Share

บทที่ 8

Penulis: คุณชายสายฝน
เธอไม่ได้บอกโจวซือเหย่เรื่องที่เจียงซงหวาให้เธอพาเขากลับไปทานข้าวที่บ้าน

เมื่อขับรถกลับมาถึงบ้านตระกูลเจียง คนที่มาเปิดประตูให้คือ เจียงเจียเหวิน

เจียงเจียเหวินเป็นลูกสาวของเจียงซงหวากับภรรยาคนที่สอง เธออายุน้อยกว่าเจียงซู่สี่ปี

คนที่เคยยิ้มแย้มสดใส เมื่อเห็นว่าเจียงซู่มาคนเดียว ใบหน้าของเธอก็บูดบึ้งในทันที “ทำไมมีแค่พี่ล่ะ?”

“ลูกเขยกลับมาแล้ว”

เสียงของเจียงซงหวาดังมาจากในบ้าน

เมื่อเห็นเจียงซู่ ทั้งพ่อและลูกสาวมีสีหน้าเหมือนกัน

“ลูกเขยล่ะ?”

เจียงซู่ตอบว่า “เขามีงาน มาไม่ได้ค่ะ”

ได้ยินดังนั้น เจียงซงหวาก็มีสีหน้าผิดหวัง

แต่เจียงเจียเหวินกลับเบ้ปาก “ไม่ใช่ว่าพี่ไม่ได้บอกพี่เขยเลยด้วยซ้ำหรอกนะ”

เมื่อคำพูดนี้หลุดออกมา สายตาของเจียงซงหวาก็เริ่มมองสำรวจทันที

เมื่อมองดูเจียงเจียเหวินที่แต่งตัวสวยหรู เจียงซู่ก็เข้าใจเหตุผลที่เธออาสามาเปิดประตู

น้องสาวคนนี้กำลังจ้องเขมือบพี่เขย

ปีนั้น ตอนที่เธอรู้ว่าเจียงซู่จะไปแต่งงานเพื่อแก้เคล็ด เธอยังหัวเราะเยาะอยู่นาน ต่อมาเมื่อเห็นว่าเจียงซู่ไม่ได้กลายเป็นหม้าย เธอก็เริ่มอิจฉา เพราะตระกูลโจวมีฐานะสูงส่งเกินไป

เจียงเจียเหวินตั้งใจที่จะแย่งชิงและเข้ามาแทนที่ไม่ได้เกิดขึ้นแค่วันสองวัน

เจียงซงหวาหน้าบึ้ง “อย่าลืมว่าแกเกิดมาจากที่ไหน! ถ้าตระกูลเจียงดี ฐานะของแกในตระกูลโจวก็จะสูงไปด้วย”

เธอไม่ได้เพิ่งได้ยินคำพูดที่ผูกมัดด้วยคุณธรรมสูงส่งแบบนี้เป็นครั้งแรก

เจียงซู่ยังคงทำตัวว่าง่ายเหมือนเดิม “พ่อคะ หนูไม่ใช่คนแบบนั้น”

เมื่อเห็นท่าทีที่นอบน้อมของเธอ เจียงซงหวาก็เลิกมองด้วยสายตาที่พินิจพิเคราะห์

จริงอยู่ ลูกบุญธรรมคนนี้ไม่ใช่คนกล้าหาญ

เมื่อตัวเอกของงานเลี้ยงไม่อยู่ การทานอาหารมื้อนี้ก็ไม่มีความจำเป็นอีกต่อไป

เจียงซงหวายื่นแผนงานให้เจียงซู่พร้อมกับสั่งเธอราวกับหัวหน้าสั่งลูกน้องว่า “แกต้องให้ลูกเขยตอบตกลงโดยเร็วที่สุด”

พูดจบ เขาก็โบกมือไล่ให้เธอกลับไป

เจียงซู่ยืนอยู่ที่เดิมพร้อมถือแฟ้มแผนงานไว้ในมือ ในขณะพวกเขาสามคนในครอบครัวกำลังนั่งที่โต๊ะอาหารอย่างมีความสุข

ส่วนเธอ เป็นแค่คนนอก

ภาพแบบนี้เป็นเรื่องปกติมาตั้งแต่เจียงซงหวาแต่งงานใหม่ ตอนเด็ก ๆ เพราะการถูกกีดกันแบบนี้ เธอเคยร้องไห้ เสียใจ และเคยถาม

แต่สิ่งที่ได้รับคือการรังแกและดูถูกจากเจียงเจียเหวิน สองแม่ลูก รวมถึงความเฉยเมยของเจียงซงหวา เมื่อเธอยังเป็นเด็กตัวเล็ก ๆ เธอจึงยอมรับความจริงได้อย่างรวดเร็ว และเข้าใจว่าตัวเองมีค่าไม่เท่าสุนัขที่เจียงเจียเหวินเลี้ยงไว้

ถ้าไม่ใช่เพราะคุณย่า เธอคงถูกเจียงซงหวาไล่ออกจากบ้านไปพเนจรข้างนอกนานแล้ว

เจียงซู่หันหลังออกจากบ้านตระกูลเจียงท่ามกลางเสียงหัวเราะอย่างมีความสุขของพวกเขา

เจียงเจียเหวินมองดูแผ่นหลังของเธอแล้วหัวเราะเยาะ “เสแสร้ง”

“พ่อคะ ตอนนั้นที่ตกลงแต่งงานกับตระกูลโจว พ่อควรให้หนูไปนะ ถ้าเป็นหนูที่แต่งงานกับโจวซือเหย่ ตระกูลของเราต้องมีฐานะสูงกว่านี้แน่นอน”

ในความคิดของเธอ เจียงซู่แย่งตำแหน่งคุณผู้หญิงโจวไปจากเธอ!

ถ้าไม่ใช่เพราะเจียงซู่มีสถานะเป็นลูกสาวคนโตของตระกูลเจียง เรื่องดี ๆ แบบนี้คงไม่มาถึงเธอหรอก

เจียงซงหวาพูดว่า “ตอนนั้นลูกอายุแค่สิบเก้าเอง”

ยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องอายุที่ไม่เหมาะสม แต่ถึงแม้จะเหมาะสม ดวงของเธอก็ไม่ตรงกับความต้องการของตระกูลโจวอยู่แล้ว

ทำไมเขาจะไม่เคยคิดล่ะว่าลูกบุญธรรมของเขาจะโชคดีขนาดนี้ สามารถกระโดดข้ามรั้วมังกรได้

เจียงซงหวามองลูกสาวตัวเองและพูดอย่างมีนัยยะว่า “แต่ตอนนี้อายุของลูกเหมาะสมแล้ว”

ในโลกนี้ไม่มีผู้ชายคนไหนที่ไม่เจ้าชู้

ถ้าเจียเหวินอ่อยโจวซือเหย่ได้สำเร็จจริง ๆ งั้นเขาก็จะเป็นพ่อตาตัวจริงเสียงจริง

ส่วนเจียงซู่... ท้ายที่สุดก็เป็นแค่คนนอก

เมื่อได้รับการยอมรับ เจียงเจียเหวินก็เผลอเชิดหน้าขึ้น และคิดว่าตัวเองทำได้!

การที่พ่อให้ลูกสาวแท้ ๆ ไปแย่งสามีของลูกบุญธรรมนั้น ก็ไม่ยากที่จะเห็นว่ารากเหง้าของตระกูลเจียงเน่าเฟะแค่ไหน

เจียงซู่ไม่รู้ความคิดของคนในตระกูลเจียงเลย แต่ถึงรู้ก็คงไม่แปลกใจ

ระหว่างทางที่ขับรถออกจากบ้านตระกูลเจียง เธอรู้สึกปวดท้องน้อยกะทันหัน จากนั้นก็รู้สึกว่ามีของเหลวไหลออกมาข้างล่างจนเปียกชุ่ม เมื่อก้มลงมอง เธอก็เห็นว่ากางเกงของเธอเปื้อนเป็นสี

อาการปวดท้องน้อยยังคงดำเนินต่อไป เจียงซู่จึงจอดรถข้างทาง แล้วหยิบโทรศัพท์ออกมา โทรหาโจวซือเหย่เป็นคนแรก

ในเวลาเดียวกันนั้น โจวซือเหย่กำลังอยู่เป็นเพื่อนเวิงอี๋ที่โรงพยาบาล

เมื่อดูหน้าจอโทรศัพท์ โจวซือเหย่ยังไม่ทันได้รับสาย ก็ถูกเสียงของเวิงอี๋ดึงดูดเสียก่อน

“พี่ซือเหย่ ฉันปวดหัว”

เสียงของเวิงอี๋ฟังดูอ่อนแรงมาก

ได้ยินดังนั้น โจวซือเหย่ก็พูดขึ้นว่า “พี่จะให้หมอมาดู”

พูดจบ เขาก็เตรียมจะเดินออกไปเรียกหมอ แต่เวิงอี๋กลับพูดว่า “อย่าไปคะ! ฉันกลัว”

เมื่อเห็นเธอมีท่าทางตื่นตระหนกตกใจ เขาจึงตัดสินใจอยู่ต่อ และใช้ออดข้างเตียงเรียกหมอ ส่วนสายจากเจียงซู่ก็ถูกตัดไปนานแล้วตั้งแต่ตอนที่เวิงอี๋ร้องปวดหัว

เวิงอี๋เหลือบมองโทรศัพท์ที่โจวซือเหย่เก็บไป แล้วแสยะยิ้มมุมปากอย่างไร้ร่องรอย

เมื่อเจียงซู่ได้ยินเสียงสายว่าง ขนตาของเธอก็สั่นระริก และร่างกายก็หนาวเย็นลงกว่าเดิมเพราะเสียเลือด

เจียงซู่กัดฟันขับรถไปโรงพยาบาล ระหว่างทางเธอก็ได้ติดต่อไต้ซานเหอ เธอกลัวว่าจะช็อกตายเพราะเสียเลือดมาก แล้วจะไม่มีใครมาจัดการศพให้

โชคดีที่เธอดวงแข็ง ยังไม่ถึงขั้นช็อกตายเพราะเสียเลือดมาก

ส่วนสาเหตุที่เลือดออกกะทันหันนั้น เป็นเพราะเธอดื่มเหล้ามากเกินไปในช่วงที่แท้งลูก และยังถูกน้องสามีแกล้งให้แช่น้ำเย็น ทำให้ร่างกายบาดเจ็บและฟื้นตัวได้ไม่ดี

ไต้ซานเหอขมวดคิ้วพูดว่า “เรื่องที่แกแท้งลูก โจวซือเหย่รู้หรือเปล่า?”

ใบหน้าเล็ก ๆ ของเจียงซู่ซีดเผือด และดวงตาหม่นหมอง “เขาคงไม่สนใจที่จะรู้”

สำหรับเขาแล้ว เรื่องนี้คงไม่สำคัญ เพราะผู้หญิงที่สามารถให้กำเนิดลูกให้เขาได้ไม่ได้มีแค่เธอคนเดียว ตอนนี้ก็มีตัวเลือกที่ดีกว่าเธอแล้วไม่ใช่เหรอ

ไต้ซานเหอย่อมเข้าใจความหมายในคำพูดของเธอ และรู้สึกโกรธเคือง “ไอ้ผู้ชายสารเลว!”

หลังจากเฝ้าเจียงซู่ให้น้ำเกลือที่โรงพยาบาล พวกเธอก็ออกจากโรงพยาบาลพร้อมกัน

ที่โถงทางเข้าโรงพยาบาล

เมื่อสายตาของเจียงซู่กวาดมองไปยังจุดหนึ่ง เธอก็หยุดชะงักทันที

ทั้ง ๆ ที่โรงพยาบาลในเมืองเป่ยเฉิงมีตั้งมากมาย แต่เธอกลับโชคร้ายเจอโจวซือเหย่และเวิงอี๋ที่นี่

ตอนนี้เวิงอี๋เหมือนดอกบัวขาวที่อ่อนแอมาก ๆ โดยใช้โจวซือเหย่เป็นที่พึ่ง

มิน่าล่ะเขาถึงไม่รับสายเธอ ที่แท้ก็อยู่กับสาวสวยนี่เอง

“เป็นอะไรไป?” ไต้ซานเหอถามเมื่อเห็นเธอหยุดเดินกะทันหัน และเมื่อเห็นเธอมองไปยังจุดหนึ่งโดยไม่ขยับ เธอจึงมองตามไป

เมื่อเห็นเป้าหมาย ไต้ซานเหอก็หน้าบึ้งทันที

บ้าจริง! ซวยจริง ๆ!

อาจเป็นเพราะสายตาของพวกเธอมองแรงเกินไป จึงดึงดูดความสนใจของโจวซือเหย่

ทันทีที่เขาหันหน้ามาก็สบตากับเจียงซู่พอดี

คิ้วของโจวซือเหย่ขมวดเล็กน้อยแทบมองไม่เห็น แล้วเดินเข้ามาหา แล้วเปิดปากถามด้วยน้ำเสียงคาดคั้นว่า

“คุณมาทำอะไรที่นี่?”

เมื่อเวิงอี๋เห็นเธอ ก็เดินเข้ามาทักทายก่อนและพูดด้วยรอยยิ้มว่า “พี่เจียงซู่ พี่มาเยี่ยมฉันเหรอคะ?”

“พี่รู้ได้ยังไงว่าฉันอยู่ที่นี่? พี่ซือเหย่บอกพี่เหรอคะ?”

ประโยคหลังนี้ ดูเหมือนจะถามเจียงซู่ แต่จริง ๆ แล้วคือพูดให้โจวซือเหย่ฟัง

แต่เธอรู้ดีว่าโจวซือเหย่ไม่มีทางบอกแน่ ๆ ดังนั้นการที่เจียงซู่ปรากฏตัวที่นี่ก็แสดงว่าสะกดรอยตามน่ะสิ

เห็นได้ชัดว่าโจวซือเหย่ก็คิดแบบนั้นจริง ๆ

ถ้าสะกดรอยตามจริง เขาก็จะรู้สึกไม่พอใจ

เป็นสามีภรรยากันมาห้าปี จะบอกว่าเข้าใจโจวซือเหย่มากแค่ไหนก็ไม่ถึงขนาดนั้น แต่เจียงซู่ก็ไม่ถึงกับตาบอดจนไม่เห็นอารมณ์ที่ชัดเจนของเขา

ยิ่งค้นพบความจริงนี้มากเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งรู้สึกอึดอัดใจมากขึ้นเท่านั้น

ไม่ว่าจะยังไง ตอนนี้เธอก็เป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของเขา แต่เขาไม่คิดจะรักษาหน้าของเธอสักนิดเลยเหรอ?

“พี่ซือเหย่ ดูสิคะ ฉันถึงได้บอกว่าพี่เจียงซู่เป็นคนดี เรื่องเมื่อวานพี่เจียงซู่ไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายฉันแน่นอน”

เจียงซู่มองดูเวิงอี๋ที่คล้องแขนของโจวซือเหย่ เขาไม่ชอบให้ผู้หญิงอื่นแตะต้องร่างกายต่อหน้าคนอื่น รวมถึงภรรยาอย่างเธอด้วย เธอกำลังรอให้โจวซือเหย่สะบัดมือออก แต่เขากลับไม่ขยับเลย

ที่แท้ไม่ใช่ว่าเขาไม่ชอบ แต่แค่เธอไม่ได้รับอนุญาต
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ฉันแท้ง... ในวันเกิดชู้รัก   บทที่ 100

    เจียงซู่ดันชามโจ๊กทะเลตรงหน้าออกไป “ฉันอยากกินก๋วยเตี๋ยวเนื้อ”โจวซือเหย่มีสีหน้าอึ้งไปเล็กน้อย เขายังคงรอคำขอบคุณจากเจียงซู่ แต่ไม่คิดว่าจะได้คำพูดที่ทำให้เขาอารมณ์เสียป้าเฉินได้ยินดังนั้น สีหน้าก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย เธอแอบชำลืองมองโจวซือเหย่ และพยายามที่จะช่วยคลี่คลาย “คุณผู้หญิงคะ การทำก๋วยเตี๋ยวเนื้อสด ๆ ต้องใช้เวลามาก จะไม่ทันอาหารเช้านะคะ”เจียงซู่ “ไม่เป็นไรค่ะ ฉันรอได้”เมื่อได้ยินดังนั้น ป้าเฉินก็มองไปที่โจวซือเหย่อีกครั้ง แล้วโจวซือเหย่ก็โบกมือให้เธอไปทำเมื่อเห็นเช่นนี้ ป้าเฉินจึงไม่พูดอะไรอีกและรีบไปที่ห้องครัวโจวซือเหย่มองขาที่ยังคงเข้าเฝือกของเธอ “คุณไม่ต้องไปที่ทำงานแล้ว พักรักษาตัวที่บ้านให้ดี พอหายดีแล้ว ถ้ายังอยากทำงานเดิมอยู่ ผมจะจัดหาที่ทำงานใหม่ให้”เขาหมายความว่าไง?เขาคิดว่าการที่เธอมีเพศตรงข้ามอยู่รอบตัวจะทำให้ภาพลักษณ์ของเขาเสียหายใช่ไหม? เขาต้องการที่จะกำจัดคนรอบตัวเธอใช่ไหม?สำหรับพฤติกรรมสองมาตรฐานของเขา เจียงซู่รู้สึกว่ามันน่าขำ แต่เธอก็ไม่ได้แสดงความคิดเห็นใด ๆโจวซือเหย่ “ขอแค่คุณยังคงเป็นเหมือนเมื่อก่อน เชื่อฟังและทำตัวดี ๆ ตำแหน่งคุณผู้หญิงโจว

  • ฉันแท้ง... ในวันเกิดชู้รัก   บทที่ 99

    โจวซือเหย่คิดว่าการที่เธอแต่งงานกับเขาเป็นการขายตัวหรือไง?เขาเห็นเธอเป็นอะไรกันแน่?เป็นโสเภณีหรือไง?เจียงซู่กัดฟันกรามแน่น ราวกับได้ยินเสียงหัวใจของตัวเองที่แตกสลาย เธอกลืนความปวดร้าวในลำคอ และเบิกตากว้าง พยายามไม่ให้น้ำตาไหลออกมา“ฉันเสียใจ”เธอเสียใจที่แต่งงานกับเขาเขาจะไม่ชอบเธอก็ได้ แต่เขาไม่ควรเหยียบย่ำหัวใจของเธอแบบนี้เธอเพ้อฝันอยู่ฝ่ายเดียว คิดว่าหยดน้ำจะทำให้หินกร่อนได้ แต่เธอกลับลืมไปว่าหัวใจของเขานั้นแข็งเสียยิ่งกว่าหิน มันทำจากเหล็กกล้าเมื่อเห็นความแตกสลายอย่างชัดเจนในดวงตาของเธอ โจวซือเหย่ก็ชะงักไปครู่หนึ่งเจียงซู่พึมพำคำเดิม “ฉันเสียใจ”โจวซือเหย่ไม่เข้าใจว่าความเสียใจของเธอหมายถึงอะไร และเขาก็ไม่สนใจที่จะรู้ด้วย แต่จู่ ๆ เขาก็ผลักเธอล้มลงไปเจียงซู่ที่ตอบสนองช้าไปครึ่งก้าว กว่าจะรู้ตัวว่าเขาจะทำอะไร เขาก็เริ่มถอดเสื้อผ้าของเธอออกแล้ว เธอพยายามดิ้นรนอย่างเต็มที่“ฉันไม่ทำ!”โจวซือเหย่จับข้อมือของเธอตรึงไว้ที่เหนือศีรษะ และใช้ขาอีกข้างล็อกขาเธอที่พยายามขัดขืน“คุณเลิกคิดเรื่องหย่าได้เลย ตระกูลโจวไม่มีทางเกิดเรื่องอื้อฉาวอย่างเรื่องหย่าร้างเด็ดขาด” โจวซื

  • ฉันแท้ง... ในวันเกิดชู้รัก   บทที่ 98

    เจียงซู่ลืมตาขึ้นอย่างมึนงง ไม่รู้เลยว่าตัวเองอยู่ที่ไหน ความทรงจำที่ขาดหายไปของเธอยังคงอยู่ที่ตอนที่เว่ยชิงหางจะไปส่งเธอกลับบ้าน“รุ่นพี่ ขอบคุณที่มาส่งฉันกลับบ้านนะคะ”คำพูดของเจียงซู่ฟังดูติด ๆ ขัดๆ แต่ในมุมมองของโจวซือเหย่ คำพูดเหล่านั้นเหมือนเป็นการออดอ้อนเว่ยชิงหาง“คุณไปกลับก่อนเถอะ อย่าให้โจวซือเหย่เห็น เดี๋ยวเขาจะหาเรื่องคุณ”เมื่อได้ยินดังนั้น นัยน์ตาของโจวซือเหย่ก็มืดลง“ทำไมผมต้องหาเรื่องเขาด้วย?”เสียงที่ดังขึ้นอย่างกะทันหันนี้ ทำให้สติที่ขุ่นมัวของเจียงซู่แจ่มชัดขึ้นเล็กน้อย เธอมองไปรอบ ๆ และเพิ่งรู้ตัวว่าเธอนอนอยู่บนเตียงในห้องนอนใหญ่เจียงซู่ส่ายหัวที่เวียนหัวของเธอ และพูดว่า “ตัวฉันมีกลิ่นเหล้า คืนนี้ฉันจะไปนอนห้องข้าง ๆ”แม้ว่าเธอจะไม่ได้มีสติสมบูรณ์ครบถ้วน แต่เธอก็ยังจำได้ว่าเขาไม่ชอบกลิ่นเหล้าจากตัวเธอในอดีต ทุกครั้งที่กลับมาจากการเลี้ยงสังสรรค์ เจียงซู่จะแยกห้องนอนกับโจวซือเหย่เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เขารังเกียจเธอเธอลงจากเตียงกำลังจะจากไป แต่โจวซือเหย่กลับกดไหล่ของเธอไว้ แล้วผลักเธอล้มลงบนเตียงเจียงซู่ยืนไม่มั่นคงอยู่แล้ว การล้มลงบนเตียงอีกครั้ง ทำให้ส

  • ฉันแท้ง... ในวันเกิดชู้รัก   บทที่ 97

    “รุ่นน้อง”ในขณะที่เจียงซู่กำลังแหม่อลอย เสียงที่คุ้นเคยก็ดังขึ้นเมื่อรู้สึกตัว เธอก็สบตากับเว่ยชิงหาง“รุ่นพี่”เขาถามว่า “มาทำอะไรที่นี่?”เจียงซู่หลีกเลี่ยงประเด็นหลัก “ออกมาสูดอากาศสักหน่อย คุณล่ะ? มาทำอะไรที่นี่?”เว่ยชิงหาง “เพิ่งคุยงานกับลูกค้าเสร็จ”พูดไป เขาก็มองเข้าไปในรถของเธอ แล้วพูดอีกว่า “คุณยังมีอาการบาดเจ็บอยู่ไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงขับรถออกมาคนเดียว?”“ขาที่เหยียบคันเร่งยังปกติดี” เจียงซู่ถาม “อีกเดี๋ยวจะยุ่งไหมคะ?”เว่ยชิงหางถาม “คุณมีธุระอะไรหรือเปล่า?”เจียงซู่ “ฉันอยากไปดื่มสักแก้ว คุณอยากไปด้วยกันไหม?”เว่ยชิงหางไม่ได้ขัดจังหวะ “ไปที่ไหน?”จากนั้นพวกเขาไปที่บาร์เงียบ ๆ แห่งหนึ่งแสงในร้านสลัว ๆ ช่วยปกปิดความหม่นหมองและความอ้างว้างในตัวของเจียงซู่เว่ยชิงหางเป็นเพื่อนร่วมทางที่ดี เขาเพียงแค่อยู่เงียบ ๆ เป็นเพื่อนเจียงซู่ไม่ได้มาเพื่อระบายความในใจ ตอนนี้เธอแค่รู้สึกเหงามาก ๆ เท่านั้น อยากมีใครสักคนอยู่เป็นเพื่อน ไม่อยากอยู่คนเดียวแม้ว่าเธอจะไม่ได้พูดอะไร แต่เว่ยชิงหางก็รู้สึกได้ว่าเจียงซู่อยู่ในอารมณ์ที่เศร้าหมองมากจริง ๆ แล้วตั้งแต่ที่เขารู้จักเธอ เ

  • ฉันแท้ง... ในวันเกิดชู้รัก   บทที่ 96

    เจียงซู่รู้ดีว่าแม่สามีตั้งใจพูดกระทบเธอมากกว่าในสายตาของแม่สามี เธอไม่ได้ดีไปกว่าคนในตระกูลเล็ก ๆ เลยด้วยซ้ำเวินเหยาฉินตั้งใจจะหนุนหลังโจวหว่านซิน และตั้งใจจะให้เธอยอมจำนนแต่โดยดี แน่นอนว่าต้องกลั่นแกล้งเธออย่างหนักแต่เวินเหยาฉินไม่ได้ลงไม้ลงมือกับเจียงเจียเหวิน เพราะอย่างไรก็เป็นลูกของคนอื่น แต่สำหรับเธอแล้วไม่เหมือนกัน เธอเป็นลูกสะใภ้ที่ถูกต้องตามกฎหมายการที่แม่สามีใช้ให้ลูกสะใภ้ทำอะไร ก็เป็นเรื่องปกติธรรมดาภรรยาหลวงอย่างเธอต้องมาทำหน้าที่ของอนุภรรยา แม้แต่มื้อกลางวัน เธอก็ต้องเป็นคนทำอาหารให้พวกเขาทานด้วยอาการปวดเอวและเจ็บเท้า การถูกกลั่นแกล้งขนาดนี้ ทำให้ใบหน้าของเจียงซู่ซีดลงเล็กน้อยเวินเหยาฉินเห็นท่าทางที่ดูเหมือนคนตายของเธอก็รู้สึกหงุดหงิด และพูดอย่างไม่พอใจว่า “เธอทำหน้าบึ้งให้ใครดู? ฉันใช้ให้เธอปรนนิบัติฉัน แล้วเธอไม่พอใจอีกเหรอ?”เจียงซู่ “เปล่าค่ะ”พอพูดจบ ก็มีเหงื่อเย็น ๆ หยดหนึ่งไหลลงมาจากขมับของเธอพอดีเวินเหยาฉินพูดอย่างรังเกียจว่า “พอแล้ว พอแล้ว ที่นี่ไม่ต้องการเธอแล้ว”แม้ว่าจะไม่ได้มองตรง ๆ แต่เจียงซู่ก็รู้สึกได้ถึงความสะใจของเวิงอี๋เธอเดินลากสังข

  • ฉันแท้ง... ในวันเกิดชู้รัก   บทที่ 95

    ความห่วงใยของโจวซือเหย่ก็เหมือนกับอากาศในเดือนมิถุนายน เพราะเมื่อยามหนาวเหน็บก็หนาวเหมือนราวกับน้ำแข็ง แต่เมื่ออบอุ่นก็อบอุ่นจนร้อนซึ่งสามารถแผดเผาได้ เปลี่ยนแปลงรวดเร็วเกินกว่าคนปกติจะรับไหวอาหารถูกยกขึ้นโต๊ะเรียบร้อยแล้ว ตอนที่โจวซือเหย่อุ้มเธอลงมา คุณป้าเฉินแอบยิ้มอย่างโล่งใจไหน ๆ ก็มาถึงโต๊ะแล้ว เจียงซู่ก็ไม่อยากทำให้เสียเปล่า“ซินซินยังเด็กอยู่ คุณเป็นพี่สะใภ้ ก็ควรจะทนกับเธอหน่อย”คำพูดนั้นทำให้มือเจียงซู่ที่กำลังจับตะเกียบชะงักไปทันที เธอค่อย ๆ เงยหน้ามองเขาแสงไฟนุ่มนวลคลอร่างเขา ทำให้เสี้ยวหน้าคมเข้มดูอบอุ่นขึ้นมาบ้าง แต่สำหรับเธอมันกลับไม่เหลือความรู้สึกอบอุ่นใด ๆ อาหารในปากพลันจืดชืดลงทันทีเขารู้ดีอยู่แล้วว่าใครผิด แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังปกป้องอยู่ดี เขาจะไร้ความยุติธรรม เพียงแต่หัวใจมันลำเอียงนั้นเองเจียงซู่วางตะเกียบลง เช็ดปากเบา ๆ “ฉันอิ่มแล้ว”โจวซือเหย่มองอาหารที่แทบไม่ถูกแตะต้อง เขาอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เจียงซู่ก็เรียกป้าเฉินให้มาช่วยพยุงขึ้นไปบนห้องเสียแล้วป้าเฉินมองชายหนุ่มที่เอาแต่เงียบด้วยความหงุดหงิด ในสายจาของป้าเฉินรู้สึกว่าโจวซือเหย่ยังไม่รู้จัก

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status