Share

กุหลาบร้ายพ่ายรัก
กุหลาบร้ายพ่ายรัก
Author: ซินเหมย / ณศิกมล

1

last update Last Updated: 2025-09-02 17:56:15

บทที่ ๑ ปะทะคารม

ปิ๊นนนน!!!…

“เกิดอะไรขึ้นชาลี” เสียงเข้ม ๆ ของชายหนุ่มถามผู้จัดการใหญ่ ที่เป็นเสมือนอาจารย์คอยสั่งสอนเรื่องการทำงานให้ เมื่อคนขับรถเหยียบเบรกกะทันหันพร้อมบีบแตรค้างเอาไว้

“รถขายผลไม้ตัดหน้าครับคุณยัสซัน” ชาลีตอบเจ้านายหนุ่ม ที่จะมารับตำแหน่งซีอีโอคนใหม่ของบริษัทผลิตเสื้อผ้าส่งออกแห่งนี้

ชายหนุ่มที่มีนามว่ายัสซันขยับผ้าม่านข้างรถให้เปิดออกเล็กน้อย มองผ่านกระจกที่ติดฟิล์มมืดไว้อีกชั้นออกไปนอกรถเมื่อได้ยินดังนั้น

“ทำไมหน้าบริษัทถึงเหมือนตลาดสดแบบนี้” ชายหนุ่มหน้าตาคมเข้มแบบชาวอาหรับ ตามแก้มและคางรกไปด้วยไรเคราไรหนวดเขียวครึ้มถามขึ้น เมื่อเห็นรถขายของห้าหกคันจอดเรียงรายอยู่หน้าบริษัทของตัวเอง

“ตอนนี้เป็นช่วงพักกลางวันครับคุณยัสซัน บรรดารถของกินต่างๆ จึงมาจอดขายของให้พนักงานของบริษัทมากเป็นพิเศษ พอใกล้เวลาเข้างานเข้าพวกเขาก็จะทยอยจากไป”

“ไม่มีระเบียบเอาซะเลย” คิ้วเข้มดกดำขมวดมุ่นขณะเอ่ยปากบ่น เมื่อเห็นหญิงสาวบุคลิกดีเยี่ยม หน้าตาสวยใสไร้ที่ติคนหนึ่งเดินหน้าบึ้งมาทางนี้

ประกอบถอนหายใจยาว เตรียมตัวเตรียมใจเต็มเมื่อเห็นหญิงสาวที่สวยและปากจัดที่สุดที่ในบริษัทเดินหน้าบึ้งมาทางตน กดกระจกเลื่อนลงเมื่อเธอเดินมาถึงโดยไม่ต้องรอให้เคาะเรียก

“ขอโทษครับคุณป่าน” รีบเอ่ยปากกล่าวขอโทษก่อนที่เธอจะพูดออกมา

“ป่านบอกพี่ประกอบกี่ครั้งแล้วเรื่องขับรถเนี่ย จำได้บ้างหรือเปล่าคะ” สาวเจ้าต่อว่าคนขับรถของบริษัทโดยไม่สนใจว่าจะมีใครนั่งอยู่ในรถด้วย

“จำได้จ้ะ เวลาขับรถมาถึงบริษัทช่วงเที่ยงให้ขับช้า ๆ เพราะพนักงานจะออกมาซื้อของกินที่หน้าบริษัทกันเยอะ อาจจะเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้เพราะไม่ทันระวังจ้ะ” ประกอบบรรยายให้หญิงสาวคนสวยนามว่าอินทิราฟัง

“ก็จำได้นี่ แต่ทำไมไม่ทำ ถ้าเกิดเมื่อกี้พี่ชนถูกลุงเขาเข้าพี่จะทำยังไง”

“ขอโทษจ้ะ คราวหน้าพี่จะระวังให้มากกว่านี้”

“รับปากแล้วก็จำไว้ด้วยล่ะ ไปได้แล้ว” อินทิราโบกมือไล่ชายหนุ่ม หมุนตัวกลับไปตามทางเดิมที่เดินมา

ยัสซันหันไปมองหน้าผู้จัดการใหญ่ ทุกสิ่งที่เธอพูดเขาฟังเข้าใจแจ่มแจ้งทุกอย่าง แต่เขาอยากรู้ว่าเธอเป็นเดือดเป็นร้อนแทนลุงคนนั้นทำไม

“เธอคือใคร” เขาเลือกที่จะใช้ภาษาอังกฤษมากกว่าภาษาไทยที่ได้ร่ำเรียนมาตั้งแต่เด็กจนโต จากอาจารย์ส่วนตัวที่เป็นคนไทย แต่ถึงกระนั้นสำเนียงก็ยังไม่ชัดเจนเท่ากับการรับฟังที่เข้าใจดี จึงเลือกใช้ภาษาที่ถนัดมากกว่า

“เธอเป็นผู้จัดการการตลาดฝ่ายต่างประเทศครับ ชื่ออินทิรา จริง ๆ แล้วเธอเป็นคนปากร้ายแต่ใจดีครับ รักความถูกต้องและเป็นคนขี้สงสาร อย่าไปถือสาเธอเลยนะครับ” ชาลีอธิบายให้เจ้านายหนุ่มฟัง พร้อมกับออกตัวปกป้องหญิงสาวเจ้าอารมณ์ที่สุดในบริษัทที่ทุกคนต่างก็เกลียดไม่ลง

“ยังเด็กอยู่เลย เป็นผู้จัดการแล้วเหรอ” ชายหนุ่มตั้งข้อสงสัย

“เธออายุสามสิบแล้วนะครับชีค” มันไม่ใช่เรื่องยากที่คนรุ่นนี้จะได้ก้าวขึ้นมารับตำแหน่งสูง ๆ แบบนี้ ถ้ามีความรู้ความสามารถเต็มร้อย สมัยนี้เขาไม่ได้มองกันที่ประสบการณ์เหมือนแบบเก่าแล้ว

“หือ” แว่นกันแดดถูกดึงออกจากใบหน้า สายตาคมเข้มมองหน้าผู้จัดการใหญ่อย่างไม่อยากเชื่อ ถ้าบอกว่าเธออายุยี่สิบเจ็ดเหมือนเขา ยังฟังน่าเชื่อมากกว่าซะอีก

“ไม่ผิดแน่ครับ เธอมาฝึกงานที่นี่พร้อมกับเพื่อน และบริษัทก็จองตัวพวกเธอเอาไว้เลย พอเรียนจบพวกเธอก็เริ่มมาทำงานที่นี่ ตอนนั้นผมยังเป็นเลขาของคุณแม่ชีคอยู่เลย” หนุ่มใหญ่วัยสามสิบเก้าปีอธิบายให้เจ้านายคนใหม่รับฟัง

“ถ้ายังอยากทำงานด้วยกันนาน ๆ โดยที่ฉันยังอารมณ์ดีอยู่ก็อย่าเรียกฉันว่าชีคเลยนะชาลี ฉันไม่ชอบคำนี้เลย” ยัสซันกล่าวอย่างหงุดหงิด ตั้งแต่จำความได้คนที่ดูแลเขามาตลอดคือมารดาชาวไทย กับบิดาชาวฝรั่งเศสที่ถือสัญชาติอเมริกันต่างหาก ไม่ใช่เชื้อพระวงศ์ของรัฐหนึ่งในประเทศตะวันออกกลางคนนั้น ดังนั้นตำแหน่งนำหน้าชื่อจึงไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการแม้แต่นิดเดียว

“ครับท่าน” ชาลีรู้ดีว่าเจ้านายคนนี้ไม่ชอบให้เรียกเขาว่าชีค แต่เมื่อกี้เขาก็ลืมตัวไปเหมือนกัน

“ไม่ต้องท่านก็ได้ แค่ชื่อเฉย ๆ ก็พอ เราไม่ใช่คนอื่นคนไกลนะ”

“ครับคุณยัสซัน” ชาลีตอบรับอย่างนอบน้อม เป็นไปไม่ได้ที่ผู้จัดการอย่างเขาจะตีตัวเสมอเจ้านาย ถึงแม้ฝรั่งมังค่าเขาจะไม่ถือในเรื่องแบบนี้ แต่ความเป็นคนไทยที่มีอยู่ในสายเลือด ทำให้เขาทำแบบนั้นได้ไม่สะดวกปากเท่าไหร่นัก ถึงแม้ตามความเป็นจริงแล้ว จะเกี่ยวดองเป็นญาติสนิททางฝ่ายมารดาของชายหนุ่มก็ตาม จึงเรียกอีกฝ่ายด้วยคำว่าคุณนำหน้าก่อนตามด้วยชื่ออย่างที่เขาร้องขอ เพราะไม่อยากให้คนในบริษัทมาแอบนินทาลับหลัง...

ดวงตาคมเข้มของยัสซันเหลือบมองหญิงสาว ที่เข้ามาในห้องประชุมช้ากว่ากำหนดเกือบสิบนาทีด้วยแววตาติดตำหนิ เธอมาสายตั้งแต่วันแรกที่เขาเริ่มมาทำงานวันแรกเลยเหรอนี่

“ขอโทษค่ะ บังเอิญว่าติดสายด่วนบริษัทลูกค้าที่เยอรมัน ก็เลยไม่สามารถเข้ามาประชุมได้ตามเวลา”

“นั่นเป็นข้ออ้างของคนที่ไม่ตรงต่อเวลาหรือเปล่า” ยัสซันตำหนิเธอด้วยภาษาอังกฤษต่อหน้าผู้ร่วมประชุมคนอื่น

“ไม่เป็นไรหนูป่าน เชิญนั่งสิจ๊ะ” วารีกล่าวพร้อมรอยยิ้ม ทำเป็นไม่สนใจกับคำพูดเหน็บแนมของลูกชายที่ต่อว่าหญิงสาว

“ฉันไม่เคยผิดเวลาถ้าไม่มีเหตุฉุกเฉินค่ะ” อินทิราตอบชายหนุ่มเป็นภาษาไทยด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม ผิดกับในใจที่อยากยันอีกฝ่ายให้ร่วงลงจากเก้าอี้ซะบัดนี้ โทษฐานที่พูดจาไม่เข้าหู ทำเป็นอวดเบ่งใส่ตนต่อหน้าเพื่อนร่วมงานคนอื่น “ขออนุญาตนั่งนะคะ”

“เชิญ” ยัสซันมองหญิงสาวที่ส่งสายตาอวดดีมาให้ก่อนกล่าวเชื้อเชิญแบบแกน ๆ

“ในเมื่อทุกคนมาพร้อมกันแล้วผมก็ขอเข้าเรื่องเลยนะครับ” ชาลีเห็นสายตาของเจ้านายหนุ่มแล้วรู้สึกหายใจไม่ค่อยทั่วท้องเท่าไหร่นัก จึงรีบเข้าเรื่องก่อนที่มันจะบานปลายไปมากกว่านี้ “วันนี้ที่ท่านประธานเรียกประชุม ก็เพื่อแจ้งให้ทุกท่านทราบว่า ท่านจะให้คุณยัสซันซึ่งเป็นลูกชายมาบริหารงานแทน และตัวท่านจะรับตำแหน่งประธานอาวุโสของบริษัทคู่กับคุณเรย์มองด์ ดังนั้นตั้งแต่วันที่หนึ่งเดือนพฤษภาคมเป็นต้นไป ทุกท่านจะได้เริ่มทำงานกับผู้บริหารคนใหม่ของเราอย่างเป็นทางการ” ชาลียื่นเอกสารการเปลี่ยนแปลงระบบงานในบริษัท และประวัติเบื้องต้นของซีอีโอคนใหม่ให้ทุกคนที่ร่วมเข้าประชุม

“อีกเรื่องที่ต้องการให้ทุกท่านช่วยดำเนินการต่อ ก็คือเรื่องงานเลี้ยงรับรองซีอีโอคนใหม่ ขอให้ทุกท่านช่วยกระจายข่าวไปยังบุคคลในแผนกของท่านด้วยนะครับ”

ผู้จัดการฝ่ายต่าง ๆ ที่อยู่ในห้องต่างตอบรับโดยพร้อมเพรียง เมื่อเสร็จเรื่องแล้วจึงแยกย้ายกันกลับไป...

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • กุหลาบร้ายพ่ายรัก   55

    “ลูกจะน่าจะพูดกับพ่อให้ดีกว่านี้นะ” เขาตำหนิลูกชายที่ทำตัวห่างเหินจนเหมือนไม่ใช่พ่อกับลูกคุยกัน “แม้แต่คำทักทายลูกก็ไม่คิดจะพูดกับพ่อเลยเหรอ”“ผมก็พูดกับท่านแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้วนี่ครับ”“ลูกไม่ดีใจที่ได้เจอพ่อบ้างเหรอ”“ถ้าท่านไม่มองผมด้วยสายตาแบบนั้นผมอาจจะดีใจก็ได้” ทำไมเขาต้องดีใจ ในเมื่อเจอกันทุกครั้งเขาก็มักจะพูดถึงแต่เรื่องให้กลับไปอยู่ตะวันออกกลางด้วยกัน ไปรู้จักกับครอบครัวของชีคคนนั้น ชีคคนนี้ เพื่อประโยชน์ของธุรกิจในอนาคต“พ่อไม่รู้ว่าพ่อมองลูกยังไง พ่อรู้แต่ว่าพ่อปรารถนาดีต่อลูกเสมอ”“ท่านก็น่าจะรู้ว่าผมไม่เคยต้องการ เพราะสิ่งที่ผมได้รับจากคุณแม่และคุณพ่อในทุกวันนี้มันดีที่สุดในโลกแล้ว” เขาพูดถึงพ่อบุญธรรมด้วยความเคารพจากหัวใจปัง!ชีคอัมรานตบโต๊ะดังลั่นด้วยความโกรธสุดขีด เมื่อได้ยินลูกชายในไส้ยกย่องพ่อบุญธรรมด้วยความเคารพอย่างสุดซึ้งต่อหน้าต่อตา คิดไว้ไม่ผิดว่ามันต้องมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น เขาจึงสั่งให้ผู้ติดตามจองห้องอาหารแห่งนี้ไว้ทั

  • กุหลาบร้ายพ่ายรัก   54

    “พ่อว่าเขาก็ดูดีนะ หน้าที่การงานก็มั่นคง” อินทรีย์ไม่อ้อมค้อมอีกต่อไป เพราะไหน ๆ เธอก็รู้แล้ว“เขาอาจจะดูดีในสายตาของพ่อ แต่เขาไม่ได้ดูดีในสายตาของหนูนี่” เพื่อนของเอกอรุณดูดีแค่ไหนก็ไม่สามารถมาลบภาพคนที่อยู่ในใจเธอตอนนี้ได้หรอก คนที่อยู่ในใจแต่ไม่สามารถจับจองเป็นเจ้าของได้คนนั้น“ลูกจะเลือกไปจนถึงอายุเท่าไหร่ ไม่ได้ยินที่ป้าบุหงาเขาพูดเหรอ” อินทรีย์เตือนสติลูกสาวช่างเลือก“จำได้สิจ๊ะ” อินทิราตอบกลับแล้วนึกถึงคำพูดของผู้เป็นป้าเมื่อเย็นนี้ ‘เมื่อไหร่หลานของป้าจะได้แต่งงานกับเขาสักทีนะ ป้าจะได้อยู่เห็นหลานแต่งงานหรือเปล่า’“พ่อก็คิดไม่ต่างกับป้าเขาหรอก พ่อก็อายุมากแล้วนะป่าน อยากเห็นลูกสาวเพียงคนเดียวเป็นฝั่งเป็นฝา อยากมีหลานตาเอาไว้อุ้มบ้าง ถ้าได้อย่างที่หวังพ่อจะได้ตายตาหลับ”“ไร้สาระอีกแล้วนะพ่อ ทำไมต้องเอาเรื่องความเป็นความตายมาขู่หนูด้วย” เธอหน้างอใส่บิดา สตาร์ทรถแล้วขับออกไป “พ่อยังไม่ตายง่าย ๆ หรอก รอให้บวชลูกชายหนูก่อนแล้วค่อยคิดเรื่องนี้&rdquo

  • กุหลาบร้ายพ่ายรัก   53

    “แต่ป่านไม่เอาค่าเช่าเลยนะพี่นวล ป่านยกให้ทำฟรี ๆ แต่ถ้าป่านแก่ตัวทำงานไม่ไหว ก็ให้ไอ้เจี๊ยบมันรับเลี้ยงป่านด้วยละกัน” เธอพูดถึงหลานชายซึ่งเป็นลูกชายคนโตของทั้งคู่ ที่ดูแววว่าจะเอาดีในด้านนี้ต่อจากบุพการี“ไม่ได้หรอกป่าน ถ้าให้ก็ต้องให้เหมือนกันทุกคน ถึงพี่จะงกแต่พี่ก็มีคุณธรรมนะ” ดารากล่าวติดตลกตามสไตล์ของเธอ“แม่ว่าเรากลับมาที่เรื่องของน้องก่อนดีกว่านะ เรื่องนี้เสือกับเมียก็รับไปแล้วกัน” อุไรกล่าวด้วยสีหน้าวิตก เพราะไม่อยากให้ลูกสาวต้องเดินทางไปทำงานไกลหูไกลตาเกินไป“มาทำงานที่โรงเรียนพี่ไหมล่ะ แต่เงินเดือนคงน้อยกว่าที่เก่าประมาณสิบเท่า” สิงหเสนอสิ่งที่เป็นไปไม่ได้แก่น้องสาวคนสวย“ป่านก็อยากกลับมาทำนะคะพี่สิงห์ แต่ป่านชอบงานที่ป่านทำอยู่มากกว่า”“มาหาทำเลเปิดร้านขายส่งแบบพี่ไหมล่ะ กำไรดีนะแต่เหนื่อยหน่อย” วิหคเสนอบ้าง“ไม่เอาหรอกค่ะ ป่านไม่อยากแย่งลูกค้าพี่นก ถ้าป่านทำจริง ๆ ลูกค้าคงแห่มาที่ร้านป่านกันหมด โดยเฉพาะลูกค้าหนุ่ม ๆ” เธอพูดพร้อมรอยยิ้มกว้าง ไม่ได

  • กุหลาบร้ายพ่ายรัก   52

    ก๊อก ๆ ๆ ปัทมาเคาะให้สัญญาณก่อนเปิดประตูเข้าไปในห้องทำงานของคนรัก แล้วก็ต้องแปลกใจเมื่อคนที่อยู่ในห้องนั้นไม่ใช่เขา “สวัสดีค่ะบอส” เธอกล่าวทักทายชายหนุ่มที่นั่งอยู่หน้าโต๊ะทำงานของคนรัก “คือแก้วไม่เห็นเลขาของคุณชาลีที่หน้าห้อง ก็เลยถือวิสาสะเข้ามาเอง” อธิบายต่อเพราะกลัวเขาจะตำหนิ “ไม่เป็นไรคุณแก้ว มาหาคุณชาลีเหรอครับ” ยัสซันรู้ว่าเธอคือเพื่อนสนิทของอินทิรา และเป็นคนรักของผู้จัดการใหญ่ที่เป็นญาติสนิทของเขาด้วย “ค่ะ แล้วเขาไม่อยู่เหรอคะ” “เลขาหน้าห้องบอกว่าเขาไปพบคุณแม่ผม แต่เดี๋ยวก็คงจะมาเพราะนัดกับผมไว้แล้ว เชิญคุณแก้วนั่งรอก่อนสิ” “ค่ะ” ปัทมารับค

  • กุหลาบร้ายพ่ายรัก   51

    ‘แล้วท่านจะมั่นใจได้อย่างไรคะว่าแบบนี้เป็นทางออกที่ดีที่สุด ถ้าเผื่อ.. สมมุติว่าเขาตามป่านไปล่ะคะ’ เธอไม่อยากคิดลำพองใจไปเอง แต่ถามเผื่อเอาไว้ก็ไม่เสียหายตรงไหน‘ฉันจะพยายามปิดให้สนิทที่สุดจนกว่าเขาจะแต่งงานแล้ว ถ้าถึงเวลานั้นจริง ๆ ก็คงไม่เป็นปัญหาอีกต่อไป ฉันจะย้ายหนูกลับมา’ทำไมท่านประธานถึงมั่นใจนักว่าจะไม่มีปัญหา ทำไมท่านถึงไม่ถามเธอก่อน เพราะคนที่มีความรู้สึกคือเธอไม่ใช่ท่านซะหน่อย ถึงแม้เธอจะไม่เคยคิดไกลถึงขั้นแต่งงานกับเขา แต่การที่เขาไปมาหาสู่เธอบ่อย ๆ แบบนี้ มันทำให้เธอลืมคิดถึงตอนที่ไม่มีเขาไปซะสนิท แล้วอยู่ ๆ ก็มีคำสั่งสายฟ้าฟาดลงมาแบบนี้ เธอไร้เรี่ยวแรงจะตัดสินใจใด ๆ สมองของเธอกำลังสับสนจนจับต้นชนปลายไม่ถูก“นอนพักสักหน่อยนะ ถ้าไม่ดีขึ้นค่อยไปหาหมอ” ยัสซันเปิดประตูห้องแล้วประคองเธอไปที่เตียงนอน“คุณกลับไปเถอะ ฉันอยากพักผ่อน” เธอไล่ส่งเมื่อเขาเปิดแอร์และห่มผ้าให้เรียบร้อยแล้ว ถ้าเขายังอยู่เธอคงต้องเสียน้ำตาต่อหน้าเขาแน่“ผมไม่กลับ ผมจะทิ้งให้คุณอยู่คนเดียวได้ยังไง&r

  • กุหลาบร้ายพ่ายรัก   50

    “แก้วแอบฟังพี่คุยโทรศัพท์เหรอ” แต่เขาก็ยังแกล้งทำเป็นตีหน้าขรึมใส่หญิงสาว “ไม่น่ารักเลยนะเรา”“อย่ามาว่าแก้วแบบนี้นะคะ” เธอต่อว่าคนรักแล้วเมินหน้าหนีไปทางอื่นอย่างน้อยใจ แต่เมื่อนึกได้ว่ายังไม่ได้คำตอบก็รีบหันมาทำหน้าบึ้งตึงขู่เขา “แก้วไม่ได้แอบฟัง แต่บังเอิญเดินเข้ามาพอดีต่างหากค่ะ บอกแก้วมาตรง ๆ เลยนะว่าเกิดอะไรขึ้นกับป่าน ถ้าพี่ชาลีไม่บอกแก้ว แก้วจะไปถามป่านเขาเอง” เธอขู่เพราะรู้ว่าเรื่องนี้เป็นความลับชาลีประกบมือเข้าหากัน วางคางลงบนปลายนิ้วขณะมองคนรัก สงสัยว่าเธอได้ยินตั้งแต่ตอนไหนเพราะรู้สึกจะรู้เยอะเหลือเกิน“ถ้าพี่เล่าให้ฟัง แก้วห้ามพูดต่อไปนะแม้กระทั่งกับป่าน เพราะถ้าเรื่องนี้กระจายออกไป นั่นหมายถึงออกจากปากพี่คนเดียว เพราะคุณน้าท่านไม่ได้บอกเรื่องนี้กับใครแม้กระทั่งกับคุณเรย์มองด์และบอส” เมื่อเห็นคนรักพยักหน้ารับคำแข็งขันจึงยอมเล่าให้เธอฟัง“ท่านทำแบบนี้ทำไมคะพี่ชาลี” ปัทมาตั้งคำถามเมื่อฟังจบ“เพราะป่านเขาทำงานดี ท่านจึงอยากให้ไปดูแลสาขาที่นั่น” เรื่องเดีย

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status