공유

บทที่ 7

작가: คุณชายสายฝน
ความเงียบของเธอ ในสายตาของโจวซือเหย่ มันคือการยอมรับโดยปริยาย

หลายวันมานี้ เธอก็ทำตัวไร้เหตุผลกับเขาเพราะเรื่องของเวิงอี๋ การที่เธอผลักเวิงอี๋เข้าไปในกองไฟ ยิ่งทำให้โจวซือเหย่ไม่พอใจเธอเป็นอย่างมาก

เวิงอี๋ร้องไห้เสียใจอย่างหนักจนแทบจะยืนไม่ไหว ซบในอ้อมกอดของโจวซือเหย่ ราวกับว่าเธอถูกเอารัดเอาเปรียบอย่างมาก

“ซือเหย่ ฉันอยากกลับบ้าน”

โจวซือเหย่หันมามองเจียงซู่ด้วยสายตาเย็นชาแวบหนึ่ง โดยไม่พูดอะไรอีก แต่ประคองอีกฝ่ายขึ้นรถแล้วขับออกไป

เจียงซู่รู้สึกจุกแน่นในใจเมื่อถูกเขามอง

เมื่อมองดูรถหรูที่ขับห่างไกลออกไป เพื่อนร่วมงานฝ่ายประชาสัมพันธ์ก็เดินเข้ามาหาอย่างวิตกกังวล “เจียงซู่ เธอว่าท่านประธานโจวจะไล่พวกเราทั้งหมดออกเพราะเถ้าแก้เนี้ยหรือเปล่า?”

คำว่า 'เถ้าแก้เนี้ย' แทงเข้ากลางใจเธออีกครั้ง

ขนาดนี้แล้ว เขายังบอกว่าเวิงอี๋เป็นแค่น้องสาวของเขา

น้องสาวคนไหนจะสำคัญกว่าภรรยาอย่างเธอได้?

เจียงซู่พูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “ใครจะไปรู้”

อย่างไรก็ตาม เธอกำลังจะลาออกอยู่แล้ว ไม่ว่าจะถูกไล่ออกหรือไม่ ก็ไม่สำคัญสำหรับเธออีกต่อไป

พวกเขาแยกย้ายกันที่หน้าโรงแรม จากนั้นเจียงซู่ก็นั่งรถกลับบ้านที่คฤหาสน์จิ่งหยวน

ทันทีที่เข้าไปในบ้าน ป้าอู๋และป้าเฉินก็ออกมาต้อนรับ

ทันทีที่ได้กลิ่นเหล้าที่บนตัวเธอ ป้าเฉินก็รีบไปชงชาแก้เมา ส่วนป้าอู๋ก็เริ่มตำหนิเธอ “ทำไมถึงดื่มเหล้าเยอะขนาดนี้? ช่วงเตรียมตัวตั้งครรภ์ดื่มเหล้าไม่ได้ คุณผู้หญิงไม่รู้เหรอคะ?”

“ถ้าคุณยังทำร้ายตัวเองแบบนี้ต่อไป คุณนายจะอุ้มหลานชายตอนไหนละคะ? แล้วบ้านใหญ่จะมีทายาทตอนไหน?”

เจียงซู่ไม่แปลกใจกับทัศนคติของป้าอู๋เลย ก็ใครใช้ให้เธอมาพร้อมกับคำสั่งพิเศษล่ะ

เจียงซู่รู้สึกปวดหัว ไม่อยากพูดอะไรมาก อยากจะรีบขึ้นไปพัก “ต่อไปจะไม่ดื่มแล้วค่ะ”

พูดจบเธอก็เตรียมจะเดินขึ้นชั้นบน

แต่ป้าอู๋กลับเรียกเธอไว้ “ฉันอุ่นซุปบำรุงไว้ในครัวแล้ว คุณผู้หญิงดื่มก่อนแล้วค่อยไปพักนะคะ”

เธอรู้ดีว่าถ้าเธอไม่ดื่ม ป้าอู๋จะต้องโทรหาเวินเหยาฉินเป็นคนแรกอย่างแน่นอน

เมื่อซุปบำรุงหนึ่งชามลงท้อง เจียงซู่รู้สึกอิ่มแน่นไปหมด คืนนี้เธอทั้งดื่มเหล้าและซุป ตอนนี้ท้องของเธอเต็มไปด้วยน้ำ

เมื่อหลุดพ้นจากปากเสือได้ ในที่สุดเธอก็สามารถขึ้นไปหายใจบนชั้นสองได้

ณ ห้องนอน

ขณะที่เจียงซู่มองดูห้องที่เงียบสงบ ภาพที่เวิงอี๋และโจวซือเหย่กอดกันก็ผุดขึ้นมาในหัวของเธอ ทันใดนั้นเธอก็พลันรู้สึกเปรี้ยวในลำคอ และรู้สึกท้องปั่นป่วนราวกับคลื่นลมแรง ก่อนจะทรุดตัวลงข้างชักโครกและอาเจียนออกมาจนหมดทันที

ที่อ่างล้างหน้า เจียงซู่ตักน้ำบ้วนปาก เช็ดคราบน้ำบนคางออก แล้วใช้มือทั้งสองข้างยันอ่างล้างหน้าไว้ ตัวเธอในกระจกมีดวงตาสีแดงก่ำเนื่องจากปฏิกิริยาทางร่างกาย

เจียงซู่เป็นคนสวยมาก เป็นความงามที่น่าทึ่งเมื่อแรกเห็น ในแง่ของรูปลักษณ์ภายนอก จริงๆ แล้วเวิงอี๋สู้เธอไม่ได้ และแตกต่างจากความเยือกเย็นตามปกติ ตอนนี้ใบหน้าขาวเนียนเปล่งปลั่งกลับดูน่าเวทนา จนใครเห็นก็อดสงสารไม่ได้

แต่จะมีประโยชน์อะไร?

ความอ่อนแอของคนที่ตัวเองรักคืออาวุธ แต่ความอ่อนแอของคนที่น่ารังเกียจมีแต่จะทำให้คนอื่นยิ่งรำคาญมากขึ้น และเห็นได้ชัดว่าเธอเป็นแบบนั้นในสายตาของโจวซือเหย่

หลังจากอาบน้ำเสร็จ เธอก็เข้านอน

เธอยังคงขดตัวอยู่ใต้ผ้าห่ม ซึ่งเป็นท่าที่เธอรู้สึกสบายที่สุด

โจวซือเหย่ที่กลับมาถึงบ้านตอนกลางดึกไม่ได้สนใจป้าเฉินที่เดินเข้ามาต้อนรับเลย แต่ตรงขึ้นไปชั้นบนทันที

ผ้าม่านในห้องนอนไม่ได้ถูกปิด แสงจันทร์จากข้างนอกจึงส่องเข้ามาอย่างเต็มที่ ซึ่งทำให้เขามองเห็นเจียงซู่ที่หลับใหลได้อย่างชัดเจน

ใบหน้าเล็กเท่าฝ่ามือนั้นซ่อนอยู่ใต้ผ้าห่มครึ่งหนึ่ง นี่คือท่านอนประจำของเธอ

ภายใต้ผ้าห่มที่บางเบา รูปร่างของเธอเผยออกมาอย่างชัดเจน อากาศภายในห้องอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมจาง ๆ นั่นคือกลิ่นเฉพาะตัวของเจียงซู่

เมื่อสายตาของเขาจับจ้องไปที่เอวเรียวบางเฉียบของเธอ ดวงตาของเขาก็มืดสลัวโดยไม่รู้ตัว แม้แต่ปลายนิ้วของเขายังคงรู้สึกถึงความนุ่มนวลนั้น

โจวซือเหย่รู้ดีว่าร่างกายนี้ยั่วยวนแค่ไหน มือของเขาหล่นลงบนผ้าห่มโดยไม่ตั้งใจ

เจียงซู่ที่กว่าจะหลับจู่ ๆ ก็ฝันร้าย เธอฝันว่าตัวเองถูกสัตว์ป่าไล่ล่า เขี้ยวที่น่ากลัวดูเหมือนจะกัดกินเธอทั้งเป็น เธอตกใจและรีบวิ่งหนีเอาชีวิตรอด แต่แล้วเธอก็เหยียบพลาดและตกลงไป ทันใดนั้นเธอก็ตื่นขึ้นมาจากความฝันทันที

เมื่อลืมตาขึ้น เธอก็เห็นโจวซือเหย่ที่ข้างเตียง เธอก็ลุกขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วและกอดเขาไว้

“ที่รัก ฉันฝันร้าย”

สัตว์ประหลาดกินคนในฝันน่ากลัวมาก ทำให้เจียงซู่รู้สึกเหมือนตัวเองเข้าไปอยู่ในเหตุการณ์จริง

ร่างกายของโจวซือเหย่แข็งทื่อไปชั่วขณะ มือที่ลอยอยู่กลางอากาศตบตัวเธอที่สั่นเทาเบา ๆ

เวลาผ่านไป เจียงซู่ก็ค่อย ๆ ได้สติ และก็เพิ่งรู้ว่าคนที่เธอกอดอยู่คือคนจริง ๆ ร่างกายที่อ่อนนุ่มของเธอก็ค่อย ๆ แข็งทื่อขึ้น

นอกเหนือจากช่วงเวลาบนเตียงแล้ว ความจริงพวกเขาไม่ค่อยกอดกัน เพราะโจวซือเหย่ไม่ชอบ

เจียงซู่ถอยออกไปเพื่อเว้นระยะห่างจากเขา และถามจากจิตใต้สำนึกว่า “คุณกลับมาทำไม?”

เวิงอี๋ดูเศร้าและเจ็บปวดขนาดนั้น เธอคิดว่าโจวซือเหย่จะอยู่ปลอบใจอีกฝ่ายตลอดทั้งคืนเสียอีก

เจียงซู่ถอยออกไป แต่ไม่ได้ทำให้กลิ่นหอมอ่อน ๆ ที่เธอทิ้งไว้จางหายไปเลย แต่คำพูดของเธอก็เตือนให้เขานึกถึงจุดประสงค์ของการกลับมา

“คุณยังสามารถนอนหลับได้อย่างไร้ความรู้สึกผิด”

เจียงซู่ “?”

ทำไมเธอจะนอนไม่ได้?

โจวซือเหย่ “คุณรู้ไหมว่าเวิงอี๋เคยมีประสบการณ์ที่ไม่ดีเกี่ยวกับเรื่องนี้มาก่อน และเพราะคุณ ตอนนี้โรคเก่าของเธอก็เลยกำเริบ และอาการของเธอก็ไม่ค่อยดีด้วย”

เจียงซู่ยังไม่ทันได้ลิ้มรสความอบอุ่นของอ้อมกอดนี้ ก็ถูกคำพูดของเขาทำร้ายจนหัวใจเย็นชาลง

เธอมองเห็นความกังวลที่แปลกแยกบนใบหน้าที่คุ้นเคยของเขา

เธอไม่รู้ว่าเป็นเพราะตกใจตื่นกะทันหันหรือไม่ แต่เธอรู้สึกเหมือนหัวใจถูกทิ่มแทงด้วยของมีคม

“นี่คือเหตุผลที่คุณกลับมาใช่ไหม?”

คิ้วของโจวซือเหย่ขมวดแน่น “ผมบอกแล้วว่าเวิงอี๋เป็นแค่น้องสาวของผม เธอไม่ได้เป็นภัยคุกคามต่อคุณเลย ทำไมคุณถึงเอาแต่จ้องเล่นงานเธอ?”

เจียงซู่จ้องมองสีหน้าที่มีชีวิตชีวาเพราะความโกรธของเขาอย่างเงียบ ๆ แล้วก็เพิ่งรู้ว่านอกจากใบหน้าที่ตายด้านแล้ว เขาก็มีอารมณ์อย่างอื่นเหมือนกัน

น้องสาวอีกแล้ว

ตอนนี้เธอเกลียดคำว่า 'น้องสาว' เข้ากระดูกดำ

“ฉันไปจ้องเล่นงานอะไรเธอ?” เจียงซู่ถามกลับอย่างใจเย็น “โครงการนี้คุณเป็นคนให้เธอ งานของฉันก็เธอเป็นคนจัดการ เมื่อก่อนคุณบอกเองไม่ใช่เหรอว่าที่ทำงานไม่ใช่สวนสนุก ถ้าเธอรู้สึกถูกเอาเปรียบ ก็ไม่รู้จักแก้ปัญหาด้วยตัวเองเหรอ?”

โจวซือเหย่เอ่ย “ที่เธอเรียกคุณไป นั่นเป็นเพราะเธอเห็นความสามารถของคุณ”

งั้นเธอก็ต้องขอบคุณเวิงอี๋ที่มองเห็นความสามารถของเธอสินะ

โจวซือเหย่พูดต่อว่า “บริษัทฝึกฝนคุณมาตั้งหลายปี คุณมากินเงินเดือนฟรีอย่างงั้นเหรอ? แค่วิกฤตเล็ก ๆ น้อย ๆ แค่นี้ก็จัดการไม่ได้?”

เมื่อฟังคำตำหนิที่เต็มไปด้วยเหตุผลของเขา เธอก็รู้สึกแสบจมูก

เขาคงลืมไปแล้วว่าเธอต่างหากคือภรรยาของเขา!

เขาตำหนิภรรยาของตัวเองเพราะผู้หญิงคนอื่น แล้วเขาที่เป็นสามีก็ไม่ใช่สามีที่ไร้ประโยชน์หรอกเหรอ?

ความมืดมิดยามค่ำคืนบดบังหยาดน้ำตาในดวงตาของเจียงซู่ได้เป็นอย่างดี เธอข่มความเจ็บปวดไว้ในลำคอ “ถ้าคุณกลัวว่าเธออยู่ข้างนอกจะถูกรังแก งั้นก็สร้างกรงทองให้เธอแล้วขังเธอไว้ข้างใน จะได้ไม่มีใครแตะต้องเธอได้”

ความเยาะเย้ยในคำพูดนั้นชัดเจนมาก ซึ่งทำให้โจวซือเหย่เดือดดาลในทันที “เจียงซู่!”

เจียงซู่ถามกลับว่า “ข้อเสนอของฉันมันไม่ดีตรงไหน?”

นี่ไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการหรอกเหรอ? เพื่อปกป้องสมบัติล้ำค่าของเขา

โจวซือเหย่หรี่ตาลง “ทำไมผมไม่เคยรู้เลยว่าจิตใจของคุณมืดมนขนาดนี้”

เจียงซู่แสยะยิ้มอย่างอ่อนแรง ทำไมเธอไม่เคยรู้มาก่อนว่าเขาเลวทรามขนาดนี้

“มีอะไรอีกไหม? ถ้าไม่มี ฉันจะนอนแล้ว”

พูดจบ เธอก็กลับไปนอนเหมือนเดิม โดยไม่รอให้เขาตอบ ดึงผ้าห่มขึ้นคลุมตัวและหันหลังให้เขา

โจวซือเหย่ยังอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่โทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้นเสียก่อน เขามองดูหน้าจอแล้วรับสายไปพร้อมกับเดินไปที่ห้องแต่งตัวเพื่อหยิบเสื้อผ้าไปเปลี่ยน

เวิงอี๋มีอารมณ์ไม่คงที่เพราะเรื่องคืนนี้จนต้องเข้าโรงพยาบาล การที่เขากลับมาก็ตั้งใจจะมาเอาเสื้อผ้าไปเปลี่ยน

เมื่อหลับตาลง การได้ยินก็ยิ่งไวขึ้น เธอได้ยินน้ำเสียงอันอ่อนโยนและปลอบโยนของโจวซือเหย่ ไม่ต้องคิดก็รู้ว่าเป็นใครที่โทรมา

แม้ว่าเธอจะตั้งใจจะหย่าแล้ว แต่การได้เห็นสามีของตัวเองพูดคุยกับผู้หญิงอีกคนอย่างอ่อนโยนต่อหน้าต่อตา เจียงซู่ก็ยังคงรู้สึกเจ็บปวดในใจ

เธอรู้สึกว่าการทุ่มเทตลอดห้าปีในชีวิตแต่งงานของเธอมันเป็นเรื่องตลกสิ้นดี
이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • ฉันแท้ง... ในวันเกิดชู้รัก   บทที่ 90

    เจียงซู่ไม่ได้สนใจว่าพวกเขาสองพ่อลูกกำลังคิดอะไรอยู่ แต่คุณย่า...เธอโบกมือให้คนมาช่วยขนกระเป๋าสัมภาระต่าง ๆ ให้อีกคนเจียงเจียเหวินเชิดคอด้วยท่าทางภาคภูมิใจพร้อมกับเดินเข้าไปในห้องรับรองโจวซือเหย่กลับมาถึงบ้านในเวลาอาหารเย็น และเมื่อเขาเข้ามาในบ้าน ก็สังเกตเห็นเจียงเจียเหวินทันที“พี่เขย”เจียงเจียเหวินฉีกยิ้มกว้างพร้อมกับเดินเข้าไปหา “พี่กลับมาแล้วเหรอคะ? ฉันกับพี่เจียงกำลังจะทานอาหารเย็นพอดี แต่ฉันก็บอกพี่เจียงแล้วนะคะว่าให้รอพี่ก่อน แต่พี่เจียงก็บอกว่าไม่ต้องรอ แถมยังบอกว่าพี่จะไม่กลับมากินข้าวที่บ้านอีก”“ดูสิ เหมือนว่าพี่สาวเธอจะเดาผิดนะ เธอดูไม่สนใจอะไรเลย ไม่รอ ละไม่โทรถามด้วย”ระหว่างที่พูด เจียงเจียเหวินเดินไปหาอีกคนเพื่อรับเสื้อโค้ทที่โจวซือเหย่ถอดออก“เดี๋ยวฉันจัดการเอง”เมื่อพูดจบ เธอก็แย่งเสื้อโค้ทมาจากมือป้าเฉินป้าเฉิน “...”ป้าเฉินไม่เคยเห็นใครชอบแย่งงานทำขนาดนี้มาก่อนเจียงเจียเหวิน “ป้าเฉินคะ ไปหยิบตะเกียบกับชามเพิ่มอีกหนึ่งชุดให้พี่เขยหน่อยค่ะ”“พี่เขย นั่งตรงนี้นะคะ”เมื่อถึงโต๊ะอาหาร เจียงเจียเหวินดึงเก้าอี้ให้โจวซือเหย่ตำแหน่งที่เขานั่งคือฝั่งตรง

  • ฉันแท้ง... ในวันเกิดชู้รัก   บทที่ 89

    ในยามกลางคืนที่มืดดำสนิท ในห้องนอนที่เงียบสงดมีเสียงแปลก ๆ ดังขึ้น โจวซือเหย่พยายามปลุกเจียงซู่ที่มีท่าทางที่ไม่ปกติให้ตื่นเมื่อเจียงซู่ตื่น ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความสับสนและความหวาดกลัว ใบหน้าของเธอซีดเผือดหลังจากหลงอยู่ในห้วงของความฝันโจวซือเหย่ “ฝันร้ายเหรอ?”ใช่ เธอเพิ่งตื่นจากฝันร้ายจริง ๆ เธอฝันถึงอุบัติเหตุรถยนต์อีกแล้วเธออยากจะมองข้ามมัน อยากจะลืมมันไปให้พ้น ๆ แต่ทุกสิ่งทุกอย่างกลับตามมาหลอกหลอนเธอเหมือนเงาที่ตามติด ตั้งแต่ที่เกิดเรื่องขึ้น เจียงซู่จำไม่ได้แล้วว่านี่เป็นครั้งที่เท่าไหร่เธอบอกกับตัวเองซ้ำ ๆ ว่าทุกอย่างได้ผ่านไปแล้ว ตอนนี้ปลอดภัยแล้ว แต่เธอยังคงฝันร้ายเช่นนี้อยู่อย่างควบคุมไม่ได้เจียงซู่สูดอากาศหายใจเข้าลึก ๆ และหลับตาลง พร้อมกับกลืนน้ำลายอึกใหญ่จนลำคอขยับอย่างเห็นได้ชัด กลิ่นคาวเลือดที่อบอวลราวกับว่ายังคงวนเวียนอยู่ที่ปลายจมูก โจมตีเข้ากับระบบการรับกลิ่นของเธออย่างไม่หยุดยั้ง จนทำลายสัมผัสทั้งห้าของเธอจากการที่เขาได้ยินคำพูดละเมอตอนเธอตอนอยู่ในห้วงแห่งความฝัน ทำให้โจวซือเหย่รู้ได้ทันทีว่าเธอกำลังฝันถึงอะไรอยู่ แววตาของเขาฉายแววความสงสารจึงเอ่ยขึ้นมา

  • ฉันแท้ง... ในวันเกิดชู้รัก   บทที่ 88

    เมื่อคุณหญิงย่าเห็นเจียงซู่ที่กลับมาพร้อมกับขาที่บาดเจ็บ จึงมองเธอด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความสงสารจับใจ และหันไปตำหนิโจวซือเหย่ทันทีว่า “ทำไมไม่บอกย่าว่าเมียแกบาดเจ็บ? ถ้าย่ารู้ ย่าจะไม่ให้มาหรือไง แกดูแลเมียแกเป็นไหมเนี่ย?”โจวซือเหย่รับบททำตัวเป็นหลานชายผู้แสนดี “คุณย่าสอนถูกแล้วครับ เป็นความผิดของผมเอง”เจียงซู่พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล “คุณย่าคะ หนูไม่ได้เป็นอะไรมากค่ะ อาเหย่ดูแลหนูดีค่ะ”หากต้องพูดถึงการหย่าร้าง คนในตระกูลโจวทั้งหมดที่เธอรู้สึกเสียดายมากที่สุดก็คงเป็นคุณย่าโจวด้วยความรักและความเอ็นดูอย่างแท้จริงที่คุณย่ามีให้แก่หลานสะใภ้ที่ถูกซื้อมาคนนี้ จึงทำให้เธอยอมให้ความร่วมมือกับโจวซือเหย่เล่นละครเพื่อเอาใจคุณหญิงย่าเหวินเหยาฉินที่ยืนอยู่ข้าง ๆ มองเจียงซู่ที่กำลังนั่งอยู่บนรถเข็น พร้อมกับขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย ทำไมถึงบาดเจ็บอีกแล้ว? สรุปร่างกายของเธอไหวไหมเนี่ย?เมื่อเห็นว่าเจียงซู่ผอมลง คุณหญิงย่าจึงสั่งให้ทางห้องครัวทำอาหารบำรุงมาให้เธอทานเยอะ ๆ และตกเย็นเมื่อถึงเวลากลับ ก็ยังจัดเตรียมอาหารเสริมมากมายใส่ขึ้นรถให้อีกด้วยคุณหญิงย่า “ถ้ากินหมดแล้วก็บอกย่านะ เดี๋ยวย่าส

  • ฉันแท้ง... ในวันเกิดชู้รัก   บทที่ 87

    เจียงซู่พยักหน้าอย่างเข้าใจ ก็เป็นผู้หญิงวัยผู้ใหญ่นี่นะเธอหยิบของขวัญออกมาจากกระเป๋าเดินทางที่เตรียมไว้ให้สำหรับไต้ซานเหอไต้ซานเหอหิ้วกระเป๋าลิมิเต็ดอิดิชั่นที่อีกคนให้ขึ้นมาอย่างพออกพอใจ พลางพูดขึ้นว่า “ทำไมไม่ซื้อมาหลาย ๆ ใบล่ะ? ทางที่ดีนะ ซื้อจนโจวซือเหย่ล้มละลายไปเลย! ถ้าแกไม่รีบใช้เงิน ถึงตอนนั้นก็จะตกไปเป็นของคนต่ำสถุน อย่างเวิงอี๋ละนะ”เธอประเมินความสามารถในการซื้อของตัวเองสูงเกินไป และประเมินสินทรัพย์ของโจวซือเหย่ต่ำไปเช่นกัน แค่กระเป๋าไม่กี่ใบ จะทำให้เขาล้มละลายได้อย่างไงกัน“ฉันหิวแล้ว”เมื่อมนุษย์ได้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ทำให้รู้สึกสบายใจ ก็จะรู้สึกเหนื่อยง่าย และเกิดความต้องการต่าง ๆ ได้ง่าย ความอยากอาหารก็เป็นหนึ่งในความต้องการนั้นเช่นกันเธอเป็นคนติดรสชาติอาหารจีนมาก อาหารต่างประเทศเธอไม่ค่อยชินเท่าไหร่ ทั้งร่างกายที่มีอาการบาดเจ็บประกอบกับสภาพอากาศรอบตัวที่ไม่คุ้นเคย การเดินทางครั้งนี้ จึงทำให้เจียงซู่ผอมลง น้ำหนักหายไปหลายกิโลกรัมฝีมือการทำอาหารของไต้ซานเหอไม่เลวเลย เธอทำแต่อาหารที่เจียงซู่ชอบแต่ทว่า เธอยังไม่ทันได้อ้าปากลิ้มรสอาหารที่อยู่ตรงหน้าสักคำเดียว โจ

  • ฉันแท้ง... ในวันเกิดชู้รัก   บทที่ 86

    “พี่เจียงคะ เดี๋ยวฉันช่วยเข็นพี่เข้าไปพักผ่อนข้างในนะคะ ฉันจะบอกพี่ให้ ว่าที่นี่หรูหรามาก ข้าวของเครื่องใช้ครบครัน ถ้าพี่ต้องการอะไรบอกฉันได้เลยนะคะ เดี๋ยวฉันช่วย...”เวิงอี๋แสดงท่าทีราวกับเป็นเจ้าของเครื่องบินเจียงซู่ยกมือขึ้นเพื่อเป็นสัญญาณให้อีกคนหยุดพูด พร้อมกับพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ตามีปัญหาหรือไง?”เวิงอี๋ได้ยินดังนั้นจึงชะงักขึ้นมาทันที และพูดต่อด้วยน้ำเสียงที่งงงวยว่า “หมายความว่าไงคะ?”เจียงซู่พูดตอบกลับ “ดูไม่ออกเหรอว่าฉันไม่ชอบเธอ”เธอกำลังรำคาญอยู่ เวิงอี๋ดูไม่ออกได้อย่างไร?“พี่เจียง...”เวิงอี๋เบะปาก ทำท่าตะกุกตะกักเหมือนกำลังถูกรังแก และใบหน้าที่เต็มไปด้วยความน้อยใจในตอนนั้น โจวซือเหย่จึงพูดเข้าข้างเวิงอี๋ว่า “เธอก็แค่อยากดูแลคุณเท่านั้นเอง ไม่ได้มีเจตนาไม่ดีสักหน่อย”เจียงซู่มองเขาที่กำลังเข้าข้างอีกคนด้วยแววตาเยาะเย้ย ไม่รู้ว่าเขาไม่เห็นความคิดแอบแฝงของเวิงอี๋จริง ๆ? หรือแค่แสร้งทำเป็นมองไม่เห็นกันแน่?เธอต้องการความช่วยเหลือจากเวิงอี๋เหรอ?ถึงแม้เธอจะตายและเอาศพไปทิ้งกลางป่า ก็คงไม่ถึงคราวที่ชู้ต้องมาเอาศพให้หรอก เว้นก็เสียแต่ พวกเขารู้สึกว่าเธอตา

  • ฉันแท้ง... ในวันเกิดชู้รัก   บทที่ 85

    “ผมรู้”เขารู้เรื่องทั้งหมด เลขาหลู่เป็นคนบอกเขาเองทั้งหมดแล้วโจวซือเหย่ตอนแรกเห็นว่าเจียงซู่ไม่เป็นอะไร จริง ๆ แล้วเขาดีใจด้วยซ้ำ ดีใจที่เธอไม่เป็นอะไรมากแต่ว่าหลังจากรู้เรื่องที่เธอประสบอุบัติเหตุรถชน เขาก็รู้สึกเจ็บปวดใจขึ้นมาอีกครั้ง เพราะเขาไม่เคยคิดเลยว่าจะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นใบหน้าของเจียงซู่ไม่ได้ดีขึ้นเพราะเรื่องนี้ ในทางกลับกันยิ่งเปลี่ยนเป็นแย่ลงกว่าเดิม เพราะความสงสารที่เขาแสดงออกมาในเวลานี้ สำหรับเธอแล้วทั้งหมดนี้มันคือการถูกเยาะเย้ยมิตรภาพที่มาช้ามันดูไร้ค่ายิ่งกว่าหญ้าอีกโจวซือเหย่พูดขึ้น “ครั้งนี้มันเป็นแค่อุบัติเหตุ ต่อไปผมจะไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก”“ความบังเอิญที่มากเกินไปก็ไม่ใช่ว่าความบังเอิญ เหตุผลเดียวกัน เรื่องอุบัติเหตุก็เช่นกัน” เจียงซู่ยกมุมปากขึ้นด้วยท่าทางเยาะเย้ย “ระหว่างฉันกับเวิงอี๋ คุณจะเลือกใคร จริง ๆ แล้วในใจคุณรู้ตั้งแต่แรกอยู่แล้วว่าคุณเลือกใคร”ตอนนี้เขาก็แค่ทำตัวเป็นเหมือนขงเบ้งหลังเกิดเหตุ เพื่อที่จะรักษาศักดิ์ศรีตัวเองเอาไว้แววตาของเจียงซู่สิ้นหวัง เธอเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่แฝงการอ้อนวอนขอร้อง “เป็นสามีภรรยากันมาก็ห้าปี เห็น

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status