Beranda / วาย / เกิดใหม่อีกครา วานวาสนาไม่ข้องเกี่ยว / เล่ม 2 ตอนที่ 8 โกรธแค้นสำนักเซียน

Share

เล่ม 2 ตอนที่ 8 โกรธแค้นสำนักเซียน

last update Terakhir Diperbarui: 2025-06-20 02:02:14

        สิบปีต่อมา

          หวังเยี่ยนหลงอายุยี่สิบแปด พลังปราณและวิชาแกร่งกล้าพัฒนาไปมาก หากแต่ความเป็นคนของเขาราวกับหยุดอยู่ที่เดิม ความรู้สึกบางอย่างถูกเก็บซ่อนไว้ในใจ เวลานี้มีเพียงความเย็นชาไม่รู้ร้อนรู้หนาวต่อผู้ใด

          เขากลายเป็นประมุขสำนักตระกูลหวังและเป็นผู้กุมอำนาจตัวจริงที่อยู่เบื้องหลังพรรคทลายฟ้าและพรรคบุปผาทมิฬ

          การกระทำของเขาส่งผลให้พรรคมารเรืองอำนาจ แม้จะหาเรื่องทะเลาะเบาะแว้งขัดขากันอยู่เรื่อย ๆ พอถึงคราวที่ต้องต่อกรกับสำนักเซียนก็พักรบชั่วคราวอย่างรู้ใจกัน

        หวังเยี่ยนหลงไม่เพียงมีเรื่องกับพรรคมารเท่านั้น ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นเพราะเขายังทำให้ชาวบ้านที่ไม่รู้เรื่องโดนหางเลขไปด้วย สำนักเซียนต่าง ๆ จึงเริ่มเข้ามาจัดการทุกอย่างให้เข้าที่เข้าทาง

        “นายท่าน พวกมันฝ่าเข้ามาด้านในสำนักแล้วขอรับ” ซวงรายงานด้วยสีหน้าไร้กังวล

        “แค่คนสำนักเซียนพวกเจ้าจัดการกันเองไม่ได้หรือ?” หวังเยี่ยนหลงเลิกคิ้วเอ่ยปากถาม

        “ศิษย์ผู้หนึ่งต้องการพบนายท่านขอรับ หลุนกำลังกันนางไว้ข้างนอก” ซวงอธิบายอย่างละเอียด ส่วนใหญ่คนที่บุกเข้ามามักจะต้องการพบหวังเยี่ยนหลงเพื่อสังหาร แต่นางผู้นี้กลับต้องการเจรจา

        เมื่อทนลูกน้องคนสนิทรบเร้าไม่ไหว หวังเยี่ยนหลงจึงนึกอยากเห็นหน้านางให้หายสงสัย เหตุใดเจ้าพวกนี้ถึงได้คะยั้นคะยอเขานัก

        “หวังเยี่ยนหลง” นางเอ่ยเรียกชื่อเขา สีหน้าแววตาดูเด็ดเดี่ยว กล้าหาญไม่เกรงกลัวชื่อเสียงเลื่องลือของเขาแม้แต่น้อย

        “เจ้าเป็นผู้ใด กล้ามาก่อเรื่องถึงเรือนของข้า” เขาลอบร่ายอาคมเรียกกระบี่

        “ข้ามาเพื่อเตือนเจ้าให้หยุดทำเรื่องเลวร้ายเสีย” นางยังคงไม่บอกว่านางเป็นผู้ใด แต่กระบี่เงินสลักลายนั้นบ่งบอกชัดเจนว่านางเป็นศิษย์วังธาราเหมันต์

        “นางคือหมิงฮวาขอรับ” หลุนตะโกนบอกผู้เป็นเจ้านาย

        หวังเยี่ยนหลงรู้สึกคุ้นกับชื่อนี้เพียงแต่นึกไม่ออกว่าเคยได้ยินมาจากที่ใด ครู่หนึ่งเขาก็เลิกคิ้ว รอยยิ้มปรากฏมีเลศนัย

        “หมิงฮวาผู้นั้นเองหรือ เจ้ามาเสนอตัวให้ข้าถึงที่นี่เชียว” หวังเยี่ยนหลงกำลังรู้สึกอยากประมือกับใครสักคนอยู่พอดี นึกไม่ถึงว่าจะได้เจอนาง

        “เจ้าเข้าใจสิ่งที่ข้าพูดบ้างหรือไม่” นางถามย้ำ “หากเจ้าไม่หยุด ข้าจำเป็นต้องหยุดเจ้า” หมิงฮวากำกระบี่ไว้แน่น ครั้งนี้นางจะไม่พลาดอีกต่อไป นางให้โอกาสคนตรงหน้ามากพอแล้ว แต่เขากลับไม่รับเอาไว้ เช่นนั้นแล้วคิดบัญชีสะสางรวมกับแค้นเก่าคงจะทำให้ศิษย์พี่หนิงเกอตายตาหลับได้

        หวังเยี่ยนหลงสั่งให้ลูกน้องออกไปจัดการศิษย์วังธาราเหมันต์ที่เหลือด้านนอก

        “เจ้าลืมไปแล้วหรือว่าในตัวเจ้ามีสิ่งใดที่ข้าฝากไว้” หวังเยี่ยนหลงร่ายอาคมบังคับโลหิตมารในร่างของนาง

        ทว่า คนตรงหน้าไม่สะทกสะท้านอย่างที่เคยเป็น หมิงฮวายังคงยืนนิ่งไม่เจ็บปวด ร่ายอาคมฟันกระบี่ใส่หวังเยี่ยนหลงรวดเร็ว แสงสีฟ้าพุ่งกระทบร่างของเขาอย่างจังจนเซไปด้านหลัง

        สีหน้าของเขาเวลานี้กำลังสับสนงุนงงที่โลหิตมารของตนใช้ไม่ได้ผล

        หมิงฮวารอเวลานี้มาตลอด วันที่เขาจะบังคับโลหิตมารในร่างของนางไม่ได้ และไม่อาจใช้มันกับศิษย์คนใดของวังธาราเหมันต์ได้ นอกจากนั้นนางยังฝึกวิชาทะลวงผ่านขั้นสูงฝีมือไม่เป็นรองเขาแน่นอน

        “เหตุใด” หวังเยี่ยนหลงพึมพำ

        “...” หมิงฮวาเงียบ ไม่จำเป็นต้องพูดให้มากความ นางสะบัดกระบี่ร่ายอาคมต่อเนื่องจนหวังเยี่ยนหลงแทบตั้งรับไม่ทัน เพราะฝีมือของนางเก่งกาจขึ้นกว่าเดิม

          “ข้าคงออมมือให้เจ้ามากเกินไป” หวังเยี่ยนหลงส่ายหน้า ในเมื่อนางรู้แล้วว่าเขามีปราณมารในตัวจึงไม่จำเป็นต้องเสแสร้งปิดบังอีกต่อไป

          พลันปราณมารสีดำก่อตัวขึ้นรอบ ๆ คนทั้งสอง เขายิ้มร้ายสั่งให้มันลอบโจมตีนางจากทุกทาง มือของเขากำด้ามกระบี่ไว้แน่น หันปลายแหลมชี้ไปที่หมิงฮวา

          ทั้งคู่ประมือกันอยู่หลายกระบวนท่า บางครั้งโดนโจมตี บางครั้งหลบได้ ไม่มีใครยอมรามือ

          เพียงแต่วันนี้หมิงฮวาเตรียมตัวมาดี นางวางแผนทุกอย่างไว้โดยที่หวังเยี่ยนหลงไม่ทันรู้ตัว หากนางไม่สามารถสังหารเขาได้ อย่างน้อยบุปผาโลหิตควรจะถูกทำลาย

          หวังเยี่ยนหลงที่ไร้ซึ่งโอสถก็เสมือนกับคนใกล้จะตาย ปล่อยให้เขาถูกปราณมารกัดกินอาจจะช่วยให้เขาได้สำนึกถึงสิ่งที่เคยทำลงไปบ้าง

          กลิ่นควันไฟเริ่มโชยมายังที่เขายืนอยู่ หวังเยี่ยนหลงไม่ได้สนใจมันมากนัก แต่เสียงที่ตะโกนมาแต่ไกลของลูกน้องกลับทำให้เขารู้สึกอยากจะฆ่าหมิงฮวาตั้งแต่ตอนนี้

          “ศิษย์พวกนั้นราดน้ำมันเผาสวนบุปผาแล้วขอรับ” ซวงวิ่งหน้าตาตื่นมาแจ้งเขา แม้จะสั่งให้คนที่อยู่ตรงนั้นดับไฟแต่คิดว่าคงไม่ทันการณ์

          ซวงนึกภาพออกว่าจะเกิดสิ่งใดขึ้นหากเจ้านายไม่มีโอสถจากละอองบุปผาโลหิต ตัวเขาเองก็ต้องโดนลูกหลงจากโลหิตมารยามที่หวังเยี่ยนหลงควบคุมตนเองไม่ได้เช่นกัน

          หวังเยี่ยนหลงสีหน้าเคร่งเครียด “เอาคืนได้เจ็บแสบยิ่งนัก”

          “ข้าเตือนเจ้าแล้ว” หมิงฮวาเอ่ยปาก ก่อนหน้านี้พยายามส่งสารหาเขา ให้หยุดกระทำระรานชาวบ้าน แต่ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ เขาไม่สนใจคำเตือนของใครทั้งนั้น

          กระบี่ของหมิงฮวาฉวัดเฉวียนแยกตัวออกเป็นกระบี่สิบเล่ม เล็งไปที่ร่างของหวังเยี่ยนหลง ซวงเห็นดังนั้นจึงกระโดดเข้ามาปัดกระบี่นางออกไป กระนั้นกระบวนท่าของนางเปลี่ยนเป็นอีกอย่าง หลบหลีกจากซวงพุ่งหาหวังเยี่ยนหลง

          เขาเริ่มหงุดหงิดที่ถูกต้อนจึงอัดปราณมารกลับไปที่หมิงฮวา ต่างฝ่ายต่างกระอักเลือดสะบักสะบอม

          “ศิษย์พี่” เสียงของชายหนุ่มเรียกนาง เขากันซวงไว้อีกด้านไม่ให้รบกวน หมิงฮวาพยักหน้า อีกไม่นาน ความแค้นนี้จะสิ้นสุดลง

          นางร่ายอาคมขั้นสูงเพื่อจบทุกอย่าง ปราณทิพย์อัดแน่นในกระบี่เงิน จิตใจมุ่งมั่น สายตาจ้องหวังเยี่ยนหลงไม่วางตา

          แสงสีฟ้าจากปลายกระบี่มุ่งไปยังร่างของหวังเยี่ยนหลง ปลุกปราณมารที่เขาควบคุมให้ตื่นขึ้น มันจะไม่ยอมให้ผู้ใดทำลายร่างภาชนะเด็ดขาด ไอสีดำจึงพวยพุ่งทะลุร่างของหมิงฮวาเช่นกัน

          คนที่อยู่ในที่นั้นต่างฝ่ายก็คิดว่าคนของตนคงไม่รอด ศิษย์วังธาราเหมันต์รีบมาประคองหมิงฮวาแล้วถอนกำลัง

          ลูกน้องของหวังเยี่ยนหลงเข้ามาดูอาการของเขา โลหิตมารจะสลายไปหากผู้เป็นเจ้านายสิ้นลม ทว่าการกระทำของเขาราวถูกผูกมัด ซวงโคจรพลังปราณช่วยเขาโดยไม่มีข้อแม้

          หลังจากเหตุการณ์นั้น หวังเยี่ยนหลงใช้เวลาพักรักษาตัวอยู่นาน จนมาถึงคืนที่ปราณมารจะแกร่งกล้า เมื่อไม่มีโอสถแล้ว ทางเดียวที่จะทำได้คือการปลดปล่อยปราณมารให้ใครสักคน

          นับแต่นั้นมา หวังเยี่ยนหลงทำตัวเหมือนตายไปแล้ว อยู่อย่างเงียบ ๆ เพื่อรอเวลาทำลายวังธาราเหมันต์ให้สิ้นซาก หากเขาหาวิธีควบคุมปราณมารได้เมื่อใด เขาจะรีบสะสางแค้นในทันที

          “หมิงฮวา พรรคมาร สำนักเซียน ข้าจะทำลายมันให้หมด”

          หวังเยี่ยนหลงสั่งให้ทุกคนในสำนักตระกูลหวังเก็บตัวเงียบ แต่ใช้คนจากพรรคทลายฟ้าแทรกแซงเรื่องราวในยุทธภพแทนที่

          วังธาราเหมันต์

          หมิงฮวารักษาจนหายดีแล้วขอเข้าถ้ำน้ำแข็งเพื่อฝึกวิชาเพิ่มขึ้น นางเข้าใจว่าเวลานี้หวังเยี่ยนหลงเสมือนคนไม่มีแขนขา จะรังแกหรือทำลายผู้ใดย่อมไม่อาจทำได้อีกแล้ว ปราณมารที่อยู่ในตัวเขายังคอยกัดกินทุกวี่วัน นางหวังว่าเขาจะสำนึกได้บ้างก่อนตาย

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • เกิดใหม่อีกครา วานวาสนาไม่ข้องเกี่ยว   เล่ม 2 ตอนที่ 11 หัวใจดวงเดิม

    เช้าวันต่อมา เมื่อคลี่คลายเรื่องราวทุกอย่างได้แล้ว เหล่าศิษย์จากสำนักต่าง ๆ จึงออกเดินทางกลับสำนักของตนเอง หลิ่งอินหันมายิ้มและบอกลาเหลียนเฟินด้วยท่าทีสดใส “อาเฟิน เจอกันใหม่ ขอบคุณที่ช่วยข้า” หลิ่งอินพูดจบแล้วก็รีบวิ่งตามศิษย์พี่ของเขากลับไป “อาเฟินหรือ อาเฟิน” หลวนเล่อสะกิดแขนของเหลียนเฟิน ยิ้มมีเลศนัย “ทำไมหรือ” เหลียนเฟินยังคงไม่รู้ตัวว่านางต้องการสื่อสิ่งใด “อาเฟิน เขาเรียกเจ้าเช่นนี้ หมายความว่าอันใด” หลวนเล่อหรี่ตามองท่าทางคนตรงหน้า “เขาเรียกชื่อข้า ไม่เห็นมีอันใดแปลกนี่ขอรับ” เหลียนเฟินทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ “นี่ศิษย์น้องที่รัก หน้าเจ้าแดงแล้วนะ ไม่แปลกจริงหรือ อีกอย่างเขาเรียกข้าว่าอะไรนะ ศิษย์พี่หญิงหลวนเล่อแห่งวังธาราเหมันต์ ชื่อข้าจะไม่ยาวไปหน่อยหรือ” นางยังคงจ้องมองศิษย์น้องจับพิรุธ “ไม่รู้สิขอรับ” เหลียนเฟินไม่อยากตกเป็นเป้านิ่งเดินหนีนางไปทางท่าเรือด้วยท่าทีรีบร้อน “อาเฟิน เจ้าเขินอายหรือ อาเฟิน” หลวนเล่อตะโกนเสียงดังทำให้เหลียนเฟินรีบเดินจ้ำอ้าวกว่าเดิม หลิ่งอินผู้เป

  • เกิดใหม่อีกครา วานวาสนาไม่ข้องเกี่ยว   เล่ม 2 ตอนที่ 10 ความรู้สึกคุ้นเคย

    เพียงแค่นึกภาพว่ามีผู้อื่นมาแตะต้องใบหน้านี้ เขาก็รู้สึกหงุดหงิดใจอย่างบอกไม่ถูก เสียงพิณเริ่มบรรเลงขับกล่อมราตรีอีกครั้ง โจวอิ่งฉินยิ้มหวานมีเลศนัยเมื่อเห็นคนตรงหน้าโอบกอดรัดรึง เริ่มจู่โจมเขาแบบไม่ทันตั้งตัว “ใต้เท้า ท่านเบามือหน่อย” เสียงพึมพำดังข้างหูของหวังเยี่ยนหลงที่เวลานี้ห้ามใจของตัวเองไม่ไหว “อย่ายุ่งกับผู้ใด” เขาเอ่ยปากแล้วอุ้มร่างบางของโจวอิ่งฉินไปนอนบนเตียง เริ่มต้นค่ำคืนแสนยาวนานของทั้งสองคน เช้าวันต่อมา หวังเยี่ยนหลงซื้อตัวโจวอิ่งฉินจากหอเงาราตรีแล้วพากลับไปอยู่ที่สำนักตระกูลหวังนับตั้งแต่นั้นมา ชายหนุ่มเผลอคิดไปว่าเขาอาจจะพอมีใจให้บ้าง เวลานี้หวังเยี่ยนหลงมองเขาเป็นเพียงตัวแทน แต่หากนานวันไปเมื่อใด เขาจะทำให้หวังเยี่ยนหลงลืมคนผู้นั้นไปให้ได้ ทว่า ความคิดนั้นกลับตื้นเขินนัก จนถึงวันนี้ หวังเยี่ยนหลงไม่ได้มองเขาเปลี่ยนไปจากเดิม ทั้งยังทำร้ายเขายามที่ปราณมารปะทุ ครั้นจะหนีไปที่ใดก็ทำไม่ได้ มิหนำซ้ำยังรู้สึกผูกติดกับเขาและโหยหาความรักจากหวังเยี่ยนหลงจนยอมทนทุกอย่างไปเสียแล้ว ณ โรงเตี๊ยม หวังเยี่ยนห

  • เกิดใหม่อีกครา วานวาสนาไม่ข้องเกี่ยว   เล่ม 2 ตอนที่ 9 ตัวแทนคนที่จากไป

    หวังเยี่ยนหลงยามไร้โอสถละอองบุปผาโลหิตต้องทรมานจากปราณมารปะทุอย่างน้อยเดือนละครั้ง ทั้งยังเสี่ยงจะถูกคนล่วงรู้ความลับนี้แล้วฉวยโอกาสลอบสังหารเขา นับว่าเขายังคงพอมีโชคอยู่บ้างเรื่องความจงรักภักดีของลูกน้องคนสนิทอย่างซวงและหลุน อย่างน้อยคงเพราะมีสายเลือดเดียวกันกระมังและเขาช่วยให้สองคนนี้หลุดพ้นจากการกดขี่ของผู้อื่น หวังเยี่ยนหลงเพิ่งจะปลดปล่อยปราณมารเมื่อสองคืนก่อน ปิดบังตัวตนของตนเองเดินทอดน่องอย่างไร้จุดหมายจนมาหยุดยืนด้านหน้าป้ายหลุมศพของคนผู้หนึ่ง เดิมทีมีป้ายอีกชื่อวางไว้เคียงข้างกัน แต่ถูกเขาทำลายแตกกระจายไม่มีชิ้นดี “เฮอะ” ทันทีที่อ่านป้ายนั้น เขาก็หัวเราะตัวเองที่ทำเรื่องงี่เง่า ชอบหลงมายังที่แห่งนี้ทุกครา หวังเยี่ยนหลงนอนลงข้าง ๆ หลับตาฟังเสียงสายลมจนเผลอหลับไปโดยไม่รู้ตัว เสียงนกบินกลับรังทำให้เขารู้สึกได้ว่าฟ้ากำลังจะมืด หวังเยี่ยนหลงเดินกลับสำนักของตนเองตามเคย หากแต่วันนี้ได้พบใครบางคนที่เหมือนคนผู้นั้นจนทำให้สีหน้าของเขาเปลี่ยนไป เขาเอื้อมมือคว้าตัวชายหนุ่มผู้นั้นเอาไว้ สายตายังคงมองไม่วางตา ปลายนิ้วไล้ใบห

  • เกิดใหม่อีกครา วานวาสนาไม่ข้องเกี่ยว   เล่ม 2 ตอนที่ 8 โกรธแค้นสำนักเซียน

    สิบปีต่อมา หวังเยี่ยนหลงอายุยี่สิบแปด พลังปราณและวิชาแกร่งกล้าพัฒนาไปมาก หากแต่ความเป็นคนของเขาราวกับหยุดอยู่ที่เดิม ความรู้สึกบางอย่างถูกเก็บซ่อนไว้ในใจ เวลานี้มีเพียงความเย็นชาไม่รู้ร้อนรู้หนาวต่อผู้ใด เขากลายเป็นประมุขสำนักตระกูลหวังและเป็นผู้กุมอำนาจตัวจริงที่อยู่เบื้องหลังพรรคทลายฟ้าและพรรคบุปผาทมิฬ การกระทำของเขาส่งผลให้พรรคมารเรืองอำนาจ แม้จะหาเรื่องทะเลาะเบาะแว้งขัดขากันอยู่เรื่อย ๆ พอถึงคราวที่ต้องต่อกรกับสำนักเซียนก็พักรบชั่วคราวอย่างรู้ใจกัน หวังเยี่ยนหลงไม่เพียงมีเรื่องกับพรรคมารเท่านั้น ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นเพราะเขายังทำให้ชาวบ้านที่ไม่รู้เรื่องโดนหางเลขไปด้วย สำนักเซียนต่าง ๆ จึงเริ่มเข้ามาจัดการทุกอย่างให้เข้าที่เข้าทาง “นายท่าน พวกมันฝ่าเข้ามาด้านในสำนักแล้วขอรับ” ซวงรายงานด้วยสีหน้าไร้กังวล “แค่คนสำนักเซียนพวกเจ้าจัดการกันเองไม่ได้หรือ?” หวังเยี่ยนหลงเลิกคิ้วเอ่ยปากถาม “ศิษย์ผู้หนึ่งต้องการพบนายท่านขอรับ หลุนกำลังกันนางไว้ข้างนอก” ซวงอธิบายอย่างละเอียด ส่วนใหญ่คนที่บุกเข้ามามักจะต้องการพบหวังเยี่ยน

  • เกิดใหม่อีกครา วานวาสนาไม่ข้องเกี่ยว   เล่ม 2 ตอนที่ 7 ความคลุ้มคลั่งในอดีต

    ย้อนกลับไปเมื่อสิบแปดปีที่แล้ว หลังจากเกิดเหตุการณ์นั้น หวังเยี่ยนหลงก็คลุ้มคลั่งเพราะควบคุมปราณมารไม่ได้ เขาถูกมันควบคุมความคิดจิตใจพยายามยึดร่างของเขา ยามที่สงบสติลงหวังเยี่ยนหลงก็เอาแต่นิ่งเงียบสับสน ครั้นปราณมารปะทุ อารมณ์รุนแรงอ่อนไหวยิ่งทวีมากขึ้น เขาเผลอร่ายอาคมโลหิตมารโดยไม่รู้ตัว จนทำให้คนที่มีโลหิตมารในร่างพลอยได้รับลูกหลงไปด้วย ในเวลานั้น หลิงซีแทบไม่มีทางเลือกอื่นใดแต่พอจะได้ยินเรื่องของละอองบุปผาโลหิตมาบ้างจึงส่งซวงและหลุนเข้าไปสืบหาข้อมูลเพิ่มเติม ระหว่างรอข่าวดี นางพยายามช่วยให้หวังเยี่ยนหลงควบคุมตนเองให้ได้ หากเขาไม่ถูกปราณมารโจมตี นางและพวกพ้องที่เหลือก็จะปลอดภัยไปด้วย บางครั้งหลิงซีคิดฉวยโอกาสสังหารหวังเยี่ยนหลงในเวลาที่อ่อนกำลังลง ทว่าไม่เป็นผลเลยสักครั้ง ไม่ว่าหวังเยี่ยนหลงจะมีสติหรือไม่ ปราณมารมักไม่ปล่อยให้ใครแตะต้องเขาได้ง่าย ๆ ร่างนี้เป็นของมัน ผู้ใดก็ไม่มีสิทธิ์ ละอองบุปผาโลหิตเป็นของวิเศษของพรรคบุปผาทมิฬ สวงนไว้ให้ประมุขพรรคและครอบครัวเท่านั้น หลิงซีรายงานเรื่องที่ได้รับจากซวงและหลุนให้หวังเยี่ยนหลงได้รู้

  • เกิดใหม่อีกครา วานวาสนาไม่ข้องเกี่ยว   เล่ม 2 ตอนที่ 6 เสแสร้งเป็นคนดี

    ผ่านไปหนึ่งก้านธูป หลินหลีเหว่ยนับเวลาถอยหลังจะได้ร่ายอาคมถลกหนังนักพรตผู้นี้ “อ๊าก!” เหลียนเฟินร้องเสียงดังจนทำให้คนที่อยู่ตรงนั้นสะดุ้งด้วยความแปลกใจ เหตุใดคนที่ควรจะนอนหลับใหลถึงฟื้นสติได้เร็วปานนี้ “เจ้า...” เขาไม่รู้จะเอ่ยคำใด “คันจริง ๆ เจ้าเอาอะไรให้ข้ากิน” เหลียนเฟินจ้องหน้าชายขอทานพลางใช้มือลูบใบหน้าและร่างกายของตนเอง รอยแดงเป็นวงกลมปรากฏขึ้นบนผิวขาวของเขา “โอสถละลายร่าง” เขาเผลอตอบเพราะยังตกใจไม่หาย ใครก็ตามที่กินยานี้เข้าไปมักจะหนีไม่รอดสักราย ฤทธิ์ของมันจะค่อย ๆ กัดกร่อนหนังหุ้มร่างกาย ทำให้คนผู้นั้นทรมานปวดแสบปวดร้อนจนทนไม่ได้ วันนี้เข้าเพิ่มกำยานเข้าไปด้วยเพราะไม่อยากสู้กับเหลียนเฟิน ชะรอยไม่คิดว่าจะผิดแผนจนได้ “เป็นเจ้าจริง ๆ ด้วย” เหลียนเฟินร่ายกระบี่จ่อคอเขาในทันที “ท่านนักพรต ทำไมถึงจ่อกระบี่มาทางข้าเล่า” มารยาร้อยเล่มเกวียนยังคงถูกนำมาใช้ต่อเนื่อง “เจ้าเป็นคนทำร้ายชาวบ้าน ข้าปล่อยเจ้าไปไม่ได้” เหลียนเฟินกล่าวต่อ “ไม่มีใครรู้ว่าคนผู้นั้นทำอะไรกับร่างของชาวบ้าน แต่เจ้ากลับรู้ว่าจะมีคนเอาหนั

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status