ตอนที่ 4
2/3
"ถ้าไม่ชอบแล้วทำไมไม่บอกเขาไปว่าแพ้เกสรกุหลาบ เมื่อกี้เค้าก็พูดอยู่ว่าทำงานที่ร้านดอกไม้ กูเห็นจมูกมึงแดงๆ ก็รู้แล้วว่ามึงต้องแพ้เกสรกุหลาบแน่นอน"
"มึงเดามั่วละ"
กษิดิศนึกหมั่นไส้ในความรู้ดีของเพื่อน ทั้งสองนั่งคุยเรื่องงานและเรื่องอื่นๆ ไปสักพัก ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงต่างฝ่ายต่างแยกย้ายกันกลับที่ทำงานของตน เมื่อถึงเวลาสี่ทุ่มกษิดิศได้กลับถึงบ้านจัดการธุระส่วนตัวเสร็จก็เตรียมตัวเข้านอน แต่ก็ไม่ลืมทำกิจวัตรประจำวันคืออ่านหนังสือวันละเจ็ดหน้า ชายหนุ่มหยิบแว่นตาที่วางอยู่บนหนังสือเล่มหนามาสวมใส่ ตัวแว่นรับกับสันจมูกคมชวนมอง ให้ลุคอบอุ่นอ่อนโยนกว่ายามปกติหลายเท่า
ขณะที่เปิดอ่านหนังสือไปได้ไม่ถึงหนึ่งหน้า แสงจากหน้าจอมือถือก็สว่างขึ้น เป็นเพราะมีคนส่งข้อความหาเขา ชายหนุ่มพับหนังสือวางไว้ที่โต๊ะหัวเตียง ขยับแว่นตาเล็กน้อยก่อนจะหยิบมือถือขึ้นมาดู ปรากฎว่าคนที่ส่งข้อความมาหาคือขวัญข้าว
ตอนที่ 72/3กษิดิศเข้าบริษัทในช่วงสาย ๆ แต่ก็ดูเหมือนจะมานั่งให้ทุกอย่างผ่านพ้นไปอีกวัน ระหว่างนั้นเลขาก็เอาเอกสารเข้ามาให้เซ็นหลายฉบับ วันนี้เขาไม่คิดอยากจะออกไปไหน เพียงแค่เฝ้ารอเวลาให้ค่ำมืดจะได้กลับที่พักหลังเลิกงานกษิดิศก็กลับมาที่ห้อง เสียงข้อความจากกลุ่มเพื่อนสนิททักเข้ามารัวๆ บ้างชวนให้ออกไปแฮ๊งเอ๊าท์ บ้างก็ชวนไปเข้ายิมในวันหยุด บ้างก็ชวนให้ไปสนามขี่ม้า หรือบางรายชวนออกต่างจังหวัดเพราะอยากให้นั่งรถไปเป็นเพื่อน ข้อความส่วนใหญ่เป็นของอติและชวิณที่คุยกันแล้วแว้งกัดกันเอง พอใครเถียงไม่สู้ก็ดึงเขาเข้าไปตัดสินผลแพ้ชนะเฮ้อ...พวกปัญญานิ่มเอ้ย! นี่เขากลายเป็นศาลไคฟงร้องทุกข์ของพวกมันไปแล้วเหรอกษิดิศคว่ำหน้าจอมือถือเอาไว้ มีวูบหนึ่งที่ใบหน้าของขวัญข้าวแวบเข้ามาในหัว แต่ก็ต้องสลัดไล่ความค
ตอนที่ 71/3"เออ ใช่! แกทั้งจนทั้งกระจอก แต่ที่แย่ไปกว่านั้นแกชั่วบรรลัยเลย"กฤษติยกยิ้มมุมปากเล็กน้อยแล้วตีหน้าเศร้าดังเดิม ปรายตามองไปทางกำแพงก่อนจะมองกลับมายังคนตัวเล็ก"ที่แท้ก็เป็นอย่างนี้นี่เอง เพราะหาผู้ชายคนใหม่ได้รวยกว่านี่เอง""ใช่ หลบไป! แล้วอย่าตามมานะ ขืนเข้าใกล้ฉันเกินสิบก้าวฉันแจ้งตำรวจจับ ไอ้ผู้ชายเส็งเคร็ง"ขวัญข้าวรีบรุดขึ้นลิฟต์โดยไม่หันหลังกลับไปมองกฤษติอีก พอพ้นเงาร่างเธอไปแล้วกฤษติก็เดินอ้อมไปหลังกำแพงโค้งศีรษะอย่างนอบน้อม"ขอโทษที่เอาชื่อคุณต่อไปอ้างนะครับ ขอโทษจริงๆ ทีนี้คุณต่อก็ได้รู้แล้วว่าขวัญข้าวเป็นคนยังไง""...ครับ ผมได้ยินหมดแล้ว"ขวัญข้าวขึ้นมาที่ชั้นผู้บริหารไม่เห็นกษิดิศ จึงเอาดอกไม้ไปวางไว้บนโต๊ะตัวเดิม แล้วนั่งรออยู่ในห้องนั้นประมาณห้านาที  
ตอนที่ 63/3ใบหน้าเจ้าเล่ห์เผยรอยยิ้มร้ายออกมาช้าๆ แล้วรีบถอยออกจากบริเวณนั้น ตลอดทั้งวันกฤษติคอยหาโอกาสเข้าไปพูดคุยกับกษิดิศ แต่ก็ยังไม่มีโอกาสเข้าใกล้ได้เลย กระทั่งใกล้ถึงเวลาเลิกงาน กษิดิศเดินออกจากห้องประชุมแล้วแวะเข้าห้องน้ำ กฤษติจึงแสร้งทำทีเดินตามเข้าไปทำธุระส่วนตัว กษิดิศจัดการธุระส่วนตัวของตัวเองเสร็จกำลังยืนล้างมืออยู่หน้ากระจก นั่นจึงเป็นโอกาสเหมาะที่กฤษติจะเข้าหาได้สะดวก"คุณต่อครับ"กษิดิศหันไปมองคนที่กำลังยืนอยู่หน้าอ่างล้างมือข้างๆ เห็นว่าเป็นพนักงานของตนก็ยิ้มบางๆ ถ้าจำไม่ผิดคนนี้น่าจะทำงานอยู่แผนกไอที แต่เขาจำชื่อไม่หวาดไม่ไหวว่าใครเป็นใครหรอก เพราะกฤษติไม่ได้มีตำแหน่งสูงถึงขั้นที่ว่าจะเข้าถึงเขาได้โดยง่าย กฤษติเป็นเพียงลูกน้องของหัวหน้าแผนกอีกที"ผมขอเวลาสักครู่ได้ไหมครับ""ครับ มีอะไรพูดมาได้เลยครับ"
ตอนที่ 62/3ขวัญข้าวปวดเมื่อยเนื้อตัวจนอยากจะเอนหลัง จึงปิดคอมพิวเตอร์แล้วล้มตัวลงบนเตียงแข็ง ๆ จ้องมองเพดานห้องสีหม่นมันช่างแตกต่างจากห้องกษิดิศเหลือเกิน เธอไม่มีอะไรเทียบเขาได้สักอย่าง...พอเอียงหน้ามองปฏิทินเห็นว่ามีรอยปากกาแดงวงวันที่เอาไว้ พรุ่งนี้จะถึงกำหนดส่งดอกไม้วันแรกของสัปดาห์ หญิงสาวพูลลมหายใจออกมาหนักๆ ไม่อยากย่างกายไปที่นั่นเลย เพราะสำนึกและคิดได้หลายๆ อย่าง เท่านี้ก็อับอายจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนแล้วเช้าวันรุ่งขึ้นขวัญข้าวนำดอกลิลลี่ไปส่งที่ SGD กรุป เมื่อเข้าไปในบริษัทแล้วเธอก็แจ้งประชาสัมพันธ์ตามปกติ พนักงานสาวรายหนึ่งกดเบอร์ภายในไปยังห้องทำงานของกษิดิศ พอเจ้านายพูดกรอกสายมาว่าอนุญาตให้ขึ้นไปได้ขวัญข้าวจึงหอบดอกไม้ช่อโตไปชั้นสี่ ร่างบางเคาะประตูก่อนจะย่องเข้าไปให้เงียบเชียบที่สุด กะว่าจะเอาช่อดอกไม้ไปวางไว้ที่โต๊ะตัวเดิมแล้วรีบแผ่นหนีให้ไวกษิดิศนั่งอยู่โต๊ะประจำตำ
ตอนที่ 61/3กษิดิศกำลังกลั้นขำในท่าทางสงบเสงี่ยมเหมือนผ้าผับไว้ของขวัญข้าว เธอไม่เหมือนคนเดิมเลยสักนิด ดูเรียบร้อยและเจียมตัวจนเกินเหตุ เพิ่งรู้ว่าจากไซบีเรียนก็เปลี่ยนมาเป็นกระต่ายน้อยได้เหมือนกัน"ข้าวไปได้แล้วใช่มั้ยคะ"ขวัญข้าวยืนขึ้นแล้วยกมือไหว้อย่างนอบน้อม เขาไม่ใช่คุณต่อคนขับรถอีกต่อไปแล้วแต่เป็นลูกค้าที่สั่งออร์เดอร์แพงหูฉี่ ขณะที่กำลังจะก้าวพ้นจากห้อง เสียงจามของกษิดิศก็ดังไล่หลังสามครั้งติด เธอจึงหยุดฝีเท้าแล้วหันกลับมามองเขา จมูกของชายหนุ่มเริ่มขึ้นสีหน่อยๆ นั่นเป็นเพราะก่อนออกมาส่งดอกไม้ขวัญข้าวกำลังจัดช่อกุหลาบอยู่ ละอองเกสรกุหลาบก็เลยติดตัวเธอมาด้วย คนที่รู้ดีว่านี่คืออาการแพ้แน่ๆ คือกษิดิศ ส่วนเธอไม่รู้อะไรเลยสักอย่าง เขาหลบตาเธอด้วยการลุกขึ้นยืนหันหลังให้ ดังนั้นขวัญข้าวเลยคิดว่าไม่มีอะไรแล้วจึงจากไปทันทีกษิดิศยังคงไปร้านกาแฟเห
ตอนที่ 53/3เขาปรายตามองแค่แป๊บเดียวก็เดินขึ้นลิฟต์ไปทันที ประตูลิฟต์ปิดลงแล้วขวัญข้าวยังยืนอึ้งอยู่ที่เดิม กว่าจะได้สติก็ตอนเสียงประชาสัมพันธ์สาวแว่วเข้าหู"ท่านประธานให้เอาขึ้นไปให้บนห้องทำงานค่ะ""ฉันวานให้พวกคุณเอาไปให้เขาแทนได้มั้ยคะ""GSD กรุป ผูกปิ่นโตกับร้านดอกไม้ของคุณแล้วนะคะ ถ้าท่านประธานบอกให้คุณเอาไปให้เองไม่แน่ว่าอาจจะมีทิปให้ หรือไม่อย่างนั้นก็อาจมีเรื่องคอมแพลน มีแค่สองอย่างนี้เท่านั้นค่ะ รบกวนคุณเอาขึ้นไปเองนะคะ ท่านประธานอยู่ชั้นสี่ห้องแรกทางซ้ายมือค่ะ"คนพูดทำหน้าอิดออดไม่กล้าทำเกินคำสั่งของเจ้านาย ขวัญข้าวเข้าใจในความอึดอัดของพนักงานสาวเป็นอย่างดี เธอจึงพยักหน้าให้แล้วตามเขาขึ้นไปชั้นผู้บริหาร พอถึงห้องที่ประชาสัมพันธ์บอกก็ยกมือขึ้นเคาะประตูสองสามครั้ง หลังได้ยินเสียงอนุญาตจากคนข้างในก็ดันบานประ