Share

ตอนที่  4 หญิงแพศยา

last update Last Updated: 2024-11-28 02:10:52

 

“มิน่าล่ะ เป็นแบบนี้นี่เอง”

“คุณหนูเจ้าคะ หิวหรือไม่เจ้าคะข้าจะยกสำรับเข้ามาให้”

“พอพูดแล้วก็รู้สึกเลยองค์ชายนั่นกลับไปแล้วใช่หรือไม่”

“คุณหนูเรียกขานเช่นนั้นหาได้ไม่เจ้าค่ะ องค์ชายแปดเจ้าค่ะ”

“ช่างเถอะ ๆ เรื่องผู้ชายเอาไว้ก่อนเดี๋ยวค่อยว่ากันตอนนี้หิวข้าวแล้ว”

“เจ้าค่ะ ๆ อี้ฝูไปยกสำรับมาเร็ว ๆ เข้า ข้าจะไปดูยาที่ต้มว่าเสร็จหรือยัง”

หลังจากการมาเยือนขององค์ชายแปดในวันนั้น อีกราว ๆ สามวันฝ่าบาทก็พระราชทานอาหารบำรุงกำลังมาให้ที่จวนเสนาบดีมากมาย ว่านเยว่เฟยพักจนหายดีแล้ว นางมักจะเรียกเสี่ยวชิงมาเล่าเรื่องของเจ้าของร่างให้ฟัง นางเป็นบุตรคนโตของเสนาบดีว่านและองค์หญิงหยางเนี่ยเฟย น้องสาวของฮ่องเต้ 

หลังจากองค์หญิงสิ้นพระชนม์ “ซูหลิง” ซึ่งเป็นอนุก็ให้กำเนิดบุตรสาวอีกคนที่อายุน้อยกว่าเยว่เฟยสามปี “ว่านหนิงลี่” ซึ่งทั้งสองเป็นไม้เบื่อไม้เมากับเยว่เฟยมาตลอด แม้ว่าซูหลิงจะไม่เคยสู้เยว่เฟยได้แต่ก็มักจะหาเรื่องทำร้ายนางมีเหตุผลในการเอาตัวรอดไปได้เสมอ

“แล้วท่านพ่อไม่เชื่อข้าหรือ”

“อนุซูมีข้ออ้างว่าสั่งสอนเจ้าค่ะ นายท่านก็เลยไม่ได้ใส่ใจ”

“ข้าพอจะรู้แล้วว่าเพราะเหตุใด ท่านพ่อละเลยถึงได้เป็นเช่นนี้”

“คุณหนู เหตุใดท่านพูดจาแปลก ๆ เจ้าคะ ข้าฟังความเข้าใจบ้าง ไม่เข้าใจบ้าง”

“เอาเถอะ ๆ เพราะเป็นเช่นนี้….”

ว่านเยว่เฟยเดิมทีเป็นคุณหนูอยู่ในเรือนตามแบบท่านหญิง แต่เมื่อสิ้นฮูหยินใหญ่ นางไม่ต่างกับไม้หลักปักในเลนไร้ผู้สั่งสอนที่ดีอีกทั้งอนุซูที่คลอดบุตรสาวคนใหม่ยิ่งทำให้ว่านเยว่เฟยรู้สึกโดดเดี่ยวมากขึ้น

นางจึงหันมาใช้ชีวิตราวกับประชดประชันสังคมและบิดา แม้ว่าฝ่าบาทจะทรงรักและเอ็นดูนางมากแต่ข่าวเสีย ๆ หาย ๆ ของท่านหญิงว่านก็แพร่สะพัดจนแม้แต่ฝ่าบาทเองก็ทรงเป็นกังวล

“เอาล่ะเข้าใจแล้ว เช่นนั้นวันนี้เราออกไปเดินเล่นสักหน่อยดีกว่า”

“คุณหนู ท่าน…จะออกไปหรือเจ้าคะ” / เสี่ยวชิง

“แน่ใจหรือเจ้าคะ” / อี้ฝู

“ทำไมเล่า ทำไมถึงทำหน้าเช่นนั้นข้าอยากไปก็ไป เงินก็มีนี่นา”

“เจ้าค่ะ ไปก็ไปเจ้าค่ะ”

ตลาดเมืองหลวง

“โอ้โหคนคึกคักน่าดูเลยนะนี่”

“เจ้าค่ะคุณหนู”

“คุณหนูเจ้าคะวันนี้จะแวะไปที่ร้านเครื่องหอมกับเครื่องประทินโฉมหรือไม่เจ้าคะ”

“ไปสิ ฟังดูน่าสนใจดีนี่”

เยว่เฟยพยายามทำตัวให้เหมือนเดิม หากว่านางจะต้องสืบหาผู้ที่อยู่เบื้องหลังเรื่องการฆาตกรรมเจ้าของร่างนี้นางก็ต้องทำตัวเช่นเดิมเพื่อมิให้ผู้อื่นรู้สึกผิดสังเกต

“ผักนี่งามนัก”

“คุณหนูช่วยซื้อสักหน่อยเถอะเจ้าค่ะ ผักนี่สด ๆ จากสวน…. เจ้า!! ออกไปจากหน้าร้านข้านะนังแพศยาหน้าไม่อาย”

“นี่เจ้า บังอาจนักนี่ท่านหญิงว่านนะ”

ถุย!! จะท่านหญิงหรือองค์หญิงแล้วเช่นไรเล่า วัน ๆ เอาแต่แต่งตัวและเที่ยวชายตามองชายอื่นจะลูกหรือสามีผู้ใดนางเคยสนด้วยหรือ”

“นี่มันเรื่องอันใดกัน”

“คุณหนูถอยออกมาเถอะเจ้าค่ะ อี้ฝูรีบพาคุณหนูหลบไปก่อนเร็ว”

“จะไปที่ใดข้ายังด่าไม่จบเลย แพศยาทำตัวน่ารังเกียจเป็นถึงท่านหญิงแต่กลับไร้ยางอายเที่ยวชายตามองผู้ชายให้ลุ่มหลง”

“เดี๋ยวก่อน!!”

“คุณหนูเจ้าคะ”

“พวกเจ้าจงพูดความจริงมา ว่าข้าเคยทำเช่นนั้นจริงหรือ”

สาวใช้ทั้งสองยิ้มและค่อย ๆ พยักหน้าให้นาง

“ผลัวะ!!”

“ว้าย….”

ผักในมือของนางถูกโยนใส่ศีรษะของว่านเยว่เฟย หัวผักกาดนั้นค้างอยู่ที่ศีรษะจนคนอื่น ๆ ที่มองดูอยู่เริ่มหัวเราะเยาะอย่างไม่ปิดบัง เยว่เฟยไม่เคยรู้สึกอับอายเช่นนี้มาก่อนแต่นางไม่เข้าใจจึงได้เดินกลับไป เสียงโวยวายนั้นเรียกความสนใจให้ผู้ที่นั่งจิบชาอยู่ชั้นบนของ “หอต้าเหลียง”

“องค์ชาย ท่านหญิงว่านพ่ะย่ะค่ะ”

“พอหายดีแล้วก็กลับมาสร้างปัญหาอีกแล้วงั้นหรือ ครั้งนี้นางไปตบตีผู้ใดอีกเล่า”

“เปล่าพ่ะย่ะค่ะ นางกำลังถูกแม่ค้าโยนผักใส่พ่ะย่ะค่ะ”

“อะไรนะ!! คนอย่างนางน่ะหรือจะยอมให้ผู้อื่นทำเช่นนั้น”

สิ่งนี้เรียกความสนใจของฮ่าวจื่อหรงได้ เขาเดินมายืนมองไปที่ด้านล่างและเห็นเช่นนั้นจริง ๆ แม่ค้าที่โยนผักใส่ท่านหญิงและค่อย ๆ ถอยออกไปเพราะเริ่มเกรงกลัว ว่านเยว่เฟยมิได้ทำสิ่งใดตอบโต้ นางแค่เดินเข้าไปหาแม่ค้าผู้นั้นเฉย ๆ เงียบ ๆ

“นั่นนางคิดจะทำอันใดกัน”

“ไม่ทราบเลยพ่ะย่ะค่ะ องค์ชายจะให้....”

“ไม่ต้อง รอดูไปก่อนเถอะ”

แม่ค้าผักโยนผักไปที่ศีรษะและใบหน้าของเยว่เฟย นางห้ามสาวใช้ทั้งสองมิให้ทำอันใด และเมื่อแม่ค้าหยุดปาสิ่งของและหายใจหอบเกือบจะล้มลงนางก็ฉวยตัวแม่ค้าสูงวัยผู้นั้นลุกขึ้นมา

“นั่งลงก่อน หายใจเข้าลึก ๆ”

“ท่าน…. เหตุใด…”

“อย่าพึ่งพูด ข้าบอกให้หายใจเข้าไปลึก ๆ นับหนึ่ง…..ผ่อนลมหายใจ สูดเข้าไป…..สอง….ผ่อนลมหายใจ …..ดีขึ้นหรือไม่”

แม่ค้านิ่งลงและหันมามองนางที่สายตานิ่งกริบไร้วี่แววเอาเรื่อง ใบหน้ายังเต็มไปด้วยสีของมะเขือเทศ ที่ศีรษะยังมีหัวผักกาดอยู่นางไม่สนใจจะเอาออก

“อาการของท่านเกิดจากการพักผ่อนน้อย เครียดจากการทำงานทำให้กล้ามเนื้อเกร็งตัว ความดันจึงสูงเพราะความโกรธ อีกทั้งมาเจออากาศร้อน ๆ และโมโหในเรื่องไม่เป็นเรื่องนี้เลือดจึงไหวเวียนติดขัดทำให้หน้ามืด นี่ยาลดความดันเลือด เก็บเอาไว้กินข้าไปก่อนล่ะ”

“เดี๋ยว!!”

“ยังมีสิ่งใดอีกงั้นหรือ”

“ท่าน…. ไม่โกรธที่ข้าด่าท่านหรือ”

“ท่านด่าข้าว่ากระไรนะ”

“อะไรกัน นี่ท่านหญิงไม่ได้ฟังเลยหรือพ่ะย่ะค่ะ คำด่านั้นเจ็บแสบมากพอที่จะให้นางโกรธจนสั่งเฆี่ยนแม่ค้าผู้นั้น….องค์ชาย นี่ไม่แปลกไปหน่อยหรือพ่ะย่ะค่ะ”

ฮ่าวจื่อหรงหรี่ตามองอย่างนึกไม่เชื่อสายตาตัวเองเช่นกัน เพราะสิ่งที่เห็นตรงหน้าในตอนนี้ว่านเยว่เฟยคนนั้นน่ะหรือจะช่วยคนอื่นเช่นนั้น หากเป็นก่อนหน้านั้นน่าจะต้องเป็นอย่างที่องครักษ์ของเขาบอก ว่านเยว่เฟยจะต้องสั่งให้คนทุบตีแม่ค้าผู้นั้นแล้ว

“รอดูเงียบ ๆ”

แม้แต่ผู้คนที่ยืนมุงอยู่ก็รู้สึกแปลกใจไม่น้อย ไม่นานก็มีหญิงสาวซึ่งน่าจะเป็นบุตรสาวของนางที่วิ่งเข้ามาหามารดา

“ท่านแม่ ท่านเป็นอะไรไป …. ทะ ท่านหญิง!!”

“เจ้าเป็นลูกสาวนางหรือ”

“ขะ ข้า…”

“เหตุใดไม่ตอบ แม่เจ้าป่วยอยู่เหตุใดเจ้าจึงพานางมายืนตากแดดขายของในที่อากาศร้อน ๆ เช่นนี้ น้ำท่าไม่มีหรือเหตุใดปากนางจึงแห้งผากเช่นนั้น”

“เหตุใดท่านจึง ท่านแม่ท่านทำอะไรกับนางเดี๋ยวนางก็ทุบตีเอาหรอก”

“เหตุใดข้าจะต้องทุบตีพวกเจ้าด้วย”

แม่ค้าขายผักอีกคนเดินออกมาพร้อมกับท่าทางที่เกรี้ยวกราดและชี้หน้ามาที่ว่านเยว่เฟยเมื่อเห็นว่าท่านหญิงจู่ ๆ ก็ไม่เอาเรื่องจึงทำให้นางไม่เกรงกลัวท่านหญิงว่าน

“นี่ท่านหญิงข้าขอพูดหน่อยเถอะ มิใช่ท่านหรอกหรือที่เคยชายตามองสามีของอี้เหนียงจนเจ้านั่นลุ่มหลงและขอเลิกรากับอี้เหนียงไปน่ะ”

"อะไรนะ ข้างั้นหรือ"

“ท่านป้าเพราะเหตุนี้ท่านจึงขว้างข้าวของใส่ข้างั้นหรือ”

“เจ้าลูกเขยนั่นมันลุ่มหลงท่าน มันบอกว่าท่านสนใจในตัวมันจึงได้…ฮือ….”

“ใช่ นางนั่นแหละแย่งสามีผู้อื่น หน้าไม่อาย อี้เหนียงช่างน่าสงสารนัก”

“อะไรกันอีกละวะเนี่ย…”

ว่านเยว่เฟยยกมือขึ้นท่ามกลางเสียงก่นด่านางแต่นางกลับไม่ตอบโต้สักคำ เมื่อนางชูมือขึ้นและกำมือทุกเสียงก็เงียบลงในทันที

“องค์ชาย…นางรู้สัญญาณนั่น!!”

จื่อหรงเองก็แปลกใจ นั่นเป็นสัญญาณสั่งการให้เงียบของทหารในกองทัพ คิดไม่ถึงว่าบุตรีเสนาบดีที่ไม่เอาไหนเช่นนางจะทราบได้ แต่ว่านเยว่เฟยจำสัญญาณนี้มาจากการฝึกงานก่อนที่จะเป็นแอร์โฮสเตส

“อาจจะแค่บังเอิญก็ได้ เป็นไปไม่ได้ที่คนอย่าง.... นางจะรู้สัญญาณที่ใช้ในกองทัพได้”

“ท่านป้าเมื่อครู่ท่านบอกว่าชายผู้นั้น ข้าหมายถึงอดีตสามีของบุตรท่าน เลิกกับบุตรสาวท่านเพราะข้างั้นหรือ”

“ใช่ หากไม่ใช่เพราะเจ้าคนเลวนั่นพบท่านที่ตลาดแล้วได้คุยไม่กี่คำ จึงตัดสินใจทิ้งลูกข้าไปมีหรือตอนนี้ลูกข้าจะให้ข้ามาลำบากเช่นนี้”

“เฮ้อ…ท่านป้า เจ้าด้วยสาวน้อยฟังข้าสักหน่อยเมื่อครู่แม่เจ้าบอกว่าข้าไปแย่งผู้ชายของเจ้ามา แล้ว…เหตุใดเขาไม่มากับข้าเล่า เจ้าดูสิข้ามาที่นี่เพียงลำพังกับสาวใช้ไหนเล่าผู้ชายที่พวกเจ้าว่า”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ข้าน่ะหรือสตรีน่ารังเกียจแห่งต้าหยวน   ตอนพิเศษ 6 (ตอนจบ)

    “ลู่หนิงลี่” ผลักประตูเข้ามาโดยพลการ หมอฮ่าวและเยว่เฟยที่อยู่ในห้องหันมาและจื่อหรงก็ดึงคู่หมั้นของเขามาใกล้ ๆ ทันที“หนิงลี่ เธอมาทำอะไรที่นี่ พี่บอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าหากไม่มีธุระก็ไม่ต้องมา”“พี่จื่อหรง พี่จะแต่งงานกับ...เธองั้นเหรอ”“ใช่ มีอะไรน่าตกใจกันล่ะ”“แล้วฉันล่ะ ฉันละคะพี่เอาฉันไปไว้ที่ไหนพี่จื่อหรงทั้ง ๆ ที่คุณพ่อของพี่ก็บอกว่าเรา…”“แต่พี่ก็บอกคุณพ่อไปแล้วว่าไม่ได้คิดอะไรกับเธอ พูดต่อหน้าเธอด้วยและวันนั้นเราก็คุยกันจบแล้ว คุณพ่อเธอก็รับรู้แล้วคุณพ่อพี่ก็เช่นกันดังนั้นระหว่างเราไม่มีอะไรเกินกว่าคำว่าคนรู้จัก”“แต่ว่าฉันรักพี่นะคะ”“ตายจริงใครมาวิ่งตามผู้ชายถึงที่นี่ล่ะเนี่ยเสียงดังออกไปถึงข้างนอก อ้อ เธออีกแล้วเหรอหนิงลี่”“พี่ชิงอัน!! ฉันเป็นน้องพี่นะ”ชื่อที่ถูกเรียกทำให้ว่านเยว่เฟยหันไปมองทันที “ลู่ชิงอัน” ในชุดกาวน์สีขาวเดินมามองหน้าผู้หญิงอีกคนที่ยืนหน้าประตูและหันเอาแฟ้มมาวางที่โต๊ะของจื่อหรง“พี่หรงนี่รายงานที่ขอไปวันก่อน ไม่มีอะไรผิดปกติวางใจได้ เธอคือ…ว่าที่พี่สะใภ้ของน้องเหรอ”“ใช่แล้วชิงอัน จริงสิเยว่เฟยนี่ลู่ชิงอัน เจ้าหน้าที่เทคนิคการแพทย์ในโรงพยาบาลนี้”“อะไรนะ

  • ข้าน่ะหรือสตรีน่ารังเกียจแห่งต้าหยวน   ตอนพิเศษที่ 5

    คอนโดเยว่เฟย “คุณพักที่นี่เหรอ”“ค่ะ ฉันซื้อเอาไว้ตอนที่แม่เสียเมื่อหลายปีก่อน”“หรูจริง ๆ ด้วยแฮะ”“คุณหมอคงไม่รังเกียจคนว่างงานที่เอาแต่เขียนนิยายอย่างฉันหรอกใช่ไหมคะ”“คุณเคยเป็นหมอมาก่อนนี่ หมอศัลยกรรมสมองคนเก่งของโรงพยาบาลชื่อดังเสียด้วยทำไมคุณถึงลาออกล่ะ”“คุณสืบประวัติฉันเหรอคะ อยากโดนลงโทษเหรอคะคุณหมอ”“ไม่ใช่นะ ผมก็แค่… คุ้นชื่อคุณก็เลยไปสืบดูเท่านั้น ทำไมคุณถึงลาออกแล้วไปเป็นแอร์โฮสเตสละครับ”“อืม คงเพราะอยากจะพบคุณมั้งคะ สวรรค์คงจะกำหนดเอาไว้แบบนั้นตั้งแต่แรกแล้ว”“เยว่เฟย คำพูดของคุณทำไมดูโบราณจังเลยล่ะ”“อะไรนะ โบราณงั้นเหรอคะ”“ใช่ ผมว่าจะถามมานานแล้วแต่…”“เจ้าคือบุปผาในฤดู…”“เดี๋ยว!! อย่าพึ่งพูด”“หมอคะ คุณเป็นอะไรหรือเปล่า”“เปล่า แต่ผมเคยได้ยินประโยคนี้”“อะไรนะคะ”ว่านเยว่เฟยมองดูฮ่าวจื่อหรงที่ยืนขึ้นและจับเธอเอาไว้พร้อมกับสบตาเธออีกครั้ง“เจ้าคือบุปผาในฤดูใบไม้ผลิสำหรับข้าเสมอ เยว่เฟยของข้า”ว่านเยว่เฟยยิ้มทั้งน้ำตาเมื่อมองไปที่เขาอีกครั้ง ฮ่าวจื่อหรงเองก็เผลอร้องไห้ออกมาเช่นกันโดยที่เขาเองก็ไม่เข้าใจแต่เขารู้สึกว่าประโยคนี้ควรจะพูดตอนนี้กับเธอคนนี้เพียงคนเดียว“

  • ข้าน่ะหรือสตรีน่ารังเกียจแห่งต้าหยวน   ตอนพิเศษที่ 4

    เธอขยับหนีเขาไม่ได้ ราวกับร่างกายถูกสะกดเอาไว้ให้หยุดนิ่งและเมื่อเขาเริ่มโน้มตัวเข้ามาใกล้ เธอก็เผลอตัวยื่นหน้าขึ้นไปรับสัมผัสที่คุ้นเคยเพราะในชาติก่อนว่านเยว่เฟยและท่านอ๋องฮ่าวจื่อหรงมักจะแสดงความรักต่อกันตลอดเวลาที่มีโอกาส ตลอดเวลาที่แต่งงานและใช้ชีวิตร่วมกันมาเกือบหกสิบปี พวกเขารักกันจนลมหายใจสุดท้ายจริง ๆ“อือ…อ๊ะ หมอคะ”แทนที่เขาจะหยุดแต่กลับเลือกที่จะดันตัวเธอเข้าไปในห้องข้างในและเริ่มยกตัวเธอเข้าไปวางที่เตียงของเขา เสียงหายใจหอบถี่เพราะความตื่นเต้นจนเธอเองก็รู้สึกได้เพราะเธอเองก็เป็นเหมือนกับเขา“ว่านเยว่เฟย คุณเป็นแม่มดเหรอ”“คะ? คุณหมอคุณพูดอะไรนะคะ ฉัน…อื้อ”เธอกำต้นแขนเขาแน่น หมอฮ่าวยังสวมชุดกาวน์สีขาวอยู่ตอนที่วิ่งตามเธอออกมาจากโรงพยาบาลและตอนนี้ก็กำลังจูบเธออย่างกระหายและกำลังซึมซับบางอย่างพร้อมกับความสับสนของเขาที่เริ่มคลี่คลายเมื่อได้เห็นหน้าเธออีกครั้ง“เยว่เฟย”“จื่อหรง…”“คุณต้องการผมหรือเปล่า”“ฉัน…”“เยว่เฟย ผมถามคุณว่า….”“อย่าถามอีกเลยค่ะ ฉันเป็นของคุณ… มาโดยตลอด”เสื้อกาวน์สีขาวและเสื้อโค้ชของเธอถูกโยนทิ้งไปคนละทาง ตอนนี้เขาไม่สนใจแล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้น เพียงแค่เ

  • ข้าน่ะหรือสตรีน่ารังเกียจแห่งต้าหยวน   ตอนพิเศษที่ 3

    ว่านเยว่เฟยมองสบตาเขา แต่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรเธอจึงขยับหน้าเข้าไปใกล้เขาโดยไม่รู้ตัว ฮ่าวจื่อหรงเองก็ราวกับมีแรงดึงดูดบางอย่างให้ทำในสิ่งที่เขาไม่เคยทำมาก่อนกับคนไข้ของตัวเอง เมื่อริมฝีปากของทั้งคู่ทาบปิดกันสนิทและเริ่มขยับเข้าหากันอย่างเผลอตัว ภาพในหัวก็เกิดขึ้นในสมองของหมอฮ่าวทันที“เจ้าคือบุปผาในฤดูใบไม้ผลิสำหรับข้าเสมอ… เยว่เฟยของข้า”“อ๊ะ!!”ว่านเยว่เฟยตกใจเมื่อคุณหมอฮ่าวถอยออกและกึ่งผลักเธอออกมาทันทีด้วยท่าทางที่ตกใจเมื่อหันมามองหน้าเธอชัด ๆ อีกครั้ง เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเองและทำไมถึงได้เห็นภาพแบบนั้นในหัวเวลาที่เขาจูบเธอ และนี่เป็นสิ่งที่หมอไม่ควรทำกับคนไข้ของตัวเอง“ผม… ผมขอโทษ ขอตัวก่อน”“คุณ…”เยว่เฟยไม่ร้องตามเขาแม้ว่าอยากจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น สัมผัสจากริมฝีปากนั้นคุ้นเคยจนทำให้เธอร้องไห้ออกมาอีกครั้ง คงมีเพียงแค่เธอคนเดียวที่จดจำเขาได้ไม่มีวันลืม“จื่อหรง… ท่านช่างใจร้ายนัก เหตุใดต้องปล่อยข้าเอาไว้เช่นนี้ หากรู้ว่าต้องเป็นเช่นนี้ข้าไม่ตามท่านมาหรอกคนใจร้าย ฮือ…”“นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย!!”ฮ่าวจื่อหรงยืนหน้าแดงอยู่ที่หน้าห้องคนไข้พิเศษของเขา สิ่งที่เขาเห็นตอน

  • ข้าน่ะหรือสตรีน่ารังเกียจแห่งต้าหยวน    ตอนพิเศษที่ 2

    แววตาของเธอรื้นไปด้วยน้ำตาทันที ไม่ใช่เพราะยังปรับแสงไม่ได้แต่เพราะชื่อที่พึ่งจะได้ยิน เธอพยายามลุกขึ้นมาและมองเขาใกล้ ๆ ชัด ๆ อีกครั้ง คุณหมอเห็นว่าเธอพยายามจะลุกขึ้นมาซึ่งเป็นเรื่องน่าประหลาดที่คนไข้จะสามารถลุกขึ้นมาได้ทั้ง ๆ ที่หมดสติไปหลายวันอีกทั้งเธอยังบาดเจ็บตามตัวอยู่หลายแห่ง“คุณค่อย ๆ ลุกอย่าพึ่งรีบร้อน…คนไข้ครับ นี่คุณทำอะไร”“จะ…จื่อ…คุณ…. ชื่อ….”สายตาที่หันมามองสบตาเธอนั้นนิ่งไป และเมื่อทั้งคู่สบตากันก็เหมือนจะมีบางอย่างทำให้คุณหมอฮ่าวหยุดนิ่งไปเช่นกัน ทำไมเขาถึงได้รู้สึกคุ้นเคยกับเธอแบบนี้ และรู้สึกเหมือนกับเคยรู้จักเธอมาก่อนทั้ง ๆ ที่เขามั่นใจว่าเขาไม่เคยเจอเธอแน่ ๆ“ตอนนี้คนไข้รู้สึกยังไงบ้างครับ”“จื่อ.... หรง”หมอฮ่าวชะงักไปเมื่อเธอเรียกชื่อเขาเฉย ๆ อย่างคนคุ้นเคย เขาหันไปขมวดคิ้วและมองเธออีกครั้งด้วยความแปลกใจกึ่งสงสัย สีหน้าของเธอซีดเซียวแต่ยังคงสวยมาก ๆ เพราะเธอเป็นแอร์โฮสเตสละมั้งถึงได้มีหน้าตาที่สวยแม้แต่ตอนที่ป่วยก็ยังดูสวยอยู่“คุณ รู้จักผมเหรอครับ”เพียงคำถามนั้นก็ทำเอาเธอปากสั่นและน้ำตาก็เริ่มไหลออกมาไม่หยุดจนเขาตกใจ กล่องทิชชูถูกยกมาวางที่ตรงหน้าและเขาก็รี

  • ข้าน่ะหรือสตรีน่ารังเกียจแห่งต้าหยวน   ตอนพิเศษที่ 1 กลับมาอีกครั้ง

    โรงพยาบาล ติ๊ด ติ๊ด….. เสียงของใครคนหนึ่งที่คุยกับคนอีกหนึ่งหรือสองคนไม่แน่ใจเพราะสติที่ยังไม่เข้าที่เข้าทาง เสียงที่ดังขึ้นมาแม้ว่าจะจับใจความอะไรไม่ได้แม้ว่าหูจะเริ่มได้ยินเสียงที่ชัดขึ้นแต่ร่างกายกลับยังไม่ตอบสนองอย่างที่ต้องการ เมื่อค่อย ๆ เริ่มหายใจ ลมเย็น ๆ ที่อยู่ปลายจมูกก็เริ่มรู้สึกว่าไม่ต้องพยายามขนาดนั้น แม้ว่าจะมองไม่เห็นตัวคนพูดแต่เสียงที่เริ่มชัดขึ้นก็ทำให้ร่างที่นอนอยู่ค่อย ๆ กะพริบตาขึ้น ราวกับหลับไปนานแสนนานและแสงที่เริ่มไม่คุ้นเคยนี้ก็ทำให้ “ว่านเยว่เฟย” หลับตาลงไปอีกครั้ง “ข้าอยู่ที่ไหน เกิดใหม่อีกแล้วงั้นหรือ ท่านพี่ท่านพาข้ามาที่ใดข้าไม่อยากจากท่านไป นานเหลือเกินแล้วที่เราจากกัน แม้จะเพียงแค่ปีเดียวที่ท่านด่วนจากไปแต่ข้าไม่มีทางลืมท่าน จื่อหรง…พาข้าไปกับท่านด้วย” “เยว่เฟยยอดรักของข้า อีกไม่นานเราจะได้พบกัน…อีกครั้ง” “อย่าไปเพคะท่านพี่ รอข้าก่อนฮ่าวจื่อหรง อย่าไป!! รอข้าก่อน” “รอ…รอก่อน…หรง…จื่อหรง” เสียงงึมงำนั้นเรียกความสนใจของพยาบาลสาวที่กำลังปรับเครื่องช่วยหายใจอยู่ เมื่อคนไข้มีการตอบสนองเธอจึงเรียกคุณหมอทันที “คุณหมอคะ ดูเหมือนว่าคนไข้จะมีการตอบสนอ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status