เมื่อนางกำลังเรียกพลังร้ายกาจออกมาเส้นเลือดตามตัวก็เริ่มดำขึ้นดำขึ้น เหมือนว่านางกำลังจะใช้พลังให้สุดกำลังเพื่อกำจัดชุ่ยเหริน เมื่อพลังของนางนั้นชั่วร้ายเต็มที่แล้ว ร่างทรงปล่อยพลังพุ่งมายังชุ่ยเหรินทันที แต่ในขณะนั้นเหยียนเฉิงและจื่อหานได้เข้ามาในห้องโถงได้ทันเวลา เหยียนเฉิงได้ใช้พลังต่อต้านลั่วเอ๋อร์ หยุดนางไว้ได้แค่ชั่วคราว
ลั่วเอ๋อร์ " ผู้ใดกันถึงต่อต้านพลังข้าได้" จื่อหาน " หยุดทำชั่วเถิด เจ้ารู้หรือไม่ว่ากำลังถูกหลอกใช้ " ลั่วเอ๋อร์ " ข้าถูกหลอกใช้ พี่ชายเจ้าให้พลังมากมายแก่ข้าเช่นนี้ แสดงว่ากำลังช่วยข้าชำระแค้นอยู่อย่างไรเล่า " เหยียนเฉิง " เสียเวลาพูดกับนางเลยเจ้าพาฝ่าบาทออกไปก่อนทางนี้ข้าจะจัดการเอง " จื่อหาน " แต่ว่า " เหยียนเฉิง " ไปซะ ไป! " เหยียนเฉิงไล่จึงหายออกไปด้วยสิ่งที่ดุดันและน่ากลัว ลั่วเอ๋อร์ " สมุนอย่างเจ้าคิดจะสู้กับข้ารึ" นางเอกท้าทายพร้อมดูหมิ่นที่เป็นเเค่ลูกสมุนไม่มีทางขึ้นเป็นสมุนโหดร้ายขั้นที่ 1ชาวบ้าน " ใช่ เรื่องนี้ต้องเงื่อนงำซ่อนอยู่" เมื่อเห็นว่าชาวบ้านเริ่มพร้อมใจกันต่อต้านอย่างหนัก ต้นจึงสั่งให้ทหารนำชาวบ้านเหล่านี้ออกไปจากวังหลวง จื่อหาน " ท่านพี่ เหตุใดต้องไล่ชาวบ้านออกไปด้วย " เมื่อได้ยินเสียงน้องชายที่กำลังขัดขวางอยู่ ก็เริ่มมีสีหน้าไม่พอใจว่าทำไมถึงต้องมาตอนนี้ มู่เฉิน" น้องชาย ข้าให้เจ้าพักผ่อนอยู่ในตำหนักมิใช่รึ " น้ำเสียงข่มขู่ในลำคอกำลังใช้สายตามองน้องชายยังน่ารำคาญ จื่อหาน " หากท่านพี่ไม่ได้มีความผิดอะไรเหตุใดต้องไล่ชาวบ้านออกไปหรือว่าเรื่องที่ชาวบ้านเล่าลือกันนั้นจะเป็นเรื่องจริง" มู่เฉิน " เหตุใดข้าต้องกลัวในเมื่อข้าไม่ได้ทำอะไรผิดแน่จริงก็เอาหลักฐานออกมา" จื่อหาน " ฮ่า ๆ หลักฐานอย่างนั้นหรือได้ " จื่อหานนำสตรีหลายพันคนเดินทางมายังหน้าวังหลวง ด้วยร่างกายที่สู้ผอมเหมือนอดอาหารเป็นเวลานาน พ่อค้าเหมืองแร่ต่างตกตะลึงเหตุใดถึงมีสตรีมากมายขนาดนี้ไม่รู้ว่าไปปล้นมาจากที่ใดบ้างแต่ดูท่าแล้วอย่างน้อยไม่เกิน 10 กว่าเมือง
หนิงหลง " ที่เธอเรื่องทั้งหมดก็เป็นเช่นนี้นี่เอง ทันใดนั้นสามีจึงหยิบไข่มุกจิตวิญญาณที่อยู่ข้างในให้ภรรยาเก็บมันเอาไว้ในที่ปลอดภัย เช้าวันใหม่ ฝ่าบาททรงสั่งให้กองทัพบัญชาการทหารหน่วยรบพิเศษออกเดินทางไปยังทางลัด ที่บุตรสาวเหมือนเคยเล่าให้ฟัง ทั้งอาวุธทั้งคนเตรียมพร้อมหมดแล้ว แต่การไปครั้งนี้ต้องมีอุปสรรคเป็นแน่ มู่เฉินคงเตรียมรับมือไว้ล่วงหน้าแล้ว ตอนนี้ขบวนทัพได้เดินทางมาถึงเขตนอกเมืองดินแดนราชวงศ์เจ้า แต่ที่น่าแปลกก็คือทหารที่เฝ้ายามอยู่บนหอคอยนั้นไม่มีผู้ใดเฝ้าอยู่สักคนเลย ชุ่ยเหรินจึงสั่งให้ขบวนทัพหยุดนิ่งประเดี๋ยว มีบางอย่างผิดปกติ มีลางสังหรณ์บอกว่าอย่าเพิ่งเดินทัพอาจจะเกิดอันตรายได้ หนิงหลงจึงใช้ตาวิเศษเพื่อดูทางข้างหน้าว่ามันมีอะไร เมื่อได้คำตอบแล้วจึงเขียนจดหมายยื่นให้ท่านพ่อที่นั่งอยู่ในรถม้าข้างๆนาง ก๊อก ๆ..... ชุ่ยเหรินได้รับจดหมายอย่างรวดเร็วความจริงทั้งสองจะพูดบอกกันก็ได้แต่เกรงว่าพวกมันกำลังแอบดักฟังอยู่ก็ได้ เพื่อไม่ให้เป็นการตกหลุมพรางจึงต้องทำเช่นนี้อย่าเงียบ ๆ จดหมาย :
ในขณะนั้นขบวนทัพได้เดินผ่านที่พักของพ่อค้าต่างเมือง ชุ่ยเหรินจึงเปิดผ้าม่านเพื่อทอดสายตาดูอย่างละเอียด ชุ่ยเหริน " มีแต่พ่อค้ารวย ๆ ทั้งนั้น " จี้เถา " ท่านพี่ลองดูว่ามีพ่อค้าของราชวงศ์ซางหรือไม่ " ชุ่ยเหริน " ผู้คนหนาแน่นเกินไป ข้าดูไม่ถนัดนัก " ทหาร " เปิดประตู " ประตูบานใหญ่ค่อย ๆ เปิดออก พร้อมเหล่าทหารรับใช้มารอต้อนรับเป็นอย่างดี หนิงหลงและจื่อหานได้ก้าวเท้าลงจากรถม้าอย่างพร้อมใจกัน ด้วยรูปลักษ์ที่สง่าผ่าเผย ทหาร " นั้นองค์ชายจื่อหาน " หนึ่งในกลุ่มทหารได้เอ่ยทักทวงอย่างตกใจ เมื่อคนที่คิดว่าตายไปแล้วกลับมาปรากฎตัวอยู่ที่นี่อีกครั้ง ทหาร " องค์ชายจื่อหานกลับมาแล้ว " ทหารดีใจมากที่องค์ชายจื่อหานนั้นยังไม่ตาย นี่คือความหวังแห่งการเปลี่ยนแปลง ท่ามกลางสายตาที่จับจ้องและมองทั้งสองฝ่ายที่กำลังเผชิญหน้ากันอย่างเคร่งขรึมแต่สุดท้ายมู่เฉินก็ต้องแสร้งยิ้มมันออกมาอยู่ดี มู่เฉิน " น้องชายเจ้ายังมีชีวิตอยู่ข้าดีใจเหลือเกิน " รอยยิ้ม
จี้เถา " ท่านพี่ดูเหมือนว่าเรื่องนี้จะทำให้เศรษฐีหลายๆคนเดินทางออกจากที่นี่กันแล้ว " สองสามีภรรยาได้ยินแอบฟังชาวบ้านนินทาอย่างโจ่งแจ้ง ชุ่ยเหริน " มู่เฉินจะลากคนราชวงศ์ซางไปเป็นเฉลย " ในขณะที่สองสามียืนปรึกษากันอย่างเงียบๆก็ได้มีเสียงหญิงแม่หม้ายผู้หนึ่งร้องไห้จนตาแดงก่ำเรียกหาลูกสาวมา 3 วันแล้วจนแม่ค้าพ่อค้าในตลาดเริ่มชิน แม่ค้า " สงสัยจะกลายเป็นบ้าไปเสียแล้วถึงได้อาละวาด" ลูกค้า " ลูกสาวหายทั้งคนนะ คนเป็นแม่จากใจสลายมากแค่ไหนหากเป็นลูกของเจ้าล่ะเจ้าจะเป็นเช่นไร " จี้เถา " ท่านพี่ไปดูเสียเถิดว่าเกิดอะไรขึ้น " สองสามีภรรยาได้เดินเข้าไปถามแม่หม้ายผู้นี่ว่าเกิดอะไรขึ้นเหตุใดถึงได้ร้องไห้ฟูมฟายไม่ยอมหยุด จี้เถา " ลุกขึ้นก่อนเถอะเล่าให้ข้าฟังได้หรือไม่ ว่าเรื่องมันเป็นมาอย่างไร " ความเมตตาและจิตใจที่บริสุทธิ์แม่หม้ายกำลังสัมผัสได้จึงหยุดร้องไห้อย่างว่าง่ายทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ผู้ใดมาพูดด้วยก็เหมือนมาซ้ำเติมนาง " ลูกสาวข้าหายตัวไปได้ 3 วั
เมื่อนางกำลังเรียกพลังร้ายกาจออกมาเส้นเลือดตามตัวก็เริ่มดำขึ้นดำขึ้น เหมือนว่านางกำลังจะใช้พลังให้สุดกำลังเพื่อกำจัดชุ่ยเหริน เมื่อพลังของนางนั้นชั่วร้ายเต็มที่แล้ว ร่างทรงปล่อยพลังพุ่งมายังชุ่ยเหรินทันที แต่ในขณะนั้นเหยียนเฉิงและจื่อหานได้เข้ามาในห้องโถงได้ทันเวลา เหยียนเฉิงได้ใช้พลังต่อต้านลั่วเอ๋อร์ หยุดนางไว้ได้แค่ชั่วคราว ลั่วเอ๋อร์ " ผู้ใดกันถึงต่อต้านพลังข้าได้" จื่อหาน " หยุดทำชั่วเถิด เจ้ารู้หรือไม่ว่ากำลังถูกหลอกใช้ " ลั่วเอ๋อร์ " ข้าถูกหลอกใช้ พี่ชายเจ้าให้พลังมากมายแก่ข้าเช่นนี้ แสดงว่ากำลังช่วยข้าชำระแค้นอยู่อย่างไรเล่า " เหยียนเฉิง " เสียเวลาพูดกับนางเลยเจ้าพาฝ่าบาทออกไปก่อนทางนี้ข้าจะจัดการเอง " จื่อหาน " แต่ว่า " เหยียนเฉิง " ไปซะ ไป! " เหยียนเฉิงไล่จึงหายออกไปด้วยสิ่งที่ดุดันและน่ากลัว ลั่วเอ๋อร์ " สมุนอย่างเจ้าคิดจะสู้กับข้ารึ" นางเอกท้าทายพร้อมดูหมิ่นที่เป็นเเค่ลูกสมุนไม่มีทางขึ้นเป็นสมุนโหดร้ายขั้นที่ 1
ถึงเวลาต้องจบปัญหาแล้ว จี้เถา " โธ่ลูกแม่ อย่าร้องเลย " ชุ่ยเหริน " อย่างไรเสียเจ้าก็ข้ามมาอยู่ที่นี่แล้ว ไม่สามารถกลับไปได้แล้ว " จี้เถา " ใช่ ลูกอย่าได้กังวลว่าแม่จะไม่รักเจ้า " หนิงหลงเข้าโอบกอดจี้เถาอย่างทะนุถนอมที่มีแม่แสนดีกับนางเช่นนี้ ในขณะที่สามีกำลังนอนหลับนางได้พูดคุยหาหรือเรื่องสำคัญกับแม่และพ่อของนางอยู่ที่ห้องโถงใหญ่เป็นการส่วนตัว ไม่คิดว่าพรุ่งนี้จะต้องเดินทางเพื่อจบปัญหาที่ค้างคาเสียที จี้เถาและชุ่ยเหริน ก็ออกเดินทางเหมือนกัน หนิงหลง " ข้าว่าสตรีที่ถูกลักพาตัวไปตอนนี้พวกนางอาจจะถูกกักขัง คงจะใช้สตรีหลายพันคนเพื่อทำการใหญ่ " จี้เถา " เอาล่ะพ่อกับแม่จะกลับตำหนักไปเตรียมตัวเพื่อเดินทางไปวันพรุ่งนี้ " หนิงหลง " เจ้าค่ะท่านแม่ ท่านพ่อ " " แค่ก แค่ก " จื่อหาย " นี้มันเช้าแล้วรึ แล้วภรรยาข้าหายไปไหน " เพราะความกังวลจึงทำให้ไม่หลับไม่นอน มาเมื่อหลับตอนใกล้เช้า หนิงหลง " ท่านพี่ ท่านตื่นแล
มู่ฉิน “ ข้าไม่เชื่อว่าครั้งต่อไปเจ้าจะรอดมู" เฉินเดินเข้าไปยังตำหนักน้องชายที่เคยอยู่อาศัยเมื่อก่อน ทำข้าวของมีค่าพังไปทีละชิ้นพร้อมอยากจะเผามันให้ไหม้ทั้งหลัง ขันที “องค์ชาย ได้โปรดระงับโทษะ ข้าว่าน้องชายของท่านแค่โชคดี หากมีครั้งหน้าคงไม่โชคดีเช่นนี่ “ ขันทีพยายามพูดให้มู่เฉินระงับความโกรธ มู่เฉิน “ ไม่รู้มันจะเกิดมาทำไม “ มู่เฉินหยิบข้าวของสะสมที่ท่านพ่อนั้นมอบไว้ให้ ทำลายมันทิ้งจนไม่เหลือชิ้นดี ปัง? .... ขันทีที่เฝ้าอยู่หน้าประตูสะดุ้งตัวตื่นกลัวจนหน้าซีด เมื่อเห็นเวลาองค์ชายนั้นมีโทษะ มู่เฉิน “ข้าระบายอารมณ์เสร็จแล้ว ข้าจะลงไปเจรจาเรื่องการค้า “ บัดนี้แคว้นต่าง ๆ หลายเมือง ที่เดินทางมาไกลมาก กำลังรอให้มู่เฉินนั้นมาเจรจา พูดยังไม่ทันขาดคำมู่เฉินก็ปรากฎกายให้เห็นทันที มู่เฉิน “ ก่อนอื่นเลยข้าต้องขออภัยเหล่าขุนนางพ่อค้าทั้งหลายที่ไม่สามารถให้เข้ามาพักในวังหลวงได้ เนื่องจากช่วงนี้มีกบฏ คิดก่อการร้ายข้าจึงจำใจต้องให้แคว้นต่าง ๆ พักอ
ลั่วเอ๋อร์ไม่สำนึก ในยามวิกาลที่คุกใต้ดินลมหนาวเย็นยะเยือกพลัดเข้ามาเรื่อย ๆ จนรุนแรงขึ้นทำให้ทหารที่ยืนเฝ้ามันต้องใส่เสื้อผ้า 2 ชั้น ลั่วเอ๋อร์ " เหตุใดวันนี้ถึงได้เย็นยะเยือกเช่นนี้ " นางนั่งกอดเข่าจนตัวสั่นเสื้อผ้ากันหนาวก็ไม่มีใส่ให้ปกคลุม ในขณะนั้นเหล่าทหารที่ยืนเฝ้าประตู จู่ ๆ ก็สลบลงไปอย่างไร้สาเหตุ เหลือเพียงความเงียบพร้อมกับความมืดมิดที่วังเวงอยู่รอบกาย ลั่วเอ๋อร์ " หนาวมาก ข้าจะหนาวตายหรือไม่ " หลังพูดบ่นพึมพำอยู่คนเดียวท่ามกลางอากาศที่เย็นจัด เมื่อเวลาผ่านไปได้ไม่นานความหนาวก็คลายตัวลง อย่างน่าอัศจรรย์ใจ แต่มีลมพัดที่รุนแรงขึ้นเข้ามาแทนที่อย่างกระทันหัน ลั่วเอ๋อร์ " คุกใต้ดินเหตุใดถึงลมแรงเช่นนี้ " เมื่อสิ้นสุดประโยคกระดาษแสงสีส้มก็ได้ล่องลอยมาอยู่ที่หน้ากรงขัง นางจึงหยิบกระดาษขึ้นมาแล้วอ่านดูอย่างช้าๆ (จดหมาย จาก มู่เฉิน ) ข้าเอง มู่เฉิน ข้าเพิ่งรู้ว่าท่านถูกขังอยู่ในคุกใต้ดินวันนี้ข้าเลยอยากให้โอกาสท่านนั้นได้แก้แค้น เพียงแค่ท่านท่องตำราบทนี้
ลั่วเอ๋อร์ " อย่าให้ข้าออกไปได้ก็แล้วกัน ครั้งนี้ข้าจะทำให้เจ้าหายไปจากที่นี่ " ชุ่ยเหริน " หุบปาก ข้าไม่ยอมปล่อยเจ้าออกมาเป็นแน่ " ลั่วเอ๋อร์ " ฮ่า ๆ อย่างไรเสีย ฟางหรงลูกสาวของเรานั้นไม่มีความผิด ถึงขั้นต้องประหารชีวิต ท่านจะฆ่าลูกเลือดเนื้อเชื้อไขได้รึ " ชุ่ยเหริน " มาถึงขนาดนี้แล้ว ยังกล้าโกหกข้าอีกรึ " ลั่วเอ๋อร์ " ท่านหมายความว่าอย่างไร " ชุ่ยเหริน " ก็หมายความว่านางไม่ใช่ลูกสาวข้าเลย " ลั่วเอ๋อร์ถึงกับตะลึงในคำตอบ ไม่คิดว่าชุ่ยเหรินจะรู้ความจริงแล้ว ลั่วเอ๋อร์ " ท่านพี่รู้ตั้งแต่เมื่อใด " ชุ่ยเหริน " ลูกสาวข้าบอกเอง " ลั่วเอ๋อร์ " ฮ่า ๆ ใช่ฟางหรงไม่ใช่ลูกสาวของท่าน ไม่คิดว่าข้าจะหลอกท่านได้นานขนาดนี้ " จี้เถา " สิ่งที่เจ้าต้องการ มันจะไม่มีทางเป็นของเจ้า ทั้งฐานะเงินทองชื่อเสียง การยอมรับ สุดท้ายแล้วเจ้ามันก็แค่ขอทานที่ข้าเก็บเข้ามา กำพืชเจ้านั้นต่ำช้า คิดอยากจะปีนขึ้นมาเป็นหงส์ แต่น่าเสียดายเจ้ามันเป็นแค่ของปลอม "