공유

บทที่ 8

작가: คุณชายสายฝน
เธอไม่ได้บอกโจวซือเหย่เรื่องที่เจียงซงหวาให้เธอพาเขากลับไปทานข้าวที่บ้าน

เมื่อขับรถกลับมาถึงบ้านตระกูลเจียง คนที่มาเปิดประตูให้คือ เจียงเจียเหวิน

เจียงเจียเหวินเป็นลูกสาวของเจียงซงหวากับภรรยาคนที่สอง เธออายุน้อยกว่าเจียงซู่สี่ปี

คนที่เคยยิ้มแย้มสดใส เมื่อเห็นว่าเจียงซู่มาคนเดียว ใบหน้าของเธอก็บูดบึ้งในทันที “ทำไมมีแค่พี่ล่ะ?”

“ลูกเขยกลับมาแล้ว”

เสียงของเจียงซงหวาดังมาจากในบ้าน

เมื่อเห็นเจียงซู่ ทั้งพ่อและลูกสาวมีสีหน้าเหมือนกัน

“ลูกเขยล่ะ?”

เจียงซู่ตอบว่า “เขามีงาน มาไม่ได้ค่ะ”

ได้ยินดังนั้น เจียงซงหวาก็มีสีหน้าผิดหวัง

แต่เจียงเจียเหวินกลับเบ้ปาก “ไม่ใช่ว่าพี่ไม่ได้บอกพี่เขยเลยด้วยซ้ำหรอกนะ”

เมื่อคำพูดนี้หลุดออกมา สายตาของเจียงซงหวาก็เริ่มมองสำรวจทันที

เมื่อมองดูเจียงเจียเหวินที่แต่งตัวสวยหรู เจียงซู่ก็เข้าใจเหตุผลที่เธออาสามาเปิดประตู

น้องสาวคนนี้กำลังจ้องเขมือบพี่เขย

ปีนั้น ตอนที่เธอรู้ว่าเจียงซู่จะไปแต่งงานเพื่อแก้เคล็ด เธอยังหัวเราะเยาะอยู่นาน ต่อมาเมื่อเห็นว่าเจียงซู่ไม่ได้กลายเป็นหม้าย เธอก็เริ่มอิจฉา เพราะตระกูลโจวมีฐานะสูงส่งเกินไป

เจียงเจียเหวินตั้งใจที่จะแย่งชิงและเข้ามาแทนที่ไม่ได้เกิดขึ้นแค่วันสองวัน

เจียงซงหวาหน้าบึ้ง “อย่าลืมว่าแกเกิดมาจากที่ไหน! ถ้าตระกูลเจียงดี ฐานะของแกในตระกูลโจวก็จะสูงไปด้วย”

เธอไม่ได้เพิ่งได้ยินคำพูดที่ผูกมัดด้วยคุณธรรมสูงส่งแบบนี้เป็นครั้งแรก

เจียงซู่ยังคงทำตัวว่าง่ายเหมือนเดิม “พ่อคะ หนูไม่ใช่คนแบบนั้น”

เมื่อเห็นท่าทีที่นอบน้อมของเธอ เจียงซงหวาก็เลิกมองด้วยสายตาที่พินิจพิเคราะห์

จริงอยู่ ลูกบุญธรรมคนนี้ไม่ใช่คนกล้าหาญ

เมื่อตัวเอกของงานเลี้ยงไม่อยู่ การทานอาหารมื้อนี้ก็ไม่มีความจำเป็นอีกต่อไป

เจียงซงหวายื่นแผนงานให้เจียงซู่พร้อมกับสั่งเธอราวกับหัวหน้าสั่งลูกน้องว่า “แกต้องให้ลูกเขยตอบตกลงโดยเร็วที่สุด”

พูดจบ เขาก็โบกมือไล่ให้เธอกลับไป

เจียงซู่ยืนอยู่ที่เดิมพร้อมถือแฟ้มแผนงานไว้ในมือ ในขณะพวกเขาสามคนในครอบครัวกำลังนั่งที่โต๊ะอาหารอย่างมีความสุข

ส่วนเธอ เป็นแค่คนนอก

ภาพแบบนี้เป็นเรื่องปกติมาตั้งแต่เจียงซงหวาแต่งงานใหม่ ตอนเด็ก ๆ เพราะการถูกกีดกันแบบนี้ เธอเคยร้องไห้ เสียใจ และเคยถาม

แต่สิ่งที่ได้รับคือการรังแกและดูถูกจากเจียงเจียเหวิน สองแม่ลูก รวมถึงความเฉยเมยของเจียงซงหวา เมื่อเธอยังเป็นเด็กตัวเล็ก ๆ เธอจึงยอมรับความจริงได้อย่างรวดเร็ว และเข้าใจว่าตัวเองมีค่าไม่เท่าสุนัขที่เจียงเจียเหวินเลี้ยงไว้

ถ้าไม่ใช่เพราะคุณย่า เธอคงถูกเจียงซงหวาไล่ออกจากบ้านไปพเนจรข้างนอกนานแล้ว

เจียงซู่หันหลังออกจากบ้านตระกูลเจียงท่ามกลางเสียงหัวเราะอย่างมีความสุขของพวกเขา

เจียงเจียเหวินมองดูแผ่นหลังของเธอแล้วหัวเราะเยาะ “เสแสร้ง”

“พ่อคะ ตอนนั้นที่ตกลงแต่งงานกับตระกูลโจว พ่อควรให้หนูไปนะ ถ้าเป็นหนูที่แต่งงานกับโจวซือเหย่ ตระกูลของเราต้องมีฐานะสูงกว่านี้แน่นอน”

ในความคิดของเธอ เจียงซู่แย่งตำแหน่งคุณผู้หญิงโจวไปจากเธอ!

ถ้าไม่ใช่เพราะเจียงซู่มีสถานะเป็นลูกสาวคนโตของตระกูลเจียง เรื่องดี ๆ แบบนี้คงไม่มาถึงเธอหรอก

เจียงซงหวาพูดว่า “ตอนนั้นลูกอายุแค่สิบเก้าเอง”

ยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องอายุที่ไม่เหมาะสม แต่ถึงแม้จะเหมาะสม ดวงของเธอก็ไม่ตรงกับความต้องการของตระกูลโจวอยู่แล้ว

ทำไมเขาจะไม่เคยคิดล่ะว่าลูกบุญธรรมของเขาจะโชคดีขนาดนี้ สามารถกระโดดข้ามรั้วมังกรได้

เจียงซงหวามองลูกสาวตัวเองและพูดอย่างมีนัยยะว่า “แต่ตอนนี้อายุของลูกเหมาะสมแล้ว”

ในโลกนี้ไม่มีผู้ชายคนไหนที่ไม่เจ้าชู้

ถ้าเจียเหวินอ่อยโจวซือเหย่ได้สำเร็จจริง ๆ งั้นเขาก็จะเป็นพ่อตาตัวจริงเสียงจริง

ส่วนเจียงซู่... ท้ายที่สุดก็เป็นแค่คนนอก

เมื่อได้รับการยอมรับ เจียงเจียเหวินก็เผลอเชิดหน้าขึ้น และคิดว่าตัวเองทำได้!

การที่พ่อให้ลูกสาวแท้ ๆ ไปแย่งสามีของลูกบุญธรรมนั้น ก็ไม่ยากที่จะเห็นว่ารากเหง้าของตระกูลเจียงเน่าเฟะแค่ไหน

เจียงซู่ไม่รู้ความคิดของคนในตระกูลเจียงเลย แต่ถึงรู้ก็คงไม่แปลกใจ

ระหว่างทางที่ขับรถออกจากบ้านตระกูลเจียง เธอรู้สึกปวดท้องน้อยกะทันหัน จากนั้นก็รู้สึกว่ามีของเหลวไหลออกมาข้างล่างจนเปียกชุ่ม เมื่อก้มลงมอง เธอก็เห็นว่ากางเกงของเธอเปื้อนเป็นสี

อาการปวดท้องน้อยยังคงดำเนินต่อไป เจียงซู่จึงจอดรถข้างทาง แล้วหยิบโทรศัพท์ออกมา โทรหาโจวซือเหย่เป็นคนแรก

ในเวลาเดียวกันนั้น โจวซือเหย่กำลังอยู่เป็นเพื่อนเวิงอี๋ที่โรงพยาบาล

เมื่อดูหน้าจอโทรศัพท์ โจวซือเหย่ยังไม่ทันได้รับสาย ก็ถูกเสียงของเวิงอี๋ดึงดูดเสียก่อน

“พี่ซือเหย่ ฉันปวดหัว”

เสียงของเวิงอี๋ฟังดูอ่อนแรงมาก

ได้ยินดังนั้น โจวซือเหย่ก็พูดขึ้นว่า “พี่จะให้หมอมาดู”

พูดจบ เขาก็เตรียมจะเดินออกไปเรียกหมอ แต่เวิงอี๋กลับพูดว่า “อย่าไปคะ! ฉันกลัว”

เมื่อเห็นเธอมีท่าทางตื่นตระหนกตกใจ เขาจึงตัดสินใจอยู่ต่อ และใช้ออดข้างเตียงเรียกหมอ ส่วนสายจากเจียงซู่ก็ถูกตัดไปนานแล้วตั้งแต่ตอนที่เวิงอี๋ร้องปวดหัว

เวิงอี๋เหลือบมองโทรศัพท์ที่โจวซือเหย่เก็บไป แล้วแสยะยิ้มมุมปากอย่างไร้ร่องรอย

เมื่อเจียงซู่ได้ยินเสียงสายว่าง ขนตาของเธอก็สั่นระริก และร่างกายก็หนาวเย็นลงกว่าเดิมเพราะเสียเลือด

เจียงซู่กัดฟันขับรถไปโรงพยาบาล ระหว่างทางเธอก็ได้ติดต่อไต้ซานเหอ เธอกลัวว่าจะช็อกตายเพราะเสียเลือดมาก แล้วจะไม่มีใครมาจัดการศพให้

โชคดีที่เธอดวงแข็ง ยังไม่ถึงขั้นช็อกตายเพราะเสียเลือดมาก

ส่วนสาเหตุที่เลือดออกกะทันหันนั้น เป็นเพราะเธอดื่มเหล้ามากเกินไปในช่วงที่แท้งลูก และยังถูกน้องสามีแกล้งให้แช่น้ำเย็น ทำให้ร่างกายบาดเจ็บและฟื้นตัวได้ไม่ดี

ไต้ซานเหอขมวดคิ้วพูดว่า “เรื่องที่แกแท้งลูก โจวซือเหย่รู้หรือเปล่า?”

ใบหน้าเล็ก ๆ ของเจียงซู่ซีดเผือด และดวงตาหม่นหมอง “เขาคงไม่สนใจที่จะรู้”

สำหรับเขาแล้ว เรื่องนี้คงไม่สำคัญ เพราะผู้หญิงที่สามารถให้กำเนิดลูกให้เขาได้ไม่ได้มีแค่เธอคนเดียว ตอนนี้ก็มีตัวเลือกที่ดีกว่าเธอแล้วไม่ใช่เหรอ

ไต้ซานเหอย่อมเข้าใจความหมายในคำพูดของเธอ และรู้สึกโกรธเคือง “ไอ้ผู้ชายสารเลว!”

หลังจากเฝ้าเจียงซู่ให้น้ำเกลือที่โรงพยาบาล พวกเธอก็ออกจากโรงพยาบาลพร้อมกัน

ที่โถงทางเข้าโรงพยาบาล

เมื่อสายตาของเจียงซู่กวาดมองไปยังจุดหนึ่ง เธอก็หยุดชะงักทันที

ทั้ง ๆ ที่โรงพยาบาลในเมืองเป่ยเฉิงมีตั้งมากมาย แต่เธอกลับโชคร้ายเจอโจวซือเหย่และเวิงอี๋ที่นี่

ตอนนี้เวิงอี๋เหมือนดอกบัวขาวที่อ่อนแอมาก ๆ โดยใช้โจวซือเหย่เป็นที่พึ่ง

มิน่าล่ะเขาถึงไม่รับสายเธอ ที่แท้ก็อยู่กับสาวสวยนี่เอง

“เป็นอะไรไป?” ไต้ซานเหอถามเมื่อเห็นเธอหยุดเดินกะทันหัน และเมื่อเห็นเธอมองไปยังจุดหนึ่งโดยไม่ขยับ เธอจึงมองตามไป

เมื่อเห็นเป้าหมาย ไต้ซานเหอก็หน้าบึ้งทันที

บ้าจริง! ซวยจริง ๆ!

อาจเป็นเพราะสายตาของพวกเธอมองแรงเกินไป จึงดึงดูดความสนใจของโจวซือเหย่

ทันทีที่เขาหันหน้ามาก็สบตากับเจียงซู่พอดี

คิ้วของโจวซือเหย่ขมวดเล็กน้อยแทบมองไม่เห็น แล้วเดินเข้ามาหา แล้วเปิดปากถามด้วยน้ำเสียงคาดคั้นว่า

“คุณมาทำอะไรที่นี่?”

เมื่อเวิงอี๋เห็นเธอ ก็เดินเข้ามาทักทายก่อนและพูดด้วยรอยยิ้มว่า “พี่เจียงซู่ พี่มาเยี่ยมฉันเหรอคะ?”

“พี่รู้ได้ยังไงว่าฉันอยู่ที่นี่? พี่ซือเหย่บอกพี่เหรอคะ?”

ประโยคหลังนี้ ดูเหมือนจะถามเจียงซู่ แต่จริง ๆ แล้วคือพูดให้โจวซือเหย่ฟัง

แต่เธอรู้ดีว่าโจวซือเหย่ไม่มีทางบอกแน่ ๆ ดังนั้นการที่เจียงซู่ปรากฏตัวที่นี่ก็แสดงว่าสะกดรอยตามน่ะสิ

เห็นได้ชัดว่าโจวซือเหย่ก็คิดแบบนั้นจริง ๆ

ถ้าสะกดรอยตามจริง เขาก็จะรู้สึกไม่พอใจ

เป็นสามีภรรยากันมาห้าปี จะบอกว่าเข้าใจโจวซือเหย่มากแค่ไหนก็ไม่ถึงขนาดนั้น แต่เจียงซู่ก็ไม่ถึงกับตาบอดจนไม่เห็นอารมณ์ที่ชัดเจนของเขา

ยิ่งค้นพบความจริงนี้มากเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งรู้สึกอึดอัดใจมากขึ้นเท่านั้น

ไม่ว่าจะยังไง ตอนนี้เธอก็เป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของเขา แต่เขาไม่คิดจะรักษาหน้าของเธอสักนิดเลยเหรอ?

“พี่ซือเหย่ ดูสิคะ ฉันถึงได้บอกว่าพี่เจียงซู่เป็นคนดี เรื่องเมื่อวานพี่เจียงซู่ไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายฉันแน่นอน”

เจียงซู่มองดูเวิงอี๋ที่คล้องแขนของโจวซือเหย่ เขาไม่ชอบให้ผู้หญิงอื่นแตะต้องร่างกายต่อหน้าคนอื่น รวมถึงภรรยาอย่างเธอด้วย เธอกำลังรอให้โจวซือเหย่สะบัดมือออก แต่เขากลับไม่ขยับเลย

ที่แท้ไม่ใช่ว่าเขาไม่ชอบ แต่แค่เธอไม่ได้รับอนุญาต
이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • ฉันแท้ง... ในวันเกิดชู้รัก   บทที่ 90

    เจียงซู่ไม่ได้สนใจว่าพวกเขาสองพ่อลูกกำลังคิดอะไรอยู่ แต่คุณย่า...เธอโบกมือให้คนมาช่วยขนกระเป๋าสัมภาระต่าง ๆ ให้อีกคนเจียงเจียเหวินเชิดคอด้วยท่าทางภาคภูมิใจพร้อมกับเดินเข้าไปในห้องรับรองโจวซือเหย่กลับมาถึงบ้านในเวลาอาหารเย็น และเมื่อเขาเข้ามาในบ้าน ก็สังเกตเห็นเจียงเจียเหวินทันที“พี่เขย”เจียงเจียเหวินฉีกยิ้มกว้างพร้อมกับเดินเข้าไปหา “พี่กลับมาแล้วเหรอคะ? ฉันกับพี่เจียงกำลังจะทานอาหารเย็นพอดี แต่ฉันก็บอกพี่เจียงแล้วนะคะว่าให้รอพี่ก่อน แต่พี่เจียงก็บอกว่าไม่ต้องรอ แถมยังบอกว่าพี่จะไม่กลับมากินข้าวที่บ้านอีก”“ดูสิ เหมือนว่าพี่สาวเธอจะเดาผิดนะ เธอดูไม่สนใจอะไรเลย ไม่รอ ละไม่โทรถามด้วย”ระหว่างที่พูด เจียงเจียเหวินเดินไปหาอีกคนเพื่อรับเสื้อโค้ทที่โจวซือเหย่ถอดออก“เดี๋ยวฉันจัดการเอง”เมื่อพูดจบ เธอก็แย่งเสื้อโค้ทมาจากมือป้าเฉินป้าเฉิน “...”ป้าเฉินไม่เคยเห็นใครชอบแย่งงานทำขนาดนี้มาก่อนเจียงเจียเหวิน “ป้าเฉินคะ ไปหยิบตะเกียบกับชามเพิ่มอีกหนึ่งชุดให้พี่เขยหน่อยค่ะ”“พี่เขย นั่งตรงนี้นะคะ”เมื่อถึงโต๊ะอาหาร เจียงเจียเหวินดึงเก้าอี้ให้โจวซือเหย่ตำแหน่งที่เขานั่งคือฝั่งตรง

  • ฉันแท้ง... ในวันเกิดชู้รัก   บทที่ 89

    ในยามกลางคืนที่มืดดำสนิท ในห้องนอนที่เงียบสงดมีเสียงแปลก ๆ ดังขึ้น โจวซือเหย่พยายามปลุกเจียงซู่ที่มีท่าทางที่ไม่ปกติให้ตื่นเมื่อเจียงซู่ตื่น ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความสับสนและความหวาดกลัว ใบหน้าของเธอซีดเผือดหลังจากหลงอยู่ในห้วงของความฝันโจวซือเหย่ “ฝันร้ายเหรอ?”ใช่ เธอเพิ่งตื่นจากฝันร้ายจริง ๆ เธอฝันถึงอุบัติเหตุรถยนต์อีกแล้วเธออยากจะมองข้ามมัน อยากจะลืมมันไปให้พ้น ๆ แต่ทุกสิ่งทุกอย่างกลับตามมาหลอกหลอนเธอเหมือนเงาที่ตามติด ตั้งแต่ที่เกิดเรื่องขึ้น เจียงซู่จำไม่ได้แล้วว่านี่เป็นครั้งที่เท่าไหร่เธอบอกกับตัวเองซ้ำ ๆ ว่าทุกอย่างได้ผ่านไปแล้ว ตอนนี้ปลอดภัยแล้ว แต่เธอยังคงฝันร้ายเช่นนี้อยู่อย่างควบคุมไม่ได้เจียงซู่สูดอากาศหายใจเข้าลึก ๆ และหลับตาลง พร้อมกับกลืนน้ำลายอึกใหญ่จนลำคอขยับอย่างเห็นได้ชัด กลิ่นคาวเลือดที่อบอวลราวกับว่ายังคงวนเวียนอยู่ที่ปลายจมูก โจมตีเข้ากับระบบการรับกลิ่นของเธออย่างไม่หยุดยั้ง จนทำลายสัมผัสทั้งห้าของเธอจากการที่เขาได้ยินคำพูดละเมอตอนเธอตอนอยู่ในห้วงแห่งความฝัน ทำให้โจวซือเหย่รู้ได้ทันทีว่าเธอกำลังฝันถึงอะไรอยู่ แววตาของเขาฉายแววความสงสารจึงเอ่ยขึ้นมา

  • ฉันแท้ง... ในวันเกิดชู้รัก   บทที่ 88

    เมื่อคุณหญิงย่าเห็นเจียงซู่ที่กลับมาพร้อมกับขาที่บาดเจ็บ จึงมองเธอด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความสงสารจับใจ และหันไปตำหนิโจวซือเหย่ทันทีว่า “ทำไมไม่บอกย่าว่าเมียแกบาดเจ็บ? ถ้าย่ารู้ ย่าจะไม่ให้มาหรือไง แกดูแลเมียแกเป็นไหมเนี่ย?”โจวซือเหย่รับบททำตัวเป็นหลานชายผู้แสนดี “คุณย่าสอนถูกแล้วครับ เป็นความผิดของผมเอง”เจียงซู่พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล “คุณย่าคะ หนูไม่ได้เป็นอะไรมากค่ะ อาเหย่ดูแลหนูดีค่ะ”หากต้องพูดถึงการหย่าร้าง คนในตระกูลโจวทั้งหมดที่เธอรู้สึกเสียดายมากที่สุดก็คงเป็นคุณย่าโจวด้วยความรักและความเอ็นดูอย่างแท้จริงที่คุณย่ามีให้แก่หลานสะใภ้ที่ถูกซื้อมาคนนี้ จึงทำให้เธอยอมให้ความร่วมมือกับโจวซือเหย่เล่นละครเพื่อเอาใจคุณหญิงย่าเหวินเหยาฉินที่ยืนอยู่ข้าง ๆ มองเจียงซู่ที่กำลังนั่งอยู่บนรถเข็น พร้อมกับขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย ทำไมถึงบาดเจ็บอีกแล้ว? สรุปร่างกายของเธอไหวไหมเนี่ย?เมื่อเห็นว่าเจียงซู่ผอมลง คุณหญิงย่าจึงสั่งให้ทางห้องครัวทำอาหารบำรุงมาให้เธอทานเยอะ ๆ และตกเย็นเมื่อถึงเวลากลับ ก็ยังจัดเตรียมอาหารเสริมมากมายใส่ขึ้นรถให้อีกด้วยคุณหญิงย่า “ถ้ากินหมดแล้วก็บอกย่านะ เดี๋ยวย่าส

  • ฉันแท้ง... ในวันเกิดชู้รัก   บทที่ 87

    เจียงซู่พยักหน้าอย่างเข้าใจ ก็เป็นผู้หญิงวัยผู้ใหญ่นี่นะเธอหยิบของขวัญออกมาจากกระเป๋าเดินทางที่เตรียมไว้ให้สำหรับไต้ซานเหอไต้ซานเหอหิ้วกระเป๋าลิมิเต็ดอิดิชั่นที่อีกคนให้ขึ้นมาอย่างพออกพอใจ พลางพูดขึ้นว่า “ทำไมไม่ซื้อมาหลาย ๆ ใบล่ะ? ทางที่ดีนะ ซื้อจนโจวซือเหย่ล้มละลายไปเลย! ถ้าแกไม่รีบใช้เงิน ถึงตอนนั้นก็จะตกไปเป็นของคนต่ำสถุน อย่างเวิงอี๋ละนะ”เธอประเมินความสามารถในการซื้อของตัวเองสูงเกินไป และประเมินสินทรัพย์ของโจวซือเหย่ต่ำไปเช่นกัน แค่กระเป๋าไม่กี่ใบ จะทำให้เขาล้มละลายได้อย่างไงกัน“ฉันหิวแล้ว”เมื่อมนุษย์ได้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ทำให้รู้สึกสบายใจ ก็จะรู้สึกเหนื่อยง่าย และเกิดความต้องการต่าง ๆ ได้ง่าย ความอยากอาหารก็เป็นหนึ่งในความต้องการนั้นเช่นกันเธอเป็นคนติดรสชาติอาหารจีนมาก อาหารต่างประเทศเธอไม่ค่อยชินเท่าไหร่ ทั้งร่างกายที่มีอาการบาดเจ็บประกอบกับสภาพอากาศรอบตัวที่ไม่คุ้นเคย การเดินทางครั้งนี้ จึงทำให้เจียงซู่ผอมลง น้ำหนักหายไปหลายกิโลกรัมฝีมือการทำอาหารของไต้ซานเหอไม่เลวเลย เธอทำแต่อาหารที่เจียงซู่ชอบแต่ทว่า เธอยังไม่ทันได้อ้าปากลิ้มรสอาหารที่อยู่ตรงหน้าสักคำเดียว โจ

  • ฉันแท้ง... ในวันเกิดชู้รัก   บทที่ 86

    “พี่เจียงคะ เดี๋ยวฉันช่วยเข็นพี่เข้าไปพักผ่อนข้างในนะคะ ฉันจะบอกพี่ให้ ว่าที่นี่หรูหรามาก ข้าวของเครื่องใช้ครบครัน ถ้าพี่ต้องการอะไรบอกฉันได้เลยนะคะ เดี๋ยวฉันช่วย...”เวิงอี๋แสดงท่าทีราวกับเป็นเจ้าของเครื่องบินเจียงซู่ยกมือขึ้นเพื่อเป็นสัญญาณให้อีกคนหยุดพูด พร้อมกับพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ตามีปัญหาหรือไง?”เวิงอี๋ได้ยินดังนั้นจึงชะงักขึ้นมาทันที และพูดต่อด้วยน้ำเสียงที่งงงวยว่า “หมายความว่าไงคะ?”เจียงซู่พูดตอบกลับ “ดูไม่ออกเหรอว่าฉันไม่ชอบเธอ”เธอกำลังรำคาญอยู่ เวิงอี๋ดูไม่ออกได้อย่างไร?“พี่เจียง...”เวิงอี๋เบะปาก ทำท่าตะกุกตะกักเหมือนกำลังถูกรังแก และใบหน้าที่เต็มไปด้วยความน้อยใจในตอนนั้น โจวซือเหย่จึงพูดเข้าข้างเวิงอี๋ว่า “เธอก็แค่อยากดูแลคุณเท่านั้นเอง ไม่ได้มีเจตนาไม่ดีสักหน่อย”เจียงซู่มองเขาที่กำลังเข้าข้างอีกคนด้วยแววตาเยาะเย้ย ไม่รู้ว่าเขาไม่เห็นความคิดแอบแฝงของเวิงอี๋จริง ๆ? หรือแค่แสร้งทำเป็นมองไม่เห็นกันแน่?เธอต้องการความช่วยเหลือจากเวิงอี๋เหรอ?ถึงแม้เธอจะตายและเอาศพไปทิ้งกลางป่า ก็คงไม่ถึงคราวที่ชู้ต้องมาเอาศพให้หรอก เว้นก็เสียแต่ พวกเขารู้สึกว่าเธอตา

  • ฉันแท้ง... ในวันเกิดชู้รัก   บทที่ 85

    “ผมรู้”เขารู้เรื่องทั้งหมด เลขาหลู่เป็นคนบอกเขาเองทั้งหมดแล้วโจวซือเหย่ตอนแรกเห็นว่าเจียงซู่ไม่เป็นอะไร จริง ๆ แล้วเขาดีใจด้วยซ้ำ ดีใจที่เธอไม่เป็นอะไรมากแต่ว่าหลังจากรู้เรื่องที่เธอประสบอุบัติเหตุรถชน เขาก็รู้สึกเจ็บปวดใจขึ้นมาอีกครั้ง เพราะเขาไม่เคยคิดเลยว่าจะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นใบหน้าของเจียงซู่ไม่ได้ดีขึ้นเพราะเรื่องนี้ ในทางกลับกันยิ่งเปลี่ยนเป็นแย่ลงกว่าเดิม เพราะความสงสารที่เขาแสดงออกมาในเวลานี้ สำหรับเธอแล้วทั้งหมดนี้มันคือการถูกเยาะเย้ยมิตรภาพที่มาช้ามันดูไร้ค่ายิ่งกว่าหญ้าอีกโจวซือเหย่พูดขึ้น “ครั้งนี้มันเป็นแค่อุบัติเหตุ ต่อไปผมจะไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก”“ความบังเอิญที่มากเกินไปก็ไม่ใช่ว่าความบังเอิญ เหตุผลเดียวกัน เรื่องอุบัติเหตุก็เช่นกัน” เจียงซู่ยกมุมปากขึ้นด้วยท่าทางเยาะเย้ย “ระหว่างฉันกับเวิงอี๋ คุณจะเลือกใคร จริง ๆ แล้วในใจคุณรู้ตั้งแต่แรกอยู่แล้วว่าคุณเลือกใคร”ตอนนี้เขาก็แค่ทำตัวเป็นเหมือนขงเบ้งหลังเกิดเหตุ เพื่อที่จะรักษาศักดิ์ศรีตัวเองเอาไว้แววตาของเจียงซู่สิ้นหวัง เธอเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่แฝงการอ้อนวอนขอร้อง “เป็นสามีภรรยากันมาก็ห้าปี เห็น

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status