"คุณชายของพวกข้าเป็นถึงคุณชายสามแห่งจวนอันกั๋วกง ครั้งนี้ ฮ่องเต้ทรงมีรับสั่งเรียกพวกข้ากลับมาเป็นการเฉพาะ เจ้าบังอาจหยามเกียรติคุณชายของพวกข้า" บ่าวรับใช้คนหนึ่งท่าทางเหิมเกริมอวดดี คุณชายสามอันยืดหลังตรงอกผายไหล่ผึ่ง สีหน้าดูเหยียดหยัน โอหัง กู้ชูหน่วนหัวเราะเยาะ "คุณชายสามแห่งจวนอันกั๋วกง ตำแหน่งใหญ่มากหรือ" "เหลวไหล กั๋วกงของพวกข้าได้รับพระราชทานแต่งตั้งจากอดีตฮ่องเต้ เรียกได้ว่าอยู่ใต้เพียงผู้เดียว อยู่เหนือคนนับหมื่น หากเจ้าไปกับคุณชายของข้า ต่อไปเจ้าจะได้มีลาภยศสรรเสริญ กินดีอยู่ดีเป็นแน่" แม้คนของจวนอันกั๋วกงจะหื่นกระหายในเรือนร่างของกู้ชูหน่วน แต่จากเนื้อผ้าเครื่องแต่งกายนาง เขาเชื่อว่าหญิงตรงหน้าจะต้องไม่ใช่คนมีตำแหน่งหรือฐานะใด จึงดูมั่นอกมั่นใจมากขึ้น "น่าเสียดาย ข้าแต่งงานแล้ว คงไม่มีวาสนานั้น" คุณชายสามอันเข้าใจกู้ชูหน่วนผิด คิดว่านางตัดพ้อที่ตนแต่งงานเร็วไป จึงถูมือพลางพูดจาทะลึ่ง "คนงาม ขอเพียงเจ้ายอมไปกับข้า แม้เจ้าจะแต่งงานไปแล้ว แล้วจะเป็นอย่างไร ข้าจะรีบให้คนไปสังหารชายหนุ่มของเจ้าทันที" ผู้คนที่ล้อมวงมุงดูต่างก็ถอนหายใจ ไปหาเรื่องคุณชายสามอั
ดินแดนทางเหนือกว้างใหญ่ขนาดนั้น นางจะไปหาที่ใด "น้องเก้า เจ้ารู้หรือไม่ แก้วมังกรสำคัญต่อข้าเพียงใด เจ้าเล่าทั้งหมดมาให้ข้าฟังเดี๋ยวนี้" "ฟ่อฟ่อ...อาฮวาบอกว่า เพื่อนของเพื่อนของเพื่อนของเพื่อนของมัน..." กู้ชูหน่วนมุ่นคิ้ว "หุบปาก เข้าประเด็น" "ก็ได้ๆ ก็คือว่าบรรพบุรุษของเพื่อนของเพื่อนของอาฮวาบอกนาง ว่าที่ดินแดงทางเหนือมีแก้วมังกร น่าจะเป็นแก้วมังกรลูกที่หกของนายท่าน ที่นั่นหนาวเกินไป พวกมันขึ้นไปไม่ได้ เพียงแต่ได้ยินพวกผู้ใหญ่เล่ากันมารุ่นต่อรุ่น แท้จริงแล้วมีหรือไม่ไม่มีผู้ใดรู้" กู้ชูหน่วนเกือบจะสติกระเจิดกระเจิง งูพวกนี้ ก็มีรุ่นต่อรุ่น มีบรรพบุรุษเหมือนกันหรือ บ้าน่า นางเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า "นายท่าน อย่าดูถูกงูเชียวนะ งูทั่วไปไม่ได้เบิกญาณหยั่งรู้ แต่ก็มีงูหลายตัวที่เบิกญาณหยั่งรู้แล้ว สติปัญญาไม่ได้ต่ำไปกว่าพวกท่านเลย" "ได้ เจ้าจะว่าอย่างไรก็ได้ ขอเพียงช่วยข้าหาแก้วมังกรลูกที่หกให้เจอ อย่าว่าแต่หมูสิบตัวเลย ร้อยตัวหรือแม้แต่พันตัวข้าก็ให้เจ้าได้" "ฟ่อฟ่อ จริงรึ" "จริงสิ" "อยู่ที่ดินแดนทางเหนือ" "ที่ใดของดินแดนทางเหนือ" "ก็บนธารน้ำแข็งใน
กู้ชูหน่วนโยนเศษเงินก้อนหนึ่งไว้บนโต๊ะ ระหว่างที่กำลังจะจากไปกลับได้ยินเสียงร้องคร่ำครวญของเถ้าแก่ซุ้มน้ำชาอย่างกะทันหัน "เนื้อหมูของข้า เนื้อปลาของข้า อีกทั้งเนื้อกระต่ายของข้า หายไปไหนหมดแล้ว ทั้งๆ ที่เมื่อครู่ยังอยู่ตรงนี้อยู่เลย สวรรค์ คนชั่วผู้ใดขโมยเนื้อของข้าไปหมดแล้ว นั่นคือชีวิตของข้าเลยนะ" เถ้าแก่ซุ้มน้ำชากำลังกระวนกระวาย หลังจากที่หาเนื้ออยู่นานก็ยังไม่เจอ จึงทรุดลงไปที่พื้นร้องไห้ฟูมฟายไม่หยุด "ภรรยาของข้าใกล้จะคลอดแล้ว ข้ายังหวังจะขายเนื้อหาเงินมาเลี้ยงลูกข้าอยู่เลย ยามนี้...ยามนี้ไม่เหลืออะไรแล้ว ไม่สู้ให้ข้าตายไปเสียดีกว่า" กู้ชูหน่วนมุ่นคิ้ว ดวงตาดำขลับคู่นั้นกวาดสายตาลงไปด้านล่าง เป็นไปตามคาด ตรงมุมมีงูอยู่ตัวหนึ่ง งูตัวเล็กขนาดไม่เกินตะเกียบ ท้องกลมโต ใบหน้าเผยให้เห็นความระรื่น กู้ชูหน่วนเกิดอยากจะบี้งูตัวนี้ให้ตายๆ ไปเสีย เอาแต่ไล่ตามหมูป่าตลอดทาง ทั้งยังคาบหมูมาตรงหน้านางตัวแล้วตัวเล่า ให้นางย่างให้มันกินยังพอทน ยามนี้ยังหัดลักขโมยของผู้อื่นอีก กู้ชูหน่วนคลำหาบางสิ่งบนตัว ก่อนจะหยิบเงินสิบตำลึงก้อนหนึ่งออกมาโยนให้เถ้าแก่ซุ้มน้ำชา จากนั้นก
"องค์ชายแคว้นฉู่ช่างไร้วาสนาเสียจริง เดิมทีองค์ชายควรจะสูงส่ง ได้กินดีอยู่ดี แต่กลับกลายเป็นเพียงทาสรับใช้คนหนึ่ง กลายเป็นทาสรับใช้ไม่พอ ยังมาด่วนจากไปทั้งยังเยาว์วัย หากเขายังมีชีวิตอยู่ ตำแหน่งฮ่องเต้แคว้นฉู่ได้ตกเป็นของเขาแน่" "นั่นน่ะสิ ฮ่องเต้ฉู่รักและตามใจฮองเฮาฉู่เพียงนั้น นอกจากฮองเฮาฉู่ ก็ไม่รับพระชายาอีกเลย เขาจะไม่เก็บตำแหน่งฮ่องเต้ไว้ให้องค์ชายแห่งฮองเฮาฉู่ได้อย่างไร เฮ้อ..." "ดูเหมือนระหว่างที่กำลังล่าสัตว์อยู่ในป่าลึก ด้านนอกจะเกิดเรื่องใหญ่หลายเรื่อง" "นี่ยังไม่เท่าไหร่ ยังมีเรื่องใหญ่กว่านี้" "ห้ะ เรื่องอันใด" "แคว้นเย่ของพวกเราสมคบคิดกับแคว้นหวา ตั้งจุดซุ่มโจมตีรุนแรง หวังจะลอบสังหารเทพสงคราม ยึดอำนาจทหารของเทพสงครามกลับคืนมา ทว่ากลับถูกเทพสงครามจัดการ" สายตาที่เอื่อยเฉื่อยของกู้ชูหน่วนฉายประกายสว่างวาบ ก่อนจะกลับไปเหมือนเดิมอย่างรวดเร็ว "ฮ่องเต้ของพวกเราบ้าไปแล้วหรืออย่างไร ถึงได้สมรู้ร่วมคิดกับแคว้นอื่นจัดการเทพสงคราม หากแคว้นเย่ไม่มีเทพสงคราม คงถูกแคว้นอื่นแบ่งฮุบดินแดนไปนานแล้ว หรือฮ่องเต้ของพวกเราไม่รู้แม้แต่เรื่องนี้" "ชู่ววว เบาๆ หน่อย เจ
ณ ซุ้มน้ำชาบนเขาร้างแห่งหนึ่ง กู้ชูหน่วนสวมผ้าปิดหน้า ปิดบังรูปโฉมที่งดงามชวนตะลึงของนางเอาไว้ เผยให้เห็นเพียงแค่ดวงตาใสเป็นประกายที่ดูมีชีวิตชีวาคู่นั้น นางสวมชุดกระโปรงตุ้ยจิ้นหรู่สีแดงเพลิง เนื้อผ้าไม่ได้มีราคานัก แต่กลับส่งให้รูปร่างที่อรชรอ้อนแอ้นของนางดูสมบูรณ์แบบโดดเด่น นางนั่งดื่มเหล้าด้วยความเหนื่อยหน่าย แม้จะไม่เห็นรูปโฉมของนาง แต่ผู้คนที่สัญจรผ่านไปต่างก็ถูกนางดึงดูด ไม่รู้ว่าสตรีจากที่ใด รูปร่างท่าทางถึงได้งดงามเพียงนั้น ภายในซุ้มน้ำชา ผู้ที่สัญจรผ่านไปกำลังวิจารณ์อะไรบางอย่าง "พวกเจ้าได้ยินมาหรือยัง แคว้นฉู่ทำสงครามกับเผ่าหมอแล้ว" "ห้ะ...เพราะเหตุใด แคว้นฉู่กับเผ่าหมอต่างฝ่ายต่างอยู่ ไม่ก้าวล้ำกันมาแต่ไหนแต่ไรไม่ใช่หรือ" "สหาย เจ้าไม่รับข่าวสารบ้างเลยหรือ ข้างนอกเขาลือกันไปทั่วแล้ว" "หลายวันนี้ข้าล่าสัตว์อยู่ในป่าลึกตลอด ยังไม่ได้กลับบ้านเลย เจ้ารีบเล่ามาเถอะ เหตุใดแคว้นฉู่และเผ่าหมอถึงได้สู้กัน" "ฮองเฮาฉู่แห่งแคว้นฉู่ทรงคลอดองค์ชายเมื่อสิบกว่าปีก่อน แต่กลับถูกคนลักพาตัวไป หลายปีมานี้ ฮ่องเฮาฉู่ไม่มีทายาทอีกเลย เรื่องนี้เจ้ารู้ใช่หรือไม่"
หากไม่ใช่เพราะเขา ผู้อาวุโสทั้งหลายก็ไม่ต้องสูญเสียพลังลมปราณไปมากขนาดนั้น เป็นผลให้...ไม่อาจขัดขวางชาวบ้านที่คำสาปเลือดออกฤทธิ์ได้ เมื่อคืนนางเห็นภาพเหตุการณ์โหดร้ายน่าสังเวชใจทุกฉาก เชื่อว่าในใจคงไม่รู้สึกดีแน่ กู้ชูหน่วนขยับเก้าอี้มานั่งข้างเตียงเขา ช่วยเขาจัดผ้าห่ม "อากาศเริ่มเย็นแล้ว ร่างกายท่านไม่แข็งแรง ต้องห่มผ้าหนาๆ ดูท่านสิผ่ายผอมเหลือเกิน เดี๋ยวข้าจะทิ้งสูตรอาหารไว้ให้ ให้อินเอ๋อร์ทำอาหารอร่อยๆ ตามสูตรนี้ให้ท่าน" "เจ้าจะไปแล้วหรือ" "อืม...แต่ข้าจะรีบกลับมา" เงียบกริบ ภายในห้องเงียบเสียจนได้ยินแม้แต่เสียงเข็มร่วง อี้เฉินเฟยรู้ นางต้องการออกไปตามหาแก้วมังกร ดวงตาที่อ่อนโยนและอบอุ่น ฉายแววเจ็บปวด มุมปากของเขาขยับ เสียงทุ้มต่ำไพเราะ "อาหน่วน เรื่องแก้วมังกรไม่รีบร้อน หากหาเจอแน่นอนว่าเป็นเรื่องดี แต่หากหาไม่เจอ ก็ช่างเถอะ หลายปีมานี้ ทุกคนล้วนแต่ชินกันแล้ว" กู้ชูหน่วนยิ้มเยาะ เรื่องเช่นนี้ จะชินได้อย่างไร "พี่ใหญ่เฉินเฟย ข้าคือคนเผ่าอวี้ เช่นนั้นแม่ของข้าเล่า...แม่ของข้าเสียชีวิตด้วยอาการซึมเศร้าจริงหรือ อัครเสนาบดีกู้ใช้พ่อของข้าหรือไม่"
ผู้อาวุโสหกหยิบเหล้าในขวดน้ำเต้าที่แขวนอยู่บนเอวออกมา เปิดจุกออก ก่อนจะยกดื่มไปหลายอึก แล้วถึงจะค่อยๆ เริ่มเล่า "พันปีก่อน เผ่าอวี้เป็นแคว้นแห่งหนึ่ง นามว่าแคว้นอวี้ เผ่าเทียนเฝินก็เป็นแคว้นหนึ่งเช่นกัน นามว่าแคว้นเฉิน สองแคว้นเดิมทีเกี่ยวดองกันด้วยการสมรส" "เกี่ยวดองด้วยการสมรสหรือ" "ใช่ ฮ่องเต้แคว้นอวี้ ตั้งแต่ครั้งยังอยู่ในท้องก็หมั้นกับองค์หญิงแคว้นเฉินซึ่งก็ยังอยู่ในท้องด้วยเช่นกัน องค์หญิงแคว้นเฉินลุ่มหลงในฮ่องเต้แคว้นอวี้ แต่ฮ่องเต้แคว้นอวี้มีผู้ที่หมายปองอยู่แล้วแต่แรก ยอมสละตำแหน่งฮ่องเต้ ทั้งยังยอมสละชีวิตของตน เพื่อที่จะแต่งกับสตรีต่างแคว้น หวงเจินเจิน แคว้นเเฉินขึ้นชื่อเรื่องเวทมนตร์คาถา องค์หญิงแคว้นเฉินสังหารพี่ชายและบิดา ขึ้นครองบัลลังก์ฮ่องเต้หญิงแห่งแคว้นเฉิน ใช้ทั้งแคว้นเฉินเป็นเครื่องสังเวย สร้างคำสาปเลือดที่โหดร้ายที่สุดในใต้หล้าขึ้นมา" "ฉะนั้นประชาชนทั้งแคว้นอวี้ล้วนแต่ถูกคำสาปเลือด หลายพันปีมานี้ ล้วนแต่ต้องทนทรมานกับคำสาปเลือดรุ่นต่อรุ่น แคว้นอวี้เดิมทีแข็งแกร่งมาก แต่เพราะคำสาปเลือด ประชากรลดลงไปรุ่นแล้วรุ่นเล่า ยามนี้...เฮ้อ..." กู้ชูหน่วนอดไม่ได้ที
ผู้อาวุโสใหญ่และคนอื่นๆ ต่างก็ตกตะลึง "หัวหน้าเผ่า เหตุใดถึงอยู่ที่นี่..." คำพูดเมื่อครู่ นางได้ยินหมดแล้วใช่หรือไม่ "ข้าอยากไปเยี่ยมพี่ใหญ่เฉินเฟย ก็เลยมาที่นี่ เหตุใดพวกท่านถึงมารวมอยู่นี่กันหมด เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือ" "ไม่มีไม่มี..." "ท่านอาวุโสทุกท่านอยู่ที่นี่ก็ดี ข้ามีเรื่องอยากไปหาพวกท่านอยู่พอดี สะดวกเข้าไปคุยในห้องหรือไม่" "หัวหน้าเผ่าพูดเล่นแล้ว ท่านเป็นหัวหน้าเผ่าอวี้ ขอเพียงแค่ท่านสั่งมาคำเดียว ผู้ใดจะกล้าไม่ฟัง" ผู้อาวุโสใหญ่เชิญกู้ชูหน่วนเข้าห้องด้วยท่าทางสุภาพ ผู้อาวุโสคนอื่นก็ตามเข้าไปด้วย ภายในห้อง กู้ชูหน่วนพูดเข้าประเด็นทันที "ผู้อาวุโสใหญ่ ช่วยข้าปลดผลึกพลังได้หรือไม่" "ปลดผนึกพลังรึ" "ใช่" นางอยากจะฟื้นฟูวิทยายุทธ ต้องการตามหาแก้วมังกรทั้งเจ็ดให้ได้เร็วที่สุด เรื่องนี้จะชักช้าไม่ได้ ผู้อาวุโสใหญ่ไม่แม้แต่จะคิด ปฏิเสธออกไปทันที "ไม่ได้" "เพราะเหตุใด" กู้ชูหน่วนขมวดคิ้ว ผู้อาวุโสหกรีบชิงตอบ "อาหน่วน...ไม่ หัวหน้าเผ่า ผู้อาวุโสใหญ่หวังดีต่อเจ้า หลังจากผ่านเรื่องเมื่อวานมา คิดว่าเจ้าก็พอจะรู้บ้างแล้ว พวกเราคนเผ่าอวี้ล้วนแต่โดนคำสา
ผู้อาวุโสสี่โซซัดโซเซ เดินเข้ามาด้วยท่าทางไร้วิญญาณ เขาเงยหน้าขึ้นมาด้วยความซึมกระทือ "ผู้ที่ควรต้องตายมากที่สุดคือข้า ข้าควบคุมคำสาปเลือดไม่ได้ ปล่อยชาวเผ่าที่ถูกมัดอยู่หลังประตูหลังออกมาหมด ข้าต่างหากที่สมควรตาย" ผู้อาวุโสสามและผู้อาวุโสสี่พากันร้องหาความตาย ผู้อาวุโสใหญ่มาถึง ใบหน้าแสดงความโกรธเกรี้ยว ก่อนจะเขวี้ยงไม้เท้าในมืออย่างแรง "พวกเจ้าอยากตายก็ไปตายไกลๆ ข้าหน่อย เผ่าอวี้มีคนตายมากมายเพียงนั้น พวกเจ้าในฐานะผู้อาวุโสไม่ยอมไปช่วยก็ช่าง ยังจะมาหาเรื่องตายเพิ่มภาระให้ผู้อื่นที่นี่ หากทุกคนเป็นเหมือนพวกเจ้า เช่นนั้นใครจะไปตามหาแก้วมังกร หัวหน้าเผ่าคนเดียวรึ" "ผู้อาวุโสใหญ่..." ผู้อาวุโสสามและผู้อาวุโสสี่ที่ผมขาวโพลนพากันคุกเข่าลงไป หลั่งน้ำตาแห่งความรู้สึกผิดออกมา "หัวหน้าเผ่ายังอยู่ในหมู่บ้าน พวกเจ้าเป็นเช่นนี้...มีสภาพเช่นนี้ หากถูกหัวหน้าเผ่าเห็นเข้า จะไม่ปวดใจแย่หรือ" เห็นท่าทางที่เจ็บปวดและกล่าวโทษตนเองของผู้อาวุโสสามและผู้อาวุโสสี่ ผู้อาวุโสใหญ่แม้จะรู้สึกราวกับมีดกรีดหัวใจ แต่ก็พูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง "ข้ารู้ว่าในใจพวกเจ้าเจ็บปวด เสียใจ แต่ยิ่งเป็นเ