จ้าวเฟยเฟยสบถใส่ก่อนจะเดินออกไปด้านนอก นางข้ามสะพานไม้ไปยังฝั่งบ้านหลังเก่าก่อนจะแหวกหาสิ่งที่สะดุดตาเมื่อวานนี้ตอนที่นางมาล้างเนื้อล้างตัว กอขิงขึ้นอยู่กระจุกใหญ่ ถัดไปอีกหน่อยมีต้นหอมป่าอยู่ สายตานางเห็นของกินหลายอย่างที่สามารถกินได้
เมื่อได้ขิงกับต้นหอมป่ามาแล้วนางก็มานั่งลงที่สะพานไม้ก่อนจะเอาตะกร้าใบเล้กใส่ขิงเขย่าๆล้างดินออก นางปอกต้นหอมลอกเอาส่วนที่ใบแห้งและเน่าออกไป ตัดรากทิ้ง จากนั้นก็นำไปล้างน้ำอีกที
ขณะที่นางกำลังล้างขิงและต้นหอม จี้หยกที่นางผูกไว้ที่ข้อมือก้ส่งแสงสีเขียวจางๆ จ้าวเฟยเฟยไม่ได้สังเกตแต่อย่างใด ฝูงปลาและกุ้งเริ่มว่ายมาหานางมากขึ้น บางตัวว่ายทวนน้ำวนกลับมา จ้าวเฟยเฟยที่ได้ยินเสียงปลาดีดน้ำก้เหลือบมอง ปลามาจากไหนเยอะแยะ มีกุ้งอีกด้วยก่อนจะเห็นสาหร่ายน้ำสีเขียวใต้น้ำขยายกอเพิ่มขึ้น นางรีบยกตะกร้าขึ้นจากน้ำทันที
"ผีหลอกหรือ ฉันเห็นสาหร่ายอยู่ๆก็งอกยาว แล้วทำไมยาวแค่ตรงนี้ ปลาพวกนี้อีกนี่มันขัดกฎฟิสิกส์ไหม ปลาโลกไหนว่ายทวนน้ำ เฮ้ยมิตินี้บิดเบี้ยวหรือ"
เมื่อนางสังเกตดีๆฝูงปลาค่อยๆแตกกระจายออกไป จ้าวเฟยเฟยคิดไปคิดมาก็มองที่ข้อมือตนเองจากนั้นก็พิสูจน์ นางนำขิงและต้นหอมวางเอาไว้บนสะพานก่อนจะเอาตระกร้าจุ่มลงไปในลำธาร จ้าวเฟยเฟยเอียงปากตะกร้า45องศา จากนั้นนางก็เอามือวางลงไปในตะกร้าจนมิดข้อมือ แสงสีเขียวจางออกมาจากจี้หยก ปลาเริ่มว่ายมาหานาง พวกมันแย่งกันเข้ามาในตะกร้าจนแน่น จ้าวเฟยเฟยยกตะกร้าขึ้นมาได้ปลาราวสิบตัว มันหนักจนตะกร้ากำลังจะทะลุ นางตัดสินใจปล่อยลงน้ำไปเหลือเพียงตัวเดียว หากจับได้เยอะตาแก่นั่นจะสงสัยเอาได้ จากนั้นก็น้ำขิงและต้นหอมใส่วางทับบนตัวปลาก่อนจะเดินเข้าบ้าน
"เหอะๆๆ ฮ่าๆๆ ฮี่ๆๆ รักษาโรคก็ได้ เป็นอวนจับปลาก็ได้ ยังใช้ทำอะไรได้อีกไม่รู้ที่รู้ๆมีวิธีหาเงินแล้วโว้ย เงินจ๋าเจ๊มาแล้วจ้า ฮ่าๆๆๆๆๆๆ"
นางวางตะกร้าเงยหน้าขึ้นหัวเราะลั่น เฉินมู่หยางที่เดินกลับมาจากบ้านของเฉินกั่วต้งเห็นอาการของนางก็ส่ายหน้า
"หวังว่าเจ้าจะไม่เป็นบ้าเพราะถูกตีที่ศีรษะนะ อย่างไรลูกๆข้าต้องมีคนดูแล"
เฉินมู่หยางเดินเข้าข้ามสะพานมาถึงก็เรียกนาง
"จ้าวเฟยเฟย เจ้าเป็นอะไรไปมีเรื่องอันใดดีใจจนเก็บกิริยาไม่อยู่กัน ผิงผิงยังต้องเรียนรู้มารยาทจากเจ้านะ"
จ้าวเฟยเฟยหันมาเจอหน้าเฉินมู่หยางก็ถอนหายใจก่อนจะเอ่ยอุบอิบ
"เทพเจ้าโชคลาภเพิ่งจะมาหาไม่ทันจะนั่งจิบชาพูดคุยกัน นรกก็ส่งตัวซวยมาทันที ชีวิตเจ๊นี่จะดีเกินห้านาทีไหมวะ"
เฉินมู่หยางสะอึก นางเอ่ยวาจาครั้งใดไม่พ้นต้องจิกกัดเขาทุกครั้ง ยายเด็กแสบนี้อายุเพิ่งจะสิบหกเท่านั้นเองนะ จากนั้นก็เอ่ยกับนาง
"ข้าได้ของที่เจ้าสั่งแล้ว ว่าแต่เจ้ากำลังทำอะไรอยู่"
จ้าวเฟยเฟยหยิบขิงกับต้นหอมออกจากตะกร้าก่อนจะส่งให้เขา
"ไปทำปลาให้ข้าที เด็กอดอาหารมาหลายวันกินไม่อิ่มข้าจะทำน้ำแกงปลาให้พวกเขา อย่าลืมไปปลุกลูกๆท่านมาดื่มน้ำข้าวด้วยล่ะ อีกอย่างวันนี้ข้าอยากเข้าเมือง เรื่องขึ้นเขาเอาไว้ก่อน"
"อืม..ฝนตกหนักเมื่อคืน ขึ้นเขาลำบากอันตรายข้าว่าจะรออีกหน่อย ก่อนไปทหารข้าจะหาเงินเอาไว้ให้เจ้าใช้จ่ายจำนวนหนึ่ง"
"รีบไปปลุกเด็กๆกับทำปลาเถอะ อีกเดี๋ยวจะมีงิ้วมาร้องหน้าบ้านอีก"
"ข้าจะเอาเงินตำลึงที่ไหนไปจ้างงิ้ว อีกอย่างไม่มีงานมงคลจะจ้างนักแสดงทำไม"
"โถๆๆๆ ตาทึ่ม เมื่อวานท่านขายหมูป่ากับกวางได้ จนป่านนี้เงินยังไม่ได้ให้บ้านใหญ่เจ้า คอยดูเถอะยายเฒ่านั่นต้องมาร้องงิ้วบีบน้ำตา เอาเรื่องศิลธรรมมาบีบบังคับให้ท่านคายเงินออกมาให้นางแน่นอน บอกก่อนนะลูกท่านกินข้าวต้องใช้เงิน เสื้อผ้าต้องใช้เงิน จะนอนอุ้นผ้าห่มต้องใช้เงิน หากยังกตัญญูแบบโง่ๆก็เขียนใบหย่ามาเงินแค่นั้นข้าหาทางใช้หนี้ท่านได้ ท่านไปทำปลาได้แล้ว ทุ่มเพียงนี้ไปอยู่ชายแดนก็ไม่รู้ว่าจะมีชีวิตรอดกลับมาไหม หรือว่าข้าควรหาผัวใหม่ไว้สำรองดี"
"จ้าวเฟยเฟย...คำก็สามีใหม่ สองคำก็สามีใหม่เจ้าคิดว่าข้าไม่กล้าทำอะไรเจ้าจริงๆหรือ"
"ถ้าเจ้าฉลาดข้าจะหาที่พึ่งใหม่หรือ ข้าชอบคนฉลาด คนโง่จะเอาตัวรอดยังไงล่ะตาเฒ่า"
เฉินมู่หยางอาศัยที่บุตรชายบุตรชายและบุตรสาวยังไม่ตื่น(ที่จริงเด็กแอบดูท่านพ่อกับท่านแม่อยู่)เขารวบร่างบางเข้ามาหาก่อนจะก้มลงมาหมายจะจูบนางแต่จ้าวเฟยเฟยรู้ทันอีกอย่างตั้งแต่ดื่มน้ำที่แช่จี้หยกนางก็มีแรงกลับมาแล้ว มือบางจับหนวดที่ยามเฟิ้มของเฉินมู่หยางกำเอาไว้ก่อนจะกระตุกดึง คนตัวโตเจ็บจนน้ำตาร่วงทันที ยายเด็กแสบนี้ร้ายกาจนัก เขาเอ่ยลอดไรฟัน
"ทำไม คิดถึงไอ้คู่หมั้นบัณฑิตจอมโลเลของเจ้าหรือ ถึงอยากได้สามีใหม่ แน่ใจหรือว่าหลี่อี้ฉลาดน่ะ"
ตาบ้านี่น่าจะสูง190ได้แต่ร่างนี้สูงไม่ถึง160 จ้าวเฟยเฟยดึงหนวดเขาให้ก้มหน้าลงมาหานางก่อนจะสบตาเขา ในแววตาของนางมีความยินดีก่อนจะเอ่ยชิดใบหน้าเขา
"นี่ตาเฒ่า..ท่านไม่เอ่ยข้าเกือบลืมไปแล้ว หลี่อี้ขอยืมเงินข้าไป20ตำลึงแถมยังเขียนสัญญามาหลอกข้าว่าเขาจะจ่ายดอกเบี้ยให้ข้า10ตำลึง หลี่อี้คิดว่าข้าอ่านหนังสือไม่ออกจึงเขียนจริงๆอีกทั้งลงลายนิ้วมือประทับตาด้วย เงินสามสิบตำลึงนี่ท่านช่วยข้าเอาคืนได้หรือไม่"
จ้าวเฟยเฟยคนเดิมเก็บใบสัญญากู้ยืมไว้ในหมอนที่นางนำติดตัวมาเป็นสินเดิม นางเพิ่งนึกออกเงินจ๋าเงิน แต่คนตัวโตเงียบไป หากนางมีเงินมาใช้หนี้นางก็จะหนีเขาไป แล้วเด็กๆจะทำเช่นไร
"ไม่ช่วย"
สองแม่ลูกเอ่ยจนจ้าวคังก็เริ่มลังเล ใช่นางแต่งออกไปแล้วมีสิทธิ์อันใดมาวุ่นวาย แต่ยังไม่ทันจะเอ่ยต่อคนที่ไปตามเฉินหยวนก็มาถึง เขาได้ยินแล้วว่านางปีศาจนั่นกอดกับบุรุษอื่นที่ไม่ใช่เฉินมู่หยาง วันนี้เขาจะเอานางให้ตาย"ไหนๆๆ นางตัวดีจ้าวเฟยเฟยอยู่ที่ใด กล้าคบชู้สู่ชายหรือ แม้ว่าหลานชายข้าจะอัปลักษณ์แต่เจ้าก็แต่งมาแล้ว เห็นสกุลเฉินของข้าเป็นอะไร"เฉินหยวนเดินกร่างเข้ามาในศาล จ้าวเฟยเฟยคุกเข่าอยู่ก็หัวเราะเบาๆก่อนจะหันไปหาเฉินหยวน "อาสามของสามีท่านมาแล้วหรือ""หึ เจ้าถึงกับพาบุรุษมาเดินโอบกอดกันที่ตำบลยังมีหลานชายข้าในสายตาหรือไม่"เฉินมู่หยางหันมาเผชิญหน้ากับเฉินหยวนช้าๆก่อนจะเอ่ย"อาสาม ข้าพาภรรยามาเดินเล่นซื้อของเหตุใดถึงไม่ได้ นางมิได้คบชู้กับผู้ใดทั้งนั้น"เฉินอี้เห็นหลานชายโกนหนวดเคราแล้วก็ยิ่งให้โมโห ไอ้เด็กนี่หน้าตาหล่อเหลายิ่งนัก แล้วอย่างไรเล่าคนอื่นไม่เคยเห็นใบหน้านี้ถ้าเขาไม่ยอมรับ มันก็ไม่ใช่คนสกุลเฉิน จึงกล่าวออกไป"หลานชายข้า เจ้าหรือช่างน่าขันเจ้าเป็นใครกันแน่ มาหลอกลวงหลานสะใภ้ของข้า"ซุนเต๋อฉายเดินมากลางโถงก่อนจะเอ่ยกับเขา"เฉินหยวน หลี่อี้ และพวกเจ้า
นางจางนั่งลงร้องไห้เงินเยอะเพียงนั้นจะเอามาจากที่ใดกัน กระทั่งจ้าวเฟยเฟยค่อยๆลุกขึ้น เฉินมู่หยางเข้ามาประคอง นางเดินไปหาจ้าวอี้หรูพร้อมกระซิบข้างหูเช่นกัน"ว่าที่สามีเจ้าต้องจ่ายเงินให้ข้า น้องหญิงเจ้าบอกว่าจะดูแลเขาอย่างดี ตอนนี้ได้เวลาแสดงความจริงใจของเจ้าแล้ว""จ้าวเฟยเฟยนางสตรีชั่วช้า คอยดูเถอะข้าไม่จบแน่ๆ หึสามีเฒ่าเจ้าไม่มาเจ้ากลับมาโอบกอดกับบุรุษนอกบ้าน ข้าจะทำให้เจ้าถูกใส่กรงถ่วงน้ำ""ไอ้โย่ว ข้ากลัวจัง ไม่ต้องห่วงยังมีอีกคนที่ข้ายื่นคำร้อง จ้าวคังบิดาแสนดีของเจ้าไง"นางจางทรุดลงปิดหน้าร่ำไห้ราวกับถูกใครเข่นฆ่า เงินจำนวนห้าสิบตำลึงหรือนางจะไปเอามาจากที่ใด บุตรชายกำลังรอหนังสือรับรองอยู่ แต่ใต้เท้าให้จ่ายวันนี้ ที่สำคัญไอ้ลูกเนรคุณนี่ไปยืมเงินนั่นมาตอนไหนกัน"อาอี้ เจ้าไปยืมเงินนางมาเมื่อไหร่กัน""ท่านแม่ ข้า ข้ายืมมาเมื่อสองเดือนก่อนขอรับ""แล้วที่นางแพศยานี่พูดหมายความว่าอย่างไร ข้าจะตายเจ้าไม่มีเงินมาซื้อโลงศพน่ะห๊ะ""คือว่า คือ โอ๊ย ท่านแม่ท่านทำอะไรน่ะ"นางจางลุกมาได้ก็ทุบตีบุตรชายไม่ยั้ง ปากก็ด่าเขาไม่หยุด"ไอ้สารเลว ไอ้คนอกตัญญู เจ้ากล้าแช่งข้
เสียงสะอื้นขาดช่วงราวกับอัดอั้นจนไม่อาจกล่าวออกมาได้ ชาวบ้านที่มาดูการไต่สวนสงสารนางอย่างจับใจ "พ่อแบบไหนกัน ถึงอย่างไรนางก็เป็นลูก เสือร้ายยังไม่กินลูกตัวเอง แต่บิดาของสตรีคนนี้เลวเหลือเกิน""ใช่ๆ ดูเหมือนจะเป็นคนนั้นที่ยืนอยู่ด้านข้าง ที่ถูกนางฟ้องร้องอีกคน"ปึงๆๆๆ ฮั่วเทียนฉีเคาะโต๊ะให้ชาวบ้านเงียบจากนั้นก็เอ่ยถาม"แล้วอย่างไรต่อ จากนั้นเจ้าเอาเงินที่ไหนให้เขายืม""นางไม่มีเงินแต่อ้างว่าให้บุตรชายข้ายืมเงิน เพ้ยนางแพศยานี่โกหกกระทั่งท่านขุนนาง"นางจางเอ่ยทะลุกลางปล้อง จ้าวเฟยเฟยซ่อนยิ้มก่อนจะเงยหน้า น้ำตาที่เปื้อนแก้มนวลเรียกความสงสารจากคนน้อยใหญ่ที่มาดูการพิพากษาไม่น้อย เสียงพูดปนเสียงสะอื้นเอ่ยแก่คนด้านบน"ใต้เท้า ข้าขออนุญาตท่านพูดคุยกับนางได้ไหมเจ้าคะ"ฮั่วเที่ยนฉีมองไปยังนางจางก่อนจะเอ่ย" เด็กๆตบปากนางสิบทีโทษฐานที่เอ่ยแทรกกลางขณะที่ข้าไต่สวน ส่วนเจ้าจ้าวเฟยเฟยมีเรื่องอันใดจะคุยกับนางก็รอให้ลงโทษนางเสร็จก่อน"เพียะ!! เพียะ!! เพียะ!! เพียะ!! นางจากเลือดกบปาก หลี่อี้เห็นมารดาถูกตบกลับไม่ยื่นมือมาขอร้องเพื่อช่วยเหลือ น้ำหนักของเขาในใจอาจารย์สำนักศึกษาที่ตามซุน
จ้าวเฟยเฟยเรียกคนที่มามุงดู หนึ่งในนั้นคือซุนเต๋อชิวน้องชายซุนเต๋อฉายจากสำนักศึกษาเต๋อถัง จ้าวเฟยเฟยล้วงอกเสื้อก่อนจะหยิบกระดาษออกมาคลี่ สองมือบางจับมุมกระดาษด้านบนสะบัดเบาๆราวกับกำลังสลัดผ้าเช็ดหน้าก่อนจะยื่นไปด้านหน้าแล้วกวาดแขนไปด้านซ้ายจากนั้นก็กลับมาด้านขวาช้าๆ น้ำเสียงกังวานของนางเอ่ยขึ้น"ทุกท่าน ได้อ่านแล้วใช่หรือไม่ ตอบข้าหน่อยเจ้าค่ะว่านี่เขียนสิ่งใด"ชาวบ้านคนหนึ่งแต่ตัวคล้ายบัณฑิตแต่เป็นอีกสำนักก้าวออกมาแล้วเอ่ยตอบนาง"เป็นสัญญากู้ยืมเงินจากคนที่ชื่อหลี่อี้ เขียนว่าข้าหลี่อี้ ขอยืมเงินจ้าวเฟยเฟยเป็นจำนวนยี่สิบตำลึง ภายในสองเดือนนับจากวันนี้จะคืนนางสามสิบตำลึงพร้อมดอกเบี้ย""ใช่ๆ ข้าก็อ่านได้เช่นนั้นเช่นกัน พ่อหนุ่มเจ้าชื่อหลี่อี้หรือเปล่า"หลี่อี้หน้าดำเป็นก้นหม้อ ก่อนจะขาวซีดราวกับกระดาษ เขาเขียนมันเอง นางเอากำไลกับปิ่นและจี้หยกไปจำนำเอาเงินให้เขา แต่ไอ้คนรับจำนำบอกว่าเงินทองควรชัดเจน เขากลัวนางจะเปลี่ยนใจจึงเขียนสัญญานั่นและลงนาม แต่นางนี่อ่านหนังสือไม่ออกเขาจึงไม่กังวล เหตุใดวันนี้นางกลับรู้จักเอาสัญญานี่ออกมา หลี่อี้ไม่ยอมเขาจึงเอ่ยกลับไป"เจ้ารู้ไหม
เฉินมู่หยางขับเกวียนเคลื่อนเข้ามาจนถึงประตูเมือง เขาควักเงินจ่ายค่าเข้าเมืองหกอีแปะ จ้าวเฟยเฟยพยายามจดจำรายละเอียดของผังเมือง กระทั่งเขาเอาเกวียนไปผูกยังบริเวณที่รับฝากก่อนจะอุ้มนางลงจาเกวียน จ้าวเฟยเฟยหน้าแดงเพราะตรงนั้นมีคนไม่น้อย หลายคนน่าจะเป็นคนรู้จักกันกับเขาจึงได้เอ่ยกระเซ้า"ไอ้หยา พวกเจ้าดูสิวันนี้พี่มู่หยางเช่าเกวียนมาเลยเชียว""แหม่ๆๆ...สตรีที่ทำให้พี่ใหญ่ของเราถึงกับทะนุถนอมได้คงเป็นอาซ้อของพวกเราใช่หรือไม่""ฮ่าๆๆๆ พี่มู่หยางแนะนำอาซ้อให้พวกเรารู้จักสักหน่อยเถอะขอรับ"ทั้งหมดเป็นนายพรานที่เคยร่วมกันล่าหมีป่าเมื่อครั้งที่อาละวาดจนทำร้ายชาวบ้านตายไปสามคนและบาดเจ็บอีกมากมาย คนที่ให้เฉินมู่หยางแนะนำจ้าวเฟยเฟยคือหลิวเยี่ยนฉาง เขามาจากหมู่บ้านชุยเจียงซึ่งต้องข้ามเขาไปครึ่งวันถึงจะสามารถถึงหมู่บ้านนี้ได้ เฉินมู่หยางจูงมือจ้าวเฟยเฟยเดินมาหาทั้งสามคนก่อนจะเอ่ยกับนางแนะนำให้รู้จักกัน"พวกเจ้านี่เสี่ยวเฟยภรรยาของข้า เสี่ยวเฟยคนนี้คือฟางฉายนายพรานหมู่บ้านเดียวกับเราแต่บ้านของเขาอยู่ชายป่าอีกด้าน""ส่วนนี่คือหลิวเยี่ยนฉางจากหมู่บ้านชุยเจียง ส่วนนั่นเจ้าปากมาก ถังจื่
เสียงนั้นลอยมาตามลมแผ่วเบา จ้าวเฟยเฟยยิ้มให้กับสายลม ทุกอย่างอยู่ในสายตาเฉินมู่หยางทั้งหมด นางมีเรื่องอันใดมากมายที่เขาต้องค้นหากันนะ เกวียนขับมาเรื่อยๆ บรรยากาศสองข้างทางเป็นสิ่งตื่นตาตื่นใจมากสำหรับจ้าวเฟยเฟย ชาติก่อนชอบตอนกลับไปหาคุณยายที่ชนบทที่สุด กระทั่งเห็นดอกเล็กๆสีเหลียงที่บานเต็มท้องทุ่งส่งกลิ่นหอมมากนัก จ้าวเฟยเฟยที่นั่งอยู่ก็หันไปหาเฉินมู่หยางก่อนจะเอ่ยกับเขา"ตาเฒ่า...ขากลับท่านแวะตรงนี้ให้ขาได้หรือไม่"".........""เฉินมู่หยางท่านหูหนวดหรือ""..........."เสียงล้อเกวียนบดกับถนนดินดังเอี๊ยดอ๊าดแต่ไม่มีเสียงตอบกลับจากคนข้าง จ้าวเฟยเฟยนั่งกอดอกใบหน้างอง้ำไม่อยากพูดก็ไม่ต้องพูด เหอะใครสนใจเจ้ากันตาทึ่ม กระทั่งเสียงล้อเกวียนเงียบบไป เฉินมู่หยางนำเกวียนเข้าข้างทางใต้ต้นไม้ใหญ่ก่อนจะใช้มือรวบเอวบางยกนางมานั่งที่ตักตนเอง จ้าวเฟยเฟยตกใจมือบางดันหน้าอกเขาเอาไว้ก่อนจะเอ่ย"ท่านทำอะไร นี่มันทางเข้าตำบลนะ ใครไปใครมาเห็นเข้าจะมองเช่นไร ตาเฒ่าปล่อยข้าลง"เฉินมู่หยางสูดลมหายใจยาวๆก่อนจะเอ่ยกับคนบนตัก"ต่อไปเรียกข้าท่านพี่ หากเรียกตาเฒ่าอีกรับรองข้าไม่ปล่อยเจ้าแน่""นี่