" คุณหนูใหญ่ หากเป็นวันอื่นท่านมาช้าก็ไม่เป็นไร แต่วันนี้มีฮูหยินผู้เฒ่าอยู่ด้วย ท่านไม่ควรให้ผู้ใหญ่ต้องรอนาน"
จ้าวซูฉีพูดตำหนิ จ้าวถิงถิงนั่งลงจ้องหน้าจ้าวซูฉี
" เป็นแค่ภรรยารอง มีสิทธิ์อะไรมาตำหนิข้า ท่านไม่ใช่แม่ของข้า ไม่ต้องสะเออะมาสั่งสอนข้า"
จ้าวซูฉีข่มอารมณ์โกรธไว้ก้มหน้างุด แสร้งทำเป็นเศร้าแต่สองมือกำแน่น
" พอแล้ว เจ้าก็ยังเหมือนเดิมสินะ ดื้อรั้นเอาแต่ใจไร้มารยาท ไม่เหมือนหรันเอ๋อของข้า น่ารักอ่อนหวานแสนดี "
จ้าวซินหรูจ้องมองจ้าวถิงถิงด้วยสายตาไม่พอใจ ก่อนจะหันไปส่งยิ้มอ่อนโยนให้จ้าวฉู่หรัน
" เอาหล่ะๆ กินข้าวกันเถอะ"
จ้าวฟานพูดตัดบท
" ท่านย่า ข้าจำได้ว่านี่เป็นของโปรดของท่าน"
จ้าวฉู่หรันคีบเนื้อปลานึ่งซีอิ๊ว ใส่ชามข้าวจ้าวซินหรู
" หรันเอ๋อของย่าน่ารักที่สุด ยังจำได้ว่าย่าชอบ"
จ้าวถิงถิงมองทั้งสองแล้วเบะปากหมั่นไส้ก่อนจะคีบเนื้อไก่ผัดเผ็ดเข้าปาก
" หรันเอ๋อปีนี้เจ้าอายุเท่าไหร่แล้ว"
" 16เจ้าค่ะ"
" อืม16แล้ว สมควรมีคู่ครองได้แล้ว อาฟานได้มองหาใครไว้บ้างหรือยัง หรือมีตระกูลใดส่งแม่สื่อมาสู่ขอหรือไม่"
หวังจื่อเย่มองหน้าจ้าวฉู่หรัน ทั้งสองสบตากัน จ้าวถิงถิงมองทั้งสองสลับไปมา หวังจื่อเย่เห็นจ้าวถิงถิงมอง เขาก็รีบเบนสายตาไปทางอื่น
" ยังเลยขอรับ เรื่องของหรันเอ๋อเอาไว้ก่อนให้ถิงเอ๋อแต่งออกเรือนไปก่อนแล้วค่อยว่ากัน"
" เหอะ ถึงนางจะเป็นพี่สาว แต่ด้วยนิสัยของนางจะมีตระกูลใดมาสู่ขอหล่ะ ขืนรอนางแต่งก่อน หรันเอ๋อก็ไม่ต้องแต่งพอดี"
" ท่านแม่ไม่ต้องห่วง ถิงเอ๋อมีคู่หมั้นแล้ว ข้ากำลังหาฤกษ์ให้พวกเขาแต่งกันเร็วๆนี้"
" ใครรึ บุรุษโชคร้ายผู้นั้น"
" ท่านย่า อย่าพูดอย่างนั้นสิเจ้าคะ"
จ้าวฉู่หรันพูดขึ้น
" ข้าพูดผิดตรงไหน จะมีใครทนนิสัยเอาแต่ใจเจ้าอารมณ์อย่างนางได้ "
" คู่หมั้นของพี่ถิงถิงคือจื่อเย่เจ้าค่ะท่านย่า"
" จื่อเย่ใครกัน รึว่า"
" ใช่เจ้าค่ะ เป็นองครักษ์ของพี่ถิงถิง"
จ้าวซินหรูมองตามสายตาของจ้าวฉู่หรันเห็นชายหนุ่มหน้าตาเคร่งขรึมดูสง่างามยืนอยู่ไม่ไกล
" คนนั้นรึ"
" เจ้าค่ะ จื่อเย่เป็นองครักษ์ของพี่ถิงถิงมาหลายปี ติดตามนางมาตั้งแต่เด็กๆแล้วเจ้าค่ะ"
" อืม ก็หน่วยก้านดีนี่ เป็นองครักษ์ของนางติดตามนางมานานก็คงจะรับนางได้ ที่จริงข้าก็เห็นเจ้าอยู่หลายครั้งแต่ไม่ได้มองให้ชัดๆ ว่าแต่นางคงเป็นคนบอกว่าอยากแต่งงานกับเจ้าสินะ เพราะฐานะอย่างเจ้าคงไม่อาจหาญมาสู่ขอนางเองหรอก ส่วนเจ้าอาฟาน เจ้าเป็นถึงขุนนางขั้นสี่ หากจะเลือกเขยก็คงต้องเป็นบุตรชายจากตระกูลใหญ่ไม่ก็ขุนนางสำคัญในราชสำนัก ข้าพูดถูกหรือไม่"
" ขอรับท่านแม่ ถิงเอ๋อเลือกเอง เรื่องคู่ครองข้าให้อิสระกับนาง ถึงจื่อเย่จะไม่มีชาติตระกูล ไม่ได้เป็นคุณชายสูงศักดิ์ แต่เขาก็เป็นคนดีมีฝีมือเก่งกาจ ข้าไม่มีบุตรชายหากถิงเอ๋อแต่งงานกับเขา เขาก็จะเป็นเขยแต่งเข้า ต่อไปทุกอย่างของข้าก็จะให้เขาสืบทอด"
" ท่านพ่อ ข้ามีเรื่องบอกท่านเจ้าค่ะ ข้ามาคิดดูแล้ว ข้าไม่ควรบังคับจิตใจใคร ข้าไม่อยากแต่งงานกับเขาแล้วเจ้าค่ะ"
หวังจื่อเย่หันควับไปมองหน้านาง ไม่รู้ว่านางมีแผนอะไรอีก
" เจ้า เจ้าพูดอะไรรู้ตัวไหม เจ้าคิดว่าเรื่องแต่งงานเป็นเรื่องเล่นรึยังไง วันก่อนบอกข้าว่าชอบเขา อยากแต่งงานกับเขา ข้าก็ประกาศต่อหน้าทุกคนว่าให้เจ้ากับเขาหมั้นกัน แล้ววันนี้เจ้ามาบอกว่าไม่อยากแต่ง ถิงเอ๋อ ข้าคงตามใจเจ้ามากไปสินะ"
" ท่านพ่อ ก็แค่หมั้นปากเปล่าไม่ได้มีพิธีหรือของหมั้นนี่เจ้าคะ ที่สำคัญเขาให้ของหมั้นแทนใจกับฉู่หรันไปแล้ว ไม่เท่ากับว่าพวกเขาหมั้นกันหรอกรึ"
" หรันเอ๋อ ที่นางพูดจริงหรือไม่"
" ไม่จริงเจ้าค่ะท่านพ่อ ข้ารู้ว่าพี่ถิงถิงกับจื่อเย่เป็นคู่หมั้นกัน แล้วข้าจะไปรับของหมั้นจากเขาได้ยังไง"
" จริงรึ แต่ข้าเห็นกับตาว่าเขาให้ของมีค่าที่สุดหนึ่งเดียวที่เขามีกับเจ้า เจ้าก็พกมันติดตัวอยู่นี่"
" ไม่ ไม่มีเจ้าค่ะ พี่ถิงถิงเข้าใจผิดแล้ว"
" หยกชิ้นนั้นไม่ได้อยู่ที่เจ้าหรอกรึ"
" ข้า "
ทุกคนมองไปที่จ้าวฉู่หรัน
" เอามาให้ข้าดูหน่อย"
จ้าวฟานแบมือออกมารอ จ้าวฉู่หรันส่ายหน้าไม่ยอมรับ จ้าวถิงถิงลุกขึ้นไปกระชากจี้หยกที่ห้อยเอวของจ้าวฉู่หรันส่งให้จ้าวฟาน จ้าวฟานเห็นแว่บเดียวก็จำได้ ว่านี่เป็นจี้หยกที่หวังจื่อเย่พกติดตัว ก็หันไปมองหน้าหวังจื่อเย่
" เจ้าจะอธิบายว่ายังไง"
" นายท่าน ข้ายอมรับว่าให้จี้หยกกับคุณหนูรองจริงๆ แต่ไม่ใช่ของหมั้นหรือของแทนใจอะไร ข้าเห็นว่าปิ่นที่ข้าให้นางคราวก่อนถูกคุณหนูใหญ่ทำหัก ข้าเลยชดเชยให้นางด้วยจี้หยกชิ้นนี้"
" อย่างงั้นรึ แต่จี้หยกชิ้นนี้เป็นสิ่งที่เจ้าพกติดตัวตลอดไม่เคยถอด ในเมื่อเป็นของสำคัญของเจ้า เหตุใดจึงไม่ให้ถิงเอ๋อเป็นของหมั้น แต่กลับให้หรันเอ๋อแทน"
" จี้หยกไม่ได้มีค่าอะไร เป็นเพียงหยกธรรมดาไม่มีราคา ข้าคิดว่าจะหาของที่มีราคาแพงให้คุณหนูใหญ่ ให้สมฐานะของนาง เลยไม่ได้ให้จี้หยกชิ้นนี้กับนาง"
" เจ็บไหม"
จ้าวถิงถิงหันไปถามหวังจื่อเย่ เขาขมวดคิ้วไม่เข้าใจ
" ก็เจ้าแถจนถลอกหมดแล้ว เจ็บหรือไม่"
" ข้า"
" เอาหล่ะ ในเมื่อมันเป็นของสำคัญของเจ้าก็ควรให้ถิงเอ๋อที่เป็นคู่หมั้นของเจ้าถึงจะถูก"
" ท่านพ่อพูดถูกเจ้าค่ะ ข้าก็คิดจะมอบจี้หยกให้พี่ถิงถิงอยู่แล้ว"
จ้าวฉู่หรันพูดขึ้นมาน้ำตาคลอ จ้าวซินหรูเห็นแบบนั้นก็ยิ่งสงสารหลานรัก แย่งเอาจี้หยกเจ้าปัญหาในมือจ้าวฟาน มายัดใส่มือคืนให้จ้าวฉู่หรัน
" ในเมื่อจื่อเย่ให้หรันเอ๋อ มันก็ต้องเป็นของหรันเอ๋อจะเอาไปให้คนอื่น ใช้ได้ที่ไหน"
" ข้าอิ่มแล้ว ขอตัวก่อนนะเจ้าคะ "
จ้าวถิงถิงกระแทกตะเกียบเสียงดัง แล้วลุกขึ้นเดินออกไปด้วยความไม่พอใจ
จ้าวซูฉีร้อนใจรีบพูดขึ้นมา
" จื่อเย่ นี่เจ้ายังไม่ได้ให้ของหมั้นนางใช่ไหมนางถึงได้พูดเช่นนี้"
" หลายวันมานี้ข้ายังไม่ได้ออกจากจวนไปไหน ก็เลยยังไม่ได้หาซื้อมาให้นาง"
" นั่นไงข้าว่าแล้วเชียว นางคงน้อยใจเลยพูดประชดไปแบบนั้นว่าจะถอนหมั้น งั้นเจ้าก็รีบหาอะไรไปให้นางสักอย่างสิ พอนางได้แล้วก็จะเลิกน้อยใจ ทุกคนก็รู้ว่านางชอบเอาแต่ใจแค่ไหน อีกอย่างนางชอบเจ้ามานานจะให้เลิกชอบวันสองวันคงไม่ใช่ ท่านเห็นด้วยกับข้าไหมเจ้าคะท่านพี่"
จ้าวฟานพยักหน้าเห็นด้วยกับที่จ้าวซูฉีพูด
จ้าวซูฉียิ้มมุมปาก เหลือบมองหวังจื่อเย่ ในใจก็นึกดูแคลน บุตรสาวของนางต้องได้แต่งงานกับคุณชายสูงศักดิ์มีชาติตระกูลไม่ใช่บุรุษต่ำต้อยไม่มีหัวนอนปลายเท้าอย่างหวังจื่อเย่ คนอย่างเขาเหมาะสมแล้วกับจ้าวถิงถิง ไม่ใช่บุตรสาวของนาง
หวังจื่อเย่มาที่ตลาดกับหยางหาน เพื่อซื้ออะไรสักอย่างไปเป็นของหมั้นให้จ้าวถิงถิง
โดยให้หยางหานเป็นคนช่วยเลือก
" ได้หรือยัง"
" เดี๋ยวสิเลือกก่อน ของแบบนี้ต้องใจเย็นๆอันนี้ก็งามอันนั้นก็ใช่ อันนั้นก็ด้วย วุ้ย มีแต่งามๆทั้งนั้นเลย ข้าเลือกไม่ถูกอ่ะ จื่อเย่เจ้าก็ช่วยข้าเลือกหน่อยสิ ไม่ใช่สิ นี่เป็นของที่เจ้าจะใช้เป็นของหมั้นแทนใจให้กับคุณหนูใหญ่นะ เจ้าต้องเลือกเองถึงจะถูกไหม"
" อันไหนก็เอามาเถอะน่า"
เขายืนหน้าบึ้งอยู่หน้าร้านเครื่องประดับ ก็แค่เลือกๆแล้วซื้อไปให้นางให้มันจบๆไป คนไม่ได้รักจะใส่ใจอะไรนักหนา
เสียงเหยียบใบไม้ดังกรอบแกรบใกล้เข้ามา" กลับมาทำไม ข้าบอกให้ไปไง"จ้าวฟานคิดว่าเป็นจ้าวซินหรู แต่พอหันไปมองกลับไม่ใช่" จื่อเย่"" เกิดอะไรขึ้น เหตุใดท่านถึงได้อยู่คนเดียว"จ้าวฟานเห็นหวังจื่อเย่มีไหเหล้ามาด้วย ก็คว้ามากระดกลงคอ ก่อนจะเล่าเรื่องบัดซบที่เกิดขึ้นให้ฟังหวังจื่อเย่ฟังไปก็ขมวดคิ้วไป หลายวันที่ผ่านมาเขาไม่ได้ไปไหนไกล แต่สืบหาร่องรอยอยู่แถวป่าบริเวณที่ขบวนต้าลี่เดินผ่านไม่รู้อะไรดลใจให้เขากลับมาที่นี่อีก เขาลุกขึ้นยื่นมือออกมา" ท่านไปกับข้าเถอะ เราจะไปตามหาถิงเอ๋อด้วยกัน ข้าเชื่อว่าสักวันต้องได้พบนาง"จ้าวฟานน้ำตาคลอยิ้มกว้าง ความหวังเดียวของเขาที่จะมีชีวิตอยู่คือบุตรสาวของเขาจ้าวถิงถิง ใช่ สักวันเขาต้องได้พบนางอีก ต่อไปเขาจะหนักแน่นไม่ฟังใครอีก เขาจะปกป้องนางตามใจนางทุกอย่าง ไม่มีจ้าวซินหรูมาทำให้ลำบากใจอีก ถึงต่อให้นางจะพูดอะไรเขาก็จะไม่สนใจ ตอนนี้นางคงโกนหัวบวชชีอยู่ที่วัดแล้ว เขาวางมือลงบนมือของหวังจื่อเย่ให้ฉุดเขาลุกขึ้น" ขอบใจนะ ขอบใจที่เจ้าไม่ทิ้งข้าเหมือนคนอื่น"" ไม่ต้องขอบคุณข้าหรอก หากวันนั้นท่านไม่ซื้อข้ากลับมาที่จวน ข้าก็ไม่รู้ว่าจะเป็นเช่นไร บางทีข้าอาจจะตาย
" หรันเอ๋อ จวนของเราถูกโจรปล้น แล้วพวกมันยังจุดไฟเผาจวนอีก ตอนนี้พวกเราไม่เหลืออะไรแล้ว"จ้าวซูฉีบอกจ้าวฉู่หรัน" อะไรนะเจ้าคะ เหตุใดถึงเป็นแบบนี้ งั้นตอนนี้เราก็ไม่มีอะไรเหลือเลยหน่ะสิ"หวังจื่อเย่เองก็ไม่คิดว่าตระกูลจ้าวจะโชคร้ายถึงเพียงนี้ เขามองดูจ้าวฟานที่หน้าตามอมแมมนั่งทุกข์ท้ออยู่กับพื้น ก่อนจะเดินไปนั่งลงใกล้ๆ" นายท่าน แล้วบ่าวรับใช้คนอื่นๆหล่ะขอรับ"" ข้าให้พวกเขาแยกย้ายกันไปหมดแล้วตอนนี้ไม่มีตระกูลจ้าวแล้ว ข้าเองก็ไม่ใช่นายท่านอีกต่อไป"" ท่านพี่ แต่ท่านยังเป็นขุนนางในราชสำนักนะเจ้าคะ"" ขุนนาง หึ เรื่องชิงตัวเจ้าสาวเจ้าคิดว่าฝ่าบาทยังไม่รู้รึ ป่านนี้คงรู้ไปทั่วทั่ววังหลวงแล้ว เจ้ายังคิดว่าตำแหน่งของข้าจะยังมีอยู่รึไง ตอนนี้คงมีคำสั่งให้กวาดล้างตระกูลจ้าวแล้ว จวนก็ถูกไฟไหม้ไปทั้งหลังทรัพย์สินของมีค่าก็ถูกปล้นไปจนหมด รอดชีวิตมาได้ก็บุญแล้ว แต่ถิงเอ๋อของข้าสิ ไม่รู้จะเป็นตายร้ายดียังไง ตอนนี้ข้าไม่มีอะไรเหลือแล้ว"" นายท่านยังไงก็ยังมีลมหายใจอยู่ ก่อนที่ทหารจะตามตัวพวกท่านเจอ ข้าว่าเราควรหาที่ซ่อนกันก่อนดีกว่า"" จื่อเย่ หยางหาน ข้าไม่ใช่นายท่านของพวกเจ้าแล้ว พวกเจ้าไปเถอะ อ
" ท่านแม่ ท่านย่า ขบวนเจ้าสาวไปแล้ว ในที่สุดข้าก็ไม่ต้องแต่งงานกับองค์ชายพิการนั่นแล้ว ข้าดีใจที่สุดเลยเจ้าค่ะ"จ้าวฉู่หรันพูดไปยิ้มไป มีจ้าวซินหรูกับจ้าวซูฉียืนขนาบข้างซ้ายขวา จ้าวฟานจ้องมองทั้งสามคนด้วยสายตาไม่พอใจ" พอใจพวกเจ้าแล้วสินะ"" ท่านพี่ จะโทษพวกข้าไม่ได้นะ ก็นางยอมไปเอง"" หากไม่เพราะพวกเจ้า นางจะยอมได้ยังไง โดยเฉพาะท่าน เพราะท่านจะฆ่าตัวตายนางถึงได้เห็นแก่ข้า ยอมขึ้นเกี้ยวเจ้าสาว"จ้าวฟานชี้หน้าต่อว่าจ้าวซินหรู" ข้าทำเพื่อฉู่หรัน เพื่อหลานของข้า จะให้ข้ามองดูนางแต่งงานกับคนพิการได้อย่างไร นั่นมันชีวิตทั้งชีวิตของนางเลยนะ"" แล้วถิงเอ๋อนางไม่ใช่หลานของท่านรึ นางก็เป็นลูกของข้ามีสายเลือดตระกูลจ้าวเหมือนกัน"" หรันเอ๋อไม่เหมือนกับนาง หรันเอ๋อของข้าร่างกายอ่อนแอบอบบาง อากาศที่ต้าลี่หนาวเย็นตลอดทั้งปี ร่างกายของนางรับไม่ไหวหรอก ไม่เหมือนกับถิงถิง นางออกจะแข็งแรงบึกบึนออกอย่างนั้น ไม่เป็นอะไรง่ายๆหรอก"จ้าวฟานไม่อยากจะตอบโต้ด้วย เขาเดินเข้าห้องแล้วยกไหเหล้าขึ้นดื่มจนเมามาย" ผิงกั่วเจ้าเห็นจื่อเย่หรือไม่"" ไม่เห็นเลยเจ้าค่ะคุณหนู"" เจ้าไปตามเขามาพบข้าที ข้าจะไปรอในสวน"" เจ
" ข้าไม่ได้คิดแบบนั้น ข้าไม่อยากให้ท่านแต่งงานไปกับคนอื่น"" แล้วจะให้ข้าแต่งกับใครหล่ะ กับเจ้ารึ"" ชะ ใช่ ข้าอยากให้ท่านแต่งกับข้า ข้ารู้ว่าท่านชอบข้ามาตั้งหลายปี ท่านเคยบอกต่อหน้าทุกคนว่าจะแต่งงานกับข้า"หวังจื่อเย่คุกเข่าลงจับมือนางไว้"ถิงเอ๋อ ข้าอยากแต่งงานกับท่าน เราแต่งงานกันดีไหม ไม่สิ ข้าว่าเราเข้าหอกันก่อนดีกว่าไว้ค่อยแต่งทีหลัง แบบนี้ท่านก็จะได้ไม่ต้องแต่งกับองค์ชายพิการอัปลักษณ์นั่นแล้ว"นางดึงมือออกจากเขา" เมื่อก่อนข้าเคยชอบเจ้า อยากแต่งงานกับเจ้าคือเรื่องจริง แต่ตอนนี้ไม่ใช่ ข้าไม่ได้ชอบเจ้าแล้ว และข้าก็ไม่อยากแต่งงานกับเจ้าด้วย"" ไม่ ไม่จริง ข้าไม่เชื่อ ท่านรักข้ามาตั้งหลายปี จะเลิกรักง่ายๆได้ยังไง"" แล้วเจ้าหล่ะ หลงรักฉู่หรันมาหลายปี เหตุใดตอนนี้ถึงมาบอกว่าอยากจะแต่งงานกับข้า"" ข้าไม่ได้รักนางแล้ว ที่ผ่านมาข้าแค่หลงผิด ข้าคิดว่านางเป็นคนอ่อนหวานจิตใจดีแต่ข้าเข้าใจผิด นางไม่ได้แสนดีอย่างที่ข้าคิด นางเห็นข้าเป็นเพียงสุนัขรับใช้ตัวหนึ่งเท่านั้น"" อ้อ อย่างนี้นี่เอง ที่จริงนางก็ชอบดูถูกผู้อื่นมาตลอด เพียงแต่ความรักที่เจ้ามีให้นางมันปิดหูปิดตาเจ้า แต่ก็ยินดีด้วยนะที่เ
จ้าวถิงถิงมาถึงห้องโถง ก็เห็นทุกคนนั่งกันอยู่พร้อมหน้า" คาระวะฮูหยินผู้เฒ่า"จ้าวซินหรูจ้องมองจ้าวถิงถิงอย่างไม่พอใจ" คุกเข่าลง"จ้าวถิงถิงที่กำลังจะนั่งเก้าอี้ก็หยุดชะงัก จ้องมองจ้าวซินหรู" เหตุใดข้าต้องทำ"" เจ้าจงใจไม่ไปร่วมงานเลี้ยงทำให้หรันเอ๋อต้องถูกเลือกเป็นพระชายาแทนเจ้า เจ้ายังไม่รู้ความผิดอีก ข้าบอกให้คุกเข่า"จ้าวถิงถิงไม่สนใจ นางนั่งลงที่เก้าอี้พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา" ท่านพ่อไม่ได้บอกท่านรึ ว่าคืนนั้นข้าถูกโจรปล้นรถม้า ข้าหนีพวกโจรเข้าไปในป่าจนหลงทางเกือบเอาชีวิตไม่รอด ท่านพ่อกับบ่าวรับใช้ในจวนต่างก็พากันออกตามหาข้าทั้งคืน"" ข้าบอกแล้วแต่"" ข้าไม่เชื่อ เจ้าโกหก เจ้าแต่งเรื่องขึ้น อะไรมันจะบังเอิญขนาดนั้น"" ไม่เชื่อก็แล้วแต่ท่าน"" เรื่องงานแต่งเจ้าต้องรับผิดชอบ"" ท่านแม่"" เจ้าไม่ต้องพูดข้าจะจัดการเอง"" ไหนลองพูดมาซิ ว่าจะให้ข้ารับผิดชอบยังไง"" เจ้าต้องแต่งงานแทนหรันเอ๋อ"" องค์ชายเลือกนางไม่ได้เลือกข้า"" แต่ถ้าเจ้าไปงานคืนนั้น ตำแหน่งที่หรันเอ๋อยืนก็ควรเป็นเจ้า ฉะนั้นผู้ที่ได้รับลูกบอลก็คือเจ้า เพราะเจ้าไม่ไปนางเลยต้องมารับเคราะห์แทนเจ้า"" ท่านรู้ได้ยังไงว่าถ้
หวังจื่อเย่มาที่เรือนของจ้าวถิงถิง เห็นในห้องนางมืดมิด เหตุใดถึงไม่จุดเทียนหรือว่านางไม่อยู่ในห้อง" นี่เจ้าเห็นคุณหนูใหญ่หรือไม่ นางอยู่ที่ใดแล้วเหตุใดถึงไม่มีใครเข้าไปจุดเทียนในห้องนาง"" คุณหนูใหญ่นางหลับแล้ว"" หลับแล้ว แต่นี่พึ่งยามซวีเองนะ ปกตินางจะนอนยามห้ายนี่""เห็นนัวนั่วบอกว่าคุณหนูใหญ่ไม่ค่อยสบายเลยนอนเร็ว ยังสั่งห้ามใครรบกวน"" แบบนี้นี่เอง"หวังจื่อเย่มองดูกล่องใส่ปิ่นปักผมในมือ งั้นพรุ่งนี้ค่อยให้นางละกันก่อนฟ้าสาง ฮ่าวหยูมาส่งจ้าวถิงถิงที่จวน " ปล่อยข้าได้แล้ว"เขาส่ายหน้ากอดนางไว้แน่นไม่ยอมปล่อยเขาอยากกอดนางไว้แบบนี้ จะต้องทำยังไงนะเขาถึงจะได้อยู่กับนาง จ้าวถิงถิงตีมือเขาให้ปล่อย เขาจำใจปล่อยนางลงจากหลังม้าแล้วรอรับนาง นางเดินเข้าทางประตูหลังจวน ก่อนไปก็หันมามองโบกมือไล่เขาให้ไปได้แล้ว เดินไม่ทันจะถึงเรือนก็เจอกับหวังจื่อเย่" คุณหนูใหญ่ ท่านจะไปไหนแต่เช้ามืดรึ"นางถอนหายใจเหนื่อยหน่าย" ข้าจะไปไหนมาไหนต้องรายงานเจ้าด้วยรึ"" ข้าไม่ได้หมายความแบบนั้น ข้าก็แค่เป็นห่วงท่าน เมื่อคืนเห็นบ่าวรับใช้บอกว่าท่านไม่สบายเลยนอนเร็ว ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้างหายหรือยัง แล้วได้ให้หมอม