Share

กุหลาบร้ายพ่ายรัก
กุหลาบร้ายพ่ายรัก
Author: ซินเหมย / ณศิกมล

1

last update Last Updated: 2025-09-02 17:56:15

บทที่ ๑ ปะทะคารม

ปิ๊นนนน!!!…

“เกิดอะไรขึ้นชาลี” เสียงเข้ม ๆ ของชายหนุ่มถามผู้จัดการใหญ่ ที่เป็นเสมือนอาจารย์คอยสั่งสอนเรื่องการทำงานให้ เมื่อคนขับรถเหยียบเบรกกะทันหันพร้อมบีบแตรค้างเอาไว้

“รถขายผลไม้ตัดหน้าครับคุณยัสซัน” ชาลีตอบเจ้านายหนุ่ม ที่จะมารับตำแหน่งซีอีโอคนใหม่ของบริษัทผลิตเสื้อผ้าส่งออกแห่งนี้

ชายหนุ่มที่มีนามว่ายัสซันขยับผ้าม่านข้างรถให้เปิดออกเล็กน้อย มองผ่านกระจกที่ติดฟิล์มมืดไว้อีกชั้นออกไปนอกรถเมื่อได้ยินดังนั้น

“ทำไมหน้าบริษัทถึงเหมือนตลาดสดแบบนี้” ชายหนุ่มหน้าตาคมเข้มแบบชาวอาหรับ ตามแก้มและคางรกไปด้วยไรเคราไรหนวดเขียวครึ้มถามขึ้น เมื่อเห็นรถขายของห้าหกคันจอดเรียงรายอยู่หน้าบริษัทของตัวเอง

“ตอนนี้เป็นช่วงพักกลางวันครับคุณยัสซัน บรรดารถของกินต่างๆ จึงมาจอดขายของให้พนักงานของบริษัทมากเป็นพิเศษ พอใกล้เวลาเข้างานเข้าพวกเขาก็จะทยอยจากไป”

“ไม่มีระเบียบเอาซะเลย” คิ้วเข้มดกดำขมวดมุ่นขณะเอ่ยปากบ่น เมื่อเห็นหญิงสาวบุคลิกดีเยี่ยม หน้าตาสวยใสไร้ที่ติคนหนึ่งเดินหน้าบึ้งมาทางนี้

ประกอบถอนหายใจยาว เตรียมตัวเตรียมใจเต็มเมื่อเห็นหญิงสาวที่สวยและปากจัดที่สุดที่ในบริษัทเดินหน้าบึ้งมาทางตน กดกระจกเลื่อนลงเมื่อเธอเดินมาถึงโดยไม่ต้องรอให้เคาะเรียก

“ขอโทษครับคุณป่าน” รีบเอ่ยปากกล่าวขอโทษก่อนที่เธอจะพูดออกมา

“ป่านบอกพี่ประกอบกี่ครั้งแล้วเรื่องขับรถเนี่ย จำได้บ้างหรือเปล่าคะ” สาวเจ้าต่อว่าคนขับรถของบริษัทโดยไม่สนใจว่าจะมีใครนั่งอยู่ในรถด้วย

“จำได้จ้ะ เวลาขับรถมาถึงบริษัทช่วงเที่ยงให้ขับช้า ๆ เพราะพนักงานจะออกมาซื้อของกินที่หน้าบริษัทกันเยอะ อาจจะเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้เพราะไม่ทันระวังจ้ะ” ประกอบบรรยายให้หญิงสาวคนสวยนามว่าอินทิราฟัง

“ก็จำได้นี่ แต่ทำไมไม่ทำ ถ้าเกิดเมื่อกี้พี่ชนถูกลุงเขาเข้าพี่จะทำยังไง”

“ขอโทษจ้ะ คราวหน้าพี่จะระวังให้มากกว่านี้”

“รับปากแล้วก็จำไว้ด้วยล่ะ ไปได้แล้ว” อินทิราโบกมือไล่ชายหนุ่ม หมุนตัวกลับไปตามทางเดิมที่เดินมา

ยัสซันหันไปมองหน้าผู้จัดการใหญ่ ทุกสิ่งที่เธอพูดเขาฟังเข้าใจแจ่มแจ้งทุกอย่าง แต่เขาอยากรู้ว่าเธอเป็นเดือดเป็นร้อนแทนลุงคนนั้นทำไม

“เธอคือใคร” เขาเลือกที่จะใช้ภาษาอังกฤษมากกว่าภาษาไทยที่ได้ร่ำเรียนมาตั้งแต่เด็กจนโต จากอาจารย์ส่วนตัวที่เป็นคนไทย แต่ถึงกระนั้นสำเนียงก็ยังไม่ชัดเจนเท่ากับการรับฟังที่เข้าใจดี จึงเลือกใช้ภาษาที่ถนัดมากกว่า

“เธอเป็นผู้จัดการการตลาดฝ่ายต่างประเทศครับ ชื่ออินทิรา จริง ๆ แล้วเธอเป็นคนปากร้ายแต่ใจดีครับ รักความถูกต้องและเป็นคนขี้สงสาร อย่าไปถือสาเธอเลยนะครับ” ชาลีอธิบายให้เจ้านายหนุ่มฟัง พร้อมกับออกตัวปกป้องหญิงสาวเจ้าอารมณ์ที่สุดในบริษัทที่ทุกคนต่างก็เกลียดไม่ลง

“ยังเด็กอยู่เลย เป็นผู้จัดการแล้วเหรอ” ชายหนุ่มตั้งข้อสงสัย

“เธออายุสามสิบแล้วนะครับชีค” มันไม่ใช่เรื่องยากที่คนรุ่นนี้จะได้ก้าวขึ้นมารับตำแหน่งสูง ๆ แบบนี้ ถ้ามีความรู้ความสามารถเต็มร้อย สมัยนี้เขาไม่ได้มองกันที่ประสบการณ์เหมือนแบบเก่าแล้ว

“หือ” แว่นกันแดดถูกดึงออกจากใบหน้า สายตาคมเข้มมองหน้าผู้จัดการใหญ่อย่างไม่อยากเชื่อ ถ้าบอกว่าเธออายุยี่สิบเจ็ดเหมือนเขา ยังฟังน่าเชื่อมากกว่าซะอีก

“ไม่ผิดแน่ครับ เธอมาฝึกงานที่นี่พร้อมกับเพื่อน และบริษัทก็จองตัวพวกเธอเอาไว้เลย พอเรียนจบพวกเธอก็เริ่มมาทำงานที่นี่ ตอนนั้นผมยังเป็นเลขาของคุณแม่ชีคอยู่เลย” หนุ่มใหญ่วัยสามสิบเก้าปีอธิบายให้เจ้านายคนใหม่รับฟัง

“ถ้ายังอยากทำงานด้วยกันนาน ๆ โดยที่ฉันยังอารมณ์ดีอยู่ก็อย่าเรียกฉันว่าชีคเลยนะชาลี ฉันไม่ชอบคำนี้เลย” ยัสซันกล่าวอย่างหงุดหงิด ตั้งแต่จำความได้คนที่ดูแลเขามาตลอดคือมารดาชาวไทย กับบิดาชาวฝรั่งเศสที่ถือสัญชาติอเมริกันต่างหาก ไม่ใช่เชื้อพระวงศ์ของรัฐหนึ่งในประเทศตะวันออกกลางคนนั้น ดังนั้นตำแหน่งนำหน้าชื่อจึงไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการแม้แต่นิดเดียว

“ครับท่าน” ชาลีรู้ดีว่าเจ้านายคนนี้ไม่ชอบให้เรียกเขาว่าชีค แต่เมื่อกี้เขาก็ลืมตัวไปเหมือนกัน

“ไม่ต้องท่านก็ได้ แค่ชื่อเฉย ๆ ก็พอ เราไม่ใช่คนอื่นคนไกลนะ”

“ครับคุณยัสซัน” ชาลีตอบรับอย่างนอบน้อม เป็นไปไม่ได้ที่ผู้จัดการอย่างเขาจะตีตัวเสมอเจ้านาย ถึงแม้ฝรั่งมังค่าเขาจะไม่ถือในเรื่องแบบนี้ แต่ความเป็นคนไทยที่มีอยู่ในสายเลือด ทำให้เขาทำแบบนั้นได้ไม่สะดวกปากเท่าไหร่นัก ถึงแม้ตามความเป็นจริงแล้ว จะเกี่ยวดองเป็นญาติสนิททางฝ่ายมารดาของชายหนุ่มก็ตาม จึงเรียกอีกฝ่ายด้วยคำว่าคุณนำหน้าก่อนตามด้วยชื่ออย่างที่เขาร้องขอ เพราะไม่อยากให้คนในบริษัทมาแอบนินทาลับหลัง...

ดวงตาคมเข้มของยัสซันเหลือบมองหญิงสาว ที่เข้ามาในห้องประชุมช้ากว่ากำหนดเกือบสิบนาทีด้วยแววตาติดตำหนิ เธอมาสายตั้งแต่วันแรกที่เขาเริ่มมาทำงานวันแรกเลยเหรอนี่

“ขอโทษค่ะ บังเอิญว่าติดสายด่วนบริษัทลูกค้าที่เยอรมัน ก็เลยไม่สามารถเข้ามาประชุมได้ตามเวลา”

“นั่นเป็นข้ออ้างของคนที่ไม่ตรงต่อเวลาหรือเปล่า” ยัสซันตำหนิเธอด้วยภาษาอังกฤษต่อหน้าผู้ร่วมประชุมคนอื่น

“ไม่เป็นไรหนูป่าน เชิญนั่งสิจ๊ะ” วารีกล่าวพร้อมรอยยิ้ม ทำเป็นไม่สนใจกับคำพูดเหน็บแนมของลูกชายที่ต่อว่าหญิงสาว

“ฉันไม่เคยผิดเวลาถ้าไม่มีเหตุฉุกเฉินค่ะ” อินทิราตอบชายหนุ่มเป็นภาษาไทยด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม ผิดกับในใจที่อยากยันอีกฝ่ายให้ร่วงลงจากเก้าอี้ซะบัดนี้ โทษฐานที่พูดจาไม่เข้าหู ทำเป็นอวดเบ่งใส่ตนต่อหน้าเพื่อนร่วมงานคนอื่น “ขออนุญาตนั่งนะคะ”

“เชิญ” ยัสซันมองหญิงสาวที่ส่งสายตาอวดดีมาให้ก่อนกล่าวเชื้อเชิญแบบแกน ๆ

“ในเมื่อทุกคนมาพร้อมกันแล้วผมก็ขอเข้าเรื่องเลยนะครับ” ชาลีเห็นสายตาของเจ้านายหนุ่มแล้วรู้สึกหายใจไม่ค่อยทั่วท้องเท่าไหร่นัก จึงรีบเข้าเรื่องก่อนที่มันจะบานปลายไปมากกว่านี้ “วันนี้ที่ท่านประธานเรียกประชุม ก็เพื่อแจ้งให้ทุกท่านทราบว่า ท่านจะให้คุณยัสซันซึ่งเป็นลูกชายมาบริหารงานแทน และตัวท่านจะรับตำแหน่งประธานอาวุโสของบริษัทคู่กับคุณเรย์มองด์ ดังนั้นตั้งแต่วันที่หนึ่งเดือนพฤษภาคมเป็นต้นไป ทุกท่านจะได้เริ่มทำงานกับผู้บริหารคนใหม่ของเราอย่างเป็นทางการ” ชาลียื่นเอกสารการเปลี่ยนแปลงระบบงานในบริษัท และประวัติเบื้องต้นของซีอีโอคนใหม่ให้ทุกคนที่ร่วมเข้าประชุม

“อีกเรื่องที่ต้องการให้ทุกท่านช่วยดำเนินการต่อ ก็คือเรื่องงานเลี้ยงรับรองซีอีโอคนใหม่ ขอให้ทุกท่านช่วยกระจายข่าวไปยังบุคคลในแผนกของท่านด้วยนะครับ”

ผู้จัดการฝ่ายต่าง ๆ ที่อยู่ในห้องต่างตอบรับโดยพร้อมเพรียง เมื่อเสร็จเรื่องแล้วจึงแยกย้ายกันกลับไป...

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • กุหลาบร้ายพ่ายรัก   11

    “กรี๊ดดดด..” อินทิรารีบคว้าผ้าขนหนูที่ถูกเขากระชากจนหลุดออกจากร่าง แต่แรงหญิงหรือจะสู้แรงชาย สุดท้ายเธอก็มีเพียงบราเซียตัวจิ๋วปกปิดเรือนร่างส่วนบนเอาไว้ เมื่อเห็นชายหนุ่มโน้มกายหมายเข้ามาหา จึงยกเท้าถีบไปที่ใบหน้าคมเข้มนั้นเต็มแรงจนเขาเสียหลัก รีบอาศัยจังหวะนี้คลานลงจากเตียง วิ่งหนีสุดฝีเท้ายัสซันรีบขยับตัวตั้งท่าลุกขึ้นอย่างหัวเสีย วิ่งตามหญิงสาวฝีเท้าหนักที่ทำเอาเขาวูบไปชั่วขณะ เธอมันร้ายได้ทุกสถานที่จริง ๆ ขนาดอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้ยังกล้าลงมือ ถ้าทำกันขนาดนี้ก็อย่าหวังว่าจะรอดออกไปได้ง่าย ๆ“กรี๊ดดดด..” สองเท้าของเธอตะกุยอยู่ในอากาศ เพราะถูกร่างที่สูงใหญ่กว่าโอบอุ้มจากข้างหลังจนตัวลอย “ปล่อยฉันนะไอ้เลว ไอ้ระยำ แกจะต้องเสียใจที่ทำกับฉันแบบนี้” เธอยังดีดดิ้นเพื่อให้หลุดจากการโอบกอด“ใครกันแน่ที่ต้องเสียใจ กล้าถีบหน้าผมก็ต้องชดใช้ให้สาสม” จมูกโด่งเป็นสันแตะที่ขมับของหญิงสาว กระซิบที่หูขณะหิ้วเธอกลับไปที่เตียงนอน เหวี่ยงเธอลงไปบนเตียงหลังใหญ่อีกครั้ง แล้วรีบโถมกายตามไปติด ๆ จัดการลงโทษตามแบบที่ต้องการ

  • กุหลาบร้ายพ่ายรัก   10

    ยัสซันกระตุกยิ้มที่มุมปากเมื่อเห็นไฟในห้องเปิดเอาไว้ เดินดิ่งไปยังห้องนอนรับรองแขก เปิดประตูเข้าไปโดยไม่เคาะขออนุญาต ในห้องไร้ตัวตนของหญิงสาวที่ได้ตกลงนัดหมายกันไว้ล่วงหน้า มีเพียงเสื้อและชั้นในที่วางไว้บนหมอนใบใหญ่ ทำให้รู้ว่าเธอกำลังอาบน้ำอยู่และเพื่อไม่ให้เสียเวลา จึงจัดการกับเสื้อผ้าของตัวเอง คว้าผ้าขนหนูสีขาวบนเตียงมาพันปกปิดท่อนล่างเอาไว้ลวก ๆ เดินออกไปหยิบบรั่นดีชั้นเยี่ยมพร้อมแก้วทรงสูงสองใบบานประตูแบบกระจกถูกผลักออกอย่างเบามือกว่าเดิม เพราะกลัวของที่ถือมาด้วยจะกระทบโดนจนเกิดความเสียหาย.. แต่แล้วใบหน้าที่เปื้อนด้วยรอยยิ้มจาง ๆ ของยัสซันก็ต้องตะลึงค้าง.. เมื่อมองเห็นแผ่นหลังขาวผุดผาดของสตรีนางหนึ่งที่กำลังขยับเสื้อในตัวสวยให้เข้าที่เพียงแค่เห็นด้านหลังเขาก็นึกไปถึงอินทิราทันที นางแบบคนนี้กับเธอคนนั้นช่างเหมือนกันราวกับแกะ รูปร่าง ทรงผม สีผิว.. เขารีบดึงสติให้กลับมาอยู่กับความเป็นจริงตรงหน้า ไม่ยอมให้หญิงร้ายคนนั้นมามีอำนาจกับความคิดของตน“จะใส่กลับเข้าไปทำไมให้เสียเวลา เดี๋ยวเราก็ต้องถอดมันออกอยู่ดี” เขาพูดกับเธอแล้วก้าวเท้าเข้าไปหา

  • กุหลาบร้ายพ่ายรัก   9

    ยัสซันหัวเราะออกมาเบา ๆ พยักหน้ายอมรับที่อีกฝ่ายพูดออกมา “คนสมัยนี้มันน่ากลัวนะ ไม่ว่าจะผู้หญิงหรือผู้ชาย ผู้หญิงยอมเป็นเมียน้อยเมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายมีเงิน ส่วนผู้ชายก็ยอมมีเมียแก่รุ่นแม่เมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายมีเงิน สรุปแล้วมีแต่คนหาเกาะใหญ่ ๆ ที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยของกินดี ๆ กันทั้งนั้น ไม่มีใครยอมอยู่เกาะที่รกร้างว่างเปล่ากันหรอก ต่อให้เกาะนั้นมีธรรมชาติที่งดงามเพียงไหนก็ตาม”“ฮา ๆ ๆ มันก็จริงอย่างที่นายว่านั่นแหละ สมัยนี้เงินเท่านั้นที่บันดาลความสุข ไม่ใช่ความรักหรอก”“มาดื่มกันดีกว่า อย่าเพิ่งพูดถึงเรื่องที่ยังเป็นไปไม่ได้เลย” ยัสซันยื่นแก้วเหล้าขอชนกับอีกฝ่ายพร้อมรอยยิ้ม“ดื่ม”...อินทิราบอกลากับเด็กหนุ่มหลังจากดูหนังเสร็จ เพื่อไปทำงานตามที่รับปากกับชาลีเอาไว้“ให้ปอไปเป็นเพื่อนนะครับพี่ป่าน”“ไม่ต้องหรอกปอ กลับบ้านไปอ่านหนังสือเถอะ กว่าพี่จะกลับคงดึก”“แต่ปอเป็นห่วงพี่ป่านนี่ครับ พี่ป่านสายตาสั้นด้วย ขับรถตอนกลางคืนมันอันตรายนะครับ” ชินวุฒิย

  • กุหลาบร้ายพ่ายรัก   8

    ชินวุฒิโบกมือให้อินทิราที่กำลังขึ้นบันไดเลื่อน พร้อมฉีกยิ้มกว้างส่งให้เธอ.. “พี่ป่านครับ เราไปหาอะไรทานกันก่อนนะครับ ยังมีเวลาอีกตั้งชั่วโมงกว่า” เด็กหนุ่มบอกกับหญิงสาวที่โตกว่าเก้าปี ขณะมองนาฬิกาบนข้อมือที่บอกเวลาสิบเจ็ดนาฬิกากว่า ๆ“จะทันเหรอ ถ้าทันก็ไปกินสิ”“เหลือเฟือครับพี่ป่าน เข้าโรงหนังช้าหน่อยก็ได้ เพราะมันมีโฆษณาตั้งเกือบครึ่งชั่วโมง”“ตามใจจ้ะ”“ครับผม” เมื่อเธอตอบรับเขาจึงถือโอกาสจูงมือเธอเดินไปที่ร้านอาหารโปรดของเธอเพราะวันนี้เป็นวันจันทร์ ลูกค้าในร้านจึงบางตากว่าปกติ ทั้งคู่จึงไม่ต้องเสียเวลารอคิว สามารถเข้าไปหาที่นั่งที่ถูกใจได้เลย“ปิดเสียงโทรศัพท์หรือยังปอ” อินทิรากระซิบถามเด็กหนุ่มเมื่อเข้ามานั่งในโรงหนัง และหยิบโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นมากดเปลี่ยนสถานะเป็นระบบสั่น“ปิดตั้งแต่ตอนที่ออกมาจากห้องน้ำแล้วครับ” ชินวุฒิตอบพร้อมกับโชว์โทรศัพท์ให้หญิงสาวดู“ดีมาก” แล้วหันไปสนใจจอหนังขนาดใหญ่.. ขณะที่หนังกำลังเดิน

  • กุหลาบร้ายพ่ายรัก   7

    “ฉันเป็นแค่พนักงาน ไม่อาจตีตัวเสมอเจ้านายได้หรอกค่ะ” เธอไม่ทำตามคำสั่งของเขา ก้าวเข้าไปนั่งเคียงข้างกับคนขับรถ“แต่นี่เป็นคำสั่ง” ทำไมเธอต้องทำให้เขาหัวเสียได้ทุกครั้งที่พบกันนะ“คำสั่งที่ไม่มีเหตุผล ฉันมีสิทธิ์ไม่รับฟังค่ะ”“แต่ผมมีเรื่องงานต้องคุยกับคุณ”“ก็คุยมาสิคะ อยู่ตรงนี้ฉันก็ได้ยิน”“คุณบอกว่าไม่ชอบคุยเรื่องเดียวกันซ้ำหลายรอบ แล้วทำไมคุณถึงคุยเรื่องที่ผมถามเมื่อเช้านี้กับคุณแม่ผมล่ะ”เรียวปากอวบอิ่มสีชมพูระเรื่อคลี่ยิ้มบางเบา เอียงหน้าไปมองทางด้านหลัง “ตอนเที่ยงไม่ใช่เวลาทำงานของฉัน ฉันสามารถจะคุยกับใครก็ได้ ในเรื่องที่ฉันพอใจ”‘ให้มันได้อย่างนี้สิ ผู้หญิงบ้านี่’ ยัสซันขบกรามแน่นด้วยความขัดใจกับคำตอบยียวนกวนประสาทของเธอ“แสดงว่าต่อไปนี้ ถ้าผมอยากรู้เรื่องอะไรก่อนการประชุม ผมก็สามารถถามคุณตอนเที่ยงได้ใช่ไหม”“มันก็ขึ้นอยู่กับความพอใจส่วนตัวของฉันอีกนั่นแหละค่ะ ถ้าฉันอยากจะตอบฉันก็ตอบ แต่ถ้าไม่ก็คือไม่ ในกรณีของท่านประธานฉันนับถือท่านมาก ฉันจึงเต็มใจตอบทุกคำถามของท่าน ถึงแม้จะเป็นในเวลางานก็ตาม”“คุณ.. คุณ.. คุณกำลังท้าทายผมใช่ไหม คิดว่าผมไม่มีฝีมือในการทำงานหรือไง คุณถึงทำท่า

  • กุหลาบร้ายพ่ายรัก   6

    สตรีวัยห้าสิบที่ยืนอยู่ข้างหน้าเขาตอนนี้เป็นลูกสาวของลูกชายคนโตของปู่ ส่วนบิดาเขาเป็นน้องคนสุดท้องในบรรดาพี่น้องแปดคน จึงนับญาติเป็นพี่น้องกัน แต่เมื่ออยู่ในบริษัทนางก็คือประธานใหญ่ที่เขาต้องให้ความเคารพ“เธอน่าจะไปเป็นตำรวจหรืออัยการ มากกว่ามาเป็นผู้จัดการใหญ่ให้บริษัทพี่นะ” วารีตีต้นแขนชายหนุ่มพร้อมกับหัวเราะเบา ๆ “เขาอยู่ไหม”“อยู่ครับ แต่น่าจะคุยอยู่กับคุณป่าน” เขาก็เพิ่งออกจากห้องทำงานมาเหมือนกัน จึงไม่รู้ว่าหญิงสาวที่กล่าวถึงจากไปสักพักแล้ว“หนูป่านกลับไปแล้ว เมื่อกี้พี่เพิ่งคุยกับเธอเอง พี่ไปหาลูกก่อนนะ แล้วว่าง ๆ เราค่อยไปทานข้าวด้วยกัน” วารีบอกกับชายหนุ่ม“ครับท่านประธาน” ชาลีโค้งศีรษะให้เล็กน้อย รอจนนางเดินผ่านไปแล้ว จึงเดินไปที่โต๊ะผู้ช่วยของตน...อินทิรานึกสงสัยอยู่ในใจเมื่อเดินทางมาถึงร้านอาหารสุดหรู ที่ตั้งอยู่ภายในโรงแรมขึ้นชื่ออันดับต้น ๆ ของประเทศไทย แต่สตรีสูงวัยเลือกที่จะปฏิเสธการสั่งอาหารเอาไว้ก่อน ขอเพียงน้ำเปล่ามาดื่มเท่านั้น“น้ำเปล่าเหมือนกันค่ะ” ไม่ต้องรอให้อีกฝ่ายอธิบาย เธอรู้ได้ด้วยตัวเองว่าท่านประธานต้องรอใครบางคนอยู่“ฉันได้ข่าวมาว่าทางบริษัทคู่ค้าของเราที

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status