로그인เพราะตกหลุมรักตั้งแต่แรกเจอ เขาเลยอยากจีบเธอให้มาเป็นภรรยา เปลี่ยนจากคุณครูเจ้าขา มาเป็นคุณอาให้หลานสาว
더 보기“นักเรียนทั้งหมดเคารพธงชาติ แถวตรง ประเทศไทย รวมเลือดเนื้อเป็นชาติเชื้อไทย...........................”
เสียงผู้นำร้องและเสียงขานรับของเด็กๆ ตั้งแต่ชั้นอนุบาลไปจนถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่สามดังขึ้นอย่างพร้อมเพรียงกัน เช้านี้ไม่มีอะไรแปลกใหม่สำหรับโรงเรียนรัฐบาลแห่งนี้ แต่วันนี้เป็นการเริ่มต้นใหม่ของคุณครูสาวสวยที่เพิ่งย้ายมาประจำอยู่ที่นี่
สาวสวยที่มีรูปร่างสมส่วน สูงราว165เซนติเมตร มีผมยาวสีดำขลับ เรียบตรง ผิวกายขาวเนียน ใบหน้ารูปไข่ขาวใสไร้ริ้วรอยให้ระคายเคืองสายตา ดวงตากลมโต ขนตางอนยาวเป็นแพ ปากบางแต่งแต้มด้วยลิปมันเพื่อไม่ให้ริมฝีปากแห้งจนอาจดูไม่งาม
ด้วยความที่ตนเองเป็นครูและเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับนักเรียนใบหน้างามจึงถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางบางเบาเท่านั้น ชุดเครื่องแบบสีกากีที่ทำให้ครอบครัวของเธอภาคภูมิใจถูกรีดเรียบกริบแลดูเรียบร้อย ใบหน้าหวานมีรอยยิ้มงดงามที่ใครได้มองก็รู้สึกประทับใจอยากที่จะยิ้มตามไปด้วยประดับอยู่
“สวัสดีค่ะนักเรียนทุกคนวันนี้ครูมีเรื่องที่จะแจ้งให้ทราบ โดยเฉพาะนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่1 ห้อง1/2 หลังจากที่ครูประจำชั้นคนเดิมเพิ่งลาออกไปหลังจากจบภาคเรียนที่1 ตอนนี้เข้าสู่ภาคเรียนที่2แล้ว ทางโรงเรียนได้มีคุณครูคนใหม่มาสอนแทนแล้วค่ะ ขอเสียงปรบมือให้คุณครูเจ้าขา เอกดำรงกุล ขอเชิญคุณครูเจ้าขามาแนะนำตัวให้เด็กๆ ได้รู้จักกันหน่อยค่ะ”
เสียงของคุณครูประชาสัมพันธ์เช้านี้เกริ่นบอกนักเรียนขณะที่เคารพธงชาติเรียบร้อยแล้ว คุณครูคนใหม่ยิ้มแย้มให้เด็กๆ ที่มองมาที่เธอเป็นตาเดียวกัน เธอเดินด้วยท่วงท่างดงามไปหาครูฝ่ายประชาสัมพันธ์แล้วยกมือไหว้อย่างสวยงาม ก่อนที่จะรับไมค์มาจากมือของคุณครูท่านนั้น
“สวัสดีค่ะนักเรียนโรงเรียนXXXทุกคน คุณครูชื่อ เจ้าขา เอกดำรงกุล จบการศึกษาปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยศิลปากร คณะครุศาสตร์ เอกประถมศึกษา เกียรตินิยมอันดับสอง คุณครูจะมาเป็นครูประจำชั้นคนใหม่ของเด็กๆ ห้องป1/2 และจะมาเป็นครูสอนประจำวิชาภาษาอังกฤษของระดับชั้นประถมศึกษาปีที่1-3 คุณครูขอฝากเนื้อฝากตัวกับนักเรียนทุกคนด้วยนะคะ หวังว่าทุกครั้งที่เราเจอกันเราจะทักทายสวัสดีกันนะ วันนี้คุณครูขอให้เด็กๆ ทุกคนตั้งใจเรียนและมีความสุขกับการเรียนค่ะ ขอบคุณค่ะ”
คุณครูสาวเอ่ยจบ นักเรียนทุกคนทุกระดับชั้นก็ปรบมือต้อนรับคุณครูคนใหม่ดังสนั่นแถว หลังจากแนะนำตัวเสร็จคุณครูคนสวยก็เดินกลับไปคุยกับคุณครูอาวุโสท่านอื่น พอเลิกแถวนักเรียนก็เดินกันอย่างเป็นระเบียบเพื่อกลับเข้าห้องเรียนของตน ห้องป.1/2 เสียงคุยกันจ้อกแจ้กจอแจของเด็กเล็กๆ ดังสนั่นไปทั่วทั้งห้อง จับใจความสำคัญไม่ได้เนื่องจากเด็กๆ ยังเล็กกันอยู่ คุณครูคนสวยเดินเข้าห้องมาพร้อมกับสื่อการเรียนการสอนที่อยู่ในมือ
“สวัสดีจ้าเด็กๆ” เสียงหวานใสกังวานเรียกความสนใจจากเด็กน้อยในห้องทันที
“นักเรียนทั้งหมดทำความเคารพ” เด็กหญิงตัวน้อยน่ารักคนหนึ่งลุกขึ้นกล่าว ซึ่งดูแล้วสาวน้อยน่าจะเป็นหัวหน้าห้อง
“สวัสดีค่ะ/ครับ คุณครู” เด็กนักเรียนตัวน้อยทั้งหมดยืนตรงพนมมือก่อนที่จะกล่าวทักทายสวัสดีดังไปทั่วห้อง
“เอาล่ะ นั่งลงได้จ้ะ” คุณครูสาวบอกเหล่านักเรียนตัวน้อยด้วยรอยยิ้ม
“สวัสดีค่ะ เด็กๆ พวกเรารู้จักคุณครูกันแล้วใช่ไหมเอ่ย ทีนี้ตาครูทำความรู้จักพวกเราทุกคนหน่อยนะ เริ่มจากหัวหน้าห้องก่อนเลยจ้ะ”
คุณครูสาวยืนอยู่หน้าห้องก่อนที่สายตาจะจับจ้องไปที่เด็กผู้หญิงผมเปียที่มีใบหน้า น่ารักราวกับตุ๊กตา สาวน้อยส่งยิ้มกลับก่อนที่จะลุกขึ้นยืนแล้วแนะนำตัวกับคุณครูประจำชั้นคนใหม่
“สวัสดีค่ะ หนูชื่อเด็กหญิง พิชญ์สินี เสสกุล ชื่อเล่นน้องน้ำหวานค่ะ” สาวน้อยน่ารักที่คาดว่าน่าจะเป็นหัวหน้าห้องแนะนำตัวด้วยรอยยิ้ม
“สวัสดีจ้ะน้องน้ำหวาน คนต่อไปค่ะ” คุณครูเจ้าขาเอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้ม
“สวัสดีค่ะ หนูชื่อเด็กหญิง สุวิมล จันตี ชื่อเล่นน้องมนค่ะ” สาวน้อยหน้าหวานคนที่สองแนะนำตนเอง
“สวัสดีครับ ผมชื่อเด็กชายกวีพัฒน์ เอกพงศ์ ชื่อเล่นน้องวีครับ” หนุ่มน้อยหน้ามนแนะนำตัวถัดมา
“สวัสดีครับ ผมชื่อเด็กชายรพีพงษ์ เอกพงศ์ ชื่อเล่นน้องพีครับ”
หนุ่มน้อยหน้าตาคล้ายๆ กันเอ่ยแนะนำตนเองบ้าง คุณครูสาวมองหน้าเด็กชายทั้งสองอย่างพยายามแยกใบหน้าเด็กทั้งคู่ ก่อนรอยยิ้มงามจะปรากฏบนใบหน้างาม เด็กชายสองคนเป็นฝาแฝดกันก็จริงแต่ดูมีบุคลิกที่ต่างกันอยู่พอสมควร คนแรกจะดูนิ่งๆ แต่คนที่สองจะดูช่างคุยหน่อย จนถึงเด็กคนสุดท้าย ห้องป.1/2 ห้องนี้มีนักเรียนทั้งหมด25คน เจ้าขาใช้การจดจำใบหน้าของเด็กๆ คนที่โดดเด่นเธอก็มักจะจำได้ขึ้นใจอย่างเช่นสองเด็กหญิงคนที่หนึ่งกับสองและเด็กชายฝาแฝดทั้งสอง
“วันนี้คุณครูเจ้าขาจะยังไม่สอน แต่อยากลองทดสอบภาษาอังกฤษของพวกเราก่อนว่ามีระดับไหน น้องน้ำหวานคะ มารับใบงานไปแจกให้เพื่อนๆ ค่ะ”
คุณครูสาวเอ่ยขึ้นพร้อมกับรอยยิ้ม เด็กหญิงตัวน้อยรีบลุกตามคำสั่งของคุณครู นำกระดาษA4ที่เป็นใบงานไปแจกให้เพื่อนๆ จนครบทุกคน
“คุณครูจะให้นักเรียนลากเส้นจับคู่ง่ายๆ ก่อนนะคะ”
ครูสาวหันไปหยิบปากกาเมจิกเขียนลงบนไวท์บอร์ดเพื่อให้เด็กๆ ได้ดูเป็นตัวอย่าง เด็กๆ รู้สึกสนุก เพราะคุณครูคนก่อนไม่ได้มีกระดาษแบบนี้มาให้ได้ลองขีดเขียน เด็กน้อยทั้งยี่สิบห้าคนขานรับทราบก่อนที่จะเริ่มลงมือทำ
คุณครูสาวเดินดูตามโต๊ะแล้วยิ้มออกมาอย่างพอใจ โดยเฉพาะน้องน้ำหวาน น้องมน และสองแฝดที่ดูจะรู้มากกว่าเด็กคนอื่นๆ ในวัยเดียวกัน และยังมีเด็กในห้องอีกหลายคนที่ยังทำไม่ได้และบางคนก็ทำได้ดี
เธอให้ทดสอบเพื่อที่เธอจะได้รู้ว่าเด็กคนไหนควรจะปรับปรุงและเพิ่มเติมอะไรเข้าไปให้ พอใกล้จะหมดคาบสอนเด็กน้อยหัวหน้าห้องก็เดินเก็บผลงานของเพื่อนทุกคนมาส่งให้คุณครูคนสวย
หนุ่มหล่อในชุดสบายๆ สวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาวกางเกงยีนขายาวสีเข้ม รองเท้าหนังขัดมันกำลังเปิดประตูรถเมอซิเดสเบนซ์ของตนลงไปยืนรอรับหลานสาวตรงจุดรับเด็กนักเรียนซึ่งไม่สามารถนำรถเข้าไปจอดได้
เขาปฏิบัติหน้าที่แทนผู้เป็นบิดาและมารดาของหลานสาวมาร่วมสี่ปีแล้ว ตั้งแต่อุบัติเหตุร้ายที่พรากพ่อแม่ของหลานสาวตัวน้อยและผู้ที่เป็นพี่ชายและพี่สะใภ้ของเขาไปอย่างไม่มีวันกลับ เขาต้องทำหน้าที่นี้แทนทุกอย่าง ทำให้เขาไม่คิดจะมีแฟนสักที เพราะอยากที่จะเลี้ยงดูและใส่ใจหลานสาวคนเดียวให้ดีก่อน
“คุณอาณดลขา..............”
เสียงหวานเจื้อยแจ้วดังมาจากกลุ่มเด็กนักเรียนที่เดินต่อแถวกันมา พอใกล้ถึงตัวคุณอาสุดหล่อ สาวน้อยก็ตรงไปหายกมือไหว้สวัสดีและโอบกอดอาหนุ่มที่นั่งยองๆ รออยู่ด้วยความรัก ชีวิตนี้หนูน้อยเหลือเพียงคุณปู่คุณย่าและคุณอาดลเท่านั้นเพราะมารดาของเธอก็เป็นเด็กกำพร้าเช่นกัน หนุ่มหล่อรวบตัวหลานมากอดไว้ด้วยความรักเช่นกัน
“วันนี้เรียนเป็นยังไงบ้างครับ” คุณอาคนหล่อเงยหน้าถามหลานสาวตัวน้อยก่อนจะจูงมือพากันเดินไปที่รถ
“วันนี้น้องน้ำหวานเรียนสนุกมากเลยค่ะ อ้อ ตอนนี้ห้องน้ำหวานมีคุณครูประจำชั้นคนใหม่แล้วนะคะ ชื่อคุณครูเจ้าขา คุณครูเจ้าขาของน้องน้ำหวานสวยมากเลยค่ะ ยิ้มทีนี่ทำให้น้องน้ำหวานรู้สึกมีความสุขจังเลยค่ะ น้องน้ำหวานชอบเวลาที่เห็นครูเจ้าขายิ้ม”
หลานสาวตัวน้อยยังตั้งใจเล่าเรื่องราวของคุณครูประจำชั้นคนใหม่ให้คุณอาสุดหล่อฟังอย่างมีความสุขและไม่รู้จักเบื่อแม้ว่ารถจะเคลื่อนตัวออกจากโรงเรียนมาไกลมากแล้วก็ตาม ทำให้คุณอาสุดหล่อนั้นเริ่มสนใจ และแอบจินตนาการตามคำพูดของหลานสาว
ชักอยากจะเห็นตัวจริงแล้วสิ ว่าคุณครูเจ้าขาของน้องน้ำหวานที่ว่าสวย และรอยยิ้มของเธอทำให้หลานสาวเค้ามีความสุข นี่จะมีหน้าตาเป็นเช่นไร หลานสาวตัวน้อยยังเล่าเรื่องการเรียนของตนให้คุณอาหนุ่มฟังไม่หยุด เธอรักเขาเหมือนกับเป็นพ่อแท้ๆ เพราะตั้งแต่เธอโตมาคุณอาของเธอก็เป็นทุกอย่างให้เธอ
สองสัปดาห์ต่อมาวันปิดภาคเรียนแรกมาถึง ณดลพาครอบครัวเสสกุลซึ่งประกอบไปด้วย เจ้าขา น้องน้ำหวาน น้องเจ้าขุน น้องณดา และป้าชื่นแม่บ้านเดินทางด้วยรถตู้ครอบครัวที่เพิ่งออกมาใหม่เมื่อสองปีก่อนตอนเขามีบุตรสาวคนเล็กเดินทางไปที่หัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ สถานที่ที่เขาเคยขอเจ้าขาแต่งงาน“อีกนานไหมฮะกว่าจะถึง” น้องเจ้าขุนเอ่ยถามพี่สาวที่นั่งอยู่ข้างๆ ตน“อืม....อีกไม่นานแล้วค่ะ” น้องน้ำหวานเปิดจีพีเอสในสมาร์ทโฟนของตนดูก่อนที่จะตอบน้องชาย“ตื่นเต้นหรอเรา ดูน้องณดาสิหลับปุ๋ยเลย” เจ้าขาหันไปถามบุตรชายก่อนที่จะหันไปมองบุตรสาวที่นอนหลับอยู่ในเบาะคาร์ซีทข้างๆ“ฮะ เจ้าขุนอยากเล่นน้ำทะเล ที่สำคัญ เจ้าขุนอยากทานกุ้งเผาฮะคุณแม่” เด็กน้อยตอบมารดาอย่างกระตือรือร้น“ฮ่าๆๆๆ เจ้าขุนลูกรู้ไหมครับว่าตอนคุณแม่ท้องลูก คุณแม่ก็อยากทานแต่กุ้งเผาเหมือนกัน สงสัยจะชอบมาตั้งแต่ในท้องเลยนะเราเนี่ย”เจ้าขาอดที่จะขำออกมาไม่ได้เมื่อนึกถึงตอนที่เธอตั้งท้องบุตรชาย เธอสั่งให้สามีซื้อกุ้งเผากลับมาให้ทานที่บ้านอยู่บ่อยๆ ซึ่งณดลก็ไม่เคยขัดใจเธอเลยสักครั้ง ณดลที่ขับรถอยู่ก็ยิ้มออกมาอย่างมีความสุขเมื่อนึกถึงช่วงเวลาที่ภรรยาตั้งค
เสียงเชียร์ดังขึ้นอยู่ที่ข้างสนามฟุตบอล นางสาวพิชญ์สินี เสสกุลหรือน้ำหวานนั่งไม่ติดเพราะกำลังลุ้นที่เพื่อนชายนั้นเตะฟุตบอลไปใกล้ประตูและในที่สุดยอร์ชก็เตะลูกฟุตบอลเข้าประตูไปอย่างสวยงาม“กรี๊ด.................เย้ๆ” เสียงกรี๊ดแสดงถึงความดีใจดังขึ้นพร้อมกับเสียงปรบมือ ยอร์ชหันมามองที่เพื่อนสาวก่อนน้ำหวานจะชูนิ้วโป้งให้“วู้วๆๆ พี่ยอร์ชเท่ชะมัดยาดเลย” เด็กชายขุนพล เสสกุลหรือน้องเจ้าขุนที่นั่งอยู่ข้างๆ พี่น้ำหวานเอ่ยขึ้นอย่างตื่นเต้น ก่อนที่เด็กน้อยจะปรบมือให้กับความเก่งเพื่อนของพี่สาว“พี่ยอร์ชเก่งใช่ไหมล่ะน้องเจ้าขุน” น้ำหวานเอ่ยถามน้องชายขึ้น“เก่งมากเลยฮะ” เจ้าขุนเห็นด้วยกับพี่สาว“พ่อก็ว่างั้นๆ แหละ” ณดลสวนขึ้นทันที วันนี้เขามาดูแลหลานสาวและบุตรชายที่ขออนุญาตมาดูเพื่อนชายแข่งฟุตบอล คุณอาขี้หวงจึงไม่ปล่อยให้หลานสาวมากับน้องชายตามลำพัง“คุณพ่อเตะฟุตบอลเป็นไหมฮะ เจ้าขุนอยากจะเตะฟุตบอลเก่งๆ บ้าง” น้องเจ้าขุนเอ่ยถามบิดาขึ้นมาทันที“ตั้งแต่พี่โตมาจนสิบห้าปี พี่ยังไม่เคยเห็นพ่อเราไปเตะฟุตบอลเลยเจ้าขุน” น้ำหวานเอ่ยขึ้นทันทีจนคนเป็นอาจ้องตาเขม็ง“ทำไมจะเตะไม่เป็น มันจะไปยากอะไร ตอนหนุ่มๆ สมัย
“คุยอะไรกันจ๊ะเด็กๆ” เจ้าขาเดินมาพร้อมกับคุณครูอมิตาและคุณครูวัลลภ“เด็กสมัยนี้โตวัยเนอะ ลูกสาวที่บ้านก็เพิ่งจะขวบกว่าๆ แต่รู้เยอะเหลือเกิน” คุณครูอมิตาอดที่จะคิดถึงบุตรสาวตัวน้อยที่มีบิดาคอยดูแลอยู่ที่บ้านไม่ได้“ใช่ค่ะ อย่างน้องณดานั่นก็รู้หมด แค่สองขวบเองนะคะ” เจ้าขาเอ่ยถึงบุตรสาวคนเล็กขึ้นบ้าง“สวัสดีค่ะคุณครูวัลลภ คุณครูอมิตา คุณครูเจ้าขา” เด็กทั้งสามยกมือไหว้ทักทายคุณครูทั้งสาม“คุณแม่ฮะ พี่ยอร์ชชวนพี่น้ำหวานกับน้องเจ้าขุนมาดูพี่ยอร์ชแข่งฟุตบอลเดือนหน้าครับ” เด็กน้อยรีบรายงานคนเป็นแม่ทันที“อ๋อ แล้วน้องน้ำหวานกับน้องเจ้าขุนอยากดูเพื่อนกับพี่เขาแข่งไหมล่ะลูก” เจ้าขาเอ่ยถามหลานสาวและบุตรชายด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน“น้ำหวานต้องมาดูอยู่แล้วค่ะ เพราะยอร์ชเป็นเพื่อนของน้ำหวาน” นางสาวพิชญ์สินีตอบคุณอาคนสวย“น้องเจ้าขุนก็จะมากับพี่น้ำหวานครับ คุณพ่อบอกว่าน้องเจ้าขุนเป็นผู้ชายต้องคอยปกป้องดูแลผู้หญิงให้ดี”คำตอบของเด็กชายทำเอาคุณครูทั้งสามหัวเราะออกมาอย่างเอ็นดู ส่วนน้องน้ำหวานก็ได้แต่ยิ้มให้กับความไร้เดียงสาน่าเอ็นดูของน้องชาย ยอร์ชขอตัวไปซ้อมต่อ ก่อนที่จะยกมือไหว้ลาคุณครูทั้งสามและเอ่ยลาน้อ
2 ปีต่อมา“น้องณดาขา พี่เจ้าขุนไปโรงเรียนก่อนนะคะ เลิกเรียนแล้วพี่จะกลับมาเล่นด้วยนะคะคนสวย”เด็กชายขุนพล เสสกุล หรือน้องเจ้าขุน อายุ5ขวบ บุตรชายคนโตของณดลกับคุณครูเจ้าขาเข้ามาหอมแก้มน้องสาววัยสองขวบก่อนที่จะบอกกับน้องด้วยน้ำเสียงที่ไพเราะอ่อนหวาน“พี่น้ำหวานก็ไปโรงเรียนก่อนนะคะ เดี๋ยวเลิกเรียนพี่จะมาพาไปปั่นจักรยานเล่น” นางสาวพิชญ์สินี เสสกุลในวัย 15ปีเอ่ยกับน้องสาวคนเล็กของบ้านเช่นกัน“ค่ะ ณดาจะรอน้า” สาวน้อยตอบก่อนที่จะยิ้มหวานให้กับพี่ๆ“ไปกันได้แล้วเด็กๆ เดี๋ยวสาย คุณพ่อไปก่อนนะคะลูกสาว” ณดลเอ่ยขึ้นขณะที่เดินลงมาจากชั้นสองของบ้านพร้อมกับภรรยาคนสวย“กอดหน่อย”เด็กหญิงตากลมกางแขนให้บิดากอด ณดลมองบุตรสาวด้วยแววตาเอ็นดูก่อนที่จะอุ้มร่างเล็กขึ้นมาแนบอกแล้วกดจมูกโด่งลงบนแก้มนุ่มทั้งซ้ายและขวา“คุณแม่กอดหนูด้วย”เด็กหญิงกางแขนออกให้มารดารับเธอไปอุ้มบ้าง เจ้าขายื่นแขนไปรับตัวบุตรสาวมาจากสามีก่อนที่จะกดจมูกของเธอลงไปบนแก้มนุ่มทั้งสองข้างเช่นกัน“คุณแม่ไปสอนหนังสือก่อนนะคะ อยู่กับคุณย่าชื่นอย่าซนนะลูก” เจ้าขาบอกบุตรสาวขณะที่วางร่างเล็กลงให้ยืนที่พื้น“ค่ะคุณแม่ บ๊ายบายค่ะ”น้องณดารับคำก่อน