Share

ตอนที่ 5 แผ่นดินมังกร 1.1

last update Dernière mise à jour: 2025-08-03 07:14:11

ในขณะเดียวกัน

 ยุคอดีตกาล

 พระวรกายสูงใหญ่ขององค์ชายรองฉินเสวี้ยนกงแห่งแคว้นฉิน ทรงยืนทอดพระเนตรดอกโบตั๋นหลากสีมากมายภายในพระตำหนักจันทรา ด้วยพระอารมณ์ที่แลดูแจ่มใสเป็นพิเศษ พระพักตร์คมคายหล่อเหลาปรากฏรอยยิ้มเยือนอยู่ตลอดเวลาเมื่อทรงหวนคิดคำนึงถึงความฝันเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา

 กลิ่นหอมละมุนจากแก้มเนื้อนวลยังติดอยู่ที่ปลายพระนาสิกอยู่ตลอด เวลา พระเนตรคู่สวยเปล่งประกายระยิบระยับอย่างเห็นได้ชัด ก่อนจะปิดพระเนตรลงด้วยความคิดถึงโฉมงามในหัวใจ

 “ชิงเชียงจ๋า” สุรเสียงรำพึงออกมาเบาๆ

  พระอารมณ์ที่แลดูแจ่มใสและพระพักตร์หล่อเหลาที่ปรากฏรอยแย้มสรวลอยู่ตลอดเวลานั้น ทำให้เฮ่าหรานขันทีผู้ใกล้ชิดซึ่งคอยถวายการรับใช้มาตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ อดไม่ได้ที่จะทูลถามเมื่อสังเกตเห็นองค์ชายรองของตนที่วันนี้ทรงมีสีพระพักตร์แจ่มใสเป็นยิ่งนักผิดกับทุกวันที่ผ่านมา

 “วันนี้องค์ชายทรงแลดูพระเกษมสำราญ ผิดกับทุกๆ วันเลยนะพ่ะย่ะค่ะ”

 คำกราบทูลของขันทีคนสนิท ทำให้พระเนตรที่ปิดลงเมื่อครู่ที่ผ่านมาค่อยๆ เปิดขึ้นอย่างช้าๆ พระเนตรคู่สวยยังคงเปล่งประกายระยิบระยับอยู่ตลอดเวลา

 “เจ้าสังเกตข้าด้วยอย่างนั้นเหรอ” รับสั่งถามโดยมิได้หันกลับมาทอดพระเนตรแต่อย่างใด

 “กระหม่อมเฝ้าสังเกตพระองค์อยู่เสมอพ่ะย่ะค่ะ คอยถวายการรับใช้ตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์มีหรือจะไม่เห็นความเปลี่ยนแปลง ปกติสีพระพักตร์เรียบเฉยและนิ่งอยู่ตลอดเวลา แต่วันนี้สิทรงแย้มพระโอษฐ์ทันทีตั้งแต่ตื่นบรรทม จะไม่ให้กระหม่อมคิดว่าแปลกได้ยังไงละพ่ะย่ะค่ะ”

 พระพักตร์หล่อเข้มแย้มพระสรวลออกมาทันที

 “เจ้านี่นะเหลือเกินจริงๆ” รับสั่งพร้อมส่ายพระเศียรไปมาติดๆ กัน หากแต่ยังมิทันจะรับสั่งสิ่งใดเสียงหนึ่งพลันดังขึ้นอยู่นอกพระตำหนักขึ้นมาทันที

 “องค์ชายรองยังประทับอยู่ในพระตำหนักใช่ไหม” เสียงของสตรีสูงวัยกล่าวกับทหารที่ยืนยามอยู่ด้านนอก

 องค์ชายรองหันกลับไปทอดพระเนตรเสียงดังกล่าวทันที 

 “เสด็จแม่!” รับสั่งออกมาโดยพลัน ครั้นทอดพระเนตรพระวรกายอวบอิ่มของพระมารดากำลังก้าวเข้ามาภายในพระตำหนัก

 เหยี่ยนฮองเฮาทอดพระเนตรโอรสองค์โปรด ซึ่งเจริญพระชันษาเข้าสู่ปีที่ยี่สิบเอ็ดแล้ว ด้วยความรักและห่วงเป็นยิ่งนัก องค์ชายรองมีพระวรกายสูงใหญ่ แข็งแกร่ง กำยำผิดแปลกไปจากบุรุษทั่วไปอย่างยิ่งยวด อีกทั้งองอาจและผึ่งผายสมชายชาติบุรุษเสียนี่กระไร ช่างแตกต่างกับพระเชษฐาฉินเสวียนกงเป็นยิ่งนัก แม้จะสืบสายพระโลหิตจากพระบิดาและพระมารดาเดียวกัน แต่โอรสทั้งสองพระองค์กลับแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ทั้งรูปร่างหน้าตาและอุปนิสัยใจคอ

 องค์ชายใหญ่ฉินเสวียนกง ได้รับการสถาปนาขึ้นครองตำแหน่งรัชทายาทตามกฎมณเฑียรบาลของรัฐฉินอันยิ่งใหญ่ ซึ่งสืบทอดกันมานานนับหลายชั่วอายุคน ว่าตำแหน่งเจ้าผู้ครองรัฐจะต้องเป็นของโอรสองค์โตเท่านั้น โชคดีของแคว้นฉินเป็นยิ่งนักที่ฉินอ๋องและเหยี่ยนฮองเฮา มีพระโอรสสองพระองค์ล้วนแล้วแต่ฉลาดปราดเปรื่องในการปกครองอย่างยิ่งยวด 

 องค์ชายใหญ่ปราดเปรื่องในการปกครองและวางแผนทุกด้าน คอยบริหารแค้วนฉินช่วยแบ่งเบาภาระพระบิดาได้อย่างยอดเยี่ยม ส่วนองค์ชายรองนั้นไซร้ทรงมีพระปรีชาสามารถครบทุกด้านยิ่งกว่าพระเชษฐาและเหนือ กว่าด้วยซ้ำ

 องค์ชายฉินเสวี้ยนกง ชำนาญในการทำศึกสงครามอย่างยิ่งยวด ทรงเป็นแม่ทัพออกทำศึกแทนพระบิดาและพระเชษฐามาโดยตลอดจนชนะได้แคว้นน้อยใหญ่มาไว้ในครอบครอง จนแคว้นใหญ่ในขณะนั้นต่างกลัวเกรงฝีพระหัตถ์ในการนำทัพขององค์ชายรองเป็นยิ่งนัก และกริ่งเกรงสติปัญญาอันปราดเปรื่องขององค์ชายใหญ่เช่นกัน

 ทว่าในความเป็นจริงแล้ว การวางแผนทั้งด้านการปกครองและกลศึกในการทำสงคราม ล้วนมาจากพระสติปัญญาขององค์ชายรองทั้งสิ้น แต่ด้วยความรักที่มีต่อพระเชษฐาเป็นยิ่งนัก 

 องค์ชายรองยอมให้พระเชษฐานำแผนการปกครองที่มาจากพระสติปัญญาของพระองค์ นำทูลเกล้าถวายคำแนะนำให้แก่พระบิดาจนทุกคนเชื่ออย่างสนิทใจว่ามาจากพระปรีชาสามารถขององค์ชายใหญ่ ซึ่งไม่มีสิ่งใดเทียบเท่าพระอนุชาได้เลย นอกจากทรงมีพระสิริโฉมงดงามเท่านั้น แต่ก็ไม่สามารถเทียบเท่าพระสิริโฉมของพระอนุชาได้เลย 

 มิหนำซ้ำองค์รัชทายาทยังเป็นนักรักผู้ยิ่งใหญ่ ทรงมีพระชายาโดยการแต่งตั้งถึงสี่พระองค์และมีพระสนมมากมายกว่ายี่สิบพระองค์ มีพระโอรสและพระธิดาซึ่งประสูติจากพระชายาทั้งสี่และพระสนมรวมแล้วกว่าสามสิบพระองค์เลยทีเดียว

  ในขณะที่องค์ชายรองฉินเสวี้ยนกงทรงปราศจากพระชายา มีเพียงพระสนมที่จำใจต้องรับไว้เพราะขัดพระทัยเหยี่ยนฮองเฮาไม่ได้มีจำนวนด้วยกันสิบพระองค์ 

 ทว่ามิมีพระสนมองค์ใดเลยถูกเรียกให้ถวายงานเพื่อสืบสายพระโลหิต จนภายในพระราชวังต่างมีเสียงเล่าลือไปต่างๆ นานา ว่าองค์ชายรองทรงไร้รัก และมีจิตพิศวาสบุรุษเดียวกันนั่นเอง

  วรองค์งามสง่าโน้มพระวรกายสูงใหญ่ก้มคำนับพระมารดาเมื่อเหยี่ยนฮองเฮาเสด็จมาถึงพระตำหนักจันทรา

 “ถวายบังคมเสด็จแม่ มาหากระหม่อมแต่เช้ามีพระประสงค์สิ่งใดอย่างนั้นหรือพ่ะย่ะค่ะ” รับสั่งถามราวกับว่าทรงล่วงรู้เท่าทันความคิดของพระมารดา

 “เฮ้อ!” เหยี่ยนฮองเฮาถอนพระหทัยออกมาเฮือกใหญ่ เมื่อทรงได้ยินรับสั่งโอรสองค์โปรดถามออกมา

 “เจ้าถามแม่เช่นนี้คงไม่ต้องพูดอะไรให้มันมากความแล้วกระมัง ถ้าแม่มาถึงตำหนักของเจ้าก็มีเพียงเรื่องเดียวเท่านั้นแหละที่เจ้าคิด” รับสั่งตอบกลับไปพลางค้อนให้โอรสแต่พองาม

 “หึหึหึหึ” เสียงพระสรวลดังเบาๆ อยู่ในพระศอเมื่อทอดพระเนตรพระมารดาทำท่ากระเง้ากระงอดเช่นนั้น

 “กระหม่อมแกล้งกระเซ้าเท่านั้นเอง ไม่ได้ล่วงรู้ไปทุกเรื่องหรอกพ่ะย่ะค่ะ หรือว่าทรงมาที่ตำหนักวันนี้เป็นเรื่องอื่น” รับสั่งถามกลับไปด้วยความใคร่รู้

 เหยี่ยนฮองเฮาแย้มพระสรวลออกมาบางๆ พระนางทอดพระเนตรโอรสองค์โปรดอยู่เพียงครู่ พร้อมมีรับสั่งขึ้น

 “ลูกของแม่ปีนี้มีอายุเข้าปีทียี่สิบเอ็ดแล้วและกำลังก้าวเข้าปีที่ยี่สิบสอง นับวันอายุก็มากยิ่งขึ้นไปทุกที เหตุใดหนอลูกรักของแม่จึงมิยอมมีพระชายาเพื่อสืบสายพระโลหิตของตระกูลฉินอีกเล่า เจ้าพึงพอใจหญิงงามจากแคว้นใดอยู่รึ บอกแม่เถิด ขอเพียงล่วงรู้ออกจากปากของเจ้า แม่จะส่งทูตไปเจรจาเพื่อสู่ขอนางให้มาเป็นพระชายาของเจ้าทันที”

 รับสั่งของเหยี่ยนฮองเฮาทำให้องค์ชายรองทรงดีพระทัยอย่างยิ่งยวด หากแต่เพียงครู่สีพระพักตร์กลับต้องสลดลงทันใดจนพระมารดาสังเกตได้อย่างชัดเจน

 “ดูรึทำท่าเหมือนดีใจอยู่เมื่อครู่ แต่ตอนนี้กลับมีสีหน้าเป็นทุกข์อีกแล้ว อาการแบบนี้เหมือนคนไม่สมหวังในรักอย่างไรก็อย่างนั้นเลยนะ” เหยี่ยนฮองเฮารับสั่งออกไป

 พระพักตร์หล่อเข้มก้มขึ้นลงติดๆ กัน เป็นการยอมรับในสิ่งที่พระมารดารับสั่งทุกประการ

 “ลูกมีหญิงในหัวใจแต่ไม่รู้ว่าจะมีวาสนาได้ครองคู่กับนางหรือไม่พ่ะย่ะค่ะเสด็จแม่”

 รับสั่งขององค์ชายรองทำให้เหยี่ยนฮองเฮาขมวดพระขนงเข้าหากันทันที

 “ถึงเพียงนั้นเชียวรึ! หญิงผู้นั้นอยู่ที่แคว้นใดกันเล่า มีอำนาจยิ่งใหญ่ที่องค์ชายรองแห่งแค้วนฉินมิอาจได้นางมาเป็นพระชายาได้อย่างนั้นเลยรึ” รับสั่งถามด้วยความอยากรู้

 “ลูกก็มิล่วงรู้ว่ามาจากแคว้นใด แต่นางอยู่ในความฝัน ความทรงจำและในหัวใจมาโดยตลอด” รับสั่งรำพึงถึงนางในดวงใจก่อนจะเปลี่ยนเรื่องทันที

 “อย่าใส่พระทัยเลย ว่าแต่เสด็จแม่มาถึงพระตำหนักมีเพียงเรื่องนี้เองเหรอพ่ะย่ะค่ะ” รับสั่งถามกลับไป

 เหยี่ยนฮองเฮาได้แต่ทรงยืนทอดพระเนตรโอรสองค์โปรด พระนางทรงครุ่นคิดอยู่ภายในพระทัยอยู่เพียงครู่พร้อมมีรับสั่งออกไปทันที

 “แม่ก็จะมาถามเจ้าเรื่ององค์หญิงเจ๋อฉีจากแคว้นหาน เจ้าคิดเห็นประการใดลูกแม่ ทางนั้นก็อยากรู้ว่าแคว้นฉินของเรากับแคว้นหานจะได้เป็นทองแผ่นเดียวกันเมื่อไร”

 รับสั่งของพระมารดาทำให้องค์ชายรองถอนพระทัยออกมาเบาๆ 

 “ลูกให้คำตอบเหมือนเดิมพ่ะย่ะค่ะ ยังไม่ต้องการหญิงใดเป็นชายา เสด็จแม่ให้คำตอบไปเถิด หรือจะรับนางไปเป็นพระชายาของเสด็จพี่ก็ได้ ทางแคว้นหานจะได้ไม่ต้องรอฟังคำตอบอีกต่อไป” องค์ชายฉินเสวี้ยนกงรับสั่งตัดบทออกไปทันที

 “หากเป็นเช่นนั้นก็ดีน่ะสิ แต่องค์หญิงเจ๋อฉีมิยอมอภิเษกกับผู้ใดเช่นกัน หากคู่อภิเษกไม่ใช่เจ้านะลูกแม่ ดูก็รู้ว่านางหลงรักเจ้าตั้งแต่มีโอกาสได้พบกันในงานฉลองของเจ็ดแคว้น แม่เองก็พึงพอใจนางเช่นกัน จะไม่ลองไตร่ตรองดูอีกรึ” เหยี่ยนฮองเฮาพยายามเกลี้ยกล่อมพระโอรสให้พระทัยอ่อน

 พระเศียรขององค์ชายรองส่ายไปมาเป็นการปฏิเสธโดยมิต้องเสียเวลาครุ่นคิดแต่อย่างใด

 “อย่าให้นางเสียเวลารอเลยพ่ะย่ะค่ะ ลูกมิได้รักนางแม้แต่น้อย คิดเป็นเพียงน้องสาวเท่านั้น ไม่เคยคิดที่จะครองคู่ด้วยเลย หญิงเดียวที่ลูกต้องการให้เป็นพระชายา นางอยู่ในหัวใจของลูกอยู่ในขณะนี้ และจะเป็นเช่นนี้ตลอดไป หากแม้นชาตินี้เทพจันทราทรงไม่ให้มีวาสนาครองคู่กับนาง ลูกก็จะขออยู่โดยไม่มีพระชายาเช่นนี้ตราบชั่วชีวิตพ่ะย่ะค่ะ”

 “หา! เจ้าคิดเยี่ยงนั้นจริงๆ เหรอ” เหยี่ยนฮองเฮารับสั่งถามย้ำไม่คาดคิดว่าจะได้รับคำตอบเช่นนี้

 “ลูกกล่าวสิ่งใดแล้วไม่เคยคืนคำ เสด็จแม่ก็ทรงล่วงรู้ดี” องค์ชายหนุ่มรูปงามกราบทูลกลับไป ก่อนจะหันกลับไปทอดพระเนตรทางหน้าประตูเมื่อขันทีคนสนิทของฉินอ๋องปรากฏกายขึ้น

 “กราบทูลองค์ชาย ฝ่าบาทมีรับสั่งให้เข้าเฝ้าที่พระตำหนักทรงงานพ่ะย่ะค่ะ”

 พระพักตร์หล่อเหลาพยักขึ้นลงเป็นสัญญาณของการรับรู้

 “ข้ากำลังคุยกับเสด็จแม่ บอกพระบิดาว่าอีกสักเพียงครู่จะไปเข้าเฝ้า”

 “พ่ะย่ะค่ะ” ขันทีคนดังกล่าวรับคำสั่งพร้อมล่าถอยกลับไป พร้อมสุรเสียงของเหยี่ยนฮองเฮาดังแทรกขึ้น

 “เสด็จพ่อคงมีเรื่องสำคัญที่ต้องปรึกษากับเจ้า ถ้าเช่นนั้นแม่ก็จะกลับตำหนักแล้วละ เอาเป็นว่าคู่หมายที่แม่หมายตาเอาไว้ให้เจ้าอย่าเพิ่งปฏิเสธอย่างไม่มีเยื่อใยเลยนะ แม่จะรักษามิตรภาพอันดีของแคว้นทั้งสองไปก่อน เผื่อบางทีเจ้าจะเปลี่ยนความคิดที่จะมีชายาดั่งเช่นบุรุษอื่นพึงมี อะไรกันบุรุษอื่นมีคู่ตั้งแต่เยาว์แต่เจ้าสิจนป่านนี้หามีไม่”

 เหยี่ยนฮองเฮารับสั่งพลางส่ายพระเศียรไปมาด้วยรู้สึกอ่อนอกอ่อนใจ ไม่ว่าจะรับสั่งสิ่งใดโอรสองค์โปรดก็ยังคงยืนกรานไม่ยอมอภิเษกกับหญิงใดอยู่เช่นเดิม ก่อนจะค่อยๆ เสด็จออกจากพระตำหนักจันทรากลับไปยังตำหนักของพระนางโดยมีสายพระเนตรขององค์ชายรองทอดพระเนตรตามหลัง

 ภายในพระตำหนักจันทราในขณะนี้ ตกอยู่ในความเงียบงันอีกครั้ง เมื่อเหยี่ยนฮองเฮาเสด็จกลับไป พระวรกายสูงใหญ่ขององค์ชายฉินเสวี้ยนกงทรงยืนทอดพระเนตรสายลมที่กำลังพัดพากลิ่นหอมของดอกโบตั๋นและเสียงกระดิ่งลมกระทบเข้าหากันด้วยสายพระเนตรที่มีแต่ความหม่นหมองอย่างเห็นได้ชัด

 “องค์ชาย” เสียงของเฮ่าหรานขันทีคนสนิทเอ่ยขึ้นเบาๆ ด้วยรู้สึกเป็นทุกข์กับพระอาการที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้

 “เจ้าจะถามอะไรข้าอีกอย่างนั้นรึ” รับสั่งถามออกไป

 ขันทีผู้ซื่อสัตย์ได้แต่ยิ้มแห้งๆ เมื่อองค์ชายของตนรับสั่งถามอย่างรู้เท่าทัน

 “กระหม่อมแค่อยากจะบอกว่า อย่าทรงตรอมพระทัยเช่นนี้อีกเลย มีรับสั่งให้สายข่าวที่แทรกซึมอยู่ทุกแคว้นออกค้นหานางในพระทัยขององค์ชาย ว่าพำนักอยู่ที่แคว้นใดจนกว่าจะพบดีกว่าไหมพ่ะย่ะค่ะ” ขันทีคนซื่อออกความคิดเห็นด้วยความหวังดี

 “ไม่มีประโยชน์หรอกเฮ่าหราน” รับสั่งตอบกลับไปสั้นๆ

 “ทำไมหรือพ่ะย่ะค่ะ บางทีหากค้นหาทั่วทุกแคว้นสักวันจะต้องได้พบนางเป็นแน่แท้”

 พระพักตร์หันกลับไปทอดพระเนตรขันทีคนสนิทพร้อมแย้มพระสรวลบางๆ พระเนตรคู่สวยยังคงหมองหม่นอยู่เช่นเดิม

 “ข้ามีคำสั่งให้สายข่าวออกค้นหานางไปทั่วทุกแคว้น นับตั้งแต่ที่พระบิดาทรงมอบกองทัพให้ข้าดูแลแปดปีแล้วที่เพียรตามหานางแต่ก็ไม่มีวี่แวว ได้แต่ฝันเห็นจนถึงขณะนี้สิบสองปีเข้าไปแล้ว เป็นสิบสองปีที่ข้ารอคอยทนทรมานหัวใจจนมิอาจเอื้อนเอ่ยกับผู้ใดได้” รับสั่งเพียงเท่านั้นพระพักตร์หันกลับไปทอดพระเนตรดอกโบตั๋นและกระดิ่งลมที่กำลังส่งเสียงก้องกังวานเช่นเดิม

 “คิดถึงเจ้าเหลือเกิน เจ้าจะรู้บ้างไหมว่าข้าคิดถึงและโหยหามากเพียงใด ชิงเชียงจ๋า ชิงเชียงของข้า” รับสั่งรำพึงกับสายลมที่พาดผ่านไปมาอยู่ในขณะนั้น 

 ราวกับว่าทรงต้องการฝากความรักและความคิดถึงที่นับวันยิ่งทวีมากขึ้นไปกับสายลม หวังให้นางได้ยินว่าทรงโหยหาและคิดถึงเจ้าอย่างยิ่งยวด

Continuez à lire ce livre gratuitement
Scanner le code pour télécharger l'application

Latest chapter

  • ตำหนักจันทรา ข้ามเวลารักนิรันดร์   ตอนที่ 73 บทส่งท้าย (อวสาน)

    ยุคปัจจุบันพระตำหนักจันทรา“กรุ๊งกริ๊ง! กรุ๊งกริ๊ง! กรุ๊งกริ๊ง!” เสียงกระดิ่งลมส่งเสียงก้องกังวานไพเราะเสนาะหูเป็นยิ่งนักดอกโบตั๋นหลากสีส่งกลิ่นหอมขจรขจายไปทั่วบริเวณ จนเข้ามาถึงห้องนอนใหญ่ของฟ่านชิงเชียง ซึ่งเป็นลูกสาวเพียงคนเดียวของท่านเจ้าสัวฟ่านเต๋อหมิงและคุณวิลาสินีภรรยาชาวไทยสองสามีภรรยาย้ายมาอยู่ในห้องนอนของลูกสาวเพียงคนเดียวหลังจากที่ได้เห็นการหายตัวไปอย่างน่าอัศจรรย์ต่อหน้าต่อตาคนทั้งคู่ รวมไปถึงอู๋หงฮุยเพื่อนสนิทของท่านเจ้าสัวด้วยเช่นกันนับจากวันนั้นจนถึงวันนี้เป็นเวลากว่าสองปีแล้วที่ลูกสาวเพียงคนเดียวของทั้งสองได้หายไปในที่ไหนสักแห่งในยุคอดีตย้อนกลับไปหลายพันปีก่อนของแผ่นดินจีนในสมัยโบราณท่านเจ้าสัวพยายามค้นหาและศึกษาตำราวิชาการมากมายเพื่อให้ได้ล่วงรู้ที่มาที่ไป ของเส้นคู่ขนานที่เชื่อมต่อกับยุคอดีตและยุคปัจจุบัน หวังไว้ว่าสักวันหนึ่งจะได้พบหน้าลูกสาวเพียงคนเดียวอีกสักครั้ง ร่างใหญ่ของท่านเจ้าสัวกำลังนั่งอ่านหนังสือประวัติศาสตร์อยู่ที่โต๊ะทำงานของชิงเชียง โดยมีคุณวิลาสินีนั่งถั

  • ตำหนักจันทรา ข้ามเวลารักนิรันดร์   ตอนที่ 72 ลิขิตแห่งรัก 1.2

    ห้องทรงพระอักษรรายงานมากมายจากขุนนางน้อยใหญ่วางไว้เต็มโต๊ะทรงพระอักษร ฉินอ๋องรูปงามทรงอ่านรายงานเหล่านั้นทุกตัวอักษรและพิจารณาไปด้วยพร้อมกัน ก่อนจะเงยพระพักตร์ขึ้นเมื่อขันทีคนสนิทนำกล่องไม้เครื่องประดับมาวางไว้ตรงหน้าพระพักตร์“เจ้าเอาอะไรมาให้ข้ารึ!” รับสั่งถามด้วยความแปลกพระทัย“หยกจันทราของฝ่าบาทที่ฟ่านอ๋องส่งกลับคืนมา และกำไลหยกของแคว้นฟ่านที่จะต้องส่งกลับคืนไปทั้งสองสิ่งอยู่ภายในกล่องไม้เครื่องประดับนี้แล้วพ่ะย่ะค่ะ รอเพียงพระราชสาสน์ที่จะส่งไปพร้อมกับคืนกำไลหยกให้แก่องค์หญิงชิงเชียงพ่ะย่ะค่ะ” สิ้นเสียงกราบทูลภายในหัวใจเจ้าผู้ครองแคว้นฉินในขณะนี้สะดุดกับพระนามองค์หญิงจากแคว้นฟ่านขึ้นมาทันที“ชิงเชียง!” รับสั่งสุรเสียงเบา ก่อนจะปรากฏภาพเลือนรางขึ้น มาในความทรงจำ สตรีร่างงามระหง ผมดำยาวสลวยจนถึงเอวหากแต่ใบหน้ากลับเลือนราง พร้อมเสียงเรียกในมโนจิต“ชิงเชียงจ๋า!” ในภวังค์เรียกโฉมงามเช่นนั้น“ฝ่าบาท! ฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ!” เสียงของเฮ่าหรานเรียกเจ

  • ตำหนักจันทรา ข้ามเวลารักนิรันดร์   ตอนที่ 71 ลิขิตแห่งรัก 1.1

    หนึ่งปีผ่านไปแคว้นฟ่านพระราชวังมังกรหิมะ“แปะ!” หยาดน้ำตาร่วงรินตกลงสู่พื้นด้วยความเศร้าทุกข์ระทมเป็นยิ่งนักใบหน้างามแสนสวยของชิงเชียง ซึ่งบัดนี้คือพระราชธิดาของฟ่านซานกงหรือฟ่านอ๋องและอู๋หยู่เหยี่ยนหรืออู๋ฮองเฮา ทั้งสองพระองค์แท้จริงแล้วคืออดีตชาติของเจ้าสัวฟ่านเต๋อหมิงและคุณวิลาสินี ภรรยาชาวไทยนั่นเอง แม้ว่าหญิงสาวจะพลัดพรากบิดาและมารดาในยุคปัจจุบันย้อนกลับมาอยู่ในยุคอดีตก็ตามทว่าในยุคอดีตแห่งนี้เธอได้พบกับบิดาและมารดาอีกครั้งในชาติอดีตของทั้งสองนั่นเอง เรื่องเล่าและตำนานต่างๆ ที่ตระกูลฟ่านเล่าขานกันต่อๆ มา แท้จริงแล้วก็คือเรื่องของเธอนั่นเอง ชิงเชียงกลับมาใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ในแคว้นฟ่านกับบิดาและมารดาในอดีตชาติ ณ พระราชวังมังกรหิมะ อันห่างไกลจากแคว้นอื่นๆ มีเอกภาพและการปกครองที่มีประสิทธิภาพนับตั้งแต่ชิงเชียงได้หวนคืนกลับมา เธอใช้วิชาความรู้ทั้งหมดในยุคปัจจุบันพัฒนาแคว้นที่ห่างไกลเจริญขึ้นอย่างต่อเนื่อง สิ่งปลูกสร้างมากมายเธอก็ใช้ความรู้ในยุคปัจจุบันมาปรับใช้ ตำหนักน้ำแข็งเป็นผลงานชิ้

  • ตำหนักจันทรา ข้ามเวลารักนิรันดร์   ตอนที่ 70 หนีให้ไกลไปสุดหล้า 1.4

    ท่ามกลางสายพระเนตรของฉีอ๋อง ยังทรงยืนหาได้สะทกสะท้านแต่อย่างใด ความลำพองคิดว่าตนมีเครื่องมือทำลายล้างผู้อื่นจึงคิดว่ามีชัยเหนือผู้ใดทั่วหล้า ขวดยาพิษหมื่นบุปผาถูกเก็บเข้าไปไว้ในผ้าคาดเอวของพระองค์ ก่อนจะบังคับม้าที่ทรงประทับอยู่ตรงไปที่เจ้าผู้ครองแคว้นฉิน หมายมุ่งเอาชีวิตเพื่อยึดครองแคว้นอันยิ่งใหญ่และหญิงงามซึ่งเป็นรักแรกพบของพระองค์ให้ตกมาเป็นของตนให้จงได้ในขณะเดียวกันร่างระหงของชิงเชียงอยู่บนหลังม้ากับเจ้าผู้ครองแคว้นฉิน ทั้งสองต่างช่วยกันไล่ฟาดฟันกองทหารของแคว้นฉีและแคว้นหานที่กำลังดาหน้าเข้ามาเพิ่มเรื่อยๆ โดยมีเยี่ยฉางอยู่บนหลังม้าอีกตัวหนึ่ง คอยระแวดระวังภัยถวายอารักขาให้กับฉินอ๋องและองค์หญิงของตนทันใดนั้นเองเสียงฝีเท้าม้าจำนวนมากกำลังวิ่งตรงมาจากพรมแดนอันเป็นเขตรอยต่อของแคว้นเหยี่ยนและแคว้นฟ่าน ทั้งสองแคว้นส่งกองกำลังทหารมาช่วยเจ้าผู้ครองแคว้นฉินและช่วยพระราชธิดาเพียงหนึ่งเดียวของฟ่านซ่านกง“ทหารจากแคว้นเหยี่ยนและแคว้นฟ่านมาช่วยแล้วฝ่าบาท!” เยี่ยฉางตะโกนบอกฉินอ๋องด้วยความดีใจพระพักตร์หล่อเหลาแย้มพระโอษฐ์กว้างด้ว

  • ตำหนักจันทรา ข้ามเวลารักนิรันดร์   ตอนที่ 69 หนีให้ไกลไปสุดหล้า 1.3

    ณ จุดพรมแดนแคว้นฉี ห้าชีวิตของสี่บุรุษและหนึ่งสตรีกำลังเดินเข้าเขตพรมแดนแคว้นเหยี่ยนเพื่อไปให้ถึงถ้ำหิมะ ซึ่งถ้ำดังกล่าวอยู่ในเขตพรมแดนของแคว้นฟ่าน ด้วยเช่นกันครึ่งหนึ่ง จึงเป็นจุดนัดพบของทั้งสองแคว้นได้เป็นอย่างดี ซึ่งกองทหารจากแคว้นฟ่านและกองทหารองครักษ์จากแคว้นฉินของฉินเสวี้ยนกง กำลังรอคอยเจ้าผู้ครองแคว้นและองค์หญิงชิงเชียงจากแคว้นฟ่าน ซึ่งฟ่านซานกงหรือฟ่านอ๋องทรงรอคอยพระราชธิดาเพียงหนึ่งเดียวอย่างใจจดใจจ่อ พร้อมกับองค์รัชทายาท อีกเพียงสี่ชั่วยามก็จะเข้าสู่พรมแดนของแคว้นเหยี่ยน ซึ่งจะทำให้กองทหารของแคว้นฉีติดตามได้ยากลำบากมากขึ้น เพราะทันทีที่พ้นเขาสูงเบื้องหน้าก็จะต้องพบกับหิมะและน้ำแข็งไปทั่วทุกพื้นที่เลยเดียว หญิงสาวในชุดคลุมอย่างมิดชิดทำมาจากขนสุนัขจิ้งจอกกำลังเดินฝ่าความหนาวเหน็บ ท่ามกลางหิมะที่เริ่มโปรยปราย ใบหน้างามเปล่งปลั่งเป็นสีชมพูและริมฝีปากอวบอิ่มแดงแจ๋ เพราะถูกความเย็นขับออกมาจนคนตัวใหญ่ข้างกายต้องคอยหันกลับมามองใบหน้างามนั้นอยู่ตลอดเวลาจนต้อง

  • ตำหนักจันทรา ข้ามเวลารักนิรันดร์   ตอนที่ 67 หนีให้ไกลไปสุดหล้า 1.1

    ภายในคุกหลวง ยามสาม คบไฟพวยพุ่งอยู่ภายในคุกหลวง ถูกมือปริศนาพันด้วยผ้าสีดำจนมิดชิดกำลังโรยผงสีขาวลงบนเปลวเพลิงไปทุกจุดส่งกลิ่นและควันขาวตลบอบอวลไปทั่ว เพียงครู่บรรดาทหารหลวงที่ยืนเฝ้ายามตามจุดที่ได้รับมอบหมายค่อยๆ ยืนโงนเงนไปมาก่อนจะทรุดฮวบลงไปกับพื้นทันที ร่างสันทัดในชุดสีดำทะมึนปกปิดหน้าตาอย่างมิดชิดด้วยผ้าสีดำสนิทตลอดทั้งศีรษะและใบหน้า เหลือเพียงดวงตาเอาไว้เท่านั้น ครั้นเห็นทหารที่เฝ้าเวรยามอยู่ในคุกต่างพากันหมดสติเพราะผงหลงลืมอดีตราชองครักษ์ของแคว้นฟ่านในชุดสีดำทะมึนดังกล่าวปรากฏตัวมาพร้อมกับราชองครักษ์ของแคว้นฉินอีกสองนาย ซึ่งเพิ่งหนีรอดไปเมื่อวานได้หวนกลับมาสืบข่าวคราวเจ้าผู้ครองแคว้นของตน จนล่วงรู้แผนการใหม่ล่าสุดขององค์หญิงชิงเชียง ราชองครักษ์ทั้งสามปรากฏตัวขึ้นภายในห้องคุมขังของฉินอ๋องรูปงาม ก่อนจะตรงดิ่งเข้าไปปลดโซ่ตรวนที่ล่ามพระวรกายอยู่ในขณะนั้นให้เป็นอิสระ &

Plus de chapitres
Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status