Home / โรแมนติก / โอบฟ้ามาห่มดิน / บทที่ 2 หลานนอกไส้ - 25%

Share

บทที่ 2 หลานนอกไส้ - 25%

last update Last Updated: 2025-05-23 13:05:26

พราวนภาหยิบผ้านวมมาห่มให้รุ้งจันทราอย่างเบามือเพราะเด็กน้อยค่อนข้างตื่นง่าย เป็นเวลาเดียวกับที่จันทร์เจ้า ผู้เป็นมารดาของรุ้งจันทราเปิดประตูเข้ามาในห้องพอดี หญิงสาวจึงพูดโดยไม่มีเสียงว่า

“หลับปุ๋ยแล้วค่ะ”

จันทร์เจ้ายิ้มพลางเดินเข้ามาดูบุตรสาวตัวน้อย ก่อนจะทรุดตัวนั่งบนเตียงข้างพราวนภาแล้วพูดว่า

“หนูรุ้งน่ะเหมือนหนูพราวตอนเด็ก ๆ เลยนะรู้ไหม ดูสิเนี่ย ชอบเอาตุ๊กตามานอนเรียงเป็นเพื่อนกัน แล้วยังไม่ชอบกินแคร์รอตเหมือนกันอีกด้วย”

“แต่ตอนนี้หนูกินแคร์รอตแล้วนะ และกินผักเก่งมากเลยด้วยคุณแม่ก็รู้นี่นา” พราวนภายิ้มกว้างอย่างประจบ ก่อนจะเอนตัวลงนอนหนุนตักผู้เป็นน้า แต่ตนเรียกอีกฝ่ายว่าแม่มาตั้งแต่จำความได้

จันทร์เจ้ายิ้มพร้อมกับลูบศีรษะอีกฝ่ายอย่างเอ็นดู สายตาที่มองพราวนภายังคงมีแต่ความรักไม่แปรเปลี่ยนแม้ว่าตนจะมีบุตรสาวและบุตรชายของตัวเองแล้วก็ตาม

“เป็นอะไรล่ะฮึ จู่ ๆ ก็มาอ้อนแม่” น้ำเสียงอ่อนโยนของจันทร์เจ้า ทำให้พราวนภายกแขนขึ้นโอบเอวอีกฝ่ายไว้

“ไม่ได้เป็นอะไรค่ะ หนูพราวแค่รู้สึกว่าอยากกลับไปเป็นเด็กอีกครั้งจัง ไม่อยากโตเป็นผู้ใหญ่เลย” หญิงสาวพูดไปตามที่คิด เพราะเป็นเด็กไม่มีเรื่องอะไรให้ต้องรับผิดชอบ ไม่ต้องเครียดกับปัญหาต่าง ๆ ไม่ต้องแข่งขันกับใคร อีกทั้งยังรักใครไม่เป็นอีกด้วย เมื่อรักไม่เป็นก็ไม่รู้จักความเจ็บปวดที่หน่วงหนึบอยู่ในใจ และไม่ต้องคาดหวังให้ใครมารักตอบ

“คิดได้ แต่เป็นไปไม่ได้ หนูก็รู้นี่นาว่าเวลาไม่เคยเดินย้อนกลับหลัง มีแต่เดินไปข้างหน้า เรากลับไปอดีตไม่ได้แต่เราเตรียมตัวรับมือกับอนาคตได้ แต่อะไรก็ไม่สำคัญเท่ากับการที่เราได้ใช้ชีวิตในปัจจุบันให้มีความสุขที่สุดนะลูก”

“หนูรู้ค่ะ แต่ตอนนี้ถ้ามีพรวิเศษสักข้อมาให้เลือก หนูก็จะขอกลับไปเด็กอีกครั้ง” และถ้าได้กลับเป็นเด็กจริง ๆ สิ่งที่เธอจะทำเป็นอย่างแรกก็คือไม่ไปวอแววุ่นวายกับผู้ชายเย็นชาอย่างนฤบดินทร์เด็ดขาด เธอจะไม่ออดอ้อนให้เขาเล่นด้วย จะไม่ขอร้องให้เขาอุ้ม จะไม่ขอให้เขาช่วยติวคณิตศาสตร์ จะไม่ไปหาเขาที่บ้านบ่อย ๆ จะไม่ไปแอบนั่งมองตอนเขาหลับ

เธอจะไม่รักเขา

เธอจะมองเขาเป็นเพื่อนบ้าน จะนับถือเขาเป็นญาติคนหนึ่ง และจะเรียกเขาว่าน้าอย่างที่ชายหนุ่มต้องการ

ทว่าทุกอย่างมันย้อนกลับไปไม่ได้แล้ว

“หนูพราว หนูมีอะไรอยากระบายให้แม่ฟังไหม” น้ำเสียงอ่อนโยนของจันทร์เจ้ากับการลูบศีรษะอย่างแผ่วเบานั้นทำให้พราวนภารู้สึกอุ่นวาบขึ้นในใจ ขณะที่กระบอกตาก็ร้อนผ่าวขึ้นมาด้วยเช่นกัน

หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าลึกเพื่อตั้งหลัก และสะกดกลั้นอาการสะอื้นของตนเพราะรู้ดีว่าหากเอ่ยปากพูดไปตอนนี้ เสียงจะต้องสั่นเป็นแน่

พราวนภาเงียบไปนาน จันทร์เจ้าก็รออย่างใจเย็นไม่คิดซักไซ้ไล่เลียงให้พูดเดี๋ยวนั้น ยังคงลูบศีรษะและสางผมให้อย่างเบามือเช่นทุกครั้งที่อีกฝ่ายมานอนหนุนตัก

“พี่ดินจะไปเรียนต่อเมืองนอกค่ะ” จู่ ๆ พราวนภาก็พูดขึ้น

“อืม แม่ก็ได้ข่าวมาบ้างเหมือนกัน” จันทร์เจ้ารู้เรื่องนี้มาจากชินดนัย สามีซึ่งเป็นเพื่อนสนิทกับภาวิน บิดาของพราวนภา และตนก็รู้ด้วยว่าหลานสาวที่เธอรักเหมือนลูกในไส้คนนี้คิดอย่างไรกับนฤบดินทร์

“คุณแม่รู้ไหมว่าพี่ดินเตรียมการเรื่องนี้มาเป็นปี ๆ แล้ว แต่หนูเพิ่งมารู้เรื่องเดือนที่แล้วนี่เอง ถ้าหนูไม่ไปได้ยินคุณพ่อคุยกับแม่มะลิโดยบังเอิญ หนูก็คงไม่รู้เรื่องนี้เลยเพราะเขาไม่เคยคิดจะบอกหนู”

ยิ่งพูดเสียงของพราวนภาก็ยิ่งสั่น ขณะที่คนฟังอย่างจันทร์เจ้าลอบถอนหายใจแผ่วด้วยความสงสารหลาน แต่ในฐานะที่อาบน้ำร้อนมาก่อน เธอจึงพอเข้าใจเจตนารมณ์ของนฤบดินทร์เป็นอย่างดีว่าเหตุใดถึงต้องไปเรียนต่อไกลถึงสหรัฐอเมริกา และเหตุใดถึงปิดปากเงียบมาเป็นปีไม่ยอมบอกให้พราวนภารู้เลยแม้แต่น้อย

“แม่เชื่อว่าพี่เขาก็มีเหตุผลของเขา หนูก็น่าจะรู้จักเขาดีไม่ใช่หรือว่าเขาเป็นคนยังไง”

“แต่หนูคิดว่าเขาไม่เคยเห็นหนูอยู่ในสายตาเลยมากกว่า” น้ำเสียงแผ่วพร่าของพราวนภาราวกับใกล้ร้องไห้เต็มทีนั้น ทำให้จันทร์เจ้าต้องพูดเพื่อเตือนสติอีกฝ่าย

“หนูพราว ฟังแม่นะ ทุกคนย่อมมีเหตุผลในการกระทำเรื่องต่าง ๆ ดินก็เหมือนกัน แม่เชื่อว่าเขาก็มีเหตุผลของเขาที่ไม่บอกหนู เพราะถ้าบอกไปแล้วหนูอาจจะร้องไห้ขอร้องไม่ให้เขาไป หนูอาจจะโกรธจนไม่ยอมพูดกับเขาก็ได้ เขาถึงไม่บอก แม่พูดถูกไหม เพราะแม่เชื่อว่าถ้าหนูรู้ตั้งแต่แรก หนูจะต้องไปขอร้องให้เขายกเลิกการไปเรียนต่อทุกวันแน่”

พราวนภาฟังที่จันทร์เจ้าพูดก็คิดตามก่อนจะพยักหน้ารับเล็กน้อย เพราะทุกวันนี้เธอทั้งอ้อนวอนและขอร้องไม่ให้นฤบดินทร์ไปเรียนต่อทุกครั้งที่เจอหน้าเลยก็ว่าได้

“ก็หนูไม่อยากให้ไปนี่ เรียนเมืองไทยไม่ได้หรือไง ทำไมต้องไปไกลขนาดนั้น และไปตั้งหลายปีแน่ะ” หญิงสาวพูดจบก็สูดน้ำมูกเบา ๆ

“เขาก็คงอยากไปหาประสบการณ์ต่างบ้านต่างเมืองบ้าง อีกอย่างแม่เห็นด้วยนะที่พี่ดินเขาไปเรียนต่อเมืองนอกเพราะสาขาที่เขาจบมากำลังเป็นที่ต้องการของตลาด เพราะฉะนั้นการที่เขาไปศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมก็ถือเป็นเรื่องที่ดี”

พราวนภานอนฟังเงียบ ๆ ไม่โต้แย้งอะไร นฤบดินทร์จบวิศวกรรมซอฟต์แวร์ และด้วยมันสมองของเขาจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ชายหนุ่มจะจบมาโดยมีเกียรตินิยมอันดับหนึ่งพ่วงท้ายมาด้วย เขาคงคิดว่ามหาวิทยาลัยในเมืองไทยไม่มีอะไรให้น่าค้นหาอีกแล้วกระมัง จึงคิดไปเรียนต่อต่างประเทศ

“และอีกเรื่องที่แม่อยากจะพูดก็คือแม่คิดว่าดินไปเรียนต่อตอนนี้ก็ดีเหมือนกันเพราะหนูกับเขาจะได้แยกย้ายกันไป ต่างคนต่างใช้ชีวิตของตัวเองให้เต็มที่” ทันทีที่จันทร์เจ้าพูดจบ พราวนภาก็เบิกตาโพลงพร้อมกับเงยหน้ามองอีกฝ่าย

“คุณแม่หมายความว่ายังไงคะ”

“แม่เลี้ยงหนูมาตั้งแต่เกิด แม่จะไม่รู้เชียวหรือว่าหนูคิดยังไงกับพี่ดิน” จันทร์เจ้าวางมือบนศีรษะของหญิงสาวแล้วพูดอีกว่า

“แต่ตอนนี้หนูอายุยังน้อย พี่ดินเขาก็เพิ่งยี่สิบสอง แม่คิดว่าเวลานี้แต่ละคนควรจะไปใช้ชีวิตของตัวเองให้เต็มที่ก่อนดีกว่า เพราะในอนาคตทั้งหนูและพี่ดินจะต้องพบเจอคนอีกมาก ถึงตอนนี้หนูจะชอบพี่เขา แต่ถ้าเวลาผ่านไปหนูเข้าเรียนมหา’ลัย เรียนจบก็ได้ทำงาน ได้พบคนอื่นอีกมากหน้าหลายตา หนูอาจจะคิดได้ว่าความรู้สึกของหนูตอนนี้เป็นเหมือนการแอบชอบรุ่นพี่สักคนแล้วมานั่งขำกับตัวเองก็ได้”

สิ่งที่จันทร์เจ้าไม่พูดออกไปนั่นก็คือนฤบดินทร์นั้นเป็นชายหนุ่มเต็มตัว ขณะที่พราวนภาก็เริ่มเป็นสาว การใกล้ชิดสนิทสนมที่มากเกินไปอาจทำให้ความรู้สึกที่มีต่อกันไขว้เขวจนคิดว่าเป็นความรัก ซึ่งหากไม่ระวังตั้งแต่ตอนนี้อาจเกิดเรื่องไม่ดีไม่งามขึ้นได้ ดังนั้นชายหนุ่มจึงตัดไฟตั้งแต่ต้นลมด้วยการเป็นฝ่ายเดินห่างออกไปเพื่อรักษาความสัมพันธ์ในแบบญาติสนิทเอาไว้ และเจือจางความรู้สึกที่มีต่อกันในเชิงชู้สาว

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • โอบฟ้ามาห่มดิน   บทส่งท้าย รักคนอื่นไม่เป็น - 100%

    “เยี่ยมเลยเมียจ๋า” วิเศษยิ่งกว่าครั้งไหน ๆ เลยก็ว่าได้ เพราะ ณ เวลานี้นอกจากเขาจะได้นอนมองภูเขาไฟฟูจิแล้ว ตรงหน้าเขาก็ยังมีสาวเปลือยหุ่นเซ็กซี่มาส่ายบั้นท้ายสวย ๆ สร้างความสุขให้เขาอีกด้วย แม้จะเห็นแค่แผ่นหลังของเธอ แต่แสงแดดอ่อน ๆ ที่ส่องมากระทบร่างของหญิงสาวจนทำให้ดูเหมือนร่างทั้งร่างของเธอเปล่งประกายขึ้น ก็ยิ่งทำให้ภาพเบื้องหน้าเขาตอนนี้สวยงามราวกับศิลปะชิ้นเอกสองปีกว่าที่อยู่ในฐานะคู่หมั้น แต่เขากับเธอใช้ชีวิตร่วมกันในคอนโดฯ ไม่ต่างจากสามีภรรยาคู่หนึ่ง จะต่างก็แค่พราวนภาไม่ได้นอนค้างกับเขาเพราะต้องกลับไปนอนที่บ้าน เขาเองก็เช่นกันที่ต้องกลับไปนอนบ้านของตัวเอง นอกเหนือจากนั้นเราสองคนต่างดูแลกันและกันเป็นอย่างดีเขาคอยเป็นที่ปรึกษาให้พราวนภาทั้งเรื่องการเรียน การทำงาน รวมไปถึงเรื่องอื่น ๆ ทั่วไป ให้เงินเธอใช้ และดูแลให้เธอสุขสบายเท่าที่ผู้ชายคนหนึ่งจะทำได้ ส่วนพราวนภาก็คอยมาดูแลทำความสะอาดห้องในคอนโดฯ ให้เขา ทำกับข้าวให้กิน และดูแลเขาในเรื่องอื่น ๆ ไม่ต่างจากภรรยาคนหนึ่งดังนั้นเขาจึงเห็นว่าถ้าพราวนภาเรียนจบเมื่อไรจึงอยากจัดงานแต่งงานทันที เพราะอยา

  • โอบฟ้ามาห่มดิน   บทส่งท้าย รักคนอื่นไม่เป็น - 70%

    พราวนภาค่อย ๆ ลุกขึ้นนั่งอย่างงัวเงียจากนั้นก็เดินไปเข้าห้องน้ำราวกับยังไม่ตื่นดี เธอเข้าไปสักพักก็ออกมาด้วยสีหน้าแจ่มใส ตามไรผมมีหยดน้ำเกาะอยู่ประปรายบ่งบอกว่าเจ้าตัวล้างหน้าเพื่อความสดชื่น“พี่ดินทำเสร็จแล้วหรือ” หญิงสาวมองไปยังคอมพิวเตอร์ที่วางเรียงรายกันหกเครื่องแล้วก็ห่อปากทำตาโต“โห อย่างกับฐานปฏิบัติการในซีรีส์ฝรั่งเลย แต่พี่ต้องรอให้เขามาติดอินเทอร์เน็ตให้ก่อนใช่ไหม”“ใช่ แต่ทำเรื่องขอไปแล้วละ รอเขาติดต่อกลับมา พราวหิวรึยัง แล้วทำไมดูเหมือนเดินขาสั่น ๆ ล่ะ”เขาแกล้งถามทั้งที่รู้ดีแก่ใจ วันนี้เขาให้หญิงสาวขึ้นคุมเกมทั้งควบทั้งขย่มได้ตามต้องการ เธอเร่าร้อนได้อย่างไม่น่าเชื่อ และเขาก็ชอบมากที่หญิงสาวปลดปล่อยอารมณ์ปรารถนาออกมาอย่างเต็มที่ คู่หมั้นของเขาแซ่บลืมโลกขนาดนี้แล้วทำไมเขาต้องรับไมตรีจากผู้หญิงคนอื่นมาทำให้ชีวิตคู่ของเขาต้องวุ่นวายอีกเล่า“ยังจะถามอีกนะ” เธอหันมาค้อนให้วงใหญ่ก่อนจะพูดอีกว่า“พราวไม่คิดมาก่อนเลยนะว่าคนนิ่ง ๆ แบบพี่ดินจะหื่นจัดได้ขนาดนี้”นฤบดินทร์ห

  • โอบฟ้ามาห่มดิน   บทส่งท้าย รักคนอื่นไม่เป็น - 35%

    “พี่ดิน เดี๋ยวพี่ รอผมก่อน” เสียงห้าวของเด็กหนุ่มคนหนึ่งในหมู่บ้านตะโกนเรียกมาแต่ไกล ทำให้นฤบดินทร์ต้องหยุดรออย่างเสียไม่ได้ เมื่อเด็กหนุ่มคนนั้นวิ่งมาถึงก็ยื่นช่อดอกกุหลาบช่อเล็กที่มักทำขายกันในวันวาเลนไทน์มาให้เขาแล้วพูดว่า“ผมฝากให้พราวหน่อยสิพี่ วันนี้ขี่จักรยานผ่านหลายรอบแล้วแต่ก็ไม่เห็นพราวออกจากบ้านเลย นะพี่นะ”นฤบดินทร์ยืนเท้าเอวมองหน้าอีกฝ่ายอย่างเอาเรื่องทันที “นี่ไอ้อั๋น มึงเอากลับไปเลยนะ หรือจะเอาไปให้สาวที่ไหนก็ได้ที่ไม่ใช่พราว น้องมันเพิ่งอยู่ม.สองมึงจะมาให้ดอกไม้บ้าบออะไรเนี่ย เดี๋ยวกูเตะให้เลย”“โธ่พี่ผมไหว้ล่ะ ผมชอบพราวจริง ๆ นะแต่ผมไม่กล้าเอาไปให้ที่บ้าน ผมกลัวพ่อเขาน่ะ” อั๋นยิ้มแหยเมื่อพูดถึงบิดาของพราวนภานฤบดินทร์ทำทีเป็นหักนิ้วดังเป๊าะ ๆ พลางพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเรื่อยว่า “แล้วมึงไม่กลัวกูรึไง กูก็มีศักดิ์เป็นน้าของพราวนะเว้ยมึงอย่าลืม หลานกูยังเด็ก โอเค้ มึงไปไกล ๆ ตีนกูเลยก่อนที่กูจะของขึ้น”“โธ่พี่ จะหวงไว้กินเองรึไงเนี่ย เหวอ!”

  • โอบฟ้ามาห่มดิน   บทที่ 27 หนุ่มออฟฟิศ - 100%

    “ไม่จริงมั้งพี่ต่าย วันก่อนผมเห็นนะว่าพี่ควงสาวไปกินซูชิน่ะ สาวคนนั้นก็หน้าคุ้น ๆ ซะด้วยสิเหมือนว่าจะทำงานที่นี่เหมือนกันด้วยนี่นา” เขาพูดไปแค่นั้น ในแผนกก็ฮือฮาขึ้นทันที ต่างพากันรุมถามกันยกใหญ่ว่าหญิงสาวที่ต่ายพาไปออกเดตนั้นคือใคร แต่นฤบดินทร์ไม่ตอบเพราะต้องการให้เจ้าตัวพูดเอง“แหมไอ้นี่ พี่อุตส่าห์แกล้งทำเป็นไม่เห็นแกกับสาวนักศึกษาคนนั้นแล้วนะ แต่แกเสือกเห็นพี่ด้วยหรือวะ” ต่ายพูดไปยิ้มไป ใบหน้าขึ้นสีระเรื่อเล็กน้อย“เห็นสิพี่ ผมยังชี้ให้แฟนผมดูเลยว่านั่นน่ะรุ่นที่พี่แผนก ส่วนสาวคนนั้นก็...พวกพี่ไปสอบถามกันเองละกันนะ ผมพับไมค์ละ” เขาเว้นเอาไว้เพราะจะให้ทุกคนไปถามกับเจ้าตัวเลยดีกว่าหลังจากเลิกงาน นฤบดินทร์รีบไปที่คอนโดมิเนียมที่ตนซื้อเอาไว้เพราะช่างโทรศัพท์มาแจ้งว่าเดินสายไฟเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว และอยากให้เขาเข้าไปตรวจเช็กความเรียบร้อยอีกครั้งหนึ่งเมื่อตรวจดูและทดสอบทุกจุดแล้วไม่มีปัญหา อีกทั้งช่างก็เก็บงาน และทำรางเก็บสายไฟเอาไว้ให้ด้วยทำให้นฤบดินทร์พอใจมาก จึงโอนเงินค่าจ้างส่วนที่เหลือให้ช่างทันที ครา

  • โอบฟ้ามาห่มดิน   บทที่ 27 หนุ่มออฟฟิศ - 70%

    “เพิ่งซื้อเมื่อไม่กี่วันนี่เอง เป็นคอนโดฯ สร้างเสร็จพร้อมอยู่น่ะ ความจริงแล้วพี่ซื้อดาวน์ต่อมาจากคนอื่นเพราะเขาผ่อนต่อไม่ไหว จะเอาไว้แอบกินอีหนูคนนี้นี่แหละเพราะมีอยู่คนเดียวเนี่ย” เขายื่นหน้าไปจูบริมฝีปากอิ่ม“พรุ่งนี้พี่ต้องไปทำงานแล้วนะ พราวคงต้องติดรถพ่อไปเรียนเหมือนเดิมแล้วละ”“อืม แต่คุณตากับคุณยายยังไม่รู้เลยใช่ไหมว่าพี่ได้งานทำแล้ว” พราวนภายังคงติดเรียกบิดามารดาของเขาว่าคุณตาคุณยายอยู่ แต่เขาก็ไม่อยากเคี่ยวเข็ญว่าต้องเปลี่ยน เอาที่เธอสบายใจดีกว่า“ใช่ อยากเห็นจริง ๆ ว่าพรุ่งนี้จะทำหน้ากันยังไง คงเหวอน่าดู” เขาหัวเราะคิกคัก คนอื่นอาจจะชอบแกล้งเพื่อนแกล้งแฟน แต่เขาชอบแกล้งบิดามารดาของตัวเอง“คอนโดฯ ที่พี่ดินซื้ออยู่แถวที่ทำงานหรือ” หญิงสาวเปลี่ยนอิริยาบถเป็นนอนคว่ำแล้วยกตัวช่วงบนขึ้น ส่งผลให้ทรวงอกกลมกลึงชูช่ออะร้าอร่ามอวดสายตาจนชายหนุ่มได้แต่มองตาปรอย“ใช่ เพราะบ้านพี่มันไม่มีพื้นที่สำหรับทำห้องทำงานน่ะ บ้านพี่หลังเล็กไม่ใหญ่เหมือนบ้านพราวก็เลยต้องออกมาซื้อข้างนอกไว้ทำออฟฟิศส่

  • โอบฟ้ามาห่มดิน   บทที่ 27 หนุ่มออฟฟิศ - 35%

    บิดามารดาของนฤบดินทร์มองดูบุตรชายที่กำลังนอนเอกเขนกดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟาในห้องรับแขกอย่างไม่ทุกข์ร้อน ตั้งแต่กลับมาจากเมืองนอกจนกระทั่งหมั้นกับสาวข้างบ้านไปแล้วเรียบร้อย เจ้าตัวก็ยังไม่มีทีท่าจะออกไปหางานทำอย่างที่ควรจะเป็น จนในที่สุดผู้เป็นบิดาก็ทนไม่ไหวจนต้องเอ่ยปากถามออกไปในที่สุด“ไอ้ดิน นี่แกไม่คิดจะออกไปหางานหาการทำรึไงเนี่ย แกจะเอ้อระเหยเกินไปแล้วนะ”“ไว้ก่อนครับ ขี้เกียจ” เจ้าตัวตอบมาสั้น ๆ พลางหยิบขนมในจานมากินทั้งที่ยังนอนอยู่“ตาดิน แกจะทำตัวอย่างนี้ไม่ได้นะลูก เรามีคู่หมั้นคู่หมายแล้วนะ นี่ถ้าบ้านโน้นเขาเห็นแกยังนอนไม่รู้ร้อนรู้หนาวไม่ยอมออกไปหางานทำเขาจะคิดยังไง” ผู้เป็นมารดาเอ่ยปากเตือนขึ้นมาบ้าง เพราะกิจวัตรประจำวันของบุตรชายตอนนี้นอกจากไปรับส่งคู่หมั้นสาวที่มหาวิทยาลัยทุกวันแล้วก็ไม่ได้ทำอะไรอีกนอกจากนอนดูโทรทัศน์“เอาน่า ถ้าผมอยากไปหางานทำเมื่อไรเดี๋ยวก็ไปเองนั่นแหละ พ่อกับแม่ไม่ต้องห่วงหรอก” ชายหนุ่มพูดยิ้ม ๆ ยิ่งได้ยินบิดามารดาบ่นกันตามประสาคนแก่ เขาก็แทบกลั้นขำไม่ไหว นั่นเ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status