“ป้าว่าน้องเปรียวจะทานมั้ยคะ มันมีผักนิดหน่อย ไข่เจียวชะอมทอด และผัดรวมมิตรใส่กุ้งสด”
“ไม่แน่ใจนะคะ คุณน้องปราณน่ะทานง่าย แต่คุณน้องเปรียวค้อนข้างทานยากเพราะนางเอื้องมันสอนให้กินแต่อาหารฝรั่งที่มีแต่เนื้อสัตว์และอาหารที่หาเครื่องปรุงยากๆ บางทีเราก็หาของที่เธอต้องการจนเหนื่อยค่ะ สุดท้ายก็กินไม่กี่คำ”
“อืม แต่ฉันว่าเธอน่าจะทานนะคะ อาหารทุกอย่างเราตั้งใจทำขนาดนี้ มีประโยชน์ทั้งนั้นเลย ตอนเด็กๆ ฉันก็กินแต่อาหารพวกนี้และหัดทำเองด้วย มันสนุกและอร่อยที่สุด คุณแม่ของฉันน่ะทำอาหารเก่งมากเลยนะคะ อ้อ เอ่อ... เสร็จแล้วยกไปตั้งโต๊ะได้เลยค่ะ...” ดวงยิหวาคุยเรื่อยๆ จนลืมตัว แล้วก็รีบหันไปล้างมือหลบสายตาจับผิดของป้าสำลีในขณะเดียวกันน้องเปรียวกับน้องปราณซึ่งแอบตามมาดูทีหลังพี่สาวก็รีบวิ่งปรู้ดไปนั่งที่โต๊ะอาหารรอด้วยความดีใจ...
“ไอ้เบิ้ม ที่แกว่าแม่คุณดาหวันตายตั้งแต่เด็กๆ แล้วก็ก็อยู่กับแม่น้าขี้เมา ก่อนจะมาเจอคุณปราบคุณดาหวันทำงานในบาร์ของเสี่ยเจียง มันจริงรึเปล่าวะ” อยู่ๆ ป้าสำลีก็ถามเบิ้มผู้เป็นลูกเขยอย่างสงสัยพลางขมวดคิ้วมุ่น
“จริงสิครับคุณแม่ยาย ใครๆ เขาก็รู้กันทั้งบางว่าคุณดาหวันเธอเหลวแหลกมาตั้งแต่เป็นสาวรุ่นเรียนไม่จบเพราะมีเรื่องชู้สาวกับครูผู้ชายในโรงเรียน เธอเลยเรียนไม่จบ ม. ปลาย ออกมาทำงานหาเงินให้น้าซื้อเหล้า แรกๆ ก็ทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟที่ร้านข้าวต้มแล้วก็ไปแอบมีอะไรกับลูกค้าเมียเขาก็มาโวยวายที่ร้าน คุณดาหวันเธอก็เปลี่ยนงานไปเรื่อยๆ เพราะมีปัญหาแบบเดียวกัน จนสุดท้ายก็ทำงานในบาร์เสี่ยเจียงแว่วว่าเป็นเมียน้อยเสี่ยเจียงด้วยสิ แล้วเมียแกมาอาละวาดที่บาร์เป็นเรื่องราวใหญ่โตจนเสี่ยงเจียงต้องให้เธอออกจากงาน แล้วคุณดาหวันก็มาเจอคุณปราบไงแม่...”
“เออ... เรื่องนั้นน่ะข้ารู้แล้วเว้ย แค่อยากรู้ว่าแม่คุณดาหวันตายตั้งแต่เด็กๆ จริงมั้ย แล้วคุณดาหวันแกมีพี่น้องรึเปล่า แค่นั้นล่ะ ไอ้นี่ถามนิดเดียวตอบยาวเป็นหางว่าว...” ป้าสำลีบ่นลูกเขยแล้วเดินกลับเข้าไปในครัวเพื่อทำงานที่ค้างไว้ปล่อยให้เบิ้มยืนเกาหัวแกรกๆ อย่างสงสัยที่วันนี้แม่ยายมาถามเรื่องดวงดาหวันในสิ่งที่รู้อยู่แล้วทำไม...
ส่วนทางด้านดวงยิหวาก็กำลังถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อมื้ออาหารในเช้าวันนี้ผ่านไปด้วยดีอีกวัน หญิงสาวมองตามหลังรถรับส่งนักเรียน ตามด้วยรถกระบะคันใหญ่ของเปลวที่วิ่งออกไป แม้วันนี้ไม่มีเหตุการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออกอย่างวันก่อน แต่ก็รู้ดีว่าน้องเปรียวยังไม่เปิดใจยอมรับเธอเต็มที่เท่าไหร่นัก แต่เธอจะพยายามให้เด็กหญิงเปิดใจรับตนให้ได้ เพราะเธอเห็นแววตาของน้องเปรียวแล้วก็พลอยทำให้กังวลไปด้วย หากเด็กหญิงไม่ได้รับการขัดเกลาตอนนี้น้องเปรียวจะกลายเป็นเด็กร้ายกาจมากกว่าที่เป็นอยู่แน่นอน...
ดวงยิหวาค่อยๆ ปิดประตูห้องนอนของน้องเปรียวอย่างเบามือเมื่อเด็กทั้งสองหลับไปแล้ว หลังจากที่เธออ่านนิทานก่อนนอนให้น้องเปรียวกับน้องปราณฟัง ด้วยอุบายของน้องปราณที่บอกว่าอยากนอนกับพี่สาวแล้วให้เธอเข้าไปอ่านนิทานให้ฟัง แม้แรกๆ เด็กหญิงจะมีท่าทีไม่ค่อยเต็มใจนักแต่เธอรู้ว่าน้องเปรียวนั้นดีใจจนเนื้อเต้นเลยทีเดียว
“เฮ้อ ผ่านไปได้ด้วยดีอีกวันแล้วสินะเนี่ย” หญิงสาวพ่นลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก แต่แล้วก็ต้องสะดุ้งสุดตัวเมื่อหันกลับมาพบว่าคนตัวโตร่างสูงใหญ่ยืนอยู่ข้างหลัง
“อุ๊ย... นี่คุณจะมาแบบคนปกติได้มั้ย มาแบบนี้ฉันตกใจนะ”
“ขวัญอ่อนจริงนะ ปกติเธอเห็นผู้ชายแล้ววิ่งเข้าใส่นี่นา ตอนนี้มาทำตกใจ” เปลวยิ้มหยันดวงยิหวาหน้าร้อนด้วยความโมโหที่ถูกเขาสบประมาท
“นี่คุณกรุณาให้เกียรติกันด้วยนะ หากไม่มีอะไรฉันขอตัวไปนอนก่อนนะ” สะบัดหน้าจะเดินหนีแต่ไม่สามารถเดินไปไหนได้เมื่อเขาคว้าข้อมือเรียวไว้
“มานี่ก่อนสิฉันมีเรื่องจะคุยกับเธอ แล้วไม่ต้องมาทำดัดจริตสะบัดสะบิ้งหรอก เพราะฉันไม่เคยคิดพิศวาสผู้หญิงอย่างเธอ”
“คุณ... จะมากไปแล้วนะ ทำไมผู้หญิงอย่างฉันทำไม
“ไม่ต้องมาทำตาขวางใส่ฉัน ฉันมีเรื่องจะบอกเธอนิดหน่อย เรื่องที่เธอจะต้องทำไมใช่แค่จะมาอยู่เฉยๆ เป็นคุณนายไปวันๆ”
“นี่ทุกวันนี้ฉันยังทำไม่พออีกเหรอ” ดวงยิหวาขึ้นเสียงใส่เขาใบหน้าสวยงอง้ำอย่างน่าขัน
“เธอต้องตื่นแต่เช้ามืดทุกเช้าพร้อมป้าสำลี หลังจากที่กินอาหารเช้าเสร็จแล้วเธอก็ต้องไปทำความสะอาดคอกม้า บ่ายเข้าไร่ทำงานเหมือนกับคนงานคนอื่นๆ” เปลวพูดเรื่อยๆ เหมือนมันเป็นเรื่องปกติธรรมดา แต่มันไม่ธรรมดาสำหรับเธอนี่นา ดวงยิหวานี่นะจะต้องไปทำความสะอาดคอกม้า ทำไร่... ไม่จริง ดวงยิหวาอยากจะกรี๊ดออกมาดังๆ ให้สมกับความเจ็บใจ ดูก็รู้ว่าเขาต้องการแกล้งเธอ มีอย่างที่ไหนที่คุณผู้หญิงของบ้านจะต้องไปทำไร่ล้างคอกม้า...
“แต่ฉันเป็นคุณผู้หญิงของที่นี่นะ จะให้ฉันไปทำงานอย่างนั้นได้ยังไงกัน”
“ก็เพราะเธอเป็นคุณผู้หญิงของที่นี่ไงล่ะเธอถึงยิ่งต้องทำ ฉันเองเป็นเจ้าของไร่ยังทำงานทุกอย่างในไร่เลย คนเรานะหากคิดว่าตัวเองรวยแล้วก็ปล่อยให้คนอื่นทำ หรือว่าตัวเองเที่ยวใช้เงินพ่อแม่ที่หามาอย่างสุขสบายอารมณ์จึงไม่เข้าใจคุณค่าของเงิน...” เปลวหรี่ตาลงมองเธอด้วยแววที่ดวงยิหวาอ่านไม่ออก แต่คำพูดเหน็บแนมกรายๆ ของเขาทำให้ดวงยิหวาอยากตะกุยหน้าเข้มๆ นั่นนัก ก็ที่เขาพูดมานั่นมันคือเธอเลยล่ะ
“ก็ได้ๆ ฉันทำได้อยู่แล้ว...” ในที่สุดดวงยิหวาก็ยักไหล่ตอบเขาอย่างไม่ยี่หระ ไม่มีอะไรที่ดวงยิหวาทำไม่ได้ ลองดูสักตั้งน่า หญิงสาวมองเขาอย่างท้าทาย
“ตกลงตามนั้น พรุ่งนี้เริ่มงานเจ็ดโมงเช้านะ หึหึ” เปลวยิ้มอย่างพอใจแล้วเดินจากไป ดวงยิหวามองตามไปอย่างฉุนเฉียว
“หึ หากไม่ติดที่ว่าฉันอยากรู้ว่าดวงดาหวันคือใครแล้วก็ไม่อยากกลับไปถูกคลุมถุงชนนะ ฉันไม่มีทางยอมให้นายมาข่มกันหรอก อีตาเปลวปากเปราะเอ๊ย...”
ว่าแล้วก็เดินกลับไปทิ้งตัวลงนอนบนเตียงแล้วตะกุยตะกายทุบที่นอนปุบๆ เพื่อระบายความฉุนเฉียวในใจที่ต้องมาตกเป็นรองเปลวในตอนนี้ แล้วยังตั้งฉายาใหม่ให้กับเปลวอีกด้วย อีตาเปลวปากเปราะ...
ตอนที่82. ตอนอวสานบทส่งท้าย...น้องเปรียวกับน้องปราณโบกมือลาเพื่อนๆ ซึ่งพ่อแม่มารับกลับบ้านด้วยรอยยิ้ม เด็กทั้งสองมีความสุขที่สุด ณ ตอนนี้ พวกเขาไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดหรือขาดความรักความอบอุ่นแม้แต่น้อย แม้ดวงยิหวาจะไม่ใช่แม่ที่แท้จริงแต่ความรักความผูกพันที่มีในสายเลือดก็ผูกพวกเขาไว้ด้วยกันอย่างเหนียวแน่นยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด“เด็กๆ จ๊ะ มาทานข้าวกันได้แล้วค่ะ พี่ฝนจะตั้งโต๊ะแล้ว”ดวงยิหวาเรียกลูกๆ ด้วยรอยยิ้ม เธอรู้สึกดีใจที่น้องเปรียวรู้จักคิดแยกแยะและให้อภัยรินลดา หญิงสาวเชื่อว่าเด็กทั้งสองจะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันไปในอนาคต“คุณแม่ว่าน้องเปรียวทำถูกมั้ยคะ” เด็กหญิงถามหน้ายุ่ง“ถูกสิคะ การให้อภัยเป็นสิ่งที่ดี การมีเพื่อนก็เป็นสิ่งที่ดี ลูกของคุณแม่น่ารักที่สุดค่ะ” ดวงยิหวายิ้มแล้วลูบเรือนผมของน้องเปรียวเบาๆ อย่างรักใคร่เอ็นดู“แล้วสามีละครับที่รัก น่ารักรึเปล่า” เปลวถามขึ้นพร้อมทั้งยื่นหน้ามาจุ๊บแก้มนวลใสของภรรยาต่อหน้าเด็กๆ ดวงยิหวาหันมาค้อนขวับแล้วหยิกหมับเข้าที่ต้นแขนแกร่งเต็มแรงด้วยความหมั่นไส้ที่สามีชอบแสดงความรักกับเธอต่อหน้าเด็กๆ แบบนี้“คนบ้าหน้าไม่อาย นี่แน่ะๆ”“โอ๊ยๆ เจ็บครับที่รั
ตอนที่81.“ก็มองเหมือนจะถอดเสื้อผ้ายิหวา แบบนี้ไง คนบ้า”เธออ้อมแอ้มตอบรู้สึกร้อนผ่าวขึ้นมาทั่วร่างกับสายตาของสามีที่มองมาเหมือนจะกลืนกินทั้งที่เธอสวมเสื้อเชิ้ตตัวใหญ่ของเขาอยู่ แต่ภายใต้เสื้อตัวใหญ่ที่ยาวถึงโคนขาเสลาก็ไร้สิ่งอื่นห่อหุ้มความงามของอิสรีไว้และตอนนี้ดวงยิหวาก็รู้สึกเหมือนไม่ได้ใส่อะไรอยู่ดี“อื้ม สามีของยิหวานี่หื่นจริงๆ เลยนะครับ ไม่ไหวเลยมองภรรยาแบบจะกลืนกินได้ยังไงกัน สู้กินจริงๆ ไม่ดีกว่าเหรอ..” เขาเย้ายิ้มๆ ยกร่างบางมานั่งบนเคาน์เตอร์หินอ่อนตัวยาวตรงอ่างล้างหน้าที่สามารถขึ้นไปนั่งได้สบายๆ ทันที“อุ้ย พี่เปลวไม่นะ ยิหวาอยากอาบน้ำ หิวแล้ว”“ก็ใครว่าเราจะไม่อาบน้ำล่ะที่รัก”“ก็ปล่อยสิคะ ยิหวาจะอาบน้ำ พี่เปลวอาบแล้วก็ออกไปสิ” หญิงสาวต่อรองเมื่อเห็นใบหน้าเกลี้ยงเกลาหล่อเหลาของสามีที่บ่งบอกว่าจัดการตัวเองเรียบร้อยแล้วก็ใจสั่นหวิวเพราะแรงปรารถนาจากดวงตาคมมันชัดเจนเหลือเกิน นี่อย่าบอกนะว่าเขาจะ...“ยิหวาจ๋า พี่อยากรักยิหวาอีกแล้ว”ไม่พูดเปล่าแต่ร่างแกร่งแทรกเข้ามาระหว่างเรียวขาเสลาแล้วโน้มใบหน้างามลงมาชิด ปลายจมูกคมปัดเบาๆ กับปลายจมูกรั้นอย่างหยอกเย้าแล้วริมฝีปากหยักก็บดจูบ
ตอนที่80.“คุณแม่ก็บอกว่า หากสิ้นปีนี้ไม่มีวี่แววว่าจะได้อุ้มหลาน พี่เตรียมตัวกระเด็นออกจากชีวิตลูกสาวท่านไปเลย” เปลวยิ้มกรุ้มกริ่มมองเธอตาหวานเชื่อมอย่างมีความหมาย ดวงยิหวาหน้าแดงรู้ทันทีว่าตนพลาดท่าคนเจ้าเล่ห์เสียแล้ว“ยี้ คนบ้า เจ้าเล่ห์กับยิหวาอีกแล้วนะ อุ้ย ไม่เอาค่ะ นี่ยังไม่มืดนะคะเพิ่งจะสี่โมงเย็นเอง” หญิงสาวจะลุกหนีคนเจ้าเล่ห์ที่เริ่มมือไม้อยู่ไม่สุขแต่ก็ดูเหมือนจะช้าไป “ไม่เป็นไรหรอกที่รัก เราทำอะไรกันเพลินๆ เผลอแป๊บเดียวมันก็ค่ำแล้ว มาทำเจ้าตัวเล็กให้คุณแม่อุ้มดีกว่าไม่อย่างนั้นพี่ได้โดนเฉดหัวออกจากชีวิตยิหวาแน่ๆ เลย”ชายหนุ่มพูดงึมงำอยู่กับซอกคอขาวเนียนที่เริ่มเปลี่ยนเป็นสีชมพู ดวงยิหวาใจสั่นเมื่อรู้ตัวดีว่าไม่สามารถต้านทานแรงพิศวาสอันเร่าร้อนจากสามีได้ ริมฝีปากบางระเรื่อที่พยายามจะคัดค้านก็ถูกครอบครองด้วยปากร้อนๆ ของคนที่รอเวลานี้มาทั้งวันอย่างหิวกระหาย ลิ้นหนาสอดไล้ดูดกลืนเรียวลิ้นเล็กอย่างเร่าร้อนช่ำชอง ดวงยิหวาครางเบาๆ ด้วยความซ่านหวิวมือร้อนผ่าวก็กำจัดเสื้อผ้าของเธอออกจากร่างกายอย่างรวดเร็วจนดวงยิหวานึกทึ่งที่เขาสามารถทำได้รวดเร็วกว่าที่เธอถอดเองเสียอีก“อื้ม พี่เปลว
ตอนที่79.“เออนะ เหมือนกันทั้งคนทั้งม้า ไอ้วิทย์อยากจะบ้า”หมอวิทย์ทำท่าเหมือนอยากจะขาดใจตาย เจ้าม้าสาวเอียงคอมองเขาตาใสแจ๋ว มันคงจะสงสัยว่ามนุษย์คนนี้เป็นอะไรไปเป็นแน่แท้เปลวเดินตรงขึ้นไปห้องหอแสนหวาน ชายหนุ่มเปิดประตูเข้าไปก็พบว่าห้องว่างเปล่าแต่ได้ยินเสียงน้ำไหลซู่ๆ อยู่ในห้องน้ำเปลวยิ้มกริ่มจินตนาการไปไกล“ยิหวาจ๋า ทำอะไรอยู่จ๊ะที่รัก..”แสร้งร้องเรียกภรรยาแต่เธอไม่ตอบเขาจึงเดินไปเปิดประตูห้องน้ำด้วยความคาดหวังว่าจะเห็นร่างเปลือยเปล่างดงามของภรรยาอยู่ภายใต้สายน้ำเย็นฉ่ำแต่..เมี้ยวววว เจ้าแมวเหมียวสีตุ่นๆ กระดำกระด่างหน้าตาน่าเกลียดเปียกมะลอกมะแลกถูกยื่นมาตรงหน้าตามด้วยเสียงหัวเราะสดใสของภรรยา“อะไรกันนี่ยิหวา..” เปลวหน้าหงิกเมื่อมันไม่ได้เป็นอย่างที่เขาคิดไว้สักนิด“ก็น้องแมวไงคะ พอดีว่าฝนเจอมันหลงมาอยู่ข้างรั้วเมื่อกี้ ยิหวาเลยจะเลี้ยงมันไว้แต่ตัวมันเปรอะมากก็เลยพามามันมาอาบน้ำเช็ดตัวให้แห้งค่ะ”เธอบอกแล้วพามันไปเช็ดตัวและไดร์เป่าขนให้มันอย่างอ่อนโยนเจ้าแมวน้อยก็อยู่นิ่งให้บริการมันด้วยท่าทางแสนสุขน่าหมั่นไส้ เปลวเดินไปกอดร่างบางไว้แล้วซุกจมูกลงกับพวงแก้มนุ่มอย่างออดอ้อนกลัวว่า
ตอนที่78.“ยิหวาจ๋า สวยเหลือเกินคนดี..” เปลวครางแผ่วละเรียวลิ้นจากยอดทรวงสีหวานที่ดูดกลืนกินอย่างเอร็ดอร่อยเพื่อมุ่งไปยังทุ่งดอกไม่แสนสวยที่ส่งกลิ่นหอมยั่วยวนให้ดื่มกินความหวานล้ำที่เคยได้ลิ้มรสมาก่อนหน้านี้ทำให้เปลวแทบอดใจไม่ไหวที่จะได้ลิ้มรสน้ำหวานจากดอกไม้สาวฉ่ำเยิ้มหลอกล่อให้เขาหลงใหลมึนเมา มือหนาเลื่อนไล้ไปยังต้นขาและสะโพกตึงแน่นลูบไล้วนเวียนใกล้ดงดอกไม้งามหยอกเย้าให้เธอดิ้นพล่านด้วยความซ่านกระสัน ดวงยิหวาเผยอครางกระเส่ามือเรียวจิกบ่ากว้างของเขาแน่นเพื่อระบายความเสียวเสียด เลือดในกายสาวร้อนระอุเดือดพล่านราวกับว่ากายของเธอจะมอดไหม้ลงไปเพราะลิ้นและมือร้อนๆ ของเขา“อื้ม พี่เปลว อา...” ดวงยิหวาครางกระเส่าเมื่อลิ้นร้อนไล้เลียต่ำลงไปยังสะดือน่ารักและต่ำลงๆ จนถึงกึ่งกายสาวพร้อมกับนิ้วแกร่งเดินทางมาถึงจุดอ่อนไหวชื้นฉ่ำด้วยน้ำหวานเอ่อซึมยั่วเย้าให้ดูดดื่มและเปลวก็ไม่รอช้าที่จะทำดังนั้นและเมื่อลิ้นร้อนแตะแต้มลงบนกลีบดอกไม้งามดวงยิหวาก็สะดุ้งสุดตัวทั้งยังครางออกมาด้วยความซ่านกระสันสุดใจ ร่างงามส่ายพลิ้วดั่งใบไม้ต้องลมเมื่อถูกความเสียวซ่านโจมตีจากทั้งมือและปากของเขาก็ทำให้เธอแทบขาดใจ แล้วร่
ตอนที่77.แต่เพราะพ่อเลี้ยงเปลวไม่อยากให้ใครพูดถึงเพราะสงสารหลานๆ จึงให้ดวงยิหวาสวมรอยเป็นดวงดาหวันไปชั่วคราวรอจนมั่นใจว่าหลานๆ รับได้จึงจะบอกความจริงให้รับรู้ ซึ่งทุกคนก็เข้าใจดีเพราะเจ๊ขาเม้าท์ทั้งสองถึงแม้จะเป็นคนที่ค่อนข้างพูดมากและชอบจับกลุ่มนินทาคนอื่นแต่พวกนางก็พูดในเรื่องที่มีมูลความจริงทุกเรื่อง ดังนั้นความเป็นมาของดวงยิหวาจึงไม่มีใครติดใจทั้งยังร่วมยินดีกับการแต่งงานอันยิ่งใหญ่ของพ่อเลี้ยงเปลวกับดวงยิหวาที่กำลังจะมีขึ้นอีกด้วยเมื่อเรื่องวุ่นวายต่างๆ ผ่านไปเปลวก็จัดการทำบุญและจัดการเรื่องศพของดวงดาหวันที่เอื้องอำพรางคดีด้วยการฝังไว้ที่ชายป่าท้ายไร่นั่นเองซึ่งอาคมได้บอกกับเขาตอนที่ยอมจำนนต่อความผิดที่ก่อไว้แต่สุดท้ายเมื่ออาคมรู้ว่าหญิงสาวที่ตนรักนั้นได้จบชีวิตลงเขาก็ฆ่าตัวตายในคุก นับว่าอาคมมีความรักที่จริงใจต่อเอื้องมากอย่างไม่น่าเชื่อ เปลวได้นำอัฐิของปราบกับดวงดาหวันและเอื้องมาทำบุญครั้งใหญ่และนำไปเก็บไว้รวมกันอย่างน้อยๆ พี่ชายของเขาก็คงจะได้อยู่ใกล้ๆ คนที่รัก และเอื้องก็คงจะได้รับรู้ว่าตนมีญาติมีพี่น้องอยู่ในโลกใบนี้แต่สำหรับดวงดาหวันซึ่งจากโลกนี้ไปโดยที่เธอไม่มีโอกาสได้บ