Share

บทที่ 3

last update Last Updated: 2025-04-29 10:52:33

ดวงตาหวานของเจ้าของความคิดเหลือบขึ้นมองชั้นบนของบ้าน มั่นใจว่าเขาคงอยู่ในอาณาจักรส่วนตัว ชั้นบนของบ้านกึ่งตึกที่สมัยพ่อกับแม่ยังอยู่จะแบ่งพื้นที่เป็นปีกซ้ายและขวา ทั้งอาณาเขตของปีกซ้ายจะเป็นของหล่อน ส่วนพ่อกับแม่จะยึดครองอีกฝั่ง 

ณิชายังจำบรรยากาศกรุ่นกลิ่นไอความรัก บางคืนเธอหอบหมอนกับผ้าห่มไปเคาะประตูห้องนอนของพ่อแม่ ความอบอุ่นและปลอดภัยที่มีท่านสองคนคอยปกป้องคุ้มครอง ทำให้ณิชาไม่เคยหวั่นถึงอนาคตว่าหากมันเปลี่ยนไปแล้วเธอจะเดินต่ออย่างไร

จนเมื่อแม่เสียชีวิตลงโดยโรคมะเร็งเต้านมตอนเธออายุสิบสามปี เด็กหญิงที่ย่างเข้าสู่วัยรุ่นอย่างเธอถึงกับเสียหลัก ณิชายึดพ่อเป็นที่พึ่งหนึ่งเดียว กระนั้นพ่อที่เธอเห็นว่าเป็นคนเก่งและมั่นคงพร้อมจะเป็นร่มโพธิ์ร่มไทรให้กับทุกคนนั้นกลับเปลี่ยนไป พ่อกลายเป็นคนไม่สนใจอะไรอีกเลย พ่อเมาเหล้ากลับมาบ้านทุกวัน ไม่ไยดีกับเธอเหมือนก่อน วันทั้งวันพร่ำหาแต่แม่ที่จากไปอย่างไม่หวนคืน

แต่ไม่นาน...แม่ของเธอขึ้นสวรรค์ไม่ทันครบขวบปี พ่อกลับมีผู้หญิงคนใหม่ นัยว่ารู้จักเพราะติดต่องาน สุดท้ายผานิตม่ายสาวที่มีลูกติดหนึ่งคนก็เข้ามาแทนที่แม่ของเธอโดยสมบูรณ์ เข้ามาอยู่ในบ้านพร้อมกับแพทริเซีย นักศึกษาแพทย์หญิงที่ดูงดงามและสมบูรณ์แบบ อย่างที่ณิชามองแล้วรู้สึกว่าตัวเองด้อยลง กลายเป็นแค่ฝุ่นผงในพริบตา

พ่อกลับมาเป็นเหมือนก่อน คงเพราะมีกำลังใจให้หยัดยืนได้เหมือนเดิม ต่างกับณิชา เธอเริ่มเก็บตัวเงียบ ไม่เหลือกำลังใจ พ่อที่เคยเป็นของเธอเพียงหนึ่งเดียวกำลังมีคนอื่นเข้ามาแบ่งปันความสำคัญ นับจากนั้นความสุขก็ไม่เคยทอประกายให้เห็นในแววตาของณิชาอีกเลย

ช่วงวัยนั้น ณิชาเป็นแค่เด็กมัธยมต้น หลังเลิกเรียนแต่ละวันเธอจะยื้อเวลากลับบ้าน โดยไปหมกตัวอยู่ในหอพักนักเรียนของบัวบูชา เพื่อนซี้ที่ยอมเปิดใจคบหาเพียงคนเดียว

แต่ทุกสรรพสิ่งในโลกนี้ก็ยังหมุนเวียนเปลี่ยนไปไม่ยอมหยุดนิ่ง เมื่อณิชาจบมัธยมปลายก็เข้าเรียนในวิทยาลัยนานาชาติแห่งเชียงราชที่ค่าเรียนแพงลิบลิ่ว ช่วงปีสุดท้ายของชีวิตนักศึกษา ณิชาก็ต้องพบข่าวร้ายที่ทำให้หัวใจแตกสลายอีกครั้ง รถที่พ่อกับแม่เลี้ยงนั่งประสบอุบัติเหตุตกเหวระหว่างเดินทางไปติดต่อกับลูกค้าทางฝั่งพม่า เนื่องจากคนรถเลือกใช้เส้นทางลัดแทนที่จะเป็นเส้นทางปกติอย่างที่ใช้ประจำอยู่ เพราะหวังจะให้ทันนัดลูกค้าสำคัญ

แม่เลี้ยงเสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ ขณะที่พ่ออยู่ในอาการโคม่า รักษาตัวในห้องไอซียูของโรงพยาบาลชั้นนำของเชียงราช...นานนับเดือนก็สิ้นลมตาม

แพทริเซียโศกเศร้ากับการจากไปของสองคน แต่ไม่นานก็ยืนขึ้นมาได้ใหม่เพราะมีญาติสนิททางกรุงเทพและแพทย์หนุ่มคู่หมายคอยประคับประคองจิตใจ ทำให้ผ่านพ้นช่วงชีวิตที่ยากลำบากได้ 

ต่างกับณิชา...เธอไม่เหลือใครอีกแล้ว มองไปทางไหนก็เห็นแต่คนแปลกหน้า ไม่มีใครยื่นมือมาให้คว้าเป็นหลักเลย

“เป็นอะไรไปคะคุณนิด ทำไมไม่กินข้าวต้ม เย็นชืดจะไม่อร่อยนะคะ” 

เสียงทักของป้าสดใสทำให้คนที่หลุดอยู่ในภวังค์ต้องสะดุ้งรู้สึกตัว ตักข้าวต้มเข้าปากอีกคำ ก่อนวางช้อนลงเมื่อรู้สึกว่าฝืดคอเกินจะฝืนกลืนได้อีก

“หรือวันนี้ป้าทำไม่อร่อย ทำไมทานแค่นี้” หญิงชราถามพร้อมสีหน้าสีตาที่ทำให้ณิชาต้องพยายามหาคำพูดมาบอกเพื่อรักษาน้ำใจ

“อร่อยค่ะป้า ฝีมือป้าไม่ตกหรอก ระดับนี้เป็นเชฟมือหนึ่งสำหรับนิดเลย แต่เช้านี้นิดรู้สึกตื้อ กินไม่ลงจริงๆ ค่ะ”

“ตายจริง ถ้าอย่างนั้นป้าจะเร่งมือทำขนมจีนแกงไตปลาให้เสร็จนะคะ กินมันมื้อเช้านี่แหละ ดีกว่าปล่อยท้องว่าง”

“ไม่เป็นไรค่ะ ไม่ต้อง” ณิชารีบคว้าแขนแม่ครัวเอกไว้ อ้ำอึ้งจะหาเหตุผล หากคราวนี้เมื่ออีกฝ่ายเห็นสีหน้าเธอชัดเจนก็ถอนหายใจยาว

“คิดมากพานเครียดอีกน่ะสิ ไม่ดีเลยนะคะ” หญิงชราว่าอย่างอ่อนใจ และพอสังเกตเครื่องแต่งกายของณิชาว่าอยู่ในชุดแปลกตากว่าทุกวัน จึงถาม “คุณนิดจะออกไปข้างนอกหรือ แต่งตัวสวย ดูเรียบร้อยเชียวค่ะ”

“แสดงว่าทุกวันนิดแต่งตัวดูไม่ได้เลยใช่ไหมคะป้า” ณิชายังมีแก่ใจกระเซ้าพร้อมรอยยิ้มที่เปิดกว้าง ทำให้คนถามรู้สึกดีขึ้น “นิดจะออกไปสมัครงาน เมื่อสองวันก่อนเดินเล่นในห้างกับบัว เห็นป้ายประกาศรับสมัครพนักงานขายในร้านเสื้อผ้า” 

เธอบอกชื่อแบรนด์เสื้อผ้าหรู คุณภาพสมกับราคาที่แพงลิบลิ่วซึ่งเจาะกลุ่มลูกค้าหนุ่มสาววัยทำงาน เชียงราชแม้จะมีพื้นที่ไม่ใหญ่ แต่ด้วยความเป็นเมืองเปิดใหม่ ทำเลเป็นประตูการค้า จึงทำให้กลายเป็นศูนย์กลางธุรกิจแห่งใหม่ เงินตราสะพัดในพื้นที่ค่อนข้างสูง รายได้ต่อหัวของคนทำงานในเชียงราชมากเกินสองเท่าเมื่อเทียบกับผู้คนในตัวเมืองจังหวัดซึ่งมีพื้นที่ใหญ่กว่า ดังนั้นทั้งสินค้าและเครื่องใช้ราคาแพง แบรนด์ดังคุ้นหูก็แห่กันมาเปิดสาขาในห้างสรรพสินค้าประจำเมือง ที่สำคัญกิจการของแต่ละร้านก็ไปได้สวยด้วยสิ

แต่ดูว่าสิ่งที่เธอบอกจะทำให้คนฟังรู้สึกคาใจอยู่

“คุณนิดจะไปเป็นพนักงานขายของในห้างหรือคะ คุณนิดจะทำได้ยังไง แล้วงานอื่นที่สมัครไปล่ะ”

“ยังไม่มีที่ไหนเรียกเลยจ้ะ” ณิชาถอนหายใจอย่างนึกปลง แต่แม้จะตกงาน ก็ถือว่าโชคยังเข้าข้างอยู่ตรงที่มีงานแปลนิยายโรมานซ์ให้ทำ ไม่แน่ว่าหากต้องตกงานยาว เธออาจหันมายึดงานนี้เป็นอาชีพจริงๆ ก็ได้ “แปลกดีนะ ใครๆ ก็ว่าเมืองเชียงราชเศรษฐกิจดี จีดีพีสูงกว่าเมืองอื่น แต่ทำไมถึงมีคนเตะฝุ่นอยู่ในบ้านนี้ได้เนอะ ป้า”

“เดี๋ยวงานก็มาค่ะ ของทุกอย่างมันมีจังหวะของมัน รออีกหน่อยนะคะ ใจเย็นๆ”

“จังหวะของนิดนานจัง ตั้งปีกว่าแล้ว” 

ณิชาลุกขึ้นยืน ฝืนยิ้มให้แม่ครัวเก่าแก่ ไม่อยากให้ใครต้องกังวลไปกับตน...หากทำได้เพียงยกมุมปากแย้มนิดเดียว

คนร่างเพรียวบางในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวกับกางเกงเนื้อผ้าสีดำเข้ารูปเดินออกจากห้องครัว โดยมีสายตาของหญิงชรามองตาม แววตาคู่นั้นทอความห่วงใยอยู่เสมอ และเวลานี้ยังเพิ่มความลังเลและเคร่งเครียดปนเข้ามาด้วย 

ป้าสดใสถอนใจยาว บ่นพึมกับตัวเอง

“เฮ้อ! ไม่มีโอกาสบอกคุณนิดกันสักที”

ณิชาเปิดประตูรั้วเล็กด้านข้าง แล้วจูงสกูตเตอร์สีส้มคู่ใจออกไป นึกขัดใจกับสายตาของผู้ชายตัวใหญ่ในชุดสีดำแลดูทะมึนสองคนที่จ้องเขม็งมา พวกเขายืนนิ่งอยู่ใต้ร่มไม้ริมกำแพงสูง หากไม่สังเกตก็คงไม่เห็น แรกๆ ณิชารู้สึกอึดอัด บางขณะก็นึกหวั่นว่าคนแปลกหน้าท่าทางดุดันจะเข้ามาคุกคามถึงในบ้าน แต่พอนานวันเข้าก็ค่อยๆ เบาใจเมื่อเห็นว่าคนเหล่านั้นไม่ได้ย่างกรายเข้าไปใกล้เขตแม้สักครั้งเดียว...ซึ่งคงด้วยคำสั่งเด็ดขาดของเจ้านายพวกเขานั่นละ

นายไรวินทร์...ผู้ชายที่เธอรู้เพียงชื่อเท่านี้!

เมื่อผ่านพ้นประตูรั้ว ณิชาก็ต้องหยุดตัวเองเมื่อรถหรูคันสีดำมันปลาบแล่นมาจ่อใกล้ประตูรั้วใหญ่ โดยไม่เสียเวลารอ ประตูรั้วบานนั้นก็เคลื่อนออกอัตโนมัติ ณิชาเขม้นมองหวังจะให้ทะลุผ่านฟิล์มหนาทึบ เพราะมั่นใจว่าคนในรถต้องเป็นแขกของนายไรวินทร์นั่นเอง

ณิชาไม่ต้องพยายามเลย เมื่อกระจกตอนหน้าฝั่งผู้โดยสาร ฝั่งที่เธอยืนอยู่ถูกลดลง เผยให้เห็นคนในรถที่ส่งยิ้มมาให้ และทำให้ณิชาถึงกับยืนตัวแข็ง...

หล่อนไม่ได้ยิ้มรับการทักทายนั้นเพราะกำลังจุกแน่นในอก จนกระจกรถเลื่อนปิดและรถก็เคลื่อนผ่านประตูรั้วเข้าไปข้างใน สู่ตัวบ้านที่ตั้งตระหง่านด้วยระยะทางนับร้อยเมตร

เรียวปากของหญิงสาวเม้มแน่น หล่อนกำลังสกัดกลั้นอารมณ์อ่อนไหวและอ่อนแอไม่ให้หลุดออกมา...รอกระทั่งคิดว่าตนเข้มแข็งพอ พร้อมจะเดินหน้าต่อในเส้นทางที่เลือกแล้ว จึงขึ้นนั่งบนพาหนะคู่ใจ ขับเคลื่อนออกไปยังเป้าหมาย

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • กล้วยไม้ล้อมตะวัน   บทที่ 31

    “เจ้านายของนายเป็นอะไร ทำไมถึงติดต่อไม่ได้ตั้งแต่เช้า”“นายอยู่ในบ้านครับ” คำตอบแบบไม่ตรงคำถามลอยมาจากปลายสาย ทำให้คนถามนึกสงสัยหนักเข้าไปอีก“ฉันไม่ได้ถามว่าเขาอยู่ไหน แต่อยากรู้ว่าวันนี้ทำไมถึงไม่มาร่วมงาน ไหนรับปากไว้ว่าจะมา”“ผมจะเรียนให้นายทราบนะครับว่าคุณใหญ่โทร.มา”“เออ อย่าลืมบอกเขาล่ะ”รัชตะเก็บโทรศัพท์มือถือ ดวงตาคมหรี่ลงอย่างสงสัย ไรวินทร์เบี้ยวนัดสำคัญว่าจะเข้าร่วมประชุมผู้ประกอบการอุตสาหกรรมของเชียงราช ทั้งที่รับปากไว้ดิบดี ปกติถ้าเป็นเรื่องงานไม่เคยเห็นว่าหมอนั่นจะเหลวไหล...แล้วทำไมวันนี้ถึงหายหัวไปดื้อๆ แถมพอถามจากเบน คนสนิทที่ติดตามมานาน ก็แสดงท่าทีบ่ายเบี่ยงอย่างเห็นได้ชัดจนรถจอดเทียบหน้าคฤหาสน์ เจ้าของอาณาจักรจึงก้าวออกมาพร้อมตัดความสงสัยนี้ออกจากหัว อารมณ์เคร่งเครียดที่ตกค้างจากการประชุมก็ปลิดหายเมื่อเห็นหนูน้อยตัวกลมคลานตุ้บตั้บอยู่ที่ระเบียงแล้วตรงมาหา หัวเราะดีใจที่เห็นเขารัชตะช้อนอุ้มร่างจ้ำม่ำของลูกน้อย หยอกล้ออย่างมันเขี้ยว แล้วตรงไปโอบเอวภรรยาที่ยืนกอดอกส่

  • กล้วยไม้ล้อมตะวัน   บทที่ 30

    สิ้นคำเพราะพริ้ง ร่างหญิงสาวก็ล้มผึงบนที่นอนอย่างเหมาะเหม็งเมื่อถูกดันลงอย่างไม่ออมแรง ชายหนุ่มดึงผ้านวมผืนใหญ่มาคลุมไว้เพียงอกอวบ...บังคับตัวเองให้ถอนสายตาไปยังดวงหน้าสวยหวาน ไล้สายตาไปยังเปลือกตาที่บวมแดงกับปลายจมูกโด่งเล็กนั่น ใบหน้าคมสันค่อยๆ โน้มลง อยากจูบประโลมเหลือกำลัง แต่ก็ต้องตัดใจ ผละห่างก่อนเธอจะรู้ตัวและระแวงจนไม่เป็นอันได้พัก“ผมรู้ว่าคุณคงหลับยาก แต่ยังไงก็ต้องพยายามพักผ่อน อย่าเพิ่งคิดไปในทางเลวร้าย...อย่ามองผมในแง่ร้ายนักเลย ณิชา”เสียงฝีเท้าของไรวินทร์เคลื่อนห่าง เธอต้องบ้าแน่ๆ ณิชาเอ็ดตัวเองอยู่ในใจที่เกิดเชื่อว่าตนจะปลอดภัยบนเตียงนอนของเขาตลอดค่ำคืนนี้...ทั้งที่เพิ่งถูกเขาล่วงเกินมาหมาดๆณิชาปรือเปลือกตาอย่างยากลำบาก กระทั่งสายตาปรับรับภาพได้ ความหดหู่เจ็บปวดก็จู่โจมเข้ามา ความทรงจำราวภาพฝันร้ายโถมหายามลืมตาตื่น ต่อเมื่อพลิกกาย ความเจ็บร้าวก็ยังตามมาตอกย้ำว่าสิ่งที่เกิดเมื่อคืนเป็นความจริง แถมเธอยังหลับสนิทบนเตียงนอนนี้ต่อได้อย่างไม่น่าให้อภัยณิชายันกายขึ้นนั่ง มองรอบไม่เห็นเงาของไรวินทร์ก็พอใจ กระทั่งทรงกายยืนข้างเตียง คิ

  • กล้วยไม้ล้อมตะวัน   บทที่ 29

    ณิชาห่อกาย อยากบรรเทาความรู้สึกรุนแรง หลบสายตาคนตัวใหญ่หนาที่กำลังควบขับอยู่เหนือร่างเธอ เขาดูน่ากลัว ดุดันและไร้ความปรานีเปลือกตาบางปรือปิดลงด้วยอยากปิดกั้นภาพน่ากลัวนั้น รับรู้แต่ว่าเรือนกายตนกำลังสั่นคลอนตามแรงกระแทกกระทั้นที่เริ่มดุดันหนักหน่วงขึ้น หล่อนเกาะเกี่ยวไหล่หนาไว้แน่นเมื่อร่างถูกโยกคลอนรุนแรง ความเจ็บระคนเสียวซ่านประดังเข้าหาจนณิชารับมันแทบไม่ไหว ครั้งแล้วครั้งเล่าที่คิดว่าตัวเองต้องขาดใจเสียงหอบคำรามดังขึ้นจากลำคอหนาถี่ขึ้น ขณะที่สัมผัสยิ่งดุดันรุนแรง“พอ...ไม่ไหวแล้ว”หล่อนปรือตามอง ร้องขออย่างไม่กลั้นตัวเอง นอกจากความเจ็บปวดแล้วยังมีความเสียดเสียวที่กระหน่ำทวี ณิชากรีดร้องอย่างลืมตัว ร่างกายบิดเร่าด้วยอยากบรรเทาความทรมานที่กำลังก่ออยู่ในกายเขาจะไม่รับฟัง กลับเคลื่อนไหวดุดัน กระแทกกระทั้นเต็มกำลัง ณิชาคิดว่าร่างกายเธอต้องแหลกสลายแน่แล้ว แต่แทนที่จะถอยห่าง กลับยิ่งหยัดร่างเข้าหาเหมือนอยากได้สัมผัสรุนแรงนั้นยิ่งขึ้น...เธอต้องการมัน มากเท่าไรก็ยังไม่พอเสียงเนื้อกระทบเนื้อและเสียงคำรามในลำคอหนาดังก้องอยู่ในหูของณิชา สลั

  • กล้วยไม้ล้อมตะวัน   บทที่ 28

    เขาผละออกห่างเพียงให้เกิดช่องว่าง มือแข็งแรงรูดเสื้อยืดเนื้อนุ่มของเธอออกง่ายดาย เต้าเต่งอวบงามที่ห่อหุ้มในบราเซียสีหวานเผยสู่สายตาชายหนุ่มมองแล้วรู้สึกเหมือนลำคอกำลังแห้งผาก“อย่ามอง อย่าทำ...ฉัน”ณิชาร้องไห้ตัวสั่น พยายามบิดกายเพื่อจะพรางตัวเองให้พ้นสายตาหื่นกระหายนั่น มันน่ากลัวเหลือเกินเรือนกายกลมกลึงอิ่มสะพรั่งด้วยวัยสาว ทั้งส่วนเว้าส่วนโค้งและผิวขาวผ่องนุ่มลื่นมือ ยิ่งเมื่อบิดเร่าด้วยพยายามหนี แต่เธอคงไม่รู้หรอกว่าภาพนั้นมันยิ่งกระพืออารมณ์ดิบให้เขาเหลือเกินไรวินทร์หายใจหอบ ความพยายามควบคุมตัวเองขาดสะบั้น มือหนาข้างหนึ่งที่ยังตรึงข้อมือหล่อนกดเหนือศีรษะ ปลดปล่อยออกมา เลื่อนมาลากไล้ตามไหล่ลาดกลมกลึง เนินอกอวบขาวผ่องที่เบียดชิดอัดแน่นอย่างอึดอัดพริบตาเดียว มือเรียวแข็งแรงข้างนั้นเลื่อนปัดไปตรงแผ่นหลังบาง สะกิดตะขอบราอย่างชำนิชำนาญจนก้อนเนื้อที่หมายตาถูกปลดปล่อยเป็นอิสระณิชาเม้มริมฝีปาก สะกดอารมณ์หวาดหวั่นและหวิวไหวไม่ให้หลุดออกมา หัวใจเต้นแรงด้วยความกลัวและเหนื่อยจากความพยายามที่ไร้ผล เห็นลางพ่ายแพ้อยู่แค่ตรงหน้า เธ

  • กล้วยไม้ล้อมตะวัน   บทที่ 27

    ทุ่มตรงที่ณิชาขังตัวเองอยู่ในห้องนอนบนชั้นสอง ห้องใหม่แต่เป็นตำแหน่งเดิมของห้องที่เคยเป็นของเธอ เหลือบมองสลัดผักจานใหญ่ที่คนรับใช้นำมาให้ตั้งแต่ชั่วโมงก่อน ตอนนี้มันพร่องไปกว่าครึ่งณิชาไม่อยากอุดอู้อยู่แต่ข้างใน แต่ปัญหาใหญ่ที่ทำให้ต้องกลายเป็นนางห้องเนื่องจากว่าทางออกของห้องนี้ต้องผ่านไปทางห้องนอนใหญ่ของไรวินทร์นั่นเองบ้านหรือเขาวงกตกันก็ไม่รู้ ณิชาสุดแสนจะหน่ายกับสิ่งที่เจออยู่ นายคนนี้คงกะจะเป็นเจ้าอาณาจักรผู้ครอบครองพื้นที่ในทุกตารางนิ้วของบ้านเลยใช่ไหม...เกิดมาไม่เคยพบเคยเห็น คนอะไรช่างแปลกประหลาดแต่อย่างว่า นายไรวินทร์ก็ไม่ใช่คนธรรมดา การจะทำอะไรคงต้องระวังตัวแจ แม้แต่บ้านยังต้องออกแบบใหม่ให้ตัวเองควบคุมได้ทุกส่วน ใครอยู่ด้วยคงได้อึดอัดตาย เท่าที่ณิชาหลวมตัวเข้ามาแค่วันเดียวก็เจียนบ้า แทบหลุดอารมณ์ใส่อยู่หลายรอบแค่นึกก็แทบแลบลิ้นปลิ้นตาผ่านบานประตูไปถึง...ไม่เคยเกลียดและหมั่นไส้ใครเท่านายคนนี้มาก่อนเลยแล้วต้องหยุดความคิดเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตู แม้จะเบาๆ แต่เป็นจังหวะสม่ำเสมอสามครั้ง เดาได้ทันทีว่าเป็นใคร และนั่นทำให้ณิชาต้องระวังตัวม

  • กล้วยไม้ล้อมตะวัน   บทที่ 26

    คนพูดตักสปาเกตตีใส่ปากคำใหญ่ด้วยท่าทางเอร็ดอร่อย ณิชาก้มมองจานตัวเอง เมนูเดียวกัน ตอนแรกก็ว่าถูกปากดี แต่อย่างไรก็ไม่รู้สิ นึกอยากคล้อยตามเขาเสียอย่างนั้น“อ๋อ ใช่ ถ้าไม่ใช่อาหารไทย ฉันกินไม่ลงหรอก เลี่ยน” ว่าพลางเสือกจานสปาเกตตีออกห่างจากตัว กะจะยุติมื้ออาหารแค่นี้ แต่ถูกอีกฝ่ายจ้องมองตรงเชิงบังคับ ยื่นมือมาปัดจานอาหารกลับที่เดิม“ทนเลี่ยนไปก่อน กินให้หมดจาน ไม่งั้นผมจะป้อน”ณิชาเหลือบมองคนหน้ารกเรื้อด้วยหนวดเคราแล้วเม้มริมฝีปากแน่น ไม่รู้หรอกว่าท่าทางนี้คนตรงหน้าเห็นจนชินตาและรู้ทันทีว่าเธออยู่ในอารมณ์แบบใดนั่งเงียบรับประทานอาหารกันไปพักใหญ่ เขาก็โพล่งออกมา“ผมให้คนเอาของที่หอพักมาหมดแล้ว ไม่ต้องห่วง”“อะไรนะ คุณขนของฉันมาที่นี่เหรอ”“ใช่ หรือคุณไม่ต้องการ”“ฉันต้องการแน่ แต่ไม่ใช่ให้เอามาที่นี่ เพราะนี่เป็นบ้านของคุณ ไม่ใช่ของฉันอีกแล้ว และฉันก็จะขนของที่ค้างอยู่กลับไปด้วย...ถ้าคุณยอมบอกว่าของในห้องตอนนี้อยู่ที่ไหน”ณิชาหยิบแก้วน้ำขึ้นดื่ม จบมื้ออาหารเช้าที่

  • กล้วยไม้ล้อมตะวัน   บทที่ 25

    หญิงสาวสืบเท้าไปยังห้องส่วนตัวที่จากไปได้แค่วันเดียว นึกไปว่าการได้กลับมาก็ดีเหมือนกัน เพราะยังมีเสื้อผ้าและข้าวของอีกหลายชิ้นที่หล่อนจำต้องทิ้งไว้ ถือโอกาสนี้จะได้ขนออกไปพร้อมกัน...แต่พอมาใกล้ก็ต้องเบิกตา บานประตูห้องได้หายไปแล้วเมื่อชะโงกดูข้างใน จึงเห็นว่าสภาพไม่เหมือนเดิม มันว่างเปล่า ไม่มีอะไรเหลือ ทั้งตู้เตียงและเฟอร์นิเจอร์ที่เคยมีเพียงน้อยชิ้นก็ไม่มีแล้ว ณิชาตรงดิ่ง กึ่งเดินกึ่งวิ่งไปทางห้องครัว ส่งเสียงเรียกเครือด้วยความคับข้องใจ“มีใครอยู่บ้าง พ้อหวาน อยู่หรือเปล่า” ทว่าพอถึงห้องครัวเก่าที่ถูกปรับปรุงจนดูทันสมัยใหม่เอี่ยมราวกับถอดมาจากแคตตาล็อกกลับไม่เห็นใครในนั้นหญิงสาววิ่งมาทางหน้าบ้าน อยากจะถามว่าข้าวของของตัวเองถูกขนไปทิ้งที่ไหนแล้วหัวใจปวดหนึบ เจ็บจนจุก ชาไปทั้งกาย“ใจร้าย ไม่มีหัวใจกันทุกคนเลย”แล้วพอนึกถึงบางสิ่งที่หล่อนมุ่งมั่นจะขนกลับไปหอพักด้วย ไม่รู้ว่าถูกทำลายหรือยังณิชาถึงกระหืดกระหอบกลับไปยังห้องครัว เปิดประตูออกทางหลังบ้าน แล้วพอเห็นกับตาตัวเองว่าสิ่งนั้นยังตั้งโดดเด่น ไม่มีร่องรอยว่าถูกรื้อถอนก็ให้รู้สึกดีใจอย่างบอกไม่ถูกซุ้มกล้วยไม้ของพ่อยังอยู่ที่เดิ

  • กล้วยไม้ล้อมตะวัน   บทที่ 24

    “ยัง”“แล้วใครซื้อยาพวกนี้มาให้”เขายังนอนคว่ำหน้านิ่ง ณิชามองเสี้ยวหน้าคมที่เบี่ยงไปอีกทาง เห็นว่าเขาหลับตาพริ้มอยู่ จึงไม่อยากกวนอีก...แต่พอมองยาในมือก็ผุดคำถามอย่างลืมตัว“หมอแพทเอามาให้ใช่ไหม”เงียบ ไม่มีเสียงตอบ ณิชาจึงเบนความสนใจมายังสิ่งที่ต้องทำ...ทำเพราะไถ่โทษให้ตัวเองหรอกนะ...พยายามท่องบอกตัวเองไว้ตอนแรกคิดว่าจะทำๆ ไปให้เสร็จ แต่พอเริ่มใช้ไม้พันสำลีชุบยาจากหลอดป้ายลงบนผิวที่มีรอยแดง บางแห่งออกสีช้ำ หญิงสาวกลับทำอย่างแผ่วเบา ระมัดระวังอย่างที่สุด กลัวว่าเขาจะเจ็บแล้วสะดุ้งตื่นณิชาบอกตัวเองไม่ได้ว่าใช้เวลาไปนานเท่าไรกับภารกิจที่เพิ่งเสร็จลง หล่อนตั้งใจทำจนลืมทุกสิ่ง เมื่อสังเกตคนตัวใหญ่จึงเห็นว่าเขายังนอนนิ่งเช่นเดิม ลมหายใจสม่ำเสมอ เอียงคอมองอย่างประหลาดใจ...แปลกใจทั้งตัวเองและเขาหลับง่ายขนาดนี้เชียว ไม่กลัวถูกบีบคอตายคาเตียงหรือไง ทำเราไว้ดีนักณิชาคิดอย่างเขม่น ก้มมองยา เห็นยังมียาเม็ดอยู่ในถุงอีกสองขนานก็คิดต่ออย่างกังขายาทานหลังอาหาร...ตื่นมาเขาคงจัดการเองเมื่อคิดว่าตนหมดหน้

  • กล้วยไม้ล้อมตะวัน   บทที่ 23

    ดวงหน้าคมสันที่มีหนวดเคราสั้นๆ ประดับทั่ว ผนวกกับกายกำยำสูงใหญ่ เมื่อเจ้าตัวชำเลืองมองคล้ายจะค้อนจึงกลายเป็นภาพที่ทำให้ณิชาเบิกตามองนิ่ง ถูกความตะลึงงันเข้าครอบงำหล่อนไม่เข้าใจ...เดาไม่ออกว่าเขาคิดอะไร...นอกเหนือจากนั้น ณิชาคิดว่าท่าทางเมื่อกี้ไม่เห็นจะเข้ากับเขาเลยเมื่อจู่ๆ คนที่เธอนั่งจับตามองหันขวับมา ณิชาถึงกับสะดุ้งโหยง พอเขาก้าวอาดๆ มาหา หญิงสาวก็กรีดร้องโวยวาย หล่อนตกใจ กลัวแสนกลัว ถ้าเขาจะทำอะไรขึ้นมา ณิชาคงช่วยเหลือตัวเองไม่ได้แน่นอน“อย่านะ อย่าทำนะ ฉันไม่ได้ตั้งใจทำร้ายคุณ ฮือๆ ไม่เอานะ”คนร่างเล็กดิ้นขลุกขลัก ร้องไห้ออกมาอย่างสุดจะฝืน เมื่อถูกประชิดถึงและโอบไว้ทั้งตัว แต่ไม่กี่วินาทีก็รับรู้ถึงข้อมือสองข้างที่ถูกมัดไพล่หลังนั้นหลุดจากกัน สติถึงค่อยๆ คืนร่าง ดวงตาหวานช้อนมอง เขาถอยไปทางปลายเท้าเธอและแก้มัดด้วยท่าทีกระแทกกระทั้น กระทั่งเสร็จก็ดึงเข็มขัดหนังเนื้อดีออกไป ณิชาสูดปากเมื่อถูกมันครูดผิวจนรู้สึกเจ็บ“เบาๆ ก็ได้ ถลอกหรือเปล่าก็ไม่รู้”“แค่นี้ทำบ่น...มันน้อยไปด้วยซ้ำ”“แสดงว่าคุณตั้งใจ เ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status