Share

บทที่ 35

last update Terakhir Diperbarui: 2025-06-11 10:42:39

บทที่ 35

                แม้เมื่อคืนแทบจะข่มตานอนไม่หลับ แต่เช้าตรู่ของวันนี้จันทริกาก็ยังตื่นมาทำหน้าที่ของตัวเองเช่นเคย ข้าวต้มทะเลหอมกรุ่นซึ่งเป็นเมนูอาหารเช้าสุดโปรดของรังสิมันต์ถูกจัดไว้บนโต๊ะสองที่พร้อมกับน้ำและน้ำส้มคั้นสด จากนั้นไม่นานรังสิมันต์กับสะบันงาก็ควงแขนกันลงมาจากชั้นสอง

                ตาคู่สวยเมินจากภาพนั้น อยากจะเดินหนีแต่ก็ไม่กล้า เพราะกลัวว่ารังสิมันต์จะดุเอา เขาเคยสั่งไว้แล้วว่าเวลาที่เขาทานอาหารให้เธออยู่ก่อน เผื่อเขาอยากได้อะไรเพิ่มเติมอีก

                “ทานข้าวก่อนนะครับน้องสา”

รังสิมันต์เอ่ยเสียงนุ่มขณะเลื่อนเก้าอี้ให้สะบันงานั่ง แต่สะบันงาแอบเบ้หน้าเมื่อมองเห็นอาหารที่วางอยู่บนโต๊ะ

                “เช้าๆ แบบนี้สาไม่ชอบทานข้าวต้มค่ะพี่ตะวัน มีอย่างอื่นไหมคะ”

                “น้องสาอยากทานอะไรล่ะครับ”

                “อาหารแนวฝรั่งๆ หน่อยค่ะ จำพวกเบคอน ไส้กรอก และไข่ดาวประมาณนี้”

                “มีสิครับ ง่ายๆ แค่นี้เอง เดี๋ยวพี่สั่งเด็กไปทำให้นะ” รังสิมันต์เอ่ยกับสะบันงาด้วยเสียงนุ่มนวลเช่นเดิม ก่อนจะหันไปทางจันทริกาและสั่งด้วยน้ำเสียงที่ห้วนกระด้างต่างกันลิบลับ “จันทริกาไปทอดเบคอน ไส้กรอก และไข่ดาวมาให้คุณสะบันงาด่วน”

                “ค่ะ”

                จันทริการับคำสั้นๆ แล้วผละไป แต่หูก็ยังได้ยินถ้อยคำออดอ้อนของ สะบันงายามที่พูดคุยกับรังสิมันต์

                “สาต้องขอโทษพี่ตะวันด้วยนะคะที่ทำตัวเรื่องมาก พอดีสาไปอยู่ต่างประเทศหลายปี เลยไม่ค่อยชินกับอาหารเช้าแบบไทยๆ”

                “ไม่เป็นไรครับพี่เข้าใจ”

                ขณะที่คนข้างนอกสองคนกำลังออดอ้อนกัน ร่างบางซึ่งเดินกลับเข้ามาในครัวอีกครั้ง หยิบเบคอน ไส้กรอก และไข่ ออกมา เพื่อทำอาหารเมนูใหม่ให้กับผู้หญิงที่รังสิมันต์พามานอนค้างด้วย

                น้ำมันถูกเทลงไปในกระทะหลังจากที่เธอตั้งไฟจนร้อน จันทริกาพยายามจะไม่คิดมากกับการมาค้างคืนที่นี่ของสะบันงา แต่ยิ่งห้ามก็ยิ่งคิด ตั้งแต่ที่ศศิประภาเสียชีวิตไป รังสิมันต์ก็ไม่เคยพาผู้หญิงคนไหนเข้าบ้านมาก่อน เพิ่งจะพาสะบันงามาเป็นคนแรก หรือว่าสะบันงาจะเป็นผู้หญิงซึ่งมาแทนที่ของศศิประภา แล้วถ้าหากว่าเป็นเช่นนั้นเขาจะยังอนุญาตให้เธออยู่ในบ้านหลังนี้อีกหรือเปล่า หรือว่าความแค้นความโกรธของเขาจะจบลงเมื่อเขามีคนรักคนใหม่แล้ว

                ฟู่ว์!

                เสียงน้ำมันร้อนๆ กระเด็นกระจัดกระจาย เมื่อคนใจลอยเทเบคอนกับไส้กรอกลงไปในกระทะแบบไม่ได้ระวัง น้ำมันร้อนๆ พวกนั้นจึงกระเด็นมาโดนแขนจนแสบร้อนไปหมด

                “อุ๊ย!” เสียงหวานอุทานและสูดปากเพราะความปวดแสบปวดร้อน คราวนี้สมาธิกลับมาที่การทำอาหารอีกครั้ง แม้จะเจ็บแค่ไหนก็ยังกัดฟันทำต่อ

                เมื่อไส้กรอกกับเบคอนทอดเสร็จ จันทริกาก็จัดการทอดไข่ดาวต่อ พร้อมกับเตรียมซอสและพริกไทยให้เรียบร้อย ก่อนจะยกไปเสิร์ฟ โดยไม่มีเวลาสนใจหายาใส่แผลที่ถูกน้ำมันลวกของตัวเอง

                “มาแล้วค่ะ” จันทริกาบอกตามมารยาทหลังจากวางจานและเครื่องปรุงลงบนโต๊ะตรงหน้าสะบันงา

                “ทำไมมันมันเยิ้มแบบนี้ล่ะ” สะบันงาหันไปถามจันทริกาอย่างค่อนข้างหงุดหงิด

                “ไปทำมาใหม่ไป เธอไม่รู้หรือไงว่ามันต้องใช้กระทะแบบไม่ต้องใช้น้ำมัน”

                “ขอโทษค่ะ จันทร์ไม่รู้ว่ามันมีกระทะแบบนั้นในครัว” จันทริกาเอ่ยขอโทษเมื่อรังสิมันต์ทำเสียงดุใส่อีกคน

                “สงสัยฉันต้องไปตำหนิฟองคำซะหน่อยแล้วละมังที่สอนเธอไม่ละเอียด จนไม่รู้ว่าอะไรอยู่ที่ไหน หรืออะไรควรทำแบบไหน”

                “ไม่ใช่ความผิดของน้าฟองคำนะคะ จันทร์อาจจะฟังไม่หมดเอง”

                “งั้นก็ไปทำมาใหม่ซะสิ แล้วอย่าให้เป็นแบบนี้อีก”

                จันทริกาไม่ตอบแต่รีบสาวเท้ากลับไปยังห้องครัว เปิดเคาน์เตอร์หากระทะแบบไม่ใช้น้ำมัน จากนั้นเมนูทั้งหมดก็ถูกทำใหม่และถูกนำมาเสิร์ฟอีกครั้ง

                คราวนี้สะบันงาดูจะพอใจและยอมกินอาหารที่จันทริกาทำมาให้ ร่างบางถอยไปยืนห่างๆ ทว่าภาพความสนิทสนมและการพูดคุยกันที่หวานหูของคนทั้งคู่ ก็แล่นเข้ามากระทบหัวใจของเธออย่างช่วยไม่ได้ กว่าที่รังสิมันต์กับสะบันงาจะทานอาหารเช้าเสร็จก็กินเวลาร่วมๆ ครึ่งชั่วโมง ซึ่งมันช่างเชื่องช้าเหลือเกินในความรู้สึกของคนแอบมองอย่างจันทริกา

                “วันนี้ถ้าเธอทำงานบ้านเสร็จแล้ว ไปขัดพื้นที่ศาลาสระบัวด้วยนะ”

                รังสิมันต์หันมาสั่งงานหลังจากขยับเก้าอี้ให้สะบันงาลุกเรียบร้อยแล้ว จากนั้นสะบันงาก็ยกมือขึ้นคล้องแขน และทั้งคู่ก็เดินออกไปยังหน้าบ้าน มองเผินๆ ไม่ต่างอะไรกับสามีภรรยาที่กำลังจะออกไปทำงานพร้อมกัน

แม้หัวใจจะปวดแปลบมากแค่ไหน แต่จันทริกาก็รีบสลัดมันทิ้งพร้อมกับย้ำกับตัวเองว่าไม่มีสิทธิ์คิดหรือรู้สึกอะไร สิ่งที่เธอต้องทำตอนนี้คือต้องเก็บจานไปล้าง เพราะงานบ้านยังรอให้เธอทำอยู่อีกหลายอย่าง รวมถึงงานที่รังสิมันต์เพิ่งจะสั่งเมื่อสักครู่ด้วย

การทำงานแข่งกับเวลามันช่างเป็นอะไรที่เหน็ดเหนื่อยเหลือเกิน จันทริกาแทบจะไม่มีเวลาหยุดพักหายใจหายคอ เธอจัดการซักผ้า รีดผ้า ทำความสะอาดบ้าน แล้วออกไปขัดพื้นที่ศาลาท่าน้ำซึ่งกินเวลาไปมากพอสมควร แต่กระนั้นมันก็ยังไม่เสร็จ แต่เธอก็จำต้องละมือก่อน เพื่อออกไปตลาดซื้อของมาเตรียมทำอาหารเย็นให้รังสิมันต์ ความจริงชอบไปตลาดในตอนเช้ามากกว่า แต่เมื่อเช้านี้เธอไม่ได้ไป เนื่องจากมีของสดเหลืออยู่ในตู้เย็น และรู้ตัวเองดีว่าต้องอยู่ดูแล ‘แขกคนพิเศษ’ ของรังสิมันต์ด้วย

อาหารเย็นถูกเตรียมเสร็จในเวลาห้าโมงเย็น จันทริกาก็ยังไม่ได้ยินเสียงรถของรังสิมันต์แล่นเข้ามาจอดที่หน้าบ้านอย่างเคย

เขาอาจจะไปที่อื่นต่อ หรืออาจจะทำงานยังไม่เสร็จ

จันทริกาบอกกับตัวเองเช่นนั้น ก่อนจะออกไปที่ศาลาสระบัวอีกครั้ง แล้วฆ่าเวลารอการกลับมาของรังสิมันต์โดยการขัดพื้นที่ศาลานั้นต่อ

ร่างบางย่อตัวลงกับพื้น แล้วจับแปรงไม้ที่ขนค่อนข้างนุ่มมาขัดลงบนพื้นหินอ่อน เสียงแปรงเสียดสีกับพื้นดังเป็นจังหวะ และกลบเสียงรถของรังสิมันต์ซึ่งตอนนี้แล่นเข้ามาจอดที่หน้าบ้านเรียบร้อยแล้ว

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ตะวันพ่ายจันทร์   บทที่ 44

    บทที่ 44ผู้หญิงดีพร้อมที่เขาหมายถึงก็คือธรินดา น้องสาวบุญธรรมของปรัชญ์นั่นเอง เขารู้ดีว่าปรัชญ์รู้สึกลึกซึ้งกับธรินดามากกว่าน้องสาวนอกไส้ แต่มันก็ทำปากแข็งไม่เคยยอมรับความจริงกับเขาออกมาตรงๆ จนเขานึกอยากแกล้ง ถึงขนาดต้องลงทุนว่าจะไปหาธรินดาที่กรุงเทพฯ ซึ่งมันได้ผลเพราะไอ้บ้านั่นร้อนรนจนเปลี่ยนใจไปกับเขาเพื่อกันท่า ทั้งๆ ที่ตอนแรกปฏิเสธเสียงแข็งว่าจะไม่ไป ส่วนอีกเหตุผลที่เป็นเหตุผลส่วนตัวแบบไม่ได้บอกใคร ก็คืออยากทำให้ผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาตอนนี้รู้ว่า แม้เขาจะร่วมรักกับเธอบ่อยแค่ไหนและบางครั้งอาจจะเผลออ่อนโยนไปบ้าง แต่เธอก็ไม่เคยมีความหมายมากไปกว่าเมียบำเรอ ที่เขาไม่เคยคิดจะยกย่องเชิดชู เขายังมองหาผู้หญิงอื่นมาอยู่เคียงข้างในฐานะภรรยาตัวจริงแทนที่ศศิประภา ซึ่งจันทริกาไม่มีวันจะได้เป็น ไม่มีวัน!“ค่ะ”‘ค่ะ’ สั้นๆ เหมือนกลัวดอกพิกุลจะร่วงออกจากปากเช่นเดิม จากนั้นก็ทำหน้านิ่งจนอ่านความรู้สึกไม่ออก ยิ่งทำให้คนที่กำลังจะไปหงุดหงิดมากกว่าเดิม ทั้งๆ ที่เขาบอกว่าจะไปหาผู้หญิงที่ดีพร้อมมากกว่า เพราะอยากเห็นสีหน้าและแววตาที่เจ็บปวดของเธอ แต่จันทริกากลับนิ่งเฉย นิ่งจนกลายเป็นเขาที่ออกอาการเ

  • ตะวันพ่ายจันทร์   บทที่ 43

    บทที่ 43 อากาศในยามอรุณรุ่งยังคงมีหมอกลงหนาทึบ ทำให้บรรยากาศทั่วอาณาบริเวณหนาวเย็นเหมือนเช่นทุกเช้า โดยเฉพาะในช่วงเวลาตีสี่กว่าๆ แบบนี้ หากเช้านี้จันทริกากลับรู้สึกว่าความหนาวเย็นนั้นไม่ได้กระทบผิวกายของเธอมากเท่าไหร่ เพราะมีความอบอุ่นบางอย่างที่คอยโอบล้อม ทำให้ร่างบางเผลอซุกเข้าหาความอบอุ่นนั้นอย่างลืมตัว ครั้นพอลืมตาตื่นก็รีบถอยห่างแบบเป็นอัตโนมัติเช่นกัน ทว่าแค่แรงดิ้นเบาๆ นั้นก็ทำให้คนที่นอนอยู่ข้างๆ ตวัดแขนคว้าเอาร่างบางเข้าไปนอนกอดอีกครั้ง จันทริกาแก้มแดงซ่านท่ามกลางความมืดเพราะรู้สึกได้ว่า ร่างกายของรังสิมันต์ยังคงเปลือยเปล่า “จะขยับไปไหน” เขาพึมพำทั้งที่ยังไม่ลืมตา แขนแกร่งกอดร่างบางมาแนบชิดแน่นกว่าเดิม “จันทร์ต้องลุกแล้วค่ะ คุณปล่อยจันทร์เถอะนะคะ” “ไม่ปล่อย จะรีบตื่นไปไหนแต่เช้า” “ตื่นไปเตรียมอาหารให้คุณ และเตรียมตัวไปทำงานไงคะ” “วันนี้เธอไม่ต้องไปทำงาน ส่วนอาหารเช้าฉันก็ไม่กิน เพราะฉะนั้นตอนนี้เธอมีหน้าที่นอนนิ่งๆ ให้ฉันกอดก็พอ ห้องเธอหนาวจะตายไม่รู้หรือไง” “ไหนคุณ

  • ตะวันพ่ายจันทร์   บทที่ 42

    บทที่ 42สี่โมงเย็นของวันนั้น รังสิมันต์ออกจากห้องทำงานแล้วลงมาหาจันทริกาที่ห้องล็อกเกอร์ สั่งให้เธอเปลี่ยนเสื้อผ้าและกลับบ้านพร้อมเขา ทั้งๆ ที่เวลาเลิกงานของพนักงานกะเช้าคือหกโมงเย็น“เธอยังกินยาคุมอยู่หรือเปล่า” รังสิมันต์ถามขณะนั่งรับประทานมื้อเย็นอยู่ที่โต๊ะในห้องอาหารของคฤหาสน์หลังใหญ่“กินค่ะ” คำตอบนั้นเป็นคำตอบที่สั้นๆ น้ำเสียงราบเรียบ แต่หัวใจหม่นหมองมากเหลือเกิน เพราะรังสิมันต์ดูเหมือนจะกังวลและย้ำเรื่องนี้กับเธออยู่บ่อยครั้ง เขาคงกลัวว่าจะมีความผิดพลาดเกิดขึ้นและเลือดเนื้อเชื้อไขของเขาจะอุบัติในท้องของผู้หญิงที่เขามองว่าเลวร้ายอย่างเธอ“งั้นก็ดี คืนนี้เธอขึ้นไปนอนกับฉัน”ช่างเป็นคำสั่งที่พูดออกมาได้อย่างเฉยเมยเย็นชาราวกับสั่งไปเธอทำงานทั่วไป แต่คนไม่มีทางเลือกอย่างเธอจะต่อต้านหรือปฏิเสธอะไรได้ ในเมื่อความต้องการของเขาคือสิ่งที่เธอต้องทำตามหลังจากเก็บโต๊ะเสร็จ จันทริกาก็เข้าไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า บอกให้เมสซี่นอนรออยู่ที่ห้อง เพราะรู้ดีว่าเมื่อรังสิมันต์บรรลุความต้องการของเขาแล้ว เธอก็จะต้องกลับลงมานอนที่ห้องเล็กๆ ห้องนี้ดังเดิมแม้ครั้งนี้จะไม่ใช่ครั้งแรก แต่ความกระดากอายยา

  • ตะวันพ่ายจันทร์   บทที่ 41

    บทที่ 41รถที่สมรรถสูงสมราคาแล่นฉิวเข้ามาในที่จอดประจำโดยใช้เวลาไม่นานนัก รังสิมันต์ก้าวลงจากรถแล้วสั่งให้จันทริกาเดินไปหาหัวหน้าแม่บ้านที่ห้องล็อกเกอร์ ส่วนตัวเองตรงขึ้นไปยังห้องทำงานเพราะเมื่อวานนี้ทราบแล้วว่าห้องล็อกเกอร์อยู่ตรงไหน จันทริกาจึงไปหาหัวหน้าแม่บ้านที่นั่นโดยไม่ต้องมีใครพาไป หลังจากเปลี่ยนชุดเสร็จเธอได้รับมอบหมายให้ทำความสะอาดห้องน้ำที่ชั้นสามและชั้นสี่เช่นเดิม หญิงสาวพยายามมองหาคนในบ้านที่รังสิมันต์ให้มาทำงานที่นี่ ทว่าก็ไม่ได้พบใคร เพราะทุกคนอยู่ในแผนกอาหารสดกันหมด เธอจึงได้แต่ทำหน้าที่ของตัวเองโดยไม่มีโอกาสได้พูดคุยทักทายกับใครเลย ร่างเล็กบางที่กำลังหิ้วถังน้ำและไม้ถูพื้นเข้าไปห้องน้ำ ไม่ได้รู้ตัวเลยว่าตัวเองตกเป็นเป้าสายตาของรังสิมันต์อยู่แทบจะทุกย่างก้าว เพียงแต่วันนี้เขายืนมองอยู่ไกลๆ ไม่ได้เข้ามาคุมแจอยู่ข้างในเหมือนเมื่อวาน หลังจากที่เข้าไปทำความสะอาดห้องน้ำชั้นสามเสร็จ จันทริกาถืออุปกรณ์ทั้งหมดออกมาด้านนอก เตรียมจะไปทำความสะอาดที่ห้องน้ำชั้นสี่ต่อ แต่เธอต้องหันหลังกลับไปมอง เมื่อมีใครบางคนเรียกชื่อเธออย่างคุ้นเคย

  • ตะวันพ่ายจันทร์   บทที่ 40

    บทที่ 40เวลาเกือบสี่ทุ่ม กว่าที่รังสิมันต์กับปรัชญ์จะแยกย้ายกันกลับบ้าน แม้ปากบอกว่าจะไปดื่มเหล้าด้วยกัน แต่ต่างคนต่างก็ไม่ได้ดื่มหนักอะไร ส่วนใหญ่จะเป็นคุยกันสัพเพเหระซะมากกว่า หรือถ้าให้พูดตรงๆ เรื่องดื่มเหล้ามันก็เป็นแค่ข้ออ้างสำหรับการออกไปเที่ยวเตร่ตามประสาผู้ชายโสดเท่านั้นออดี้สีเหลืองแล่นมาจอดที่หน้าบ้านอย่างคล่องตัว คนขับจัดการดับเครื่องดึงกุญแจออกแล้วเดินตรงเข้าไปในบ้านเลย โดยไม่ได้สนใจจะขับรถราคาแรงนั้นไปจอดในโรงรถแต่อย่างใด ด้านนอกไฟยังคงสว่างไสว ทว่าภายในบ้านไฟกลับถูกปิดเกือบทุกดวง ยกเว้นตรงบริเวณทางขึ้นบันไดชั้นสองเท่านั้นที่เปิดอยู่ร่างสูงก้าวขาไปยังบันไดเพื่อขึ้นห้อง ทว่าอยู่ๆ ก็เปลี่ยนใจกะทันหัน หันหลังกลับแล้วเดินตรงไปยังห้องนอนชั้นล่างแทนเขาหยิบกุญแจสำรองที่แอบเก็บไว้ติดตัวตลอดเวลาออกมา กำลังจะไขเข้าไปอย่างถือวิสาสะ แต่ก็ชะงักมือเอาไว้เมื่อได้ยินเสียงหวานแว่วดังออกมานอกห้องเบาๆ“นอนลงๆ เป็นเด็กว่าง่าย นอนได้แล้วเมสซี่ วันนี้จันทร์ง่วงมาก แล้วก็ไม่มีอะไรจะคุยให้เมสซี่ฟังด้วย ฝันดีนะ”แม้เสียงนั้นจะเล็ดลอดออกนอกห้องมาแค่แผ่วเบา แต่ด้วยบรรยากาศที่เงียบเชียบของบ้าน ร

  • ตะวันพ่ายจันทร์   บทที่ 39

    บทที่ 39สินชัยเดินนำไปทางห้องล็อกเกอร์ของแม่บ้าน บอกหัวหน้าแม่บ้านให้หาชุดให้จันทริกาเปลี่ยน จากนั้นหญิงสาวก็ถืออุปกรณ์ทำความสะอาดเดินตามหัวหน้าแม่บ้านไปยังห้องน้ำที่อยู่ชั้นสาม “เดี๋ยวทำที่นี่เสร็จ ขึ้นไปทำที่ชั้นสี่ต่อเลยนะ” หัวหน้าแม่บ้านออกคำสั่งกับจันทริกาอีกคน “ค่ะ” “งั้นก็ลงมือได้เลย เดี๋ยวป้าจะไปตรวจความเรียบร้อยที่ชั้นอื่นก่อน เสร็จแล้วจะขึ้นมาตรวจดูที่ชั้นสามอีกรอบ” หัวหน้าแม่บ้านบอกเสร็จก็ออกไปจากห้องน้ำชั้นนั้น เพื่อไปตรวจความเรียบร้อยของชั้นอื่นๆ ตามหน้าที่ตัวเอง ประตูห้องน้ำที่ถูกแขวนป้ายด้านนอกว่ากำลังทำควาสะอาดถูกผลักเข้ามาอีกรอบ ทำให้จันทริกาซึ่งกำลังตั้งหน้าตั้งตาขัดล้างทำความสะอาดห้องน้ำอยู่หันขวับไปมอง แล้วก็เห็นว่าคนที่เข้ามานั้นก็คือรังสิมันต์นั่นเอง “คุณตะวัน…” “ฉันแค่เข้ามาดูเธอว่าทำความสะอาดได้เรียบร้อยดีหรือเปล่า” ได้ยินคำตอบแบบนั้นจันทริกาก็หันไปตั้งหน้าตั้งตาทำความสะอาดต่อ โดยไม่ได้พูดจาใดๆ กับเขาอีก เสร็จจากห้องนั้นก็ต่อห้องนี้ จนกระทั่งครบทุกห้

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status