Home / โรแมนติก / โอบฟ้ามาห่มดิน / บทที่ 1 ความปรารถนาของพราวนภา - 100%

Share

บทที่ 1 ความปรารถนาของพราวนภา - 100%

last update Last Updated: 2025-05-22 22:23:26

“ใช่ครับ คนจีบพี่พราวเยอะมากเลย เวลาพีทไปเล่นข้างนอกก็มีแต่คนถามหาพี่พราว เนอะพายเนอะ”

“แล้วไปยังไง เรียกแท็กซี่หรือพ่อเราไปส่ง” ชายหนุ่มยังถามต่อ

“แท็กซี่ครับ/มีคนมารับค่ะ” สองพี่น้องพูดพร้อมกัน แต่คำตอบไปคนละทางจนทั้งคู่ต่างหันมามองหน้ากันและกัน ขณะที่ผู้เป็นน้าอย่างนฤบดินทร์ได้แต่ถอนหายใจที่คงไม่ได้เรื่องได้ราวอะไรจากหลานตัวแสบเป็นแน่

“ไม่เป็นไร เดี๋ยวน้าไปถามแม่เราเองก็ได้” เขาพูดพลางหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาจะกดโทร. ออก แต่สองพี่สองรีบโบกมือห้ามเป็นพัลวัน

“อย่านะคะน้าดิน พี่พราวสั่งเอาไว้ว่าห้ามบอกคุณพ่อคุณแม่ว่าพี่พราวไปเที่ยวกับแฟน ไม่งั้นคุณพ่อจะดุเอาได้ น้าดินอย่าถามคุณแม่นะคะ ขอร้องล่ะ นะคะน้าดิน” ภัทร์นรินท์ยกมือไหว้ปะหลก ๆ พร้อมกับทำตาสลดอย่างน่าสงสาร ภานุภัทร์เห็นอย่างนั้นจึงทำตามบ้าง

“ใช่ครับน้าดิน เห็นใจพวกเราเถอะนะครับ พี่พราวอุตส่าห์ไว้ใจให้พวกเราเก็บความลับ พีทไม่อยากให้พี่พราวถูกดุครับ นะครับน้าดิน”

ชายหนุ่มลอบยิ้ม “ก็ได้ ไม่ถามก็ไม่ถาม น้าเข้าบ้านก่อนนะ พวกเราก็เข้าบ้านเถอะ ข้างนอกมันร้อน”

เขาเตรียมตัวจะหันหลังกลับ แต่จู่ ๆ หลานสาวตัวดีก็ยื่นมือมากระตุกชายเสื้อเขาเบา ๆ ครั้นพอหันไปมองอีกฝ่ายก็ยิ้มเผล่อย่างประจบ

“มีอะไร” เขาเลิกคิ้วขึ้นเป็นเชิงถาม พลางมองไปทางหลานชายก็เห็นเจ้าตัวยิ้มกว้างมาให้เช่นกัน

“ตอนเย็นพวกเราจะไปขี่จักรยานเล่นในหมู่บ้านกันค่ะ แล้วก็คิดว่าจะไปนั่งกินไอติมที่สโมสรด้วย” ภัทร์นรินท์ยิ้มกว้างกว่าเดิม ขณะที่ภานุภัทร์แบมือมาตรงหน้าเขาช้า ๆ

“มินนี่บอกว่าวันนี้มีบิงซูด้วยครับ พีทกับพายอยากกิน”

นฤบดินทร์ส่ายหน้าพร้อมกับยิ้มด้วยความเอ็นดูหลานทั้งสอง จากนั้นก็บุ้ยหน้าไปทางบ้านของตนแล้วพูดว่า

“น้าไม่ได้พกกระเป๋าตังค์มา ตามน้าเข้าไปเอาในบ้านสิ” ได้ยินอย่างนั้นสองพี่น้องจึงหันมองหน้ากันด้วยแววตาเป็นประกาย

“เย้! น้าดินใจดีที่สุดเลย” ภัทร์นรินท์ชูแขนขึ้นแล้วกระโดดด้วยความดีใจ จากนั้นก็พากันเดินตามผู้เป็นน้าเข้าไปในบ้านอีกหลังที่เปรียบเสมือนบ้านหลังที่สองของพวกตน

“น้าดินก็ต้องใจดีสิ ไม่งั้นพี่พราวจะชอบน้าดินหรือ” ภานุภัทร์หลุดปากออกไปด้วยความลืมตัว นฤบดินทร์จึงหยุดชะงักทันทีแต่ไม่ได้หันกลับไปมองหลานชาย สักพักก็เดินต่อทำทีเป็นว่าเมื่อครู่เขาไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น ชายหนุ่มจึงไม่เห็นว่าด้านหลังของตน ภานุภัทร์กำลังถูกภัทร์นรินท์ใช้นิ้วจิ้มหน้าผากจนหน้าหงายอยู่หลายครั้ง โทษฐานที่เกือบทำแผนแตก

 พราวนภานั่งมองข้อความที่นฤบดินทร์ส่งมาถามเมื่อชั่วโมงก่อนพร้อมกับความรู้สึกสับสนในใจ เธออยากตอบเขากลับไป แต่อีกใจก็บอกว่าควรตัดใจและหยุดทุกอย่างลงแค่นี้ เพราะหากดึงดันต่อไปก็มีแต่ความเจ็บปวดซ้ำแล้วซ้ำเล่า

หลังจากที่เธอร้องไห้จนน้ำตาแห้งไปเองจึงลุกขึ้นล้างหน้าแล้วลงไปบอกบิดาว่าตนอยากไปนอนที่บ้านของแม่จันทร์สักหนึ่งสัปดาห์โดยอ้างว่าคิดถึงรุ้งจันทรา น้องสาวคนเล็กวัยสี่ขวบ

จันทร์เจ้า หรือที่พราวนภาเรียกจนติดปากว่าแม่จันทร์นั้นเป็นน้าแท้ ๆ ของเธอเอง นั่นเพราะเพียงตะวัน มารดาของพราวนภาเสียชีวิตไปตั้งแต่เธอยังเป็นทารก จันทร์เจ้าจึงรับหน้าที่เป็นมารดาให้หลานสาวตัวน้อย และเฝ้าเลี้ยงดูฟูมฟักเลือดเนื้อเชื้อไขของผู้เป็นพี่สาวจนกระทั่งเด็กน้อยอายุได้ห้าขวบจึงได้เจอกับภาวิน บิดาที่แท้จริง

“เฮ้อ...” หญิงสาวถอนหายใจแผ่วพลางมองเด็กหญิงตัวน้อยที่กำลังจับตุ๊กตาผ้ารูปสัตว์ต่าง ๆ มานอนเรียงกันแล้วใช้ผ้าเช็ดหน้าผืนเล็กแทนผ้าห่มมาห่มให้กับบรรดาพรรคพวกตัวจิ๋วของตน จากนั้นก็ตบก้นตุ๊กตาพร้อมกับทำเสียงเอ่เอ๊เบา ๆ เลียนแบบมารดาเวลากล่อมให้นอน เธอเห็นแล้วอดยิ้มไม่ได้จึงยกมือขึ้นลูบศีรษะเล็กด้วยความเอ็นดู

“เพื่อน ๆ หลับกันหมดแล้ว แล้วหนูรุ้งไม่ง่วงหรือคะ” เธอถามเสียงอ่อน

“ไม่ง่วงค่ะ” รุ้งจันทราในวัยสี่ขวบเอ่ยตอบพี่สาวเสียงใส แต่พอพูดจบกลับยกมือขึ้นขยี้ตาทั้งสองข้างพร้อมกับอ้าปากหาวจนพราวนภาเห็นแล้วอดยิ้มไม่ได้

“ไหนบอกไม่ง่วงไง พี่พราวว่าหนูรุ้งรีบนอนดีกว่าไม่อย่างนั้นจะตามเพื่อน ๆ ในฝันไม่ทันนะคะ ป่านนี้เพื่อนรอกันแย่แล้ว” ได้ยินอย่างนั้น เด็กน้อยจึงเอนตัวลงนอนทันที พราวนภาจึงเอื้อมไปหยิบตุ๊กตาหมีตัวโปรดมาให้กอด

“อยากให้แม่ตีก้น” รุ้งจันทราพูดเสียงออดอ้อน เพราะก่อนนอนทุกครั้งไม่ว่าจะเป็นการนอนกลางวัน หรือนอนตอนกลางคืนจะต้องให้จันทร์เจ้า ผู้เป็นมารดาเป็นคนกล่อมด้วยการตบก้นเบา ๆ จึงจะยอมหลับ

“คุณแม่กำลังทำขนมอร่อย ๆ เตรียมไว้ให้หนูรุ้งกับพี่ซันหม่ำไงคะ ให้พี่พราวตีก้นให้ไหม”

เด็กหญิงส่ายหน้าพร้อมกับทำปากง้ำลงเล็กน้อยเป็นเชิงไม่ยินยอม ซึ่งพราวนภาก็เข้าใจดีเพราะน้องคนเล็กติดมารดามาก เห็นดังนั้นเธอจึงโทรศัพท์ลงไปบอกมารดาเพราะหากตนเดินลงไปบอกท่านข้างล่าง รุ้งจันทราจะต้องขอตามไปด้วยแน่นอน

“แม่จันทร์เจ้าขา หนูรุ้งอยากให้แม่ตีก้นค่ะ” หญิงสาวคุยอีกสองสามประโยคก็กดวางสายแล้วพูดกับเด็กน้อยว่า

“เดี๋ยวแม่มาแล้วค่ะ หนูรุ้งนอนรอเลยนะคะ” พูดจบ โทรศัพท์ของพราวนภาก็สั่นครืดคราดเพราะมีสายเข้า หญิงสาวหันไปมองที่หน้าจอ เมื่อเห็นชื่อผู้ที่โทร. เข้ามาก็ใจกระตุกเล็กน้อย ปากอิ่มเม้มแน่น ชั่งใจว่าจะรับสายดีหรือไม่ จนในที่สุดสายก็ตัดไปเอง

พี่ดิน...

พราวนภาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถือไว้ หน้าจอปรากฏชื่อของนฤบดินทร์ว่าเป็นมิสคอลที่ไม่ได้รับสายจนเธอเห็นแล้วอยากจะบันทึกภาพหน้าจอนี้ไว้เป็นที่ระลึกเหลือเกิน เพราะน้อยครั้งที่ชายหนุ่มจะเป็นฝ่ายโทรศัพท์มาหาเธอก่อน

ทว่ายังไม่ทันได้ทำอะไร เจ้าของชื่อก็โทร. เข้ามาอีกครั้ง ด้วยความตกใจพราวนภาจึงเผลอกดรับสายไปอย่างลืมตัว ครั้นพอกดรับไปแล้วหญิงสาวก็ได้แต่ก่นด่าตัวเองอยู่ในใจ แต่กระนั้นก็ยังพูดกับอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงปกติ

“ฮัลโหล”

“อยู่ไหน” คำถามห้วน ๆ ดังมาตามสายทันที ซึ่งหญิงสาวก็ชาชินเสียแล้วกับน้ำเสียงที่ไร้ความนุ่มนวลของเขา

“อยู่บ้านแม่จันทร์ พี่ดินมีอะไรรึเปล่า” เธอถามเขากลับ แต่ชายหนุ่มกลับเงียบไปนานจนเธอนึกว่าสายหลุด

“ฮัลโหลพี่ดิน ยังอยู่ไหม” หญิงสาวถามไปอีกครั้ง และคราวนี้เขาก็พูดตอบกลับมา

“อยู่บ้านโน้นเองหรือ ไปตั้งแต่เมื่อไร ใครไปส่ง”

“มาตั้งแต่ช่วงเที่ยงแล้ว ให้คุณพ่อมาส่ง” เธอตอบไปตามความจริง อดแปลกใจไม่ได้ว่าทำไมนฤบดินทร์จะต้องถามคำถามเหล่านั้น เพราะตามปกติหากเธอไม่ได้อยู่ที่บ้าน ความเป็นไปได้มีเพียงอย่างเดียวนั่นก็คือเธอมานอนค้างที่บ้านฝั่งมารดา ซึ่งเรื่องนี้เขาก็รู้ดีอยู่แล้ว

“ส่งข้อความไปหาตั้งหลายรอบ ทำไมไม่ตอบ”

พราวนภาฟังถึงตรงนี้ก็ขมวดคิ้วด้วยความไม่สบอารมณ์ เวลาที่เธอส่งข้อความไปหาเขา ทำอย่างกับเขาตอบกลับมาทุกครั้งอย่างไรอย่างนั้น เธอส่งไปสิบข้อความถ้าเขาตอบมาสักครั้งเธอแทบกระโดดด้วยความดีใจ ครั้นพอครั้งนี้เธอไม่ตอบบ้าง เขากลับมาทำเสียงหงุดหงิดใส่

“ก็พราวไม่ได้นั่งเฝ้าโทรศัพท์ทั้งวันนี่นา เล่นกับหนูรุ้งอยู่” หญิงสาวตอบพลางมองเด็กน้อยที่นอนตาหรี่ปรือใกล้หลับเต็มที เห็นดังนั้นเธอจึงลดเสียงให้เบาลง

“ตกลงพี่ดินมีอะไรรึเปล่าถึงโทร. หาพราว”

“ไม่มี งั้นแค่นี้นะ” พูดจบเขาก็วางสายทันที เขาไม่ฟังด้วยซ้ำว่าเธอจะพูดอะไรต่อ

คนบ้านี่! คุยต่ออีกสักประโยคสองประโยค ดอกพิกุลมันจะร่วงหรือยังไง

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • โอบฟ้ามาห่มดิน   บทที่ 24 ทวงของขวัญ - 70%

    “ทำไมทำหน้าอย่างนั้นล่ะ ไม่ดีใจหรือที่พี่มาหา” ชายหนุ่มเอาคำพูดที่เธอเคยพูดกับเขาตอนอยู่สนามบินเมื่อครั้งไปหาเขาที่บอสตันมาพูดบ้าง ทำเอาเธอเบิกตากว้างเมื่อได้ยินเสียงของเขาชัดเจน“พี่ดิน! ทำไมมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะ” พราวนภาทั้งตกใจและแทบไม่อยากเชื่อว่านี่คือเรื่องจริง ก่อนจะถูกความดีใจเข้ามาแทนที่จนอัดแน่นเต็มอก“ใช้ประตูสารพัดที่ของโดราเอมอนน่ะเลยมาโผล่ที่นี่ได้” เขาตอบหน้าตาย แต่เพื่อนทั้งสองคนของพราวนภาแอบหัวเราะกันคิกคัก หญิงสาวจึงตีแขนเขาเบา ๆ หนึ่งทีก่อนจะแนะนำเพื่อนสนิทของตนให้นฤบดินทร์รู้จัก“พี่ดิน นี่เก้ากับหลิงหลิง ที่พราวเคยเล่าให้ฟังบ่อย ๆ ไง”นฤบดินทร์ยิ้มและผงกศีรษะให้เล็กน้อยอย่างเป็นมิตร ก่อนจะถามแฟนสาวของตน “จะไปไหนกันหรือ”“พราวว่าจะไปเดินเล่นหาอะไรกินที่ห้างกับเพื่อนน่ะ”“เราไปกับหลิงหลิงสองคนก็ได้ พราวไปกับพี่เขาเถอะ” กาญจน์เกล้ารีบพูดขึ้นทันทีเพราะอยากให้ทั้งสองคนใช้เวลาอยู่ด้วยกันนาน ๆ อีกทั้งเพิ่งได้ยินพราวนภาบ่นไปหมาด ๆ ว่าคิดถึงแฟน

  • โอบฟ้ามาห่มดิน   บทที่ 24 ทวงของขวัญ - 35%

    หลังจากสองหนุ่มขึ้นมานั่งบนรถกันเรียบร้อยแล้ว ศิวัฒน์ซึ่งทำหน้าที่ขับก็ถามขึ้น “แล้วนี่นึกยังไงถึงจะไปอยู่โรงแรมก่อนวะ บ้านช่องมีก็ไม่กลับ”นฤบดินทร์ยิ้มบาง ๆ เมื่อใบหน้าของพราวนภาลอยเข้ามาในหัว แต่เขาไม่อาจบอกเรื่องนี้กับเพื่อนได้ จึงได้แต่บอกเหตุผลอื่นไป“อยากจัดการเรื่องงานอะไรให้เรียบร้อยก่อนน่ะแล้วค่อยเข้าบ้านทีเดียว พรุ่งนี้นัดที่บริษัทไว้แล้วด้วยไงว่าจะเอาเอกสารไปยื่นให้เขา” เพราะเขาอยากจะเซอร์ไพรส์บิดามารดาเรื่องงานด้วย ก็เลยยังไม่เข้าบ้านวันนี้“มึงนี่ก็โชคดีว่ะ ไม่ต้องวิ่งหางานให้เหนื่อย เออใช่ กูลืมเล่าไป มึงจำไอ้เวย์ได้ใช่ไหมที่มันค้ายาน่ะ” ศิวัฒน์มองหน้าเขาก่อนจะหันไปมองถนนตามเดิม“อืม ทำไม”“มันโดนขาใหญ่สั่งเก็บไปตั้งแต่สองเดือนที่แล้วน่ะ เห็นพี่โตบอกว่ามันคงทำตัวเอิกเกริกเกินไป อย่างคราวยายเกรซก็ทีหนึ่งแล้วที่มันทำให้เรื่องราวบานปลายจนคนวงในเขารู้กันไปทั่วว่ามันค้ายา”“อ้อ พวกขาใหญ่ก็เลยกลัวว่าจะโดนลากไปเอี่ยวด้วยก็เลยฆ่าตัดตอนงั้นสิ” คราว

  • โอบฟ้ามาห่มดิน   บทที่ 23 กลับมาตุภูมิ - 100%

    เช้าตรู่วันถัดมา นฤบดินทร์เปลี่ยนชุดเพื่อจะออกไปวิ่งตามปกติ และสิ่งที่ต้องทำก่อนไปวิ่งคือต้องวิดีโอคอลหาพราวนภาก่อน เพราะเขารู้ว่าหญิงสาวจะรอให้เขาโทร. ไปหาเวลานี้จนกลายเป็นกิจวัตรไปแล้ว“เมื่อไรจะฝึกงานเสร็จสักทีเนี่ยพี่ดิน เกินหนึ่งปีแล้วนะ ไหนบอกว่าฝึกปีเดียวไง” เธอทำหน้ามุ่ย เขาเห็นแล้วได้แต่ยิ้มเพราะชักอยากเห็นหน้าเธอตอนที่เจอเขาไปโผล่อยู่ที่บ้าน“มีงานติดพันน่ะ จะปล่อยให้คนอื่นทำก็คงไม่ได้เลยต้องทำให้เสร็จก่อน ก็น่าจะอีกสักสองสามเดือนโน่นแหละมั้ง ทำไมล่ะ พราวคิดถึงพี่จนทนไม่ไหวแล้วหรือ” เขาแกล้งเย้าเพราะคนที่แทบทนไม่ไหวความจริงแล้วควรเป็นเขามากกว่า อยากกอดเธอจนแทบบ้า อยากให้วันเดินทางเป็นวันพรุ่งนี้เลยด้วยซ้ำ“ใช่ พราวคิดถึงพี่” เธอปัดผมไปไว้ด้านหลัง คอเสื้อของเธอกว้างจึงทำให้เห็นลำคอระหงและลาดไหล่นวลเนียน ไม่รู้เขาคิดไปเองหรือเปล่า เขารู้สึกว่าพักหลังมานี้พราวนภาดูเซ็กซี่ขึ้น อาจเป็นเพราะวัยที่เพิ่มขึ้นจึงทำให้เสน่ห์ของความเป็นหญิงยิ่งเปล่งประกายกระมัง เห็นแล้วยิ่งอยากกลับไปหาเธอเร็ว ๆ“อดทนอีกนิด เดี๋ยวก็เ

  • โอบฟ้ามาห่มดิน   บทที่ 23 กลับมาตุภูมิ - 70%

    “ก็พีทเป็นผู้ชายพีทต้องเป็นพี่ ต้องถูกเรียกชื่อก่อนอยู่แล้ว” ภานุภัทร์ตอบด้วยความภาคภูมิใจ ภัทร์นรินท์ทำท่าจะเถียงต่อแต่พราวนภาขัดคอขึ้นเสียก่อน“หยุด! ไม่ต้องเถียงกันแล้ว ช่วยพี่เอาของเข้าไปไว้ในบ้านเลย” จากนั้นหญิงสาวก็หันไปหาคนให้แล้วพูดว่า “พราวเกรงใจมากเลยค่ะ พราวขอรับแค่ถุงเดียวได้ไหมคะพี่ริว มันเยอะเกินไปน่ะ”“รับไว้เถอะพราว พี่ตั้งใจซื้อมาให้จริง ๆ ถ้าพราวไม่รับพี่ก็ไม่รู้จะเอาไปให้ใครแล้วเพราะพี่ไม่ได้คิดจะซื้อฝากบ้านอื่นเลย พี่ซื้อมาฝากบ้านพราวแค่บ้านเดียวเลยเนี่ย” ขณะที่เขาพูดสีหน้าก็ดูขัดเขิน แต่คนฟังอย่างเธอกลับกลืนไม่เข้าคายไม่ออก โชคดีที่ตอนนั้นผู้เป็นย่าเดินออกมาหน้าบ้านพอดีเพราะเห็นเด็ก ๆ ออกันอยู่หน้าประตูรั้ว“มีอะไรกันรึ”“สวัสดีครับคุณย่า บ้านผมไปเที่ยวภูเก็ตมาน่ะครับก็เลยซื้อของมาฝาก” ริวยกมือไหว้พร้อมกับรีบยื่นถุงทั้งหมดไปให้สามพี่น้องที่ยืนเรียงกันอยู่“ตายแล้ว! ทั้งหมดนี่เลยหรือ เกรงใจแย่เลยคราวหลังไม่ต้องนะพ่อริว” ภคินีเห็นของฝากแล้วก็ได้แต

  • โอบฟ้ามาห่มดิน   บทที่ 23 กลับมาตุภูมิ - 35%

    วันเวลาผ่านไปวันแล้ววันเล่า จนกระทั่งในที่สุดภาคเรียนสุดท้ายของปีการศึกษาก็จบสิ้นลง วิชาการวิเคราะห์คู่แข่งทางการตลาดที่ด็อกเตอร์อัครัฐเป็นผู้สอนนั้น พราวนภาได้เกรดเอตามคาด แต่ข่าวที่หญิงสาวได้ยินมาด้วยคือเขาจะไม่สอนในปีการศึกษาถัดไป เท่ากับว่าเขามาเป็นอาจารย์พิเศษแค่เทอมเดียวเท่านั้นพราวนภาไม่มีโอกาสได้คุยกับอัครัฐอีกนอกจากถกกันในชั่วโมงเรียน แต่นอกเหนือเวลาเรียนเขาไม่เคยมาทักถามหรือพูดคุยด้วยเหมือนเมื่อก่อน หรือหากบังเอิญเจอกันเขาก็แค่พยักหน้าและยิ้มให้ เท่านั้นช่วงหัวค่ำ พราวนภารอวิดีโอคอลจากนฤบดินทร์เช่นเคย ซึ่งพอมีสายเข้ามาหญิงสาวก็รีบกดรับทันที“ปิดเทอมแล้วสิ” ประโยคแรกที่เขาทักทายขึ้นมาคงเดาได้จากสีหน้าของเธอกระมัง“ใช่แล้ว ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไปพราวก็ไม่ต้องตื่นเช้าอีกแล้วละ คืนนี้พราวจะดูซีรีส์ให้ฉ่ำ พรุ่งนี้จะนอนตื่นสักเที่ยง จะขอลั้นลาทำตามใจตัวเองสักอาทิตย์แล้วค่อยไปทำงานกับคุณพ่อที่บริษัท”“ไม่มาหาพี่ที่นี่อีกหรือ มาเหอะ สักอาทิตย์หนึ่งก็ยังดี พี่จองตั๋วให้ก็ได้นะ จะจองที่นั่งชั้นธุรกิ

  • โอบฟ้ามาห่มดิน   บทที่ 22 โศกนาฏกรรมที่คล้ายกัน - 100%

    “หนูเพิ่งมารู้ตอนเขาบอกนี่แหละค่ะว่าพ่อเขาโรคหัวใจกำเริบจนตายตามลูกสาวไปอีกคน และแม่ของเขาก็รับเรื่องนี้ไม่ได้เพราะต้องสูญเสียคนในครอบครัวติด ๆ กันก็เลยดูเหมือนจะเสียสติไปค่ะ”พราวนภานึกถึงตอนที่เห็นมารดาของอัครัฐนั่งเหม่ออยู่ข้างน้ำตกจำลองแล้วก็ได้ทอดถอนใจ จากนั้นก็หันไปกอดเอวจันทร์เจ้าเอาไว้พลางซบหน้าบนไหล่ของท่านอย่างออดอ้อน เพราะหากเปรียบเทียบกันแล้วสิ่งที่ครอบครัวนั้นเจอก็คล้ายกับครอบครัวทางฝั่งมารดาของเธอไม่น้อย ต่างกันก็ตรงที่ครอบครัวฝั่งนี้มีเธอเข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ ซึ่งแม่จันทร์เจ้ากับคุณยายบอกเสมอว่าเธอคือแรงผลักดันให้ทุกคนต้องก้าวเดินต่อ“คนเคยมีทุกอย่างแล้วมาพังไปต่อหน้าต่อตาก็เลยรับไม่ได้ อย่างว่าแหละ ก่อนหน้านี้เขาได้เป็นผู้บริหารอยู่บริษัทยักษ์ใหญ่ที่อังกฤษ ชีวิตกำลังรุ่งโรจน์ ทุกอย่างกำลังไปได้สวย” ภาวินส่ายหน้าพลางถอนหายใจเฮือกใหญ่“จริงสิ หนูลืมเล่าไปเลย เขาได้ดูคลิปตอนที่น้องสาวของเขากระโดดตึกฆ่าตัวตายด้วยนะคะ พี่ดินเคยเล่าให้หนูฟังว่าในเว็บใต้ดินมีโพสต์เอาไว้หลายคลิปหลายมุมเลยค่ะแต่ยังจับไม่ได้ว่าใครเป็นคนโพสต์&rd

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status