ที่มหาวิทยาลัย
ตอนนี้ฉันรีบวิ่งอย่างเหนื่อยหอบมาจากหอ ก็เพราะฉันไปงานคอนเสิร์ตบ้าๆนั่นกับยัยแตงโมน่ะสิ กลับมาถึงหอก็ปาเข้าไปเกือบจะตี1 กว่าฉันจะอาบน้ำแต่งตัวกว่าจะได้เข้านอนก็ปาเข้าไปแล้วตี2 กว่าๆ ฉันตื่นขึ้นมาก็ปาเข้าไป 7.40 น. แถมวันนี้ต้องมีพรีเซ็นต์งานเกี่ยวกับคดีดังในปัจจุบันซึ่งอาจารย์ให้หัวข้อมาตั้งแต่สัปดาห์ก่อน อาจารย์สถาพรแกเป็นคนตรงต่อเวลาถ้า 8.30 น. นักศึกษายังไม่มาอาจารย์ก็จะปิดประตูทันทีไม่ให้นักศึกษาเข้ามาเรียน จะร้องไห้โอดครวญยังไงอาจารย์ก็ไม่มีความเมตตา เพราะอาจารย์ถือคติว่าคนอื่นมาทันเวลาได้ทำไมเธอมาไม่ได้ และไม่ฟังเหตุผลหรือข้ออ้างใดๆทั้งสิ้น มันก็ถูกของอาจารย์แหล่ะฉันไม่เถียง แต่ตอนนี้ฉันจะต้องรีบหาพี่วินก่อน ฉันยืนรอได้ 2 นาทีแล้วก็ไม่มีวินคันไหนขับผ่านหน้าฉันสักคัน วันนี้จะเป็นวันซวยของฉันจริงๆเหรอเนี่ยยย ฮือออ ไม่นะ!! “ ส้มส้มขึ้นมาเร็ว ” จู่ๆยัยแตงโมโผล่มาจากไหนก็ไม่รู้ เธอขับรถคันหรูสีเขียวมาจอดด้านหน้าของฉัน ฉันที่เห็นดังนั้นก็รีบกระโดดขึ้นรถทันที “ ฮืออ แตงโม ” ฉันหันหน้าไปทำหน้าออดอ้อนบีบน้ำตาใส่แตงโม แกคือความโชคดีของฉันในวันนี้เลยนะเพื่อนรัก “ ฉันคิดว่าวันนี้แกต้องตื่นมาไม่ไหวแน่ๆเลยคิดจะขับวนมาดูแกที่หอก่อน พอขับมาก็เห็นแกยืนคอตกอยู่ข้างทาง ฮ่าๆๆๆ ” แตงโมพูดพร้อมหัวเราะสะใจ มัวหัวเราะฉันอยู่ได้แกก็เกือบจะไม่ทันเหมือนกันแหล่ะยัยเพื่อนบ้า ไม่งั้นไม่มารับฉันเอาป่านนี้หรอก ฉันคิดในใจแล้วยิ้มกลับไปให้เธอเบาๆ “ เสร็จแล้วโว๊ยยยยย ป่ะยัยส้มส้มไปกินข้าวกัน ” พอฉันได้ยินแตงโมชวนไปกินข้าวฉันก็เลยรีบเก็บกระเป๋าทันที “ นี่ แกจะลากฉันไปไหนเนี่ยยย โรงอาหารคณะเราอยู่ทางนี้นะ ” ยัยแตงโมลากฉันเหมือนหมูเหมือนมา ขาสั้นๆของฉันจะก้าวตามมันไม่ทันแล้วเนี่ยยย “ ฉันได้ยินข่าวว่าวันนี้พี่ม่อนแกมีเรียนทั้งคาบเช้าและคาบบ่าย ฉันคิดว่าพี่แกต้องไปกินข้าวที่โรงอาหารคณะแกแน่ๆ เพราะแกต้องรีบขึ้นเรียนต่อคาบบ่ายคงไม่มีเวลาออกไปกินข้างนอก ได้ทั้งอาหารปาก อาหารตาเลยเว้ยยยวันนี้ ” ยัยแตงโมพูดพร้อมกับลากแขนฉันไปไม่หยุด อะไรของมันวะเนี่ยย พี่ม่อนเหรอ เขาเป็นคนที่ฉันไม่อยากเจอที่สุดในโลกนี้แล้ว แค่ฉันคิดว่าจะเจอพี่แกก็ไม่รู้จะทำหน้าทำตายังไง ฉันได้แต่ภาวนาไม่ให้เจอพี่แกที่โรงอาหารหรือถ้าเจอกันจริงๆก็ขอให้พี่แกจำฉันไม่ได้ด้วยเถิดดด สาธุ! ณ โรงอาหารคณะนิเทศศาสตร์ ฉันกวาดสายตามองไปรอบๆโรงอาหาร ทำไมคนเยอะมากขนาดนี้ ฉันมองไปที่โต๊ะก็ไม่มีที่ว่างให้นั่งเลย คนเยอะขนาดนี้ก็คงจะมาดูพี่ม่อนเหมือนที่แตงโมลากฉันมาสินะ “ น้องส้มส้ม น้องแตงโม มาตรงนี้เร็วๆ เจ้จองที่นั่งไว้ให้แล้ว ” นั่นพี่น้ำหอมพี่รหัสฉันนี่ พี่น้ำหอมเป็นสาวประเภทสองที่สวยเอามากๆ อยู่ปี4 “ สวัสดีค่ะเจ้ ” ฉันกับแตงโมยกมือไหว้ตามมารยาทรุ่นน้องเคารพรุ่นพี่ “ มาๆ ไม่ต้องพิธีรีตองอะไรมากหรอก ฉันมานั่งจองโต๊ะตั้งแต่ประตูมหาวิทยาลัยเปิดเลยนะยะ ” ฉันทำหน้าตกใจกับคำพูดของเจ้หอม พี่แกมาจองที่นั่งตั้งแต่ประตูมหาวิทยาลัยเปิด มันหลายชั่วโมงมากเลยนะ ฉันอึ้งกับการกระทำของเจ้หอมเป็นอย่างมาก นี่แกลงทุนขนาดนี้เลยเหรอเพื่อที่จะเจอศิลปินที่ชอบ “ ดีมากค่ะเจ้ ถ้าโมไม่มีเรียนเช้านะ โมก็คงจะมาจองพร้อมเจ้แล้ว ” ยัยแตงโมพูดขึ้นพร้อมส่งยิ้มและกอดกันกับเจ้หอมอย่างถูกคอมากกว่าฉันที่เป็นน้องรหัสอีก “ คนเยอะมากเลยนะเนี่ย ” ฉันบ่นพึมพำคนเดียว แต่เจ้หอมกับยัยแตงโมก็แอบได้ยิน “ ก็แงงสิน้องส้มส้ม วันนี้พี่ม่อนมาทั้งทีเลยนะ นานๆทีจะโผล่มาให้เจอที่มหาวิทยาลัย เพราะได้ยินข่าวมาว่าคิวงานแน่นมากกก” เจ้หอมพูดบอกกับฉันไป ฉันพูดเบาๆเองนะ ได้ยินด้วยเหรอเนี่ยยยยย!! กรี๊ดดดดดด กรี๊ดดดดดด พี่ม่อนนนนน พี่ม่อนมาแล้วววววว ฉันหันไปตามเสียงกรี๊ดร้องของแฟนคลับ แล้วก็เห็นผู้ชายร่างสูงที่สวมชุดนักศึกษาสีขาว กางเกงขายาวสีดำ ซึ่งก็เป็นกางเกงนักศึกษาทั่วไป แต่ไม่ได้ใส่เข็มขัดและผูกเน็กไทเหมือนนั่งศึกษาชายทั่วไป แต่สวมเสื้อแจ็คเก็ตสีน้ำตาลทำให้ดูเด่นขึ้นมาทันที “ แต่งตัวก็ไม่เรียบร้อย ” ฉันพูดขึ้นพร้อมกับที่พี่ม่อนเดินผ่านมาพอดี ฉันสะดุ้งด้วยความตกใจ อะไรจังหวะพูดมันจะซวยขนาดนี้ หวังว่าพี่แกจะไม่ได้ยินที่ฉันพูดหรอกนะ เสียงกรี๊ดของแฟนคลับดังขนาดนี้อ่ะ แกคงจะไม่ได้หูดีขนาดนั้นหรอกมั้งนะ ฉันมองตามแผ่นหลังที่เดินผ่านหน้าฉันไป และเห็นพี่ม่อนเข้าไปนั่งที่โต๊ะที่เว้นที่ว่างไว้ให้ ฉันเห็นโต๊ะที่ว่างไว้ก็แอบเอะใจทำไมไม่มีคนไปนั่งเลย ที่แท้ก็แบบนี้เองสินะแค่เป็นดารามีสิทธิพิเศษแบบนี้ด้วยเหรอ ฉันคิดในใจพร้อมเบ้ปากอย่างไม่ชอบใจนัก “ เอ๊ะ ” ฉันหันไปมองสบตากับพี่ม่อนโดยไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งพี่ม่อนแกนั่งโต๊ะแล้วหันหน้ามาตรงหน้าฉันพอดี นั่งตรงหน้าฉันเป๊ะๆกับที่ฉันนั่งพอดี ที่นั่งตั้งกว้างทำไมไม่ขยับไปนั่งตรงอื่นบ้างเนี่ยย วันซวยอะไรของฉันกันวันนี้ T_T!5 ปีผ่านไปผ่านไปนานหลายปีทุกอย่างก็ไม่เหมือนเดิม สิ่งที่ไม่เหมือนเดิมคือฉันกับพี่ฐาตอนนี้ได้แต่งงานกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พวกเราจัดงานแต่งงานอย่างใหญ่โตสมเกียรติตระกูลฤกษ์รักษ์ และตอนนี้สิ่งที่สำคัญในชีวิตฉันมากที่สุดก็คือ ฐิสา ลูกสาวคนเดียวของฉัน ที่ตอนนี้เธอก็อายุได้ 4 ขวบแล้ว ฐิ มาจากตัวอักษาย่อ ฐ ของพี่ฐา ส่วน ส เป็นตัวอักษรย่อจากชื่อของฉันเอง ลูกของเราก็เลยได้ตั้งชื่อว่า ฐิสา ตามชื่อม๊าและป๊าของเธอฐิสาหน้าตาจะออกไปทางคุณพ่อของเธอ คือถอดแบบหน้าตากันมาเป๊ะเหมือนกับเป็นคนคนเดียวกัน และที่ผ่านมาในช่วงที่ฉันท้อง คนที่แพ้ท้อง เหม็นอาหาร ก็เป็นพี่ฐาที่เป็นแทนฉันทั้งหมด ส่วนฉันก็ได้แต่อุัมท้องฐิสาอย่างที่แทบไม่มีอาการของคนแพ้ท้องเลย คุณพ่อกับคุณแม่ทางฝั่งของพี่ฐาบอกกับฉันว่าพี่ฐาคงจะรักฉันเอามากๆเลย เขาถึงกับแพ้ท้องแทนฉันหนักมากขนาดนี้ ^^ก่อนที่ฉันจะคลอดฐิสาพี่ฐาก็ได้ซื้อบ้านหลังใหญ่ไว้หลังหนึ่ง พี่ฐาบอกว่าเราเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว เราจะอยู่คอนโดแบบนี้ไม่ได้ เราจะต้องมีบ้าน มีห้องนอนของลูกๆ ซึ่งพี่ฐาบอกว่าจะไม่ยอมมีน้องฐิสาแค่คนเดียวเป็นแน่ :)" ม๊าขาาาา " เสียงเล็กๆ ใสๆ ดังแว่วขึ้
หลายวันผ่านไปหลายวันผ่านไปฉันก็ตั้งหน้าตั้งตาอ่านหนังสือสอบอย่างหนัก และก็สอบเสร็จจนครบหมดทุกวิชา ก็คงเหลือแค่รอเกรดออกเท่านั้นถ้าผ่านหมดฉันก็จะไปยื่นทำเรื่องขอจบการศึกษาทันทีในส่วนของด้านพี่ฐา พี่ฐาก็ทำงานอย่างหนักจนไม่มีเวลามารับฉันเหมือนดั่งเมื่อก่อน และเรื่องที่ฉันจะบอกเขาในวันงานรับปริญญานั้นก็เลยต้องเก็บเอาไว้ก่อน เรื่องของฉันมันคงไม่สำคัญมากกว่าเรื่องงานของเขาหรอก -..-ส่วนผู้หญิงที่โทรมาหาพี่ฐาในคืนนั้น พี่ฐาบอกว่าเธอเป็นลูกสาวของเพื่อนสนิทของพ่อของเขาเอง และพวกเขาก็สนิทกันเหมือนพี่น้องมาตั้งแต่เด็กๆ และเธอก็แต่งงานไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วด้วย แสดงว่าคืนนั้นที่เขาไม่ยอมบอกกับฉันก็เพื่อที่เขาจะได้แกล้งฉัน พี่ฐาบอกกับฉันว่าอยากเห็นฉันหึงหวงเขาบ้าง ^^ฟอดดดดดด ~ พี่ฐาที่พึ่งเลิกงานกลับมาเขาก็เดินมาหอมแก้มฉันที่นั่งอยู่บนโซฟาด้วยรอยยิ้มที่แสนคิดถึง" เป็นยังไงบ้างครับ เหนื่อยไหม " พี่ฐานั่งลงข้างๆฉันพร้อมกับโอบไหล่บางของฉันเอาไว้หลวมๆ" ข้อสอบง่ายกว่าที่คิดนะคะ ^^ " ฉันที่พึ่งสอบเสร็จและกลับมาที่คอนโดบอกกับพี่ฐาออกไป และตอนนี้ฉันก็ยังสวมอยู่ในชุดนักศึกษาอยู่เลย" เมียพี่เก่งอยู่แ
วันนี้เป็นวันงานรับปริญญาของพี่ม่อนที่มหาวิทยาลัย แฟนคลับต่างก็พากันมารวมตัวกันเป็นร้อยๆคนเต็มสนามฟุตบอล พร้อมกับมีเวทีให้พี่ม่อนขึ้นไปพูดคุยกับแฟนคลับอีกด้วย ส่วนคนที่เป็นต้นเรื่องในการจัดงานในครั้งนี้จะเป็นใครไม่ได้เลยนอกจากคู่จิ้นเก่าของเขาก็คือ น้องเรนั่นเอง" ไอ้เรมันทำบ้าทำบออะไรของมันวะ " หลังจากขึ้นไปรับปริญญาเสร็จเรียบร้อยแล้ว พี่ฐาก็บ่นพึมพำอย่างหงุดหงิดทันที" ยังไงก็ต้องขึ้นไปบนเวทีนะคะ ขึ้นไปขอบคุณแฟนคลับพี่ฐาสักหน่อย ยังไงเขาก็ยังชื่นชมและคอยติดตามพี่ฐามาตลอดนะคะ " ฉันพูดอธิบายให้คนที่ไม่ค่อยจะชอบเข้าสังคมได้เข้าใจ " ฉันไม่ได้ ไม่ชอบแฟนคลับนะ ฉันแค่ไม่ชอบที่ไอ้เรมันจัดการอะไรแล้วไม่บอกกันก่อน " พี่ฐาหยุดเดินและก็พูดขึ้นมาอย่าหัวเสีย" พี่ม่อนนนนครับบบบ" เสียงบุคคลที่พี่ฐาพึ่งพูดถึงดังขึ้น พร้อมกับน้องเรรีบวิ่งหอบหืดเข้ามาหาพี่ฐาทันที" ไปกันครับ แฟนคลับรอที่สนามฟุตบอลกันเต็มเลย " น้องเรบอกพร้อมกับดึงแขนพี่ฐาให้วิ่งตามไปทันที ฉันที่เห็นภาพน่ารักแบบนั้นก็อดที่จะยิ้มตามไม่ได้ ทำเป็นบ่นให้น้องเร แต่ก็ยังทำตามใจน้องมันอยู่ดี ^^กรี๊ดดดดด!!!!congratulationsฐากูร ฤกษ์รักษ์
" ส้มส้ม!! "ฉันที่กำลังนั่งทำรายงานอยู่ก็ต้องรีบหันหน้าไปตามเสียงเรียกของผู้ชายที่แทบจะคุ้นหู พร้อมกับสายตาของคนในร้านจับจ้องมองไปที่ชายหนุ่มรูปหล่อที่ใส่ชุดสูทสีน้ำเงินที่ยืนล้วงกระเป๋ากางเกงจ้องมองดูฉันที่นั่งอยู่บนโต๊ะทำรายงานกับเพื่อนๆอยู่" พะ พี่ฐา " ฉันเรียกชื่อแฟนของฉันเบาๆด้วยความตกใจ ฉันมาถึงร้านไม่ถึงชั่วโมงพี่ฐาก็มาหาฉันถึงนี่เลยเหรอเนี่ย ก่อนจะออกมาฉันได้ส่งข้อความไปบอกพี่ฐาพร้อมกับส่งโลเคชั่นร้านเอาไว้ให้พอเป็นพิธีเพื่อรายงานว่าฉันไปไหนให้เขาได้รับรู้ แต่ฉันก็ไม่คิดว่าเขาจะตามมาหาฉันถึงที่นี่ -..-พี่ฐาไม่ได้ตอบกลับอะไรแต่เขาดึงเก้าอี้มานั่งลงข้างๆฉันพร้อมกับจ้องมองพวกฉันทำรายงานกัน จนเพื่อนชายทั้งสองคนของฉันดูเกร็งๆกันไปหมด" รับเครื่องดื่มอะไรเพิ่มไหมครับ " เมื่อพี่ฐาลูกค้าผู้มาใหม่นั่งลง เจเจก็เดินเข้ามาพร้อมกับถามลูกค้าตามมารยาท ส่วนพี่ฐาที่ได้เจอกับเจเจอีกครั้งหลังจากที่เคยเจอกันมาแล้วครั้งหนึ่งเขาถึงกับขมวดคิ้วเข้มของเขาเข้าหากันทันที" มาที่นี่ได้ยังไงวะ " พี่ฐาที่ไม่ได้ถามแต่แค่พูดบ่นๆออกมาคนเดียวเท่านั้น" แฮะๆ ^^ พอดีเจเจเปิดสาขาเพิ่มที่นี่ค่ะ " ฉันบอกกับพี่ฐ
1 เดือนผ่านไปตอนนี้ฉันก็ได้ขึ้นปี 4 เป็นปีสุดท้ายในการเรียนคณะนิติศาสตร์ในรั้วมหาวิทยาลัยแล้ว แต่การเรียนของฉันก็ยังไม่สิ้นสุดเพราะฉันจะต้องเรียนต่อเนติบัณฑิตอีกและฉันมีแพลนเอาไว้ว่าเรียนจบก็จะสมัครสอบตั๋วทนายเอาไว้ด้วยเหมือนกัน อีกอย่างฉันลงเรียนให้จบภายใน 3 ปีครึ่ง เพราะจะได้รีบเรียนต่อ และพี่ฐาบอกว่าอยากให้ฉันมาทำงานฝ่ายกฎหมายในบริษัทของเขา แรกๆฉันก็ปฏิเสธไปแล้วแหล่ะเพราะกลัวคนอื่นๆจะหาว่าฉันใช้เส้นสายในฐานะแฟนท่านประธานเข้ามา แต่พี่ฐาบอกว่าเขาจะรับพนักงานตามเกณฑ์ที่เขาได้กำหนดไว้ปกติ และจะมีการสอบสัมภาษณ์งานทุกคน จะไม่มีใครได้สิทธิพิเศษในการเข้ามาทำงานเหนือกว่าคนอื่นๆ สิ่งที่นอกเหนือจากคนอื่นๆที่จะได้พิเศษนั้นก็คือตัวของเขาเอง เพราะฉันเป็นแฟนของเขา ^^" พี่ฐาคะ เสร็จหรือยังคะ " ฉันตะโกนถามพี่ฐา ที่แต่งตัวอยู่ในห้องแต่งตัว เพราะตอนนี้มันจะสายแล้วนะสิ และฉันก็ต้องไปเรียน ฉันบอกกับพี่ฐาว่าฉันจะไปเรียนเองแต่พี่ฐาก็ไม่ยอม" มาแล้วครับๆ ขอโทษทีนะ เมื่อคืนเมียจัดดุไปหน่อย ^^ " พี่ฐาที่กำลังเดินออกมาจากห้องแต่งตัวพร้อมกับติดกระดุมเสื้อเชิ้ตของตัวเองพูดมาพร้อมกับรอยยิ้มกวนประสาทที่ส่งมาให
หลังจากที่ฉันกับพี่ฐาพร้อมกับพ่อแม่เดินทางกลับมาจากโรงแรม ตอนนี้พวกเราก็พากันนั่งกินข้าวที่โต๊ะอาหารภายในบ้านซึ่งพวกเราได้พากันซื้อมาจากข้างนอกเข้ามากินกัน ทีแรกพ่อของฉันเสนอว่าจะเป็นคนทำอาหารให้กินเอง แต่พี่ฐาบอกว่า...กลับมากันเหนื่อยๆอยากให้พ่อกับแม่ได้พักผ่อน เขาเลยเลือกที่จะซื้ออาหารกลับมากินที่บ้านกันเอง" ไง ไอ้ลูกชายมาอยู่ที่นี่กันเองเหรอ " เสียงทุ้มของใครบางคนที่เดินเข้ามาในบ้านพูดขึ้นมา จนทำให้ฉัน พี่ฐา และพ่อกับแม่หันไปมองที่ต้นเสียงนั้นทันที" คุณพ่อ! "" คุณลุง! "" 0.0 "" มาได้ยังไงครับ! "เมื่อบุคคลที่เดินเข้ามาใหม่เป็นชายวัยกลางคนที่แต่งตัวด้วยชุดสูทสีดำราคาแพง พร้อมกับมีบอดี้การ์ดเดินเข้ามาด้วยกันอีกสองคน ส่วนที่มาด้วยอีกเป็นสิบๆก็พากันยืนรออยู่ข้างนอกบ้าน" ขะ ใครเหรอลูก " แม่ของฉันหันไปถามพี่ฐาด้วยท่าทางตกใจไม่น้อย ที่เห็นผู้ชายเข้ม ใบหน้าไร้รอยยิ้ม พร้อมกับลูกน้องอีกมากมายที่มาที่บ้านของพวกท่าน" พะ พ่อผมเองครับ " พี่ฐาตอบกลับแม่ของฉันพร้อมกับรอยยิ้มแหยๆ" ชะ เชิญนั่งก่อนครับ พวกเรากำลังกินข้าวกันอยู่พอดีเลย " พ่อของฉันยืนขึ้นพร้อมกับผายมือให้คุณลุงฐานัทไปนั่งที่เก