ร่างสูงก้าวลงจากรถ เดินเข้าบ้านแล้วกวาดสายตามองหาร่างบางที่ปกติเวลานี้จะอยู่ในห้องครัว หรือไม่ก็กำลังตั้งโต๊ะอาหารรอเขาอยู่
เมื่อไม่เห็นคนที่ตัวเองมองหา รังสิมันต์ก็ตรงไปยังห้องนอนของเธอ เพราะคิดว่าจันทริกาอาจจะอยู่ที่นั่นกับเมสซี่ แต่เมื่อเปิดประตูเข้าไปก็ไม่พบทั้งคนทั้งแมวตัวโปรดของเขา ชายหนุ่มจึงบ่นพึมพำออกมาอย่างออกจะหงุดหงิด พร้อมกับที่หัวใจเริ่มร้อนรนขึ้น
“ไปไหนของเขานะ...”
เมื่อหาในบ้านไม่เจอ ลำขาแข็งแรงก็ก้าวยาวๆ ออกไปหารอบๆ บ้าน ก่อนจะระบายลมหายใจออกมาแรงๆ อย่างโล่งอกทันทีที่เห็นว่าคนที่ตัวเองตามหากำลังก้มขัดพื้นอย่างขะมักเขม้นอยู่ที่ศาลาสระบัว โดยมีเมสซี่นั่งเป็นกำลังใจอยู่บนม้าหินอ่อนด้านบน
“ค่ำมืดป่านนี้แล้วทำไมยังไม่เข้าบ้าน”
เสียงดุๆ ที่ดังขึ้นทำให้จันทริกาสะดุ้งเล็กน้อย เธอหยุดชะงักมือที่กำลังจับแปรงขัดพื้น แล้วเงยหน้าขึ้นก่อนจะตอบคำถามของเขา
“จันทร์ขัดพื้นศาลายังไม่เสร็จน่ะค่ะ”
“แล้วไม่เห็นหรือไงว่าฉันกลับมาแล้ว ทำไมไม่ไปตั้งโต๊ะอาหารรอ”
“ขอโทษค่ะ จันทร์จะไปเดี๋ยวนี้”
“ที่มาขัดเอาค่ำๆ มืดๆ แบบนี้เพราะตอนกลางวันมัวแต่อู้งานล่ะสิ ถึงได้ทำไม่เสร็จ”
“เปล่านะคะ” จันทริกาส่ายหน้าปฏิเสธทันควัน
“ฉันไม่เชื่อเธอหรอก เข้าบ้านได้แล้วฉันหิว” รังสิมันต์พูดแค่นั้นก็เดินนำเข้าบ้าน เขาเลือกที่จะบอกว่าไม่เชื่อ ทั้งที่รู้ดีว่างานที่จันทริกาทำอยู่มันหนักไม่ใช่น้อย บ้านหลังนี้ไม่ใช่เล็กๆ การรับผิดชอบทำงานบ้านคนเดียวมันไม่ใช่เรื่องง่าย แต่อย่าหวังว่าเขาจะสงสารหรือรู้สึกผิด ในเมื่อนั่นคือสิ่งที่เขาต้องการอยากให้เป็น
จันทริกาลนลานตั้งโต๊ะอาหารเย็นให้กับรังสิมันต์ ทั้งๆ ที่ตัวเองเหนื่อยสายตัวแทบขาด รังสิมันต์นั่งลงบนเก้าอี้ประจำของตัวเอง หากแต่ยังไม่ได้ลงมือรับประทานอาหารในทันที ตาคู่คมมองไปยังร่างเล็กบางที่รวบผมเป็นหางม้าและมีปอยผมบางส่วนตกลงมาปิดหน้า หน้าผากมีเหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดอยู่เต็มไปหมด เสื้อของเธอก็มีรอยเปียกซึ่งคงเกิดจากเหงื่อเช่นเดียวกัน
“ไปอาบน้ำให้เรียบร้อย เห็นเธอยืนตัวเหม็นอยู่ในสภาพนี้ฉันกินข้าวไม่ลง” เขาไล่ด้วยถ้อยคำอันร้ายกาจและแสดงความรังเกียจออกมาอย่างชัดเจน
จันทริกาหน้าชาวาบ ได้แต่ก้มหน้าแล้วเดินผ่านโต๊ะอาหารไปยังห้องนอนของตัวเอง ส่วนเมสซี่ถูกเรียกให้อยู่ที่โต๊ะกับเจ้านาย
สายน้ำเย็นๆ ที่สาดกระเซ็นลงมาจากฝักบัวช่วยชำระล้างเหงื่อไคลออกจากร่างกายได้ในชั่วเวลาไม่กี่นาที ทว่าหัวใจดวงน้อยของจันทริกานั้นมันไม่มีอะไรชะล้างให้หายจากอาการหมองเศร้าได้เลยนอกจากน้ำตา หญิงสาวจึงปล่อยให้น้ำอุ่นๆ นั้นไหลอาบลงมายังสองแก้ม ซึ่งมันไหลออกมาได้ไม่เท่าไหร่ก็ถูกสายน้ำไล่ออกไปจนหมดสิ้น
เมื่อไหร่พี่ตะวันจะเลิกใจร้ายกับเธอเสียที หรือว่าเธอต้องตายตามศศิประภาไป เขาถึงจะพอใจ
ความคิดนั้นเกิดขึ้นเพียงชั่ววูบในยามที่ชีวิตอยู่ท่ามกลางความมืดมนและไร้ความหวัง แต่กระนั้นจันทริกาก็รู้ดีว่าการคิดทำร้ายตัวเองเป็นสิ่งที่ผิดบาปมหันต์ เธอเกิดมาจากความรักของพ่อแม่ ดังนั้นเธอจะไม่ยอมทำร้ายตัวเองเด็ดขาด เพราะนั่นมันไม่ต่างอะไรกับการทำร้ายหัวใจของคนที่เธอรักทั้งสองคน แม้ตอนนี้ท่านทั้งสองจะไม่อยู่บนโลกใบนี้แล้วก็ตาม
หลังจากร้องไห้เพื่อระบายความอัดอั้นภายในหัวใจออกมาแล้ว จันทริกาก็รีบหยิบผ้าเช็ดตัวมาเช็ด แล้วจัดการเปลี่ยนเสื้อผ้า ทาครีมบำรุงผิวหน้าที่รังสิมันต์ซื้อมาให้ ตามด้วยแป้งเด็ก จากนั้นเท้าเล็กๆ ก็ก้าวอย่างเร่งรีบออกจากห้องไปยังโต๊ะอาหาร เพื่อรอรับใช้รังสิมันต์ตามที่เขาต้องการ
“ฉันอิ่มแล้ว เธอเก็บโต๊ะเลย เสร็จแล้วตามฉันไปที่ห้องนั่งเล่น อย่านานนักล่ะ ฉันไม่ชอบรอใคร”
คำสั่งนั้นห้วนๆ เช่นเคย จากนั้นร่างสูงก็ก้าวไปยังห้องนั่งเล่น จันทริกาจึงจัดการเก็บโต๊ะและล้างจาน โดยแสบแขนบริเวณที่ถูกน้ำมันร้อนๆ กระเด็นใส่เมื่อเช้าพอสมควร แต่เธอก็ไม่มีเวลาจะมาอนาทรกับมัน เพราะตอนนี้ต้องรีบล้างจานให้เสร็จและตามรังสิมันต์ไปยังห้องนั่งเล่นตามคำสั่งของเขา
“คุณตะวันเรียกจันทร์มาทำไมเหรอคะ” เสียงหวานปนเศร้าเอ่ยถามเรียบๆ เมื่อเข้ามาอยู่ในห้องนั่งเล่นเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้รังสิมันต์นั่งไขว่ห้างอยู่บนโซฟา ในมือของเขามีแก้ววิสกี้ที่ถูกจิบไปแล้วสองสามอึกถืออยู่
“ฉันเมื่อย อยากให้เธอนวดให้หน่อย”
คำว่า ‘นวด’ ทำให้อาการปวดแปลบเล็กๆ เกิดขึ้นในหัวใจ เพราะคำคำเดียวกันนี้เธอเพิ่งจะได้ยินเขากับสะบันงาพูดกันเมื่อวานนี้
“จันทร์นวดไม่เป็นหรอกค่ะ กลัวว่าจะทำให้คุณตะวันเจ็บเปล่าๆ” จันทริกาปฏิเสธด้วยสีหน้าที่เรียบเฉยเช่นเดียวกับน้ำเสียง
“เจ็บกว่านี้เธอก็ทำกับฉันมาแล้วนี่ จะกลัวอะไรกับอีแค่ทำให้ร่างกายฉันเจ็บแค่บางส่วน”
คำพูดจาแดกดันของเขาทำให้ก้อนแข็งๆ เล่นขึ้นมาจุกที่คอ ในสายตาของพี่ตะวัน เธอคงเป็นแม่มดใจร้ายหรือฆาตกรใจโหดอย่างเดียวกระมัง
“แต่จันทร์...”
“ไม่มีแต่ นี่เป็นคำสั่ง หรือเธอจะขัดคำสั่งฉัน”
รังสิมันต์ทั้งสั่งทั้งขู่ ทำให้จันทริกาจำต้องเดินอ้อมโซฟาไปด้านหลังร่างสูง ยืนอย่างรักษาระยะห่าง ก่อนจะค่อยๆ วางมือลงบนไหล่กว้างของเขาอย่างประหม่าแล้วเริ่มบีบนวดเบาๆ
ชายหนุ่มเกือบจะครางออกมาอย่าพึงพอใจ น่าแปลกที่เขารู้สึกว่ามือเล็กๆ ที่นวดให้เขาแบบเงอะๆ งะๆ นี้ให้ความรู้สึกที่ดีกว่าตอนสะบันงานวดเป็นไหนๆ และน่าจะดีกว่านี้ถ้าหากเขาได้...
บทที่ 41รถที่สมรรถสูงสมราคาแล่นฉิวเข้ามาในที่จอดประจำโดยใช้เวลาไม่นานนัก รังสิมันต์ก้าวลงจากรถแล้วสั่งให้จันทริกาเดินไปหาหัวหน้าแม่บ้านที่ห้องล็อกเกอร์ ส่วนตัวเองตรงขึ้นไปยังห้องทำงานเพราะเมื่อวานนี้ทราบแล้วว่าห้องล็อกเกอร์อยู่ตรงไหน จันทริกาจึงไปหาหัวหน้าแม่บ้านที่นั่นโดยไม่ต้องมีใครพาไป หลังจากเปลี่ยนชุดเสร็จเธอได้รับมอบหมายให้ทำความสะอาดห้องน้ำที่ชั้นสามและชั้นสี่เช่นเดิม หญิงสาวพยายามมองหาคนในบ้านที่รังสิมันต์ให้มาทำงานที่นี่ ทว่าก็ไม่ได้พบใคร เพราะทุกคนอยู่ในแผนกอาหารสดกันหมด เธอจึงได้แต่ทำหน้าที่ของตัวเองโดยไม่มีโอกาสได้พูดคุยทักทายกับใครเลย ร่างเล็กบางที่กำลังหิ้วถังน้ำและไม้ถูพื้นเข้าไปห้องน้ำ ไม่ได้รู้ตัวเลยว่าตัวเองตกเป็นเป้าสายตาของรังสิมันต์อยู่แทบจะทุกย่างก้าว เพียงแต่วันนี้เขายืนมองอยู่ไกลๆ ไม่ได้เข้ามาคุมแจอยู่ข้างในเหมือนเมื่อวาน หลังจากที่เข้าไปทำความสะอาดห้องน้ำชั้นสามเสร็จ จันทริกาถืออุปกรณ์ทั้งหมดออกมาด้านนอก เตรียมจะไปทำความสะอาดที่ห้องน้ำชั้นสี่ต่อ แต่เธอต้องหันหลังกลับไปมอง เมื่อมีใครบางคนเรียกชื่อเธออย่างคุ้นเคย
บทที่ 40เวลาเกือบสี่ทุ่ม กว่าที่รังสิมันต์กับปรัชญ์จะแยกย้ายกันกลับบ้าน แม้ปากบอกว่าจะไปดื่มเหล้าด้วยกัน แต่ต่างคนต่างก็ไม่ได้ดื่มหนักอะไร ส่วนใหญ่จะเป็นคุยกันสัพเพเหระซะมากกว่า หรือถ้าให้พูดตรงๆ เรื่องดื่มเหล้ามันก็เป็นแค่ข้ออ้างสำหรับการออกไปเที่ยวเตร่ตามประสาผู้ชายโสดเท่านั้นออดี้สีเหลืองแล่นมาจอดที่หน้าบ้านอย่างคล่องตัว คนขับจัดการดับเครื่องดึงกุญแจออกแล้วเดินตรงเข้าไปในบ้านเลย โดยไม่ได้สนใจจะขับรถราคาแรงนั้นไปจอดในโรงรถแต่อย่างใด ด้านนอกไฟยังคงสว่างไสว ทว่าภายในบ้านไฟกลับถูกปิดเกือบทุกดวง ยกเว้นตรงบริเวณทางขึ้นบันไดชั้นสองเท่านั้นที่เปิดอยู่ร่างสูงก้าวขาไปยังบันไดเพื่อขึ้นห้อง ทว่าอยู่ๆ ก็เปลี่ยนใจกะทันหัน หันหลังกลับแล้วเดินตรงไปยังห้องนอนชั้นล่างแทนเขาหยิบกุญแจสำรองที่แอบเก็บไว้ติดตัวตลอดเวลาออกมา กำลังจะไขเข้าไปอย่างถือวิสาสะ แต่ก็ชะงักมือเอาไว้เมื่อได้ยินเสียงหวานแว่วดังออกมานอกห้องเบาๆ“นอนลงๆ เป็นเด็กว่าง่าย นอนได้แล้วเมสซี่ วันนี้จันทร์ง่วงมาก แล้วก็ไม่มีอะไรจะคุยให้เมสซี่ฟังด้วย ฝันดีนะ”แม้เสียงนั้นจะเล็ดลอดออกนอกห้องมาแค่แผ่วเบา แต่ด้วยบรรยากาศที่เงียบเชียบของบ้าน ร
บทที่ 39สินชัยเดินนำไปทางห้องล็อกเกอร์ของแม่บ้าน บอกหัวหน้าแม่บ้านให้หาชุดให้จันทริกาเปลี่ยน จากนั้นหญิงสาวก็ถืออุปกรณ์ทำความสะอาดเดินตามหัวหน้าแม่บ้านไปยังห้องน้ำที่อยู่ชั้นสาม “เดี๋ยวทำที่นี่เสร็จ ขึ้นไปทำที่ชั้นสี่ต่อเลยนะ” หัวหน้าแม่บ้านออกคำสั่งกับจันทริกาอีกคน “ค่ะ” “งั้นก็ลงมือได้เลย เดี๋ยวป้าจะไปตรวจความเรียบร้อยที่ชั้นอื่นก่อน เสร็จแล้วจะขึ้นมาตรวจดูที่ชั้นสามอีกรอบ” หัวหน้าแม่บ้านบอกเสร็จก็ออกไปจากห้องน้ำชั้นนั้น เพื่อไปตรวจความเรียบร้อยของชั้นอื่นๆ ตามหน้าที่ตัวเอง ประตูห้องน้ำที่ถูกแขวนป้ายด้านนอกว่ากำลังทำควาสะอาดถูกผลักเข้ามาอีกรอบ ทำให้จันทริกาซึ่งกำลังตั้งหน้าตั้งตาขัดล้างทำความสะอาดห้องน้ำอยู่หันขวับไปมอง แล้วก็เห็นว่าคนที่เข้ามานั้นก็คือรังสิมันต์นั่นเอง “คุณตะวัน…” “ฉันแค่เข้ามาดูเธอว่าทำความสะอาดได้เรียบร้อยดีหรือเปล่า” ได้ยินคำตอบแบบนั้นจันทริกาก็หันไปตั้งหน้าตั้งตาทำความสะอาดต่อ โดยไม่ได้พูดจาใดๆ กับเขาอีก เสร็จจากห้องนั้นก็ต่อห้องนี้ จนกระทั่งครบทุกห้
บทที่ 38“หมดฤทธิ์แล้วเหรอ ถ้าหมดฤทธิ์แล้ว ฉันจะได้ทำต่อ” “กรุณาเถอะนะคะ จันทร์ไม่ต้องการแบบนี้” “แล้วต้องการแบบไหน หรือว่าชอบแบบซาดิสม์ ฉันก็จัดให้ได้นะ อ้อ...บางทีเด็กจิตๆ อย่างเธออาจจะชอบแบบที่ว่าก็ได้ ทำไมฉันถึงโง่นักนะ” รังสิมันต์หัวเราะเสียงหื่นในลำคอ ก่อนจะละมือข้างหนึ่งมาคลายเนกไทน์ของตัวเองออก จากนั้นก็กระชากมันมา แล้วรวบแขนทั้งสองข้างของจันทริกามามัดข้อมือด้วยเนกไทน์เส้นนั้น หญิงสาวได้แต่เบิกตากว้างไม่คิดว่ารังสิมันต์จะทำอะไรรุนแรงอย่างที่เขาว่าจริงๆ “คุณตะวันคะได้โปรด...” เธอขอร้องเขาเสียงสั่น “ได้สิ แบบนี้ฉันก็สุดโปรดเหมือนกัน” เรียวปากหยักคลี่ยิ้มเจ้าเล่ห์ ตาสาดประกายบางอย่างที่ทำเอาร่างบางสะท้าน และหลังจากนั้นจันทริกาก็ถูกผลักให้นอนหงายหลังลงไปบนโซฟา ก่อนที่รังสิมันต์จะจับสองมือที่ถูกมัดด้วยเนกไทน์ขึ้นวางไว้เหนือศีรษะของเธอ ร่างบางนอนตัวเกร็งขณะที่เขาเริ่มลงมือถลกชายเสื้อของเธอขึ้นไปกองไว้เหนือเนินอก ตามด้วยเสื้อชั้นในลูกไม้สีหวาน เปิดเปลือยส่วนสำคัญช่วงบนให้เป
บทที่ 37“หยุดก่อน”คำสั่งนั้นทำให้มือเล็กๆ ชะงัก และยืนตัวเกร็งรอการตำหนิหรือลงโทษจากเขา เพราะคิดว่ารังสิมันต์คงไม่พอใจกับการนวดของเธอ“มานั่งนี่”เขาออกคำสั่งพลางตบมือลงบนที่ว่างข้างตัว จันทริกาเดินไปนั่งตัวลีบลงบนโซฟาข้างๆ เขา แล้วหันไปมองเพื่อรอว่าเขาจะลงโทษยังไง ทว่ารังสิมันต์กลับทำในสิ่งที่เธอคาดไม่ถึง นั่นคือการโน้มตัวไปวางแก้ววิสกี้ที่โต๊ะหน้าโซฟา แล้วเอนตัวนอนหนุนตักเธออย่างรวดเร็ว “คุณตะวัน!” จันทริกาอุทานออกมา แก้มนวลมีจุดสีแดงซ่านแต่งแต้มทันทีกับสิ่งที่เธอไม่คิดว่ารังสิมันต์จะทำ ก็เมื่อคืนเขาเพิ่งจะมีอะไรกับผู้หญิงอีกคน พอมาวันนี้กลับมาทำกิริยาคล้ายสนิทชิดเชื้อกับเธอแบบชู้สาว ทั้งๆ ที่เขาไม่ได้รู้สึกอะไรด้วย “เสียงดังทำไม หนวกหู ฉันก็แค่อยากนอนให้เธอนวดสบายๆ” “แต่แบบนี้จันทร์นวดไหล่ให้คุณไม่ได้นะคะ” “นวดไหล่ไม่ได้ ก็นวดแขนนวดมือไปสิ ตอนนี้ฉันเมื่อยไปทั้งตัวแล้ว” จันทริกาหน้าแดงก่ำกว่าเดิม ขณะก้มลงมองเขาพร้อมกับใช้มือเล็กๆ บีบนวดลงไปตามต้นแขน และสลับมานวดอีกข้างโดยไม่ยอมขยับลงไปนวดมือให้ตามที่คน
บทที่ 36ร่างสูงก้าวลงจากรถ เดินเข้าบ้านแล้วกวาดสายตามองหาร่างบางที่ปกติเวลานี้จะอยู่ในห้องครัว หรือไม่ก็กำลังตั้งโต๊ะอาหารรอเขาอยู่เมื่อไม่เห็นคนที่ตัวเองมองหา รังสิมันต์ก็ตรงไปยังห้องนอนของเธอ เพราะคิดว่าจันทริกาอาจจะอยู่ที่นั่นกับเมสซี่ แต่เมื่อเปิดประตูเข้าไปก็ไม่พบทั้งคนทั้งแมวตัวโปรดของเขา ชายหนุ่มจึงบ่นพึมพำออกมาอย่างออกจะหงุดหงิด พร้อมกับที่หัวใจเริ่มร้อนรนขึ้น“ไปไหนของเขานะ...”เมื่อหาในบ้านไม่เจอ ลำขาแข็งแรงก็ก้าวยาวๆ ออกไปหารอบๆ บ้าน ก่อนจะระบายลมหายใจออกมาแรงๆ อย่างโล่งอกทันทีที่เห็นว่าคนที่ตัวเองตามหากำลังก้มขัดพื้นอย่างขะมักเขม้นอยู่ที่ศาลาสระบัว โดยมีเมสซี่นั่งเป็นกำลังใจอยู่บนม้าหินอ่อนด้านบน“ค่ำมืดป่านนี้แล้วทำไมยังไม่เข้าบ้าน”เสียงดุๆ ที่ดังขึ้นทำให้จันทริกาสะดุ้งเล็กน้อย เธอหยุดชะงักมือที่กำลังจับแปรงขัดพื้น แล้วเงยหน้าขึ้นก่อนจะตอบคำถามของเขา“จันทร์ขัดพื้นศาลายังไม่เสร็จน่ะค่ะ”“แล้วไม่เห็นหรือไงว่าฉันกลับมาแล้ว ทำไมไม่ไปตั้งโต๊ะอาหารรอ”“ขอโทษค่ะ จันทร์จะไปเดี๋ยวนี้”“ที่มาขัดเอาค่ำๆ มืดๆ แบบนี้เพราะตอนกลางวันมัวแต่อู้งานล่ะสิ ถึงได้ทำไม่เสร็จ”“เปล่านะคะ” จั