Home / รักโบราณ / กรุ่นรักผลิบาน / ตอนที่ 2 ถอนหมั้น

Share

ตอนที่ 2 ถอนหมั้น

Author: Shine-Month
last update Last Updated: 2025-02-06 09:28:46

ขณะที่ทั้งคู่กำลังพูดคุยกันอยู่นั้น ก็มีเสียงของคนคนหนึ่งดังขึ้นมา

"พ่อจะทูลขอกับฝ่าบาทเรื่องถอนหมั้นให้เจ้าเอง"

"ท่านพี่//ท่านพ่อ"

ทั้งสองคนหันหน้าไปตามเสียงทุ้มที่เอ่ย ปรากฏว่าเป็นประมุขของจวนสกุลเฟิ่ง 'เสนาบดีเฟิ่งจินหยวน'

ความจริงเฟิ่งจินหยวนกลับมาถึงจวนได้สักพักแล้ว เนื่องจากได้ยินข่าวลือของบุตรสาวที่เกิดขึ้นในวันนี้ จึงรีบกลับมาที่จวนทันที

เมื่อมาถึงจวนก็ได้ยืนมองดูสองแม่ลูกที่เป็นแก้วตาดวงใจของตนเองกอดกันร้องไห้ คนเป็นพ่อเห็นบุตรสาวของตนเองร้องไห้ปานจะขาดใจ เพราะเรื่องที่คู่หมั้นของตนเองไปกับหญิงอื่น เมื่อเฟิ่งอวี่เหิงรู้จึงตามไปอาละวาดถึงขั้นลงไม้ลงมือ จนองค์ชายสามได้ประกาศว่าจะแต่งอี้

หลิงฟางเข้าวัง ทำให้เป็นข่าวลือทั่วทั้งเมืองหลวง

"ลูกพ่อ"

"ท่านพ่อ... ฮือออ" เฟิ่งอวี่เหิงเห็นเช่นนั้นก็วิ่งเข้าไปสวมกอดบิดาทันที ทางเสนาบดีเฟิ่งก็อ้าแขนรับอ้อมกอดของลูกสาวที่ตนรัก พร้อมลูบหัวเพื่อปลอบโยน

"เจ้าไม่ต้องคิดสิ่งใดให้ปวดหัว เรื่องถอนหมั้นพ่อจะไปทูลขอกับฝ่าบาทเอง"

"ฝ่าบาทจะทรงยอมให้ถอนหมั้นหรือเจ้าคะ"

เสนาบดีเฟิ่งไม่พูดเปล่า นำนิ้วเกลี่ยน้ำตาที่ไหลอาบแก้มนวลใสของบุตรสาวตนเองอย่างเบามือ ในใจนึกโกรธแค้นฟู่อวิ้นหลงคนนั้นที่ทำให้บุตรสาวตนเองเสียน้ำตาขนาดนี้

ตนเลี้ยงนางมาด้วยความรักและอย่างทะนุถนอมไม่เคยให้บุตรสาวมีเรื่องเสียใจ องค์ชายสามนั้นกล้าดียังไงมาทำให้นางเสียน้ำตาเช่นนี้ ยิ่งคิดยิ่งแค้น นึกแล้วโกรธตัวเองไม่น่ายอมให้นางไปหมั้นกับผู้ชายใจโลเลแบบนั้นเลย

หากไม่ใช่เพราะบุตรสาวมาขอร้องว่าชอบพอกับฟู่อวิ้นหลง มีรึที่ตนจะยินยอมให้หมั้นหมาย เพราะตนนั้นไม่ได้คิดอยากให้บุตรสาวที่รักปานดวงใจเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับราชวงศ์เลยแม้แต่น้อย เพราะรู้ดีว่าวังหลังนั้น สตรีแก่งแย่งกันเพียงใด เพื่อให้ได้เป็นที่โปรดปราน

ฮึ!! ดีเหมือนกันที่เกิดเรื่องแบบนี้ ทำให้บุตรสาวของตนคิดได้

"เจ้าไม่ต้องกังวลไม่ว่าฝ่าบาทจะกล่าวเช่นไร พ่อจะเป็นคนรับไว้เอง"

เฟิ่งอวี่เหิงได้ยินเช่นนั้นก็กอดพ่อของตนเองอีกรอบพร้อมทั้งคุกเข่าขอโทษต่อหน้าบิดามารดา ทำเอาทั้งสองคนตกใจกับการกระทำของบุตรสาว

"ข้าขอบคุณท่านพ่อกับท่านแม่มากเจ้าค่ะ ลูกอกตัญญูยิ่งนักทำให้ท่านพ่อกับท่านแม่เป็นทุกข์ ได้โปรดอภัยให้ลูกที่ไม่เอาไหนคนนี้ด้วยนะเจ้าคะ"

"โธ่... อาเหิงลูกแม่ลุกขึ้นเถิด พ่อกับแม่ไม่ได้โกรธเจ้าเลยแม้แต่น้อย เรื่องนี้พ่อกับแม่เองก็มีความผิดที่ปล่อยให้เจ้าได้เจอเรื่องเจ็บปวด เจ้าอย่าโทษตัวเองเลยนะ" เฟิ่งฮูหยินเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงปลอบโยน

"ท่านพ่อ ท่านแม่"

ภาพของสามคนพ่อแม่ลูกที่กอดกันอย่างรักใคร่ บ่าวในจวนถึงกับพากันเช็ดน้ำตา เรื่องข่าวลือเหล่านั้นจริงเท็จเพียงใดพวกเขารู้ดี คุณหนูของพวกเขาไม่ได้มีนิสัยร้ายกาจแบบที่ผู้คนเขาลือกัน

ยิ่งมาเห็นภาพแบบนี้ยิ่งทำให้พวกบ่าวรู้สึกสงสารคุณหนูจับใจ แต่อีกใจก็รู้สึกยินดี ในไม่ช้าคุณหนูกำลังจะได้ถอนหมั้นกับชายที่ไม่เห็นคุณค่าความรักที่มอบให้สักที

เช้าวันใหม่

เสนาบดีเฟิ่งรีบเดินทางออกจากจวนตั้งแต่เช้าตรู่เพื่อเข้าวังและขอเข้าเฝ้าฮ่องเต้เป็นการส่วนตัว เพราะวันนี้เขาจะทูลขอราชโองการถอนหมั้นบุตรสาวของตนกับองค์ชายสามด้วยตนเอง!

ถึงการหมั้นของบุตรสาวเขาจะไม่ใช่สมรสพระราชทาน แต่เพราะเป็นการหมั้นกับเชื้อพระวงศ์ ยังไงเสียเขาก็ต้องเข้ามากราบทูลขอพระราชโองการการถอนหมั้นกับฮ่องเต้

วังหลวง

"ถวายบังคมฝ่าบาท"

"ไม่ต้องมากพิธี ใต้เท้าเฟิ่งมาหาข้าแต่เช้าขนาดนี้ คงเป็นเรื่องคุณหนูเฟิ่งบุตรสาวของท่านใช่หรือไม่"

น้ำเสียงกังวานเอ่ยถามฟังดูน่าเกรงขามแก่ผู้ที่ได้ยิน เบื้องหน้าเฟิ่งจินหยวนมีบุรุษนั่งทรงงานอยู่ด้วยท่าทางที่สง่าสมกับเป็นโอรสสวรรค์

"พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมบังอาจทูลขอให้ออกราชโองการถอนหมั้นของบุตรสาวของกระหม่อมกับองค์ชายสามฟู่อวิ้นหลงพ่ะย่ะค่ะ"

คนที่กำลังอ่านฎีกาอยู่ถึงกับถอนหายใจออกมา คิดไว้อยู่แล้วว่าต้องมีวันนี้ เสนาบดีเฟิ่งรักลูกสาวตนเองยิ่งกว่าอะไรดี ทั้งหมดเป็นเพราะบุตรชายที่โง่เง่าของตนไปคว้าก้อนกรวดแต่กลับทิ้งเพชรในมือไป

แทนที่จะเอาใจคนที่สามารถเพิ่มอำนาจให้แก่ตัวเองในภายภาคหน้า แต่กลับเลือกคนที่ไม่สามารถช่วยอะไรได้เสียอย่างนั้น ช่างสมองหมูยิ่งกว่าผู้ใด

"ได้ ข้าจะออกราชโองการถอนหมั้นให้เองและเพื่อเป็นการขอโทษจากข้า แทนลูกชายที่ไม่เอาไหนข้าจะออกราชโองการให้เลือกคู่ครองได้ด้วยตนเองไปด้วยดีหรือไม่"

เสนาบดีเฟิ่งได้ยินแบบนั้นถึงกับคุกเข่าลงด้วยความดีใจ องค์ฮ่องเต้ทรงออกราชโองการให้บุตรสาวสามารถเลือกคู่ครองได้ด้วยตนเองได้ ก็แปลว่าไม่มีใครจะมาบังคับให้บุตรสาวตนออกเรือนด้วยได้หากบุตรสาวของตนเองไม่ยินยอม แม้แต่องค์ฮ่องเต้ก็ไม่สามารถออกราชโองการสมรสพระราชทานให้ได้ ดี ดี เหลือเกิน

"ขอบพระทัยฝ่าบาทที่เมตตาบุตรสาวของกระหม่อมพ่ะย่ะค่ะ"

"เอาเถิดๆ ลุกขึ้นได้แล้วจะคุกเข่าไปทำไมกัน ไม่ใช่ความผิดของบุตรสาวเจ้า แต่เป็นความโง่เขลาของบุตรชายข้าเอง พรุ่งนี้ข้าจะให้ฉินกงกงไปว่าราชโองการถอนหมั้นที่จวนให้ก็แล้วกัน"

"ขอบพระทัยฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ"

"เอาล่ะ ท่านไปได้แล้วข้าจะอ่านฎีกาต่อ"

"กระหม่อมขอกราบทูลลาพ่ะย่ะค่ะ"

หลังจากที่เสนาบดีเฟิ่งเดินออกไปจากห้องทรงอักษร องค์ฮ่องเต้ฟู่เหวยหมิงก็หันไปพูดคุยกับขันทีคนสนิทของตนเอง

"ฉินกงกง เจ้ามีความคิดเห็นอย่างไร"

ฮ่องเต้ถามคนสนิทของตนเองด้วยน้ำเสียงเหนื่อยใจ

"ฝ่าบาททรงตัดสินพระทัยได้พระปรีชาแล้วพ่ะย่ะค่ะ ออกราชโองการให้คุณหนูเฟิ่งเลือกคู่ได้ด้วยตนเองเพื่อกันไม่ให้เกิดการแก่งแย่งจากเหล่าองค์ชาย ฝ่าบาทตัดสินพระทัยถูกแล้วพ่ะย่ะค่ะ"

"ใช่ ที่ข้าต้องออกราชโองการนั้นส่วนหนึ่งก็เพราะสงสาร อีกส่วนเพื่อกันความวุ่นวาย เฮ้อ... ข้าอยากพักแล้ว วันนี้ข้าไม่อยากพบใคร หากไม่ใช่เรื่องตายไม่ต้องให้ผู้ใดเข้ามาพบข้า"

องค์ฮ่องเต้รู้สึกเหนื่อยล้าเมื่อคิดถึงความวุ่นวายที่กำลังจะเกิด แค่คิดว่าหากฮองเฮาและบรรดาพระชายาของตนได้ยินราชโองการถอนหมั้นของฟู่อวิ้นหลงกับคุณหนูเฟิ่ง คงต้องรีบพากันมาเข้าเฝ้าเพื่อขอพระราชทานสมรสกับเหล่าบุตรชายของตนแน่ ๆ

ยิ่งคิดยิ่งเหนื่อยใจ เจ้าสามนี้โง่งมจริง ๆ มีเพชรอยู่ในกำมือแต่กลับไปคว้าเอาก้อนกรวด เขาเองก็อยากรู้เหมือนกัน ถ้าได้ยินราชโองการถอนหมั้นแล้วจะเป็นอย่างไร

ฮ่องเต้พอจะคิดภาพของบุตรชายโง่เง่าของตนเองออก ก็ยิ้มมุมปากอย่างพอใจ

‘หึ ต่อให้เจ้าเป็นบุตรชายข้า ข้าก็ช่วยอะไรเจ้าไม่ได้หรอกนะ เจ้ามันโง่เอง ช่างสมองหมูจริง ๆ’

จวนสกุลเฟิ่ง

หญิงสาวในชุดเขียวอ่อนหน้าตางดงามล่มเมืองกำลังนั่งจิบชาอยู่ที่ศาลาสระบัวในจวนของตนเองอย่างเงียบ ๆ

ทบทวนนึกเรื่องราวที่ผ่านมา มันเริ่มจากตอนไหนกัน

ตอนไหนกันที่ตนหลงรักฟู่อวิ้นหลง

ตอนที่เขาช่วยในขณะกำลังตกบันไดที่โรงน้ำชา

หรือตอนที่เขาขอผ้าเช็ดหน้าจากนาง หลังจากที่เขาเก็บได้ไปเป็นของตนเอง

แล้วชื่อเสียงร้ายกาจของนางเริ่มจากตอนไหนกัน นางไม่เข้าใจว่าทำไมทุกคนถึงคิดว่านางร้าย ที่ไปตบตีสตรีอื่นเพื่อแย่งชิงของที่เป็นของตนเองกลับคืนมา

แล้วเหตุใดถึงไม่มีใครกล่าวโทษคนที่ทำให้ข้ากลายเป็นเช่นนี้?

หญิงสาวนั่งหลับตานึกถึงคำพูดในอดีตที่ฟู่อวิ้นหลงเคยให้สัญญากับนาง

"อวี่เหิง ข้าว่าเจ้าใส่ชุดสีแดงดีหรือไม่ดูเหมาะสมกับเจ้าดี"

"อวี่เหิง ข้าไม่ชอบสายตาบุรุษที่มองดูเจ้าเลย เจ้าหมั้นกับข้าได้หรือไม่"

"อวี่เหิง ข้าจะมีแค่เจ้าแต่เพียงผู้เดียว ข้าจะไม่มองหญิงอื่น แต่เจ้าสัญญาได้หรือไม่ว่า ว่าเจ้าจะมีข้าแค่คนเดียว"

"อวี่เหิง เจ้าเลิกตามข้าได้หรือไม่ บางทีข้าก็อยากอยู่คนเดียวเพียงลำพัง"

"อวี่เหิง เจ้าไม่ต้องทำสิ่งของส่งมาให้ข้าอีกแล้ว เพราะข้ามีทุกอย่างที่เจ้าทำมาให้แล้ว"

"เพคะ องค์ชาย..."

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • กรุ่นรักผลิบาน   ตอนที่ 70 เรื่องน่ายินดี จบ

    ในขณะที่ทุกคนกำลังหัวเราะอย่างมีความสุขอยู่นั้น จู่ ๆ เฟิ่งฮูหยินก็ร้องออกมาคล้ายว่าเจ็บปวดบางอย่าง เฟิ่งฮูหยินถึงกับบีบมือสามีของตนแน่นด้วยความเจ็บปวด สร้างความตื่นตระหนกให้กับทุกคนในตอนนี้เป็นอย่างมาก"ฮูหยิน เจ้าเป็นอะไร?" เฟิ่งจินหยวนกุมมือของภรรยาด้วยความห่วงใย"โอ๊ย-! ท่านพี่จู่ ๆ ข้าก็เจ็บท้องเจ้าค่ะ""หรือว่าท่านพี่เจ็บท้องจะคลอด?"กู่ฮูหยินแสดงความคิดเห็นออกมาเพราะจากที่นับเดือนการตั้งครรภ์ของเฟิ่งฮูหยินก็ถือว่าถึงเวลาสมควรแล้วอีกอย่างท่าทางเช่นนี้ต้องใช่อย่างแน่นอน ทำเอาผู้คนที่ได้ยินเช่นนั้นถึงกับแตกตื่นด้วยความตกใจปนกับความดีใจจนทำอะไรไม่ถูกเหล่าบรรดาสาวใช้รีบไปตามหมอมาทำคลอดทันที ทำให้สถานการณ์ตอนนี้นั้นวุ่นวายยิ่งนักต่างจากตอนเช้าโดยสิ้นเชิงตอนนี้ทุกคนต่างพากันยืนอยู่ที่หน้าห้องทำคลอดอย่างใจจดใจจ่อกับสิ่งที่กำลังจะเกิดในไม่ช้า"ท่านพ่อ...ข้าตื่นเต้นจังเลยเจ้าค่ะ"เฟิ่งอวี่เหิงยื่นอยู่ใกล้ ๆ บิดาที่กำลังมีสีหน้าตื่นเต้นไม่แพ้กัน"พ่อก็เช่นกัน"ในขณะที่ทุกคนกำลังรอคอยอย่างใจจดใจจ่อ การรอคอยก็ได้สิ้นสุดลงเมื่อได้ยินเสียงเด็กทารกที่กำลังร้องออกมาพร้อมกับประตูที่เปิดออก"ย

  • กรุ่นรักผลิบาน   ตอนที่ 69 เรื่องน่ายินดี

    "เดี๋ยว!!"เฟิ่งอวี่เหิงชะงักไปครู่หนึ่งแต่ก็ไม่ได้หันกลับไปมองแต่อย่างใด นางไม่อยากให้กู่จิ้นอันเห็นน้ำตาที่กำลังไหลริน ในห้องตกอยู่ในความเงียบอีกครั้งเฟิ่งอวี่เหิงคิดว่าอย่างไรวันนี้ก็มาแล้ว พูดให้จบเสียตอนนี้เลยดีกว่า เพราะหากกลับไปโดยที่ยังไม่ได้พูดอะไรก็จะเป็นการค้างคาใจต่อกันอีก พอคิดได้เช่นนั้นนางก็พ่นลมหายใจออกมาเพื่อกลั้นอารมณ์ที่เก็บความเสียใจไว้อยู่"ข้ารู้ว่าสิ่งที่ข้าทำไปมันผิด เพราะข้าแค่อยากปกป้องตัวเองจากคนที่คิดไม่ดีต่อข้า และที่วางแผนไปทั้งหมดโดยที่ไม่ได้บอกท่าน เพราะข้ากลัวว่าท่านจะไม่ยอมให้ข้าทำเช่นนี้ ดีไม่ดีท่านอาจจะห้ามข้าไม่ให้ข้าไปร่วมงานด้วยซ้ำ เพราะข้ารู้ว่าท่านนั้นเป็นห่วงข้าเพียงใด และข้าก็รู้ว่าท่านไม่ยอมให้ข้าต้องเจ็บตัวอย่างแน่นอน"เฟิ่งอวี่เหิงหยุดพูดไปครู่หนึ่งเพื่อดูท่าทีของอีกฝ่ายทว่ากู่จิ้นอันก็ยังไม่มีท่าทีตอบรับแต่อย่างใด แต่ไม่ว่าอย่างไรเฟิ่งอวี่เหิงก็ตัดสินใจพูดต่อไป เพราะหากไม่พูดวันนี้ วันต่อไปอาจจะไม่ได้พูดอีกย่อมเป็นได้"ที่ข้าต้องทำเช่นนี้กับอี้หลิงฟาง เพราะคนเช่นนางหากไม่โดนเหมือนที่กระทำกับผู้อื่นบ้างก็คงไม่หยุดคิดร้ายเช่นกัน คนเช่นนางน

  • กรุ่นรักผลิบาน   ตอนที่ 68 ไม่มาก็ไป 3

    เช้าวันใหม่วันนี้เฟิ่งอวี่เหิงลุกขึ้นมาแต่งตัวตั้งแต่เช้า เพราะวันนี้นางมีที่จะไปคือจวนสกุลกู่หลังจากที่เมื่อคืนได้พูดคุยกับบิดาแล้ว เฟิ่งอวี่เหิงก็ได้ตัดสินใจทำตามที่กู่ม่านชิงและบิดาแนะนำ คือในเมื่อเขาไม่มาเราก็ต้องไปหา จะได้ปรับความเข้าใจกันสักทีวันนี้นางใส่ชุดสีขาวปักด้วยลายหมู่ตานทำให้ดูสวยงามยิ่งนักชินชินสาวใช้คนสนิทยกถาดปิ่นมาให้เฟิ่งอวี่เหิงเลือก พร้อมกับเอ่ยถามด้วยรอยยิ้ม"คุณหนูวันนี้ปักปิ่นอันไหนดีเจ้าคะ?"สายตาของเฟิ่งอวี่เหิงมองดูปิ่นในถาดที่ชินชินยกมา ได้ไปสะดุดกับปิ่นชิ้นหนึ่งเป็นปิ่นลายหูเตี๋ยสีฟ้า จึงเอื้อมไปหยิบขึ้นมาดูด้วยสายตาเปล่งประกายนางจำได้ว่าปิ่นชิ้นนี้เป็นชิ้นแรกที่กู่จิ้นอันซื้อให้ตอนที่ไปเที่ยวตลาดด้วยกัน ทว่าตั้งแต่ที่ได้มายังไม่เคยปักเลยสักครั้ง'ข้าเอาใจท่านขนาดนี้หากท่านยังไม่หายโกรธ ข้าก็ไม่รู้จะทำอย่างไรแล้ว'คิดได้อย่างนั้นเฟิ่งอวี่เหิงจึงให้ชินชินปักปิ่นชิ้นนี้ให้นางหลังจากที่ทำอะไรเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว เฟิ่งอวี่เหิงจึงเดินทางไปยังจวนสกุลกู่ตามที่คาดหวังไว้ทันทีใช้เวลาราวสองเค่อก็มาถึงที่หมาย เฟิ่งอวี่เหิงเดินเข้าไปข้างในโดยมีสาวใช้นำทางให้น

  • กรุ่นรักผลิบาน   ตอนที่ 67 ไม่มาก็ไป 2

    "อะไร?" กู่ม่านชิงแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องกับสิ่งที่เฟิ่งอวี่เหิงถาม"ข้ารู้นะว่าวันนั้นเจ้าไปไหนกับรุ่ยอ๋อง บอกข้ามาเดี๋ยวนี้เลยนะ""ก็แค่ไปกินข้าวด้วยกัน มีอะไรให้น่าตื่นเต้นกัน"แม้ปากจะพูดไปอย่างนั้น แต่แก้มของกู่ม่านชิงตอนนี้กลับแดงระเรื่อขึ้นมา ทำเอาเฟิ่งอวี่เหิงถึงกับหลุดหัวเราะให้กับท่าทางของสหาย"ก็ได้ ๆ ข้าเชื่อเจ้าก็ได้"เห็นว่าถูกล้อเลียนจากสหาย กู่ม่านชิงก็ได้แต่ย่นจมูกใส่หญิงสาวตรงหน้า"แล้วรุ่ยอ๋องดีกับเจ้าหรือไม่?" ท้ายเสียงมีความห่วงใย"ก็ดีนะ...” กู่ม่านชิงทำท่าครุ่นคิดถึงคำพูดในวันนั้น “นี่เหิงเหิง รุ่ยอ๋องบอกจะพาข้าไปท่องเที่ยวเมืองอื่นด้วย"คิดถึงเรื่องนี้ทีไรกู่ม่านชิงถึงกับเก็บอาการไม่อยู่ เพราะตื่นเต้นเรื่องที่ตนจะได้ไปเที่ยวตามที่เคยปรารถนาเอาไว้ เมื่อมีคนจะทำปรารถนาของนางให้เป็นจริง มีรึกู่ที่นางจะปิดบัง"ไหนเจ้าว่าไม่ตื่นเต้น?""ข้าไม่คุยกับเจ้าแล้ว"กู่ม่านชิงที่โดนหยอกล้อเช่นนั้นถึงกับแง่งอนเพราะความเขินอาย เฟิงอวี่เหิงก็ได้แต่ยิ้มขำให้กับท่าทีเช่นนี้ สตรีสองคนนั่งคุยกันจนถึงช่วงบ่าย กู่ม่านชิงก็ขอตัวกลับจวนของตนในขณะที่กู่ม่านชิงกำลังออกจากโรงน้ำชาของเฟิ่

  • กรุ่นรักผลิบาน   ตอนที่ 66 ไม่มาก็ไป

    "เรื่องที่พาเจ้าไปเที่ยวยังเมืองต่าง ๆ เป็นข้าแทนได้หรือไม่?""ฮ่า ฮ่า ฮ่า พระองค์ทรงล้อหม่อมฉันเล่นอีกแล้ว"กู่ม่านชิงแสร้งหัวเราะออกมาเบา ๆ กับคำพูดของคนที่จะพานางไปเที่ยว จะให้นางเชื่อได้อย่างไรว่ารุ่ยอ๋องจะพานางไปได้ ในเมื่อตำแหน่งนั้นที่ติดตัวอยู่นั้นมากด้วยภาระและหน้าที่ จะทิ้งภาระเพราะว่าจะพานางไปเที่ยวอย่างนั้นรึ ไม่ว่าอย่างไรกู่ม่านชิงก็ไม่เชื่อเด็ดขาด"..." ฟู่เฟยเทียนในขณะที่ฟู่เฟยเทียนกำลังจะบอกเรื่องบางอย่างกับกู่ม่านชิงนั้น เสี่ยวเอ้อก็นำอาหารที่สั่งเข้ามาก่อน ทำให้บทสนทนานั้นต้องยุติลงเพื่อที่ทั้งคู่จะได้รับประทานอาหารกันในระหว่างที่ทั้งคู่กำลังรับประทานอาหารด้วยกันอย่างเงียบ ๆ นั้น ฟู่เฟยเทียนก็ได้เอ่ยปากขึ้นมา"ชิงเอ๋อร์ เรื่องที่ข้าจะพาเจ้าไปเที่ยว ข้าพูดความจริง เพราะนั่นก็เป็นความฝันของข้าเช่นกัน" น้ำเสียงเต็มไปด้วยความจริงจัง"พระองค์จะไปท่องเที่ยวได้อย่างไรเพคะ ในเมื่อพระองค์เป็นรุ่ยอ๋อง เว้นเสียแต่พระองค์จะไม่ได้เป็นท่านอ๋องแล้ว"กู่ม่านชิงยังคงไม่เชื่อคำพูดของฟู่เฟยเทียน เพราะตราบใดที่ฟู่เฟยเทียนยังเป็นอ๋องอยู่ก็ไปไหนตามอำเภอใจไม่ได้ เพราะภาระที่ต้องดูแลประชา

  • กรุ่นรักผลิบาน   ตอนที่ 65 ห่วงเรื่องตนก่อน 2

    ทันทีที่เห็นว่าเป็นฟู่เฟยเทียนคิ้วงามก็ขมวดเข้าหากันด้วยความสงสัย เพราะกู่ม่านชิงนั้นคิดว่าฟู่เฟยเทียนตามกู่จิ้นอันออกไปแล้ว แต่กลับกลายเป็นว่ายังไม่ไปไหน"จะไปไหน""ไปหาท่านพี่จิ้นอันเพคะ หม่อมฉันต้องอธิบายให้ท่านพี่จิ้นอันเข้าใจ""ไม่ต้องไป""ไม่ได้เพคะ ต้องไป"กู่ม่านชิงเริ่มจะไม่เข้าใจในการกระทำของฟู่เฟยเทียน นอกจากจะรั้งไม่ให้นางไปอธิบายเรื่องที่เฟิ่งอวี่เหิงกับนางวางแผนให้กู่จิ้นอันฟัง ยังจับมือนางไม่ปล่อยอีก"ข้าหิวข้าว""หิวก็ไปกินสิเพคะ""เจ้าต้องไปกินกับข้าด้วย""หม่อมฉันไม่หิวเพคะ หม่อมฉัน...ว้าย! รุ่ยอ๋องปล่อยมือหม่อมฉันก่อนเพคะ"ฟู่เฟยเทียนนั้นไม่ฟังกู่ม่านชิงพูดแต่อย่างใด ชายหนุ่มดึงมือของกู่ม่านชิงลงบันไดไปยังชั้นล่างเพื่อเดินทางไปยังโรงเตี๊ยมทันที"รุ่ยอ๋อง ได้โปรดปล่อยมือของหม่อมฉันก่อนเพคะ หากมีผู้ใดเห็นพระองค์จะเสื่อมเสียชื่อเสียงเอานะเพคะ" น้ำเสียงที่พยายามออดอ้อนให้ฟู่เฟยเทียนปล่อยมือ"เจ้าก็ต้องรับผิดชอบข้า เพราะเจ้าเป็นคนทำให้ข้าเสียชื่อเสียงเป็นที่ครหาของชาวบ้าน แล้วก็คงไม่มีสตรีใดอยากแต่งงานกับข้าเพราะว่าข้านั้นเสียชื่อเสียงไปแล้ว เพราะฉะนั้น เจ้าต้องรับผิดชอบ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status