เวลาเกือบสี่ทุ่ม กว่าที่รังสิมันต์กับปรัชญ์จะแยกย้ายกันกลับบ้าน แม้ปากบอกว่าจะไปดื่มเหล้าด้วยกัน แต่ต่างคนต่างก็ไม่ได้ดื่มหนักอะไร ส่วนใหญ่จะเป็นคุยกันสัพเพเหระซะมากกว่า หรือถ้าให้พูดตรงๆ เรื่องดื่มเหล้ามันก็เป็นแค่ข้ออ้างสำหรับการออกไปเที่ยวเตร่ตามประสาผู้ชายโสดเท่านั้น
ออดี้สีเหลืองแล่นมาจอดที่หน้าบ้านอย่างคล่องตัว คนขับจัดการดับเครื่องดึงกุญแจออกแล้วเดินตรงเข้าไปในบ้านเลย โดยไม่ได้สนใจจะขับรถราคาแรงนั้นไปจอดในโรงรถแต่อย่างใด ด้านนอกไฟยังคงสว่างไสว ทว่าภายในบ้านไฟกลับถูกปิดเกือบทุกดวง ยกเว้นตรงบริเวณทางขึ้นบันไดชั้นสองเท่านั้นที่เปิดอยู่
ร่างสูงก้าวขาไปยังบันไดเพื่อขึ้นห้อง ทว่าอยู่ๆ ก็เปลี่ยนใจกะทันหัน หันหลังกลับแล้วเดินตรงไปยังห้องนอนชั้นล่างแทน
เขาหยิบกุญแจสำรองที่แอบเก็บไว้ติดตัวตลอดเวลาออกมา กำลังจะไขเข้าไปอย่างถือวิสาสะ แต่ก็ชะงักมือเอาไว้เมื่อได้ยินเสียงหวานแว่วดังออกมานอกห้องเบาๆ
“นอนลงๆ เป็นเด็กว่าง่าย นอนได้แล้วเมสซี่ วันนี้จันทร์ง่วงมาก แล้วก็ไม่มีอะไรจะคุยให้เมสซี่ฟังด้วย ฝันดีนะ”
แม้เสียงนั้นจะเล็ดลอดออกนอกห้องมาแค่แผ่วเบา แต่ด้วยบรรยากาศที่เงียบเชียบของบ้าน รังสิมันต์ก็ได้ยินชัดเต็มสองหูว่าจันทริกากำลังกล่อมแมวของเขานอน ครู่หนึ่งเสียงนั้นก็เงียบไป มือใหญ่จึงจัดการไขลูกบิดแล้วผลักประตูห้องนั้นเข้าไปเงียบๆ ขยับไปยังเตียงเล็กๆ นั้น ก่อนจะทรุดตัวนั่งลงตรงขอบเตียงอย่างแผ่วเบา
ตอนนี้ทั้งคนทั้งแมวต่างก็อยู่ในภาวะหลับใหล คงจะเหนื่อยมากสินะ ขนาดเขานั่งอยู่ใกล้แค่นี้ยังไม่รู้สึกตัว ทั้งที่ปกติเวลาที่เขาเข้ามาเธอมักจะผวาและดีดตัวลุกขึ้นนั่งทุกครั้ง
ความรู้สึกวูบไหวบางอย่างเกิดขึ้นอย่างรุนแรงในหัวใจ ทำให้รังสิมันต์โน้มหน้าลงไปหมายจะจูบปลอบขวัญ แต่เขาก็หยุดตัวเองก่อนที่ริมฝีปากหยักได้รูปจะประทับลงบนหน้าผากมนนั้นแค่เอื้อม เมื่อมีเสียงบางอย่างตะโกนก้องขึ้นมาในใจว่า อย่าใจอ่อนกับเด็กผู้หญิงร้ายกาจคนนี้อีกเด็ดขาด สิ่งที่จันทริกาได้รับอยู่ตอนนี้มันยังน้อยไปด้วยซ้ำหากจะเทียบกับสิ่งที่เธอทำกับลูกและเมียของเขา
ความคิดที่แทรกขึ้นมากลางคัน ทำให้รังสิมันต์ลุกพรวดพราดขึ้นแล้วรีบก้าวยาวๆ ออกไปจากห้องนอนของจันทริกาทันที ราวกับกลัวว่าหากอยู่นานกว่านั้นตัวเองจะใจอ่อนมากไปกว่าเดิม
รุ่งอรุณของวันใหม่มาเยือน จันทริการู้สึกตัวตื่นขึ้นมาแต่เช้าตรู่โดยไม่ต้องใช้นาฬิกาปลุกเหมือนเคย ตอนนี้ร่างกายของเธอเหมือนปรับตัวเป็นอัตโนมัติไปแล้ว อากาศในยามเช้าเช่นนี้ค่อนข้างจะหนาวเย็น แต่มือบางก็จำต้องสลัดผ้าห่มอันแสนอบอุ่นออกจากร่างกายเพื่อไปทำหน้าที่ของตัวเอง เมสซี่รู้สึกตัวกับความเคลื่อนไหวนั้น มันลืมตาตื่นแล้วบิดขี้เกียจด้วยท่วงท่าแสนสบาย ก่อนจะกระโดดลงจากเตียงแล้ววิ่งตามหญิงสาวเข้าไปในครัว
อาหารเช้าถูกเตรียมและตั้งโต๊ะเสร็จก่อนที่รังสิมันต์จะลงมา เขานั่งลงประจำที่ตัวเอง แต่ไม่ได้ลงมือรับประทานอาหารในทันที ตาคมมองไปยังร่างบางที่ยืนอยู่ใกล้ๆ โต๊ะ ก่อนจะออกคำสั่งบางอย่างกับเธอ
“เธอกินอะไรหรือยัง”
“ยังค่ะ”
“ไปหาอะไรกินซะให้เรียบร้อย คนที่ห้างลางานอีกสองวัน ในช่วงสองวันนี้เธอต้องไปทำงานแทนเต็มวัน”
“แล้วที่บ้านล่ะคะ” จันทริกาอดถามไม่ได้ ไม่ใช่กลัวว่าตัวเองจะต้องเหน็ดเหนื่อย แต่เป็นห่วงเมสซี่ เมื่อวานเธอก็ทิ้งมันไปเกือบครึ่งวัน
“งานที่บ้านไม่ต้องทำ ส่วนเมสซี่ฉันจะให้อุ้ยคำดูแลเอง”
ได้ยินเช่นนั้นจันทริกาก็หมดห่วงจึงเดินเข้าครัว ตักโจ๊กใส่ถ้วยที่ไม่ใหญ่นัก รีบตักใส่ปากเพื่อรองท้องเพื่อเตรียมไว้ใช้เป็นพลังงาน ก่อนออกไปทำงานที่ห้างสรรพสินค้าตามที่รังสิมันต์สั่ง
หลังจากอิ่มร่างบางก็รีบออกไปเก็บโต๊ะอาหารให้กับรังสิมันต์ ถือถ้วยโจ๊กและแก้วน้ำเข้าไปล้างในครัว จากนั้นก็เข้าไปหยิบเอากระเป๋าสะพายข้างใบเล็กๆ ของตัวเอง เพื่อออกไปรอรถมอเตอร์ไซค์วินที่แล่นผ่านหน้าบ้าน
“นั่นจะไปไหน” เสียงดุๆ ของคนที่ยืนอยู่ข้างรถสีเหลืองของตัวเองดังขึ้น เมื่อจันทริกากำลังจะเดินผ่านหน้าไป
“ออกไปรอรถวินค่ะ”
“ไม่ต้อง ไปพร้อมฉันนี่ละจะได้ไม่เสียเวลา”
“ไม่เป็นไรค่ะ จันทร์ไปเองดีกว่า” จันทริกาบอกอย่างเจียมตัวและรู้สถานะของตัวเองดี เด็กรับใช้ในบ้านที่แต่งตัวมอซอและต้องไปทำหน้าที่ทำความสะอาดห้องน้ำอย่างเธอ ไม่คู่ควรที่จะนั่งรถราคาแพงๆ ไปทำงานพร้อมเจ้าของห้างสรรพสินค้าให้เขาเสื่อมเสียราศีหรอก
“อย่าอวดดีกับฉันจันทริกา ขึ้นรถเดี๋ยวนี้”
จันทริกาไม่ได้ทำตามที่เขาบอก แต่ยังคงยืนนิ่งอย่างคนลังเล รังสิมันต์จึงขยับไปเปิดประตูรถ แล้วอุ้มร่างเล็กบางยัดเข้าไปในรถ
“รัดเข็มขัดด้วย” เขาหันมาสั่งหลังจากขึ้นมานั่งประจำที่คนขับแล้ว
จันทริกาขยับไปจับสายเข็มขัดกำลังจะดึงมันมาคาด รถออดี้ก็พุ่งออกไปเสียก่อน ทำให้ร่างบางเสียหลักถลำไปข้างหน้า หน้าผากโขกเข้ากับคอนโซลรถเต็มแรง
เจ็บไม่น้อยกับอุบัติเหตุที่รังสิมันต์จงใจทำให้เกิดขึ้น แต่จันทริกาก็ไม่ยอมแสดงอาการใดๆ ออกมา เธอยังคงนั่งนิ่งปล่อยให้เขามีความสุขกับการได้ทำร้ายเธอทุกครั้งที่มีโอกาส
บทที่ 41รถที่สมรรถสูงสมราคาแล่นฉิวเข้ามาในที่จอดประจำโดยใช้เวลาไม่นานนัก รังสิมันต์ก้าวลงจากรถแล้วสั่งให้จันทริกาเดินไปหาหัวหน้าแม่บ้านที่ห้องล็อกเกอร์ ส่วนตัวเองตรงขึ้นไปยังห้องทำงานเพราะเมื่อวานนี้ทราบแล้วว่าห้องล็อกเกอร์อยู่ตรงไหน จันทริกาจึงไปหาหัวหน้าแม่บ้านที่นั่นโดยไม่ต้องมีใครพาไป หลังจากเปลี่ยนชุดเสร็จเธอได้รับมอบหมายให้ทำความสะอาดห้องน้ำที่ชั้นสามและชั้นสี่เช่นเดิม หญิงสาวพยายามมองหาคนในบ้านที่รังสิมันต์ให้มาทำงานที่นี่ ทว่าก็ไม่ได้พบใคร เพราะทุกคนอยู่ในแผนกอาหารสดกันหมด เธอจึงได้แต่ทำหน้าที่ของตัวเองโดยไม่มีโอกาสได้พูดคุยทักทายกับใครเลย ร่างเล็กบางที่กำลังหิ้วถังน้ำและไม้ถูพื้นเข้าไปห้องน้ำ ไม่ได้รู้ตัวเลยว่าตัวเองตกเป็นเป้าสายตาของรังสิมันต์อยู่แทบจะทุกย่างก้าว เพียงแต่วันนี้เขายืนมองอยู่ไกลๆ ไม่ได้เข้ามาคุมแจอยู่ข้างในเหมือนเมื่อวาน หลังจากที่เข้าไปทำความสะอาดห้องน้ำชั้นสามเสร็จ จันทริกาถืออุปกรณ์ทั้งหมดออกมาด้านนอก เตรียมจะไปทำความสะอาดที่ห้องน้ำชั้นสี่ต่อ แต่เธอต้องหันหลังกลับไปมอง เมื่อมีใครบางคนเรียกชื่อเธออย่างคุ้นเคย
บทที่ 40เวลาเกือบสี่ทุ่ม กว่าที่รังสิมันต์กับปรัชญ์จะแยกย้ายกันกลับบ้าน แม้ปากบอกว่าจะไปดื่มเหล้าด้วยกัน แต่ต่างคนต่างก็ไม่ได้ดื่มหนักอะไร ส่วนใหญ่จะเป็นคุยกันสัพเพเหระซะมากกว่า หรือถ้าให้พูดตรงๆ เรื่องดื่มเหล้ามันก็เป็นแค่ข้ออ้างสำหรับการออกไปเที่ยวเตร่ตามประสาผู้ชายโสดเท่านั้นออดี้สีเหลืองแล่นมาจอดที่หน้าบ้านอย่างคล่องตัว คนขับจัดการดับเครื่องดึงกุญแจออกแล้วเดินตรงเข้าไปในบ้านเลย โดยไม่ได้สนใจจะขับรถราคาแรงนั้นไปจอดในโรงรถแต่อย่างใด ด้านนอกไฟยังคงสว่างไสว ทว่าภายในบ้านไฟกลับถูกปิดเกือบทุกดวง ยกเว้นตรงบริเวณทางขึ้นบันไดชั้นสองเท่านั้นที่เปิดอยู่ร่างสูงก้าวขาไปยังบันไดเพื่อขึ้นห้อง ทว่าอยู่ๆ ก็เปลี่ยนใจกะทันหัน หันหลังกลับแล้วเดินตรงไปยังห้องนอนชั้นล่างแทนเขาหยิบกุญแจสำรองที่แอบเก็บไว้ติดตัวตลอดเวลาออกมา กำลังจะไขเข้าไปอย่างถือวิสาสะ แต่ก็ชะงักมือเอาไว้เมื่อได้ยินเสียงหวานแว่วดังออกมานอกห้องเบาๆ“นอนลงๆ เป็นเด็กว่าง่าย นอนได้แล้วเมสซี่ วันนี้จันทร์ง่วงมาก แล้วก็ไม่มีอะไรจะคุยให้เมสซี่ฟังด้วย ฝันดีนะ”แม้เสียงนั้นจะเล็ดลอดออกนอกห้องมาแค่แผ่วเบา แต่ด้วยบรรยากาศที่เงียบเชียบของบ้าน ร
บทที่ 39สินชัยเดินนำไปทางห้องล็อกเกอร์ของแม่บ้าน บอกหัวหน้าแม่บ้านให้หาชุดให้จันทริกาเปลี่ยน จากนั้นหญิงสาวก็ถืออุปกรณ์ทำความสะอาดเดินตามหัวหน้าแม่บ้านไปยังห้องน้ำที่อยู่ชั้นสาม “เดี๋ยวทำที่นี่เสร็จ ขึ้นไปทำที่ชั้นสี่ต่อเลยนะ” หัวหน้าแม่บ้านออกคำสั่งกับจันทริกาอีกคน “ค่ะ” “งั้นก็ลงมือได้เลย เดี๋ยวป้าจะไปตรวจความเรียบร้อยที่ชั้นอื่นก่อน เสร็จแล้วจะขึ้นมาตรวจดูที่ชั้นสามอีกรอบ” หัวหน้าแม่บ้านบอกเสร็จก็ออกไปจากห้องน้ำชั้นนั้น เพื่อไปตรวจความเรียบร้อยของชั้นอื่นๆ ตามหน้าที่ตัวเอง ประตูห้องน้ำที่ถูกแขวนป้ายด้านนอกว่ากำลังทำควาสะอาดถูกผลักเข้ามาอีกรอบ ทำให้จันทริกาซึ่งกำลังตั้งหน้าตั้งตาขัดล้างทำความสะอาดห้องน้ำอยู่หันขวับไปมอง แล้วก็เห็นว่าคนที่เข้ามานั้นก็คือรังสิมันต์นั่นเอง “คุณตะวัน…” “ฉันแค่เข้ามาดูเธอว่าทำความสะอาดได้เรียบร้อยดีหรือเปล่า” ได้ยินคำตอบแบบนั้นจันทริกาก็หันไปตั้งหน้าตั้งตาทำความสะอาดต่อ โดยไม่ได้พูดจาใดๆ กับเขาอีก เสร็จจากห้องนั้นก็ต่อห้องนี้ จนกระทั่งครบทุกห้
บทที่ 38“หมดฤทธิ์แล้วเหรอ ถ้าหมดฤทธิ์แล้ว ฉันจะได้ทำต่อ” “กรุณาเถอะนะคะ จันทร์ไม่ต้องการแบบนี้” “แล้วต้องการแบบไหน หรือว่าชอบแบบซาดิสม์ ฉันก็จัดให้ได้นะ อ้อ...บางทีเด็กจิตๆ อย่างเธออาจจะชอบแบบที่ว่าก็ได้ ทำไมฉันถึงโง่นักนะ” รังสิมันต์หัวเราะเสียงหื่นในลำคอ ก่อนจะละมือข้างหนึ่งมาคลายเนกไทน์ของตัวเองออก จากนั้นก็กระชากมันมา แล้วรวบแขนทั้งสองข้างของจันทริกามามัดข้อมือด้วยเนกไทน์เส้นนั้น หญิงสาวได้แต่เบิกตากว้างไม่คิดว่ารังสิมันต์จะทำอะไรรุนแรงอย่างที่เขาว่าจริงๆ “คุณตะวันคะได้โปรด...” เธอขอร้องเขาเสียงสั่น “ได้สิ แบบนี้ฉันก็สุดโปรดเหมือนกัน” เรียวปากหยักคลี่ยิ้มเจ้าเล่ห์ ตาสาดประกายบางอย่างที่ทำเอาร่างบางสะท้าน และหลังจากนั้นจันทริกาก็ถูกผลักให้นอนหงายหลังลงไปบนโซฟา ก่อนที่รังสิมันต์จะจับสองมือที่ถูกมัดด้วยเนกไทน์ขึ้นวางไว้เหนือศีรษะของเธอ ร่างบางนอนตัวเกร็งขณะที่เขาเริ่มลงมือถลกชายเสื้อของเธอขึ้นไปกองไว้เหนือเนินอก ตามด้วยเสื้อชั้นในลูกไม้สีหวาน เปิดเปลือยส่วนสำคัญช่วงบนให้เป
บทที่ 37“หยุดก่อน”คำสั่งนั้นทำให้มือเล็กๆ ชะงัก และยืนตัวเกร็งรอการตำหนิหรือลงโทษจากเขา เพราะคิดว่ารังสิมันต์คงไม่พอใจกับการนวดของเธอ“มานั่งนี่”เขาออกคำสั่งพลางตบมือลงบนที่ว่างข้างตัว จันทริกาเดินไปนั่งตัวลีบลงบนโซฟาข้างๆ เขา แล้วหันไปมองเพื่อรอว่าเขาจะลงโทษยังไง ทว่ารังสิมันต์กลับทำในสิ่งที่เธอคาดไม่ถึง นั่นคือการโน้มตัวไปวางแก้ววิสกี้ที่โต๊ะหน้าโซฟา แล้วเอนตัวนอนหนุนตักเธออย่างรวดเร็ว “คุณตะวัน!” จันทริกาอุทานออกมา แก้มนวลมีจุดสีแดงซ่านแต่งแต้มทันทีกับสิ่งที่เธอไม่คิดว่ารังสิมันต์จะทำ ก็เมื่อคืนเขาเพิ่งจะมีอะไรกับผู้หญิงอีกคน พอมาวันนี้กลับมาทำกิริยาคล้ายสนิทชิดเชื้อกับเธอแบบชู้สาว ทั้งๆ ที่เขาไม่ได้รู้สึกอะไรด้วย “เสียงดังทำไม หนวกหู ฉันก็แค่อยากนอนให้เธอนวดสบายๆ” “แต่แบบนี้จันทร์นวดไหล่ให้คุณไม่ได้นะคะ” “นวดไหล่ไม่ได้ ก็นวดแขนนวดมือไปสิ ตอนนี้ฉันเมื่อยไปทั้งตัวแล้ว” จันทริกาหน้าแดงก่ำกว่าเดิม ขณะก้มลงมองเขาพร้อมกับใช้มือเล็กๆ บีบนวดลงไปตามต้นแขน และสลับมานวดอีกข้างโดยไม่ยอมขยับลงไปนวดมือให้ตามที่คน
บทที่ 36ร่างสูงก้าวลงจากรถ เดินเข้าบ้านแล้วกวาดสายตามองหาร่างบางที่ปกติเวลานี้จะอยู่ในห้องครัว หรือไม่ก็กำลังตั้งโต๊ะอาหารรอเขาอยู่เมื่อไม่เห็นคนที่ตัวเองมองหา รังสิมันต์ก็ตรงไปยังห้องนอนของเธอ เพราะคิดว่าจันทริกาอาจจะอยู่ที่นั่นกับเมสซี่ แต่เมื่อเปิดประตูเข้าไปก็ไม่พบทั้งคนทั้งแมวตัวโปรดของเขา ชายหนุ่มจึงบ่นพึมพำออกมาอย่างออกจะหงุดหงิด พร้อมกับที่หัวใจเริ่มร้อนรนขึ้น“ไปไหนของเขานะ...”เมื่อหาในบ้านไม่เจอ ลำขาแข็งแรงก็ก้าวยาวๆ ออกไปหารอบๆ บ้าน ก่อนจะระบายลมหายใจออกมาแรงๆ อย่างโล่งอกทันทีที่เห็นว่าคนที่ตัวเองตามหากำลังก้มขัดพื้นอย่างขะมักเขม้นอยู่ที่ศาลาสระบัว โดยมีเมสซี่นั่งเป็นกำลังใจอยู่บนม้าหินอ่อนด้านบน“ค่ำมืดป่านนี้แล้วทำไมยังไม่เข้าบ้าน”เสียงดุๆ ที่ดังขึ้นทำให้จันทริกาสะดุ้งเล็กน้อย เธอหยุดชะงักมือที่กำลังจับแปรงขัดพื้น แล้วเงยหน้าขึ้นก่อนจะตอบคำถามของเขา“จันทร์ขัดพื้นศาลายังไม่เสร็จน่ะค่ะ”“แล้วไม่เห็นหรือไงว่าฉันกลับมาแล้ว ทำไมไม่ไปตั้งโต๊ะอาหารรอ”“ขอโทษค่ะ จันทร์จะไปเดี๋ยวนี้”“ที่มาขัดเอาค่ำๆ มืดๆ แบบนี้เพราะตอนกลางวันมัวแต่อู้งานล่ะสิ ถึงได้ทำไม่เสร็จ”“เปล่านะคะ” จั