยังคงแบนราบอยู่ดี“ไม่อ้วนเลยที่รัก แต่ผมรู้สึกว่าคุณดูสวยมากขึ้นนะ”เขาดึงเธอเข้ามาในอ้อมกอดพลางกระซิบบอกเพื่อให้ภรรยามั่นใจ อลินานึกสงสัยกับการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย แต่ก็ยังไม่อยากคิดไปไกล ทางที่ดีเธอคงต้องตรวจดูให้แน่ใจ“อืม...อาทิตย์หน้าผมว่างแล้วล่ะ เราไปฮันนีมูนที่ประเทศไทยกันดีไหม เราแต่งงานกันมาสามเดือนแล้วยังไม่ได้ไปฮันนีมูนกันเลย” เสียงทุ้มที่ดังออกมาเรียกสติของอลินาที่กำลังหลุดลอยไป“ดะ...ดีค่ะ ฮาน่าคิดถึงเมย์กับพวกพี่ๆ ที่บริษัท วิดิโอคอ
หลังจากอลินาแต่งงานกับเอเดนอย่างเป็นทางการ เธอก็ได้ทำหน้าที่ภรรยาของเอเดนอย่างเต็มตัว แต่เธอก็ไม่ลืมที่จะค้นหาในสิ่งที่เธอชอบ จนในที่สุดเธอก็ตัดสินใจเขียนบทความลงในบล็อกส่วนตัว เธอใช้ประโยชน์จากการที่เธอรู้และพูดได้หลายภาษา แปลบทความของเธอเป็นภาษาไทย ภาษาอังกฤษ ภาษาจีน ภาษาเยอรมันและภาษาญี่ปุ่น ทำให้เธอมีนักอ่านหลากหลายสัญชาติทั่วโลกที่กลายมาเป็นแฟนตัวยงของเธอ เรื่องฮันนีมูนที่เคยวางแพลนเอาไว้ก็ต้องเลื่อนออกไปก่อน เพราะงานของสามีที่ต้องจัดการให้อยู่ตัว ก่อนที่จะทิ้งงานแล้วพาเธอกลับไปเยือนประเทศไทย“กำลังทำอะไรอยู่หืม....ที่รัก” เสียงทุ้มดังมาจากด้านหลังของคนที่กำลังนั่งทำงานอยู่ที่โต๊ะบริเวณสวนของเพ้นส์เฮ้าท์สุดหรูแห่งนี้“กำลังเขียนบทความอยู่ค่ะ วันนี้ที่กาสิโนมีเรื่องยุ่งยากไหมคะ”เธอละมือจากงานที่ทำแล้วหันไปสนใจสามีที่เพิ่งกลับมาจากคาสิโน หลังจากแต่งงานกัน เอเดนก็ได้พาเธอไปดูธุรกิจทุกอย่างที่เขากำลังทำอยู่ แม้ลึกๆ ในใจอลินาจะรู้สึกกังวลกับงานของสามี แต่เธอก็คงจะให้เขาเปลี่ยนไปทำอย่างอื่นไม่ได้ เพราะนี่คือสิ่งที่ตระกูลของเขาทำมาเนิ่นนาน ในเมื่อเธอรักเขาเธอก็ต้องยอมรับในตัวตนของเขาเช