“งั้นข้าจะอัญเชิญออกมาให้ดู คนที่กล้าแอบอ้างถึงเทพระวังตัวเอาไว้ให้ดี เชิญเทพไป๋หู่เสี่ยวไป๋ไป๋ออกมาให้ทุกคนได้เห็นกับตาเดี๋ยวนี้!!”พรึบบ!!!! โฮกกกก“นะ นะ นั่นพวกเราดูบนฟ้าสิ นั่นคือสัตว์เทพไป๋หู่คุณหนูลู่ชิงอัญเชิญเทพได้จริง ๆ คารวะท่านเทพไป๋หู่”“คารวะท่านเทพไป๋หู่ โปรดปกป้องคุ้มครองพวกเราให้อยู
เต็งอีนำเงินที่โม่ฟางจิงมอบให้ ออกจากจวนไปพบหญิงสาวคนหนึ่งที่เช่าบ้านเล็ก ๆ และมีลูกน้องอีกสองคน ทำมาหากินด้วยการทำนายดวงชะตา จึงพอมีเงินใช้ค่อนข้างดีเพราะผู้คนมักจะเชื่อเรื่องดวงชะตาพวกนี้ นางจึงนำมาใช้ให้เป็นประโยชน์ งานง่าย ๆ แต่ก็ได้เงินง่าย ๆ เช่นกัน แต่การหาเรื่องกับลู่ชิงผู้มีเทพไป๋หู่อย่างเ
แต่ไม่อยากทำกิริยาไม่ดียามที่อยู่ด้านนอกจวน นางจึงรีบกลับมาและระบายความโกรธอยู่ในเรือนของตน และความเกลียดชังต่อลู่ชิงยังมีเพิ่มมากขึ้นทุกวัน“กรี๊ดดด!!!!” เพล้งงง!!! เพล้งงง!!! “ทำไม ๆ ผู้คนถึงได้ชื่นชมเรื่องของนางกันนัก ก็แค่ลูกพ่อค้าจน ๆ ที่มีโอกาสร่ำรวย ทำไมนางต้องคิดแต่สิ่งที่มีประโยชน์ด้วยเล่า”
หลังจากข่าวเรื่องเรือสินค้าและเรือรบสร้างขึ้นได้สำเร็จ พ่อค้าที่มีเงินทุนมากหน่อยจึงต้องการเดินทางไปต่างแคว้น พวกเขาเริ่มออกเดินทางเพื่อไปให้ถึงแดนใต้โดยเร็ว เมื่อตระกูลสวีไปถึงค่อยสอบถามหรือเจรจา เรื่องที่ตนอยากขออาศัยเรือไปค้าขายต่างแคว้นด้วย หากจะมีการเก็บเงินพวกเขาก็ยินดีที่จะจ่ายให้ตระกูลสวี
“หืม ท่านพี่กลับมาแล้วหรือเจ้าคะ วันนี้ดูอารมณ์ดีแปลก ๆ นะ มีเรื่องอะไรน่ายินดีหรือไม่”ฟอดดด “เจ้าช่างสังเกตเสียจริง แน่นอนว่ามีเรื่องน่ายินดีและพี่ก็อยากจะบอกเจ้าด้วย”เพียะ!! “ท่านพี่!! อย่ารุ่มร่ามสิเจ้าคะมิอายบ่าวไพร่หรืออย่างไร”“อูยย มือยังหนักเช่นเดิมเลยนะ พวกบ่าวไพร่น่าจะชินชาแล้วล่ะ นี่ไม่
“ซื่อจื่อมีเรื่องอะไรหรือถึงรอรายงานทีหลัง เกี่ยวกับปัญหาอันใดที่ได้พบเจอมาหรือไม่”“มิใช่ปัญหาอันใดแต่เป็นข่าวดีของแคว้นฉู่ ที่ยามนี้องค์รัชทายาทได้ควบคุมการสร้างเรือทั้งสอง คือเรือสินค้าตระกูลสวีและเรือรบของแคว้นสำเร็จแล้วพ่ะย่ะค่ะ”“เจ้าพูดจริงรึซื่อจื่อ!! แล้วเรือทั้งสองได้ทดลองแล่นในน้ำหรือยังม
เมื่อการแต่งงานผ่านมาครบเจ็ดวัน เซียวหนิงหลงจึงพาลู่ชิงกลับไปเยี่ยมบ้านตามธรรมเนียม แต่ทุกคนก็ยังปฏิบัติต่อกันเช่นเดิม นั่งพูดคุยดื่มน้ำชาทำอาหารทานร่วมกันเป็นความอบอุ่นในครอบครัว ที่พบเห็นได้ไม่มากในครอบครัวใหญ่ของเมืองหลวงและเรื่องเล่างานแต่งงานของลู่ชิงก็ยังคงมีคนพูดถึง ส่วนมากจะเป็นสตรีที่อยากม
“เสด็จแม่อาหลงพูดถูกเพคะ หม่อมฉันก็เป็นแม่คนและเป็นสตรีคนหนึ่ง ตั้งแต่ที่นางถูกพาตัวเข้ามาในตำหนัก สายตาของนางไม่มองไปที่อื่นแม้แต่น้อย แต่กลับลอบมองอาหลงอยู่ตลอด ท่าทางที่เสแสร้งของนางช่างดูแล้วขัดตายิ่งนักเพคะ หม่อมฉันไม่แปลกใจเลย ที่เสี่ยวชิงจะเอ่ยตักเตือนการกระทำของนาง ในเมื่อความต้องการมันชัดเจ
จนถึงสัปดาห์ก่อนที่เจ้าจะแต่งงาน หลานสาวของปู่รองเจ้าได้ส่งหลานสาวมาที่เมืองหลวง พร้อมจดหมายขอร้องย่าให้ช่วยอบรมสั่งสอนเรื่องมารยาทให้นาง เนื่องจากอีกไม่นานจะให้นางออกเรือนมีสามี เพราะนางถูกมารดาเลี้ยงดูตามใจจนมีนิสัยร้ายกาจ จึงอยากให้ย่าขัดเกลาสักหน่อยเจ้าถามย่าเช่นนี้ ได้เจอกับนางเช่นนั้นหรือ”“ใช