เปลวมองเอกสารในมืออีกครั้งก่อนจะเก็บมันไว้ในลิ้นชักของโต๊ะทำงานตัวใหญ่แล้วใส่กุญแจล็อกไว้ ร่างสูงเอนกายพิงพนักของเก้าอี้ตัวใหญ่พลางยิ้มจางๆ ในหน้า เธอไม่ใช่ดวงดาหวันจริงๆ ทำไมนะเขาถึงรู้สึกปลอดโปร่งอย่างนี้ เขารู้ดีว่าดวงยิหวายอมสวมสวมรอยดวงดาหวันเพราะอะไร จากประวัติที่ละเอียดยิบที่นักสืบฝีมือดีของเขา
ดวงยิหวาหญิงสาววัยยี่สิบเจ็ด เป็นบุตรสาวคนเดียวของ นายดิเรก กับนาง ดาริกา เลิศรัตนาไพศาล เข้าตำรา ฉลาด สวย และรวยมาก ดวงยิหวาอยู่กับมารดาที่อเมริกาตั้งแต่เรียนชั้นประถม และเรียนหนังสืออยู่ที่นั่นเพราะเธอย้ายตามมารดาซึ่งต้องไปผ่าตัดรักษาโรคประจำตัวอย่างกะทันหันและอยู่ที่อเมริกามาตลอดเพราะมารดาของเธอต้องรับการรักษาตัวอย่างต่อเนื่องพร้อมทั้งบิดาขยายกิจการของครอบครัวไปที่นั่นเพื่อจะได้มีโอกาสได้ดูแลครอบครัวด้วยแต่คุณดิเรกก็เดินทางไปมาระหว่างประเทศไทยและอเมริกาเป็นประจำ ด้วยเหตุนี้เองที่เมืองไทยจึงไม่มีใครเคยเห็นหน้าเธอ คงไม่มีใครคิดว่าดวงยิหวาจะหน้าตาเหมือนกับดวงดาหวันราวกับแกะ และคงไม่ต้องพูดถึงความแสบซ่าของเธอ ดวงยิหวานั้นนับได้ว่าเป็นสาวซ่าคนหนึ่งเลยทีเดียว เธอเล่นกีฬาที่นับว่าต้องใช้ความสามารถมากเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นขี่ม้า ฟันดาบและศิลปะป้องกันตัวและยังได้รับเหรียญรางวัลมามากมาย
เมื่อเรียนจบดวงยิหวาก็ยังคงใช้ชีวิตไปเรื่อยเปื่อยประสาสาวโสดสวยไฮโซ จนถูกบิดามารดาจับคู่ให้ โดยให้เธอหมั้นหมายกับ วริศ ชายหนุ่มซึ่งเป็นลูกชายของเพื่อนสนิทคุณดาริกานั่นเอง และจากข้อมูลของวริศที่เขาให้สืบมาด้วยนั้นก็ทำให้รู้ว่าวริศเป็นผู้ชายที่หน้าไหว้หลังหลอก ต่อหน้าผู้คนทำตัวสุภาพและเป็นสุภาพบุรุษ แต่ความจริงแล้ววริศเป็นคนเจ้าชู้และเอาไม่เลือก ซึ่งสาเหตุที่ดวงยิหวาหนีงานหมั้นมาจนเกิดอุบัติเหตุก็เพราะวริศนั่นเอง
วริศพยายามล่วงเกินดวงยิหวาแต่เธอไหวตัวทันก่อนจะจัดการสั่งสอนวริศเสียยับเยินทั้งหน้าตาและร่างกายจนต้องเข้าโรงพยาบาล แต่วริศไม่กล้าบอกใครว่าตนเองถูกดวงยิหวาซ้อม เขาบอกกับทุกคนว่าถูกกลุ่มวัยรุ่นขี้เมารุมทำร้ายเท่านั้น
“นายจีบเธอได้ เพราะเธอไม่ใช่ดวงดาหวัน จีบเธอเลยสิ” แล้วเสียงหนึ่งดังขึ้นในความเงียบ
“ไม่น่า ฉันไม่สนใจผู้หญิงอย่างดวงยิหวาหรอก” ชายหนุ่มพูดตอบเสียงเล็กๆ ในใจ
“นายแน่ใจเหรอ ฉันรู้ว่านายสนใจเธอตั้งแต่รู้ว่าเธอเปลี่ยนไป จีบเลย เธอน่ารักออก”
เสียงนั้นยังดังขึ้นมาอีก คราวนี้เปลวชักจะรู้สึกตามนั้น ใช่สินะ เธอไม่ใช่ดวงดาหวัน ไม่ใช่อดีตพี่สะใภ้ของเขา ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับอดีตอันเน่าเฟะของดวงดาหวัน เขาก็จีบดวงยิหวาได้สิ...
“เฮ้ย ไม่ได้ๆ อย่ามาทำให้ฉันเขวนะ ไปๆ ออกไปจากหัวฉันเดี๋ยวนี้...”
“อะไรกันค้าบพ่อเลี้ยง อยู่ๆ ก็มาไล่เบิ้มออกจากหัว เบิ้มไปอยู่ในหัวของพ่อเลี้ยงตอนไหนครับ”
“เฮ้ยยย ไอ้เบิ้ม...” เสียงของเบิ้มดังขึ้นทำให้คนที่หลับตาโบกไม้โบกมือโวยวายอยู่ถึงกับร้องโวยวายเสียงดัง
“ครับ ผม ไอ้เบิ้ม แหะๆ” เบิ้มทำหน้าเหรอหราดูน่าขันนัก
“แกเข้ามาตอนไหน ทำไมไม่เคาะประตูวะ”
“ผมเคาะแล้วครับ พ่อเลี้ยงไม่ได้ยินเหรอครับ ผมเคาะจนมือแดงหมดเลยดูสิครับ”
“เออๆ ฉันเห็นแล้ว แล้วไหนล่ะของที่ฉันต้องการ” ชายหนุ่มโบกมือตัดบทเมื่อเห็นว่าเบิ้มมือแดงจริงๆ แล้วเบิ้มก็ยกกล่องกระดาษที่เขายืนถืออยู่วางลงบนโต๊ะทำงานของเจ้านายหนุ่ม
“อืม ครบตามที่ต้องการ เอาล่ะแกไปพักผ่อนได้แล้ว นี่ก็ดึกมากแล้ว” เบิ้มรับคำแล้วออกไปทันที เปลวมองของที่อยู่ในกล่องอย่างพอใจ พรุ่งนี้ล่ะเขาจะให้ดวงยิหวาได้รับรู้การเป็นชาวไร่อย่างเต็มตัว เขาก็อยากรู้เช่นกันว่าคุณหนูไฮโซอย่างเธอจะทำอะไรได้บ้าง
เช้าวันใหม่น้องเปรียวออกมานั่งหงอยเหงาอยู่ที่ระเบียงกว้าง เด็กหญิงรู้สึกเหมือนตัวเองไม่มีความสำคัญ ตอนนี้ใครๆ ต่างพากันสนใจคุณแม่กันหมดและปราณชนกก็ไม่มาเล่นกับเธอเหมือนแต่ก่อนเอาแต่ตามคุณแม่ต้อยๆ เหมือนคนไม่เคยมีแม่ ถึงมีแม่ก็เหมือนไม่มีอยู่แล้วนี่นา เด็กหญิงคิดอย่างเซ็งๆ
“เปรียวๆ ไปด้วยกันมั้ย” เสียงน้องปราณร้องเรียกอยู่ที่สนามหญ้าพร้อมโบกมือหย็อยๆ
“ไปไหน...”
“ไปไร่กับคุณแม่ เปรียวไปมั้ย ไปขี่ม้าด้วยนะ” เด็กชายร้องบอกในขณะเดียวกันดวงยิหวาก็เดินมายืนข้างๆ น้องปราณแล้วเงยหน้ายิ้มให้เธอ เด็กหญิงหน้างอสะบัดหน้าหนีอย่างแง่งอน
“ไม่ไปหรอก ตัวไปเถอะ เปรียวจะดูหนัง” พูดจบเด็กหญิงก็สะบัดหน้าหนีเดินเข้าห้องของตน แม้ในใจอยากจะไปกับน้องชายและ คุณแม่ ก็ตาม...
“เปรียวก็เป็นแบบนี้ล่ะ ไม่เห็นจะน่ารักเลยผู้หญิงขี้งอนน่ารักตรงไหนกัน” เด็กชายส่ายหน้าแล้วบ่นพี่สาวเบาๆ
“ช่างเถอะน้องปราณเราไปกันเองก็ได้ไปเถอะเดี๋ยวแดดร้อน” หญิงสาวบอกเด็กชายแล้วจูงมือกันไปขึ้นรถกระบะคันใหญ่ที่เปลวติดเครื่องรอ โดยมีดวงตากลมโตแอบมองรถที่เคลื่อนออกไปอย่างใจหายอยู่ที่หน้าต่างบานสวย เด็กหญิงรู้สึกเหมือนน้ำตาจะไหลเมื่อตอนนี้เธออยู่คนเดียวในบ้าน ใครๆ ต่างก็ไม่สนใจเธอเลยสักคน น้องเปรียวทิ้งตัวลงบนที่นอนนุ่มแล้วร้องไห้คนเดียวเงียบๆ ด้วยความน้อยใจ...
น้ำหวานเดินขึ้นไปยังชั้นบนด้วยความคุ้นเคยพร้อมทั้งมองป้าสำลีด้วยสายตาเหยียดๆ แม่บ้านคนเก่าคนแก่ของไร่ตะวันงามมองตามหญิงสาวอย่างไม่ใคร่จะพอใจเช่นกัน เจ้าหล่อนมาจุ้นจ้านในบ้านจนเกินไป หากว่าน้องเปรียวไม่ลงมาพาเธอขึ้นไปนางคงไม่ยอมแน่ๆ อีกอย่างนางก็แค่แม่บ้านไม่มีสิทธิ์จะไปไล่แขกประจำของไร่ออกไปได้ แม้ในใจจะไม่ชอบการกระทำของน้ำหวานที่บัดนี้นางเริ่มเห็นธาตุแท้ของหญิงสาวแสนสวยคนนี้มากขึ้นๆ ความรู้สึกที่ไม่ชอบใจก็มากขึ้นด้วย ตอนนี้ป้าสำลีคิดว่าคุณน้ำหวานนิสัยแย่กว่าดวงดาหวันเยอะเลยทีเดียว แม้ดวงดาหวันจะช่างยั่วยวนมากชู้ แต่ดวงดาหวันไม่เคยสอนหรือยุแยงให้ลูกเกลียดใครเหมือนที่น้ำหวานกับลังทำอยู่ในขณะนี้...
“แม่ๆ ฉันว่านะยายคุณน้ำหวานมานี่ก็คงมาเสี้ยมสอนให้คุณหนูน้องเปรียวเราเกลียดคุณแม่อีกแน่ๆ เลย เผลอๆ นะ ยุให้น้องเปรียวแกล้งคุณแม่ด้วย” สายฝน ลูกสาวของป้าสำลีสะกิดผู้เป็นแม่เบาๆ แล้วยื่นหน้ามาพูดกระซิบกระซาบ
ตอนที่82. ตอนอวสานบทส่งท้าย...น้องเปรียวกับน้องปราณโบกมือลาเพื่อนๆ ซึ่งพ่อแม่มารับกลับบ้านด้วยรอยยิ้ม เด็กทั้งสองมีความสุขที่สุด ณ ตอนนี้ พวกเขาไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดหรือขาดความรักความอบอุ่นแม้แต่น้อย แม้ดวงยิหวาจะไม่ใช่แม่ที่แท้จริงแต่ความรักความผูกพันที่มีในสายเลือดก็ผูกพวกเขาไว้ด้วยกันอย่างเหนียวแน่นยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด“เด็กๆ จ๊ะ มาทานข้าวกันได้แล้วค่ะ พี่ฝนจะตั้งโต๊ะแล้ว”ดวงยิหวาเรียกลูกๆ ด้วยรอยยิ้ม เธอรู้สึกดีใจที่น้องเปรียวรู้จักคิดแยกแยะและให้อภัยรินลดา หญิงสาวเชื่อว่าเด็กทั้งสองจะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันไปในอนาคต“คุณแม่ว่าน้องเปรียวทำถูกมั้ยคะ” เด็กหญิงถามหน้ายุ่ง“ถูกสิคะ การให้อภัยเป็นสิ่งที่ดี การมีเพื่อนก็เป็นสิ่งที่ดี ลูกของคุณแม่น่ารักที่สุดค่ะ” ดวงยิหวายิ้มแล้วลูบเรือนผมของน้องเปรียวเบาๆ อย่างรักใคร่เอ็นดู“แล้วสามีละครับที่รัก น่ารักรึเปล่า” เปลวถามขึ้นพร้อมทั้งยื่นหน้ามาจุ๊บแก้มนวลใสของภรรยาต่อหน้าเด็กๆ ดวงยิหวาหันมาค้อนขวับแล้วหยิกหมับเข้าที่ต้นแขนแกร่งเต็มแรงด้วยความหมั่นไส้ที่สามีชอบแสดงความรักกับเธอต่อหน้าเด็กๆ แบบนี้“คนบ้าหน้าไม่อาย นี่แน่ะๆ”“โอ๊ยๆ เจ็บครับที่รั
ตอนที่81.“ก็มองเหมือนจะถอดเสื้อผ้ายิหวา แบบนี้ไง คนบ้า”เธออ้อมแอ้มตอบรู้สึกร้อนผ่าวขึ้นมาทั่วร่างกับสายตาของสามีที่มองมาเหมือนจะกลืนกินทั้งที่เธอสวมเสื้อเชิ้ตตัวใหญ่ของเขาอยู่ แต่ภายใต้เสื้อตัวใหญ่ที่ยาวถึงโคนขาเสลาก็ไร้สิ่งอื่นห่อหุ้มความงามของอิสรีไว้และตอนนี้ดวงยิหวาก็รู้สึกเหมือนไม่ได้ใส่อะไรอยู่ดี“อื้ม สามีของยิหวานี่หื่นจริงๆ เลยนะครับ ไม่ไหวเลยมองภรรยาแบบจะกลืนกินได้ยังไงกัน สู้กินจริงๆ ไม่ดีกว่าเหรอ..” เขาเย้ายิ้มๆ ยกร่างบางมานั่งบนเคาน์เตอร์หินอ่อนตัวยาวตรงอ่างล้างหน้าที่สามารถขึ้นไปนั่งได้สบายๆ ทันที“อุ้ย พี่เปลวไม่นะ ยิหวาอยากอาบน้ำ หิวแล้ว”“ก็ใครว่าเราจะไม่อาบน้ำล่ะที่รัก”“ก็ปล่อยสิคะ ยิหวาจะอาบน้ำ พี่เปลวอาบแล้วก็ออกไปสิ” หญิงสาวต่อรองเมื่อเห็นใบหน้าเกลี้ยงเกลาหล่อเหลาของสามีที่บ่งบอกว่าจัดการตัวเองเรียบร้อยแล้วก็ใจสั่นหวิวเพราะแรงปรารถนาจากดวงตาคมมันชัดเจนเหลือเกิน นี่อย่าบอกนะว่าเขาจะ...“ยิหวาจ๋า พี่อยากรักยิหวาอีกแล้ว”ไม่พูดเปล่าแต่ร่างแกร่งแทรกเข้ามาระหว่างเรียวขาเสลาแล้วโน้มใบหน้างามลงมาชิด ปลายจมูกคมปัดเบาๆ กับปลายจมูกรั้นอย่างหยอกเย้าแล้วริมฝีปากหยักก็บดจูบ
ตอนที่80.“คุณแม่ก็บอกว่า หากสิ้นปีนี้ไม่มีวี่แววว่าจะได้อุ้มหลาน พี่เตรียมตัวกระเด็นออกจากชีวิตลูกสาวท่านไปเลย” เปลวยิ้มกรุ้มกริ่มมองเธอตาหวานเชื่อมอย่างมีความหมาย ดวงยิหวาหน้าแดงรู้ทันทีว่าตนพลาดท่าคนเจ้าเล่ห์เสียแล้ว“ยี้ คนบ้า เจ้าเล่ห์กับยิหวาอีกแล้วนะ อุ้ย ไม่เอาค่ะ นี่ยังไม่มืดนะคะเพิ่งจะสี่โมงเย็นเอง” หญิงสาวจะลุกหนีคนเจ้าเล่ห์ที่เริ่มมือไม้อยู่ไม่สุขแต่ก็ดูเหมือนจะช้าไป “ไม่เป็นไรหรอกที่รัก เราทำอะไรกันเพลินๆ เผลอแป๊บเดียวมันก็ค่ำแล้ว มาทำเจ้าตัวเล็กให้คุณแม่อุ้มดีกว่าไม่อย่างนั้นพี่ได้โดนเฉดหัวออกจากชีวิตยิหวาแน่ๆ เลย”ชายหนุ่มพูดงึมงำอยู่กับซอกคอขาวเนียนที่เริ่มเปลี่ยนเป็นสีชมพู ดวงยิหวาใจสั่นเมื่อรู้ตัวดีว่าไม่สามารถต้านทานแรงพิศวาสอันเร่าร้อนจากสามีได้ ริมฝีปากบางระเรื่อที่พยายามจะคัดค้านก็ถูกครอบครองด้วยปากร้อนๆ ของคนที่รอเวลานี้มาทั้งวันอย่างหิวกระหาย ลิ้นหนาสอดไล้ดูดกลืนเรียวลิ้นเล็กอย่างเร่าร้อนช่ำชอง ดวงยิหวาครางเบาๆ ด้วยความซ่านหวิวมือร้อนผ่าวก็กำจัดเสื้อผ้าของเธอออกจากร่างกายอย่างรวดเร็วจนดวงยิหวานึกทึ่งที่เขาสามารถทำได้รวดเร็วกว่าที่เธอถอดเองเสียอีก“อื้ม พี่เปลว
ตอนที่79.“เออนะ เหมือนกันทั้งคนทั้งม้า ไอ้วิทย์อยากจะบ้า”หมอวิทย์ทำท่าเหมือนอยากจะขาดใจตาย เจ้าม้าสาวเอียงคอมองเขาตาใสแจ๋ว มันคงจะสงสัยว่ามนุษย์คนนี้เป็นอะไรไปเป็นแน่แท้เปลวเดินตรงขึ้นไปห้องหอแสนหวาน ชายหนุ่มเปิดประตูเข้าไปก็พบว่าห้องว่างเปล่าแต่ได้ยินเสียงน้ำไหลซู่ๆ อยู่ในห้องน้ำเปลวยิ้มกริ่มจินตนาการไปไกล“ยิหวาจ๋า ทำอะไรอยู่จ๊ะที่รัก..”แสร้งร้องเรียกภรรยาแต่เธอไม่ตอบเขาจึงเดินไปเปิดประตูห้องน้ำด้วยความคาดหวังว่าจะเห็นร่างเปลือยเปล่างดงามของภรรยาอยู่ภายใต้สายน้ำเย็นฉ่ำแต่..เมี้ยวววว เจ้าแมวเหมียวสีตุ่นๆ กระดำกระด่างหน้าตาน่าเกลียดเปียกมะลอกมะแลกถูกยื่นมาตรงหน้าตามด้วยเสียงหัวเราะสดใสของภรรยา“อะไรกันนี่ยิหวา..” เปลวหน้าหงิกเมื่อมันไม่ได้เป็นอย่างที่เขาคิดไว้สักนิด“ก็น้องแมวไงคะ พอดีว่าฝนเจอมันหลงมาอยู่ข้างรั้วเมื่อกี้ ยิหวาเลยจะเลี้ยงมันไว้แต่ตัวมันเปรอะมากก็เลยพามามันมาอาบน้ำเช็ดตัวให้แห้งค่ะ”เธอบอกแล้วพามันไปเช็ดตัวและไดร์เป่าขนให้มันอย่างอ่อนโยนเจ้าแมวน้อยก็อยู่นิ่งให้บริการมันด้วยท่าทางแสนสุขน่าหมั่นไส้ เปลวเดินไปกอดร่างบางไว้แล้วซุกจมูกลงกับพวงแก้มนุ่มอย่างออดอ้อนกลัวว่า
ตอนที่78.“ยิหวาจ๋า สวยเหลือเกินคนดี..” เปลวครางแผ่วละเรียวลิ้นจากยอดทรวงสีหวานที่ดูดกลืนกินอย่างเอร็ดอร่อยเพื่อมุ่งไปยังทุ่งดอกไม่แสนสวยที่ส่งกลิ่นหอมยั่วยวนให้ดื่มกินความหวานล้ำที่เคยได้ลิ้มรสมาก่อนหน้านี้ทำให้เปลวแทบอดใจไม่ไหวที่จะได้ลิ้มรสน้ำหวานจากดอกไม้สาวฉ่ำเยิ้มหลอกล่อให้เขาหลงใหลมึนเมา มือหนาเลื่อนไล้ไปยังต้นขาและสะโพกตึงแน่นลูบไล้วนเวียนใกล้ดงดอกไม้งามหยอกเย้าให้เธอดิ้นพล่านด้วยความซ่านกระสัน ดวงยิหวาเผยอครางกระเส่ามือเรียวจิกบ่ากว้างของเขาแน่นเพื่อระบายความเสียวเสียด เลือดในกายสาวร้อนระอุเดือดพล่านราวกับว่ากายของเธอจะมอดไหม้ลงไปเพราะลิ้นและมือร้อนๆ ของเขา“อื้ม พี่เปลว อา...” ดวงยิหวาครางกระเส่าเมื่อลิ้นร้อนไล้เลียต่ำลงไปยังสะดือน่ารักและต่ำลงๆ จนถึงกึ่งกายสาวพร้อมกับนิ้วแกร่งเดินทางมาถึงจุดอ่อนไหวชื้นฉ่ำด้วยน้ำหวานเอ่อซึมยั่วเย้าให้ดูดดื่มและเปลวก็ไม่รอช้าที่จะทำดังนั้นและเมื่อลิ้นร้อนแตะแต้มลงบนกลีบดอกไม้งามดวงยิหวาก็สะดุ้งสุดตัวทั้งยังครางออกมาด้วยความซ่านกระสันสุดใจ ร่างงามส่ายพลิ้วดั่งใบไม้ต้องลมเมื่อถูกความเสียวซ่านโจมตีจากทั้งมือและปากของเขาก็ทำให้เธอแทบขาดใจ แล้วร่
ตอนที่77.แต่เพราะพ่อเลี้ยงเปลวไม่อยากให้ใครพูดถึงเพราะสงสารหลานๆ จึงให้ดวงยิหวาสวมรอยเป็นดวงดาหวันไปชั่วคราวรอจนมั่นใจว่าหลานๆ รับได้จึงจะบอกความจริงให้รับรู้ ซึ่งทุกคนก็เข้าใจดีเพราะเจ๊ขาเม้าท์ทั้งสองถึงแม้จะเป็นคนที่ค่อนข้างพูดมากและชอบจับกลุ่มนินทาคนอื่นแต่พวกนางก็พูดในเรื่องที่มีมูลความจริงทุกเรื่อง ดังนั้นความเป็นมาของดวงยิหวาจึงไม่มีใครติดใจทั้งยังร่วมยินดีกับการแต่งงานอันยิ่งใหญ่ของพ่อเลี้ยงเปลวกับดวงยิหวาที่กำลังจะมีขึ้นอีกด้วยเมื่อเรื่องวุ่นวายต่างๆ ผ่านไปเปลวก็จัดการทำบุญและจัดการเรื่องศพของดวงดาหวันที่เอื้องอำพรางคดีด้วยการฝังไว้ที่ชายป่าท้ายไร่นั่นเองซึ่งอาคมได้บอกกับเขาตอนที่ยอมจำนนต่อความผิดที่ก่อไว้แต่สุดท้ายเมื่ออาคมรู้ว่าหญิงสาวที่ตนรักนั้นได้จบชีวิตลงเขาก็ฆ่าตัวตายในคุก นับว่าอาคมมีความรักที่จริงใจต่อเอื้องมากอย่างไม่น่าเชื่อ เปลวได้นำอัฐิของปราบกับดวงดาหวันและเอื้องมาทำบุญครั้งใหญ่และนำไปเก็บไว้รวมกันอย่างน้อยๆ พี่ชายของเขาก็คงจะได้อยู่ใกล้ๆ คนที่รัก และเอื้องก็คงจะได้รับรู้ว่าตนมีญาติมีพี่น้องอยู่ในโลกใบนี้แต่สำหรับดวงดาหวันซึ่งจากโลกนี้ไปโดยที่เธอไม่มีโอกาสได้บ