ห้วงฝันใต้แสงจันทรา

ห้วงฝันใต้แสงจันทรา

last updateTerakhir Diperbarui : 2024-12-24
Bahasa: Thai
goodnovel12goodnovel
Belum ada penilaian
35Bab
534Dibaca
Baca
Tambahkan

Share:  

Lapor
Ringkasan
Katalog
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi

หลิวลี่เซียงเริ่มฝันร้ายอยู่บ่อยครั้งจนเธอตกใจสะดุ้งตื่นกลางดึก บางครั้งถึงกับนอนน้ำตาไหลจนเพื่อนต้องรีบปลุก หลังจากตื่นขึ้นมาแล้วเธอยังคงจำความรู้สึกต่าง ๆ ได้ดี หากเรื่องราวเหล่านั้นเป็นแค่ความฝันที่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไปคงจะดี แต่ทว่าเธอกลับต้องเข้าไปมีชีวิตอยู่ในฝันเหล่านั้นอีกครั้ง ไม่เป็นคนอาภัพรัก ก็เป็นคนที่ถูกใส่ความ ร้ายแรงที่สุดก็ต้องตายอย่างทรมาน หากรู้ชะตาของตนย่อมจะต้องพยายามหลีกเลี่ยง เธอจึงทำทุกวิถีทางให้ตัวเองรอดจากความตาย ปล. โลกความฝันในเรื่องนี้เป็นจีนโบราณและเทพเซียนแล้วแต่ตอน ส่วนโลกความจริงเป็นยุคปัจจุบันนะคะ ปล.2 ความฝันมีทั้งหมด 5 เรื่อง แบ่งเป็น 7 บท

Lihat lebih banyak

Bab 1

บทที่ 1.0 บทเริ่มต้นของโชคชะตา

ต้นไม้ยอดหญ้าที่เริ่มผลิใบในสวนสาธารณะขนาดใหญ่ใจกลางเมืองให้ความรู้สึกสดชื่น มีชีวิตชีวา สถานที่แห่งนี้จึงคลาคล่ำไปด้วยผู้คนหลากหลายวัยมาพักผ่อนหย่อนใจกับครอบครัว ร้านรวงริมถนนทางด้านขวาเริ่มประดับดอกไม้หลายหลากสีและตกแต่งบริเวณร้านให้สวยงามเพื่อดึงดูดลูกค้า

หลิวลี่เซียง นักศึกษาคณะอักษรศาสตร์ ปีสาม ก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ชื่นชอบการเดินเล่นเที่ยวชมธรรมชาติและจดบันทึกสิ่งต่าง ๆ เธอคิดว่าในวันหยุดสุดสัปดาห์จะออกไปเดินเล่นแต่เช้าในสวนแห่งนี้ แล้วตอนขากลับค่อยแวะซื้อหนังสือมาอ่านสักเล่ม แม้ว่าในห้องจะมีหนังสือที่ดองเก็บไว้มากมายก็ตาม

ขณะเดินเล่นอยู่รอบนอกสวน ท้องฟ้าที่แจ่มใสตั้งแต่ช่วงเช้ากลับมีเค้าลางก้อนเมฆเริ่มก่อตัว สายลมพัดพากลิ่นไอดินมาตรงที่หลิวลี่เซียงยืนอยู่ เธอจึงเดินจ้ำอ้าวไปร้านหนังสือในซอยก่อนเม็ดฝนจะโปรยปรายลงมา

ขออภัย ร้านอยู่ระหว่างปิดปรับปรุงชั่วคราว

ฝนเม็ดใหญ่เริ่มหล่นกระทบพื้น เธอควานหาร่มพับในกระเป๋าก่อนนึกขึ้นได้ว่าลืมไว้ที่หอพัก พลันเหลือบเห็นแสงสลัวจากร้านกาแฟฝั่งตรงข้าม จึงตัดสินใจไปหลบฝนในร้านแห่งนี้

“มอคค่าเย็นเพิ่มหวานหนึ่งแก้วค่ะ”

หลังจากสั่งเครื่องดื่มเรียบร้อย เธอก็เดินไปนั่งเก้าอี้ไม้ริมหน้าต่าง ทอดสายตาไปข้างนอกร้าน คิดเรื่องราวต่าง ๆ เรื่อยเปื่อยแล้วจดลงในสมุดบันทึกที่มักพกติดตัวอยู่เสมอ

“มอคค่าเย็นค่ะ สมุดบันทึกเล่มนี้ทางร้านแจกให้ฟรีเนื่องจากเปิดร้านวันแรกนะคะ”

“ขอบคุณค่ะ” หลิวลี่เซียงกล่าวขอบคุณแล้วรับมาดู สมุดมีขนาดพอดีมือ หน้าปกเป็นลวดลายภาพสีน้ำแบบจีนโบราณ ด้านในเป็นกระดาษเปล่าสีนวล มีเชือกคั่นกระดาษเส้นเล็กสีแดง ดูรวม ๆ แล้วสวยงามอย่างน่าประหลาด เธอจึงตั้งใจจะใช้สมุดเล่มนี้แทนเล่มที่พกอยู่

กรุ๊งกริ๊ง กรุ๊งกริ๊ง เสียงกระดิ่งตรงประตูดังขึ้นเมื่อชายหนุ่มคนหนึ่งเดินเข้ามาในร้าน เขากวาดสายตาดูเมนูแล้วสั่งน้ำสตรอว์เบอร์รีปั่น เมื่อหลิวลี่เซียงได้ยินเสียงกระดิ่งดัง เธอก็หลุดจากภวังค์เงยหน้ามองไปยังหน้าร้าน ราวกับสวรรค์มาโปรด แค่มองเห็นใบหน้าและลักษณะท่าทางของเขา พล็อตนิยายในหัวก็เริ่มทำงานในทันที พลางคิดว่าเขาคนนี้แหละคือพระเอกเรื่องถัดไป

เขาเดินมานั่งเก้าอี้ที่อยู่ข้าง ๆ แล้วหยิบแท็บเล็ตออกมาจากกระเป๋าเป้ ทำท่าครุ่นคิดสักพักก่อนบรรจงวาดภาพร้านดอกไม้ที่ค้างไว้ หลิวลี่เซียงไม่อาจละสายตาจากเขาไปได้เลย เธอแอบมองดูเขาทำงานอย่างจดจ่อจนลืมตัว เพราะรู้สึกคุ้นหน้าแต่ก็นึกไม่ออกว่าเคยเห็นเขาที่ไหนมาก่อน

เวลาผ่านไปสองสามชั่วโมงจนฝนเริ่มซา เธอจึงเก็บข้าวของเตรียมขึ้นรถเมล์กลับหอที่อยู่ห่างออกไปสามป้ายรถเมล์ พลางมองเขาอีกครั้งก่อนเดินออกจากร้าน โดยมีสายตาคู่หนึ่งมองตามหลัง

ขณะที่เธอกำลังลงจากรถเมล์ เสียงแหลมตะโกนของหญิงสาวผมยาวสลวยใส่ส้นสูงกำลังวิ่งมาหาเธอด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม

“อาเซียง รอด้วย”

“ซินซิน ไม่ต้องรีบก็ได้ เดี๋ยวหกล้ม” ซินซิน หรือ ไป๋เยว่ซิน คือเพื่อนสนิทของหลิวลี่เซียง ในวัยเด็กบ้านของทั้งสองคนอยู่ในระแวกเดียวกัน นอกจากเรียนห้องเดียวกันแล้ว ทั้งสองยังไปโรงเรียนพร้อมกันและชอบไปปั่นจักรยานเล่นริมแม่น้ำอยู่บ่อย ๆ จึงมีความสนิทสนมเป็นพิเศษ แม้ว่าตอนขึ้นชั้นมัธยม ไป๋เยว่ซินต้องย้ายบ้านไปอยู่ต่างเมือง ก็ยังคงติดต่อถามสารทุกข์สุขดิบกันอยู่เสมอ เมื่อสอบติดมหาวิทยาลัยแห่งเดียวกัน จึงตัดสินใจอยู่หอพักด้วยกันและไปเที่ยววันหยุดเหมือนอย่างที่เคย

“อาเซียง หาข้าวกินกันเถอะ มัวแต่ฝึกงานยังไม่ได้กินอะไรเลย”

“งั้นรีบขึ้นห้องกัน เดี๋ยวฉันทำกับข้าวให้กินนะ”

----------------------------------------------------------------------

“ซินซิน ตื่นได้แล้ว วันนี้เรามีนัดไปดูดอกโบตั๋นนะ” หลิวลี่เซียงปลุกเพื่อนที่นอนอยู่เตียงข้าง ๆ อย่างนุ่มนวล ไป๋เยว่ซินค่อย ๆ ลุกขึ้นด้วยความงัวเงีย หลับตาเดินเข้าห้องน้ำ แต่หลังจากอาบน้ำแต่งตัวเสร็จเรียบร้อย เพื่อนคนนี้ดูสวยสดใสราวกับคนละคน

“อาเซียง ถ้าขึ้นรถเมล์สายเก้าไม่ทันเดี๋ยวเรียกแท็กซี่ก็ได้”

ไป๋เยว่ซิน ลูกสาวคนเล็กตระกูลใหญ่ เจ้าของโรงแรมหลายแห่ง มีชีวิตร่ำรวย สุขสบาย ไม่เคยต้องขัดสนเงินทอง เธอสามารถเลือกที่จะอยู่คอนโดใจกลางเมือง มีรถยนต์ส่วนตัวพร้อมคนขับรถรับส่ง และพี่เลี้ยงคอยดูแลอาหารการกินเหมือนกับทายาทคนดังอื่น ๆ ก็ได้ แต่เธอก็ชอบที่จะใช้ชีวิตธรรมดาสามัญเหมือนตอนเด็ก ๆ มากกว่า เธอมีความสุข สนุกสนาน เมื่อได้อยู่กับเพื่อนสนิทอย่างหลิวลี่เซียง

เทศกาลชมดอกโบตั๋นในช่วงกลางเดือนนั้น เป็นที่นิยมของผู้คนมากมาย แค่ได้เห็นดอกโบตั๋นหลากหลายสีบานสะพรั่งทั่วทั้งสวน ก็ทำให้จิตใจรู้สึกสดชื่น ผ่อนคลาย

“ซินซิน จะถ่ายรูปแล้วนะ เธอยืนตรงนี้ โอเค สวยแล้ว”

“ไปถ่ายเซลฟี่ตรงนั้นกัน” หลิวลี่เซียงพูดพลางชี้ไปที่พุ่มดอกโบตั๋นสีขาว ก่อนคล้องแขนไป๋เยว่ซินเดินไปอย่างเบิกบานใจ

“โอ๊ะ! ผู้ชายคนนั้นนี่”

“คนไหน” ไป๋เยว่ซินมองตามสายตาของเธอ

“คนนั้นไง ที่เคยเล่าให้ฟัง ว่ารู้สึกคุ้นหน้าเหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน” หลิวลี่เซียงพูดถึงชายหนุ่มคนที่เธอเจอในร้านกาแฟเมื่อเดือนก่อน

“อื้ม คุ้นหน้าจริงด้วย ขอนึกก่อน” ไป๋เยว่ซินทำท่าครุ่นคิด ก่อนจะพูดต่อ “อ๋อ ลูกพี่ลูกน้องของซือมู่เฉิน ตาคนเจ้าชู้นั่น”

แค่นึกถึงซือมู่เฉิน ไป๋เยว่ซินก็รู้สึกหมั่นไส้คู่หมั้นคู่หมายที่พ่อแม่ให้แต่งงานด้วยเพื่อเสริมบารมีทางธุรกิจ เธอเข้าใจว่าพ่อแม่หวังดีอยากให้ลูกสาวมีสิทธิ์มีเสียงในบริษัทมากขึ้น สามารถใช้อำนาจสยบความวุ่นวายของคณะกรรมการบริหารได้ แต่โดนคลุมถุงชนแบบนี้ก็ไม่ไหว เธอจะช่วยพี่สาวบริหารธุรกิจของตระกูลและแต่งงานกับคนที่รักเท่านั้น ทุกวันนี้เธอจึงมุ่งมั่นเรียนรู้งานบริหารต่าง ๆ ในยามว่างและวันหยุดปิดเทอม แต่ก็ไม่พลาดที่จะปลีกตัวมาผ่อนคลายสมอง ความเหนื่อยล้าและเติมพลังให้ชีวิต แค่ได้ทำสิ่งที่เคยทำตอนเด็ก ตอนที่ยังไม่ต้องรับรู้และแบกรับภาระอะไรก็มีความสุขมากแล้ว หลิวลี่เซียงรู้ดีว่าเพื่อนสาวนั้นต้องเผชิญกับอะไรมาบ้าง เธอจึงคอยให้กำลังใจและชวนไปเที่ยวเล่นยามว่างอยู่เสมอ

“ผู้ชายคนนั้น เหรินฮ่าวหราน ฉันเคยเจอตอนไปบ้านตระกูลซือสองสามครั้ง ไม่คิดว่าจะได้เจอที่นี่ ออกจะเป็นคนเก็บตัวไม่เข้ากับคนเยอะ ๆ ”

“อื้ม มิน่าล่ะ รู้สึกคุ้นหน้า” หลิวลี่เซียงเผลอยิ้มออกมา

“อาเซียง ทำหน้าแบบนี้ คือยังไง”

“เปล่านิ แค่จะเอามาเป็นตัวละครในนิยายเรื่องใหม่แค่นั้นเอง จริง ๆ นะ” หลิวลี่เซียงพูดเสียงสูงพลางหุบยิ้ม

ท่ามกลางหมู่มวลดอกโบตั๋นสีขาว เหรินฮ่าวหรานนั่งอยู่ตรงม้านั่งใต้ต้นไม้ใหญ่ กำลังตั้งใจวาดภาพพุ่มดอกไม้ที่มีฉากหลังเป็นศาลาริมน้ำ เมื่อได้ยินเสียงผู้หญิงสองคนคุยกัน ก็เงยหน้าขึ้นมาดูแวบหนึ่ง ก่อนก้มหน้าวาดรูปต่อ มุมปากข้างหนึ่งของเขายกขึ้น

“อาเซียง ตรงนั้นมีจักรยานให้เช่าด้วย ไปกันเถอะ”

“อื้อ ปั่นจักรยานเล่นริมน้ำกัน อากาศกำลังดี”

“อาเซียง ตรงนั้นมีสายไหมด้วย ฉันอยากกิน”

“อื้อ แล้วไปกินขนมตรงร้านหัวมุมกัน มีแต่คนบอกว่าอร่อย”

ทั้งสองคนพูดคุยกันไม่หยุด แถมแวะชิมขนมของกินตลอดทาง เป็นวันหยุดพักผ่อนหย่อนใจที่อยากให้เวลาเดินช้า ๆ กว่าทุกวัน

---------------------------------------------------------------------

เช้าวันจันทร์ ขณะที่นักศึกษาใหม่กำลังวุ่นวายกับการเลือกชมรม หลิวลี่เซียงเลือกเข้าชมรมศิลปะเพราะอยากฝึกฝีมือไว้วาดรูปทำหน้าปกนิยายแม้จะไม่มีพรสวรรค์ด้านนี้เลยก็ตาม เธอเดินตามแผนที่ไปห้องชมรม บรรยากาศในห้องเงียบสงบ ตรงมุมขวามีเพียงชายคนหนึ่งนั่งวาดรูปอยู่ แสงอาทิตย์ส่องกระทบใบหน้าของเขา เมื่อได้ยินเสียงคนเดินเข้ามา เขาเงยหน้าขึ้นมองเธอ

“สมาชิกใหม่เหรอ ดูเหมือนเธอจะมาเร็วไปหนึ่งวันนะ ชมรมเรานัดกันวันพรุ่งนี้ เธอชื่ออะไร อยู่ปีไหน” เหรินฮ่าวหรานถามตอนเดินมาที่โต๊ะลงทะเบียน

“อ่อ หลิวลี่เซียง ปีสาม”

“เหรินฮ่าวหราน ปีสาม” เขาแนะนำตัวกับเธอ

“นั่งเล่นที่นี่ก่อนได้นะ ถ้ายังไม่อยากกลับ”

“ไม่เป็นไร ไม่อยากรบกวนสมาธินาย เจอกันพรุ่งนี้นะ” เธอตอบกลับก่อนขอตัวกลับ

“อื้อ เจอกัน” เขาตอบสั้น ๆ

หลิวลี่เซียงเดินกลับหอด้วยความประหลาดใจเพราะไม่คิดว่าจะได้เจอเขาอีกครั้งแถมอยู่ชมรมเดียวกัน ทำไมซินซินถึงไม่บอกว่าเขาเรียนอยู่ที่เดียวกับเรานะ ดูแล้วเขาก็ไม่ได้เป็นคนเงียบ ๆ ขนาดนั้นนี่นา

---------------------------------------------------------------------

คืนนั้น หลิวลี่เซียงนั่งเขียนนิยายเรื่องเก่าที่ค้างไว้จนดึกดื่น ก่อนเข้านอน เธอได้ยินเสียงใครบางคนเป่าขลุ่ยเบา ๆ จากด้านนอก ท่วงทำนองแช่มช้า ๆ ดูเศร้าสร้อย ด้วยความที่เหนื่อยล้าจากการเรียนมาทั้งวัน เธอจึงค่อย ๆ ผล็อยหลับไปก่อนที่เสียงเพลงขลุ่ยจะจบลง

เช้าวันต่อมา

“อาเซียง ตื่นสิ อาเซียง ๆ” เสียงของไป๋เยว่ซินร้องเรียกเพื่อนด้วยความเป็นห่วงเมื่อเห็นเธอนอนร้องไห้

หลิวลี่เซียงสะดุ้งตื่น แววตาเศร้าสร้อยแสดงออกมาอย่างเห็นได้ชัด

“ฝันร้ายเหรอ” เธอถามเพื่อนด้วยความเป็นห่วง

“อื้อ ในฝันเศร้ามากเลย” หลิวลี่เซียงพูดพลางเช็ดน้ำตาที่อาบแก้ม

“โอ๋ ๆ ไม่เป็นไรนะ อาเซียง ก็แค่ความฝัน เธอไม่ต้องคิดมาก เล่าให้ฉันฟังได้นะ” ไป๋เยว่ซินปลอบ

เธอเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในฝันให้เพื่อนฟัง รายละเอียดในฝันแม้จำได้ไม่หมด แต่เธอก็จำความรู้สึกต่าง ๆ ได้ดี นอกจากนั้นเธอยังจดเรื่องราวต่าง ๆ ในฝันลงในสมุดบันทึกที่ได้มาจากร้านกาแฟ คิดว่าจะเอาไว้เป็นพล็อตเขียนนิยายแล้วเปลี่ยนตอนจบให้ต่างจากที่เธอฝัน

เวลาผ่านมาหลายเดือนแล้ว หลิวลี่เซียงเพิ่งสังเกตว่าเธอมักจะฝันร้ายในคืนที่ได้ยินเสียงขลุ่ย บางทีเธอจะร้องไห้ตอนหลับหรือไม่ก็สะดุ้งตื่น แล้วไป๋เยว่ซินจะเป็นคนคอยปลอบเธอทุกครั้ง

“อาเซียง คืนนี้สงสัยฝันดี นอนยิ้มเชียว” ไป๋เยว่ซินมองเพื่อนด้วยความสงสัย “ดีแล้วล่ะ นอนหลับฝันดีนะ อาเซียง”

หลังสอบเสร็จวันสุดท้าย ทั้งคู่ทำอาหารกินเลี้ยงฉลองที่หอพัก ส่วนไป๋เยว่ซินถือไวน์มาด้วยสองขวด

“อาเซียง ดื่มไวน์กัน ยี่ห้อนี้พ่อชอบเอาไปซ่อนไว้ ดูท่าทางน่าอร่อยนะ” ไป๋เยว่ซินกล่าวอย่างตื่นเต้น

“ไม่ดีมั้ง เดี๋ยวโดนดุหรอก”

“พ่อไม่ว่าอะไรหรอกน่า แค่ขวดสองขวด ที่บ้านมีอีกเป็นโหล”

หลังจากกินเลี้ยงดื่มไวน์ไปสักพัก หลิวลี่เซียงก็เดินเซซ้ายขวาไปนั่งหน้าโต๊ะทำงานแล้วก้มลงจดอะไรบางอย่าง

ไป๋เยว่ซินที่เพิ่งคุยโทรศัพท์เสร็จ หันมาเห็นหลิวลี่เซียงขีด ๆ เขียน ๆ สมุดบันทึกก่อนฟุบหลับตรงโต๊ะทำงาน จึงพามานอนบนเตียงแล้วห่มผ้าให้ ก่อนเดินมาดูสมุดบันทึก

“อาเซียง เมาขนาดนี้ยังเขียนนิยายได้อีกเหรอ น่านับถือจริง ๆ”

ไป๋เยว่ซินที่ตาสว่างอยู่ ค่อย ๆ เปิดอ่านสมุดบันทึกทีละหน้า ในนั้นมีเรื่องราวจากความฝันที่เธอเคยฟังและพล็อตนิยายเรื่องอื่น ๆ อยู่ ปกติแล้วหลิวลี่เซียงจะคอยส่งต้นฉบับให้เธออ่านก่อนเสมอ

“เอ๋ พล็อตนี้คุ้น ๆ มากเลยนะ แต่จบไม่ถูกใจเลยอ่ะ” ไป๋เยว่ซินบ่นพึมพำเมื่อได้อ่านตอนจบ เธอจึงเขียนคอมเมนต์ตอนจบของเรื่องนั้นใหม่ แล้วเปิดหน้าต่อไป

“หน้าที่กำลังเขียนเมื่อกี้นี่ แต่เอ๊ะ! ไหนว่าไม่ได้คิดอะไรกับเหรินฮ่าว หราน ทำไมแต่งเนื้อเรื่องเหมือนหลงรักเขาไปแล้วอย่างนั้น” ไป๋เยว่ซินอ่านเนื้อความแล้วเกิดนึกสนุกขึ้นมา เธอค่อย ๆ ตัดกระดาษหน้านั้นออก แล้วพับใส่ซองจดหมาย หน้าซองเขียนชื่อเหรินฮ่าวหราน เธอคิดจะนำจดหมายนี้ไปหย่อนกล่องรับจดหมายของเขาวันเทศกาลชีซี

คืนวันพระจันทร์เต็มดวง หลิวลี่เซียงนั่งที่เตียงของเธอริมหน้าต่างสายตามองดวงจันทร์กลมโตอยู่พักหนึ่ง เธอได้ยินเสียงขลุ่ยดังมาจากด้านนอกห้องอีกครั้ง แต่กลับไม่มีเรี่ยวแรงเดินตามเสียงเพลงนั้น เธอค่อย ๆ หลับตาลงก่อนจมเข้าสู่ห้วงนิทรา

Tampilkan Lebih Banyak
Bab Selanjutnya
Unduh

Bab terbaru

Komen

Tidak ada komentar
35 Bab
บทที่ 1.0 บทเริ่มต้นของโชคชะตา
ต้นไม้ยอดหญ้าที่เริ่มผลิใบในสวนสาธารณะขนาดใหญ่ใจกลางเมืองให้ความรู้สึกสดชื่น มีชีวิตชีวา สถานที่แห่งนี้จึงคลาคล่ำไปด้วยผู้คนหลากหลายวัยมาพักผ่อนหย่อนใจกับครอบครัว ร้านรวงริมถนนทางด้านขวาเริ่มประดับดอกไม้หลายหลากสีและตกแต่งบริเวณร้านให้สวยงามเพื่อดึงดูดลูกค้าหลิวลี่เซียง นักศึกษาคณะอักษรศาสตร์ ปีสาม ก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ชื่นชอบการเดินเล่นเที่ยวชมธรรมชาติและจดบันทึกสิ่งต่าง ๆ เธอคิดว่าในวันหยุดสุดสัปดาห์จะออกไปเดินเล่นแต่เช้าในสวนแห่งนี้ แล้วตอนขากลับค่อยแวะซื้อหนังสือมาอ่านสักเล่ม แม้ว่าในห้องจะมีหนังสือที่ดองเก็บไว้มากมายก็ตามขณะเดินเล่นอยู่รอบนอกสวน ท้องฟ้าที่แจ่มใสตั้งแต่ช่วงเช้ากลับมีเค้าลางก้อนเมฆเริ่มก่อตัว สายลมพัดพากลิ่นไอดินมาตรงที่หลิวลี่เซียงยืนอยู่ เธอจึงเดินจ้ำอ้าวไปร้านหนังสือในซอยก่อนเม็ดฝนจะโปรยปรายลงมาขออภัย ร้านอยู่ระหว่างปิดปรับปรุงชั่วคราวฝนเม็ดใหญ่เริ่มหล่นกระทบพื้น เธอควานหาร่มพับในกระเป๋าก่อนนึกขึ้นได้ว่าลืมไว้ที่หอพัก พลันเหลือบเห็นแสงสลัวจากร้านกาแฟฝั่งตรงข้าม จึงตัดสินใจไปหลบฝนในร้านแห่งนี้“มอคค่าเย็นเพิ่มหวานหนึ่งแก้วค่ะ”หลังจากสั่งเครื่องดื่มเรียบร้อย เธ
last updateTerakhir Diperbarui : 2024-11-20
Baca selengkapnya
บทที่ 1.1 พบกันครั้งแรกในวัยเยาว์
“คุณหนู ตื่นหรือยังเจ้าคะ นายท่านบอกว่าวันนี้จะพาคุณหนูไปเดินเล่นในเมืองเจ้าค่ะ” เสียงเล็ก ๆ ของจิ่วเอ๋อร์กำลังปลุกคุณหนูของนาง“เสียงใครน่ะ ซินซินกำลังปลุกเราเหรอ” หลิวลี่เซียงพึมพา“คุณหนู สายแล้วเจ้าค่ะ ปกติคุณหนูตื่นเช้าตลอด คุณหนูไม่สบายหรือเปล่าเจ้าคะ” จิ่วเอ๋อร์ว้าวุ่นใจเมื่อไม่ได้ยินเสียงจากอีกฝ่าย“ตื่นแล้ว” เสียงหลิวลี่เซียงตอบกลับสั้น ๆ เพราะกำลังงัวเงีย“เดี๋ยวข้าจะไปเตรียมน้ำอาบและเสื้อผ้าให้นะเจ้าคะ”คุณหนู เตรียมน้ำอาบ เสื้อผ้า โตขนาดนี้แล้วทำเองได้หมดน่า เธอคิดในใจ ถ้าไม่ฝันอยู่ก็โดนซินซินแกล้งแล้วล่ะ แต่เมื่อลืมตาดูดี ๆ ก็พบว่าตัวเองอยู่ในห้องแบบโบราณ กำลังนอนบนฟูกหนา ผมยาวสลวยดำขลับแถมชุดนอนดูแปลกไป เธอคิดว่าคงกำลังฝันอยู่“คุณหนู ทุกอย่างพร้อมแล้ว อาบน้ำเลยไหมเจ้าคะ”หลิวลี่เซียงนึกฉงนในใจ ลุกขึ้นเดินออกมาตามเสียง เธอเห็นเด็กหญิงตัวเล็ก ดวงตากลมโต ใส่ชุดโบราณ กำลังหอบผ้าผืนใหญ่อยู่ ใบหน้านั้นจ้องมองมาหาเธอด้วยความสดใส เมื่อมองภาพเบื้องห
last updateTerakhir Diperbarui : 2024-11-21
Baca selengkapnya
บทที่ 1.2 ดอกโบตั๋นสีขาว
 ใต้เท้าหลี่พาหลี่เหลียนฮวาเดินมาที่ศาลาข้างเรือน ปกติแล้วทั้งสองคนจะชอบมานั่งเล่นที่ศาลานี้ยามว่างอยู่บ่อย ๆ ใต้เท้าหลี่ชอบสอนบุตรสาวเขียนอักษร ทานขนมหวานและเล่าเรื่องราวต่าง ๆ มากมายให้ฟัง ต่างจากบุตรสาวบ้านอื่น ๆ ที่เรียนเย็บปักถักร้อย จัดดอกไม้ เคร่งครัดในขนบธรรมเนียม“เหลียนฮวา วันนี้ข้าจะสอนเจ้าเขียนชื่อของเจ้า” ใต้เท้าหลี่กล่าว“เจ้าค่ะ” นางตอบกลับแม้จะรู้ว่าต้องเขียนเช่นไร“ดีมาก เจ้าช่างมีพรสวรรค์ อยากเขียนอันใดอีกหรือไม่” เขาเอ่ยปากชมบุตรสาว“ชื่อของท่านพ่อ จิ่วเอ๋อร์ อาเฉิน แม่บ้านจาง เสี่ยวหานเจ้าค่ะ” นางตอบกลับอย่างรวดเร็ว“อื้ม เสี่ยวหานคือผู้ใดกัน เจ้ารู้จักเขาตอนไหน”“เสี่ยวหาน เด็กคนนั้นที่ข้าให้ถังหูลู่เจ้าค่ะ ข้าเจอเขาเมื่อวันก่อน ข้าบอกเขาว่าถ้าหิวให้มาที่จวน”หลังจากนั้น หลี่เหลียนฮวาเริ่มเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟังบางส่วน ตัดส่วนที่เกิดการยื้อแย่งชุลมุนกันออกไป“ดี ๆ จวนเรามีอาหารพอที่จะแบ่งปันให้เขา หากเจ้าถือว่าเขา
last updateTerakhir Diperbarui : 2024-11-22
Baca selengkapnya
บทที่ 1.3 ฤดูหนาวที่เวียนมาอีกครา
หลังจากกลับมาถึงจวนสกุลหลี่ แม่บ้านจางรีบนำยามาทาแผลให้เสี่ยวหาน และให้อาเฉินจัดห้องเตรียมเสื้อผ้าและที่นอนให้เขา เสี่ยวหานสามารถมาเที่ยวเล่น ทานข้าวและทำงานอยู่ในจวนนี้ได้ตามใจเขาเพราะใต้เท้าหลี่เห็นอุปนิสัยใจคอแล้วเอ็นดูเขาเป็นพิเศษ แต่เสี่ยวหานรู้สึกเกรงใจ จึงมาที่จวนแห่งนี้เป็นครั้งคราว และทุกครั้งที่มาเขามักจะมีไข่ไก่ ของป่าติดมือมาฝากทุกคนเสมอ“เสี่ยวหาน ทำไมเจอเจ้าเมื่อใดก็มักเห็นสภาพเจ้าเป็นแบบนี้ทุกที ข้าหัวใจจะวายให้ได้เลย” แม่บ้านจางบ่นด้วยความเป็นห่วง“ข้าขอโทษที่ทำให้ท่านป้าเป็นห่วง ต่อไปข้าจะตั้งใจดูแลตัวเองดี ๆ”“อย่าให้ข้าเจอเจ้าพวกนั้นอีกนะ ไม่งั้นข้าจะสอยให้ร่วงเลย” อาเฉินกล่าว“เจ้าก็ด้วย ข้าบอกไม่ให้ใช้กำลังแก้ปัญหา” นางหันไปเอ็ดเขา“เรื่องแบบนี้ยอมไม่ได้ ข้าจะขอให้ท่านพ่อสอนเรื่องการต่อสู้ ไว้ให้พวกเจ้าเอาไว้ปกป้องตนเอง” หลี่เหลี่ยนฮวาพูดขึ้นมาอย่างมุ่งมั่นนอกจากเรื่องที่เสี่ยวหานจะถูกรังแกอยู่บ่อยครั้งแล้ว นางอยากให้เสี่ยวหานปกป้องตัวเองได้ บางทีอาจจะช่วยให้เร
last updateTerakhir Diperbarui : 2024-11-23
Baca selengkapnya
บทที่ 1.4 ไม่มีวันปล่อยมือ
ความฝันครั้งนั้น หลี่เหลียนฮวาไม่อยากให้เกิดขึ้นอีก นางจำได้ว่าตอนนั้นนางรู้สึกเจ็บปวดและสงสารเสี่ยวหาน ชะตากรรมของเขาที่ไม่อาจหลีกเลี่ยง แม้จะตื่นจากฝันแล้วนางยังคงเศร้าและน้ำตาเอ่อล้นไม่รู้ตัว ความรู้สึกนั้นติดอยู่ในใจไปหลายวัน“เสี่ยวหาน เจ้าหายไปไหนมา รู้ไหมว่าข้าเป็นห่วงเจ้าแค่ไหน”“ขอโทษที่ทำให้คุณหนูเป็นห่วง ข้าไม่เป็นอะไรแล้ว ไม่ต้องร้องไห้นะขอรับ” เสี่ยวหานเห็นหลี่เหลียนฮวาร้องไห้ไม่หยุด และกอดเขาไม่ปล่อย จึงค่อย ๆ ลูบหัวนางช้า ๆหลังจากตั้งสติได้ หลี่เหลียนฮวาจึงค่อย ๆ ถอยหลังแล้วเช็ดน้ำตาตัวเอง เสี่ยวหานเล่าว่าที่เขาหายไปหลายวันเพราะทางเดินป่าไม่ค่อยดีจึงเสียเวลาอ้อมไปอ้อมมาอยู่หลายวันเหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้เสี่ยวหานใช้เวลาอยู่ที่จวนสกุลหลี่เรียนการต่อสู้ ทำงานช่วยแม่บ้านจางและพักที่ห้องอาเฉินเป็นส่วนใหญ่ ไม่ค่อยได้กลับบ้านของตนเท่าใดนัก เพื่อความสบายใจของหลี่เหลียนฮวาราวกับเหตุการณ์จริงยังไม่ได้เกิดขึ้น หลี่เหลียนฮวาจึงยังไม่ตื่นจากความฝัน ทำให้นางไม่สามารถปล่อยวางความคิดไปได้เมื่อได้พบเจอกันบ่อย เที่ยวเ
last updateTerakhir Diperbarui : 2024-11-24
Baca selengkapnya
บทที่ 1.5 คำอธิษฐานดาวตก
ความฝันครั้งแรกของหลี่เหลียนฮวาที่นางจำได้ มีแค่เพียงเสี่ยวหานพลัดตกจากหน้าผาแล้วสิ้นลมจมอยู่ใต้ทะเลสาบเหมันตฤดูอย่างเหน็บหนาวและโดดเดี่ยวนั้น บัดนี้นางรู้แล้วว่าเป็นเพราะเขาช่วยนางเอาไว้ด้วยความบังเอิญผ่านมาทางนั้นพอดีเพราะเขาอยากตอบแทนน้ำใจที่นางแบ่งปันขนม อาหารและเสื้อผ้าแก่เขา นางเห็นภาพสุดท้ายของเขาจึงร้องไห้สะเอื้อนและเจ็บปวดใจจนแม้แต่ตอนที่ตื่นจากความฝันน้ำตาของนางก็ยังคงไหลริน แต่ครั้งนี้เสี่ยวหานกลับเข้ามาอยู่ในเหตุการณ์และตั้งใจที่จะช่วยนางไม่ว่าข้าจะพยายามเปลี่ยนเรื่องราวสักเพียงใด จุดจบของเจ้าก็ยังคงเหมือนเดิมอย่างนั้นหรือ สวรรค์ช่างใจร้ายกับเขานัก หลี่เหลียนฮวาตัดพ้อโชคชะตาเมื่อเสี่ยวหานรู้ตัวว่าเขากำลังจะตกลงมาจากหน้าผาก็รีบปล่อยมือจากนาง ทว่านางกลับจับมือเขาแน่นขึ้นกว่าเดิม เสี่ยวหานจึงรีบดึงตัวหลี่เหลียนฮวาเข้ามากอดไว้แน่นขณะที่กำลังร่วงหล่นจากหน้าผา ร่างของทั้งสองตกกระทบผืนน้ำเบื้องล่างแล้วจมลงไปในน้ำที่ยามนี้หนาวเย็นจับใจ เขาไม่อยากปล่อยมือของนางแม้แต่น้อย หวังจะช่วยนางให้ได้ แต่ร่างกายของเขาหนักอึ้งและสติกลับค่อย ๆ เลือนหาย เขาหลับตาลงอย่า
last updateTerakhir Diperbarui : 2024-11-25
Baca selengkapnya
บทที่ 2.0 ภาพที่คุ้นเคย
เช้าวันต่อมา“อาเซียง ตื่นได้แล้ว วันนี้มีเรียนเก้าโมงไม่ใช่เหรอ เดี๋ยวก็ไปสายหรอก”“อาเซียง ได้ยินไหมเนี่ย ตื่นได้แล้ว”“อื้อ จิ่วเอ๋อร์ ข้ารู้แล้ว”“หลิวลี่เซียง นี่เธอพูดว่าอะไรนะ” ไป๋เยว่ซินถามย้ำอีกครั้งและรู้สึกแปลกใจที่เพื่อนคนนี้นอนขี้เซา“จิ่วเอ... เอ๋!” หลิวลี่เซียงรีบลืมตา“ซินซินเหรอ” เธอจับหน้าไป๋เยว่ซินแล้วดึงแก้มเบา ๆ“โอ๊ย! อาเซียง มาดึงแก้มกันทำไม”“ซินซิน ฉันคิดถึงเธอจังเลย” หลิวลี่เซียงกอดเพื่อนรักเธอไม่คิดว่าวันนี้จะได้ตื่นจากฝันของหลี่เหลียนฮวา หลิวลี่เซียงใช้ชีวิตเป็นหลี่เหลียนฮวามาหลายปี ความรู้สึกทุกอย่าง เธอยังคงจำได้ดีหวังว่าคำอธิษฐานจะเป็นจริงนะ เธอคิดในใจ“อาเซียง แปดโมงครึ่งแล้ว เธอจะไปอาบน้ำแต่งตัวได้หรือยัง” ไป๋เยว่ซินเตือนเพื่อนอีกรอบ“มีเรียนเหรอ วันนี้วันอะไร” เธอถามเพื่อนพลางกดมองดูมือถือ ก่อนหันไปดูตารางเรียน“ซวยแล้ว ๆ คาบ
last updateTerakhir Diperbarui : 2024-11-26
Baca selengkapnya
บทที่ 2.1 พบกันอีกครั้งกับเรื่องราวใหม่ ๆ
สำนักพยากรณ์เยว่เทียน ที่มีแม่หมอเมิ่งเจียเป็นผู้ดูแลได้ทำการดูดวงชะตาพยากรณ์ให้ผู้คนมาเป็นเวลาหลายสิบปี จนมีชื่อเสียงลื่อเลื่องไปทั่วแคว้นทางตอนเหนือ นักเดินทางจากทั่วทุกสารทิศเมื่อได้ยินกิตติศัพท์ของแม่หมอผู้นี้ก็พากันเดินทางข้ามน้ำข้ามภูเขาเพื่อตรวจดวงชะตาการค้าขายก็ดี การเรียนก็ดี ดวงชะตางานหมั้นหมายก็ดี ล้วนได้นางเป็นผู้คอยชี้แนะ เรื่องร้ายคลี่คลาย เรื่องดีย่อมดียิ่งขึ้น เป็นที่นับหน้าถือตาของผู้มีจิตศรัทธา นางจึงมีเด็กสาวในตำหนักมากมายเพื่อช่วยจัดการกิจการและคอยเป็นธุระแทนนาง“ท่านผู้นี้ชะตาวาสนาสูงส่งยิ่งนัก ภายภาคหน้าจะมีอำนาจบารมี บริวารรายล้อม บิดามารดาสุขสบาย”“แม่นางหรงหรงกับคุณชายลู่ชะตาต้องกันราวกิ่งทองใบหยก งานหมั้นหมายเดือนหน้าวันที่สิบเจ็ดถือเป็นฤกษ์งามยามดี ลูกเต็มบ้านหลานเต็มเมืองครองคู่กันจนแก่เฒ่า”“พลับพลึงแดงรายล้อม ยามอิ๋นที่หิมะแรกตกลงมา ท่านควรระวังตนเองให้ดี หากผ่านพ้นไปได้เคราะห์ร้ายจะทุเลาลง”แต่แล้ววันหนึ่งการทำนายพยากรณ์ของนางเริ่มผิดเพี้ยน เสียงเล่าลือก็เริ่มแพร่ไปยังผู้คนที่นับถื
last updateTerakhir Diperbarui : 2024-11-27
Baca selengkapnya
บทที่ 2.2 ความอบอุ่นใจในยามเดียวดาย
เช้าวันต่อมา“ท่านป้า ดูลายมือให้ข้าได้หรือไม่เจ้าคะ ข้าจะทำงานวันนี้สำเร็จลุล่วงไหมเจ้าคะ” ไป๋อิงถามเมิ่งเจีย“ไป๋อิง นี่เจ้าเห็นข้าเป็นใคร ดวงชะตาก็ดูได้แค่คร่าว ๆ เหตุใหญ่ ๆ เท่านั้น แต่ว่าแบมือดี ๆ ข้าขอดูตรงนี้ให้ชัด ๆ” เมิ่งเจียเพ่งดูลายมือของไป๋อิงอยู่นานจนในที่สุดนางอุทานตกใจ“ไป๋อิง ชะตาของเจ้าน่ากลัวยิ่งนักแต่ไม่ต้องกังวลเจ้าจะต้องผ่านไปได้”“ท่านไม่ต้องบอกก็รู้ได้ ถึงฆาตเลยไม่ใช่หรือเจ้าคะ” ไป๋อิงพูดกับนางด้วยเสียงปลงพลางถอนหายใจ“เจ้าพูดอัปมงคล หรือว่าเจ้ารู้อยู่แล้ว”“เจ้าค่ะ ท่านป้าช่วยข้าได้หรือไม่” นางเล่าเรื่องที่จะเกิดขึ้นทั้งหมดให้เมิ่งเจียฟัง เพราะเห็นว่ายังมีชาวบ้านที่เชื่อคำทำนายของเมิ่งเจียอยู่บ้าง ส่วนคนที่ไม่เชื่อนั้นเมื่อเกิดเหตุการณ์จวนตัวก็จะเชื่อเอง ปัญหาเดียวของนางคือหวังจางเหว่ย แม้แต่เมิ่งเจียก็ช่วยไม่ได้“เจ้าไม่ต้องห่วง ข้าจะช่วยเจ้าเอง มาเตรียมของช่วยข้า ข้าจะทำพิธีสะเดาะเคราะห์ให้เจ้า ผ่อนหนักเป็นเบา”“ข
last updateTerakhir Diperbarui : 2024-11-28
Baca selengkapnya
บทที่ 2.3 เหตุการณ์ซ้ำรอย
ไป๋อิงหลับตากรีดร้องสุดเสียงที่เห็นภาพของหวังจางเหว่ยสิ้นชีวิตลงต่อหน้า แต่เมื่อเวลาผ่านไปสักพัก นางได้ยินเสียงจอแจของผู้คนจึงลืมตาขึ้นทำไมสว่างจัง นี่ข้าตายแล้วหรือ แต่ทำไมมีคนอื่นเดินไปเดินมาเต็มไปหมด ไป๋อิงคิดในใจก่อนเดินดูรอบ ๆหอโคมแดง นั่นหวังจางเหว่ยนี่ เขาขึ้นสวรรค์มาพร้อมข้าหรือ ไม่ใช่สิ ภาพนี้เหมือนเคยเกิดขึ้นมาก่อน ไป๋อิงไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้น นางจึงแอบปีนต้นแปะก๊วยก่อนกระโดดข้ามกำแพงหอโคมแดง“เจ้ามาทำอันใดที่นี่” เสียงอันคุ้นเคยกระซิบข้างหูนางคงไม่ใช่หรอก ไป๋อิงหันไปตามเสียงที่ดังขึ้น“ลู่เฟยเทียน ทำไมท่านอยู่ตรงนี้” นางถามเขาด้วยความงุนงง“ข้าอยู่ที่นี่ตั้งนานแล้ว เห็นเจ้าตั้งแต่ตอนที่ปีนต้นแปะก๊วยแล้วกระโดดข้ามกำแพงมา ถ้าไม่รู้ว่าเป็นเจ้าคงนึกว่าเป็นโจรขโมยที่ไหนเสียแล้ว” เขาตอบอย่างอารมณ์ดี“ลู่เฟยเทียน วันนี้วันอะไรหรือ” ไป๋อิงถามเขา เมื่อได้คำตอบนางถึงกับตกใจย้อนเวลากลับมางั้นหรือ ได้อย่างไร ในหัวนางมีแต่ความมึนงงเต็มไปหมด
last updateTerakhir Diperbarui : 2024-11-29
Baca selengkapnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status