Home / วาย / ข้านี่แหละจอมมาร (yaoi) / บทที่ 10 อดีตกาล

Share

บทที่ 10 อดีตกาล

last update Last Updated: 2025-08-28 18:17:37

35 ปีก่อน…

รัชศกเสวียนหลีที่ 38 ปีมะเส็งธาตุทอง

ช่วงฤดูจิงเจ๋อ[1]สายฝนสาดกระหน่ำไปทั่วทั้งใต้หล้า สัตว์น้อยใหญ่เริ่มตื่นจากห้วงการจำศีลอย่างยาวนานในช่วงเหมันต์ฤดูออกมาหากินกันอย่างขวักไขว่

ผู้คนมากมายต่างพากันหลบลี้หนีหยาดน้ำที่รินไหลโหมเข้าใส่อย่างไม่หยุดหย่อนเข้าไปในเรือนตน ทางเดินในยามนี้จึงไร้ผู้คนสัญจรไปมา มีเพียงกระยาจกสองสามคนยืนหลบอิงตามชายคาเพิงพักเพื่อหลบฝนเพียงชั่วคราว

เสียงเกือกม้าราวสามสิบตัวดังก้องไปทั่วหล้าขับเคี่ยวทะยาน ด้วยบุรุษมากหน้าหลายตาควบตะบึงฝ่าท่ามกลางพายุที่รุนแรง และมีเหล่าผู้บำเพ็ญตนอีกหลายคนที่ขี่กระบี่เหาะทะยานขึ้นไปยังเวหากำลังไล่ตามม้าดำพ่วงพีตัวหนึ่งที่ควบตะบึงท่ามกลางสายฝนห่างออกไป

บนหลังม้าตัวใหญ่ที่ถูกไล่ล่านั้นมีหนึ่งบุรุษสวมอาภรณ์ปกปิดใบหน้าของตนด้วยแพรพรรณสีดำสนิท มือกุมบังเหียนม้าเอาไว้โดยมีโฉมสะคราญใบหน้าหวานซึ้งผู้สวมแพรพรรณสีเดียวกันนั่งซ้อนอยู่ด้านหลัง โอบอุ้มดรุณตัวน้อยอายุราวสองขวบปีอยู่ในอ้อมแขนตน

ม้าตัวใหญ่สีดำมะเมื่อมควบทะยานอย่างไม่หยุดหย่อนหลายวันหลายคืนจนแทบจะขาดใจตาย อาคมมากมายถูกสาดซัด ลูกเกาทัณฑ์หลายร้อยดอกพุ่งเข้าใส่ราวกับห่าฝนเ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Latest chapter

  • ข้านี่แหละจอมมาร (yaoi)   บทที่ 33 สงบสุขหวนคืน

    “คุณชายใหญ่มาทางนี้”เสียงสะท้อนในอกดังก้องในมโนสำนึกตน นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มเพ่งมองไปยังเบื้องหน้า ก็เห็นเป็นภาพในอดีตเมื่อครั้งยังเยาว์วัย กำลังวิ่งเล่นรอบแปลงดอกโบตั๋นกับดรุณีน้อยนางหนึ่ง เพราะมีเพียงสิ่งนี้เท่านั้นที่ชวนให้คิดถึงมารดาผู้ถูกเหล่าเซียนทั้งหลายรังแกจนจากไปเหม๋ยตงหม่าคือนามของเขา ผู้ที่เกิดจากฮูหยินใหญ่ตระกูลเหม๋ย ส่วนเหม๋ยยี่เถียนนั้นเกิดจากอนุภรรยาผู้ที่เคยเป็นบ่าวรับใช้ ที่แสนจะต่ำต้อยแต่ทว่าเหม๋ยยี่เถียนนั้นกลับมีร่างกายแข็งแรงกว่าดรุณีทั่วไป ด้วยพละกำลังอันมหาศาลนี้ จึงต้องวิ่งร่ามาปกป้องตนเองเสมอมา ส่วนตนเองนั้นที่อ่อนแอกว่า จึงต้องอยู่ภายใต้การคุ้มครองของน้องสาวผู้นี้อย่างมิอาจหลีกเลี่ยงได้ทั้งๆ ที่เป็นคุณชายใหญ่ของสกุลกลับถูกดูแคลนว่าไร้ซึ่งความสามารถไม่หยุดหย่อน ทั้งจากบิดา ถูกติฉินนินทาแม้กระทั่งบ่าวรับใช้ภายในเรือน แต่กระนั้นเขากลับได้รับความรักจากน้องสาวต่างมารดาผู้นี้เสมอมา มีเพียงเขาเท่านั้นที่คิดว่าเหม๋ยยี่เถียนเสแสร้งมาเอาใจและแล้วภาพเบื้องหน้าจะแปรเปลี่ยนไป เป็นภาพของเหม๋ยยี่เถียนผู้เป็นน้องสาวต่างมารดา กำลังกางมือเข้าปกป้องตนเองจากเหล่า

  • ข้านี่แหละจอมมาร (yaoi)   บทที่ 32 ศึกสุดท้าย

    “ไม่ได้ขอรับ ต่อให้เป็นอาจารย์ ต่อให้ข้าขึ้นชื่อว่าอกตัญญู ข้าก็มิอาจปลดตรวนให้ท่านได้”เสียงของหลิวห้าวเหลียงยังคงดังก้องในมโนสำนึกของตนไม่จางหาย หลังจากที่กลับออกมาเขาก็ได้แต่นั่งนิ่งอยู่บนฟูกนอนในเรือนตน ตรวนสองสายยังคงพันวนอยู่รอบกายมิได้ถูกปลดออกไป ด้วยเหตุที่ว่าราวหนึ่งชั่วยามที่ผ่านมา เมื่อตนเองเดินทางกลับมาถึงสำนักหลิวสุ่ย ก็เร่งฝีเท้าเดินทางมุ่งหน้ามาหาหลิวห้าวเหลียงโดยมิได้กระทำสิ่งอื่นใด เพื่อให้ช่วยปลดโซ่ตรวนที่พันอยู่รอบกาย ทว่ากลับถูกลูกศิษย์ของตนปฏิเสธเสียอย่างนั้น ซ้ำยังถูกห้ามมิให้ออกไปไหน ถูกบ่าวไพร่คอยจับตามองในเมื่อร้องขอก็แล้ว อ้อนวอนก็ทำไปแล้ว หรือแม้แต่ออกคำสั่ง สุดท้ายหลิวห้าวเหลียงก็มิยอมปลดปล่อยตนออกไป จ้าวเสี่ยวหมิงจึงนั่งนิ่งคิดอย่างใคร่ครวญอยู่หลายตลบ แล้วเอ่ยพึมพำออกมา “เจ้าเด็กเหลือขอพวกนี้เล่นพิเรนทร์อะไร มิรู้หรืออย่างไรว่าผลที่ตามมามันจะเป็นเช่นไร” เอ่ยเพียงแค่นั้นก็คว้าเอาเยวี่ยกวงขึ้นมาไว้ในมือ จากนั้นจึงหยัดกายลุกขึ้นยืนแล้วลอบออกไป ไปหาหลิวซูหยวน ผู้เป็นบิดาเจ้าของร่างนี้แทนเมื่อเข้าไปถึงเรือนของหลิวซูหยวน จ้าวเสี่ยวหมิงก็ไม่รอช้าที่เ

  • ข้านี่แหละจอมมาร (yaoi)   บทที่ 31 ตามติด

    รัชศกเสวียนหลีที่ 77 ปีวอกธาตุทอง ไป๋ลู่[1]กลางป่าอั้นฉิงรอยต่อระหว่างเขาหัวซานและที่ตั้งของสำนักหานเสียงเกือกม้ากระทบกับผืนดิน จ้าวเสี่ยวหมิงกุมบังเหียนม้าพ่วงพีตัวใหญ่ควบตะบึงติดตาม หยางหยุนเหลียง ที่ยังคงควบม้าอยู่ไม่ไกล แล้วร้องตะโกนออกมา “พี่หยางท่านหยุดบัดเดี๋ยวนี้รู้หรือไม่ว่าข้าตามหาท่านมานานเพียงใดแล้ว” ก่อนจะใช้ขาหนีบท้องม้า แล้วควบทะยานเข้าไปอย่างรวดเร็วหลายเดือนมานี้จ้าวเสี่ยวหมิงไล่ตามติดหยางหยุนเหลียงไม่หยุดหย่อน พอเข้าใกล้ตัวทีไร หยางหยุนเหลียงก็จะเตลิดหนีหายไปเสียทุกครั้ง ราวกับหลอกล่อให้วิ่งไล่จับ แต่พอใกล้ถึงตัวกลับหนีหายไปจ้าวเสี่ยวหมิงควบม้าพ่วงพีตัวใหญ่ เข้ามาในเขตป่าอั้นฉิง ตามหนทางราบเรียบราวกับมีคนมาถอนหญ้าคอยท่าไว้ ตามผืนดินเต็มไปด้วยเศษดินแห้งๆ แต่ทว่ากลับละเอียดราวกับเม็ดทราย แวดล้อมไปด้วยไม้ใหญ่นานาพรรณเขาควบม้าไล่ตามหยางหยุนเหลียงเข้ามาได้เพียงครู่เดียว ก็พบกับม้าสีขาวปลอดตัวหนึ่งถูกล่ามขวางหนทางไว้ จ้าวเสี่ยวหมิงจึงชะลอฝีเท้าม้าลง ก่อนจะกระโดดลงมาจากหลังม้าแต่รู้เสียที่ไหนว่าหยางหยุนเหลียงที่คอยจังหวะนี้ ใช้ดัชนีวายุร่อนระบำ ดีดลูกหินใส่หลังม้าของจ้

  • ข้านี่แหละจอมมาร (yaoi)   บทที่ 30 วิญญาณดวงสุดท้าย

    กล่าวมาถึงชิงเสี่ยวหม่าเมื่อต้องล่าถอยกลับมายังวังมาร ก็เจ็บหนักอยู่มิใช่น้อย จำต้องใช้เวลานอนพักรักษากายอยู่ราวสามวัน อาการจึงทุเลาลง และในวันนี้เมื่อร่างกายกลับมาเป็นปกติ เขาจึงนั่งมองคนโทเก็บวิญญาณที่ได้ไปรวบรวมวิญญาณของผู้บำเพ็ญตนในพิธีไล่ล่า ที่ตั้งอยู่อย่างสงบนิ่ง ภายในห้องสูบวิญญาณมาหลายวัน ด้วยแววตาเรียบเฉยทว่ากลับมีความพลุ่งพล่านร้อนรนอยู่ภายในด้วยเหตุที่ว่าชิงเสี่ยวหม่า มิอาจสูบวิญญาณเหล่านี้เข้าไปกายตนได้ เพราะต้องรอให้ได้ดวงวิญญาณดวงสุดท้ายที่ตนจักต้องไปไล่ล่ามาให้ครบเสียก่อนดวงวิญญาณที่มีเพียงสายเลือดบริสุทธิ์ของสกุลในตำนานเท่านั้นที่จะต้องเฟ้นหามา สายเลือดของสกุลหยางผู้มีสายปราณหยางวิ่งวนอยู่ภายในร่างกาย ดวงวิญญาณดวงสุดท้ายที่ตนจักต้องช่วงชิงมา และเวลาที่จักต้องดึงดวงวิญญาณนี้ออกมา คือในคืนวันเพ็ญเดือนแปดที่กำลังจะย่างกรายเข้ามาในอีกไม่ถึงหนึ่งขวบปีอีกทั้งยังมียังมีสิ่งที่ตนต้องตามหา นั่นคือหน้าสุดท้ายของคัมภีร์เดียรถีย์วิชาที่ขาดหายไป ไม่ว่าจะพลิกแผ่นดินหาเพียงใดก็ยังมิอาจพบเจอ เป็นสิ่งเดียวที่เขาจะต้องสืบเสาะให้ได้เสียก่อนพิธีกรรมการสูบดวงวิญญาณครั้งสุดท้ายจะเริ่มต

  • ข้านี่แหละจอมมาร (yaoi)   บทที่ 29 หยินหยางประสานกาย

    หยางหยุนเหลียงเหยียบเวหาก้าวทะยานไปยังทิศทางที่จ้าวเสี่ยวหมิงหนีไป นัยน์ตาสีดำสนิทกวาดมองไปมาจนทั่ว ภาพที่สะท้อนให้เห็นมีเพียงยอดไม้นานาพรรณ แผ่กิ่งก้านออกมาปกคลุมทั่วทั้งผืนป่าทว่าหากได้เพ่งมองดูอย่างถ้วนถี่ลึกลงไปถึงผืนแผ่นดิน ก็จะเห็นซากศพของนักพรตที่เพิ่งจะฝึกฝนระดับขั้นต้น ต้องมาสังเวยชีวิตให้กับเหล่าปีศาจจากวังมาร ทุกๆ ร่างต่างนอนแน่นิ่งไม่ไหวติ่งอย่างเดียวดาย มีเพียงผู้เหลือรอดค่อยๆ ออกตามหาร่างไร้ชีวิตของสหายตนเมื่อพบหนึ่งศพหยางหยุนเหลียงก็จุดพลุไฟบอกตำแหน่งเสียหนึ่งลูก ก่อนจะก้าวทะยานตามหาหลิวมู่เหยียนต่อไป เขาค้นหาทั้งผืนป่ากว้างใหญ่จนทั่ว แต่ก็ยังไม่เจอแม้เพียงเศษเส้นผมผ่านนานจนดวงตะวันคล้ายจะลาลับขอบฟ้า หิมะจึงค่อยๆ โปรยปรายลงมาอย่างบางเบา ในครานั้นเองสายตาของหยางหยุนเหลียงก็ไปสะดุดอยู่ตรงผาน้ำตก ที่มีไอเย็นแผ่ปกคลุมออกมา ด้วยเหตุที่เขาจำได้ว่าในยามเช้าตอนตนผ่านหนทางเส้นนี้มา น้ำตกสายนี้ยังไหลอย่างเอื่อยเฉื่อย มีไอความอบอุ่นคุกรุ่นอยู่ตลอดเวลา แม้จะเป็นยามช่วงต้นเหมันต์ฤดู ที่มีหิมะโปรยปรายลงมาปกคลุม ยังมิอาจแช่แข็งน้ำตกสายนี้ได้ทว่าในยามนี้กลับมีไอเย็นจัดแผ่ปกคลุมอยู่

  • ข้านี่แหละจอมมาร (yaoi)   บทที่ 28 ปะทะ

    หลังจากวันนั้นผ่านไปเพียงแค่สองวันหลิวเยี่ยเฟยก็มาขอเดินทางกลับไปยังสำนักหลิว เมื่อเห็นว่ามิมีส่วนใดเสียหาย หยางซิวอวี่ที่เพิ่งเดินทางกลับมา จึงอนุญาตให้กลับไปอย่างไร้ข้อกังขาใดๆ ด้วยความที่ว่าการบุกเข้ามาช่วงชิงกระบี่เยวี่ยกวงในวันนั้น มิมีผู้ใดปริปากบอกเจ้าสำนักหยางสักครึ่งคำ เมื่อหลิวเยี่ยเฟยเดินทางกลับไป วันเวลาก็ยังดำเนินต่อไปไม่มีหยุดพัก จากวันคือเปลี่ยนผันเป็นเดือน จากเดือนล่วงเลยเป็นแรมปี จ้าวเสี่ยวหมิงยังคงพำนักอยู่ที่สำนักหยางเจียนแห่งนี้ แม้จะมีผู้คนลอบเข้ามาแย่งชิงกระบี่ ก็จะถูกหยางซิวอวี่หรือหยางหยุนเหลียงไล่กลับไป โดยที่จ้าวเสี่ยวหมิงมิได้ออกแรงเสียเท่าไรจนกระทั่งสามปีพ้นผ่านไป ไร้ซึ่งผู้รุกรานใดๆ ย่างกรายเข้ามา แม้กระทั่งจอมมารฝูหมิงก็ยังมิยื่นมือเข้ามาช่วงชิงกระบี่คืนกลับไป ความสัมพันธ์ฉันท์สหายของหลิวมู่เหยียนและหยางหยุนเหลียงนั้นก็ยังคงดำเนินไปอย่างมิเป็นระเบียบ ดูคลายลิ้นกับฟันที่จะบังเอิญกระทบกันยามใด ย่อมมิอาจเลี่ยงการปะทะคารมเป็นครั้งคราวผ่านมาสามขวบปี ตบะฌานของหยางหยุนเหลียงก็ก้าวกระโดดไปไกลถึงระดับเจ็ด ไร้ซึ่งผู้ใดยากจะต่อกร ส่วนทางด้านจ้าวเสี่ยวหมิงนั้น ด

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status