Home / วาย / เกิดใหม่อีกครา วานวาสนาไม่ข้องเกี่ยว / เล่ม 2 ตอนที่ 9 ตัวแทนคนที่จากไป

Share

เล่ม 2 ตอนที่ 9 ตัวแทนคนที่จากไป

last update Last Updated: 2025-06-20 19:56:31

        หวังเยี่ยนหลงยามไร้โอสถละอองบุปผาโลหิตต้องทรมานจากปราณมารปะทุอย่างน้อยเดือนละครั้ง ทั้งยังเสี่ยงจะถูกคนล่วงรู้ความลับนี้แล้วฉวยโอกาสลอบสังหารเขา

          นับว่าเขายังคงพอมีโชคอยู่บ้างเรื่องความจงรักภักดีของลูกน้องคนสนิทอย่างซวงและหลุน อย่างน้อยคงเพราะมีสายเลือดเดียวกันกระมังและเขาช่วยให้สองคนนี้หลุดพ้นจากการกดขี่ของผู้อื่น

          หวังเยี่ยนหลงเพิ่งจะปลดปล่อยปราณมารเมื่อสองคืนก่อน ปิดบังตัวตนของตนเองเดินทอดน่องอย่างไร้จุดหมายจนมาหยุดยืนด้านหน้าป้ายหลุมศพของคนผู้หนึ่ง เดิมทีมีป้ายอีกชื่อวางไว้เคียงข้างกัน แต่ถูกเขาทำลายแตกกระจายไม่มีชิ้นดี

          “เฮอะ” ทันทีที่อ่านป้ายนั้น เขาก็หัวเราะตัวเองที่ทำเรื่องงี่เง่า ชอบหลงมายังที่แห่งนี้ทุกครา

          หวังเยี่ยนหลงนอนลงข้าง ๆ หลับตาฟังเสียงสายลมจนเผลอหลับไปโดยไม่รู้ตัว

          เสียงนกบินกลับรังทำให้เขารู้สึกได้ว่าฟ้ากำลังจะมืด หวังเยี่ยนหลงเดินกลับสำนักของตนเองตามเคย หากแต่วันนี้ได้พบใครบางคนที่เหมือนคนผู้นั้นจนทำให้สีหน้าของเขาเปลี่ยนไป

          เขาเอื้อมมือคว้าตัวชายหนุ่มผู้นั้นเอาไว้ สายตายังคงมองไม่วางตา ปลายนิ้วไล้ใบหน้าคนตรงหน้าราวโหยหา

          “ท่านเป็นผู้ใดกัน” ชายหนุ่มอายุสิบเจ็ดปีเอ่ยปากถาม

          “...” หวังเยี่ยนหลงไม่ตอบ

          ชายหนุ่มผู้นี้สบแววตาของเขาแล้วยิ้มให้

          “ใต้เท้า ปล่อยข้าเถิด” เขาพยายามสะบัดมือ ทำทีเดินจากไป

          หวังเยี่ยนหลงกลับดึงเขาเข้ามาใกล้ มองดวงหน้าให้ชัดเจน พินิจพิเคราะห์ แล้วพาตัวของชายผู้นั้นกลับมาที่เรือนใบไผ่ของตน

          “ใต้เท้า ท่านจะทำสิ่งใดกับข้า” ชายผู้นี้ควรจะต้องรู้สึกตกใจหรือหวั่นใจบ้างแล้วที่ถูกคนแปลกหน้าพามายังที่ไม่คุ้นเคย ทว่า เขากำลังปิดซ่อนความรู้สึกปลื้มใจไว้อยู่

          “เจ้า... เหตุใดดูคล้ายกันเพียงนี้” หวังเยี่ยนหลงยังคงพึมพำ เจ้าตัวดูหักห้ามใจเอาไว้ไม่ได้ “เป็นเจ้าจริงหรือ”

          “ใต้เท้า ข้าเกรงว่าท่านจะจำคนผิดแล้ว ปล่อยข้าเถิด”

          โจวอิ่งฉิน มั่นใจว่าเขาไม่เคยพบคนตรงหน้ามาก่อน รูปร่างหน้าตาดึงดูดใจเพียงนี้ เห็นเพียงครั้งเดียวย่อมต้องจำได้ขึ้นใจ

          “เฮอะ นั่นสินะ ข้าคงจำผิดไปจริง ๆ” หวังเยี่ยนหลงรู้อยู่แล้วว่าไม่มีทางเป็นไปได้ ตั้งแต่เกิดเรื่องวันนั้นผ่านมาแค่สิบปี ไม่มีทางเป็นชายหนุ่มผู้นี้ไปได้

          “ใต้เท้า หากท่านไม่ถือสา ข้ายินดีช่วยท่าน” โจวอิ่งฉินโอบรอบคอของหวังเยี่ยนหลง สีหน้ายิ้มแย้ม น้ำเสียงที่เขาพูดนุ่มนวลราวกับจะสะกดหวังเยี่ยนหลงเอาไว้

          รอยยิ้มนั้นที่เขาไม่ได้เห็นมาเนิ่นนาน ไม่ใช่สิ เขาไม่เคยเห็นมันด้วยซ้ำจึงทำให้ใจหวังเยี่ยนหลงเต้นตึกตัก

          บัดซบ! เขาสบถด่าตัวเอง

          “ไปซะ!” เขาตวาดโจวอิ่งฉิน เบือนหน้าหนีไม่สนใจ

          “ใต้เท้า ข้ารู้ว่าท่านต้องการสิ่งใด ข้า... ช่วยท่านได้” เขายังคงพูดโน้มน้าวให้คล้อยตามสิ่งที่ตัวเขาเองปรารถนา

          โจวอิ่งฉินเป็นคนในหอเงาราตรี วิชาเพลงขับกล่อมยามค่ำคืนจะทำให้คนผู้นั้นมองเห็นตัวเขาเป็นใครก็ตามที่หวนนึกถึง เขาใช้วิชานี้กับผู้คนมากมายที่หลั่งไหลมาหอเงาราตรีหาความสำราญ แต่เขาก็เป็นได้เพียงตัวแทน หาได้มีผู้ใดหลงใหลตัวเขาด้วยความจริงใจ

          ผิดกับตอนที่ได้เจอหวังเยี่ยนหลง หน้าตาและรูปร่างของเขาคงจะบังเอิญเหมือนใครจริง ๆ จนไม่ต้องใช้วิชาเพลงขับกล่อมด้วยซ้ำ

          “อย่ามายุ่งกับข้า” เสียงของหวังเยี่ยนหลงดังขึ้น “รีบไปซะ” เขาไล่ให้โจวอิ่งฉินออกมานอกเรือนใบไผ่

          “เช่นนั้น ข้าขอตัว” โจวอิ่งฉินจึงจำยอมเดินจากไปด้วยความเสียดาย

          ทันทีที่เขากลับมาถึงหอเงาราตรี โจวอิ่งฉินเปลี่ยนเสื้อผ้าอาภรณ์สีสันลวดลายสวยงามเว้าแหวก ก้าวเข้าไปในห้องโถงใหญ่ที่มีผู้คนคลาคล่ำ เริ่มบรรเลงเพลงพิณไพเราะจับใจจนผู้คนในที่แห่งนั้นตกอยู่ในภวังค์

          หลังจากบรรเลงดนตรีจบเรียบร้อย ชายหนุ่มวัยยี่สิบสองคนก็เดินตามเขากลับไปที่ห้อง สายตาจ้องมองตั้งแต่หัวจรดเท้า จับจ้องทุกท่วงท่าของโจวอิ่งฉิน เสื้อผ้าแหวกบนแหวกล่างวับแวมชวนค้นหาเรือนร่างภายใน

          ทันทีที่ประตูห้องปิดลง คนทั้งสองก็เข้ามาใกล้โจวอิ่งฉิน เริ่มถอดเสื้อผ้าให้เขาทีละชิ้น มือไม้จับทั่วร่าง ขณะที่ริมฝีปากของเขากำลังจะประกบจูบใครสักคนในนั้น ประตูห้องก็ถูกเลื่อนเปิดออกเสียงดังจนคนในห้องสะดุ้ง

          “เจ้าเป็นผู้ใด” หนึ่งในนั้นโพล่งถาม ใครกันบังอาจมาขัดจังหวะรื่นรมย์ของพวกเขา

          “...” ผู้มาเยือนไม่ตอบสิ่งใด สายตามองร่างเปลือยเปล่าของคนทั้งสามแล้วเกิดอาการคิ้วกระตุก โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนหน้าเหมือนที่เปลือยกายอยู่ใต้ร่างชายอื่น

          “ใต้เท้า ท่านมาทำอะไรที่นี่หรือ” โจวอิ่งฉินเอ่ยปากถาม เมื่อครู่เพิ่งจะไล่เขาออกมา เหตุใดจู่ ๆ ถึงได้โผล่มาอยู่ในเรือนของเขาเร็วปานฉะนี้

          หวังเยี่ยนหลงเดินเข้ามาใกล้ เอาเสื้อผ้าคลุมกายของโจวอิ่งฉิน แล้วตวาดใส่ชายหนุ่มทั้งสอง “ออกไป!”

          “เจ้าเป็นผู้ใดถึงกล้าทำเรื่องเสียมารยากับข้า เจ้าไม่รู้หรือว่าข้าเป็นใคร”

          “ข้าจ่ายค่าตัวเขาแล้ว เจ้าสิต้องออกไปจากห้องนี้”

          ชายหนุ่มทั้งสองคนดึงดัน พวกเขาจ่ายค่าตัวของโจวอิ่งฉินเพื่อหาความสำราญในคืนนี้ไปไม่น้อย ฉะนั้นแล้วเจ้าคนไร้มารยาทมีสิทธิ์อันใดมาไล่

          “จะไปดี ๆ หรือจะไปแบบไม่เหลือวิญญาณ” แววตาของหวังเยี่ยนหลงเปลี่ยนเป็นดุดัน น้ำเสียงเยือกเย็น คำพูดกดดันทำให้ชายหนุ่มทั้งสองไม่กล้าหือพากันรีบคว้าเสื้อผ้าแล้ววิ่งออกจากห้องไปทันที

          “คนอะไรน่ากลัวชะมัด”

          “อื้อ นิสัยต่ำทรามสุด ๆ”

          เสียงบ่นกระปอดกระแปดของทั้งคู่ดังมาระยะหนึ่งจนหายลับไป

          หวังเยี่ยนหลงมองคนตรงหน้า สายลมพัดผ้าคลุมกายไหลลงมากองที่เอวบางของโจวอิ่งฉิน เผยให้เห็นผิวนวลใต้แสงจันทร์

          “ใต้เท้า ท่านคงเห็นข้าแล้วนึกถึงผู้ใดกระมัง แต่ข้าไม่ใช่ อย่าได้ยุ่งเกี่ยวกับข้าอีกเลย อีกอย่างท่านมารบกวนข้าถึงที่นี่ ต่อไปลูกค้าของข้าจะกล้าเข้าหาข้าหรือ” โจวอิ่งฉินเอ่ยปากเตือนเขา

          “ลูกค้า?” หวังเยี่ยนหลงทวนสิ่งที่คนตรงหน้าพูด

          “ท่านตามข้ามาถึงที่นี่ ไม่ได้สังเกตหรือว่าเป็นที่ใด” โจวอิ่งฉินยืนขึ้น ผ้าคลุมชิ้นนั้นจึงร่วงหล่นลงกับพื้น ร่างเปลือยเปล่ากำลังเดินนวยนาดเข้ามาหาเขากระซิบบอกข้างหู “ท่านกำลังทำให้ข้าเสียเวลา”

          ลมหายใจของโจวอิ่งฉินเป่ารดต้นคอ มือของเขาที่สัมผัสใบหน้าของหวังเยี่ยนหลงนุ่มนวลจนเขาอยากจะคว้ามันไว้

เพียงแต่คนทั้งสองไม่ใช่คนเดียวกัน

          “เจ้าจะไปที่ใด” เขาเอ่ยถาม

          “หาลูกค้าคนใหม่ มีคนอีกมากมายที่รอข้าอยู่” โจวอิ่งฉินทำท่าเดินจากไปอย่างไม่ใยดี

          “เพื่อสิ่งใด”

          เสียงหัวเราะของโจวอิ่งฉินดังขึ้น “อยู่หอเงาราตรี จะทำสิ่งใดเล่า หากเมื่อครู่ไม่ถูกท่านขัดจังหวะไปเสียก่อน ข้าคงได้สุขสมกับคุณชายทั้งสองท่านนั้นไปแล้ว ร่างกายอิงแอบแนบชิด ท่วงท่าเร่าร้อน เสียงครางกระเส่าคงจะดังจนรุ่งสาง”

          หวังเยี่ยนหลงฟังที่โจวอิ่งฉินเล่าพลางคิดตาม “เจ้าใช้ใบหน้านี้ทำเรื่องเช่นนั้นหรือ”

          “ใบหน้าข้า ร่างกายข้า จะทำสิ่งใดย่อมได้” โจวอิ่งฉินขึ้นเสียง

          “ไม่ได้!”

          “เฮอะ ท่านเป็นใครถึงมาห้ามข้า คนรักข้าหรือ ก็ไม่ใช่” เขายั่วยุหวังเยี่ยนหลง เดินกลับมาหาแล้วจับมือของหวังเยี่ยนหลงมาลูบใบหน้าของตนเอง ไล้ผ่านคอเรียว หน้าอก หน้าท้องวางพักมือคู่นั้นไว้ที่บั้นท้าย แล้วประกบริมฝีปาก สอดลิ้นเข้าไปด้านใน จูบเขาอย่างดูดดื่ม จากนั้นจึงพูดกับหวังเยี่ยนหลงว่า “ข้าจะให้ผู้ใดทำเช่นนี้กับข้าย่อมได้”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • เกิดใหม่อีกครา วานวาสนาไม่ข้องเกี่ยว   เล่ม 2 ตอนที่ 24 พากลับบ้าน

    เช้าวันต่อมา เหลียนเฟินงัวเงียตื่นขึ้นมาในอ้อมแขนของหวังเยี่ยนหลง ทันทีที่รู้ว่าตัวเองไม่ได้ถูกควบคุมแล้ว เขารีบพลิกตัวหนีแล้วถีบร่างหวังเยี่ยนหลงไปอีกทาง คนที่นอนหลับอยู่พลันกระเด็นตามแรงไปชนขอนไม้ใหญ่ดังพลั่ก สะดุ้งตื่นในทันที “กล้าดีอย่างไร!” หวังเยี่ยนหลงสบถ “คนชั่วช้า เจ้าทำอะไรข้า ทำไมข้าถึงขัดขืนไม่ได้” เหลียนเฟินโพล่งออกมา สีหน้าโกรธแค้นระคนเสียใจ&

  • เกิดใหม่อีกครา วานวาสนาไม่ข้องเกี่ยว   เล่ม 2 ตอนที่ 23 ปราณมารกำเริบ

    หลังจากวันนั้น หวังเยี่ยนหลงก็เอาแต่วนเวียนวุ่นวายกับเหลียนเฟินไม่จบสิ้นไม่ว่าจะพูดยั่วยุเท่าใดก็ไม่เป็นผล จิตวิญญาณของเหลียนเฟินยังคงเป็นเช่นเดิม ไม่ปล่อยให้ความแค้นเกาะกุม ปราณมารจึงไม่อาจเข้าครอบงำได้อีก ในเมื่อเวลานี้รู้แล้วว่าเขาเป็นผู้ใดจึงไม่มีเหตุผลต้องปิดบังอีกต่อไป หวังเยี่ยนหลงจึงพาเขากลับมาที่สำนักตระกูลหวัง ระหว่างพรรคมารกลุ่มหนึ่งตาดีมองเห็นหวังเยี่ยนหลงแต่ไกล คนในนั้นรู้ทันทีว่าเป็นหวังเยี่ยนหลง ยิ่งอยู่เพียงลำพังกับชายหนุ่มอายุน้อยกว่าก็คิดว่าตนเองมีแต้มเป็นต่อ หากกำจัดเขาได้ก็คงจะมีชื่อเสียงเลื่องลือว่าสามารถโค่นล้มประมุขสำนักตระกูลหวังได้ จึงรวมหัวกันวางแผนพร้อมลอบโจมตี

  • เกิดใหม่อีกครา วานวาสนาไม่ข้องเกี่ยว   เล่ม 2 ตอนที่ 22 ลงโทษตัวเอง

    ครั้นสำนักสะสางเรื่องพรรคมารได้แล้ว จึงหันมาสืบสวนเรื่องภายในอย่างเคร่งเครียดบาดแผลบนร่างกายเกิดจากคมกระบี่เงิน ร่องรอยอาคมที่บ่งชัดได้ว่ามาจากผู้ที่สอบผ่านขั้นกลางไปแล้ว ศิษย์ที่อยู่ในที่แห่งนี้มีเพียงศิษย์ระดับต้นเท่านั้น “ซิ่นเฉิง เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้อาจารย์ฟังได้หรือไม่” อาจารย์ผู้หนึ่งถามซิ่นเฉิง ซิ่นเฉิงกลับเล่าเรื่องราวบิดเบือนจากความจริงไปมากนักราวกับว่าความทรงจำของเขาถูกใครบางคนควบคุมอยู่ เหลียนเฟินเห็นว่านี่เป็นทางเดียวที่จะทำให้เขาถูกลงโทษอย่างสมน้ำสมเนื้อ จึงยอมรับว่าทำเรื่องทั้งหมดนั่นแต่โดยดี

  • เกิดใหม่อีกครา วานวาสนาไม่ข้องเกี่ยว   เล่ม 2 ตอนที่ 21 เรียกสติ

    “เหลียนเฟิน!” เสียงคุ้นเคยของสตรีผู้หนึ่งดังขึ้น เรียกความสนใจของหวังเยี่ยนหลงได้เป็นอย่างดี “หมิงฮวา ดีใจนักที่ได้เจอเจ้าเสียที” เขาพูดกับนางอย่างเป็นกันเอง “หวังเยี่ยนหลง?” หมิงฮวาไม่คิดว่าคนตรงหน้าจะยังมีชีวิตอยู่ นับตั้งแต่ปะทะกันครั้งก่อน ไม่มีข่าวของหวังเยี่ยนหลงหลุดออกมาอีกเลย“เจ้าทำอะไรเขา” หมิงฮวาสงสัย หากเป็นโลหิตมารย่อมไม่สามารถทำอันใดกับศิษย์ทุกคนในสำนักได้ พลังของมันรุนแ

  • เกิดใหม่อีกครา วานวาสนาไม่ข้องเกี่ยว   เล่ม 2 ตอนที่ 20 ถูกควบคุม

    คนกลุ่มหนึ่งในชุดสีขาวแถบเขียวอ่อนวิ่งเข้ามาด้านในศาลาว่าการสายตามองเห็นศิษย์สำนักตนและคนอื่น ๆ ในนั้นนอนจมกองเลือดก็รู้สึกสลดใจที่มาช้าไป “แยกย้ายกันตรวจดู” อาจารย์ผู้หนึ่งสั่งศิษย์ของตน เขามองภาพที่เกิดขึ้นเห็นทั้งไอปราณมารและร่องรอยการต่อสู้ บาดแผลบนตัวทหารหลายคนดึงดูดความสนใจจากเขาเป็นอย่างมาก “อาจารย์ ช่วยหลิ่งอินด้วยขอรับ” เสียงของศิษย์คนหนึ่งดังขึ้น เขาร่ายอาคมรักษาขั

  • เกิดใหม่อีกครา วานวาสนาไม่ข้องเกี่ยว   เล่ม 2 ตอนที่ 19 เครื่องมือแก้แค้น

    ครั้นทั้งสองคนเดินผ่านโรงเตี๊ยมเดิมเมื่อตอนนั้น หวังเยี่ยนหลงจึงหยุดอยู่ข้างหน้าพลางชี้ให้เหลียนเฟินดู “อาหารที่นี่ขึ้นชื่อ” เขายักยิ้ม “ข้าว่าไปที่อื่นดีกว่า อยู่ตรงนี้นานเหมือนจะไม่สบาย” เหลียนเฟินนึกถึงครั้งที่แล้ว เขาตื่นมาด้วยความงงงวยจนนึกว่าตัวเองป่วยไข้ ค้นหาอาการในตำรารักษาทั่วไปก็ไม่พบเจอสิ่งใดสายตาเหลือบเห็นสิ่งที่เรียกว่าตำราต้องห้ามจึงเปิดดูเนื้อหาด้านใน จึงได้รู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นคืออะไร นึกโกรธตัวเองนักที่จำไม่ได้ จะถามใครก็ไม่ได้อีกเพราะเป็นเรื่องต้องห้าม

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status