แชร์

สามจอมเสเพลแห่งเมืองหลวง

ผู้เขียน: ป่าดอกท้อ
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-02-17 23:05:51

เชิงเขาหลังสำนัก   

จินเสี่ยวเฟิง  ฝางอี้หลุน  สวีข่ายเหยียนกับเด็กรับใช้ยืนรอนางอยู่  เมื่อมาถึงพวกเขาก็รีบมาหานาง  ได้เวลาจะเข้าเรียนแล้วนะ

"นี่ๆๆ  เจ้ายาจกรีบๆหน่อยไม่ได้หรือไง"

"คุณชายสวี  หากเรียกข้าเช่นนั้นอีกคำข้าจะให้สวีข่ายเฉิงปู่ของเจ้าจำหน้าไม่ได้เลยคอยดู   ฝนหมึกมา  กระดาษด้วย"

เมื่อทุกอย่างพร้อมไป่เจินเจินก็ลงมือเขียนกฎสำนักที่มีกว่าสองพันข้อให้พวกเขาคนละแผ่น  จินเสี่ยวเฟิงตาโต

"เหมือนไปแล้ว  นี่ดูเผินหรือตั้งใจดูก็เป็นลายมือข้า  ฮ่าๆข้าจ้างเจ้าข้าจ้างฮ่าๆๆ"

"ข้าด้วยๆ  สองตำลึงหรือ  นี่ไป่เจินเจินข้าให้เจ้าเดือนละยี่สิบตำลึง  ทำการบ้านให้ข้าเจ้าจะว่าอย่างไร"

ฝางอี้หลุนเป็นบุตรชายคหบดีในเมืองหลวงเขาร่ำรวยเงินทองมากมาย  ยี่สิบตำลึงแคะฟันเขายังไม่เกลี้ยงเลย  ไป๋เจินเจินเห็นโอกาสก็รีบค้าทันทีก่อนจะเอ่ย

"ข้าไม่เก่งเรื่องอื่น  แต่ถ้าคำนวณ  วาดภาพ  หรือแต่งกลอนข้าทำได้    ที่สำนักข้าไม่อยากเรียนเองนั่นแหละ  มานี่ข้าจะแต่งบทกวีให้พวกเจ้าลองอ่านหนึ่งบท"

จากนั้นไป่เจินเจินก็ลอกเอาบทกวีของหลี่ไป๋ นักกวีชื่อดังมาหนึ่งบทซึ่งเป็นบทไม่ได้ยากมากนัก  ทั้งสามตาโตทันที  ไป่เจินเจินจึงกลายเป็นกุนซือให้พวกเขาด้วยเงินเดือนๆละสามสิบตำลึงสามคนก็เก้าสิบตำลึง

"วันนี้จ่ายล่วงหน้ามาคนละหนึ่งตำลึง  พรุ่งนี้ยามอู่มารับงานที่ข้าคัดให้พวกเจ้าที่นี่  อย่าพาใครมาเพิ่มข้าพอใจทำให้แค่พวกเจ้าสามคน"

"ได้ๆ  แต่ว่าเจ้าไปมาเรียนหรือพรุ่งนี้"

"พวกเจ้าบอกตอนอาจารย์ขานชื่อไปว่าเห็นข้าเข้าไปร้านยา  จึงลองสอบถามดูปรากว่าข้าเป็นไข้  น่าจะอาการป่วยหนักเลยไม่อาจมาเรียนได้"

ทั้งสี่คนตกลงกันเรียบร้อยไป๋เจินเจินก็รับเงินก่อนจะไปตลาดหาซื้อข้าวของ  ผ้าห่ม  เสื้อผ้า  อาหาร แป้งสาลี  น้ำมัน  เกลือ  หลังสำนักมีภูเขาไม่เคยมีใครไปล่าสัตว์บนนี้  แต่ไม่ใช่สำหรับนาง  แต่เอาไว้ก่อน  ไป๋เจินเจินกลับไปถึงบ้านเรียกหาบิดาก็ไม่เห็น  พอเดินมาถึงด้านในก็เห็นเขาล้มอยู่  พยายามลุกแต่ลุกไม่ขึ้น  ไป๋เจินเจินรีบเข้าไปประคองทันที

"ท่านพ่อ..ท่านเป็นอย่างไรบ้างเจ้าค่ะ  แล้วเหตุใดถึงได้หกล้มไป"

"พ่อจะไปหุงข้าวน่ะ  เห็นลูกยังไม่กลับมากินก็เลยจะไปตาม  แต่ตอนที่มาเอาเสื้อคลุมมันสะดุดล้ม"

ไป๋เจินเจินน้ำตาไหลออกมา  ผู้ชายคนนี้รักลูกสาวมากจริงๆ  เขาจะรู้ไหมว่าลูกสาวของเขาได้จากไปแล้ว  ไป่เจินเจินประคองเขาลุกขึ้นก่อนจะเอ่ย

"ต่อไปท่านไม่ต้องทำแล้ว  ท่านพ่อแม้ว่าข้าจะเรียนไม่เก่งแต่ลายมือข้างดงาม  อาจารย์มักเอ่ยชมเสมอ  อาจารย์หวงจึงให้ข้าคัดลอกบทความ  มีค่าตอบแทนให้ด้วย  วันนี้ข้าขอเบิกล่วงหน้ามา  ซื้ออาหารกับผ้าห่มมาเปลี่ยนให้ท่านใหม่  ท่านพ่อท่านนั่งนะเจ้าคะ  ข้าจะทำความสะอาดเรือนสักหน่อย"

"อาเจิน  งานมันหนักเจ้าบอบบางเกินไปไว้เป็นหน้าที่พ่อเถอะ"

"ท่านพ่อ  อีกหน่อยข้าออกเรือนไปท่านอยากให้คนมาต่อว่าหรือว่าเลี้ยงลูกสาวอย่างไรงานบ้านงานเรือนไม่ได้สักอย่าง  ท่านแม่เป็นสตรีที่เพียบพร้อมมิใช่หรือเจ้าคะ  ข้าอยากเป็นเช่นนางบ้าง"

ไป่จิ้งร้องไห้ออกมา  เขารักภรรยาของเขามาก  ทั้งคู่มีนางเป็นบุตรสาวคนเดียว  หลังจากที่นางจากไปเขาก็ไม่แต่งงานใหม่เลี้ยงดูนางมาลำพังจึงไม่อยากให้นางลำบาก  บุตรสาวเขาพูดถูกเป็นสตรีต้องรู้จักงานบ้าน  เขาจึงไม่เอ่ยต่ออีก

ไป่เจินเจินนำซาลาเป่ามาให้บิดาเรียบร้อยก็ไปทำความสะอาดบ้าน  ใช้เวลากว่าสองชั่วยามจึงสะอาด  บ้านที่เหม็นอับ  หยากไย่หนาเขรอะ  ที่นอนที่ขึ้นราถูกเอาออกมาทิ้งด้านนอก  นางจะเอาไปเผาทิ้งแต่ต้องรออีกหน่อย  ตอนนี้ในบ้านเหมือนบ้านหลังใหม่    หอมสะอาด  ไป่จิ้งยกแขนเสื้อมาเช็ดน้ำตา  บุตรสาวโตแล้วจริงๆ

ไป๋เจินเจินทำมื้อเย็นให้บิดากับตนเอง  จากนั้นก็เข้าห้องจุดตะเกียง เงินสามตำลึงนั้นจะว่ามากก็ไม่มากแต่สำหรับคนที่ไม่มีเงินตำลึงเลยนับว่าต่อลมหายใจทีเดียว  วันนี้นางไปถามมาแล้วว่าค่าตรวจรักษาเริ่มต้นที่เท่าไหร่  ปรากฏว่าแค่ค่าตรวจก็แปดตำลึงแล้ว   แค่คัดตำรายังไม่พอต้องหาเงินจากทางอื่นอีก  พรุ่งนี้ส่งงานเสร็จจะเลยขึ้นเขาสักหน่อยเผื่อหาขุมทรัพย์ได้จากบนเขาเหมือนในนิยายที่เคยอ่านมา  จากนั้นก็ตั้งหน้าตั้งตาคัดกฎสำนักให้กับทั้งสามคนจนยามอิ๋นจึงได้เข้านอน   

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ข้านะหรือคือลูกศิษย์คนโปรดหรือเปล่า   ทำร้ายสามีข้าใครให้ความกล้าพวกเขากัน

    หยางมู่เฉินกับหยางเทียนกลับไปแล้ว ไป๋จิ้งหยวนคอยดูแลความสงบของวังหลวงจึงต้องกลับไป ก่อนหน้าเขาไม่ปรากฏตัวเพราะไม่อยากแหวกหญ้าให้งูตื่น แต่ยามนี้องค์ชายห้าผู้สันโดษก็เปิดหน้าออกมาแล้ว ถ้าหากมิใช่เพราะบุตรสาวเขาเอาตัวไปเสี่ยงเพื่อช่วยชีวิตบุตรชายและพระชายาองค์รัชทายาท และทั้งสองพระองค์เกิดเป็นอะไรขึ้นมารัชทายาทจะต้องจมอยู่กับความเศร้าโศก เช่นนั้นก็อาจเข้าทางพวกเขา คนที่เหมาะสมกับตำแหน่งก็เหลือเพียงองค์ชายห้ากับองค์ชายสี่และองค์ชายหก ได้ยินว่าเมื่อเจ็ดวันนก่อนองค์ชายสิบสองทรงพลัดตกจากหลังม้าที่ทรงขี่ประจำ ดูเหมือนว่าการตกจากหลังม้าครั้งนี้น่าจะไม่ใช่อุบัติเหตุเสียแล้ว ขนาดสายเลือดเดียวกันยังลงมือ หยางตงชิงนั้นล้ำลึกเสียจริงๆ จ้าวหย่งเฉิงไม่อยากให้ไป๋เจินเจินต้องมาพัวพันเขามองหน้าว่าที่พ่อตา ไป๋จิงหยวนรู้ดีจึงพยักหน้าก่อนจะเอ่ย"อาเจิน ลูกดูแลท่านราชครูให้ดี พ่อต้องกลับวังหลวงก่อน ต้องดูแลความสงบในวัง ทางนี้ก็ฝากลูกแล้ว""ท่านพ่ออย่าห่วงเลยเจ้าค่ะ ข้าสั่งรถม้าแล้วพวกเราจะกลับบ้านท่านอาที่ป่าไผ่วันรุ่งขึ้น ที่นั่นมีน้ำพุร้อนสามารถช่วยรักษาแผลได้เจ้าค่ะ"ไป๋จิ้งหยวนพยั

  • ข้านะหรือคือลูกศิษย์คนโปรดหรือเปล่า   คนที่คาดไม่ถึง

    จ้าวหย่งเฉิงเดินมาหาร่างบางที่กำลังมองไปยังคุณหนูสกุลหนานและสกุลหยุนด้วยสายตาอำมหิต นางโกรธเกลียดเด็กสาวสองคนนี้เพียงใดกันนะ เขารู้มาว่าวันที่เจอกับนางครั้งแรกตอนที่ถูกบังคับให้แช่น้ำในสระเด็กสองคนนี้มีส่วนร่วมด้วยเท่านั้น แต่จากสายตาของนางเหมือนกับว่าหนานซวงซวงกับหยุนเสี่ยวหว่านนั้นไม่อาจอยู่ร่วมกันได้ ร่างสูงเดินไปหานางมือหนาโอบรอบเอวรั้งนางเข้ามาหาไม่สนใจสายตาของอาจารย์และลูกศิษย์รวมถึงคนที่ยืนอยู่ก่อนจะเอ่ยถามไถ่"ฮูหยิน มีเรื่องอันใดหรือ"ไป๋เจินเจินที่เห็นหน้าเขาก็ร้องไห้ออกมาก่อนจะกอดเขาแน่นไม่สนใจสายตาของใคร"ท่านอา..ท่านมาทำไมท่านยังบาดเจ็บอยู่เลยฮือๆๆ""อาไม่เป็นไร เด็กดีไม่ร้องนะอาอยู่ตรงนี้แล้ว"ฮูหยินหรือ งั้นข่าวลือที่ว่าราชครูจ้าจะแต่งงานกับไป๋เจินเจินก็เป็นยเรื่องจริงน่ะสิ สายตาทุกคู่มองมายังทั้งสองคนพร้อมกับอ้าปากค้าง จ้าวหย่งเฉิงค่อยๆประคองร่างบางที่กำลังร้องไห้เอาไว้ เขาได้รับบาดเจ็บที่หลัง เมื่อสามวันก่อนเกิดไปไหม้อารามที่พระชายารัชทายาททรงไปพักผ่อนกับองค์ชาย นางเข้าช่วยสุดท้ายกลับติดอยู่ในนั้น จ้าวหย่งเฉิงเข้าไปพานางกับองค์ชายออกมาก่อนที่จะถูกคา

  • ข้านะหรือคือลูกศิษย์คนโปรดหรือเปล่า   เริ่มเอาคืน

    ทันทีที่ไป๋เจินเจินเอ่ยจบ หนานเฉาเหว่ยก็หน้าซีด นางเด็กนี้รู้อะไรมาหรือ เขาจึงเอ่ยกลับไปไม่ยอมรับ"เงินทองจวนข้ามีมากพอ อาหารเหล่านั้นไม่ได้แพงมากมาย เจ้าจะไปรู้อะไร"ไป๋จิ้งหยวนมองหน้าหนานเฉาเหว่ยทันที ดูเหมือนบุตรสาวของตนจะรู้อะไรมา ไม่นานชายที่สวมชุดสีม่วงใช้พัดปิดบังใบหน้าที่เพิ่งเดินมาถึงก็เอ่ยขึ้นมา"เงินเดือนเจ้ากรมหนึ่งร้อยยี่สิบตำลึง มีเมียรองสองคน อนุสี่คน ไปร่ำรวยมาจากไหนกัน"หนานเฉวเหว่ยหันไปทางเสียงที่เอ่ยมาก่อนจะชี้หน้า"เจ้า ไอ้บัณฑิตกระจอก เรื่องของบ้านข้าเจ้าจะไปรู้อะไร"ไป่เจินเจินปรบมือให้กับหนานเฉาเหว่ยก่อนที่นางจะเอ่ย" เมียรองก็มีสินเดิม อนุก็มีสินเดิม อาหารมื้อละสองร้อยตำลึง ใต้เท้าหนานเจ้าแต่งภรรยากับอนุมาเลี้ยงดูตนเองเช่นนั้นหรือ"ฮ่าๆๆๆ ฮ่าๆๆๆ ฮ่าๆๆๆเสียงหัวเราะดังลั่นสำนักศึกษา หนานเฉาเหว่ยโบกมือเพื่อให้คนของตนสั่งสอนไป๋เจินเจิน แต่ไป๋จิ้งหยวนกดเขาลงกับพื้นนก่อนจะเอ่ย"อยากแตะต้องบุตรสาวข้า ไปเอาความกล้ามาจากที่ใดกัน"หนานเฉาเหว่ยพยายาที่จะลุกไม่นานองครักษ์หลวงก็มาพร้อมกับเจ้าหน้าที่ศาลต้าหลี่ วั่นกงกงถือม้วนผ้าสีทองมาด้วยก่อนจะเอื้อนเอ่

  • ข้านะหรือคือลูกศิษย์คนโปรดหรือเปล่า   ข้าตบเพราะเจ้าเป็นขุนนาง

    ไป๋เจินเจินกลับมาจากบ้านป่าไผ่ได้สิบวันแล้ว ที่ยามนี้นั่งเรียนอยู่กับอาจารย์เฟิ่งที่ศาลารับลม พวกนางไม่ต้องเข้าเรียนในชั้น จ้าวลู่ซินเองก็ตั้งใจเรียน ไม่มีใครกล้ามาหาเรื่องพวกนางอีก โดยเฉพาะไป๋เจินเจินนางคือภรรยาที่ยังไม่แต่งของท่านราชครูเจ้าของสำนักศึกษาเชียวนะยามนี้อาจารย์เฟิ่งไม่อยู่ พวกนางจึงนั่งทบทวนตำรา ไป๋เจินเจินนั่งอ่านตำราเป็นเพื่อนจ้าวลู่ซิน เดิมก็เรียนจนจบปริญญาโทรจากนั้นก็มาเป็นอาสากู้ภัยของหน่วยดับเพลิง เรื่องเรียนไม่ใช่ว่านางขี้เกียจแต่ชาติที่แล้วเรียนมาหลายปีเบื่อแล้ว ส่วนที่นี่สอนแต่หลักสูตรพื้นฐานอะไรก็ไม่รู้ เหมือนเรียนอนุบาลอีกครั้งเลยมันน่าเบื่อ จ้าวลู่ซินเกาศีรษะเพราะที่ไป๋เจินเจินเขียนโจทย์ให้นางนั้นยากเกินไป ก่อนจะวางพู่กันแล้วเอ่ยกับนาง"อาสะใภ้...วิชาคำนวนนั้นยากไปแล้ว ข้าเรียนไม่ไหวหรอก""คุณธรรมอะไรนั่นเรียนไม่ยากที่ยากคือปฏิบัติให้ได้ คุณหนูจ้าวท่านพยายามสักหน่อยเถอะนะ เมื่อก่อนข้าก็ไม่เข้าใจแต่อาเจินอธิบายจนในที่สุดข้าก็เรียนรู้จนได้"จินเสียวฟงเอ่ยกับนาง จ้าวลู่ซินทำหน้าหงอยๆก่อนจะพยักหน้าให้เขา ไป๋เจินเจินที่เห็นนางหน้าเศร้าก็เ

  • ข้านะหรือคือลูกศิษย์คนโปรดหรือเปล่า   เจ้ากล้าสงสัยฝ่าบาทหรือ

    ไป่เจินเจินมองหน้าบิดาทันที ทำไมต้องให้ฮ่องเต้ด้วย นางจับมาลำบากแทบตายอีกอย่างนางเอ่ยปากให้พี่ๆ ทั้งสามคนไปแล้วด้วย กระทั่งสวีข่ายเหยียนเอ่ยขึ้น"อาเจิน ถวายฝ่าบาทก่อนนั้นดีแล้ว จะได้ไม่นำภัยมาสู่ตนเอง""ถูกของข่ายเหยียนนะ อาเจินที่ท่านลุงไป๋ทำก็เพราะไม่อยากให้พวกเราถูกกล่าวหาน่ะ""พี่ข่ายเหยียนพี่เสียวฟงข้าไม่เข้าใจ พวกท่านหมายความว่าเช่นไร"ฝางอี้หลุนเดินมาหานางจับมือบางก่อนจะเอ่ย"เพียงพอนเป็นสัตว์มงคลของแคว้น ยากที่จะจับมาได้ หากแม้แต่ฮ่องเต้ยังไม่สามารถมีครอบครอง แต่เราที่เป็นเพียงบุตรขุนนางกับบุตรพ่อค้าวาณิชย์กลับมีครอบครองหมายความว่าเช่นไร นั่นไม่เท่ากับว่าพวกเราคิดกบฏหรอกหรือ""ห๊า..พี่อี้หลุนไม่มั้ง ท่านอาร้ายแรงเพียงนั้นเชียวหรือเจ้าคะ"จ้าวหย่งเฉิงเดินมาหาพร้อมกับจับมือของฝางอี้หลุนออกจากมือบางแล้วเอามากุมไว้เองเอ่ยกับนางด้วยน้ำเสียงจริงจัง"ฝ่าบาทมิใช่พระทัยคับแคบแต่ที่น่ากลัวคือคำกล่าวหา คำครหาเหล่านั้นสามารถทำให้ตระกูลล่มสลายได้ เอาเช่นนี้เด็กดีของอามีคู่ผัวเมียอยู่ ถึงเวลาก็ค่อยให้มันถือกำเนิดลูกออกมาใหม่ สหายของเจ้าพวกเขารอได้ ดีกว่าครอบครัวมีภัย อาเจินของอาว่าเช่นนี้ด

  • ข้านะหรือคือลูกศิษย์คนโปรดหรือเปล่า   ท่านลุงเราเคยเจอกันมาก่อนหรือไม่

    หลังจากที่จ้าวหย่งเฉิงพูดคุยกับไป๋เจินเจินเรียบร้อยแล้วก็อิดออดไม่ยอมไปง่ายๆ คนตัวเล็กพยายามให้เขาไปนอนที่ห้องของตนเอง ในที่สุดจ้าวก็เฉิงก็ยอมกลับ เขาออดอ้อนนางหวังว่าคนตัวเล็กจะใจอ่อน"อาเจินคนดี อาอยากนอนกอดเจ้าจริงๆนะ เราแต่งงานกันพรุ่งนี้เลยดีหรือไม่""ท่านอา ท่านใจร้อนอะไรกัน ข้าจะหนีท่านไปไหนได้อีก แก่แล้วทำตัวเหมือนเด็กขนเพิ่งขึ้น"จ้าวหย่งเฉิงสะอึกกับวาจาของคึู่หมั้นเด็ก คำว่าขนเพิ่งขึ้นนางกล้าพูดออกมาโต้งๆได้เช่นไร ที่สำคัญนางบอกว่าเขาแก่ แม่ตัวแสบรอก่อนเถอะ "ว่าอาแก่ รอเข้าหอเถอะจะได้รู้ว่าที่จริงอาแก่หรือไม่""หึ..ใครกลัวท่านกัน นี่ก็ดึกแล้วท่านอาเหตุใดท่านมิไปพักผ่อนดีๆเล่าเจ้าคะ ข้าง่วงแล้วนะ""ได้อาไปก็ได้ แต่ก่อนไปเจ้าจูบอาสักทีได้หรือไม่""ท่านนี่นะ เรียกร้องอะไรก็ไม่รู้"ไป๋เจินเจินมองค้อนเขา ก่อนจะหอมแก้มสากคนตัวโต จ้าวหย่งเฉิงรวบร่างบางมากอดแล้วจุมพิตนาง เมื่อสมใจก็ถอนริมฝีปากออกมาพร้อมกับเอ่ยกำชับเรื่องที่นางอยากรู้"อาเจินคนดี เรื่องบิดาเจ้าอย่าไปหาคำตอบ ใต้เท้าไป๋ทำทุกอย่างเพื่อให้เจ้าได้ปลอดภัย เขาอดทนเป็นเพียงตาแก่พิการมานานหลายปี

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status