Share

บทที่ 8

Author: คุณชายสายฝน
เธอไม่ได้บอกโจวซือเหย่เรื่องที่เจียงซงหวาให้เธอพาเขากลับไปทานข้าวที่บ้าน

เมื่อขับรถกลับมาถึงบ้านตระกูลเจียง คนที่มาเปิดประตูให้คือ เจียงเจียเหวิน

เจียงเจียเหวินเป็นลูกสาวของเจียงซงหวากับภรรยาคนที่สอง เธออายุน้อยกว่าเจียงซู่สี่ปี

คนที่เคยยิ้มแย้มสดใส เมื่อเห็นว่าเจียงซู่มาคนเดียว ใบหน้าของเธอก็บูดบึ้งในทันที “ทำไมมีแค่พี่ล่ะ?”

“ลูกเขยกลับมาแล้ว”

เสียงของเจียงซงหวาดังมาจากในบ้าน

เมื่อเห็นเจียงซู่ ทั้งพ่อและลูกสาวมีสีหน้าเหมือนกัน

“ลูกเขยล่ะ?”

เจียงซู่ตอบว่า “เขามีงาน มาไม่ได้ค่ะ”

ได้ยินดังนั้น เจียงซงหวาก็มีสีหน้าผิดหวัง

แต่เจียงเจียเหวินกลับเบ้ปาก “ไม่ใช่ว่าพี่ไม่ได้บอกพี่เขยเลยด้วยซ้ำหรอกนะ”

เมื่อคำพูดนี้หลุดออกมา สายตาของเจียงซงหวาก็เริ่มมองสำรวจทันที

เมื่อมองดูเจียงเจียเหวินที่แต่งตัวสวยหรู เจียงซู่ก็เข้าใจเหตุผลที่เธออาสามาเปิดประตู

น้องสาวคนนี้กำลังจ้องเขมือบพี่เขย

ปีนั้น ตอนที่เธอรู้ว่าเจียงซู่จะไปแต่งงานเพื่อแก้เคล็ด เธอยังหัวเราะเยาะอยู่นาน ต่อมาเมื่อเห็นว่าเจียงซู่ไม่ได้กลายเป็นหม้าย เธอก็เริ่มอิจฉา เพราะตระกูลโจวมีฐานะสูงส่งเกินไป

เจียงเจียเหวินตั้งใจที่จะแย่งชิงและเข้ามาแทนที่ไม่ได้เกิดขึ้นแค่วันสองวัน

เจียงซงหวาหน้าบึ้ง “อย่าลืมว่าแกเกิดมาจากที่ไหน! ถ้าตระกูลเจียงดี ฐานะของแกในตระกูลโจวก็จะสูงไปด้วย”

เธอไม่ได้เพิ่งได้ยินคำพูดที่ผูกมัดด้วยคุณธรรมสูงส่งแบบนี้เป็นครั้งแรก

เจียงซู่ยังคงทำตัวว่าง่ายเหมือนเดิม “พ่อคะ หนูไม่ใช่คนแบบนั้น”

เมื่อเห็นท่าทีที่นอบน้อมของเธอ เจียงซงหวาก็เลิกมองด้วยสายตาที่พินิจพิเคราะห์

จริงอยู่ ลูกบุญธรรมคนนี้ไม่ใช่คนกล้าหาญ

เมื่อตัวเอกของงานเลี้ยงไม่อยู่ การทานอาหารมื้อนี้ก็ไม่มีความจำเป็นอีกต่อไป

เจียงซงหวายื่นแผนงานให้เจียงซู่พร้อมกับสั่งเธอราวกับหัวหน้าสั่งลูกน้องว่า “แกต้องให้ลูกเขยตอบตกลงโดยเร็วที่สุด”

พูดจบ เขาก็โบกมือไล่ให้เธอกลับไป

เจียงซู่ยืนอยู่ที่เดิมพร้อมถือแฟ้มแผนงานไว้ในมือ ในขณะพวกเขาสามคนในครอบครัวกำลังนั่งที่โต๊ะอาหารอย่างมีความสุข

ส่วนเธอ เป็นแค่คนนอก

ภาพแบบนี้เป็นเรื่องปกติมาตั้งแต่เจียงซงหวาแต่งงานใหม่ ตอนเด็ก ๆ เพราะการถูกกีดกันแบบนี้ เธอเคยร้องไห้ เสียใจ และเคยถาม

แต่สิ่งที่ได้รับคือการรังแกและดูถูกจากเจียงเจียเหวิน สองแม่ลูก รวมถึงความเฉยเมยของเจียงซงหวา เมื่อเธอยังเป็นเด็กตัวเล็ก ๆ เธอจึงยอมรับความจริงได้อย่างรวดเร็ว และเข้าใจว่าตัวเองมีค่าไม่เท่าสุนัขที่เจียงเจียเหวินเลี้ยงไว้

ถ้าไม่ใช่เพราะคุณย่า เธอคงถูกเจียงซงหวาไล่ออกจากบ้านไปพเนจรข้างนอกนานแล้ว

เจียงซู่หันหลังออกจากบ้านตระกูลเจียงท่ามกลางเสียงหัวเราะอย่างมีความสุขของพวกเขา

เจียงเจียเหวินมองดูแผ่นหลังของเธอแล้วหัวเราะเยาะ “เสแสร้ง”

“พ่อคะ ตอนนั้นที่ตกลงแต่งงานกับตระกูลโจว พ่อควรให้หนูไปนะ ถ้าเป็นหนูที่แต่งงานกับโจวซือเหย่ ตระกูลของเราต้องมีฐานะสูงกว่านี้แน่นอน”

ในความคิดของเธอ เจียงซู่แย่งตำแหน่งคุณผู้หญิงโจวไปจากเธอ!

ถ้าไม่ใช่เพราะเจียงซู่มีสถานะเป็นลูกสาวคนโตของตระกูลเจียง เรื่องดี ๆ แบบนี้คงไม่มาถึงเธอหรอก

เจียงซงหวาพูดว่า “ตอนนั้นลูกอายุแค่สิบเก้าเอง”

ยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องอายุที่ไม่เหมาะสม แต่ถึงแม้จะเหมาะสม ดวงของเธอก็ไม่ตรงกับความต้องการของตระกูลโจวอยู่แล้ว

ทำไมเขาจะไม่เคยคิดล่ะว่าลูกบุญธรรมของเขาจะโชคดีขนาดนี้ สามารถกระโดดข้ามรั้วมังกรได้

เจียงซงหวามองลูกสาวตัวเองและพูดอย่างมีนัยยะว่า “แต่ตอนนี้อายุของลูกเหมาะสมแล้ว”

ในโลกนี้ไม่มีผู้ชายคนไหนที่ไม่เจ้าชู้

ถ้าเจียเหวินอ่อยโจวซือเหย่ได้สำเร็จจริง ๆ งั้นเขาก็จะเป็นพ่อตาตัวจริงเสียงจริง

ส่วนเจียงซู่... ท้ายที่สุดก็เป็นแค่คนนอก

เมื่อได้รับการยอมรับ เจียงเจียเหวินก็เผลอเชิดหน้าขึ้น และคิดว่าตัวเองทำได้!

การที่พ่อให้ลูกสาวแท้ ๆ ไปแย่งสามีของลูกบุญธรรมนั้น ก็ไม่ยากที่จะเห็นว่ารากเหง้าของตระกูลเจียงเน่าเฟะแค่ไหน

เจียงซู่ไม่รู้ความคิดของคนในตระกูลเจียงเลย แต่ถึงรู้ก็คงไม่แปลกใจ

ระหว่างทางที่ขับรถออกจากบ้านตระกูลเจียง เธอรู้สึกปวดท้องน้อยกะทันหัน จากนั้นก็รู้สึกว่ามีของเหลวไหลออกมาข้างล่างจนเปียกชุ่ม เมื่อก้มลงมอง เธอก็เห็นว่ากางเกงของเธอเปื้อนเป็นสี

อาการปวดท้องน้อยยังคงดำเนินต่อไป เจียงซู่จึงจอดรถข้างทาง แล้วหยิบโทรศัพท์ออกมา โทรหาโจวซือเหย่เป็นคนแรก

ในเวลาเดียวกันนั้น โจวซือเหย่กำลังอยู่เป็นเพื่อนเวิงอี๋ที่โรงพยาบาล

เมื่อดูหน้าจอโทรศัพท์ โจวซือเหย่ยังไม่ทันได้รับสาย ก็ถูกเสียงของเวิงอี๋ดึงดูดเสียก่อน

“พี่ซือเหย่ ฉันปวดหัว”

เสียงของเวิงอี๋ฟังดูอ่อนแรงมาก

ได้ยินดังนั้น โจวซือเหย่ก็พูดขึ้นว่า “พี่จะให้หมอมาดู”

พูดจบ เขาก็เตรียมจะเดินออกไปเรียกหมอ แต่เวิงอี๋กลับพูดว่า “อย่าไปคะ! ฉันกลัว”

เมื่อเห็นเธอมีท่าทางตื่นตระหนกตกใจ เขาจึงตัดสินใจอยู่ต่อ และใช้ออดข้างเตียงเรียกหมอ ส่วนสายจากเจียงซู่ก็ถูกตัดไปนานแล้วตั้งแต่ตอนที่เวิงอี๋ร้องปวดหัว

เวิงอี๋เหลือบมองโทรศัพท์ที่โจวซือเหย่เก็บไป แล้วแสยะยิ้มมุมปากอย่างไร้ร่องรอย

เมื่อเจียงซู่ได้ยินเสียงสายว่าง ขนตาของเธอก็สั่นระริก และร่างกายก็หนาวเย็นลงกว่าเดิมเพราะเสียเลือด

เจียงซู่กัดฟันขับรถไปโรงพยาบาล ระหว่างทางเธอก็ได้ติดต่อไต้ซานเหอ เธอกลัวว่าจะช็อกตายเพราะเสียเลือดมาก แล้วจะไม่มีใครมาจัดการศพให้

โชคดีที่เธอดวงแข็ง ยังไม่ถึงขั้นช็อกตายเพราะเสียเลือดมาก

ส่วนสาเหตุที่เลือดออกกะทันหันนั้น เป็นเพราะเธอดื่มเหล้ามากเกินไปในช่วงที่แท้งลูก และยังถูกน้องสามีแกล้งให้แช่น้ำเย็น ทำให้ร่างกายบาดเจ็บและฟื้นตัวได้ไม่ดี

ไต้ซานเหอขมวดคิ้วพูดว่า “เรื่องที่แกแท้งลูก โจวซือเหย่รู้หรือเปล่า?”

ใบหน้าเล็ก ๆ ของเจียงซู่ซีดเผือด และดวงตาหม่นหมอง “เขาคงไม่สนใจที่จะรู้”

สำหรับเขาแล้ว เรื่องนี้คงไม่สำคัญ เพราะผู้หญิงที่สามารถให้กำเนิดลูกให้เขาได้ไม่ได้มีแค่เธอคนเดียว ตอนนี้ก็มีตัวเลือกที่ดีกว่าเธอแล้วไม่ใช่เหรอ

ไต้ซานเหอย่อมเข้าใจความหมายในคำพูดของเธอ และรู้สึกโกรธเคือง “ไอ้ผู้ชายสารเลว!”

หลังจากเฝ้าเจียงซู่ให้น้ำเกลือที่โรงพยาบาล พวกเธอก็ออกจากโรงพยาบาลพร้อมกัน

ที่โถงทางเข้าโรงพยาบาล

เมื่อสายตาของเจียงซู่กวาดมองไปยังจุดหนึ่ง เธอก็หยุดชะงักทันที

ทั้ง ๆ ที่โรงพยาบาลในเมืองเป่ยเฉิงมีตั้งมากมาย แต่เธอกลับโชคร้ายเจอโจวซือเหย่และเวิงอี๋ที่นี่

ตอนนี้เวิงอี๋เหมือนดอกบัวขาวที่อ่อนแอมาก ๆ โดยใช้โจวซือเหย่เป็นที่พึ่ง

มิน่าล่ะเขาถึงไม่รับสายเธอ ที่แท้ก็อยู่กับสาวสวยนี่เอง

“เป็นอะไรไป?” ไต้ซานเหอถามเมื่อเห็นเธอหยุดเดินกะทันหัน และเมื่อเห็นเธอมองไปยังจุดหนึ่งโดยไม่ขยับ เธอจึงมองตามไป

เมื่อเห็นเป้าหมาย ไต้ซานเหอก็หน้าบึ้งทันที

บ้าจริง! ซวยจริง ๆ!

อาจเป็นเพราะสายตาของพวกเธอมองแรงเกินไป จึงดึงดูดความสนใจของโจวซือเหย่

ทันทีที่เขาหันหน้ามาก็สบตากับเจียงซู่พอดี

คิ้วของโจวซือเหย่ขมวดเล็กน้อยแทบมองไม่เห็น แล้วเดินเข้ามาหา แล้วเปิดปากถามด้วยน้ำเสียงคาดคั้นว่า

“คุณมาทำอะไรที่นี่?”

เมื่อเวิงอี๋เห็นเธอ ก็เดินเข้ามาทักทายก่อนและพูดด้วยรอยยิ้มว่า “พี่เจียงซู่ พี่มาเยี่ยมฉันเหรอคะ?”

“พี่รู้ได้ยังไงว่าฉันอยู่ที่นี่? พี่ซือเหย่บอกพี่เหรอคะ?”

ประโยคหลังนี้ ดูเหมือนจะถามเจียงซู่ แต่จริง ๆ แล้วคือพูดให้โจวซือเหย่ฟัง

แต่เธอรู้ดีว่าโจวซือเหย่ไม่มีทางบอกแน่ ๆ ดังนั้นการที่เจียงซู่ปรากฏตัวที่นี่ก็แสดงว่าสะกดรอยตามน่ะสิ

เห็นได้ชัดว่าโจวซือเหย่ก็คิดแบบนั้นจริง ๆ

ถ้าสะกดรอยตามจริง เขาก็จะรู้สึกไม่พอใจ

เป็นสามีภรรยากันมาห้าปี จะบอกว่าเข้าใจโจวซือเหย่มากแค่ไหนก็ไม่ถึงขนาดนั้น แต่เจียงซู่ก็ไม่ถึงกับตาบอดจนไม่เห็นอารมณ์ที่ชัดเจนของเขา

ยิ่งค้นพบความจริงนี้มากเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งรู้สึกอึดอัดใจมากขึ้นเท่านั้น

ไม่ว่าจะยังไง ตอนนี้เธอก็เป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของเขา แต่เขาไม่คิดจะรักษาหน้าของเธอสักนิดเลยเหรอ?

“พี่ซือเหย่ ดูสิคะ ฉันถึงได้บอกว่าพี่เจียงซู่เป็นคนดี เรื่องเมื่อวานพี่เจียงซู่ไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายฉันแน่นอน”

เจียงซู่มองดูเวิงอี๋ที่คล้องแขนของโจวซือเหย่ เขาไม่ชอบให้ผู้หญิงอื่นแตะต้องร่างกายต่อหน้าคนอื่น รวมถึงภรรยาอย่างเธอด้วย เธอกำลังรอให้โจวซือเหย่สะบัดมือออก แต่เขากลับไม่ขยับเลย

ที่แท้ไม่ใช่ว่าเขาไม่ชอบ แต่แค่เธอไม่ได้รับอนุญาต
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ฉันแท้ง... ในวันเกิดชู้รัก   บทที่ 128

    หลังจากออกจากกั่งรุ่ย เจียงซู่ก็รีบตรงกลับไปโรงพยาบาลทันทีคุณย่ายังไม่ฟื้น เธอก็ไม่สบายใจส่วนทางโจวซือเหย่นั้น หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจช่วงเช้า เขาก็เปิดดูโทรศัพท์ แต่เจียงซู่ไม่ได้ติดต่อมาสีตาคมมืดมิด ดูเหมือนว่าเธอไม่ได้ให้ความสำคัญกับตระกูลเจียงเท่าไหร่เวิงอี๋เห็นโจวซือเหย่เหม่อลอยจึงอดไม่ได้ตะโกนว่า “พี่ซือเหย่…”เมื่อได้ยินเสียง โจวซือเหย่ถึงมีสติกลับมา ถามว่า “มีอะไรเหรอ?”เวิงอี๋กัดริมฝีปาก: “ฉันบอกว่าคุณหมอเหมี่ยวให้ฉันไปรับผลตรวจค่ะ”สายตาของโจวซือเหย่กวาดมองไปที่หน้าอกของเธอ ก่อนเอ่ยว่า “ฉันจะไปเป็นเพื่อน”เวิงอี๋พูดอย่างเกรงใจ่วา “จริง ๆ ฉันไปเองได้ค่ะ”โจวซือเหย่พูดตรง ๆ ว่า “ฉันจะไปขับรถ”เมื่อรู้สึกว่าตัวเองได้รับความสำคัญ ดวงตาของเวิงอี๋ก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้นดีใจที่โรงพยาบาลเจียงซู่จ้องมองคุณย่าอี้ที่ยังคงหมดสติอยู่ด้วยความหนักใจ เพราะคุณหมอบอกว่าการหมดสติครั้งนี้เป็นเหมือนการซ้ำเติมร่างกายที่อ่อนแอของคุณย่าให้แย่ลงไปอีกหลังจากออกมาจากห้องตรวจของหมอ เจียงซู่ก็ขาอ่อนแรง เซถลาเกือบจะล้ม แต่โชคดีที่คว้ากำแพงไว้ได้ทันในเวลานั้นเอง เธอพลันได้ยินเสียงของโ

  • ฉันแท้ง... ในวันเกิดชู้รัก   บทที่ 127

    “คุณย่า—”เจียงซงหวาเห็นดังนั้นก็เตรียมจะเดินเข้าไป แต่แม่เจียงกลับรั้งเขาไว้ ทั้งคู่เป็นสามีภรรยากันมาหลายสิบปี แค่มองตากันก็เข้าใจความหมายของกันและกันเจียงซู่พูดอย่างร้อนรน “พ่อคะ รีบพาคุณย่าไปโรงพยาบาลเถอะค่ะ”ระหว่างผลประโยชน์กับความกตัญญู เจียงซงหวาเลือกอย่างแรก“หาทางให้โจวซือเหย่หยุดให้ได้”“พ่อ!”เจียงซู่มองด้วยความไม่อยากจะเชื่อ เขายังเป็นคนอยู่หรือเปล่า?ความน่าเกลียดของมนุษย์ เธอมองเห็นได้อย่างชัดเจนในตัวเจียงซงหวาเจียงซู่กัดฟันกรามแน่น พูดว่า “ได้ หนูสัญญา!”หลังจากการนำตัวคุณย่าอี้ส่งโรงพยาบาล ท่านก็ได้รับการช่วยชีวิต แต่จะฟื้นเมื่อไหร่นั้นก็ขึ้นอยู่กับตัวผู้ป่วยเองเจียงซงหวาเร่งเร้า “ย่าของแกไม่เป็นอะไรแล้ว ตอนนี้แกไปขอร้องโจวซือเหย่ซะ”เจียงซู่ไม่ได้ลุกขึ้น “รอคุณย่าฟื้นก่อนค่ะ”เจียงซงหวาพูดว่า “ฉันให้เวลาแกคืนหนึ่ง พรุ่งนี้ไม่ว่าจะฟื้นหรือไม่ก็ตาม แกต้องไปขอร้องโจวซือเหย่ให้ได้”เขาทิ้งท้ายคำพูดแล้วทำท่าทางราวกับรังเกียจความอัปมงคล ไม่อยากจะอยู่ต่อแม้แต่วินาทีเดียว เดินออกไปอย่างเด็ดเดี่ยวเจียงซู่กุมมือที่เหี่ยวย่นของคุณย่าไว้ ในใจเต็มไปด้วยความเจ็บปว

  • ฉันแท้ง... ในวันเกิดชู้รัก   บทที่ 126

    กิ๊กของเจียงเจียเหวินกลับไปแล้ว เหลือเพียงคนในตระกูลเจียงอยู่ในห้องวีไอพีเท่านั้นเสียงสะอื้นของเจียงเจียเหวินและเสียงหายใจหอบถี่ของเจียงซงหวาทำให้ความกดอากาศในห้องลดลงถึงจุดเยือกแข็งเมื่อละครตลกที่ไร้สาระนี้จบลง เจียงซู่ก็ไม่อยากจะอยู่ต่อแล้วเธอประคองคุณย่าเพื่อจะเดินออกไป ทว่าเธอเพิ่งจะลุกขึ้นยืน เจียงซงหวาก็เรียกไว้ “หยุดเดี๋ยวนี้!”เจียงซู่เอ่ยด้วยสีหน้าเรียบเฉยว่า “มีอะไรอีกไหมคะ?”เจียงซงหวาใช้อำนาจความเป็นพ่อสั่งว่า “เรื่องนี้แกจะจัดการยังไง?”เจียงซู่: “พ่อคะ พ่อถามผิดคนแล้วล่ะ”ตั้งแต่เกิดขึ้นเรื่องจนกระทั่งจบลง เรื่องทั้งหมดไม่เกี่ยวข้องกับเธอเลยสักนิดใบหน้าแก่ ๆ ของเจียงซงหวาดูไม่สู้ดีนัก “แกหมายความว่ายังไง? ตอนนี้โจวซือเหย่ยังคงเล่นงานตระกูลเจียงอยู่ แกคิดจะยืนดูเฉย ๆ ไม่ยื่นมือเข้ามาช่วยอย่างนั้นเหรอ? แกยังเป็นคนในตระกูลเจียงอยู่ไหม? อย่าลืมนะ ถ้าไม่มีฉัน แกอดตายไปนานแล้ว!”“อะไรกันเนี่ย นังลูกอกตัญญู”เจียงซู่: “ก่อนห้าขวบ แม่หนูเป็นคนเลี้ยงหนูค่ะ หลังห้าขวบ คุณย่าเป็นคนเลี้ยงหนูจนโต”เจียงซงหวา: “ถ้าไม่มีเงินของฉัน พวกเขาจะเอาอะไรมาเลี้ยงแก?!”เจียงซู่: “

  • ฉันแท้ง... ในวันเกิดชู้รัก   บทที่ 125

    เจียงซงหวาพูดเสียงหนัก “ลูกในท้องเหวินเหวิน เป็นลูกของนายแน่นอน!”“ผมไม่ได้แตะต้องลูกสาวคุณแม้แต่ปลายก้อย” โจวซือเหย่กล่าวเย้ยหยัน “ลูกสาวคุณมีความสามารถแบบนั้นจริง แต่ตระกูลโจวเราไม่เคยคิดจะเลี้ยงลูกให้คนอื่น”กล่าวจบ นอกจากโจวซือเหย่ ทุกคนต่างมีหน้าแตกต่างกันไป แม้แต่เจียงซู่เองยังเบิกตากว้างเขาหมายความว่ายังไง?เธอเห็นพวกเขานอนด้วยกันกับตาแท้ ๆ...เจียงซงหวาโกรธจัดทันที “นายไม่คิดจะรับผิดชอบงั้นเหรอ?”โจวซือเหย่: “ไม่ใช่ลูกผม ทำไมผมจะรับ?”จังหวะนั้นเอง ผู้ชายที่โจวซือเหย่ให้คนพาเข้ามาก็เปิดปากพูด “เจียงเจียเหวิน ทำไมเธอถึงให้ลูกของฉัน เรียกคนอื่นว่าพ่อล่ะ?! เธอทำแบบนี้ไม่ละอายใจต่อฉันบ้างเหรอ?”แม่เจียงถลึงตาพลางตะคอกใส่เขา “พูดเพ้อเจ้ออะไร? ถ้ายังใส่ร้ายลูกสาวฉันอีก ระวังฉันจะแจ้งตำรวจจับแก!”ผู้ชายคนนั้นสวนกลับทันควัน “ผมพูดเพ้อเจ้อหรือไม่ ก็ถามลูกสาวคุณดูก็รู้เอง! ผมกับเธอไม่รู้ว่านอนด้วยกันมากี่ครั้งแล้ว คืนนั้นที่โจวซือเหย่เมามาก ไม่ได้แตะเธอเลยด้วยซ้ำ เธออยากแสดงให้สมจริงและให้ตรงกับช่วงเวลาที่จะตั้งท้อง คืนนั้นเธอยังจงใจมาหาผม คืนนั้น เราเอากันตลอดทั้งคืน”“เจียงเ

  • ฉันแท้ง... ในวันเกิดชู้รัก   บทที่ 124

    โจวซือเหย่ยังคงนิ่งสงบ ราวกับกำลังคุยกันว่า คืนนี้จะกินอะไรดีเจียงเจียเหวินกลับไม่ใจเย็นแบบนั้น ถึงกับหัวใจสั่นวูบเมื่อโดนสายตาเย็นเฉียบของเขามองมา เธอกลืนน้ำลายที่ไม่มีอยู่จริง จู่ ๆ ดวงตาเริ่มแดงก่ำขึ้น “พี่เขย ถึงเรื่องนี้จะผิดต่อพี่เค้า แต่พี่จะปฏิเสธลูกของตัวเองไม่ได้นะ พี่พูดแบบนี้ พี่กำลังอยากบีบให้พวกเราสองแม่ลูกไปตายนะคะ”แม่เจียงเห็นลูกสาวช้ำใจก็รู้สึกสงสาร “ซือเหย่ เป็นผู้ชายกล้าทำก็ต้องกล้ารับหน่อยสิ จะได้แล้วทิ้งแบบนี้ไม่ได้นะ!”เจียงเจียเหวินกัดฟันแน่น “ถ้าพี่จะไม่ยอมรับ ฉันก็จะพาลูกไปตายด้วย!”พูดจบ เธอก็ทำท่าจะวิ่งออกไปแม่เจียงเห็นดังนั้นก็รีบคว้าไว้ทันที “เหวินเหวิน! คนดีของแม่ ลูกพูดอะไรออกมาน่ะ? อะไรคือตายไม่ตาย? ถ้าลูกตาย แล้วแม่กับพ่อจะอยู่ยังไง? ลูกเป็นลูกสาวคนเดียวของแม่นะ!”สองแม่ลูกร้องไห้ฟูมฟาย ทำตัวราวกับกำลังแสดงละครโศกนาฏกรรมแม่เจียงกอดเจียงเจียเหวินแน่น แล้วหันไปจ้องโจวซือเหย่ “ถ้านายไม่ยอมรับเด็กคนนี้ล่ะก็ ฉันจะไปหาคุณท่านโจว! นี่เป็นเหลนคนแรกของท่านนะ! ฉันไม่เชื่อว่าคนใจดีแบบท่าน จะปล่อยให้นายบีบลูกสาวฉันไปตาย!”เจียงซงหวาขัดภรรยาได้จังหวะเหมา

  • ฉันแท้ง... ในวันเกิดชู้รัก   บทที่ 123

    แม่เจียงรีบเสริมทันที “ฉันบอกแล้วว่าเด็กคนนี้มันอกตัญญู โตมาก็เลี้ยงไม่เชื่อง ตอนนั้นคุณควรทิ้งมันไปตั้งแต่วันนั้นแล้ว แถมยังเสียเงินมากมายไปกับมันเปล่า ๆ ไม่ได้ประโยชน์อะไรกลับมาเลยสักนิด!”ทั้งครอบครัวเป็นใจเดียวกัน ต่างรุมประณามเจียงซูไม่เว้นคำเจียงซงหวาถึงกับไปหาความช่วยเหลือจากภายนอกพอได้รับโทรศัพท์จากคุณย่า เจียงซู่ถึงรู้ว่าพวกเขาลากเรื่องทั้งหมดไปกดดันผู้ใหญ่ท่านแล้วที่โรงพยาบาลคุณย่าอี้จับมือเธอไว้แน่น พลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความสงสาร “ลำบากหนูมากแล้ว”พอได้ยินประโยคนั้น จมูกของเจียงซู่ก็แอบร้อนผ่าวขึ้นมา ตั้งแต่เรื่องเกิดจนถึงตอนนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนสนใจความรู้สึกของเธอจริง ๆโจวซือเหย่มองว่าเธอคิดร้ายตระกูลเจียงคิดว่าเธอไม่สำนึกบุณคุณแต่ไม่มีใครคิดเลยว่าเธอต่างหากที่เจ็บหนักที่สุดในเรื่องนี้คุณย่าอี้ถอนหายใจ “เป็นความผิดของย่าเอง ที่สอนพ่อของหนูไม่ดี”ความจริงคุณย่าอี้เป็นคนมีการศึกษา สมัยสาว ๆ เป็นถึงครูสอนหนังสือ ในยุคสมัยของท่าน ผู้หญิงน้อยคนนักที่จะได้เรียนหนังสือคนมีการศึกษา แต่กลับเลี้ยงลูกชายออกมาเป็นพวกเห็นแก่ได้แต่งงานครั้งแรกเป็น

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status