Share

ตอนที่  5 พลิกสถานการณ์

last update Dernière mise à jour: 2024-11-28 02:10:58

 

“นางก็พูดถูกนะ นั่นสินางก็พูดถูก”

“เอ่อ…”

“ท่านป้า หากว่าข้าเพียงพูดคุยกับลูกเขยท่านไม่กี่คำแล้วเขาถึงกับเลิกรากับบุตรสาวท่าน นั่นแสดงว่าเขาไม่จริงใจกับลูกสาวท่านตั้งแต่แรก เป็นโชคดีของนางที่มิได้มีบุตรกับคนใจโลเลเช่นนั้น อีกอย่างท่านคิดว่าเขาเป็นเช่นนั้นเฉพาะกับข้างั้นหรือ ต่อให้มิใช่ข้าเชื่อได้เลยว่าสันดานของเขาก็ไม่มีวันเปลี่ยน”

อี้เหนียงเริ่มร้องไห้ออกมา และเดินมาตรงหน้าว่านเยว่เฟย

“ท่านหญิงกล่าวได้ถูกต้องแล้ว หลังจากที่เขาใช้ท่านเป็นข้ออ้างเพื่อเลิกกับข้า เพราะคำว่า "ท่านหญิง" ทำให้ข้าไม่กล้าห้ามเขา แต่ข้ากลับไปจับได้ทีหลังว่าเขาแอบนอกใจข้ามานานแล้วและยังมีผู้หญิงอีกหลายคน ข้าไม่กล้าพูดเรื่องนี้กับท่านแม่เกรงว่าอาการของท่านแม่จะทรุดก็เลย…. ได้แต่เงียบเอาไว้และให้ท่านแม่เข้าใจว่าเขาถูกท่านหญิงแย่งสามีไป นางจะได้ไม่ต้องถามมากความอีกคิดไม่ถึงว่าวันนี้ท่านจะมาที่นี่"

“หา อะไรนะ นี่…”

“อีเหนียงเจ้าพูดจริงงั้นหรือแล้วเจ้าบ้านั่นทิ้งเจ้าไปไม่เกี่ยวกับนางจริง ๆ หรือ”

“ท่านแม่... ข้าขอโทษเจ้าค่ะในตอนนั้นข้าจำเป็นต้องโกหกเพราะอาการของท่านไม่ดีขึ้นก็เลยไม่อยากให้ท่านคิดมาก”

 “โธ่ ทำไมเจ้าไม่บอกแม่เล่า ให้ข้าเข้าใจท่านหญิงผิด ข้า…”

“อย่าคิดมากเลยตอนนี้ท่านก็เข้าใจข้าแล้วนี่ ทุกอย่างย่อมมีเหตุและผล ในเมื่อไม่มีอะไรแล้วให้ข้าซื้อผักได้หรือยัง”

ว่านเยว่เฟยหันไปยิ้มให้กับสองแม่ลูกที่ยิ้มกลับมาด้วยความตื้นตันที่นางทั้งไม่เอาเรื่องและยังขอซื้อผักทั้งหมดกลับไปที่จวนเพื่อไม่ให้แม่ของอี้เหนียงต้องยืนตากแดดขายอีก

“ยานั่นกินหลังอาหาร ท่านต้องพักผ่อนให้มากจากนี้อย่าได้กังวล ผักที่ท่านปลูกหากขายไม่ได้ ก็นำไปส่งที่จวนเสนาบดีข้าจะรับเอาไว้ทั้งหมด คนในจวนข้ามีหลายครัวแค่ผักของท่านไม่พอเลี้ยงหรอกส่งไปได้เลย”

“ท่านหญิงพูดจริงหรือเจ้าคะ”

“ผักของท่านมองดูก็รู้ว่าปลูกเอง ทั้งสดและใหม่อีกอย่างดูได้จากสีของมะเขือเทศนี่ ข้าคิดว่าผักของท่านคุณภาพดีมากเลยล่ะ ข้ารับซื้อทั้งหมด”

สีหน้าของแม่ค้าขายผักยิ้มทั้งน้ำตาพร้อมกับสายตาที่เปลี่ยนไปทันทีเมื่อมองมาที่ว่านเยว่เฟยอีกครั้ง

“ขอบคุณท่านหญิงเจ้าค่ะ ขอบคุณมากจริง ๆ”

“อี้เหนียงจากนี้เจ้าดูแลแม่เจ้าให้ดี คนชั่วนั้นออกจากชีวิตไปถือว่าสวรรค์ให้โอกาสเจ้าเริ่มต้นใหม่ขอให้เจ้าพบคนที่ดี อ้อ แล้วยานั่นหากว่าหมดก็ส่งคนมาบอกข้าจะนำมาเพิ่มให้ เสี่ยวชิงเจ้าจัดการด้วย”

“เจ้าค่ะ” 

“ข้าไปก่อนนะ”

“ช้าก่อนท่านหญิงเจ้าคะ”

“อะไรหรือ”

สตรีสูงวัยยื่นผ้าสะอาด แม้ว่ามันจะดูมอมไปสักหน่อยแต่ก็สะอาดที่สุดที่นางมีแล้วยื่นมาให้นาง

“ข้าขอโทษท่านหญิงจริง ๆ เจ้าค่ะ ข้ามันโง่มองคนเพียงแค่ตาเห็น ท่านโปรดเช็ดหน้าของท่านเสียก่อน แต่หากว่าท่านหญิงรังเกียจ…”

เยว่เฟยหยิบผ้านั้นมาและเช็ดไปที่ใบหน้าของนางทันที ผู้ที่ได้พบเห็นต่างเริ่มพูดกันไปต่าง ๆ นานา ถึงความเปลี่ยนไปของท่านหญิงว่าผู้นี้

“กลิ่นหอมจริง ท่านป้าท่านใช้สิ่งใดอบผ้านี้งั้นหรือ”

“หาได้ไม่เจ้าค่ะ นี่คือกลิ่นดอกไม้ที่ข้านำมาตากแห้งและใช้อบผ้าเจ้าค่ะก็เลย…”

“ท่านป้าข้าชอบกลิ่นนี้ยิ่งนัก หากเป็นไปได้ท่านช่วยชี้แนะและสอนข้าได้หรือไม่ ข้าอยากทำมาขาย”

“จริงหรือเจ้าคะท่านหญิง หากว่าท่านหญิงกล่าวเช่นนั้นข้าย่อมยินดีอย่างยิ่ง ท่านหญิงท่านช่าง…”

“พอแล้ว ๆ เช่นนั้นข้าจะหาเวลาไปเรียนวิธีอบผ้ากับท่าน หากว่าท่านไม่รังเกียจ”

“ไม่เจ้าค่ะ ไม่รังเกียจ ข้ารู้สึก ฮือ…. อี้เหนียงเราได้พบทางสว่างแล้วจริง ๆ ฮือ”

“ขอบคุณท่านหญิงว่านเจ้าค่ะ"

“เอาล่ะ ๆ เจ้าก็จัดการเรื่องผักนี่เถอะ ข้ากลับล่ะอี้ฝูอย่าลืมจ่ายเงินให้พวกนางด้วยนะ”

“เจ้าค่ะ”

ผู้คนเริ่มแหวกทางให้ว่านเยว่เฟยเดินออกมาพร้อมกับเสียงชื่นชมที่ไม่ขาดปาก เรื่องนี้คงเป็นที่พูดถึงไปทั่วเมืองหลวงอีกนานหลังจากนี้ไป แม้แต่ผู้ที่เฝ้ามองเหตุการณ์เงียบ ๆ อยู่บนชั้นสองของโรงน้ำชาชื่อดังก็ต้องแปลกใจกับท่าทางที่แปลกไปเช่นนี้ของผู้ที่เขาเคยนึกรังเกียจและเป็นสตรีที่เขาไม่อยากพบเจอมากที่สุด

“เป็นไปได้เช่นไร เจ้ามีแผนการอันใดกันแน่ว่านเยว่เฟย”

“องค์ชาย ดูเหมือนว่าผู้คนจะชื่นชมท่านหญิงไม่น้อยเลยพ่ะย่ะค่ะ”

“ไปเถอะ”

“ไปไหนหรือพ่ะย่ะค่ะ”

“ตามมา”

“พ่ะย่ะค่ะ” 

ว่านเยว่เฟยเดินออกมาพร้อมกับผ้าที่เช็ดและดมไปอีกครั้ง นางรู้สึกดีที่ได้ดมกลิ่นหอมนี้เพราะกลิ่นคล้ายดอกมะลิที่นางชื่นชอบ 

“คุณหนูเจ้าคะ ท่านจะกลับจวนเลยหรือไม่เจ้าคะ”

“อืม กลับเลยก็ได้ตัวเปื้อนเช่นนี้คงจะเดินลำบากแล้วล่ะ”

“ท่านก็ยังอุตส่าห์ซื้อของนางอีกนะเจ้าคะ”

“ผู้ไม่รู้ย่อมไม่ผิดนี่ เอ๊ะ แต่ว่าไม่ได้เปื้อนมาก เราก็แค่ไปซื้อชุดใหม่ก็พอแล้วนี่ รู้จักร้านหรือไม่”

“รู้เจ้าค่ะ ทางนี้เจ้าค่ะ”

พวกนางเดินเข้าไปในร้านขายเสื้อผ้าและโชคดีที่ทางร้านมีห้องให้เปลี่ยน เยว่เฟยจึงสามารถทำความสะอาดร่างกายได้ เมื่อเปลี่ยนชุดออกมาและเลือกซื้อชุดอีกสามสี่ชุดให้ร้านไปส่งที่จวน สาวใช้ต่างก็ลงความเห็นว่าชุดที่นางเลือกแม้ว่าสีจะไม่จัดจ้านเหมือนเคยแต่พอสวมแล้วก็งดงามยิ่งนัก

“คุณหนู ไม่คิดเลยว่าท่านสวมชุดเรียบ ๆ เช่นนี้ก็ดูน่านับถือไม่ต่างกับเหล่าสตรีในวังหลวงเลยนะเจ้าคะ”

“งั้นหรือ ชุดที่มีอยู่ก็สวยมากนะข้าเองก็ชอบแต่ก็อยากเปลี่ยนบ้างจะได้ไม่ซ้ำซาก ไปดื่มชากันสักหน่อยเถอะ”

“เจ้าค่ะ ทางนี้เจ้าค่ะ”

พวกนางเดินออกมาจากร้านตัดชุด สายตาของบุรุษหนุ่มต่างมองไปที่นางทั้งสิ้นเพราะความงามของว่านเยว่เฟยเป็นสิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้อีกทั้งในยามนี้ที่นางพูดคุยกับสาวใช้ของนางยิ่งชวนให้นางน่ามองมากกว่าท่านหญิงที่เอาแต่เดินชายตามองบุรุษไปทั่วเหมือนเช่นเคย

“นั่นท่านหญิงว่านมิใช่หรือ”

“ใช่ ๆ แต่เหตุใดวันนี้นางเดินไม่มองผู้คนเลยเล่า”

“เจ้าไม่รู้อะไร เมื่อครู่นี้….”

เรื่องที่นางช่วยสองแม่ลูกเอาไว้และอธิบายเกี่ยวกับชายหนุ่มมากรักที่หักหลังบุตรสาวของแม่เฒ่าขายผักร่ำลือกันทั้งตลาด ความสามารถและน้ำใจที่ท่านหญิงมอบทั้งยาและซื้อผักของพวกนางอีกทั้งยังขอให้แม่เฒ่าผู้นั้นสอนนางเป็นเรื่องที่ชวนเหลือเชื่อที่ควรจะเกิดขึ้นในเมืองหลวงแห่งนี้

“อะไรนะคนอย่างท่านหญิงว่านเยว่เฟยน่ะหรือ ยอมก้มหัวให้ชาวบ้านต่ำต้อยให้สอนนาง”

“องค์ชาย เหตุใดหลังจากท่านหญิงว่านหายป่วยก็ดูเหมือนว่า…”

“เจ้าก็คิดเช่นเดียวกับข้าสินะจางจิ้ง ข้าก็คิดว่านางแปลกไปแต่ข้ามิอาจไว้ใจเล่ห์เหลี่ยมมารยาสตรีเช่นนาง ข้าเชื่อว่านางก็ยังเป็นว่านเยว่เฟยคนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง”

จวนแม่ทัพลู่

“เจ้าต้องฟังผิดแน่”

“ไม่ผิดเจ้าค่ะคุณหนู ตอนนี้ข่าวลือที่ว่าท่านหญิงว่านเยว่เฟยเปลี่ยนไปราวกับเป็นนางฟ้าแพร่ไปทั่วเมืองหลวงเลยเจ้าค่ะ”

“เจ็บใจนัก!! เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้”

“ลู่ชิงอัน” บุตรีแม่ทัพใหญ่กององครักษ์ในวังโมโหอยู่ในจวนจนไม่เป็นอันทำสิ่งใดเมื่อได้ยินข่าวจากสาวใช้ที่ออกไปรับของนอกจวนมาถึงเรื่องราวของว่านเยว่เฟย

“ข่าวนี้ไปถึงในวังหรือยัง”

“ยังเจ้าค่ะ คาดว่าคงอีกไม่นาน แต่ว่าที่นั่นอยู่ใกล้โรงน้ำชาต้าเหลียงที่องค์ชายแปดชอบแวะไปนะเจ้าคะ”

“เหอะ ข้านึกแล้วเชียว นี่ก็คงเป็นหนึ่งในแผนการของนางที่จะเรียกร้องความสนใจจากองค์ชายแปดเท่านั้นเอง เจ้าให้คนไปสืบมาว่าผู้ที่นางคุยด้วยเป็นคนที่นางว่าจ้างมาให้แสดงละครหรือไม่ หากว่ามีพิรุธข้าจะใช้เรื่องนี้เล่นงานนาง”

“เจ้าค่ะ”

ท้ายตลาด

“ที่นี่ขนมเยอะเสียจริง เอ๋…สุดทางนั่นคือที่ใดหรือ เราไป…”

“ไม่ได้เจ้าค่ะ”

“ทำไม มีอะไรอี้ฝูเจ้าดึงข้าทำไม”

“ที่นั่นเป็นค่ายอพยพจากเมืองเฉินตูที่พึ่งมีสงครามไปเจ้าค่ะ หากท่านไปในตอนนี้เกรงว่าจะไม่ดีนัก”

"ค่ายผู้อพยพงั้นหรือ"

“คุณหนู หรือว่าท่านกำลังคิดจะช่วยเหลือผู้อพยพหรือเจ้าคะ”

“ข้าหรือ”

“เจ้าค่ะ บ่าวเห็นท่านช่วยสองแม่ลูกเมื่อครู่นี้ก็เลยคิดว่า…”

“ไม่ เหตุใดข้าต้องช่วยด้วยล่ะเรื่องแบบนั้นมันเกินกำลังพวกเรามากเกินไปไม่ใช่หน้าที่อย่าหาเรื่องเลยรีบกลับกันเถอะ”

“เจ้าค่ะ”

ทั้งสามเดินกลับไปยังรถม้าของสกุลว่านทันที เมื่อรถม้าเคลื่อนตัวออกไป ผู้ที่ยืนอยู่ที่มุมถนนก็เดินออกมา

“ข้าบอกเจ้าแล้วอย่างไรจางจิ้ง ว่านางไม่ได้เปลี่ยนไปจากเดิมเลย สิ่งที่นางทำก็แค่เสแสร้งเพื่อตบตาผู้อื่นเท่านั้น แต่นางหาได้ตบตาข้าได้ไม่”

Continuez à lire ce livre gratuitement
Scanner le code pour télécharger l'application

Latest chapter

  • ข้าน่ะหรือสตรีน่ารังเกียจแห่งต้าหยวน   ตอนพิเศษ 6 (ตอนจบ)

    “ลู่หนิงลี่” ผลักประตูเข้ามาโดยพลการ หมอฮ่าวและเยว่เฟยที่อยู่ในห้องหันมาและจื่อหรงก็ดึงคู่หมั้นของเขามาใกล้ ๆ ทันที“หนิงลี่ เธอมาทำอะไรที่นี่ พี่บอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าหากไม่มีธุระก็ไม่ต้องมา”“พี่จื่อหรง พี่จะแต่งงานกับ...เธองั้นเหรอ”“ใช่ มีอะไรน่าตกใจกันล่ะ”“แล้วฉันล่ะ ฉันละคะพี่เอาฉันไปไว้ที่ไหนพี่จื่อหรงทั้ง ๆ ที่คุณพ่อของพี่ก็บอกว่าเรา…”“แต่พี่ก็บอกคุณพ่อไปแล้วว่าไม่ได้คิดอะไรกับเธอ พูดต่อหน้าเธอด้วยและวันนั้นเราก็คุยกันจบแล้ว คุณพ่อเธอก็รับรู้แล้วคุณพ่อพี่ก็เช่นกันดังนั้นระหว่างเราไม่มีอะไรเกินกว่าคำว่าคนรู้จัก”“แต่ว่าฉันรักพี่นะคะ”“ตายจริงใครมาวิ่งตามผู้ชายถึงที่นี่ล่ะเนี่ยเสียงดังออกไปถึงข้างนอก อ้อ เธออีกแล้วเหรอหนิงลี่”“พี่ชิงอัน!! ฉันเป็นน้องพี่นะ”ชื่อที่ถูกเรียกทำให้ว่านเยว่เฟยหันไปมองทันที “ลู่ชิงอัน” ในชุดกาวน์สีขาวเดินมามองหน้าผู้หญิงอีกคนที่ยืนหน้าประตูและหันเอาแฟ้มมาวางที่โต๊ะของจื่อหรง“พี่หรงนี่รายงานที่ขอไปวันก่อน ไม่มีอะไรผิดปกติวางใจได้ เธอคือ…ว่าที่พี่สะใภ้ของน้องเหรอ”“ใช่แล้วชิงอัน จริงสิเยว่เฟยนี่ลู่ชิงอัน เจ้าหน้าที่เทคนิคการแพทย์ในโรงพยาบาลนี้”“อะไรนะ

  • ข้าน่ะหรือสตรีน่ารังเกียจแห่งต้าหยวน   ตอนพิเศษที่ 5

    คอนโดเยว่เฟย “คุณพักที่นี่เหรอ”“ค่ะ ฉันซื้อเอาไว้ตอนที่แม่เสียเมื่อหลายปีก่อน”“หรูจริง ๆ ด้วยแฮะ”“คุณหมอคงไม่รังเกียจคนว่างงานที่เอาแต่เขียนนิยายอย่างฉันหรอกใช่ไหมคะ”“คุณเคยเป็นหมอมาก่อนนี่ หมอศัลยกรรมสมองคนเก่งของโรงพยาบาลชื่อดังเสียด้วยทำไมคุณถึงลาออกล่ะ”“คุณสืบประวัติฉันเหรอคะ อยากโดนลงโทษเหรอคะคุณหมอ”“ไม่ใช่นะ ผมก็แค่… คุ้นชื่อคุณก็เลยไปสืบดูเท่านั้น ทำไมคุณถึงลาออกแล้วไปเป็นแอร์โฮสเตสละครับ”“อืม คงเพราะอยากจะพบคุณมั้งคะ สวรรค์คงจะกำหนดเอาไว้แบบนั้นตั้งแต่แรกแล้ว”“เยว่เฟย คำพูดของคุณทำไมดูโบราณจังเลยล่ะ”“อะไรนะ โบราณงั้นเหรอคะ”“ใช่ ผมว่าจะถามมานานแล้วแต่…”“เจ้าคือบุปผาในฤดู…”“เดี๋ยว!! อย่าพึ่งพูด”“หมอคะ คุณเป็นอะไรหรือเปล่า”“เปล่า แต่ผมเคยได้ยินประโยคนี้”“อะไรนะคะ”ว่านเยว่เฟยมองดูฮ่าวจื่อหรงที่ยืนขึ้นและจับเธอเอาไว้พร้อมกับสบตาเธออีกครั้ง“เจ้าคือบุปผาในฤดูใบไม้ผลิสำหรับข้าเสมอ เยว่เฟยของข้า”ว่านเยว่เฟยยิ้มทั้งน้ำตาเมื่อมองไปที่เขาอีกครั้ง ฮ่าวจื่อหรงเองก็เผลอร้องไห้ออกมาเช่นกันโดยที่เขาเองก็ไม่เข้าใจแต่เขารู้สึกว่าประโยคนี้ควรจะพูดตอนนี้กับเธอคนนี้เพียงคนเดียว“

  • ข้าน่ะหรือสตรีน่ารังเกียจแห่งต้าหยวน   ตอนพิเศษที่ 4

    เธอขยับหนีเขาไม่ได้ ราวกับร่างกายถูกสะกดเอาไว้ให้หยุดนิ่งและเมื่อเขาเริ่มโน้มตัวเข้ามาใกล้ เธอก็เผลอตัวยื่นหน้าขึ้นไปรับสัมผัสที่คุ้นเคยเพราะในชาติก่อนว่านเยว่เฟยและท่านอ๋องฮ่าวจื่อหรงมักจะแสดงความรักต่อกันตลอดเวลาที่มีโอกาส ตลอดเวลาที่แต่งงานและใช้ชีวิตร่วมกันมาเกือบหกสิบปี พวกเขารักกันจนลมหายใจสุดท้ายจริง ๆ“อือ…อ๊ะ หมอคะ”แทนที่เขาจะหยุดแต่กลับเลือกที่จะดันตัวเธอเข้าไปในห้องข้างในและเริ่มยกตัวเธอเข้าไปวางที่เตียงของเขา เสียงหายใจหอบถี่เพราะความตื่นเต้นจนเธอเองก็รู้สึกได้เพราะเธอเองก็เป็นเหมือนกับเขา“ว่านเยว่เฟย คุณเป็นแม่มดเหรอ”“คะ? คุณหมอคุณพูดอะไรนะคะ ฉัน…อื้อ”เธอกำต้นแขนเขาแน่น หมอฮ่าวยังสวมชุดกาวน์สีขาวอยู่ตอนที่วิ่งตามเธอออกมาจากโรงพยาบาลและตอนนี้ก็กำลังจูบเธออย่างกระหายและกำลังซึมซับบางอย่างพร้อมกับความสับสนของเขาที่เริ่มคลี่คลายเมื่อได้เห็นหน้าเธออีกครั้ง“เยว่เฟย”“จื่อหรง…”“คุณต้องการผมหรือเปล่า”“ฉัน…”“เยว่เฟย ผมถามคุณว่า….”“อย่าถามอีกเลยค่ะ ฉันเป็นของคุณ… มาโดยตลอด”เสื้อกาวน์สีขาวและเสื้อโค้ชของเธอถูกโยนทิ้งไปคนละทาง ตอนนี้เขาไม่สนใจแล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้น เพียงแค่เ

  • ข้าน่ะหรือสตรีน่ารังเกียจแห่งต้าหยวน   ตอนพิเศษที่ 3

    ว่านเยว่เฟยมองสบตาเขา แต่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรเธอจึงขยับหน้าเข้าไปใกล้เขาโดยไม่รู้ตัว ฮ่าวจื่อหรงเองก็ราวกับมีแรงดึงดูดบางอย่างให้ทำในสิ่งที่เขาไม่เคยทำมาก่อนกับคนไข้ของตัวเอง เมื่อริมฝีปากของทั้งคู่ทาบปิดกันสนิทและเริ่มขยับเข้าหากันอย่างเผลอตัว ภาพในหัวก็เกิดขึ้นในสมองของหมอฮ่าวทันที“เจ้าคือบุปผาในฤดูใบไม้ผลิสำหรับข้าเสมอ… เยว่เฟยของข้า”“อ๊ะ!!”ว่านเยว่เฟยตกใจเมื่อคุณหมอฮ่าวถอยออกและกึ่งผลักเธอออกมาทันทีด้วยท่าทางที่ตกใจเมื่อหันมามองหน้าเธอชัด ๆ อีกครั้ง เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเองและทำไมถึงได้เห็นภาพแบบนั้นในหัวเวลาที่เขาจูบเธอ และนี่เป็นสิ่งที่หมอไม่ควรทำกับคนไข้ของตัวเอง“ผม… ผมขอโทษ ขอตัวก่อน”“คุณ…”เยว่เฟยไม่ร้องตามเขาแม้ว่าอยากจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น สัมผัสจากริมฝีปากนั้นคุ้นเคยจนทำให้เธอร้องไห้ออกมาอีกครั้ง คงมีเพียงแค่เธอคนเดียวที่จดจำเขาได้ไม่มีวันลืม“จื่อหรง… ท่านช่างใจร้ายนัก เหตุใดต้องปล่อยข้าเอาไว้เช่นนี้ หากรู้ว่าต้องเป็นเช่นนี้ข้าไม่ตามท่านมาหรอกคนใจร้าย ฮือ…”“นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย!!”ฮ่าวจื่อหรงยืนหน้าแดงอยู่ที่หน้าห้องคนไข้พิเศษของเขา สิ่งที่เขาเห็นตอน

  • ข้าน่ะหรือสตรีน่ารังเกียจแห่งต้าหยวน    ตอนพิเศษที่ 2

    แววตาของเธอรื้นไปด้วยน้ำตาทันที ไม่ใช่เพราะยังปรับแสงไม่ได้แต่เพราะชื่อที่พึ่งจะได้ยิน เธอพยายามลุกขึ้นมาและมองเขาใกล้ ๆ ชัด ๆ อีกครั้ง คุณหมอเห็นว่าเธอพยายามจะลุกขึ้นมาซึ่งเป็นเรื่องน่าประหลาดที่คนไข้จะสามารถลุกขึ้นมาได้ทั้ง ๆ ที่หมดสติไปหลายวันอีกทั้งเธอยังบาดเจ็บตามตัวอยู่หลายแห่ง“คุณค่อย ๆ ลุกอย่าพึ่งรีบร้อน…คนไข้ครับ นี่คุณทำอะไร”“จะ…จื่อ…คุณ…. ชื่อ….”สายตาที่หันมามองสบตาเธอนั้นนิ่งไป และเมื่อทั้งคู่สบตากันก็เหมือนจะมีบางอย่างทำให้คุณหมอฮ่าวหยุดนิ่งไปเช่นกัน ทำไมเขาถึงได้รู้สึกคุ้นเคยกับเธอแบบนี้ และรู้สึกเหมือนกับเคยรู้จักเธอมาก่อนทั้ง ๆ ที่เขามั่นใจว่าเขาไม่เคยเจอเธอแน่ ๆ“ตอนนี้คนไข้รู้สึกยังไงบ้างครับ”“จื่อ.... หรง”หมอฮ่าวชะงักไปเมื่อเธอเรียกชื่อเขาเฉย ๆ อย่างคนคุ้นเคย เขาหันไปขมวดคิ้วและมองเธออีกครั้งด้วยความแปลกใจกึ่งสงสัย สีหน้าของเธอซีดเซียวแต่ยังคงสวยมาก ๆ เพราะเธอเป็นแอร์โฮสเตสละมั้งถึงได้มีหน้าตาที่สวยแม้แต่ตอนที่ป่วยก็ยังดูสวยอยู่“คุณ รู้จักผมเหรอครับ”เพียงคำถามนั้นก็ทำเอาเธอปากสั่นและน้ำตาก็เริ่มไหลออกมาไม่หยุดจนเขาตกใจ กล่องทิชชูถูกยกมาวางที่ตรงหน้าและเขาก็รี

  • ข้าน่ะหรือสตรีน่ารังเกียจแห่งต้าหยวน   ตอนพิเศษที่ 1 กลับมาอีกครั้ง

    โรงพยาบาล ติ๊ด ติ๊ด….. เสียงของใครคนหนึ่งที่คุยกับคนอีกหนึ่งหรือสองคนไม่แน่ใจเพราะสติที่ยังไม่เข้าที่เข้าทาง เสียงที่ดังขึ้นมาแม้ว่าจะจับใจความอะไรไม่ได้แม้ว่าหูจะเริ่มได้ยินเสียงที่ชัดขึ้นแต่ร่างกายกลับยังไม่ตอบสนองอย่างที่ต้องการ เมื่อค่อย ๆ เริ่มหายใจ ลมเย็น ๆ ที่อยู่ปลายจมูกก็เริ่มรู้สึกว่าไม่ต้องพยายามขนาดนั้น แม้ว่าจะมองไม่เห็นตัวคนพูดแต่เสียงที่เริ่มชัดขึ้นก็ทำให้ร่างที่นอนอยู่ค่อย ๆ กะพริบตาขึ้น ราวกับหลับไปนานแสนนานและแสงที่เริ่มไม่คุ้นเคยนี้ก็ทำให้ “ว่านเยว่เฟย” หลับตาลงไปอีกครั้ง “ข้าอยู่ที่ไหน เกิดใหม่อีกแล้วงั้นหรือ ท่านพี่ท่านพาข้ามาที่ใดข้าไม่อยากจากท่านไป นานเหลือเกินแล้วที่เราจากกัน แม้จะเพียงแค่ปีเดียวที่ท่านด่วนจากไปแต่ข้าไม่มีทางลืมท่าน จื่อหรง…พาข้าไปกับท่านด้วย” “เยว่เฟยยอดรักของข้า อีกไม่นานเราจะได้พบกัน…อีกครั้ง” “อย่าไปเพคะท่านพี่ รอข้าก่อนฮ่าวจื่อหรง อย่าไป!! รอข้าก่อน” “รอ…รอก่อน…หรง…จื่อหรง” เสียงงึมงำนั้นเรียกความสนใจของพยาบาลสาวที่กำลังปรับเครื่องช่วยหายใจอยู่ เมื่อคนไข้มีการตอบสนองเธอจึงเรียกคุณหมอทันที “คุณหมอคะ ดูเหมือนว่าคนไข้จะมีการตอบสนอ

Plus de chapitres
Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status