Share

บทที่ 7

Penulis: คุณชายสายฝน
ความเงียบของเธอ ในสายตาของโจวซือเหย่ มันคือการยอมรับโดยปริยาย

หลายวันมานี้ เธอก็ทำตัวไร้เหตุผลกับเขาเพราะเรื่องของเวิงอี๋ การที่เธอผลักเวิงอี๋เข้าไปในกองไฟ ยิ่งทำให้โจวซือเหย่ไม่พอใจเธอเป็นอย่างมาก

เวิงอี๋ร้องไห้เสียใจอย่างหนักจนแทบจะยืนไม่ไหว ซบในอ้อมกอดของโจวซือเหย่ ราวกับว่าเธอถูกเอารัดเอาเปรียบอย่างมาก

“ซือเหย่ ฉันอยากกลับบ้าน”

โจวซือเหย่หันมามองเจียงซู่ด้วยสายตาเย็นชาแวบหนึ่ง โดยไม่พูดอะไรอีก แต่ประคองอีกฝ่ายขึ้นรถแล้วขับออกไป

เจียงซู่รู้สึกจุกแน่นในใจเมื่อถูกเขามอง

เมื่อมองดูรถหรูที่ขับห่างไกลออกไป เพื่อนร่วมงานฝ่ายประชาสัมพันธ์ก็เดินเข้ามาหาอย่างวิตกกังวล “เจียงซู่ เธอว่าท่านประธานโจวจะไล่พวกเราทั้งหมดออกเพราะเถ้าแก้เนี้ยหรือเปล่า?”

คำว่า 'เถ้าแก้เนี้ย' แทงเข้ากลางใจเธออีกครั้ง

ขนาดนี้แล้ว เขายังบอกว่าเวิงอี๋เป็นแค่น้องสาวของเขา

น้องสาวคนไหนจะสำคัญกว่าภรรยาอย่างเธอได้?

เจียงซู่พูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “ใครจะไปรู้”

อย่างไรก็ตาม เธอกำลังจะลาออกอยู่แล้ว ไม่ว่าจะถูกไล่ออกหรือไม่ ก็ไม่สำคัญสำหรับเธออีกต่อไป

พวกเขาแยกย้ายกันที่หน้าโรงแรม จากนั้นเจียงซู่ก็นั่งรถกลับบ้านที่คฤหาสน์จิ่งหยวน

ทันทีที่เข้าไปในบ้าน ป้าอู๋และป้าเฉินก็ออกมาต้อนรับ

ทันทีที่ได้กลิ่นเหล้าที่บนตัวเธอ ป้าเฉินก็รีบไปชงชาแก้เมา ส่วนป้าอู๋ก็เริ่มตำหนิเธอ “ทำไมถึงดื่มเหล้าเยอะขนาดนี้? ช่วงเตรียมตัวตั้งครรภ์ดื่มเหล้าไม่ได้ คุณผู้หญิงไม่รู้เหรอคะ?”

“ถ้าคุณยังทำร้ายตัวเองแบบนี้ต่อไป คุณนายจะอุ้มหลานชายตอนไหนละคะ? แล้วบ้านใหญ่จะมีทายาทตอนไหน?”

เจียงซู่ไม่แปลกใจกับทัศนคติของป้าอู๋เลย ก็ใครใช้ให้เธอมาพร้อมกับคำสั่งพิเศษล่ะ

เจียงซู่รู้สึกปวดหัว ไม่อยากพูดอะไรมาก อยากจะรีบขึ้นไปพัก “ต่อไปจะไม่ดื่มแล้วค่ะ”

พูดจบเธอก็เตรียมจะเดินขึ้นชั้นบน

แต่ป้าอู๋กลับเรียกเธอไว้ “ฉันอุ่นซุปบำรุงไว้ในครัวแล้ว คุณผู้หญิงดื่มก่อนแล้วค่อยไปพักนะคะ”

เธอรู้ดีว่าถ้าเธอไม่ดื่ม ป้าอู๋จะต้องโทรหาเวินเหยาฉินเป็นคนแรกอย่างแน่นอน

เมื่อซุปบำรุงหนึ่งชามลงท้อง เจียงซู่รู้สึกอิ่มแน่นไปหมด คืนนี้เธอทั้งดื่มเหล้าและซุป ตอนนี้ท้องของเธอเต็มไปด้วยน้ำ

เมื่อหลุดพ้นจากปากเสือได้ ในที่สุดเธอก็สามารถขึ้นไปหายใจบนชั้นสองได้

ณ ห้องนอน

ขณะที่เจียงซู่มองดูห้องที่เงียบสงบ ภาพที่เวิงอี๋และโจวซือเหย่กอดกันก็ผุดขึ้นมาในหัวของเธอ ทันใดนั้นเธอก็พลันรู้สึกเปรี้ยวในลำคอ และรู้สึกท้องปั่นป่วนราวกับคลื่นลมแรง ก่อนจะทรุดตัวลงข้างชักโครกและอาเจียนออกมาจนหมดทันที

ที่อ่างล้างหน้า เจียงซู่ตักน้ำบ้วนปาก เช็ดคราบน้ำบนคางออก แล้วใช้มือทั้งสองข้างยันอ่างล้างหน้าไว้ ตัวเธอในกระจกมีดวงตาสีแดงก่ำเนื่องจากปฏิกิริยาทางร่างกาย

เจียงซู่เป็นคนสวยมาก เป็นความงามที่น่าทึ่งเมื่อแรกเห็น ในแง่ของรูปลักษณ์ภายนอก จริงๆ แล้วเวิงอี๋สู้เธอไม่ได้ และแตกต่างจากความเยือกเย็นตามปกติ ตอนนี้ใบหน้าขาวเนียนเปล่งปลั่งกลับดูน่าเวทนา จนใครเห็นก็อดสงสารไม่ได้

แต่จะมีประโยชน์อะไร?

ความอ่อนแอของคนที่ตัวเองรักคืออาวุธ แต่ความอ่อนแอของคนที่น่ารังเกียจมีแต่จะทำให้คนอื่นยิ่งรำคาญมากขึ้น และเห็นได้ชัดว่าเธอเป็นแบบนั้นในสายตาของโจวซือเหย่

หลังจากอาบน้ำเสร็จ เธอก็เข้านอน

เธอยังคงขดตัวอยู่ใต้ผ้าห่ม ซึ่งเป็นท่าที่เธอรู้สึกสบายที่สุด

โจวซือเหย่ที่กลับมาถึงบ้านตอนกลางดึกไม่ได้สนใจป้าเฉินที่เดินเข้ามาต้อนรับเลย แต่ตรงขึ้นไปชั้นบนทันที

ผ้าม่านในห้องนอนไม่ได้ถูกปิด แสงจันทร์จากข้างนอกจึงส่องเข้ามาอย่างเต็มที่ ซึ่งทำให้เขามองเห็นเจียงซู่ที่หลับใหลได้อย่างชัดเจน

ใบหน้าเล็กเท่าฝ่ามือนั้นซ่อนอยู่ใต้ผ้าห่มครึ่งหนึ่ง นี่คือท่านอนประจำของเธอ

ภายใต้ผ้าห่มที่บางเบา รูปร่างของเธอเผยออกมาอย่างชัดเจน อากาศภายในห้องอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมจาง ๆ นั่นคือกลิ่นเฉพาะตัวของเจียงซู่

เมื่อสายตาของเขาจับจ้องไปที่เอวเรียวบางเฉียบของเธอ ดวงตาของเขาก็มืดสลัวโดยไม่รู้ตัว แม้แต่ปลายนิ้วของเขายังคงรู้สึกถึงความนุ่มนวลนั้น

โจวซือเหย่รู้ดีว่าร่างกายนี้ยั่วยวนแค่ไหน มือของเขาหล่นลงบนผ้าห่มโดยไม่ตั้งใจ

เจียงซู่ที่กว่าจะหลับจู่ ๆ ก็ฝันร้าย เธอฝันว่าตัวเองถูกสัตว์ป่าไล่ล่า เขี้ยวที่น่ากลัวดูเหมือนจะกัดกินเธอทั้งเป็น เธอตกใจและรีบวิ่งหนีเอาชีวิตรอด แต่แล้วเธอก็เหยียบพลาดและตกลงไป ทันใดนั้นเธอก็ตื่นขึ้นมาจากความฝันทันที

เมื่อลืมตาขึ้น เธอก็เห็นโจวซือเหย่ที่ข้างเตียง เธอก็ลุกขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วและกอดเขาไว้

“ที่รัก ฉันฝันร้าย”

สัตว์ประหลาดกินคนในฝันน่ากลัวมาก ทำให้เจียงซู่รู้สึกเหมือนตัวเองเข้าไปอยู่ในเหตุการณ์จริง

ร่างกายของโจวซือเหย่แข็งทื่อไปชั่วขณะ มือที่ลอยอยู่กลางอากาศตบตัวเธอที่สั่นเทาเบา ๆ

เวลาผ่านไป เจียงซู่ก็ค่อย ๆ ได้สติ และก็เพิ่งรู้ว่าคนที่เธอกอดอยู่คือคนจริง ๆ ร่างกายที่อ่อนนุ่มของเธอก็ค่อย ๆ แข็งทื่อขึ้น

นอกเหนือจากช่วงเวลาบนเตียงแล้ว ความจริงพวกเขาไม่ค่อยกอดกัน เพราะโจวซือเหย่ไม่ชอบ

เจียงซู่ถอยออกไปเพื่อเว้นระยะห่างจากเขา และถามจากจิตใต้สำนึกว่า “คุณกลับมาทำไม?”

เวิงอี๋ดูเศร้าและเจ็บปวดขนาดนั้น เธอคิดว่าโจวซือเหย่จะอยู่ปลอบใจอีกฝ่ายตลอดทั้งคืนเสียอีก

เจียงซู่ถอยออกไป แต่ไม่ได้ทำให้กลิ่นหอมอ่อน ๆ ที่เธอทิ้งไว้จางหายไปเลย แต่คำพูดของเธอก็เตือนให้เขานึกถึงจุดประสงค์ของการกลับมา

“คุณยังสามารถนอนหลับได้อย่างไร้ความรู้สึกผิด”

เจียงซู่ “?”

ทำไมเธอจะนอนไม่ได้?

โจวซือเหย่ “คุณรู้ไหมว่าเวิงอี๋เคยมีประสบการณ์ที่ไม่ดีเกี่ยวกับเรื่องนี้มาก่อน และเพราะคุณ ตอนนี้โรคเก่าของเธอก็เลยกำเริบ และอาการของเธอก็ไม่ค่อยดีด้วย”

เจียงซู่ยังไม่ทันได้ลิ้มรสความอบอุ่นของอ้อมกอดนี้ ก็ถูกคำพูดของเขาทำร้ายจนหัวใจเย็นชาลง

เธอมองเห็นความกังวลที่แปลกแยกบนใบหน้าที่คุ้นเคยของเขา

เธอไม่รู้ว่าเป็นเพราะตกใจตื่นกะทันหันหรือไม่ แต่เธอรู้สึกเหมือนหัวใจถูกทิ่มแทงด้วยของมีคม

“นี่คือเหตุผลที่คุณกลับมาใช่ไหม?”

คิ้วของโจวซือเหย่ขมวดแน่น “ผมบอกแล้วว่าเวิงอี๋เป็นแค่น้องสาวของผม เธอไม่ได้เป็นภัยคุกคามต่อคุณเลย ทำไมคุณถึงเอาแต่จ้องเล่นงานเธอ?”

เจียงซู่จ้องมองสีหน้าที่มีชีวิตชีวาเพราะความโกรธของเขาอย่างเงียบ ๆ แล้วก็เพิ่งรู้ว่านอกจากใบหน้าที่ตายด้านแล้ว เขาก็มีอารมณ์อย่างอื่นเหมือนกัน

น้องสาวอีกแล้ว

ตอนนี้เธอเกลียดคำว่า 'น้องสาว' เข้ากระดูกดำ

“ฉันไปจ้องเล่นงานอะไรเธอ?” เจียงซู่ถามกลับอย่างใจเย็น “โครงการนี้คุณเป็นคนให้เธอ งานของฉันก็เธอเป็นคนจัดการ เมื่อก่อนคุณบอกเองไม่ใช่เหรอว่าที่ทำงานไม่ใช่สวนสนุก ถ้าเธอรู้สึกถูกเอาเปรียบ ก็ไม่รู้จักแก้ปัญหาด้วยตัวเองเหรอ?”

โจวซือเหย่เอ่ย “ที่เธอเรียกคุณไป นั่นเป็นเพราะเธอเห็นความสามารถของคุณ”

งั้นเธอก็ต้องขอบคุณเวิงอี๋ที่มองเห็นความสามารถของเธอสินะ

โจวซือเหย่พูดต่อว่า “บริษัทฝึกฝนคุณมาตั้งหลายปี คุณมากินเงินเดือนฟรีอย่างงั้นเหรอ? แค่วิกฤตเล็ก ๆ น้อย ๆ แค่นี้ก็จัดการไม่ได้?”

เมื่อฟังคำตำหนิที่เต็มไปด้วยเหตุผลของเขา เธอก็รู้สึกแสบจมูก

เขาคงลืมไปแล้วว่าเธอต่างหากคือภรรยาของเขา!

เขาตำหนิภรรยาของตัวเองเพราะผู้หญิงคนอื่น แล้วเขาที่เป็นสามีก็ไม่ใช่สามีที่ไร้ประโยชน์หรอกเหรอ?

ความมืดมิดยามค่ำคืนบดบังหยาดน้ำตาในดวงตาของเจียงซู่ได้เป็นอย่างดี เธอข่มความเจ็บปวดไว้ในลำคอ “ถ้าคุณกลัวว่าเธออยู่ข้างนอกจะถูกรังแก งั้นก็สร้างกรงทองให้เธอแล้วขังเธอไว้ข้างใน จะได้ไม่มีใครแตะต้องเธอได้”

ความเยาะเย้ยในคำพูดนั้นชัดเจนมาก ซึ่งทำให้โจวซือเหย่เดือดดาลในทันที “เจียงซู่!”

เจียงซู่ถามกลับว่า “ข้อเสนอของฉันมันไม่ดีตรงไหน?”

นี่ไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการหรอกเหรอ? เพื่อปกป้องสมบัติล้ำค่าของเขา

โจวซือเหย่หรี่ตาลง “ทำไมผมไม่เคยรู้เลยว่าจิตใจของคุณมืดมนขนาดนี้”

เจียงซู่แสยะยิ้มอย่างอ่อนแรง ทำไมเธอไม่เคยรู้มาก่อนว่าเขาเลวทรามขนาดนี้

“มีอะไรอีกไหม? ถ้าไม่มี ฉันจะนอนแล้ว”

พูดจบ เธอก็กลับไปนอนเหมือนเดิม โดยไม่รอให้เขาตอบ ดึงผ้าห่มขึ้นคลุมตัวและหันหลังให้เขา

โจวซือเหย่ยังอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่โทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้นเสียก่อน เขามองดูหน้าจอแล้วรับสายไปพร้อมกับเดินไปที่ห้องแต่งตัวเพื่อหยิบเสื้อผ้าไปเปลี่ยน

เวิงอี๋มีอารมณ์ไม่คงที่เพราะเรื่องคืนนี้จนต้องเข้าโรงพยาบาล การที่เขากลับมาก็ตั้งใจจะมาเอาเสื้อผ้าไปเปลี่ยน

เมื่อหลับตาลง การได้ยินก็ยิ่งไวขึ้น เธอได้ยินน้ำเสียงอันอ่อนโยนและปลอบโยนของโจวซือเหย่ ไม่ต้องคิดก็รู้ว่าเป็นใครที่โทรมา

แม้ว่าเธอจะตั้งใจจะหย่าแล้ว แต่การได้เห็นสามีของตัวเองพูดคุยกับผู้หญิงอีกคนอย่างอ่อนโยนต่อหน้าต่อตา เจียงซู่ก็ยังคงรู้สึกเจ็บปวดในใจ

เธอรู้สึกว่าการทุ่มเทตลอดห้าปีในชีวิตแต่งงานของเธอมันเป็นเรื่องตลกสิ้นดี
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ฉันแท้ง... ในวันเกิดชู้รัก   บทที่ 100

    เจียงซู่ดันชามโจ๊กทะเลตรงหน้าออกไป “ฉันอยากกินก๋วยเตี๋ยวเนื้อ”โจวซือเหย่มีสีหน้าอึ้งไปเล็กน้อย เขายังคงรอคำขอบคุณจากเจียงซู่ แต่ไม่คิดว่าจะได้คำพูดที่ทำให้เขาอารมณ์เสียป้าเฉินได้ยินดังนั้น สีหน้าก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย เธอแอบชำลืองมองโจวซือเหย่ และพยายามที่จะช่วยคลี่คลาย “คุณผู้หญิงคะ การทำก๋วยเตี๋ยวเนื้อสด ๆ ต้องใช้เวลามาก จะไม่ทันอาหารเช้านะคะ”เจียงซู่ “ไม่เป็นไรค่ะ ฉันรอได้”เมื่อได้ยินดังนั้น ป้าเฉินก็มองไปที่โจวซือเหย่อีกครั้ง แล้วโจวซือเหย่ก็โบกมือให้เธอไปทำเมื่อเห็นเช่นนี้ ป้าเฉินจึงไม่พูดอะไรอีกและรีบไปที่ห้องครัวโจวซือเหย่มองขาที่ยังคงเข้าเฝือกของเธอ “คุณไม่ต้องไปที่ทำงานแล้ว พักรักษาตัวที่บ้านให้ดี พอหายดีแล้ว ถ้ายังอยากทำงานเดิมอยู่ ผมจะจัดหาที่ทำงานใหม่ให้”เขาหมายความว่าไง?เขาคิดว่าการที่เธอมีเพศตรงข้ามอยู่รอบตัวจะทำให้ภาพลักษณ์ของเขาเสียหายใช่ไหม? เขาต้องการที่จะกำจัดคนรอบตัวเธอใช่ไหม?สำหรับพฤติกรรมสองมาตรฐานของเขา เจียงซู่รู้สึกว่ามันน่าขำ แต่เธอก็ไม่ได้แสดงความคิดเห็นใด ๆโจวซือเหย่ “ขอแค่คุณยังคงเป็นเหมือนเมื่อก่อน เชื่อฟังและทำตัวดี ๆ ตำแหน่งคุณผู้หญิงโจว

  • ฉันแท้ง... ในวันเกิดชู้รัก   บทที่ 99

    โจวซือเหย่คิดว่าการที่เธอแต่งงานกับเขาเป็นการขายตัวหรือไง?เขาเห็นเธอเป็นอะไรกันแน่?เป็นโสเภณีหรือไง?เจียงซู่กัดฟันกรามแน่น ราวกับได้ยินเสียงหัวใจของตัวเองที่แตกสลาย เธอกลืนความปวดร้าวในลำคอ และเบิกตากว้าง พยายามไม่ให้น้ำตาไหลออกมา“ฉันเสียใจ”เธอเสียใจที่แต่งงานกับเขาเขาจะไม่ชอบเธอก็ได้ แต่เขาไม่ควรเหยียบย่ำหัวใจของเธอแบบนี้เธอเพ้อฝันอยู่ฝ่ายเดียว คิดว่าหยดน้ำจะทำให้หินกร่อนได้ แต่เธอกลับลืมไปว่าหัวใจของเขานั้นแข็งเสียยิ่งกว่าหิน มันทำจากเหล็กกล้าเมื่อเห็นความแตกสลายอย่างชัดเจนในดวงตาของเธอ โจวซือเหย่ก็ชะงักไปครู่หนึ่งเจียงซู่พึมพำคำเดิม “ฉันเสียใจ”โจวซือเหย่ไม่เข้าใจว่าความเสียใจของเธอหมายถึงอะไร และเขาก็ไม่สนใจที่จะรู้ด้วย แต่จู่ ๆ เขาก็ผลักเธอล้มลงไปเจียงซู่ที่ตอบสนองช้าไปครึ่งก้าว กว่าจะรู้ตัวว่าเขาจะทำอะไร เขาก็เริ่มถอดเสื้อผ้าของเธอออกแล้ว เธอพยายามดิ้นรนอย่างเต็มที่“ฉันไม่ทำ!”โจวซือเหย่จับข้อมือของเธอตรึงไว้ที่เหนือศีรษะ และใช้ขาอีกข้างล็อกขาเธอที่พยายามขัดขืน“คุณเลิกคิดเรื่องหย่าได้เลย ตระกูลโจวไม่มีทางเกิดเรื่องอื้อฉาวอย่างเรื่องหย่าร้างเด็ดขาด” โจวซื

  • ฉันแท้ง... ในวันเกิดชู้รัก   บทที่ 98

    เจียงซู่ลืมตาขึ้นอย่างมึนงง ไม่รู้เลยว่าตัวเองอยู่ที่ไหน ความทรงจำที่ขาดหายไปของเธอยังคงอยู่ที่ตอนที่เว่ยชิงหางจะไปส่งเธอกลับบ้าน“รุ่นพี่ ขอบคุณที่มาส่งฉันกลับบ้านนะคะ”คำพูดของเจียงซู่ฟังดูติด ๆ ขัดๆ แต่ในมุมมองของโจวซือเหย่ คำพูดเหล่านั้นเหมือนเป็นการออดอ้อนเว่ยชิงหาง“คุณไปกลับก่อนเถอะ อย่าให้โจวซือเหย่เห็น เดี๋ยวเขาจะหาเรื่องคุณ”เมื่อได้ยินดังนั้น นัยน์ตาของโจวซือเหย่ก็มืดลง“ทำไมผมต้องหาเรื่องเขาด้วย?”เสียงที่ดังขึ้นอย่างกะทันหันนี้ ทำให้สติที่ขุ่นมัวของเจียงซู่แจ่มชัดขึ้นเล็กน้อย เธอมองไปรอบ ๆ และเพิ่งรู้ตัวว่าเธอนอนอยู่บนเตียงในห้องนอนใหญ่เจียงซู่ส่ายหัวที่เวียนหัวของเธอ และพูดว่า “ตัวฉันมีกลิ่นเหล้า คืนนี้ฉันจะไปนอนห้องข้าง ๆ”แม้ว่าเธอจะไม่ได้มีสติสมบูรณ์ครบถ้วน แต่เธอก็ยังจำได้ว่าเขาไม่ชอบกลิ่นเหล้าจากตัวเธอในอดีต ทุกครั้งที่กลับมาจากการเลี้ยงสังสรรค์ เจียงซู่จะแยกห้องนอนกับโจวซือเหย่เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เขารังเกียจเธอเธอลงจากเตียงกำลังจะจากไป แต่โจวซือเหย่กลับกดไหล่ของเธอไว้ แล้วผลักเธอล้มลงบนเตียงเจียงซู่ยืนไม่มั่นคงอยู่แล้ว การล้มลงบนเตียงอีกครั้ง ทำให้ส

  • ฉันแท้ง... ในวันเกิดชู้รัก   บทที่ 97

    “รุ่นน้อง”ในขณะที่เจียงซู่กำลังแหม่อลอย เสียงที่คุ้นเคยก็ดังขึ้นเมื่อรู้สึกตัว เธอก็สบตากับเว่ยชิงหาง“รุ่นพี่”เขาถามว่า “มาทำอะไรที่นี่?”เจียงซู่หลีกเลี่ยงประเด็นหลัก “ออกมาสูดอากาศสักหน่อย คุณล่ะ? มาทำอะไรที่นี่?”เว่ยชิงหาง “เพิ่งคุยงานกับลูกค้าเสร็จ”พูดไป เขาก็มองเข้าไปในรถของเธอ แล้วพูดอีกว่า “คุณยังมีอาการบาดเจ็บอยู่ไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงขับรถออกมาคนเดียว?”“ขาที่เหยียบคันเร่งยังปกติดี” เจียงซู่ถาม “อีกเดี๋ยวจะยุ่งไหมคะ?”เว่ยชิงหางถาม “คุณมีธุระอะไรหรือเปล่า?”เจียงซู่ “ฉันอยากไปดื่มสักแก้ว คุณอยากไปด้วยกันไหม?”เว่ยชิงหางไม่ได้ขัดจังหวะ “ไปที่ไหน?”จากนั้นพวกเขาไปที่บาร์เงียบ ๆ แห่งหนึ่งแสงในร้านสลัว ๆ ช่วยปกปิดความหม่นหมองและความอ้างว้างในตัวของเจียงซู่เว่ยชิงหางเป็นเพื่อนร่วมทางที่ดี เขาเพียงแค่อยู่เงียบ ๆ เป็นเพื่อนเจียงซู่ไม่ได้มาเพื่อระบายความในใจ ตอนนี้เธอแค่รู้สึกเหงามาก ๆ เท่านั้น อยากมีใครสักคนอยู่เป็นเพื่อน ไม่อยากอยู่คนเดียวแม้ว่าเธอจะไม่ได้พูดอะไร แต่เว่ยชิงหางก็รู้สึกได้ว่าเจียงซู่อยู่ในอารมณ์ที่เศร้าหมองมากจริง ๆ แล้วตั้งแต่ที่เขารู้จักเธอ เ

  • ฉันแท้ง... ในวันเกิดชู้รัก   บทที่ 96

    เจียงซู่รู้ดีว่าแม่สามีตั้งใจพูดกระทบเธอมากกว่าในสายตาของแม่สามี เธอไม่ได้ดีไปกว่าคนในตระกูลเล็ก ๆ เลยด้วยซ้ำเวินเหยาฉินตั้งใจจะหนุนหลังโจวหว่านซิน และตั้งใจจะให้เธอยอมจำนนแต่โดยดี แน่นอนว่าต้องกลั่นแกล้งเธออย่างหนักแต่เวินเหยาฉินไม่ได้ลงไม้ลงมือกับเจียงเจียเหวิน เพราะอย่างไรก็เป็นลูกของคนอื่น แต่สำหรับเธอแล้วไม่เหมือนกัน เธอเป็นลูกสะใภ้ที่ถูกต้องตามกฎหมายการที่แม่สามีใช้ให้ลูกสะใภ้ทำอะไร ก็เป็นเรื่องปกติธรรมดาภรรยาหลวงอย่างเธอต้องมาทำหน้าที่ของอนุภรรยา แม้แต่มื้อกลางวัน เธอก็ต้องเป็นคนทำอาหารให้พวกเขาทานด้วยอาการปวดเอวและเจ็บเท้า การถูกกลั่นแกล้งขนาดนี้ ทำให้ใบหน้าของเจียงซู่ซีดลงเล็กน้อยเวินเหยาฉินเห็นท่าทางที่ดูเหมือนคนตายของเธอก็รู้สึกหงุดหงิด และพูดอย่างไม่พอใจว่า “เธอทำหน้าบึ้งให้ใครดู? ฉันใช้ให้เธอปรนนิบัติฉัน แล้วเธอไม่พอใจอีกเหรอ?”เจียงซู่ “เปล่าค่ะ”พอพูดจบ ก็มีเหงื่อเย็น ๆ หยดหนึ่งไหลลงมาจากขมับของเธอพอดีเวินเหยาฉินพูดอย่างรังเกียจว่า “พอแล้ว พอแล้ว ที่นี่ไม่ต้องการเธอแล้ว”แม้ว่าจะไม่ได้มองตรง ๆ แต่เจียงซู่ก็รู้สึกได้ถึงความสะใจของเวิงอี๋เธอเดินลากสังข

  • ฉันแท้ง... ในวันเกิดชู้รัก   บทที่ 95

    ความห่วงใยของโจวซือเหย่ก็เหมือนกับอากาศในเดือนมิถุนายน เพราะเมื่อยามหนาวเหน็บก็หนาวเหมือนราวกับน้ำแข็ง แต่เมื่ออบอุ่นก็อบอุ่นจนร้อนซึ่งสามารถแผดเผาได้ เปลี่ยนแปลงรวดเร็วเกินกว่าคนปกติจะรับไหวอาหารถูกยกขึ้นโต๊ะเรียบร้อยแล้ว ตอนที่โจวซือเหย่อุ้มเธอลงมา คุณป้าเฉินแอบยิ้มอย่างโล่งใจไหน ๆ ก็มาถึงโต๊ะแล้ว เจียงซู่ก็ไม่อยากทำให้เสียเปล่า“ซินซินยังเด็กอยู่ คุณเป็นพี่สะใภ้ ก็ควรจะทนกับเธอหน่อย”คำพูดนั้นทำให้มือเจียงซู่ที่กำลังจับตะเกียบชะงักไปทันที เธอค่อย ๆ เงยหน้ามองเขาแสงไฟนุ่มนวลคลอร่างเขา ทำให้เสี้ยวหน้าคมเข้มดูอบอุ่นขึ้นมาบ้าง แต่สำหรับเธอมันกลับไม่เหลือความรู้สึกอบอุ่นใด ๆ อาหารในปากพลันจืดชืดลงทันทีเขารู้ดีอยู่แล้วว่าใครผิด แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังปกป้องอยู่ดี เขาจะไร้ความยุติธรรม เพียงแต่หัวใจมันลำเอียงนั้นเองเจียงซู่วางตะเกียบลง เช็ดปากเบา ๆ “ฉันอิ่มแล้ว”โจวซือเหย่มองอาหารที่แทบไม่ถูกแตะต้อง เขาอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เจียงซู่ก็เรียกป้าเฉินให้มาช่วยพยุงขึ้นไปบนห้องเสียแล้วป้าเฉินมองชายหนุ่มที่เอาแต่เงียบด้วยความหงุดหงิด ในสายจาของป้าเฉินรู้สึกว่าโจวซือเหย่ยังไม่รู้จัก

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status