1 ตามรอย
“วาโฆบา... เอาอีกแล้ว” เสียงหญิงสาวก้องอยู่ในมโนจิต
.... ... ... ...
ซุปน้ำใส เจ้าของนามปากกาคอลัมนิสต์ชื่อดังแห่งนิตยสาร ‘โคมแดง’ เดินทางไปสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์ เพื่อตามรอยของศาสดายังถิ่นต้นกำเนิดที่เรียกว่า ‘แดนพุทธภูมิ’
“เฮ้ย น้ำใส...ไปหาร่องรอยเรื่องใด อยากรู้น่ะ” ดิน เพื่อนของเขาถามขึ้น เมื่อรู้ข่าวว่าเพื่อนกำลังจะเดินทางสัปดาห์หน้า
“พุทธคยา...” ชายหนุ่มตอบสั้นๆ
“โห... มีบุญวาสนาจริงๆ ได้ไปที่นั่น ฝากกราบพระพุทธเจ้าด้วย”
“ได้จะเอาเวทมนต์มาฝาก...”
“ฮะ... มีของดีซะงั้น” ดิน เดินมาหา ตบไหล่เบาๆ
“ไม่รู้สิ... อยากเขียนเรื่องนี้”
“เขียนเลย ชอบๆ จะตามอ่านว่ะ”
เขาเดินทางวันสุดสัปดาห์ ซึ่งอยากไปเตร่แถววัดไทยด้วย เผื่อมีอะไรให้เขียนได้เพิ่มเติมนอกจากต้นพระศรีมหาโพธิ์
น้ำใสบินตรงลงสนามบินที่คยา ใช้เวลาประมาณสามชั่วโมงเศษ หลังออกจากสนามบินตรงไปเข้าพักที่วัดไทยพุทธคยา
“เอ่อ...ขอโทษครับ ผมจองที่พักไว้ที่นี่” เขาถามหญิงสาวคนหนึ่ง ซึ่งกำลังเดินจงกรมอยู่ภายในวัด
“ค่ะ... ตามฉันมา จะพาไปพบแม่ชีเจ้าหน้าที่” หญิงสาวหน้าคมตาโต มองเขาอย่างไมตรี
“คุณเป็นคนไทยหรือครับ” เขาถามอย่างแปลกใจ
“ค่ะ...”
“แต่หน้าตาคุณคมคายออกมาทางอินเดีย”
“เอ่อ... คือเป็นคนใต้ พอมาอยู่ที่นี่ใครพากันคิดแบบเดียวกับคุณ”
หลังจากจัดการที่พักและเอาสัมภาระกระเป๋าเดินทางเก็บไว้เรียบร้อยแล้ว เขาจึงหาโอกาสเดินทางออกสำรวจ โดยอาศัยหญิงสาวที่ทักทายกันครั้งแรก ทำหน้าที่เป็นทั้งไกด์และเพื่อนร่วมเดินทาง
“ผม... น้ำใส ครับ มาหาข้อมูลตามรอยพุทธภูมิที่นี่...เพื่อไปเขียนลงคอลัมน์” เขาแนะนำตนเอง
“เรียกฉัน... ดอกหอม นะคะ” เธอเอ่ยสั้นๆ
ขณะเดินออกจากวัด... เขาเหลือบไปเห็นแมวค่อนข้างตัวใหญ่สีขาวขนเรียบ จ้องมองหน้าเขาอยู่...
เสียง...เมี้ยว !!! ดังจนเขาตกใจ
หญิงสาวหันไปมองตรงเนินดินข้างประตูหน้าวัด
“วาโฆบา... ร้องเสียงดังแบบนี้ค่ะ”
ทั้งคู่เดินออกจากวัดไป เธอเป็นคนนำทาง ผ่านยังร้านขายของต่างๆ
“ที่นี่... พวกรถเข็น ร้านรวง ตลาดเล็กๆ เหมือนบ้านเมืองเรายุคก่อน วิถีของผู้คนที่นี่ดูอบอุ่นคล้ายบ้านเรา” ดอกหอมเล่าให้เขาฟัง
“ปัจจุบันอินเดียพัฒนาไปมากแล้วนะคะ...”
ก่อนถึงเจดีย์พุทธคยา หนุ่มสาวอินเดียคู่หนึ่งขอให้ถ่ายรูปให้ ดอกหอมเลยขันอาสา
“ดูน่ารักดีนะครับ...”
“คนที่นี่มีฮินดูที่มากราบต้นโพธิ์ด้วย ส่วนใหญ่ที่เดินทางกันมาจากแดนไกล ก็เป็นชาวพุทธเกือบทั้งนั้น”
ดอกหอมบอกน้ำใสว่าต้องฝากอุปกรณ์สื่อสารที่ปากทางเข้า มีอาคารของฝ่ายจัดการให้บริการรับฝาก
“ผมไม่ได้พกอะไรมา... นอกจากกล้องถ่ายรูป”
“คุณต้องเสียเงินค่ะ...”
หญิงสาวพาเขาไปยังจุดชำระค่านำกล้องถ่ายรูปเข้าไป จากนั้นทั้งคู่จึงเดินเข้าไปเรื่อยๆ ผ่านจุดตรวจแสกนไปจนถึงสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งชาวพุทธควรต้องมากราบสักการะสักครั้งในชีวิต
ดอกหอมแนะนำให้ไปกราบตรงต้นศรีมหาโพธิ์ที่อยู่ข้างเจดีย์พุทธคยาก่อน แล้วค่อยมาต่อแถวเข้ากราบพระพุทธเมตตาซึ่งประดิษฐานอยู่ภายในองค์เจดีย์
“คุณโชคดีมาก... ที่มาพักอยู่ใกล้ที่นี่ คงเดินมากราบทุกวัน”
“ใช่ค่ะ... ฉันมาทุกวัน”
“สมัยโบราณ คงทุรกันดาร พุทธองค์ท่านกว่าจะตรัสรู้ คงทรมานมาก”
“คนอินเดีย... คือนักปราชญ์ นักแสวงหาโมกษธรรม หนทางหลุดพ้นจึงไม่ง่ายอย่างที่คุณพูด” เธอสาธยายต่อจากเขา
“คุณมาที่นี่ เพื่อปฏิบัติธรรมหรือครับ” น้ำใสจ้องหน้าเธอ ผิวหน้าผ่องสดใสมีออร่าของความสงบ
“ค่ะ... ฉันเบื่อทางโลก มีแต่ความวุ่นวาย”
“ดีจัง...” เขายิ้มเห็นด้วย
“ฉันมาอยู่ที่นี่เกือบเดือนแล้วค่ะ สุขกาย สบายใจ มากขึ้น ตั้งแต่...” เธอชะงักไม่พูดต่อ
“เข้าไปข้างในได้แล้วค่ะ คนเริ่มซาลงแล้ว” เธอเดินนำไปต่อคิวผ่านเครื่องแสกน
ขณะเดินเข้าไปกราบ เป็นช่วงเร่งรีบมีเวลาน้อยมาก ต้องควบคุมให้มีสมาธิจดจ่อกับหน้าองค์พระให้มากที่สุด เจ้าหน้าที่ข้างในไม่ยอมให้หยุดอยู่นาน ใช้เวลาแค่เพียงเสี้ยวนาทีเท่านั้น
“พระพุทธเมตตางามมาก ถือเป็นนาทีทองของชีวิตจริงๆ” เขาพูดขึ้น
ขณะที่ทั้งสองคนกำลังเดินชมและสักการะเจดีย์บริวารรอบๆ เจดีย์พุทธคยาอยู่นั้น น้ำใสได้ยินเสียงร้อง...
เมี้ยว.!!!..
เสียงเจ้าแมวตัวโตสีขาวขนเรียบตัวนั้น... ดังขึ้น ชายหนุ่มหันไปมองหาต้นเสียง ตกใจขนลุกซู่ เห็นมันนั่งชันขาหน้าขึ้นมองจ้องตาชายหนุ่ม
“วาโฆบา... เอาอีกแล้ว” เสียงหญิงสาวก้องอยู่ในมโนจิต
5 มนต์เสนห์แห่งบอลติกระหว่างทางไป กดัญสก์ (Gdansk) โทนี่เล่าว่าเมืองนี้เป็นฉากของนิยายลือเลื่องของนักเขียนเยอรมันเจ้าของรางวัลโนเบล นามว่า ‘Gunter Grass’ กรึนเทอร์ กลาสส์“เคยได้ยินนิยาย The Tin Drum ไหม” เขาถามถึงสองครั้งแต่เกรต้าไม่ตอบ เธอกำลังหาข้อมูลเรื่องนี้อยู่ในเว็บไซด์“กลองสังกะสี มีแปลเป็นภาษาไทย...ฉันไม่เคยอ่านหรอกนะ” เกรต้ากำลังกวาดสายตาอ่านเรื่องย่อที่ทำให้ผู้เขียนคนนี้ได้รับรางวัลโนเบล“a lot of codes…needed to interpret เป็นนิยายนามธรรมแฝงด้วยนัยที่ต้องตีความ” เกรต้าได้ยินคำพูดของโทนี่ที่ดูเข้าท่าก็ตอนนี้“เมืองกดัญสก์ (Gdansk) เดิมเคยอยู่ในดินแดนเยอรมันชื่อ Danzig ดานซิก ที่นักเขียนคนนี้ใช้เป็น location ของการเล่าเรื่องในนิยายของเขา” เขาเล่าคร่าวๆ แล้ววันหน้ามีเวลาเขาจะพยายามเล่าให้เธอฟังเป็นภาษาอังกฤษ นิยายเรื่องนี้ซับซ้อนมากตัวเอกเป็นคนหลังค่อมแต่มีของวิเศษที่ติดตัวมาเหมือนมีพลังเหนือธรรมชาติคือ tin drum คล้ายกับเรื่องอลาดินกับตะเกียงวิเศษ ที่ผู้เขียนเล่าเรื่องราวผ่านสิ่งของอันเป็นสัญลักษณ์ซึ่งแทนความหมายเกี่ยวกับความหวัง ไฟปรารถนา พลังแห่งศรัทธาของการมีชีวิตอยู่
4 จัดรายการแดนไกล“สองหนุ่มสาวจากแดนสยามเมืองยิ้มวันนี้มาช่วยจัดรายการแทนป้าทิพย์...ใน Dear Debby in Warszawa วันนี้ป้าจะขอพักฟังสองคนจัดรายการเพื่อสร้างความแปลก Amazing ให้กับผู้ฟัง” เสียงป้าทิพย์เปิดรายการเกรต้ายังจดจำถึงวันนั้นได้เป็นอย่างดี คำพูดหนึ่งที่น่าประทับใจของเขาในรายการภาคภาษา Polish ของเขา หากเป็นภาษาไทยก็คง ‘เมื่อรักโดนใจแล้วใครจะช่วยเราได้หากเราไม่รีบที่จะไปตามหาหัวใจดวงนั้นทันที เมื่อรักเก่ามันสะบั้นลงอย่าหลงติดกับวังวน...รีบเหวี่ยงตัวเองออกมาซะแล้วไปตามหาคนที่ใช่ต่อไป’เกรต้าได้รับคำขอร้องจากสายของสาวไทยที่นั่นซึ่งโทรเข้ามาในรายการ เธอให้ความเห็นว่า ‘Whatever you think is real…ไม่ว่าเราจะคิดยังไงสิ่งนั้นคือความจริง คิดว่ารักคือรัก คิดว่าใช่คือใช่ ชีวิตคนนั้นไม่ยืนยาวจงรีบทำหากตัดสินใจแล้วอย่าปล่อยให้โอกาสดีๆ หลุดลอยไป’“ผมคิดถึงคำพูดของคุณในรายการป้าทิพย์ ผมตื้อคุณจนถึงขอนแก่นวันนั้นใช่ไหม” เขาทำหน้ายียวนมองแววตาของเกรต้า“ใช่เลย...ฉันเลยได้คำพูดจากการกระทำวันนั้นของนาย” น้ำเสียงเกรต้าอย่างหมั่นไส้เขาถือวิสาสะจูงมือเกรต้าหลังจากเดินออกมาจากสถานีแล้วข้ามถนนไปฝ
3 กับดักรักเกรต้ามารู้สึกตัวอีกครั้งเมื่อกระเป๋ารถมาสะกิดเธอว่าใกล้ถึงท่ารถที่อำเภอพล เธอจึงตกใจรีบทะลึ่งตัวผึงขึ้นศอกกระแทกเข้าที่หน้าอกของชายหนุ่มอย่างแรงจนเขาร้องเสียงดังโอ๊ก“My heart’s being extremely attacked…หัวใจผมกำลังถูกโจมตีอย่างรุนแรง...”เสียงอ้อนของเขากำลังจะหายไปกับสายลมเพราะหญิงสาวขอตัวลงที่ท่ารถที่อยู่เบื้องหน้า ทำให้หนุ่มโทนี่ถึงกับผิดหวังจริงๆ อย่างที่พูดออกมาสักครู่“I wanna follow you here…ผมขอตามคุณลงไปด้วย” เขาพูดยังไม่ทันจบคำก็คว้าเป้ใบโตสะพานหลังกระโดดลงจากรถตามหญิงสาวที่ไม่แม้แต่จะหันมากล่าวลาเขาเลย"Oh…don’t go away โธ่...อย่าหนีผมไปเลย ผมจะไปไม่ถึงบ้านที่ Nong Song Hong หนองสองห้อง” เขายังคอยตามตื้อเกรต้าทั้งที่เธอพยายามเร่งฝีเท้าเพื่อเดินหนีชายหนุ่มที่บ้าตามตื้อเธอมาถึงที่นี่“โน่น...ท่ารถแท็กซี่ นายไปติดต่อเลย อาจไม่มีรถนะ” เกรต้าทำตาดุใส่หนุ่มลูกครึ่งหน้าตายู่ยี่เพราะยังคิดไม่ตกว่าจะไปถูกไหม-------------------เกรต้าโล่งอกเมื่อมองหันหลังกลับไปไม่เห็นชายหนุ่มที่นั่งรถมาด้วยกันจากกรุงเทพ ใจหนึ่งก็นึกสงสารแต่อีกใจหนึ่งก็รู้สึกรำคาญหมั่นไส้ ก่อนจะเดิน
2 ข้อความจากแดนไกลเกรต้า...เอนหลังนอนเอกเขนกเหม่อมองเพดานห้องและอมยิ้มเมื่อความคิดยังลอยวนเวียนอยู่ในสมองถึงวันศุกร์ที่ผ่านมาเกือบสองเดือนแล้ว เธอนึกได้ว่าต้องเปิดอีเมล์เช็คดูว่าจะมีอะไรส่งมาถึงเธอบ้างจากหนุ่มนามว่า ‘โทนี่’ นายนี้ แปลก...ไม่มีเมล์อะไรมาถึงเธอเลยตั้งแต่เมื่อวานแล้ว เธอกำลังเปิดดูกลุ่มต่างๆ ในไลน์ แต่แล้วก็มีแช็ตชื่อแปลกๆ โผล่ขึ้นมาจากลิสต์ที่มีอยู่ เมื่อกดเข้าไปจึงเห็นสติ๊กเกอร์ทักทายจากหนุ่มนายคนที่คิดถึงอยู่พอดี“Wonder?? แปลกใจล่ะสิว่าผมรู้ได้ไง...” เกรต้าอ่านแล้วเธอหัวเราะคิกทันที นึกขำว่าแปลกที่เขายังตื้อจะคุยอยู่ได้“ผมจะมาเมืองไทย...อาทิตย์หน้า เจอผมได้ไหม” เกรต้ายังนิ่งเฉยไม่ตอบอะไรกับประโยคที่เขายังขึ้นพล่ามอยู่และอาจร่ายยาวไปได้เรื่อยๆ ฟังดูว่าจะเขียนไปได้ยาวแค่ไหนกัน“ผมจะเอา souvernir มาฝาก อยากได้แบบไหน ผมมีเยอะ” เกรต้าก็ยังไม่ตอบอะไรเขาเลย นายคนนี้เป็นอวาตาร์ไหม มีตัวตนอยู่จริงหรือไม่ หญิงสาวสงสัยเหมือนกันว่า AI ทุกวันนี้มันเป็นไปได้หมดแม้อวตารของคนที่ไม่มีอยู่จริง“Hey…you’re an Avatar ฮัลโหล...ฮัลโหล ยูเป็นอวาตาร์???...!!!” เขายังเขียนพล่ามมาเรื่อ
คำโปรย...Dear Abbie แอบบี้ที่น่ารัก...มีปรัศนีมาช่วยไข-------------------1 ดีเจตัวแทน เกรต้า...Greta เข้ามาจัดรายการแทน Abbie แอบบี้ เมื่อวันศุกร์แรกของต้นเดือนเมษายนที่สถานี Hits965 ณ ห้อง broadcast live สดที่กรุงเทพ เธอเลือกเพลง ‘คนที่แสนดี’ ของโทนี่ ผี (Tony Phee) เปิดเป็น jingle intro เข้าสู่ช่วงต้นของรายการฉันเหมือนคนหลงทางหาไม่เจอกับ...ความรักฉันไม่เคยได้รู้จัก...เลยฉันได้แต่นั่งมองเหม่อดูคนอื่น...เฉยเฉยฉันไม่เคยไม่เคยเลย ไม่เคยแล้ววันหนึ่งเธอก็เข้ามาเข้ามาในชีวิตฉันไม่เคยรู้สึกนี่ ฮู้ ว่าเธอนะ...ใช่เลยฉันเพิ่งเข้าใจทุกทุกอย่าง ทุกความหมายว่ารักของเธอนั่นช่างมากมายและ...เหนือใครเสียงเพลงโฆษณาก็ขึ้นมาคั่นระหว่างที่เธอกำลังเตรียมเพลงและหาเนื้อหาให้เข้ากับรายการเพลง ‘Dear Abbie ปรัศนีหัวใจ...คำถามของคนมีรัก’กริ๊ง...กริ๊ง...กริ๊ง...เกรต้าสาละวนกับการค้นหาเรื่องราวที่ค้างไว้สำหรับการตอบคำถามที่แอบบี้ทิ้งไว้ให้ตั้งแต่เมื่อวาน เธอร้างลาการจัดรายการออกอากาศสดเกือบ 2 ปีแล้วตั้งแต่ไปเรียนต่อที่ซิดนีย์ ครั้งนี้เธอแวะมากรุงเทพเลยถูกเพื่อนสาวแอบบี้ใช้งานในฐานะดีเจเก่า คร
5 บอลลูนสื่อใจเรเน่ช่วยโอโมโรสดูแลการขึ้นกระเช้าจนครบทุกคน ด้วยจำนวนคนเพียง 5 คนซึ่งทั้งหมดเป็นกลุ่มเพื่อนของยานะและมาร์ค ซึ่งหนึ่งในนั้นคือคารันนั่นเอง ส่วนอีก 1 คู่เป็นญาติของมาร์คที่เพิ่งแต่งงานกันไม่นาน ยานะเล่าว่าคารันขอมาทริปนี้ด้วยเมื่อมาร์คบอกว่าจะมาเยี่ยมญาติของยานะที่ไคโรและจะมาขึ้นบอลลูนที่นี่เรเน่ทำหน้าที่แทนเพื่อนสาวที่เสียงแหบแห้งบรรยายหุบเขากษัตริย์และราชินีที่เห็นอยู่เบื้องหน้า รวมทั้งวิหารลักซอร์ และคานัค วิวที่มองลงไปจากกระเช้าซึ่งล่องลอยไปกับตัวช่วยนำพาคือบอลลูนขนาดใหญ่ที่มีสีสันสวยงาม ทำให้ทิวทัศน์อย่างโอเอซิสตาน้ำในทะเลทรายและสายน้ำแห่งแม่น้ำไนล์ที่เห็นเป็นสายอยู่นั้นกลายเป็นความมหัศจรรย์ที่ยากจะลืมเลือน.... .... .... ....“ที่นี่เป็นอะไรที่ฝังอยู่ในหัวผมมานานมากแล้ว...เรเน่” เสียงชายหนุ่มพูดขึ้นท่ามกลางความมืดที่มีแสงจันทร์ส่องสว่างเต็มดวง คืนนี้มีเขาและเธอที่นั่งชมความงามของภูมิประเทศของเมืองแห่งนี้“อยากมาขึ้นบอลลูนล่ะซิ...ไปขึ้นมากี่เมืองแล้ว” หญิงสาวมองแววตาสีเขียวอ่อนของชายหนุ่มขณะที่เขากุมมือของเรเน่ไว้กำลังจะยกขึ้นมาจุมพิต“อย่าบอกนะว่าไปมาเกือบหมด