ค้นหา
ห้องสมุด
หน้าหลัก / รักโบราณ / เจ้าสาวประมุขหุบเขามืด / 7.ซูหนี่ต้องรอด

7.ซูหนี่ต้องรอด

2025-06-23 20:40:00

ซูหนี่ต้องรอด

...ซีฮันอ๋องถูกกำจัดแล้ว  เช่นนั้นก็...ไม่นะ  ท่านแม่!

ฉู่เสวียนหนี่คิดในใจก่อนจะทำท่ากระโดดลงจากเกวียน คนขับเกวียนที่แม่ชีหยูถงให้ช่วยพานางหลบหนีได้หันกลับมาเห็นจังหวะที่นางกำลังจะกระโดด  จึงรีบร้องห้ามปรามนางในทันที

"แม่นาง แม่นางเจ้าจะลงจากเกวียนไม่ได้นะ แม่ชีหยูถงกำชับไว้ ไม่ว่าอย่างไรก็ห้ามให้เจ้าลงจากเกวียนเด็ดขาดจนกว่าจะถึงจุดหมาย"

นางไม่ฟังที่เขาบอก  ยังพยายามหาจังหวะเหมาะเพื่อที่จะกระโดดลงให้ได้  เมื่อเป็นเช่นนั้นคนขับเกวียนยิ่งควบล่อให้วิ่งเร็วขึ้น ทั้งนี้ก็เพื่อป้องกันไม่ให้นางกระโดดลงไปสำเร็จ และเร่งความเร็วเพื่อไม่ให้ทหารที่อาจจะตามมาทัน

พลั่ก!

แต่แล้วเสวียนหนี่ก็หาวิธีกระโดดลงจนได้ ร่างของนางกระแทกกับพื้นถนนขรุขระจนเกิดบาดแผลเลือดไหลบริเวณเข่า อาภรณ์สีสะอาดที่นางสวมใส่อยู่คลุกฝุ่นมอมแมม แม้ว่านางจะเจ็บแปลบไปทั้งร่างแต่เสวียนหนี่ยังยันกายลุกขึ้นวิ่งให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้

ก้าวทุกก้าวแฝงไปด้วยความรวดร้าว พลันน้ำในตาคู่สวยก็ไหลเอ่อออกมาจนหนทางข้างหน้าขมุกขมัวเต็มที เหตุนี้ทำให้หญิงสาวสะดุดก้อนหินล้มลงไปอย่างแรงอีกครั้ง มีหรือที่เสวียนหนี่จะสนใจความเจ็บปวดที่กำลังเผชิญอยู่ นางรีบลุกขึ้นยืนให้ไวแล้ววิ่งต่อไปเรื่อย ๆ

แม้นว่าจะไม่เคยมีโอกาสได้พบเจอโลกภายนอก แต่ก็เคยได้ยินผ่านหูมาหลายครั้งเกี่ยวกับเรื่องราวผู้ก่อกบฏว่าจะมีจุดจบอย่างไร ในเมื่อพ่อของนางเลือกอยู่ข้างซีฮันอ๋อง แต่ผู้ที่กำชัยชนะไว้ในคราวนี้คือฮ่องเต้ ครอบครัวของนางเห็นทีจะหนีไม่พ้นอาญาแผ่นดินต้องโทษประหารทั้งตระกูล หรือไม่อย่างนั้นก็ถูกฆ่าทิ้งยกครัวในวันนี้

...ท่านแม่...ได้โปรดอย่าเป็นอะไรเลยนะเจ้าคะ รอข้าก่อน...ขอร้องล่ะ...

ที่จวนตระกูลฉู่ เจียวเหมยรีบเขามาปลุกซูหนี่ด้วยท่าทางตื่นตระหนก พอซูหนี่ลืมตาขึ้นก็ต้องตกใจสุดขีดที่เห็นในมือของมารดาถือกระบี่เปื้อนโลหิตไว้หนึ่งเล่ม มองเลยไปด้านหลังมีสาวใช้ประจำตัวกำลังวิ่งหน้าตาตื่นเข้ามารายงานสถานการณ์นอกกำแพงจวน

"ฮูหยินรองเจ้าคะ พวกทหารพังประตูเข้ามาแล้วเจ้าค่ะ เราจะเอาอย่างไรต่อไปดีเจ้าคะ"

"เกิดอะไรขึ้นหรือท่านแม่"

จากเสียงที่ดังอึกทึกครึกโครมราวฟ้าจะถล่ม ผสมกับเสียงร้องโหยหวนของบรรดาบ่าวไพร่ที่กำลังได้รับความเจ็บปวดอยู่ข้างนอก ทำให้ซูหนี่ชะเง้อมองออกไปแต่ยังไม่เห็นอะไรจึงถามขึ้น เจียวเหมยไม่ได้ให้คำตอบลูกสาวแต่ใช้กระบี่ตวัดผ่านบริเวณลำคอสาวใช้จนสิ้นใจตายต่อหน้าต่อตา ซูหนี่ที่เห็นภาพสยดสยองก็เผลอหลุดเสียงกรีดร้องออกมา ร่างกายนางแข็งทื่อทำอะไรไม่ถูก ไม่คาดคิดว่ามารดาจะกล้าสังหารสาวใช้คนสนิทอย่างเหี้ยมโหด

...ลั่วลั่วลงไปนอนแดดิ้น โลหิตสีแดงพุ่งกระฉูดเป็นสาย กลิ่นคาวคละคลุ้งอบอวลไปทั่วห้อง นางสิ้นใจตายโดยที่คาดไม่ถึงว่าผู้เป็นนายจะเป็นคนส่งตนไปนรกภูมิเองกับมือ

"ท่านพ่อของเจ้าร่วมมือกับท่านอ๋องก่อกบฏ ตอนนี้ท่านอ๋องและท่านพ่อของเจ้าถูกสังหารที่ประตูวังแล้ว เจ้าจงรีบสลับอาภรณ์กับลั่วลั่วเสีย"

ซูหนี่มองดูศพของสาวใช้ที่เพิ่งจะดิ้นทุรนทุรายแล้วสิ้นใจไปอย่างเวทนา นางรู้สึกอยากจะอาเจียนออกมาให้รู้แล้วรู้รอด ขยะแขยงโลหิตเปื้อนเปรอะบนอาภรณ์ที่สาวใช้สวมใส่อยู่จนไม่อยากสัมผัส จึงยังรั้งรออยู่ว่าจะเอาเช่นไรดี

ด้วยความที่ยังคงติดอยู่ในภวังค์ฝันอันแสนหวาน ว่าอีกไม่กี่วันตนเองก็จะได้เป็นสะใภ้อ๋องแล้ว คิดเข้าข้างตนเองว่านี่ต้องไม่ใช่เรื่องจริงแน่ ๆ ซีฮันอ๋องจะพ่ายแพ้ให้ฮ่องเต้ได้อย่างไร ในเมื่อฮ่องเต้เป็นหุ่นเชิดของเขายาวนานนับสิบปี ฮ่องเต้ไม่มีทางแข็งแกร่งจนเอาชนะซีฮันอ๋องได้แน่ ๆ

"ไม่จริง ท่านอ๋องจะพ่ายแพ้ได้อย่างไร ท่านพ่อยังไม่ตายใช่ไหมเจ้าคะ จะเป็นอย่างนั้นได้อย่างไรกัน ละ...แล้วตำแหน่งสะใภ้ของข้าล่ะ"

"ทั้งหมดคือความจริง เรื่องสะใภ้อ๋องเจ้าไม่ต้องสนใจแล้ว รีบเอาชีวิตให้รอดก่อน เร็วเข้า เปลี่ยนชุดแล้วหนีไปแม่จะเผาเรือนหลังนี้เสีย"

"ไม่ ไม่จริง"

ในขณะที่ซูหนี่กำลังพูดออกมาอย่างฟั่นเฟือนนางก็ถูกมารดาตบจนหน้าชา ซูหนี่ยกมือขึ้นมากุมข้างแก้มไว้แล้วพึงระลึกได้ว่านี่ไม่ใช่ความฝันแต่ประการใด

"ตื่นเสียที! เร็วเข้านี่เป็นโอกาสสุดท้ายแล้ว หากชักช้าไปกว่านี้เจ้าจะตายเข้าใจไหม! เข้าใจไหมซูหนี่!"

"แล้วท่านพี่ล่ะ"

"ไม่เจอป๋อเหวิน แม่เองก็ไม่รู้ว่าพี่ชายเจ้าหายไปไหน"

"เช่นนั้นท่านแม่หนีไปกับข้านะเจ้าคะ"

"แม่ไปกับเจ้าไม่ได้"

"...ท่านแม่"

"เอานี่ไป"

ถุงผ้าสีน้ำตาลถูกยัดใส่มือ ซูหนี่มองถุงผ้าแล้วอยากจะถามว่าในนั้นคือสิ่งใดแต่เจียวเหมยก็เร่งเร้านางอีก

"สลับชุดกับลั่วลั่วเสีย ที่ประตูด้านหลังจวนมีคนรอเจ้าอยู่ พวกเขาจะพาเจ้าหลบหนีไปอย่างปลอดภัย"

"ท่านแม่"

"ไปเสีย หนีไป!"

นางรีบทำตามที่เจียวเหมยบอก สลับชุดกับศพของลั่วลั่วแล้วรีบหนีออกทางประตูหลังจวน ภาพสุดท้ายที่หันกลับมาคือเรือนที่นางเคยอาศัยหลับนอนกำลังถูกไฟลุกโหมกระหน่ำ มองลึกเข้าไปในกองเพลิงสีส้มเห็นเงามารดากำลังกอดศพของลั่วลั่วไว้ในอ้อมอก ทั้งนี้ก็เพื่อให้คนที่มาพบศพในภายหลังเข้าใจว่าศพหญิงสาวที่นางกอดอยู่นั้นคือลูกสาว ยามที่เพลิงสงบลงทั้งเจียวเหมยและศพนี้ก็คงจะไหม้เกรียมไปพร้อมกัน ถึงตอนนั้นคงยากพิสูจน์อัตลักษณ์แล้ว

...ท่านแม่ ข้าขอลาก่อน

ทั้งหมดนี้ก็เพื่อช่วยซูหนี่ให้รอดพ้นความตาย หญิงสาวกลั้นน้ำตาเอาไว้แล้วตัดสินใจวิ่งไปข้างหน้า ทว่ายังไม่ทันจะพ้นประตูทางออกก็มีทหารหนึ่งนายใช้ดาบขวางเอาไว้

"จะหนีรึ"

"ปล่อยข้าไปเถิดพี่ชาย ข้าเป็นเพียงสาวใช้ว่าจ้างไม่ใช่คนของตระกูลฉู่"

"ฝ่าบาทสั่งฆ่าให้หมด สาวใช้ก็ห้ามละเว้น"

ทหารนายนั้นง้างดาบหมายฟาดฟันซูหนี่ให้สิ้นใจในดาบเดียว แต่นางได้เปล่งเสียงต่อรองครั้งสุดท้ายจนเขาชะงักมือไว้ก่อน

"ข้ามีความลับตระกูลฉู่จะบอก!"

"ความลับ?"

"ใช่ ผู้คนภายนอกต่างรู้ว่านายท่านมู่เฉินมีลูกสาวเพียงคนเดียว แท้ที่จริงแล้วนายท่านมู่เฉินยังมีลูกสาวอีกคนที่เกิดจากฮูหยินใหญ่"

"...เจ้าว่าอย่างไรนะ"

"หากท่านฆ่าข้าข้าก็แค่ตาย แต่ถ้าหากท่านจับตัวลูกสาวอีกคนของนายท่านมู่เฉินมาได้ ท่านจะได้ความดีความชอบ ท่านต้องรับปากก่อนว่าจะปล่อยข้าไปแล้วข้าจะบอกว่าลูกสาวของนายท่านมู่เฉินอยู่ที่ใด"

"ข้าจะมั่นใจได้อย่างไรว่าเจ้าไม่โกหก"

"สุนัขจนตรอกใกล้ตายเช่นข้ามีหรือจะกล้าโกหก ข้าขอเอาความลับนี้แลกกับชีวิตของข้า ระหว่างชีวิตของข้าซึ่งเป็นสาวใช้กับชีวิตคุณหนูฉู่ท่านว่าชีวิตผู้ใดสำคัญมากกว่ากัน ฝ่าบาทจะทรงพอพระทัยชีวิตใดมากกว่ากันลองคิดดู"

"ได้ ข้าจะปล่อยเจ้าไปก็ได้ ไหนลองเล่ามาว่าคุณหนูฉู่ผู้นั้นนางอยู่ที่ใด"

ซูหนี่ค่อย ๆ ถอยหลังห่างออกไปทีละก้าวอย่างระแวดระวังตัว เมื่อถึงระยะปลอดภัยแล้วนางจึงตะโกนบอกทหารนายนั้น

"ฟังให้ดี! บุตรสาวอีกคนของฉู่มู่เฉินนางมีนามว่าฉู่เสวียนหนี่ ตอนนี้นางอยู่ที่อารามเขาต้าซาน!"

ฉู่เสวียนหนี่ได้วิ่งมาหยุดอยู่ที่ตรอกหนึ่งหลังตลาด นางพยายามทวนความจำวัยเด็กเกี่ยวกับเส้นทางไปจวนตระกูลฉู่ ไม่นานก็เริ่มนึกออกว่าจวนตระกูลฉู่ต้องไปทางซ้ายมือ

ทว่าวิ่งไปตามทางได้ไม่นานก็มีทหารกลุ่มหนึ่งกำลังควบม้าสวนมา โชคดีที่นางตาเร็วและเห็นทันจึงรีบหลบเข้าไปในโรงเก็บข้าวสาลีของชาวบ้าน เมื่อทหารกลุ่มนั้นผ่านไปแล้วนางจึงออกจากที่ซ่อนตัวแล้วรีบไปต่อ

เส้นทางที่นางและป๋อเหวินชอบแอบหนีไปเที่ยวเล่นประจำคือประตูด้านหลัง เสวียนหนี่ไม่รอช้าแอบลักลอบเข้าไปอย่างระวังตัว นางวิ่งหลบหลีกซ่อนตัวจากทหารที่ยังเหลืออยู่บริเวณนี้ไม่ถึงสิบนาย  เมื่อวิ่งผ่านเรือนรองที่กำลังมีไฟลุกโหมเผลอหยุดมองชั่วครู่

ด้านในนั้นเห็นเงาเลือนรางของมนุษย์ที่กำลังถูกไฟคลอกอย่างน่าเวทนา แต่แล้วเสวียนหนี่ก็ต้องรีบดึงสติคืนมาเพื่อไปเรือนหลักตามหามารดาให้พบ

เมื่อมาถึงเรือนหลัก ภาพตรงหน้านั้นทำให้เสวียนหนี่ตัวแข็งทื่อก้าวขาแทบไม่ออก ซินหยางนอนจมกองเลือดหายใจรวยรินสภาพน่าสังเวช เห็นเช่นนั้นเสวียนหนี่รีบพุ่งเข้าไปประคองร่างมารดาไว้ นางอยากเรียกมารดาใจจะขาด อนิจจา...ไม่มีเสียงออกมาจากปากแม้สักครึ่งคำ

...อึดอัดเหลือเกิน ยามนี้แม้แต่จะพูดสักคำก็ยังทำไม่ได้ ข้าเกลียดตัวเอง!  ฮึก ท่านแม่

ที่ทำได้ก็เพียงทุบอกตนเองซ้ำ ๆ พยายามเปล่งเสียงเรียกสติมารดาให้ฟื้นลืมตามามอง แต่กลับมีเพียงความเงียบงัน เพราะนางไม่สามารถพูดคำใดออกมาได้เลย

...ทำไม่ได้เลยจริง ๆ

...ได้โปรด ข้าอยากพูด ข้าอยากพูดกับท่านแม่เหลือเกิน...

ซินหยางค่อย ๆ ลืมตามองหน้าลูกสาวด้วยแววตาที่พร่ามัว แม้สติสัมปชัญญะจะเลือนรางเต็มทีแต่ก็จำสัมผัสของลูกได้เป็นอย่างดี

...ลูกสาวอันเป็นที่รัก นางควรจะออกจากเมืองหลวงไปแล้วมิใช่หรือ เหตุใดถึงมาอยู่ที่นี่ได้

"สะ เสวียนหนี่ เจ้า...เจ้ามาที่นี่อีกทำไม"

"...ฮึก ฮื่อ"

"เจ้าต้องหนี"

"..."

"ฟังแม่ ยามนี้คงย้อนกลับไปที่อารามไม่ได้แล้ว ป่านนี้ทหาร...คะ...คงไปตามจับเจ้าที่อารามแล้ว...เช่นนั้น จะ เจ้าจงเข้าไปเอาถุงผ้าสีน้ำตาลในห้องแม่ ในถุงผ้านั้นมีพู่หยกสีนิล...เจ้าจงนำติดตัวไปที่หุบเขาอูยา"

เสวียนหนี่ส่ายศีรษะปฏิเสธ นางไม่อยากไปหุบเขาอูยาอะไรนั่นแม้แต่น้อย ยิ่งเห็นสภาพมารดาเป็นเช่นนี้นางจะหนีเอาตัวรอดคนเดียวได้อย่างไรกัน

"เชื่อแม่สักครั้งเถิด...มีแต่ไปที่นั่นเท่านั้นเจ้าถึงจะรอดพ้นจากการตามล่า"

ผู้เป็นลูกสาวค่อย ๆ วางร่างมารดานอนแนบพื้น แล้วก็ทำท่าทางสื่อสารเป็นภาษามือให้ซินหยางเข้าใจแทน

...เราหนีไปด้วยกันนะเจ้าคะ ท่านแม่แข็งใจรอข้าอีกนิด ข้าจะไปเอาถุงผ้า...

ซินหยางส่งยิ้มเย็นเยียบให้ เดิมทีไม่ปรารถนาให้เสวียนหนี่ไปที่หุบเข้าอูยาตั้งแต่ต้น จึงไม่ได้ฝากฝังพู่หยกสีนิลไว้กับแม่ชีหยูถง หวังเพียงว่าก่อนฮ่องเต้ลงมือเสวียนหนี่จะหลบหนีออกจากแคว้นเถียนได้อย่างปลอดภัย แต่ทุกอย่างผิดไปจากที่คาดการณ์ เพราะฮ่องเต้เป็นฝ่ายลงมือก่อนที่เสวียนหนี่จะทันได้ออกจากเมืองหลวงเสียด้วยซ้ำ

เมื่อเรื่องเลยเถิดมาจนตอนนี้ ตัวตนของเสวียนหนี่ก็คงถูกเปิดเผยแล้ว ทางรอดของนางเห็นจะมีเพียงสถานที่เดียวคือหุบเขาอูยา อย่างไรเสียระหว่างสองดินแดนก็ปกครองแบบน้ำบ่อไม่ยุ่งกับน้ำคลอง หากเสวียนหนี่ได้ไปที่นั่นโอกาสรอดย่อมมีมากกว่า

...เสวียนหนี่ เจ้าช่างอาภัพนัก...จากนี้ไม่มีแม่แล้วจงรักษาตัวให้ดี

นางทอดมองแผ่นหลังของลูกสาวที่กำลังห่างออกไป แต่แล้วก็ไม่อาจฝืนชะตากรรมนี้ได้ เมื่อเสวียนหนี่วิ่งไปจนลับตาแล้ว ซินหยางค่อย ๆ ปิดเปลือกตาลงช้า ๆ  หัวใจของนางเต้นอ่อนแรงลง ในที่สุดห้วงเวลาสุดท้ายมาเยือน...มาเยือนทั้ง ๆ ที่ไม่ทันได้บอกลาลูกสาวอันเป็นที่รัก...

เหตุการณ์ครั้งนี้ไม่ว่าเจียวเหมยหรือซินหยาง พวกนางทั้งสองต่างก็เสียสละตนเพื่อบุตรสาวทั้งคู่ และสิ่งสุดท้ายที่เจียวเหมยและซินหยางมีเหมือนกันไม่ต่าง

...คือความรักของมารดาที่มีต่อบุตรนั้นมากมายมหาศาลไม่สิ้นสุด...

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป