Home / แฟนตาซี / ชีวิตบัดซบเพราะมาต่างโลก เลยสร้างปาร์ตี้ไปโค่นพระเจ้าซะเลย / ตอนที่ 7 : มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่ทั้งสกปรกและงดงามในเวลาเดียวกัน

Share

ตอนที่ 7 : มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่ทั้งสกปรกและงดงามในเวลาเดียวกัน

last update Last Updated: 2025-04-08 23:10:37

วูม!!!!———

          พอแสงสว่างที่จ้าเสียจนแสบตาได้จางหายไป ทิวทัศน์ที่ปรากฏตรงหน้าของลินดาก็คือ บริเวณป่าแบบเดียวกับก่อนที่จะถูกวาร์ปเข้ามาในดันเจี้ยน แต่ที่ไม่เหมือนเดิมก็คงจะเป็นสมาชิกปาร์ตี้ที่ลดลงจนเหลือแค่สามคน อันได้แก่ตัวเธอ เชษฐ์และเสือนั่นเอง ลินดาในตอนนี้ยังอยู่ในอาการสะเทือนใจอยู่พอสมควร ตอนนี้เธอกำลังรู้สึกผิดที่ปล่อยให้เพื่อนร่วมปาร์ตี้ทั้ง 2 คนตายเพียงเพื่อให้ตัวเองหนีรอดไปได้ เชษฐ์ก็ยังคงนั่งคุกเข่าเอามือกุมศีรษะ ทั้งยังสั่นเป็นเจ้าเข้าอีกต่างหาก ต่างจากเสือที่แม้จะเพิ่งผ่านสถานการณ์เสี่ยงตายมาก็ยังคงทำตัวเรียบเฉยอยู่เช่นเคย

〝นี่นาย!!! ตอนที่อยู่ในดันเจี้ยนเป็นบ้าอะไรหา!!!!!!〞

          ทั้งที่เพิ่งออกมาจากดันเจี้ยนได้ แต่เธอกลับไม่ดีใจเลยซักนิด เพราะทนไม่ได้กับพฤติกรรมต่ำช้าแบบนั้นของเสือ ลินดาจึงได้ตะคอกใส่เสือออกไปอย่างรุนแรง

〝………………〞

〝ตอบฉันมาสิ!!!  ทำไม... ทำไมถึงทำเรื่องโหดร้ายแบบนั้นได้ลงคอ!!!〞

          เพราะเสือไม่ได้ตอบเธอกลับมา เธอถึงได้ตะคอกถามเสือต่อไปทั้งอย่างงั้น การตะคอกนั่นดังพอที่จะดึงสติของเชษฐ์กลับมาได้ แล้วทำให้เขาพยุงตัวขึ้นมาร่วมสนทนากับลินดาได้ในไม่นาน

〝คะ คุณเสือ  ทำแบบนั้นหมายความว่ายังไงกันเหรอครับ.... คุณหน่ะรู้ตัวรึเปล่าว่าทำอะไรลงไป?〞

〝………………〞

〝มะ ไม่คิดจะตอบเลยงั้นเหรอ!!!?  นี่ผมกำลังถามคุณอยู่นะครับ!!!!〞

〝แล้วมันยังไงกันหล่ะ?〞

〝〝!!!!!!!〞〞

〝ที่ฉันทำมันเป็นเรื่องผิดงั้นรึไง!!!?〞

          แล้วเสือก็ตอบคำถามกลับมาด้วยคำถาม รวมกับท่าทางทำเป็นทองไม่รู้ร้อนของเสือเข้าไป นั่นยิ่งทำให้ลินดาโกรธจัดมากเข้าไปอีก

〝นะ นี่นายจะบ้ารึไงกัน!  มันก็ต้องผิดอยู่แล้วสิ!!!  นายหน่ะทิ้งคนทั้งคนไว้ในที่อันตรายแบบนั้นคนเดียวเลยนะ!!! เห็นไม่ใช่รึไงกัน ความแข็งแกร่งของมอนสเตอร์ในดันเจี้ยนนั่น  ป่านนี้เขาคนนั้นก็คง..!!!!!〞

〝ชะ ใช่แล้วหล่ะครับ  ที่คุณทำอยู่มันเป็นการฆ่าคนโดยเจตนาเลยนะครับ!!! มะ ไม่คิดจะสำนึกผิดบ้างเลยรึไงกันครับ!!!!〞

〝………〞

          เพราะเห็นฮาวลี่ถูกฆ่าต่อหน้าต่อตา ทั้งสองคนเลยคิดว่ากร ที่เป็นผู้กล้าที่อ่อนแอที่สุดคงไม่มีทางมีชีวิตรอดจากที่นั่นแน่ๆ ถึงได้ด่าทอเสือไปแบบนั้น

〝อย่ามาทำเป็นพูดดีไปเจ้าตัวเล็ก...  แกเองก็ดีใจไม่ใช่รึไงที่ตัวเองรอดออกมาได้อย่างปลอดภัยหน่ะ?〞

〝!!!!!!!!!!〞

〝จริงๆก็คิดอยู่ไม่ใช่รึไง....ว่าโชคดีจริงๆ ที่คนที่ต้องเป็นเหยื่อล่อไม่ใช่ตัวเองหน่ะ〞

〝มะ ไม่ใช่นะ ผม...〞

          แล้วพอเสือพูดออกไปแบบนั้นก็ทำให้เชษฐ์หงอยลงไปนิดหน่อย เรื่องที่ดีใจตัวเองรอดออกมาได้อย่างปลอดภัยนั้น ไม่ว่าใครก็ต้องรู้สึกแบบนั้นอยู่แล้ว แต่เพราะเพิ่งผ่านเรื่องร้ายๆมานั่นจึงทำให้จิตใจของเชษฐ์ยังคงหวั่นไหวได้ง่ายอยู่  ผลก็คือด้วยคำพูดเพียงไม่กี่ประโยคของเสือก็ทำให้เขานิ่งเงียบไปได้เลย

〝พอได้แล้วไอ้เดนมนุษย์!!!  นี่แกยังจะมีหน้าไปว่าคนอื่นอีกงั้นเหรอ!  คนตายไปตั้งสองคนแท้ๆยังไม่รู้สึกอะไรอีกงั้นเหรอ!!!!〞

〝.....................〞

          ในที่สุดลินดาก็ฟิวส์ขาดจนได้ เลยทำให้ต่อว่าเสือออกไปอย่างรุนแรงแบบนั้น แต่เสือก็ยังคงนิ่งเฉยไม่พูดอะไรเหมือนเดิม 

〝บ้าเอ้ย!!!  ก็ได้...ถ้าคุยด้วยไม่ได้ละก็ฉันจะ!!!〞

〝โฮ่....จะทำอะไรฉันงั้นเหรอ?〞

          พอลินดาพูดออกไปแบบนั้น  เสือก็กลับมีปฏิกิริยาทันที มันดูเหมือนเขากำลังยั่วโมโหเธออยู่ยังไงอย่างงั้นเลย  แล้วพอลินดาพูดจบเธอก็หันหน้าไปทิศตรงข้ามกับที่เสือยืนอยู่ แล้วก็เดินหนีไปทันที

〝ฉัน....จะไปบอกคุณฮันซี่!!!  จะบอกให้หมดเลย!!!  เรื่องเลวๆที่นายทำไว้ในดันเจี้ยนนั่นหน่ะ!!!!〞

ซู่ม!!!!———

          แล้วพอลินดาพูดจบ รอบๆบริเวณที่เสือ เชษฐ์และลินดายืนอยู่ก็มีบรรยากาศน่าขนลุกเกิดขึ้น มีเงาที่มีลักษะคล้ายเปลวเพลิงสีดำโผล่ขึ้นมาจากพื้นมากมายอย่างไร้รูปร่าง เข้าโอบล้อมบริเวณที่ทั้ง 3 คนอยู่อย่างหนาแน่นจนรู้สึกแย่เลยทีเดียว

〝หืม....ถ้าเป็นงั้นจริงฉันก็ซวยหน่ะสิ!!!〞

〝นะ นี่มัน เวทย์อะไรกัน!〞

          พอลินดารู้สึกตัวอีกที เธอก็ดันเกิดอาการหายใจติดๆขัดและหมดแรงจนแทบจะยืนไม่ไหวเสียแล้ว แน่นอนว่าเชษฐ์เองก็เป็นแบบเดียวกัน

〝นี่นาย.....คิดจะทำ....อะไร....กับพวกเรา!!!!〞

          เพราะการหายใจไม่ค่อยสะดวกนัก จึงทำให้เธอพูดติดๆขัดๆ

〝ก็...  ทำให้พวกเธอติดคำสาปยังไงหล่ะ…〞

〝คะ คำสาป!!!〞

〝ใจจริง... ฉันก็อยากเก็บพวกเธอไปเลยหรอกน่ะ แต่ถ้าทั้งปาร์ตี้เหลือฉันคนเดียวแบบนี้มันก็จะน่าสงสัยหน่ะสิ ว่าไหม!?〞

〝!!!!!!!!!!!!!!!!!〞

          พอเธอได้ยินเสือพูดว่าจะฆ่าพวกเธอตรงๆ นั่นทำให้เธอเสียวสันหลังวาบเลยทีเดียว

〝นะ นี่แก  สติดีอยู่รึเปล่า!!!  ล้อเล่นใช่ไหมเนี่ย!!!〞

〝เห็นที่ฉันทำลงไปในดันเจี้ยนแล้ว  คิดว่าล้อเล่นรึเปล่าหล่ะ!〞

          สายตาของเสือนั้นยังคงเย็ชาอยู่ไม่เปลี่ยนแปลง นั่นทำให้เธอรู้ว่าเขาไม่ได้พูดเล่น

〝ไม่ต้องเป็นห่วงไป...คำสาปนี่หน่ะ จะเกิดผลในเหตุการณ์เฉพาะเท่านั้น เงื่อนไข......แน่นอนว่าพวกเธอไม่จำเป็นต้องรู้  อ๊ะ! แล้วก็....〞

ซู่ม!!!!

          ทันทีที่เขาพูดจบแล้วแผ่มือด้านขวาไปยังที่ต้นไม้ใกล้ๆอยู่ ต้นไม้นั่นก็ถูกเปลวเพลิงล้อมรอบ ถูกเผาไหม้อย่างรวดเร็ว แล้วก็กลายเป็นตอตะโกในเวลาไม่ถึง 30 วินาที แล้วเขาก็ยื่นหน้าของตัวเองเข้าไปใกล้ลินดาที่กำลังนั่งก้มหน้าเพราะความเจ็บปวดทรมานอยู่

〝ถ้าเกิดคิดที่จะเล่าเรื่องของฉันออกไปหล่ะก็... พวกเธอก็จะได้รับความเจ็บปวดทรมานยิ่งกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้หลายพันเท่า ....แล้วสุดท้าย คำสาปที่ว่าก็จะทำให้พวกเธอเป็นแบบต้นไม้ต้นเมื่อกี้นี้นี่แหล่ะ〞

〝!!!!!!!!〞

         

ซู่ม———

          แล้วเสือก็ปลดเวทย์ปริศนาของตัวเองออกไป ยกเว้นต้นไม้ที่เหลือเพียงผงสีดำสนิท ทุกอย่างก็กลับมาอยู่ในสภาพเดิม เหลือเพียงแต่เชษฐ์กับลินดาที่ยังคงนั่งหายใจหอบกันอยู่

〝ไอ้......สัตว์นรกเอ้ย〞

〝เฮอะ!!! ใครสนกันหล่ะ!!! แล้วก็อย่าลืมเรื่องที่ฉันขู่ไปเมื่อกี้ซะหล่ะ... แล้วจะหาว่าไม่เตือน!!!〞

          พอพูดจบ เขาก็ลุกขึ้นแล้วก็หันหน้าหนีไปชมนกชมไม้อย่างสบายอารมณ์ราวกับเรื่องพวกนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แต่พวกลินดาที่กำลังกำหมัดและกัดริมฝีปากแน่นอยู่ก็เหมือนลูกไก่อยู่ในกำมือของเสือไปเสียแล้ว ทำให้บ่นอะไรไม่ได้มากอีกนัก แล้วบรรยากาศรอบตัวของเสือก็หนักอึ้งขึ้นมากเสียยิ่งกว่าเดิม...

❖❖❖❖❖

———ในขณะเดียวกัน  ทางด้านของกร...

เฮ้ยๆ!!!! นี่มันเรื่องบ้าอะไรวะ!!!  เดี๋ยวก่อน...เดี๋ยวสิ!!! ตามไม่ทันแล้วโว้ย!!!  นี่มันเกิดห่าเหวอะไรขึ้นกันวะ!!!!!!

นี่ฉันถูกทิ้งเหรอ? ไม่ตลกนะเฮ้ย!!!

          ในขณะที่กรกำลังมีความคิดสับสนปนเปมากขึ้นเรื่อยๆ ก็ถูกเหล่ามอนสเตอร์ทั้ง 5 ตัวกดดันโจมตีให้ถอยร่นมาทางที่เคยมีวงเวทย์นั่นเรื่อยๆ

ละ แล้วจะทำยังไงต่อไปดี  หนีงั้นเหรอ…เป็นไปไม่ได้เลย!!! แค่หลบอยู่นี่ก็เต็มกลืนแล้ว  ช่องว่างของเจ้าพวกนี้ก็ไม่มีเลยแม้แต่น้อย...

วงเวทย์นั่นตอนแรกที่มาเจอยังเปล่งแสงอยู่เลย แต่ตอนนี้... ไม่มีทาง!!!  ดูยังไงพลังเวทย์มันก็หมดแล้วชัดๆ!

ฉั๊ว!!!!!!!

〝อึ๊กกกกก!!!!!!!!!!!〞

          ขณะที่กรกำลังเพ้ออยู่นั้น ก็ถูกมีดสั้นของก๊อบลินฟันเฉียดไปทีหลัง แต่ความเจ็บปวดนั่นเองก็ทำให้กรได้สติแล้วสังเกตเห็นบางอย่างกับการเคลื่อนไหวของกลุ่มมอนสเตอร์

นะ นั่นมัน!? ทางขวาลิซาร์ดแมนตัวนั้นเปิดช่องว่างนิดหน่อย  เป็นโอกาสแล้ว!!! ไม่สิโอกาสสุดท้ายเลยต่างหาก!!!

ด้านหลังฉันเป็นทางตัน ถ้าจะหาทางหนีละก็ นี่เป็นโอกาสสุดท้ายแล้ว!!!!

          แล้วกรก็รอจังหวะที่เหมาะสม จนกว่าช่องโหว่ของการเคลื่อนไหวของมอนสเตอร์จะกว้างพอให้หลบหนีไปได้พอได้จังหวะเข้าก็รีบพุ่งไปทันที  แต่ว่า...

ชึบ———

〝!!!!!!!!!?〞

          พอกรผ่านตัวของเจ้าลิซาร์ดแมนไปได้กลับมีมอนสเตอร์ตัวที่ 6 ซึ่งเป็นมนุษย์โครงกระดูกดักรออยู่ นั่นทำให้กรตกใจจนหัวใจแทบวายเลยทีเดียว เหมือนกับอีก 5 ตัวที่เหลือ กรสัมผัสตัวตนของมันไม่ได้เลยแม้แต่น้อยจนกระทั่งมันปรากฏตัวขึ้นมา เพราะตกใจสุดขีดอยู่นั่น จึงทำให้กรเสียสมาธิไปพริบตานึง แล้วหลังจากนั้น

ฉั๊ว!!!!!!!

          เสียงฟันนั่นดังขึ้นมาและก้องอยู่ในจิตสำนึกของกรชั่วระยะเวลาหนึ่ง

ตุ๊บ!!!!!!!   แผล่ะ!!!!!!!

          หลังเสียงนั้นผ่านไปกร ก็ได้ยินเสียงเหมือนมีของหนักๆตกลงใกล้กับบริเวณที่ตัวเองยืนอยู่และมีเสียงที่เหมือนกับทำของเหลวหกกระจายไปทั่ว หลังจากนั้นเขาก็รู้สึกได้ว่าร่างกายข้างซ้ายรู้สึกเบาโหวงแปลกๆ ก็เลยมองไปดูเสี้ยวระยะเวลาหนึ่ง แล้วก็พบว่าแขนของเขาได้หายไปแล้ว และวัตถุปริศนาที่หล่นลงใกล้ๆกับกรก็คือ แขนของเขาที่ถูกมนุษย์โครงกระดูกฟันด้วยดาบยาวมือเดียวจนขาดสะบั้นนั่นเอง

〝อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!〞

          โชคร้ายที่กรดันมีประสาทสัมผัสอันยอดเยี่ยม ความเจ็บปวดเลยถูกเพิ่มเป็นทวีคูณ ในเวลาแบบนี้ความสามารถที่แสนภูมิใจดันกลับมาทำร้ายตัวเองซะได้

แขน!!!  ขะ แขน!!!!!!! 

โกหก!!!  โกหกชัดๆ!!!!

สวบ!!!!!!!

〝อ๊ากกกกกกกกกกกกก!!!!!!!!!!!!!!!!〞

          และไม่ทันได้หยุดพัก เพราะสติสะตังของกรในตอนนี้นั้นแทบจะกระเจิดกระเจิงไปหมดแล้ว นั่นทำให้ก็อบลิบที่มีขนาดตัวเล็กที่สุดเข้าโจมตีกรได้อย่างง่ายดาย แล้วมีดสั้นของมันก็เสียบเข้าไปที่หน้าอกด้านซ้ายของกรเสียจนมิดด้าม และการโจมตีนั่นก็ทำให้กรเซไปข้างหลังจากการโจมตีของก็อบลินไปทางวงเวทย์ที่เป็นทางตัน จนหลังไปพึงกับกำแพงที่อยู่ในสุด และกำลังเหยียบที่ๆเคยมีวงเวทย์อยู่นั่นเอง

เวรเอ้ย!!! เวรเอ้ย!!! เวรเอ้ย!!! เวรเอ้ย!!! เวรเอ้ย!!! เวรเอ้ย!!! เวรเอ้ย!!! เวรเอ้ย!!! เวรเอ้ย!!!         

เวรเอ้ย!!! เวรเอ้ย!!! เวรเอ้ย!!!

เจ็บชะมัดยาด!!!!  มีดมันเสียบเข้ามาในตัวฉันแล้ว 

ไอ้พวกมอนสเตอร์เวรตะไลพวกนี้!!!  ฉันไปทำอะไรให้กันวะ!!!

สวบ!!!!!!!

สวบ!!!!!!!

〝อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!〞

          พอถูกการโจมตีจนหลังไปกระแทกกับกำแพงได้ไม่นาน ลิซาร์ดแมนอีกสองตัวก็เอาดาบยาวที่มีรูปร่างแปลกๆเสียบเข้ามาที่ท้องน้อยและต้นขาของเขาเสียจนทะลุไปข้างหลังเลยทีเดียว  เสียงกรีดร้องอย่างโหยหวนที่แสดงถึงความเจ็บปวดอันมหาศาลที่กรได้รับอย่างต่อเนื่องนั้น ช่างดูน่าเวทนาเสียนี่กระไร

อึ๊ก! กะ โกหกกันใช่ไหม!!!

เกินจะรับได้แล้วเฟ้ย!!!!!  ทรมาน!!! เจ็บโว้ย!!!

รู้สึกเหมือนเครื่องในกำลังถูกฉีกออกเป็นชิ้นๆ!!! นี่มันบ้าอะไรกัน!!!

บ้าเอ๊ย!!!  ที่ขานี่ก็อีก  ไอ้บ้าเอ๊ย!!! ขยับไม่ได้ซักนิด  เรี่ยวแรงเองก็———

เริ่มรู้สึกหนาวขึ้นมาแล้ว…  ตาเองก็เริ่มรู้พร่ามัวแปลกๆยังไงไม่รู้

กลัว... หนาว...

มันอะไรกันนักกันหนาวะ

          ขณะที่กรกำลังคิดอยู่นั้น ขาทั้งสองข้างที่อ่อนแรงจากการหลบการโจมตีมาอย่างต่อเนื่องบวกกับโดนการโจมตีอันหนักหน่วงเข้าไปทำให้ร่างของเขาสไลด์ลงมาตามแนวกำแพง จนตอนนี้อยู่ในท่านั่งขาเหยียดจนเกือบตรง เอาหลังพิงกำแพงแล้วมือขวาที่อ่อนแรงก็วางพาดอยู่ข้างลำตัวตามแรงโน้มถ่วง

นี่ฉัน... กำลังจะตายงั้นเหรอ!?

เฮ้ยๆ ไม่ตลกนะแบบนี้....  ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลยไม่ใช่รึไง

ทำไม... ทำไมชีวิตฉันมันถึงมีแต่เรื่องผิดพลาดกัน...

ความฝันในตอนเด็กก็ทิ้งไปแล้ว

จิตใจที่น่าจะแหลกสลายไปแล้วนั่นก็ได้เจ้าพวกนั้นช่วยไว้แล้วแท้ๆ

อุตส่าห์ได้รู้ว่าพี่สาวอาจจะยังมีชีวิตอยู่แล้วแท้ๆ

คิดว่าจะตอบแทนเจ้าพวกนั้นแท้ๆ

คิดว่าจะคอยให้กำลังใจรินแล้วแท้ๆ

คิดว่าจะช่วยอลิซตามหาศรแล้วแท้ๆ

แล้วนี่มันบ้าอะไรกัน!

ถูกไอ้พระเจ้าบ้านั่นส่งมาต่างโลกแบบไร้เหตุผล!

ถูกพระราชาขอร้องแบบงงๆ!

ถูกให้ไปล่ามอนสเตอร์แบบงงๆ!

ถูกวาร์ปเข้ามาในดันเจี้ยนแบบงงๆ!

ถูกทิ้งแบบงงๆ

แล้วก็… ถูกฆ่าทิ้งแบบงงๆอีกงั้นเหรอ?

ยอมรับไม่ได้!!! ไร้เหตุผลสิ้นดี!!! 

ยังไงก็ยอมรับเรื่องไร้สาระแบบนั้นไม่ลง!  ยังไงฉันก็ยอมรับเรื่องไร้เหตุผลแบบนั้นไม่ลงหรอก!!!!!

〝ไร้เหตุผลชะมัด  ไร้เหตุผลเกินไปแล้ว...... 〞

          ในขณะที่ความคิดมากมายพรั่งพรูออกมาราวกับสายธารไหล กรก็กระซิบแบบนั้นออกเบาๆ ทั้งที่เหนื่อยอ่อนอย่างที่สุดเพราะกำลังจะใกล้ตายเต็มที....

❖❖❖❖❖

———ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้เล็กน้อย-มุมมองของริน

〝ริน!!!  ใช้เวทย์ใส่เจ้าหมีนั่นเลย อีกทีเดียวก็จบแล้ว!!!!〞

〝ค่ะ คุณเจสัน ........เอาหล่ะนะค่ะ【เฟลม บลาสต์เตอร์  】!!!〞

          ในขณะเดียวกันกับที่กรและปาร์ตี้กำลังล่า『หมีเนตรเพลิงป่า』อยู่นั้น ปาร์ตี้ของรินเองก็กำลังล่าหมีตัวที่ว่าอยู่เช่นกัน  ปาร์ตี้ของรินมีหัวหน้าเป็นชายสูงอายุราวๆ 50 ปี แต่ทักษะนั้นไม่เรียกว่าชราภาพตามอายุเลยแม้แต่น้อย ในการล่าของรินเองก็สามารถล่าหมีเนตรเพลิงป่าไปได้ 8 ตัว แต่ถึงเทียบกับปาร์ตี้ของกรแล้วจะน้อยกว่าเกือบเท่าตัวก็ตามแต่ก็ยังเป็นจำนวนที่เยอะมากอยู่ดี รวมกับตัวที่กำลังล่าอยู่นี่ก็เป็นตัวที่ 9 พอดี

〝โอ้ว สำเร็จแล้วทุกคน!!! ประสานงานกันได้ยอดเยี่ยมมาก!!!〞

〝〝〝〝ครับ/ค่ะ!!!!〞〞〞〞

          หลังจากที่ล้มหมีเนตรเพลิงป่าลงได้เจสันก็กล่าวแสดงความยินดีกับทุกคนอย่างสุภาพสมเป็นผู้อาวุโส แล้วทุกคนก็ตอบกลับไปอย่างสุภาพและแข็งขันเช่นกัน แล้วหลังจากนั้น ก็มีแสงสว่างสีทองเป็นจุดเล็กๆตรงบริเวณดวงตาของหมีที่ถูกโค่นแล้วจากนั้น....

〝คะ คุณเจสัน นั่นมันอะไรเหรอครับนั่น!〞

〝หืม.....ห๋า!!!  นั่นมัน!!!〞

          พอมีนักเรียนชายสังเกตเห็นแสงสีทองตรงดวงตานั่น จึงได้บอกกับเจสันไป แต่เขากลับแสดงอาการตกใจปนดีใจออกมา ทำให้ทุกคนแปลกใจกันมาก

〝ละ เหลือเชื่อ!!! นี่มันแรร์ดรอปของหมีเนตรเพลิงป่า『อัญมณีเนตรเพลิงป่า』นี่นา!!!〞

〝〝โอ้ว!!!!!!!!〞〞

          ที่หล่นออกมาจากดวงตาของหมีนั่นก็คือ『อัญมณีเนตรเพลิงป่า』นั่นเอง มันเป็นอัญมณีสีแดงเพลิงไร้รูปร่างที่ยังไม่ได้รับการเจียระไน แต่ก็ยังส่องประกายอย่างงดงาม และพอได้ยินแบบนั้นทุกคนก็เลยทำแววตาเป็นประกาย เพราะตั้งแต่ล่ามายังไม่มีไอเทมดรอปเลยซักครั้ง แต่พอดรอปออกมาครั้งแรกมันดันเป็นไอเทมแรร์ซะด้วย นั่นทำให้ทุกคนตื่นเต้นกันมาก  จากคำอธิบายของเจสันบอกว่าปกติแล้วอัญมณีเนตรเพลิงป่านั้นแม้แต่หมีเนตรเพลิงที่พบในดันเจี้ยนที่มีโอกาสดรอปมากกว่าเองยังแทบไม่มีโอกาสดรอปออกมาเลย  แต่การที่มาเจอมันดรอปอยู่นอกดันเจี้ยนเนี่ยต้องเรียกว่ามีโชคสุดๆ นั่นจึงเป็นเหตุผลให้เขาแปลกใจมากนั่นเอง

〝อืม....  ว่าแต่พอมันเป็นแบบนี้แล้วจะให้ใครเก็บไว้ดีหล่ะครับ!〞

          นักเรียนชายคนเดิมในตอนแรกได้ถามออกมาอีกครั้ง แต่ก็มีเสียงของผู้หญิงดังขึ้นขัดจังหวะเจสันที่กำลังจะพูดอยู่นั่น

〝นี่ๆ ทำไม ไม่ให้รินเก็บไว้หล่ะ!!!!?〞

〝นะ เนย!?〞

          เด็กผู้หญิงที่พูดขัดคอเจสันอยู่นี้ ชื่อ『เนย』 เป็นเด็กผู้หญิงที่มีส่วนสูงพอๆกับริน มีผมสีดำสลวยไว้ทรงทวินเทลแต่จุดที่ผูกนั้นอยู่ต่ำจนถึงบ่าเลยทีเดียว จากที่ดูภายนอกคงเป็นมีนิสัยร่าเริง พอผูกทวินเทลเข้าไปด้วยเลยทำให้เธอดูเด่นมากเลยทีเดียว เธอคนนี้รู้จักกับรินตอนเรียนชั้น ม.1 แม้จะไม่สนิทเท่ากับเพื่อนสมัยเด็กเช่นพวกกร แต่ก็เป็นคนที่สนิทด้วยที่สุดรองจากอลิซเลยทีเดียว

〝นั่นสินะ....  ตามปกติเวลามีไอเทมดรอปออกมา คนที่จะได้ไป คือ คนทำลาสแอทแท็คซะด้วย....  งั้นก็เอาตามนั้นแหละ.....ทุกคนไม่มีปัญหาอะไรนะ!!! 〞

〝〝ครับผม/ค่ะ!!!! 〞〞

          ทั้งสองคนที่เหลือยังคงตอบอย่างขยันขันแข็งโดยที่ไม่มีท่าทางกังขาการตัดสินใจของเจสัน

〝ดะ เดี๋ยวก่อนสิ  แบบนั้นมันจะดีเหรอทุกคน!!!〞

〝อืม ดีสิ!!! นี่เป็นมารยาทปกติในเวลาของตกเลยนะ ไม่ต้องกังวลไปหรอก!!〞

〝งะ งั้นเหรอ!?〞

          เด็กหนุ่มอีกคนก็พูดอธิบายโดยใช้หลักการเดียวกับในเกมออนไลน์ให้รินฟัง เพราะรินคิดว่าการทำแบบนี้มันเหมือนกับเอาเปรียบทุกคนที่ร่วมกันล้มหมีนั่นจึงได้เกรงใจทุกคน ถึงแม้ตัวเองจะอยากได้นิดๆก็เถอะ แต่พอทุกคนบอกว่าไม่เป็นไรเธอถึงทำสีหน้าโล่งอก

〝จะ จะว่าไป คุณเจสันคะ เจ้านี่มันเอาไว้ทำอะไรงั้นเหรอคะ!!!〞

〝หืม!!! อ๋อ…พวกอัญมณีส่วนใหญ่ก็เอาไปทำเป็นเครื่องประดับไม่ใช่เหรอ?〞

〝เครื่องประดับงั้นเหรอคะ?〞

เอ... เป็นเครื่องประดับงั้นเหรอเนี่ย  ถ้างั้นเอาไปทำเป็นสร้อยคอดีไหมนะ....

จริงสิ... พอไปถึงเมืองก็ให้ช่างทำให้เลยดีกว่า 

แต่ฉันก็ใส่สร้อยอยู่แล้ว ฮึๆ งั้นเอาไปให้กรดีกว่า———

         

พอถามและได้คำตอบแบบนั้น เธอจึงได้คิดต่อไปอีกอย่างร่าเริง แต่แล้ว...

〝ว๊าย!!!!  เนย! ทำอะไรกันเนี่ย!〞

〝อุ๊ยตาย! ปฏิกิริยาน่ารักจังเลยนะ ว่าแต่จะไอ้นั่นเอาไปทำอะไรงั้น?〞

          แล้วเนยที่เป็นคนเสนอให้รินได้อัญมณีไปก็เข้ามากอดรินจากด้านหลัง เพราะมัวแต่คิดเรื่อยเปื่อยพอโดนแบบนี้เข้าอย่างกะทันหัน เลยทำให้รินตกใจ

〝อืม... ถ้าเอาไปทำสร้อยคอก็คงจะดีหล่ะนะ แล้วก็คิดว่า...〞

〝หุ หุ หุ…  รึว่าคิดจะเอาไปให้เค้าคนนั้นงั้นเหรอ?〞

〝!!!!!!!!!!?〞

ระ รู้ได้ยังไงกันเนี่ย

〝พะ พูดเรื่องอะไรกันหน่ะเนย... ก็กรหน่ะ〞

〝อ้าวๆ! ฉันยังไม่ได้พูดชื่อเค้าเลยนะ〞

〝เอ๋ๆๆ!!!  หวาๆๆ!!!〞

          พอเนยแกล้งถามรินด้วยสายตาและรอยยิ้มขี้เล่น ก็ทำให้รินเขินจนหน้าแดงไปถึงหูเลยทีเดียว นั่นก็เพราะที่เนยพูดนั้นเป็นความจริงนั่นเอง ใช่แล้วคนที่รินชอบอยู่ก็คือกรนั่นแหละ แน่นอนว่าในฐานะผู้ชายคนนึง ในสมัยเด็กนั้นกรเป็นเป็นที่ชื่นชอบของทุกคนในกลุ่มนั่นก็เพราะเขามีความเป็นผู้นำและมีนิสัยทำตัวเด่น ชอบหาเรื่องสนุกๆมาให้ทุกคนทำอยู่เสมอ นั่นทำให้อีกทั้ง 3 คนเองก็แอบชื่นชมและปลาบปลื้มอยู่ในใจเช่นเดียวกับริน รินเองนั้นเป็นผู้หญิงที่ค่อนข้างขี้อายเลยไม่ค่อยกล้าเล่นกับผู้ชาย กรที่เป็นเพื่อนข้างบ้านจึงเป็นผู้ชายคนแรกที่เข้ามาชวนคุยและพาเธอเข้ากลุ่มไปเล่นด้วยกัน นั่นเป็นครั้งแรกที่เธอเริ่มสนใจในตัวกร หลังเวลาผ่านไปเป็น 10 ปีความรู้สึกดีๆของเธอที่มีต่อกรก็พอกพูนขึ้นเรื่อยๆจนกลายเป็นความรักในที่สุด

          ที่ทำให้เธอรู้สึกตัวก็คงเป็นตอนที่กรสูญเสียพ่อและแม่จากอุบัติเหตุตอน ม.2 อย่างกะทันหัน หลังจากงานศพจบลง กรก็เก็บตัวเงียบอยู่แต่ในห้อง ไม่ไปโรงเรียนและตีตัวออกห่างจากทุกๆคน ในตอนแรกๆที่ทุกคนพยายามพาเขาออกมาจากห้องก็ได้ยินแต่คำพูดขับไสไล่ส่งออกมาด้วยสีหน้าและเสียงที่เย็นชาในทำนองว่า〝นี่มันชีวิตของฉัน... ฉันจะใช้ยังไงมันก็เรื่องของฉัน ....พวกเธอหน่ะครอบครัวก็ไม่ใช่ แล้วจะมายุ่งทำไมไม่ทราบ….〞คำพูดที่เสียดแทงใจนั่นทำให้รินถึงกับหลั่งน้ำตาเพราะความเจ็บปวดเลยทีเดียว สาเหตุนั้นก็เพราะคำพูดของกรมันสื่อได้ว่า【พวกนายไม่ใช่เพื่อนฉันอีกต่อไป อย่ามายุ่งกับฉัน.....】 พอเธอคิดว่าความสัมพันธ์ของพวกเราจะจบแค่นี้ ก็ทำให้เธอเจ็บปวดจนแทบจะขาดใจเลยทีเดียว นั่นคงเป็นตอนที่รินรู้สึกได้ว่าความห่วงหานั่นเกิดจากความรักนั่นเอง

          แต่แน่นอนว่าทุกคนไม่มีใครยอมแพ้ ทุกๆวันทุกคนจะบุกเข้ามาในบ้านของกรแล้วก็บังคับลากตัวกรออกมาเที่ยวเล่นจนเขาเริ่มจะเปิดใจกลับมาหาทุกคนเหมือนเดิมได้ในที่สุด แต่หลังจากนั้นรินก็ยังคงทำตัวตามปกติต่อหน้ากรเสมอ เพราะเธอรู้ว่ากรไม่มีทางมองพวกเราไม่ว่าจะเป็นเธอหรืออลิซที่เป็นเพื่อนสมัยเด็กคนสำคัญเป็นเป้าหมายของความรักได้ นั่นทำให้เธอทำได้แค่รักเขาข้างเดียวมาตลอดตั้งแต่สมัยเด็กจนกระทั่งตอนนี้นั่นเอง

〝อะไรกันเนี่ย!!!  ฉันนึกว่าเธอจะเป็นพวกเงียบๆซะอีก ที่จริงก็รุกเขาอยู่ไม่ใช่รึไง!!!〞

〝นะ เนย! มะ ไม่ใช่นะ!!!〞

〝เธอหลอกฉันไม่ได้หรอกน่า... คิดว่าฉันจะดูไม่ออกรึไงกัน!〞

〝งือ〜  ใจร้ายที่สุดเลยอะเนย〞

〝ฮะฮ่ะฮ่ะ... ใจเย็นน่า ฉันไม่บอกใครหรอก ขืนบอกไปล่ะก็หมอนั่นโดนคนทั้งโรงเรียนฆ่าแหงมๆ〞

          ทั้งสองคนก็ยังคงกระซิบกันอย่างร่าเริงตามประสาเด็กหญิงวัยรุ่นทั่วไปที่คุยเรื่องความรัก

〝เอาเถอะนะ! ยังไงมันก็ไม่ใช่เรื่องของฉันนี่นะ แต่ก็พยายามเข้าละ! ฉันคนนี้จะเป็นแบ็คอัพให้จนกว่าจะสมหวังเลยนา... เพราะงั้นอย่ายอมแพ้เชียวหล่ะ!!!〞

〝ขะ ขอบคุณนะ เนย!〞

          แล้วเธอก็ผละตัวออกจากตัวรินที่กำลังกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันอยู่เมื่อครู่ แล้วก็วิ่งไปคุยกับคนอื่นอย่างร่าเริง เพื่อปล่อยให้รินคิดเรื่องของตัวเองตามลำพังบ้าง

ให้ตายสิ.... เนยเนี่ยรู้ไปซะหมดจริงๆนะ...

ฮึๆ แต่ก็จริงนะ เราเองก็คงต้องพยายามให้มากขึ้นซะแล้วสิ....  เอาหล่ะ! ต่อไปคงต้องพยายามทำแต้มบ้างแล้วหล่ะนะ...  แต่ตอนนี้ก็คงต้องพยายามเรื่องที่ทำได้ตรงหน้าซะก่อน...

.....ก็สัญญากับกรไว้แล้วนี่นะ ว่าจะกลับบ้านไปด้วยกันกับทุกคน....

          แต่รินที่กำลังครุ่นคิดอย่างร่าเริงอยู่นั้นก็ไม่ได้รู้สึกตัวเลย ว่าในอีกไม่กี่ชั่วโมงหลังจากนี้ เธอจะต้องได้รับรู้ถึงความเป็นจริงอันแสนจะโหดร้ายจนแทบจะทำให้จิตใจของเธอแหลกสลายได้ในเวลาต่อมา.....

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ชีวิตบัดซบเพราะมาต่างโลก เลยสร้างปาร์ตี้ไปโค่นพระเจ้าซะเลย   ตอนที่ 225 : ความสำเร็จเกิดจากการยอมรับความผิดพลาดของตัวเอง (จบบทที่ 4)

    ช่วงหลังมานี้... หลังจากที่เหล่าภรรยาของฉันได้รู้ทุกอย่างและยอมรับสิ่งที่ฉันเป็นหรือเจอมา จำนวนครั้งที่ฝันร้ายก็ลดน้อยลงอย่างเห็นได้ชัดใช่ มันไม่ได้หายไปหรอก... ฉันรู้ตัวดี และสัมผัสได้ก็เพราะความกังวลยังมีอยู่นั่นแหละนะแต่ก็ต้องขอบคุณความอ่อนโยนของทุกคน มันถึงไม่ได้เลวร้ายเหมือนเมื่อก่อนเพราะมีพวกเธออยู่เคียงข้าง ฉันเลยไม่ได้กลัวจนสติแตกเหมือนเมื่อก่อนแล้วใช่... ต่อให้ฝันร้ายถึง ‘เรื่องในอดีต’ ฉันก็ไม่ได้กลัวหรือว่าเศร้าอีกแล้วเพราะงั้น... ความรู้สึกปั่นป่วนในอกนี่ จึงใกล้เคียงกับความกังวลมากกว่า กรรู้สึกชื่นชมความใจเย็นของตัวเอง มั่นใจว่าอย่างน้อยมันก็ดีขึ้นกว่าก่อนแน่ ไม่อย่างนั้น... ภาพของชายหาดที่เต็มไปด้วยซากศพรอบกายของเขา คงทำเอารู้สึกผิดจนทรมานตัวสั่นไปแล้วเป็นฝันร้ายที่ไร้รสนิยมซะจริง กรรู้สึกขนลุกจนหน้าเหยเกแม้จะรู้ว่าทั้งหมดเป็นแค่ความคิด ด้วย ‘สุดยอดการประมวลผล’ มันไม่ยากอยู่แล้วที่จะรู้ตัวขณะหลับ ...มันสุดยอดจนถึงกับรู้ด้วยซ้ำว่าอะไรเป็นสาเหตุของการฝัน ชายหาดนี้ไม่ใช่ที่ที่กรรู้จัก แต่จำนวนศพที่มากขนาดนี้ เดาได้เลยว

  • ชีวิตบัดซบเพราะมาต่างโลก เลยสร้างปาร์ตี้ไปโค่นพระเจ้าซะเลย   ตอนที่ 224 : ผีเสื้อกระพือปีก สะเทือนถึงผืนฟ้าแลสะท้านถึงอเวจี

    ————สามวันต่อมา, ทวีปอีเดน - ใจกลางเมืองหลวงแอสการ์ด ใจกลางทวีปอีเดนนั้น ปกติแล้วคือสวนอันศักดิ์สิทธิ์สำหรับเหล่าเทพผู้ปกครอง ซึ่งมีไว้ใช้เพื่อกำหนดทิศทางของสรวงสวรรค์หรือหมายรวมถึงโลกมนุษย์เบื้องล่าง ถนนสายหลักของตระกูลทั้งเจ็ดล้วนแล้วแต่เข้ามาบรรจบ ณ ที่สวนพฤกษานี้ เมื่อไรก็ตามที่มีหัวหน้าตระกูลมาเยือน ทางเข้าของสวนจากถนนเส้นนั้นจะมีมือขวาข้ารับใช้เฝ้าถนนเส้นนั้นไว้เป็นปกติ ...ทว่าในวันนี้กลับแตกต่างเป็นพิเศษ เพราะจำนวนข้ารับใช้ของทั้งหกตระกูลที่มานั้นมีจำนวนกว่าร้อยคน แถมทางเข้าสวนจากถนนแต่ละเส้นยังติดธงประดับตราประจำตระกูลอีก ซ้ำร้าย... ธงที่ว่ายังเป็นลักษณะเดียวกับที่ใช้ในสงคราม มันเคยถูกใช้ทั้งกับจอมมารในอดีตกาลหรือกับราชาปีศาจในปัจจุบัน นั่นแลคือสัญญาณบ่งบอกความรุนแรงของสถานการณ์ในตอนนี้ โดยเฉพาะใจกลางสวนพฤกษา ที่ตั้งของโต๊ะกลมทำจากหินอ่อนซึ่งเป็นสถานที่ประชุมของเหล่าหัวหน้าตระกูลยกเว้นกาบริเอล สีหน้าทุกคนนั้นอยู่ไม่สุข ทั้งกังวลและโกรธเกรี้ยวบ้าง สับสนบ้าง ...และสาเหตุของเรื่องนั้น ก็คือกระดาษแผ่นน

  • ชีวิตบัดซบเพราะมาต่างโลก เลยสร้างปาร์ตี้ไปโค่นพระเจ้าซะเลย   ตอนที่ 223 : ความหวังและสิ้นหวัง คือสองด้านของเหรียญที่ชื่อศรัทธา

    หลังจากที่อัพเดทข้อมูลกับเหล่าสหายภาคีโต๊ะจัตุรัส กรก็ต้องกลับไปแต่งชุดเพื่อเข้าพิธีรับมอบรางวัลต่อ เพราะตัวเอกของงานคือพวกกรทั้ง 4 ฝ่าย และมีเหล่าราชาจากอาณาจักรในสังกัดสภาโลกเป็นผู้มอบรางวัล นั่นหมายความว่าเหล่าภรรยาของกรที่เป็นกำลังหลักในการปราบอาร์เคมีดีสก็ต้องร่วมงานรับรางวัลด้วย ไม่สิ... ‘ดาร์คไนท์ซิริอุส’ ที่เป็นกำลังหลักนี่แหละคือตัวเอกหลักของงาน ไม่ร่วมเห็นทีคงจะไม่ได้เพราะงั้นพวกเราก็เลยได้ห้อง VIP ไว้แต่งตัว ต้องขอบคุณแอนดรูว์เลยแหละแล้วระหว่างที่รอสาว ๆ เขาแต่งองค์ทรงเครื่องกัน ฉันก็ไปอัพเดทข้อมูลรอถึงจริง ๆ จะอยู่ในห้องตอนสาว ๆ แต่งตัวได้แบบไม่เป็นไรก็เถอะ (ก็เห็นกันทุกซอกทุกมุมแล้วนี่นา)แต่ในแง่ของความรู้สึก... ขืนจ้องของสวย ๆ งาม ๆ ขนาดนั้นนานเข้า พูดตามตรงว่ามันจะของขึ้นจนไม่เป็นอันทำงานเอาน่ะสิฉันก็รู้นิสัยตัวเองดีอ่ะนะ เลยขอป้องกันไว้ก่อนดีกว่า กรอมยิ้มแห้งกับขีดจำกัดของตัวเองเหมือนทำใจ ก่อนเปิดประตูเข้าไปในห้องที่เขากับสาว ๆ เช่าพัก“อ๊ะ! กรกลับมาแล้ว!”“เป็นไงบ้าง เหนื่อยไหมกร?” มีอากับรินเดินเข้ามารับกรก่อนใคร

  • ชีวิตบัดซบเพราะมาต่างโลก เลยสร้างปาร์ตี้ไปโค่นพระเจ้าซะเลย   ตอนที่ 222 : แก้โจทย์ได้เมื่อใด ปัญหาใหม่ย่อมตามมาเสมอ

    หลังจากที่เมอร์ลินบอกว่าเครื่องเคลื่อนย้ายออกแบบเสร็จแล้ว พวกเราก็ทำตัวเอื่อยเฉื่อยกันอีกแปปนึงก่อนจะกลับบ้านพวกเราแจ้งข่าวเรื่องนี้กับทุกคน โดยเฉพาะรินกับอลิซพวกเธอดีใจเข้ามากอดแล้วก็ร้องไห้โฮใหญ่เลยแต่ก็ช่วยไม่ได้หรอก ก็จากบ้านมากตั้ง 5 เดือนแล้วนี่นาไหนจะทั้งคุณลุง คุณน้าที่รออยู่ที่บ้าน... ชีวิตประจำวันที่ผ่านมาตลอด 17 ปีมันทดแทน 5 เดือนไม่ได้หรอก (ถ้าไม่นับเรื่องที่ได้คบกันล่ะนะ)เพราะงั้นจะอยากกลับไปก็คงไม่แปลกเราเองก็เถอะ... ถึงกลับบ้านไปจะไม่มีใครอยู่แล้ว แต่มันก็ยังเต็มไปด้วยความทรงจำที่ทำให้เราเป็นอย่างทุกวันนี้เป็นสถานที่ให้กำเนิดความฝันของเรา ...และเราก็ไม่ได้รังเกียจมันอีกแล้วด้วยเพราะงั้นเราจะกลับไปให้ได้! เครื่องมือมีพร้อมหมดแล้วที่เหลือก็มีแต่การจัดแจงสถานการณ์ ให้กลับไปได้โดยที่โลกเดิมไม่มีปัญหา...แต่เรื่องนั้นแหละที่ยากที่สุด❖❖❖❖❖————สองวันต่อมา, โรงแรมเดอะกลอรี่ ณ สหพันธ์แห่งความรุ่งโรจน์ หลังจากวันหยุดของกรและครอบครัวสิ้นสุด แผนการขั้นถัดไปของภาคีโต๊ะจัตุรัสก็เสร็จสมบูรณ์ด้วย ...และก็เป็นการเริ่มแผนด้วยเช่นกัน ด้วยเหตุนั้น ก

  • ชีวิตบัดซบเพราะมาต่างโลก เลยสร้างปาร์ตี้ไปโค่นพระเจ้าซะเลย   ตอนที่ 221 : สาวน้อยธรรมดา?แค่อยากใช้เวลาด้วยกัน ตอนจบ (Mia and Merlin have a Date)

    “โดนแกล้งอีกแล้วอ่า!”“น่า ๆ ไม่เป็นไรนะกร”“แล้วจะโทษใครได้ล่ะหืม?” ได้ยินแฟนหนุ่มเดินบ่นกลางป่า มีอากับเมอร์ลินจึงได้ลูบหัวปลอบใจไปคนละกรุบ ...ถึงต้นเหตุจะเป็นเพราะพวกเธออยู่แล้วก็เถอะว่าแต่ นี่เดจาวูป่ะเนี่ย?ไหงรู้สึกเหมือนเรื่องคล้าย ๆ กันเพิ่งเกิดขึ้นเลย“!!!?” ระหว่างที่คิดอะไรไร้สาระอยู่ มีอากับเมอร์ลินก็เข้ามาควงแขนกรเหมือนกับตอนที่มาถึง กรเลยคิดว่า ‘โอเค ช่างมันละกัน’ แล้วหันไปสนใจกับการเที่ยวลมชมวิวกับภรรยาทั้งสองดีกว่า จากก่อนหน้านี้... หลังจากพักผ่อนในตึกกลางสำหรับติดต่อ พวกกรก็ออกเดินเท้าไปตามทางที่ทำไว้ เห็นว่าหากเดินตามทางนี้จะสามารถชมวิวได้ครบทุกแห่งและวนไปยังกระท่อมที่จองไว้ได้พอดี“กรดูสิ! มีแม่น้ำด้วย!”“ตื้นพอให้ลงไปเล่นได้ด้วยแฮะ” มีอากับเมอร์ลินดูจะสนใจแม่น้ำทางขวาที่ทั้งสามกำลังเดินเลียบผ่าน ความใสของมันทำให้เห็นดินและกรวดก้นแม่น้ำได้ แถมความสูงของมันยังแค่ครึ่งแข้งเอง เรียกว่าเหมาะกับการเล่นสุด ๆ มีอากับเมอร์ลินจึงไม่รอช้า พวกเธอถอดรองเท้าแล้วจูงมือกรลงไปในแม่น้ำ“ไปกันเถอะกร! น่า

  • ชีวิตบัดซบเพราะมาต่างโลก เลยสร้างปาร์ตี้ไปโค่นพระเจ้าซะเลย   ตอนที่ 220 : สาวน้อยธรรมดา?แค่อยากใช้เวลาด้วยกัน ตอนต้น (Mia and Merlin have a Date)

    หลังจากถ่ายรูปกันอย่างหวานแหวว เวลาก็ยังเหลืออีกนิดหน่อย พวกเราเลยจะไปเดินเล่นกันต่อ...และแน่นอน คุณรินกับอลิซก็ยังคงตามแกล้งฉันเหมือนเดิมช่างใจร้ายเหลือร้าย ตั้งแต่ในโรงหนังแล้วนะ!มาปลุกเร้ากันขนาดนี้ในสถานการณ์ที่ทำได้แค่อดทน นี่มันการทรมานประเภทไหนกันเนี่ย!?เหมือนเอาเนื้อสเต็ก A5 มาจ่อลิ้นแต่ไม่ยอมให้กินเลยนะเฮ้ย!จะทั้งชาลอตกับซาช่าที่ขยันเซอร์วิสให้ตอนช่วงเช้า หรือรินกับอลิซที่มาแกล้งกันทั้งช่วงบ่ายฉันเลยต้องกัดฟันทนน้ำตาไหลเป็นโลหิตไปจนถึงตอนกลางคืนโน่นเลย!พอถึงเวลาหม่ำ ๆ ฉันก็เลยล้างแค้นด้วยการกินพวกเธอเกือบทั้งคืนจนแทบไม่ได้หลับได้นอนทำกันยังกับเป็นกระต่ายเลยเชียวล่ะ!...ก็ พอมานึกดู ฉันอาจจะหนักมือไปหน่อยแต่พวกเธอมาแกล้งฉันก่อนนี่หว่า! จะโดนเอาคืนมันก็ไม่แปลกนี่นา!!!เหมือนที่เคยมีใครบางคนพูดไว้นั่นแหละ‘ผู้ที่จะเขมือบได้ก็มีแต่คนที่เตรียมใจจะโดนเขมือบเท่านั้น’ อื้ม ๆ! กรตื่นเช้ามาก็พยายามหาข้อแก้ตัวให้ตัวเองใหญ่ทั้งที่ไม่จำเป็น แต่ก็ต้องขอบคุณศึกอันหนักหน่วงเมื่อวานด้วย ความงุ่นง่านในตัวกรเลยลดลงไปมากจนระบบความคิดปกติเริ่มกลับมาทำงาน เขา

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status