เมื่อเธอต้องมาเป็นผู้ช่วยของซุปตาร์หนุ่ม คนเอาแต่ใจ เธอจะทำอย่างไรต่อ ที่จะปราบเขาได้
ดูเพิ่มเติมสวัสดีครับ! ผม "ปุยเมฆ ณัฐวิชญ์ อัครโยธินนารัตน์" เองน่ะครับ นามสกุลผมคุ้นๆ กันใช่ไหมล่ะครับ ผมน้องชายของ ปุยนุ่น เป็นลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของ แม่นิชา กับพ่อไปร์ นรวิชญ์ ยังไงกันล่ะครับผม แถมยังเป็นลูกชายคนเล็กของบ้านอีก ตอนนี้ผมอายุได้ 26 ปีแล้วครับ แปลกใช่ไหมครับว่าทำไมถึงไม่เรียกปุยนุ่นว่าพี่ เพราะเราห่างกันแค่ปีเดียวเองครับ เราโตมาพร้อมกัน ถูกเลี้ยงดูมาเหมือนกัน เลยดูเป็นเพื่อนเล่นกันมากกว่าพี่น้องด้วยซ้ำ นิสัยเราต่างกันมากโดยสิ้นเชิง ต่างกันราวกับฟ้ากับเหวเลยแหล่ะ
นิสัยของผมไม่มีอะไรน่าสนใจหรอกครับ นอกจากจะหน้าตาดี ถอดแบบพ่อผมมาเลย อาจจะเป็นคนพูดน้อยไปด้วยซ้ำ ไม่ค่อยชอบสุ่งสิ่งกับกับใคร แต่ก็มาเป็นดาราเป็นนักแสดงได้ยังไงก็ไม่รู้ อันนี้ขออุปไว้ก่อนน่ะครับ ส่วนหน้าตาลักษณะท่าทางของผมบิดากับมารดาให้มาล้วนๆเลยครับ ผมเป็นคนขี้เหวี่ยงขี้วีนขี้โมโหง่าย เจ้าระเบียบ ไม่แปลกหรอกครับ เพราะผมเป็นลูกคนเล็กของบ้าน ซึ่งก็อาจจะถูกเลี้ยงมาแบบตามใจตลอด เป็นเอาแต่ใจ แต่ก็ชอบเอาอย่างอื่นด้วย......🤣🤭(อย่าคิดเยอะนะครับว่าเอาอ่ะไร)
เพราะนิสัยที่ไม่เหมือนใครของผม ทำให้ผมต้องเปลี่ยนผู้ช่วยเป็นว่าเล่น คนที่ทำงานกับผม ส่วนใหญ่ก็อยู่กันไม่ยาวหรอกครับ ไม่ถึงเดือนสะด้วยซ้ำ เป็นต้องลาออกกันทุกราย จะมีแต่ผู้จัดการส่วนตัวของผมเท่านั้นแหล่ะครับที่รู้จักผมดี คือ พี่พัด พัสกร หนุ่มโสดวัย 30 ปี เป็นหลานชายของเจ้าของบริษัท ซึ่งมีพ่อของผมเป็นหุ้นส่วนร่วมด้วย
ครอบครัวของพวกเราเมื่อก่อนอยู่ต่างจังหวัดทางภาคอีสาน เป็นบ้านเกิดของแม่ผมเองครับ หลังจากที่คุณตา นิรุตติ์ ได้เสียไปเมื่อ 10 ปีที่แล้ว คุณพ่อจึงพาพวกเราย้ายกลับมาอยู่ที่กรุงเทพมหานครคืน แต่บ้านก็จ้างให้คนดูแลตลอด และคุณพ่อได้เข้ามาบริหารงานในบริษัทกับ คุณลุงนพคุณ ซึ่งเป็นโปรดิวเซอร์รายการโทรทัศน์ดังของช่องที่ผมอยู่ พ่อผมตอนนี้ทำงานเบื้องหลัง ไม่มีใครรู้ว่าผมคือลูกชายของท่าน เพราะผมใช้อีกชื่อหนึ่งคือ "เหนือเมฆ" และก็ไม่ได้ใช้นามสกุลจริงในวงการ
ผมเข้าวงการมาได้ 5 ปี ด้วยการเเคสนักแสดงจากทางมหาวิทยาลัยที่แต่ละปี บริษัทจะไปเคสตัวนักแสดงหน้าใหม่เข้าวงการ ผมไม่ได้ใช้เส้นสายอะไรของพ่อผมน่ะครับ(บอกไว้ก่อน) เอาเป็นว่ารู้แค่ประวัติคราวๆของผมพอสังเขปแค่นี้ไปก่อน ไปตามดูเรื่องราวของผมต่อได้เลยครับ
อ๋อ...ผมลืมบอกอีกอย่างหนึ่งน่ะครับ ผมโสดและหล่อมากครับ
.
.
.
.
.
.
"อะไรน่ะ...ลาออกอีกแล้ว!" พัสกร โพล้งขึ้นมาทันทีอย่างตกใจ เมื่อนักแสดงหนุ่มในความดูแลของตนบอกว่า ผู้ช่วยคนใหม่ขอลาออก เมื่อพึ่งจะเข้ามาทำงานได้ไม่ถึงสัปดาห์
"พี่ก็ได้ยินชัดแล้วนี้ครับ" ปุยเมฆเอ่ยบอกอย่างไม่รู้สึกสะทกสะท้านอะไร
"นี่มันคนที่เท่าไหร่แล้วเมฆ" พัสกรตวัดเสียงใส่เล็กน้อย
"ทีเมื่อก่อน ผมไม่เห็นต้องมีผู้ช่วยเลย ผมกับพี่ก็ยังทำงานกันได้เลยหนิ่ครับ" ปุยเมฆเอ่ยออกมาอย่างมีเหตุผลของตัวเอง
"ใช่...แต่นั้นมันเมื่อก่อน เพราะพี่มีเวลาอยู่กับนายได้ตลอด แต่ตอนนี้ พี่ต้องเข้าไปช่วยงานคุณลุง นายต้องมีผู้ช่วย" พัสกรเอ่ยบอกเหตุผล เพราะเมื่อก่อนเขาแค่อยู่ในช่วงทดลองงาน ยวกกับดาราหนุ่มก็พึ่งจะเข้าวงการใหม่
"แต่ผมไม่ต้องการน่ะพี่ พี่ก็รู้ว่าผมต้องการความเป็นส่วนตัวมากแค่ไหน" ปุยเมฆบอกออกไปเพราะเขาไม่ต้องให้ใครเข้ามายุ่งวุ่นวายในพื้นที่ส่วนตัวของเขา
"เขาก็ไม่ได้อยู่กับนายตลอดทุก 24 ชั่วโมงหนิ่เมฆ"
"..." ปุยเมฆ ได้แต่นั่งหน้านิ่ง
"พี่มีน้องที่รู้จักอยู่คนหนึ่ง ถ้าคนนี้อยู่ทำงานกับนายได้ไม่ถึงเดือน พี่จะเลิกหาผู้ช่วยมาให้นาย แต่พี่จะให้นาย จัดการตารางงานและรับผิดชอบเวลาของตัวเองทุกอย่างเลย"
"ใครจะทนอยู่ทำงานกับผมได้ล่ะ ภายในหนึ่งปีที่ผ่านมา คนที่เท่าไหร่แล้วนับไม่ถ้วน ในเมื่อไม่มีใครทำงานกับผมได้ พี่ก็ล้มเลิกที่จะหาผู้ช่วยมาให้ผมเถอะครับ"
"แต่พี่รับรองเลย คนนี้เอาคนอย่างนายได้อยู่หมัดแน่ๆ พี่รับประกันด้วยเกียรติของพี่เอง" พัสดรเอ่ยออกมาอย่างมั่นใจ
"เฮ้อ...ตามใจพี่เลย" เมื่อทำอะไรไม่ได้ ปุยเมฆจึงปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพัสกรเป็นคนจัดการ
"พรุ่งนี้ พี่จะให้เธอย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่" พัสกรเอ่ยบอกพร้อมกลับกำลังจะเดินกลับออกไป
"อะไรน่ะ!...ย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่" ปุยเมฆตวาดเสียงขึ้นถามทันที และชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง "กับผม สองต่อสองงั้นเหรอ"
"อื้ม" พัสกรได้แต่พยักหน้ารับเชิงเป็นคำตอบ
"นี่มันจะไม่มากไปหน่อยเหรอพี่พัด"
"สำหรับคนอย่างนาย พี่ถือว่ายังน้อยไปด้วยซ้ำ...พี่ไปน่ะ" พัสกร เดินจากไปทันที ปล่อยให้อีกฝ่ายยืนนิ่งอยู่คนเดียว
ต้นข้าว ณัฐนรี บุญสอน หญิงสาววัย 23 ปี พื้นเพเป็นคนต่างจังหวัด แต่บิดาพามาอยู่กรุงเทพฯ ตั้งแต่เล็กๆ อาศัยอยู่กับพ่อ และน้องชาย ในบ้านไม้เก่าๆ หลังหนึ่งแถวชานเมือง
"พี่ข้าว! พรุ่งนี้น้ำไม่มีเรียน น้ำขอไปดูเพื่อนเคสการแสดงน่ะพี่" ต้นน้ำ น้องชายคนเดียววัยเพียง 20 ปีของเธอ เอ่ยขออนุญาตเมื่อเพื่อนให้พาไปเคสนักแสดงที่ช่อง
"น้ำ!..." ต้นข้าวเอ่ยเรียกน้องชายไว้
"ครับพี่"
"ต่อไปนี้พี่ต้องไปทำงานน่ะ อาจจะค้างที่ทำงานเลย พอดีว่างานที่พี่พึ่งจะได้ คือทำงานไม่เป็นเวลาน่ะ เจ้านายพี่ เขาเลยให้พี่ไปพักที่นั้น อาจจะทำงานไม่ค่อยเป็นเวลา แต่รับรองเงินสูงมากเลยน่ะน้ำ พี่จะได้มีเงินส่งน้ำเรียนไง และเก็บเงินซื้อบ้านได้เร็วๆน่ะ" เสียงหวานเอ่ยบอกน้องชาย ด้วยหน้าตารู้สึกตื่นเต้นและดีใจที่จะได้ทำงาน
"ขอบคุณพี่ข้าวมากเลยน่ะครับ ที่ทุ่มเท เสียสละ เวลาความสุขของตัวเองเพื่อพ่อและน้ำมากขนาดนี้ แล้วพี่จะเริ่มไปทำงานวันไหนครับ"
"พรุ่งนี้เลย น้ำก็ตั้งใจเรียนน่ะ และฝากดูแลพ่อแทนพี่ด้วยน่ะ"
"พี่ก็ดูแลตัวเองด้วยน่ะ เรื่องพ่อไม่ต้องห่วงเลย"
"จ้าน้องรัก"
"อ้อนอะไรกันสองพี่น้องคู่นี้" ไตรภพ เดินเข้าภายในห้อง เมื่อกลับมาจากทำงาน
ไตรภพทำงานเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยในห้างดังแห่งหนึ่ง
"พ่อ!...ข้าวมีข่าวดีจะบอก ข้าวได้งานแล้วน่ะพ่อ" หญิงสาวเดินไปรับพ่อที่กำลังเดินเข้ามา
"พ่อดีใจด้วยน่ะ ลูกสาวพ่อคนนี้ขยันจริงๆ" ไตรภพขยี้ศรีษะเธอเบาๆ
"ข้าวจะตั้งใจทำงาน เก็บเงินให้ได้เยอะๆ แล้วซื้อบ้านให้พ่ออยู่สบายกว่านี้น่ะ" ต้นข้าวเอ่ยออกมาอย่างมุ่งมั่น
"แค่นี้พ่อก็ภูมิใจในตัวลูกมากแล้วล่ะ ต้นข้าว" ไตรภพเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่ภาคภูมิใจ และลูบศีรษะเธอเบาๆอย่างเอ็นดู
เจ้าสาวปริศนา(จบ)วันนี้เป็นวันที่ซุปตาร์หนุ่ม อย่างปุยเมฆจะแถลงข่าวประกาศสละโสดอย่างเป็นทางการ และเตรียมเข้าพิธีวิวาห์ที่จะจัดขึ้นในสัปดาห์ที่จะถึงนี้"ไงไอ้ว่าที่เจ้าบ่าว...แหม่ ปิดกูเงียบเชียวน่ะ" ชีโน่ถามขึ้น เมื่อวันนี้รู้ข่าวว่าชายหนุ่มจะแถลงข่าว บอกข่าวดีกับทุกคน"ก็อยากเซอร์ไพรส์มึง แต่มึงก็รู้ก่อน" ปุยเมฆเฉไฉตอบออกไป"ดีใจด้วยน่ะ ต้นข้าวก็น่ารักดี" ชีโน่ตบไหล่เพื่อนเบาๆ"..." ปุยเมฆไม่ได้เอ่ยตอบอะไรกลับไป แล้วเดินไปหาหญิงสาวทันที ที่ห้องของประธานบริษัทชายหนุ่มเปิดประตูเข้ามา ก็รีบเข้าไปสวมกอดหญิงสาวจาดทางด้านหลังทันทีอย่างคิดถึง"เหนื่อยไหมครับวันนี้" ปุยเมฆถามขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เป็นห่วง"ไม่ค่ะ...พี่พร้อมน่ะค่ะ ข้าวจะออกไปชงกาแฟเตรียมไว้ให้ค่ะ""เฮ้อ...ไม่พร้อมก็ต้องพร้อมแหล่ะ เค้าบอกนักข่าวไปไม่ได้เหรอครับ ว่าอ้วนคือเจ้าสาวของเค้า"ชายหนุ่มเอ่ยเสียงออดอ้อน"ไม่ได้ค่ะ พี่ต้องบอกว่าเจ้าสาวคือลูกสาวท่านประธาน ข้าวอยากเซอร์ไพรส์ทุกคนในงานแต่งทีเดียว ดีเสียอีกสำนักข่าวไหนเอาข่าวไปลงมั่ว ข้าวจะให้พ่อไปร์ไล่ฟ้องให้หมดเลยคอยดูสิ" หญิงสาวเอ่ยขึ้นมาอย่างมุ่งมั่น"ร้ายนักน่ะ ไปแอบรวมห
ทุกอย่างคลี่คลาย"นี่มันเรื่องอะไรกันครับอ้วน เค้างงไปหมดแล้ว..." ปุยเมฆเอ่ยถามทุกคนที่นั่งอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา และหันมาสบตากับคนข้างๆกายอย่างต้องการคำตอบที่ชัดเจน ว่าทั้งหมดนี้คือเรื่องอะไรกัน"แหม่...มีเรียกแทนกัน มีอง มีอ้วน มีเค้าอีก เรียกกันหวานขนาดนี้ แต่ไม่ขอน้องเขาเป็นแฟนสักทีน่ะเมฆ" ปุยนุ่นเเซวน้องชายขึ้นมาทันที"ตัวแสบมานั่งข้างๆพ่อนี้ แล้วก็เงียบด้วย" นรวิชญ์เอ่ยสั่งลูกสาวทันที"พี่พร้อมจะฟังที่ข้าวและทุกคนเล่าหรือยังค่ะ" หญิงสาวถามขึ้นพร้อมกับสบตากับชายหนุ่ม"ครับ" ปุยเมฆพยักหน้ารับ และนั่งกุมมือของหญิงสาวไว้"พี่ก็รู้มาตั้งนานแล้วเนอะ ว่าข้าวไม่ใช่ลูกของพ่อไตร เพราะวันนั้นพี่ก็อยู่ที่นั้นด้วย แถมพี่ยังเป็นคนช่วยบริจาคเลือดให้พ่อไตรอีก" หญิงสาวเอ่ยขึ้น"แล้วพี่พัด เกี่ยวอะไรกันกับอ้วนด้วยล่ะ ถึงเรียกเค้าว่าน้องเขย" ปุยเมฆเริ่มเข้าประเด็นก่อน"ใจเย็นๆก่อนสิลูก ทุกคนจะค่อยๆเล่าน่ะ" นิชาเอ่ยห้ามลูกชายไว้ก่อน"จริงๆแล้ว หนูข้าวคือลูกสาวแท้ๆของลุงกับราณีเองแหล่ะ แล้วที่ลุงเรียกหนูข้าวไปพบบ่อยๆ ก็เพราะเรื่องนี้เองแหล่ะ" นพคุณจึงเป็นคนเล่าบอกกับปุยเมฆต่อ"อะไรน่ะครับ!" ปุยเมฆเ
สารภาพรักเมื่อมาถึงที่โรงพยาบาล ต้นข้าวถูกส่งเข้าห้องทุกฉุกเฉินทันที ปุยเมฆได้แต่ยืนรอที่หน้าห้อง แล้วถอดหมวกถอดหน้ากากออกสักพักประตูห้องฉุกเฉินถูกเปิดออก และหมอเดินออกมา พร้อมกับถามขึ้น"ใครเป็นญาติของคุณณัฐนรีค่ะ""ผมเองครับ คนที่พาณัฐนรีมา" ปุยเมฆเอ่ยตอบ เเล้วรีบเข้าไปถามหมอต่อทันทีหมอสาวยืนนิ่งสตั้นไปทันที เมื่อเห็นว่าชายร่างสูงตรงหน้านั้นเป็นใคร"นี่ไม่ได้ถ่ายรายการอะไรใช่ไหมค่ะ" พยาบาลเอ่ยถาม แล้วหันไปมองซ้ายแลขวา"เรื่องจริงครับ เธอเป็นอะไรเหรอครับ เอ่อ พอดีเธอเป็นลมที่กอง ผมอยู่ตรงนั้นพอดีครับ" ปุยเมฆไม่พูดอะไรยาว"ตามหมอเข้ามาในห้องค่ะ" หมอสาวเอ่ยบอก แล้วเดินนำหน้าซุปตาร์หนุ่มไปที่ห้อง เพราะไม่อยากให้คนแตกตื่นที่ซุปตาร์หนุ่มอยู่ที่นี่"คนไข้มีแฟนไหมค่ะ" หมอถามขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อเข้ามาภายในห้อง"ถามหาแฟนเธอทำไมครับ" ปุยเมฆเลิกคิ้วถามเพราะไม่เข้าใจว่าหมอจะถามหาแฟนของหญิงสาวทำไม เขาอยากจะตอบออกไปส่าเขานี้แหละคือแฟนของเธอ แต่เขาก็ไม่กล้า เพราะขนาดจะขอเธอเป็นจนป่านนี้แล้วยังไม่กล้าเอ่ยปากบอกเลย"คนไข้กำลังตั้งครรภ์อยู่ค่ะ" หมอเอ่ยตอบ"อะไรน่ะครับ! ท้องงั้นเหรอ" ปุยเมฆเบิกตากว้
ความจริงตกดึกปุยเมฆย่องเบาออกจากห้องพักของตัวเอง เดินออกไป มุ่งตรงไปทางห้องพักของหญิงสาวที่อยู่อีกฟากหนึ่งที่อดีตซุปตาร์ดังอย่างนรวิชญ์ได้จัดเตรียมไว้ให้ เพราะการถ่ายทำครั้งนี้เป็นเขาที่รับผิดชอบเองทั้งหมดเมื่อเดินมาถึงหน้าห้องของหญิงสาว ปุยเมฆรีบไขกุญแจเปิดเข้าไปทันที อย่างไม่รอช้า เพราะเกรงว่าคนอื่นจะมาเห็นเข้า ร่างสูงย่องเข้าไปอย่างเบาๆ หาคนที่หลับสนิทอยู่บนที่นอน โดยไม่ได้รู้ถึงผู้บุกรุกเข้ามาเลยแม้แต่น้อย ชายหนุ่มมุดตัวเข้าไปในผ้าห่มผืนหนาคว้าตัวหญิงสาวเข้ามาไว้ในอ้อมกอดของตนทันที"อื้อ..." เสียงร้องอู้อี้ของหญิงสาวประท้วงขึ้นมา เมื่อร่างกายถูกรบกวน"ชูว์...อ้วนครับ" ร่างสูงกระซิบที่ข้างหูของหญิงสาว"พี่เมฆ มาได้ยังไงค่ะ" หญิงสาวถามขึ้นทันที เมื่อพบว่าคนที่ขึ้นมานอนกอดเธอนั้นเป็นใคร"อ้วนลืมไปแล้วเหรอครับ ว่าเค้ามีกุญแจน่ะ" เสียงพูดบอกเบาๆที่ข้างหู"แล้วมาทำไมดึกขนาดนี้ค่ะ ข้าวจะนอน" หญิงสาวงัวเงียวถามออกไป"คิดถึงอ้วนครับ นอนคนเดียว เค้านอนไม่หลับเลย" ร่างสูงเอ่ยตอบ พร้อมกับกอดกระชับแน่นขึ้น"นอนเฉยๆได้ไหมค่ะ วันนี้ข้าวเพลียมากจริงๆ" เสียงหวานเอ่ยบอก"ครับ...เค้าตามใจอ้วนน่ะ
ปุยเมฆ Come Backสามเดือนต่อมาวันนี้ครบกำหนดการกลับมาทำงานอีกครั้งของซุปตาร์หนุ่มอย่างปุยเมฆ และต้องเดินทางไปขึ้นไปทางภาคเหนือของประเทศอีกเช่นเคย"พ่อครับ...ให้ต้นข้าวพักอยู่กับเมฆไม่ได้เหรอ ทำไมต้องแยกห้องด้วย พ่อก็รู้ว่ากองนี้ผู้ชายเยอะ" ปุยเมฆเอ่ยถามบิดา เมื่อเข้ามาถึงที่พักที่ทางทีมงานจัดเตรียมไว้ให้"พ่อรู้ หรือลูกอยากให้คนที่กองรู้เรื่องความสัมพันธ์ของพวกลูกเหรอ ไม่ต้องห่วงหรอก พ่อแยกโซนของหนูต้นข้าวให้แล้ว" นรวิชญ์เอ่ยบอกลูกชาย และเหตุผลที่ต้นข้าวขอไว้ จึงทำตามที่ได้ตกลงกันไว้"ที่คุณพ่อ ยังพาคุณแม่มาอยู่ด้วยได้เลย""ถ้าอย่างนั้น ลูกก็ไปบอกกับทุกคนสิว่าลูกคือใคร""..." ปุยเมฆหน้างอคอตกทันที เพราะทำอะไรไม่ได้"อ่ะ..." นรวิชญ์ยื่นกุญแจห้องพร้อมกับคีย์การ์ดให้แก่ลูกชาย"อะไรครับ" ปุยเมฆเลิกคิ้วมองอย่างสงสัย"กุญแจไง...หรือไม่เอา""กุญแจ! ของผมก็อยู่นี้ไงครับ" ปุยเมฆเอ่ยบอก พร้อมกับชูของตัวเองให้ดู"..." นรวิชญ์จ้องหน้าลูกชาย"อ๋อ...ขอบคุณครับคุณพ่อ รักคุณพ่อที่สุดเลย" ปุยเมฆคิดอยู่สักพัก เมื่อนึกขึ้นได้รีบคว้ากุญแจมา พร้อมกับสวมกอดพ่ออย่างดีใจ"น้อยๆหน่อย ไม่งั้นพ่อจะไปประกาศให้ท
ที่ปรึกษารุ่งเช้า!ต้นข้าวลืมตาตื่นขึ้นมา ก็ไม่เห็นคนร่างสูงที่นอนข้างกายเธอมาตลอดทั้งคืนแล้ว เพราะว่าชายหนุ่มลุกออกจากห้องไปตั้งแต่เช้ามืดก่อนที่เธอจะตื่น"พี่เมฆตื่นเช้าจังเลยน่ะค่ะ รับกาแฟไหมค่ะ" หญิงสาวเอ่ยถามเมื่อเห็นชายหนุ่มนั่งอยู่บนเก้าอี้ห้องรับแขกของบ้าน"ไม่ครับ""แล้วพ่อล่ะค่ะ" หญิงสาวถามขึ้น ถึงพ่อของเธอ"อยู่สวนหลังบ้านครับ ส่วนน้ำก็ออกไปแต่เช้าแล้ว" ชายหนุ่มเอ่ยตอบหญิงสาวกลับไป เหมือนว่าที่นี่คือบ้านของตน"ถ้าอย่างงั้น ข้าวไปทำอาหารเช้าก่อนน่ะค่ะ" ต้นข้าวเอ่ยบอก แล้วเดินไปที่ครัว"..." ส่วนปุยเมฆก็ได้พยักหน้ารับหญิงสาวมัวแต่งัวเงียอยู่กับการทำอาหาร โดยไม่ได้สนใจคนร่างสูงเลย"ทำอะไรอยู่ครับ อื้ม หอม น่ากินจังเลย" ร่างสูงเดิมมาสวมกอดหญิงสาวจากทางด้านหลัง แล้วแอบหอมแก้มหญิงสาวไปทีหนึ่ง"พี่เมฆ! นี่มันแก้มข้าวน่ะค่ะ ไม่ใช่กับข้าว กินไม่ได้ค่ะ" หญิงสาวรีบเอามือข้างหนึ่งลูบแก้มเธอ แล้วหันไปต่อว่าคนร่างสูง แล้วหันมาสนใจกับอาหารข้างหน้าต่อ"ก็กินมาแล้วทั้งคืนนี้ ลืมแล้วเหรอครับ" ปุยเมฆแกล้งแหย่ขึ้นมา"พี่เมฆ ปล่อยข้าวก่อน แล้วถอยออกไปได้แล้วค่ะ" หญิงสาวเอ่ยบอกเพราะเธอไม่ถนัด
ความคิดเห็น