Share

บทที่ 9

Author: คุณชายสายฝน
คำพูดที่ดูเหมือนจะปกป้องของเวิงอี๋ ในสายตาของเจียงซู่ มันเป็นเพียงการยั่วยุเท่านั้น ราวกับว่าเธอใจกว้างและเห็นอกเห็นใจมากแค่ไหน

ตัวเจียงซู่เองยังไม่ได้พูดอะไร แต่ไต้ซานเหอกลับรู้สึกคลื่นไส้กับท่าทางที่เสแสร้งของเธอ

เธอกำลังจะอ้าปาก แต่ถูกเจียงซู่ดึงไว้ก่อน “ผู้ช่วยเวิง ฉันจำได้ว่าบัวขาวไม่ได้เติบโตในเรือนกระจกนะ”

เวิงอี๋ได้ยินดังนั้นก็ทำหน้างงงัน “พี่เจียง พี่หมายความว่ายังไงคะ?”

เจียงซู่พูดว่า “ในเมื่อคุณอยากเลี้ยงดอกไม้นี้ ทำไมไม่ศึกษาลักษณะนิสัยล่วงหน้าล่ะคะ สุดท้ายอย่าให้มันตายล่ะ”

ชัดเจนว่าดอกไม้ที่ว่าไม่ใช่ดอกไม้จริง ๆ แต่เธอกำลังพูดในเชิงเปรียบเทียบ

คนอื่น ๆ ที่อยู่ในที่นั้นก็ไม่ใช่คนโง่ ย่อมเข้าใจว่าเจียงซู่กำลังว่าเธอเป็นดอกบัวขาว(ผู้หญิงเจ้าเล่ห์)

เวิงอี๋ทำหน้าน้อยอกน้อยใจ “พี่เจียง พี่มีอคติอะไรกับฉันหรือเปล่าคะ?”

เจียงซู่โยนคำถามกลับไป “ทำไมฉันถึงต้องมีอคติกับเธอด้วยล่ะ?”

เวิงอี๋ไม่ได้ตอบคำถามนี้ แต่กลับหันไปมองโจวซือเหย่ “พี่ซือเหย่ พี่เจียงดูเหมือนจะเข้าใจฉันผิดไปแล้วนะ”

คิ้วของโจวซือเหย่ขมวดเข้าหากันเล็กน้อย “เจียงซู่ คุณเลิกงี่เง่าได้ไหม?”

มันน่าสนุกตรงไหน?

จริง ๆ แล้วเจียงซู่ชอบฟังเขาเรียกชื่อเธอมาก เพราะเมื่อคำสองคำนี้ออกมาจากปากเขา เธอก็จะรู้สึกใกล้ชิดราวกับว่าเขาอมเธอไว้ในปาก

แต่ตอนนี้ เมื่อได้ยินอีกครั้ง กลับเหลือเพียงแค่การข่มขู่

ความสนิทสนมที่เธอคิดเองเออเอง ตอนนี้ดูเหมือนจะเป็นเพียงการหลอกตัวเองเท่านั้น

เจียงซู่มองไปที่เขา สัมผัสได้ถึงคำเตือน ก็รู้สึกหมดแรง

การที่เธอประชดประชันแบบนี้มีความหมายอะไร ก็แค่การข่มขู่ด้วยวาจาเท่านั้น แถมยังทำให้เวิงอี๋หัวเราะเยาะเธออีกด้วย

เจียงซู่ซ่อนความรู้สึกเจ็บปวดในใจ เปลี่ยนเรื่องพูด “ฉันมีเรื่องสำคัญจะคุยกับคุณ คืนนี้กลับบ้านเร็ว ๆ หน่อยนะ”

เธอรู้ว่าตอนนี้เธอไม่สามารถเรียกเขากลับมาได้ และก็เธอไม่จำเป็นต้องขายหน้าอีกต่อไป

พูดจบ เธอก็พาไต้ซานเหอเดินจากไปก่อน

ขณะที่เวิงอี๋จ้องมองแผ่นหลังที่เดินจากไปของเธอ แววตาก็ฉายแววแห่งความได้ใจ แต่พออ้าปากอีกครั้งกลับเป็นดอกบัวขาวที่อ่อนแอ

“พี่ซือเหย่ ในเมื่อพี่เจียงมีเรื่องจะคุยกับพี่ งั้นพี่ก็กลับไปก่อนเถอะค่ะ ฉันเรียกแท็กซี่หาพี่สาวเองได้”

ดูเหมือนคำว่าพี่สาวจะกระตุ้นเส้นประสาทบางเส้นของโจวซือเหย่ เขากะพริบตาและพูดอีกครั้งว่า “พี่จะไปกับเธอด้วย”

ได้ยินดังนั้น เวิงอี๋ก็แอบแสยะยิ้มที่มุมปาก

หลังออกจากโรงพยาบาลแล้วก็ขึ้นรถของไต้ซานเหอ

เนื่องจากอัดอั้นมาตลอดทาง ในที่สุดไต้ซานเหอก็ระเบิดอารมณ์สบถด่าออกมา “อี๋ นังดอกบัวขาวจริง ๆ ยาเร่งอาเจียนยังไม่มีฤทธิ์เท่ามันเลย ถ้าฉันไม่มารยาทดี ฉันคงอ้วกใส่หน้ามันไปแล้ว”

“โชคดีที่ฉันยังไม่ได้กินข้าวเที่ยง ไม่อย่างนั้นฉันต้องให้มันจ่ายค่าอาหารให้ฉันแน่! ด้วงขี้ควายใส่หน้ากากจริง ๆ หน้าไม่อายเลย! ฉันว่าตาของโจวซือเหย่คงถูกอุจจาระบังไว้แน่ ๆ สงสัยเป็นพวกเดียวกัน กลิ่นเหม็นเหมือนกัน...”

ปากเล็ก ๆ ของไต้ซานเหอพูดพล่ามไม่หยุด ราวกับปืนกลที่กระสุนเต็มแม็ก ยิงกราดไปทั่ว

แต่พอด่าได้ครึ่งทางก็หุบปากกะทันหัน แล้วหันไปมองเจียงซู่ “เอ่อ โจวซือเหย่ก็ไม่ได้เป็นอุจจาระไปซะทั้งหมดหรอกนะ...”

เพราะยังไงโจวซือเหย่ก็ยังเป็นผู้ชายของเพื่อนสนิทเธอ

ถ้าเขาเป็นอุจจาระ แล้วเจียงซู่ล่ะเป็นอะไร?

เจียงซู่ไม่ได้ปกป้องเขาเหมือนเมื่อก่อน แต่กลับเห็นด้วยกับคำพูดของเธอ “แกวิจารณ์ได้ถูกต้องแล้ว”

โจวซือเหย่คืออุจจาระ แต่เธอไม่ต้องการเป็นสุนัขอีกต่อไปแล้ว

ไต้ซานเหอ “...”

เจียงซู่รับฟังอย่างใจเย็นจนเธอไม่รู้จะพูดอะไรต่อ

เจียงซู่ถามว่า “แกช่วยพิมพ์ข้อตกลงหย่าให้ฉันอีกชุดได้ไหม?”

ไต้ซานเหอไม่ได้ถามเหตุผล แต่พยักหน้าทันที “ได้เลย”

เจียงซู่ไปที่สำนักงานทนายความพร้อมกับเธอ แล้วกลับบ้านพร้อมกับข้อตกลงหย่าชุดใหม่

เธอรู้ดีว่าตัวเองไม่มีความสามารถพอจะเรียกเขากลับมาได้ตอนที่โรงพยาบาลได้ จึงให้เวลาเขาได้ตั้งหลักบ้าง แต่โจวซือเหย่กลับไม่ไว้หน้าเธอเลย

เธอรอตั้งแต่เช้าจนค่ำ ในช่วงเวลานี้ แม้ว่าร่างกายจะอ่อนแอมากและอยากพักผ่อนแค่ไหนก็ตาม แต่เธอก็ยังคงอดทนรอ

เธอคิดว่าโจวซือเหย่รู้ว่าเธอมีเรื่องจะคุยด้วย น่าจะกลับบ้านเร็ว แต่ความรอคอยของเธอถูกกำหนดไว้แล้วว่าต้องผิดหวังอย่างแน่นอน

เจียงซู่ไม่เพียงแต่รอโจวซือเหย่ที่ไม่กลับมาตลอดทั้งคืน และยังได้รับภาพกอดกันอย่างอบอุ่นของเขากับเวิงอี๋อีกด้วย

รูปภาพนั้นถูกส่งมาจากเวิงอี๋

เวิงอี๋ตาแดงก่ำซบอยู่ในอ้อมกอดของโจวซือเหย่ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะมุมกล้องหรือเปล่า เจียงซู่พบว่าโจวซือเหย่เองก็ดูเหมือนจะมีน้ำตาซึม

มองดูภาพถ่ายที่ทั้งสองคนแนบชิดกัน เจียงซู่ก็รู้สึกเจ็บแปลบตรงอกเหมือนกล้ามเนื้อกระตุก ลำคอแน่น และรู้สึกหายใจไม่ออก

เขารักเธอมากขนาดนั้นเลยเหรอ?

แล้วภรรยาอย่างเธอเป็นอะไรกันแน่?

ทันใดนั้น โทรศัพท์ก็ดังขึ้นอีกครั้ง พร้อมกับมีข้อความเข้ามา และยังคงเป็นเวิงอี๋

[ขโมย! ถ้ามียางอาย ก็รีบหย่ากับซือเหย่ซะ!]

คำว่าขโมย ดูเหมือนจะปักลงกลางใจของเจียงซู่ และฝังรากลึก

เจียงซู่รู้สึกขมขื่นในใจ ที่จริงแล้วเธอรู้ดีว่าการแต่งงานห้าปีนี้ของเธอเป็นการขโมยมา

ถ้าไม่ใช่เพราะอุบัติเหตุ เธอคงไม่มีทางได้แต่งงานกับโจวซือเหย่ที่อยู่ห่างไกลเกินเอื้อม พวกเขาไม่ใช่คนในโลกเดียวกันด้วยซ้ำ

ทั้งหมดนี้เหมือนฝันสลาย ตอนนี้ได้เวลาที่ทุกสิ่งอย่างจะกลับคืนสู่เจ้าของเดิมแล้ว

นาฬิกาดังติ๊กต๊อก ๆ เวลาผ่านไปทีละนาที เจียงซู่ยังคงไม่ได้ยินเสียงรถที่คุ้นเคยดังมาจากชั้นล่าง ร่างกายที่นั่งอยู่นานก็เริ่มชา

เมื่อมองดูข้อตกลงการหย่าบนโต๊ะกาแฟ เธอก็อดไม่ได้ที่จะโทรไปเร่งรัด

โทรศัพท์ดังอยู่นานแต่ก็ไม่มีคนรับ จนกระทั่งเจียงซู่คิดว่าไม่มีใครรับแล้ว ในที่สุดก็มีคนรับสาย

เจียงซู่อ้าปากถามว่า “อีกนานแค่ไหนคุณจะ...”

แต่คำว่ากลับบ้านกลับจุกอยู่ในคอทันที เพราะเธอได้ยินเสียงผู้หญิงที่ฟังดูชวนให้คิดลึก

“ซือเหย่ ฉันเจ็บ...”

เสียงกรอบแกรบดังเคล้ากับเสียงปลอบโยนของโจวซือเหย่ “อดทนหน่อยนะ เดี๋ยวก็เสร็จ...”

โครม! ในหูมีเสียงดังอื้อ เลือดในร่างกายของเจียงซู่แข็งตัวในทันที ใบหน้าซีดเผือดแทบไร้สีเลือด

ชายหญิงอยู่กันสองต่อสองกลางดึกดื่น เมื่อนึกถึงความเร่าร้อนของโจวซือเหย่บนเตียงในยามปกติ เธอยังมีอะไรที่ไม่เข้าใจอีก

“อดทนหน่อยนะ...”

คำคำนี้เหมือนกับคาถาพันธนาการวนเวียนอยู่ในหูของเจียงซู่ไม่หยุด ดวงตาของเธอเริ่มร้อนผ่าว น้ำตาหยดหนึ่งร่วงหล่นลงมา แล้วก็หายไปในความมืดมิดในยามค่ำคืนอย่างรวดเร็ว

เธอคิดว่าเธอพร้อมที่จะถอนตัวแล้ว แต่เธอก็ยังประเมินหัวใจตัวเองต่ำไป
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ฉันแท้ง... ในวันเกิดชู้รัก   บทที่ 128

    หลังจากออกจากกั่งรุ่ย เจียงซู่ก็รีบตรงกลับไปโรงพยาบาลทันทีคุณย่ายังไม่ฟื้น เธอก็ไม่สบายใจส่วนทางโจวซือเหย่นั้น หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจช่วงเช้า เขาก็เปิดดูโทรศัพท์ แต่เจียงซู่ไม่ได้ติดต่อมาสีตาคมมืดมิด ดูเหมือนว่าเธอไม่ได้ให้ความสำคัญกับตระกูลเจียงเท่าไหร่เวิงอี๋เห็นโจวซือเหย่เหม่อลอยจึงอดไม่ได้ตะโกนว่า “พี่ซือเหย่…”เมื่อได้ยินเสียง โจวซือเหย่ถึงมีสติกลับมา ถามว่า “มีอะไรเหรอ?”เวิงอี๋กัดริมฝีปาก: “ฉันบอกว่าคุณหมอเหมี่ยวให้ฉันไปรับผลตรวจค่ะ”สายตาของโจวซือเหย่กวาดมองไปที่หน้าอกของเธอ ก่อนเอ่ยว่า “ฉันจะไปเป็นเพื่อน”เวิงอี๋พูดอย่างเกรงใจ่วา “จริง ๆ ฉันไปเองได้ค่ะ”โจวซือเหย่พูดตรง ๆ ว่า “ฉันจะไปขับรถ”เมื่อรู้สึกว่าตัวเองได้รับความสำคัญ ดวงตาของเวิงอี๋ก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้นดีใจที่โรงพยาบาลเจียงซู่จ้องมองคุณย่าอี้ที่ยังคงหมดสติอยู่ด้วยความหนักใจ เพราะคุณหมอบอกว่าการหมดสติครั้งนี้เป็นเหมือนการซ้ำเติมร่างกายที่อ่อนแอของคุณย่าให้แย่ลงไปอีกหลังจากออกมาจากห้องตรวจของหมอ เจียงซู่ก็ขาอ่อนแรง เซถลาเกือบจะล้ม แต่โชคดีที่คว้ากำแพงไว้ได้ทันในเวลานั้นเอง เธอพลันได้ยินเสียงของโ

  • ฉันแท้ง... ในวันเกิดชู้รัก   บทที่ 127

    “คุณย่า—”เจียงซงหวาเห็นดังนั้นก็เตรียมจะเดินเข้าไป แต่แม่เจียงกลับรั้งเขาไว้ ทั้งคู่เป็นสามีภรรยากันมาหลายสิบปี แค่มองตากันก็เข้าใจความหมายของกันและกันเจียงซู่พูดอย่างร้อนรน “พ่อคะ รีบพาคุณย่าไปโรงพยาบาลเถอะค่ะ”ระหว่างผลประโยชน์กับความกตัญญู เจียงซงหวาเลือกอย่างแรก“หาทางให้โจวซือเหย่หยุดให้ได้”“พ่อ!”เจียงซู่มองด้วยความไม่อยากจะเชื่อ เขายังเป็นคนอยู่หรือเปล่า?ความน่าเกลียดของมนุษย์ เธอมองเห็นได้อย่างชัดเจนในตัวเจียงซงหวาเจียงซู่กัดฟันกรามแน่น พูดว่า “ได้ หนูสัญญา!”หลังจากการนำตัวคุณย่าอี้ส่งโรงพยาบาล ท่านก็ได้รับการช่วยชีวิต แต่จะฟื้นเมื่อไหร่นั้นก็ขึ้นอยู่กับตัวผู้ป่วยเองเจียงซงหวาเร่งเร้า “ย่าของแกไม่เป็นอะไรแล้ว ตอนนี้แกไปขอร้องโจวซือเหย่ซะ”เจียงซู่ไม่ได้ลุกขึ้น “รอคุณย่าฟื้นก่อนค่ะ”เจียงซงหวาพูดว่า “ฉันให้เวลาแกคืนหนึ่ง พรุ่งนี้ไม่ว่าจะฟื้นหรือไม่ก็ตาม แกต้องไปขอร้องโจวซือเหย่ให้ได้”เขาทิ้งท้ายคำพูดแล้วทำท่าทางราวกับรังเกียจความอัปมงคล ไม่อยากจะอยู่ต่อแม้แต่วินาทีเดียว เดินออกไปอย่างเด็ดเดี่ยวเจียงซู่กุมมือที่เหี่ยวย่นของคุณย่าไว้ ในใจเต็มไปด้วยความเจ็บปว

  • ฉันแท้ง... ในวันเกิดชู้รัก   บทที่ 126

    กิ๊กของเจียงเจียเหวินกลับไปแล้ว เหลือเพียงคนในตระกูลเจียงอยู่ในห้องวีไอพีเท่านั้นเสียงสะอื้นของเจียงเจียเหวินและเสียงหายใจหอบถี่ของเจียงซงหวาทำให้ความกดอากาศในห้องลดลงถึงจุดเยือกแข็งเมื่อละครตลกที่ไร้สาระนี้จบลง เจียงซู่ก็ไม่อยากจะอยู่ต่อแล้วเธอประคองคุณย่าเพื่อจะเดินออกไป ทว่าเธอเพิ่งจะลุกขึ้นยืน เจียงซงหวาก็เรียกไว้ “หยุดเดี๋ยวนี้!”เจียงซู่เอ่ยด้วยสีหน้าเรียบเฉยว่า “มีอะไรอีกไหมคะ?”เจียงซงหวาใช้อำนาจความเป็นพ่อสั่งว่า “เรื่องนี้แกจะจัดการยังไง?”เจียงซู่: “พ่อคะ พ่อถามผิดคนแล้วล่ะ”ตั้งแต่เกิดขึ้นเรื่องจนกระทั่งจบลง เรื่องทั้งหมดไม่เกี่ยวข้องกับเธอเลยสักนิดใบหน้าแก่ ๆ ของเจียงซงหวาดูไม่สู้ดีนัก “แกหมายความว่ายังไง? ตอนนี้โจวซือเหย่ยังคงเล่นงานตระกูลเจียงอยู่ แกคิดจะยืนดูเฉย ๆ ไม่ยื่นมือเข้ามาช่วยอย่างนั้นเหรอ? แกยังเป็นคนในตระกูลเจียงอยู่ไหม? อย่าลืมนะ ถ้าไม่มีฉัน แกอดตายไปนานแล้ว!”“อะไรกันเนี่ย นังลูกอกตัญญู”เจียงซู่: “ก่อนห้าขวบ แม่หนูเป็นคนเลี้ยงหนูค่ะ หลังห้าขวบ คุณย่าเป็นคนเลี้ยงหนูจนโต”เจียงซงหวา: “ถ้าไม่มีเงินของฉัน พวกเขาจะเอาอะไรมาเลี้ยงแก?!”เจียงซู่: “

  • ฉันแท้ง... ในวันเกิดชู้รัก   บทที่ 125

    เจียงซงหวาพูดเสียงหนัก “ลูกในท้องเหวินเหวิน เป็นลูกของนายแน่นอน!”“ผมไม่ได้แตะต้องลูกสาวคุณแม้แต่ปลายก้อย” โจวซือเหย่กล่าวเย้ยหยัน “ลูกสาวคุณมีความสามารถแบบนั้นจริง แต่ตระกูลโจวเราไม่เคยคิดจะเลี้ยงลูกให้คนอื่น”กล่าวจบ นอกจากโจวซือเหย่ ทุกคนต่างมีหน้าแตกต่างกันไป แม้แต่เจียงซู่เองยังเบิกตากว้างเขาหมายความว่ายังไง?เธอเห็นพวกเขานอนด้วยกันกับตาแท้ ๆ...เจียงซงหวาโกรธจัดทันที “นายไม่คิดจะรับผิดชอบงั้นเหรอ?”โจวซือเหย่: “ไม่ใช่ลูกผม ทำไมผมจะรับ?”จังหวะนั้นเอง ผู้ชายที่โจวซือเหย่ให้คนพาเข้ามาก็เปิดปากพูด “เจียงเจียเหวิน ทำไมเธอถึงให้ลูกของฉัน เรียกคนอื่นว่าพ่อล่ะ?! เธอทำแบบนี้ไม่ละอายใจต่อฉันบ้างเหรอ?”แม่เจียงถลึงตาพลางตะคอกใส่เขา “พูดเพ้อเจ้ออะไร? ถ้ายังใส่ร้ายลูกสาวฉันอีก ระวังฉันจะแจ้งตำรวจจับแก!”ผู้ชายคนนั้นสวนกลับทันควัน “ผมพูดเพ้อเจ้อหรือไม่ ก็ถามลูกสาวคุณดูก็รู้เอง! ผมกับเธอไม่รู้ว่านอนด้วยกันมากี่ครั้งแล้ว คืนนั้นที่โจวซือเหย่เมามาก ไม่ได้แตะเธอเลยด้วยซ้ำ เธออยากแสดงให้สมจริงและให้ตรงกับช่วงเวลาที่จะตั้งท้อง คืนนั้นเธอยังจงใจมาหาผม คืนนั้น เราเอากันตลอดทั้งคืน”“เจียงเ

  • ฉันแท้ง... ในวันเกิดชู้รัก   บทที่ 124

    โจวซือเหย่ยังคงนิ่งสงบ ราวกับกำลังคุยกันว่า คืนนี้จะกินอะไรดีเจียงเจียเหวินกลับไม่ใจเย็นแบบนั้น ถึงกับหัวใจสั่นวูบเมื่อโดนสายตาเย็นเฉียบของเขามองมา เธอกลืนน้ำลายที่ไม่มีอยู่จริง จู่ ๆ ดวงตาเริ่มแดงก่ำขึ้น “พี่เขย ถึงเรื่องนี้จะผิดต่อพี่เค้า แต่พี่จะปฏิเสธลูกของตัวเองไม่ได้นะ พี่พูดแบบนี้ พี่กำลังอยากบีบให้พวกเราสองแม่ลูกไปตายนะคะ”แม่เจียงเห็นลูกสาวช้ำใจก็รู้สึกสงสาร “ซือเหย่ เป็นผู้ชายกล้าทำก็ต้องกล้ารับหน่อยสิ จะได้แล้วทิ้งแบบนี้ไม่ได้นะ!”เจียงเจียเหวินกัดฟันแน่น “ถ้าพี่จะไม่ยอมรับ ฉันก็จะพาลูกไปตายด้วย!”พูดจบ เธอก็ทำท่าจะวิ่งออกไปแม่เจียงเห็นดังนั้นก็รีบคว้าไว้ทันที “เหวินเหวิน! คนดีของแม่ ลูกพูดอะไรออกมาน่ะ? อะไรคือตายไม่ตาย? ถ้าลูกตาย แล้วแม่กับพ่อจะอยู่ยังไง? ลูกเป็นลูกสาวคนเดียวของแม่นะ!”สองแม่ลูกร้องไห้ฟูมฟาย ทำตัวราวกับกำลังแสดงละครโศกนาฏกรรมแม่เจียงกอดเจียงเจียเหวินแน่น แล้วหันไปจ้องโจวซือเหย่ “ถ้านายไม่ยอมรับเด็กคนนี้ล่ะก็ ฉันจะไปหาคุณท่านโจว! นี่เป็นเหลนคนแรกของท่านนะ! ฉันไม่เชื่อว่าคนใจดีแบบท่าน จะปล่อยให้นายบีบลูกสาวฉันไปตาย!”เจียงซงหวาขัดภรรยาได้จังหวะเหมา

  • ฉันแท้ง... ในวันเกิดชู้รัก   บทที่ 123

    แม่เจียงรีบเสริมทันที “ฉันบอกแล้วว่าเด็กคนนี้มันอกตัญญู โตมาก็เลี้ยงไม่เชื่อง ตอนนั้นคุณควรทิ้งมันไปตั้งแต่วันนั้นแล้ว แถมยังเสียเงินมากมายไปกับมันเปล่า ๆ ไม่ได้ประโยชน์อะไรกลับมาเลยสักนิด!”ทั้งครอบครัวเป็นใจเดียวกัน ต่างรุมประณามเจียงซูไม่เว้นคำเจียงซงหวาถึงกับไปหาความช่วยเหลือจากภายนอกพอได้รับโทรศัพท์จากคุณย่า เจียงซู่ถึงรู้ว่าพวกเขาลากเรื่องทั้งหมดไปกดดันผู้ใหญ่ท่านแล้วที่โรงพยาบาลคุณย่าอี้จับมือเธอไว้แน่น พลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความสงสาร “ลำบากหนูมากแล้ว”พอได้ยินประโยคนั้น จมูกของเจียงซู่ก็แอบร้อนผ่าวขึ้นมา ตั้งแต่เรื่องเกิดจนถึงตอนนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนสนใจความรู้สึกของเธอจริง ๆโจวซือเหย่มองว่าเธอคิดร้ายตระกูลเจียงคิดว่าเธอไม่สำนึกบุณคุณแต่ไม่มีใครคิดเลยว่าเธอต่างหากที่เจ็บหนักที่สุดในเรื่องนี้คุณย่าอี้ถอนหายใจ “เป็นความผิดของย่าเอง ที่สอนพ่อของหนูไม่ดี”ความจริงคุณย่าอี้เป็นคนมีการศึกษา สมัยสาว ๆ เป็นถึงครูสอนหนังสือ ในยุคสมัยของท่าน ผู้หญิงน้อยคนนักที่จะได้เรียนหนังสือคนมีการศึกษา แต่กลับเลี้ยงลูกชายออกมาเป็นพวกเห็นแก่ได้แต่งงานครั้งแรกเป็น

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status