จ้าวหย่งเฉินที่เห็นสีหน้าไม่สลดของนางก็ให้คนอื่นๆ ไปก่อน แล้วหันไปเอ่ยกับนาง
“ไป๋เจินเจิน..ตามไปที่ห้องหนังสือของข้า เจ้ามีเรื่องต้องอบรมมากนัก”
เขาสั่งให้นางไปพบที่ห้องทำงานของเขา ไป๋เจินเจินเกาหัวแกรกๆ อะไรของเขาวะ เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยจ้าวหย่งเฉิงก็ไปรอตัวต้นเรื่องที่ห้องหนังสือ แต่ไป๋เจินเจินกลับไปขวางทางสวีข่ายเหยียน จินเสี่ยวฟงและฝางอี้หลุนเอาไว้ ทั้งสามคนมองหน้านาง ก่อนที่สวีข่ายเหยียนจะผลักไหล่ให้หลบไป แต่ไป๋เจินเจินจับมือของสวีข่ายเหยียนแล้วออกแรงบีบ เขาร้องทันที
"เจ้าๆทำอะไรนังยาจก ปล่อยข้านะ"
"ปากดีอีกข้าจะหักมือเจ้า"
"นี่ไป๋เจินเจินปล่อยข่ายเหยียนนะ เจ้าต้องการอะไร"
จินเสี่ยวฟงเอ่ยปากถามนาง ไป๋เจินเจินผลักสวี่ข่ายเหยียนไปอีกด้านก่อนจะเป่าปากแล้วเอ่ยขึ้น
"คัดกฎสำนักห้าร้อยจบราคาสองตำลึง พวกเจ้าขี้เกียจข้ารู้ดี ได้เข้าเรียนก้เพราะเงินตำลึงที่แอบจ่ายใต้โต๊ะอาจารย์จอมละโมบพวกนั้น แต่ช่างเถอะเรืองนั้นไม่เกี่ยวกับข้า กฎสำนักที่ถูกลงโทษพวกเจ้าให้บ่าวช่วยเขียนคงไม่ได้หรอก ได้ยินว่าตาเฒ่าจ้างหย่งเฉิงราชครูคนนี้ฉลาดมากนัก ข้าเรียนไม่ได้เรื่อง แต่ถ้าเป็นเรื่องปลอมลายมือข้าเนียนมาก ว่าอย่างไรจ้างไม่จ้าง"
"หึสองตำลึง..แพงเพียงนี้จะปล้นข้าหรือไง"
"เหอๆๆๆ...คุณชายฝางบิดาเจ้าจ่ายถึงแปดพันตำลึงเพื่อให้ได้เข้าเรียน เจ้าอยากถูกไล่ออกไหม จ้าวหย่งเฉิงไม่ใช่ฉู่หวายที่จะเห็นแก่เงิน ได้ยินว่าสกุลจ้าวร่ำรวยกว่าท้องพระคลังเสียอีก เขาจะเอาเงินพวกเจ้าไปทำอะไร"
ทั้งสามคนมองหน้ากันลังเล ไป๋เจินเจินจึงเอ่ยต่อ
"ข้าไปพบตาเฒ่านั่นก่อน พวกเจ้าคิดดีๆไปรอข้าที่เชิงเขาหลังสำนัก เตรียมกระดาษพู่กันกับหมึกเอาไว้ ข้าจะลองเลียนแบบลายมือให้ดู จากนั้นพวกเจ้าค่อยตัดสินใจว่าจะจ้างข้าหรือไม่"
ไป๋เจินเจินไปแล้วนางมั่นใจว่าไอ้สามคนนี้ต้องจ้างนางแน่ๆ จอมขี้เกียจประจำสำนักเลยแหละ ถึงจะเกเรแต่นิสัยไม่เลวร้าย ไม่นานไป๋เจินเจินก็มาหยุดที่หน้าห้องทำงานของจ้าวหย่งเฉิง นางยกมือเคาะประตูสามที
ก๊อก ก๊อก ก๊อก..
"เข้ามา" ไป๋เจินเจินเปิดประตูออกก่อนจะยกชายกระโปรงเดินเข้าไป ยายเด็กนี่คงมีแค่ชุดนักเรียนนี่แหละกระมังที่ใส่แล้วดูดีหน่อย จ้าวหย่งเฉิงกำลังวาดอักษรอยู่ ไป๋เจินเจินเบ้ปากใส่เขาก่อนจะทำหน้าเศร้าแล้วเดินไปหยุดตรงหน้า จ้าวหย่งเฉินนึกในใจ
"เจ้ายิ้มเยาะเบ้ปากให้ข้า แต่กลับตีสีหน้าเศร้าไวนัก ไป๋เจินเจินเจ้าเป็นคนเช่นไรกันแน่"
คนตัวเล็กไม่รู้ว่าเขาสังเกตตั้งแต่นางเดินเข้ามาแล้ว แต่นางประมวลผลได้อย่างหนึ่งจากความทรงจำ ไอ้หน้าอ่อนนี่เป็นคนส่งเสื้อคลุมให้ร่างเดิมเมื่อวานนี้ ไป๋เจินเจินหยุดยืนก่อนจะเอ่ยเบาๆ
"ศิษย์ไป๋เจินเจินคารวะอาจารย์จ้าวเจ้าค่ะ"
"อืม"
จ้างหย่งเฉิงยังคงวาดอักษรต่อ ไป๋เจินเจินยืนจนเมื่อยแล้ว นี่มันจะหนึ่งชั่วยามแล้วนะ ตาเฒ่าเอ๊ยจะพูดอะไรก็ไม่พูดวะ นางกำลังจะเอ่ยปากแต่เขากลับวางพู่กันในมือแล้วเอ่ยขึ้นมาก่อน
"เมื่อวานเจ้ายังอ่อนแต่ดั่งลูกนกตกลงไปในสระ มาวันนี้กลับผลัดขนเป็นนกเหยี่ยวล่าเหยื่อเสียแล้วหรือไป่เจินเจิน"
"ท่านอาจารย์ ศิษย์ต้องปกป้องตนเองเช่นกัน หากถูกรังแกทุกวันจะให้ทำเช่นไร แต่ท่านอย่ากังวลเลยเจ้าค่ะ ศิษย์จะไม่ทำให้พวกท่านต้องหนักใจอีกแล้ว"
"หืม..เช่นนั้นรึ"
"เจ้าค่ะ..ท่านอาจารย์บิดาของศิษย์ป่วยอยู่ เลยมื้อเที่ยงแล้วขอกลับบ้านไปหาข้าวให้ท่านพ่อได้ไหมเจ้าคะ"
"บิดาเจ้าอยากให้เจ้าได้เรียนที่นี่ เรื่องลาออกที่อยู่ในใจเจ้าเลิกคิดซะ ไปได้แล้วอย่าให้เหตุการณ์เช่นวันนี้เกิดขึ้นอีกนะ ไป๋ เจิน เจิน"
เขาย้ำชื่อนางเสียงเข้ม ไป่เจินเจินลอบถอนหายใจ รู้ความคิดนางได้อย่างไรกันนะ หลังจากสาวน้อยไปแล้วจ้าวหย่งเฉิงก็วางพู่กันลง นางมิได้อ่อนแอเช่นที่เห็นแน่ๆ เด็กคนนี้มีเรื่องให้น่าค้นหาเสียจริงๆ
"ตาแก่จ้าว..แม่คุณหนูนั่นหาเรื่องเจ๊แต่กลับมาโทษเจ๊หรือ ขุนนางมักเข้าข้างพวกเดียวกัน สุนัขก็คือสุนัขกัดตัวเดียวไม่ได้ต้องใช้วิธีหมาหมู่ เหอะ"
แม้นางจะอยู่ด้านนอกและเดินไปไกลแล้วแต่เขาได้ยินทุกคำ ด่าเขาเป็นตาแก่ ด่าเขาเป็นสุนัข เด็กคนนี้ต้องอบรมให้เข้มงวดเสียแล้ว เขาให้คนไปสืบจากมือปราบเถียนมา บิดาได้รับบาดเจ็บจนขากะเผลกเดินไม่ถนัด แต่อยากให้นางได้เรียนหนังสือจึงไปขอร้องเถียนหลงจนนางได้เข้าเรียน แต่กลับเรียนอะไรไม่ได้สักอย่าง
ดูเหมือนนางจะบอกว่านางมาเรียนเกือบปีแต่ไม่ได้อักษรสักตัว เช่นนั้นเขาจะสอนนางเองให้นางหัดเขียนจนกว่าจะเป็น ไม่ให้นางมาว่าได้ว่าสำนักศึกษาของตระกูลเขาไร้คุณธรรม ก่อนจะเรียกอาจารย์ใหญ่มาแล้วรื้อระบบการรับนักเรียนทันที อาจารย์คนไหนรับลูกศิษย์เพราะเงินถูกไล่ออกทันที มีอาจารย์ถูกไล่ออกถึงเจ็ดคน แต่จ้าวหย่งเฉิงไม่สนใจ เขามีลูกศิษย์ที่เป็นบัณฑิตมากมายนัก ให้คนเหล่านั้นมาสอนแทนย่อมมิใช่ปัญหา
ไป๋เจินเจินไม่รู้เลยว่านางสร้างคลื่นลมให้กับสำนักศึกษาใหญ่หลวงแค่ไหน นางไม่สนใจจ้าวหย่งเฉิงอีกต่อไปเรื่องสำคัญคือหาเงิน ช่างเถอะนางต้องไปพบเจ้าพวกนั้น หากเลยเวลามื้อเที่ยงพวกลูกเต่านั่นเข้าเรียนนางจะพบไม่ได้ ต้องหาเงินไปซื้อยาข้าวของเครื่องใช้ก่อน บิดาของร่างเดิมรักบุตรสาวเกินไปไม่ยอมให้แตะอะไรเลย บ้านจะเน่าอยู่แล้ว แต่งไปอยู่ที่อื่นจะอยู่อย่างไรทำอะไรก็ไม่เป็น เฮ้อรักลูกเกินไปจริงๆ
จินเสี่ยวฟงเขินอาย ทุกคนต่างก็หัวเราะ จ้าวหย่งเฉิงลุกไปช่วยคู่หมั้นจัดการอาหารสามอย่างสุดท้าย วันนี้นางทำของโปรดของเขาแทบจะทุกอย่าง ไป๋เจินเจินคีบเนื้อปลาเปรี้ยวหวานใส่ชามบิดา จากนั้นถึงคีบให้เขา จ้าวหย่งเฉิงมองหน้านาง ไป๋เจินเจินส่งสายตาดุกลับไป คนเยอะแยะเขาช่างหน้าด้าน"ดูก้างให้อาด้วย เดี๋ยวอาติดคอนะ""ท่านอา...คนอื่นยังกินได้เลย"สวีข่ายเหยียนคีบก้างปลาออกทีละเส้นๆจากนั้นก็คีบมาใส่ในชามของเขา ยิ้มประจบประแจงแล้วเอ่ย"อาจารย์ขอรับ ศิษย์เอาก้างปลาออกหมดแล้วรับรองไม่มีก้างแน่นอน อาจารย์ทานให้สบายใจเถอะขอรับ"จ้าวหย่งเฉิงแค่นยิ้มให้ลูกศิษย์ที่หวังดีผิดที่ก่อนจะเอ่ยลอดไรฟัน"ขอบใจ ขอบใจมากแต่วันหน้าวันหลังเจ้าไม่ต้อง""อ้อ..ยินดีขอรับท่านอาจารย์ เอะ!! ห๊ะ ห๊า ศิษย์ทำอะไรผิดไปหรือขอรับ"จ้าวหย่งเฉิงหลับตาก่อนจะถอนหายใจแล้วบอกให้กินข้าน"กินข้าวของเจ้าไป สู่รู้นัก"สิ้นคำของเขาสามสหายก็เงียบทันที สวีข่ายเหยียนไม่เข้าใจแต่อีกสองคนเข้าใจจึงกระตุกชายเสื้อเขาเบาๆ ไป๋เจินเจินส่ายหน้าให้กับความงอแงก่อนจะคีบก้างปลาออกแล้วเอาเนื้อปลาที่ไร้ก้างใส่ในชามบิดาก่อน จากนั้นจึงคีบ
ร่างบางเดินกลับไปยังรถม้าซึ่งเป็นรถม้าของจวนราชครู สามจอมเสเพลรู้สึกว่าสหายตัวน้อยไม่ชอบหน้าองค์ชายห้าพวกเขาจึงตามนางไปและพาลไม่ชอบตามไปด้วย ใครที่อาเจินเกลียดพวกเขาก็เกลียดด้วยเช่นกัน องครักษ์ของจ้าวหย่งเฉิงไปรายงานที่สำนักศึกษาแล้ว เขาจึงตรงไปจวนสกุลไป่ทันที หยางตงชิงอยากยุ่งกับนางเจ้าก็ลองดูสิ เมื่อมาถึงจวนไป๋จิ้งหยวนที่กำลังนั่งเช็ดกระบี่อยู่เห็นรถม้าของจวนราชครูเข้ามาก็เก็บกระบี่เขาฝัก มีรถม้าอีกสามคันตามมาพอจอดสนิทก็เป็นจ้าวลู่ซิน องค์หญิงแปดและองค์ชายห้า เขามาได้อย่างไรกัน เห็นทีต้องเพิ่มคนอารักขาบุตรสาวเสียแล้ว นางฉลาดเฉลียวหากองค์ชายห้ารู้ว่านางมีความสามารถอาเจินอาจตกอยู่ในอันตราย ร่างอรชรเดินมาหาบิดาเอ่ยทักทาย"ท่านพ่อ..ลูกกลับมาแล้วเจ้าค่ะ""คารวะท่านอาไป๋ขอรับ"สามจอมเสเพลคำนับไป๋จิ้งหยวน จ้าวลู่ซินกับเหอฉู่หรานก็ทำความเคารพเขา ไป๋จิ้งหยวนคำนับอีกสองคนที่เดินตามมา"ถวายพระพรองค์ชายห้า ถวายพระพรองค์หญิงแปดพ่ะย่ะค่ะ""องครักษ์ไป๋ตามสบายเถอะ วันนี้เราแค่อยากมากินข้าวกับอาเจินและลู่ซินน่ะ"ไป๋จิ้งหยวนเข้าใจดี ไทเฮาคือย่าทวดของจ้าวลู่ซินและเป็นเสด็จย่
หลังจากที่ไป๋เจินเจินจัดการหนานซวงซวงและหยุนเสี่ยวหว่านเรียบร้อยแล้วก็จะกลับจวน อีกสิบวันเป็นงานแต่งงานของนางกับจ้าวหย่งเฉิง หลังจากงานแต่งสามวันนางกลับบ้านเดิมเยี่ยมบิดาเรียบร้อย ท่านพ่อจะไปต้อนรับคณะทูตที่เดินทางมาเพื่อถวายเครื่องบรรณาการ ร่างอรชรเดินซื้อข้าวของเพื่อวันนี้คู่หมั้นรูปงามของนางจะมากินมื้อค่ำที่จวน จ้าวหย่งเฉิงชอบกินอาหารฝีมือนางโดยเฉพาะปลาเปรี้ยวหวานและบะหมี่ตุ๋นสามชั้น ไป๋เจินเจินไปร้านขายยาเพื่อซื้อเครื่องเทศ เถ้าแก่ร้านออกมาต้อนรับนางด้วยตนเอง ยามนี้จากเด็กสาวมือปราบไร้ชื่อที่หนีหน้าที่ กลับกลายเป็นคุณหนูไป๋บุตรสาวหัวหน้าองครักษ์เสื้อแพร คนที่เคยเหยียดหยามต่างก้มหน้าเมื่อเจอนางองครักษ์พิทักษ์หญิงงามเดินตามหลัง ไม่มีใครกล้ามาต่อกรหรือหาเรื่อง สกุลของจอมเสเพลทั้งสามคนนั้นยิ่งใหญ่ไม่น้อย แต่ละตระกูลล้วนแต่มีคุโณปการต่อราชสำนัก สวีข่ายเหยียนเอ่ยถามเมื่อเห็นนางเดินมาหน้าร้านโอสถ"อาเจิน...เจ้าป่วยเป็นอันใดหรือถึงมาซื้อยา"จินเสี่ยวฟงถอนหายใจก่อนจะเอ่ยกับสหาย"อาเจินจะมาซื้อเครื่องเทศไปทำอาหารอร่อยให้พวกเรากิน นางไม่ได้ป่วยเจ้าทึ่ม"ใบหน้าหวานยิ้มน้
หยางตงชิงที่รอรายงานก็ร้อนใจ ได้ยินว่ามีการทูลเกล้าฯถวายฎีกาเรื่องไฟไหม้ครั้งนั้นเป็นการวางเพลิง คนทำต้องการเอาชีวิตของไท่จื่อเฟยและองค์ชาย องค์ชายห้ากำมือแน่นคนสนิทหลับตาก่อนจะเอ่ยอย่างหวาดหวั่น"องค์ชายพ่ะย่ะค่ะ ได้ยินว่าคนที่รู้ว่านี่คือการวางเพลิงคือคุณหนูไป๋ นางพบหลักฐานที่เกิดเหตุอีกด้วย""นางพบอะไร ห้องนั้นไฟไหมจนไม่เหลือซาก นางก็แค่เด็กน้อยเพิ่งปักปิ่นจะมีความสามารถอะไรได้กัน"หยางตงชิงไม่เชื่อว่าเด็กสกุลไป๋คนนั้นจะมีหลักฐาน คงต้องการล่อเขาออกมามากกว่า หากเขาทำไม่รู้ไม่เห็นก็ไม่มีใครเอาผิดเขาได้ ร้านค้าที่จำหน่ายน้ำมันเตานั่นเข้าก็ให้คนของเขาไปจัดการคนที่ขายของให้คนของตนเรียบร้อยแล้ว นางเด็กนั่นฉลาดนักหรือ เจ้าเล่ห์เหมือนบิดาของนางไม่มีผิด หากมิใช่เพราะไป๋จิ้งหยวนมาขัดขวางเขาคงจัดการรัชทายาทไปนานแล้ว ยังแอบซ่อนตัวทำเป็นคนพิการขาเป๋ รัชทายาทคนที่อยู่ตำหนักบูรพาคนนั้นน่าจะตัวปลอม เขาไม่เคยรับรู้มาก่อนกระทั่งตัวจริงกลับมา หยางตงชิงสั่งให้คนของตนไปพบกับคนของโจรภูเขา กองกำลังที่เขาแอบซ่องสุมมานานไม่ช้าก็จะเข้าเมืองหลวงได้ทั้งหมด "ไปหาเฉินฮุ่ย....บอกให้เ
นี่หรือคนที่ไม่ชอบสตรี นี่คือคนที่ไม่ไยดีผู้หญิงจริงๆหรือ สามสิบเจ็ดแล้วเขายังไม่เคยหลับนอนกับสตรีคนไหน จนมีข่าวลือว่าเป็นพวกตัดแขนเสื้อ ไป๋เจินเจินขยับเอี้ยวตัวไปหาเขาก่อนจะยิ้มให้แล้วตอบตกลง"เจ้าค่ะ แต่ห้ามอาจารย์แช่น้ำนานเกินไปนะเจ้าคะ อีกอย่าพวกเรายังไม่แต่งกันสักหน่อยคำว่าผัวเมียท่านเรียกบ่อยเกินไปแล้ว"หึ หึ หึ จ้าวหย่งเฉิงหัวเราะในลำคอจากนั้นก็อุ้มนางออกทางหลังเรือน พาดีดขึ้นยอดไม้ไปยังเขตต้องห้ามสำหรับเขาเท่านั้น เมื่อมาถึงก็วางร่างบางลง ไป่เจินเจินนั่งบนโขดหินรอเขาแช่น้ำ แต่คนตัวโตกลับไม่ยอม"ลงแช่น้ำกับอาด้วยเด็กดี""ห๊ะ ห๊า ไม่ดีกระมังเจ้าคะ ข้ามิได้เอาเสื้อผ้ามา ท่านอาตามสบายเถอะเจ้าคะ""ก็ไม่ต้องใส่ถอดเถอะ ยังมีอะไรที่ไม่เคยเห็นอีก อาเจินตั้งแต่เห็นเจ้าเดินขึ้นมาจากบ่อน้ำพุคราวนั้น อาก็ลืมภาพเย้ายวนเจ้าไม่ได้สักวัน"ไป่เจินเจินมองหน้าเขาทันที หรือว่าวันนั้นเขาเห็นงั้นหรือ ใบหน้าหวานแดงซ่านก่อนจะเอ่ยโมโหกลบเกลื่อนความเขินอาย"คนบ้า ท่านเป็นถึงราชครูแห่งแคว้น เป็นอาจารย์สำนักศึกษาเหตุใดไม่สำรวม ช่างหน้าหนายิ่งนักแอบดูข้าหรือคนหน้าไม่อาย"จ้าวหย่งเ
เมืองหลวงหยางตงชิงที่ยามนี้กำลังกราดเกรี้ยวใส่คนของตน เขาต้องการสังหารพระชายาและองค์ชายน้อยเหตุใดทั้งคู่จึงไม่ตาย ดีที่เขารอบคอบตอนที่วางเพลิงไม่มีคนพบเห็นเพราะเป็นจังหวะเดียวกับที่สำนักศึกษาพาลูกศิษย์มาไหว้พระและศึกษาพระธรรมจึงทำให้คนพลุกพล่านเหมาะแก่การลงมือ"แต่ละคนไม่ได้เรื่องทั้งนั้น""องค์ชาย ตอนนั้นหากไม่ใช่เพราะลูกศิษย์สำนักศึกษาที่ชื่อไป๋เจินเจินคนนั้นเข้าไปพาทั้งสองออกมาก็คงจะสำเร็จแล้วพ่ะย่ะค่ะ""ไป๋เจินเจินงั้นหรือ""ทูลองค์ชาย ไป๋เจินเจินคือบุตรสาวหัวหน้าองครักษ์หลวงไป๋จิ้งหยวน เขาเพิ่งกลับมารับตำแหน่งเมื่อไม่นานนี้พ่ะย่ะค่ะ"หยางตงชิงปาจอกชางงพื้นจนแตกกระจาย ไป๋จิ้งหยวนเป็นเจ้าอีกแล้ว สองปีก่อนถ้าไม่ใช่เพราะเจ้าข้าสังหารหยางมู่เฉินสำเร็จไปแล้ว ไอ้สารเลว"องค์ชายพ่ะย่ะค่ะ ท่านตาของพระองค์กำลังหาทางให้องค์ชายสิบสองผูกสัมพันธ์กับคณะทูตที่จะมาถึงเดือนหน้าพ่ะย่ะค่ะ""ท่านตาของข้างช่างทุ่มเทเสียจริงๆ หยางหลิงเทียนหรือจะนั่งบัลลังก์ ฝันเฟื่อง"หยางตงชิงเสแสร้งว่าตนเองไม่ฝักใฝ่ในอำนาจ ตำแหน่งรัชทายาทไม่ใชสิ่งที่เขาต้องการมาตลอด ทำตัวราวกับองค์ชายเกียจคร้านเรื่องกา