เซี่ยยี่ทนดูไม่ไหว นางหุบพัดแล้วเดินเข้ามาหิ้วเอวแน่งน้อยให้กลับไปนั่งที่เดิม...ก็ตลกและน่าเอ็นดูอยู่หรอก แต่ถ้าพวกนางเล่นมากไปข้าจะเสียงานน่ะสิ!"ตั้งสติกันหน่อย ดูโน่น" เซี่ยยี่ยิ้มพรายเมื่อเป้าหมายของพวกนางถูก "ผลัก" ออกมาจากหลังฉากกั้น"การประมูลที่แท้จริงจะเริ่มจากนี้ต่างหาก"ไป๋จิ้งเหอที่ถูกผลักมากลางเวทีทรุดไปกับพื้นเพราะถูกสกัดจุดไว้ ชวนเรียกคะแนนสงสารเห็นใจจากคนหมู่มาก พอจู้เฉิงเดินเข้ามาประคองให้ยืนได้มั่นคงดี การประมูลสาวงามจึงเริ่มต้นขึ้น"แปดพันตำลึง!" เสียงใครบางคนจากด้านล่างตะโกนราคาขึ้นมาเป็นคนแรก "อะไรนะ?!" หมิงเสวี่ยตาค้าง"แค่เริ่มก็แปดพันตำลึงแล้วรึ!?""แปดพันห้าร้อยตำลึง!""เก้าพันตำลึง!!"ตัวเลขเริ่มสูงขึ้นเรื่อยจนหมิงเสวี่ยแทบจะลมจับ มันจะไปสิ้นสุดที่จำนวนใดกันแน่เนี่ย!""ข้ามีงบให้เจ้าไม่อั้น" ซื่อเซี่ยยี่วางตั๋วแลกเงินบนโต๊ะใบหนึ่ง "ลองประมูลคนรักเจ้าดูบ้างสิ""ขอบคุณเจ้าค่ะ!""อย่าลืมวางมาดคุณชายประมูลสาวงามด้วย""เจ้าค่ะ! เอ้ย ขอรับ!"หมิงเสวี่ยรับเงินไปแล้วตะโกนด้วยเสียงที่พยายามจะเข้ม "หนึ่งหมื่นห้าพันตำลึง!" เขาต้องเป็นของข้าๆไป๋จิ้งเหอในคราบสาวงามกำลังโ
เบื้องหลังม่านโปร่ง บุรุษที่ถูกเซี่ยยี่จับตามอง กำลังมองเทียบชื่อสาวงามที่เข้ารับการประมูลเช่นกัน" "สาวงามคนสุดท้ายนี่ช่างคุ้นหน้าจริง" คนสนิทที่มีรอยยิ้มประหลาดเอ่ยทักเป็นหัวหน้ายิ้มละไม "นางเป็นคนที่เราหมายตาไว้อย่างไรเล่า""นายท่านช่างมีหัวใจรักที่มั่นคงนัก เพียงเจอหน้านางไม่กี่ครั้งก็จดจำได้ไม่ลืมเลือน""ช่วยไม่ได้นีนะ ใครใช้ให้ข้ากับนางมีความหลังอันล้ำลึกกันเล่า?""เช่นนั้นการประมูลครั้งนี้นายท่านจะแพ้มิได้นะขอรับ" สำหรับคนงามเช่นนาง ต่อให้ต้องทุ่มกำลังทรัพย์เท่าใดก็ต้องช่วงชิงมาให้ได้"ว่าจบ ชายหนุ่มก็ให้คนรับใช้เปิดหีบเล็กใบหนึ่งออก ภายในมีทองคำอัดแน่นอยู่ "เท่านี้เจ้าว่าพอหรือไม่?"ผู้ติดตามเขามองเพียวแว่บเดียว "ข้าว่าครึ่งหีบก็ได้นางมาข้างกายแล้วขอรับ""เช่นนั้นจะรออันใดอยู่ล่ะ" เขากรีดพัดประจำตัวแล้วคลี่โบกเบาๆ "บอกเถ้าแก่เนี้ยว่าข้าขอประมูลแม่นางไป๋ในราคาแปดพันตำลึงทอง"ไป๋จิ้งเหอได้เพียงแค่กวาดตามองไปรอบห้องโถงที่มีเสียงโห่ฮากระหึ่มรอบด้าน เจ้าฉีจู้เฉิงดันเอาเขามาปล่อยไว้กลางเวที ไม่วายสั่งทิ้งท้ายก่อนเดินหนีไปว่า "เจ้าอย่าโวยวายไป เอาไว้เจ้าได้เห็นเสียก่อนว่าผู้ใดเข้าร่ว
"นายท่าน เชิญทางนี้เจ้าค่ะ" เด็กสาวเชื้อเชิญชายหนุ่มร่างสูงผมสีน้ำตาลเข้มพร้อมผู้ติดตามจำนวนหนึ่งนั่งที่โต๊ะที่จัดเตรียมเอาไว้ให้ ร่างสูงนั้นหันกลับไปยิ้มอบอุ่นชวนให้เด็กสาวเคลิบเคลิ้ม พร้อมคำตอบที่ดูเป็นสุภาพชน"นายท่าน นี่อาจเป็นกับดักนะขอรับ" ผู้ติดตามคนหนึ่งของบุรุษผู้นั้นเอ่ยขึ้น ใบหน้าเขามักประดับด้วยรอยยิ้มประหลาด"น่าสนุกดี" ชายคนนั้นตอบสั้นๆ ท่าทางไม่ยี่หระ "ถ้าคนพวกนั้นไม่จะโต้กลับพวกเราบ้าง ข้าคงผิดหวังไม่น้อยทีเดียว"เช่นนั้นก็รอดูเรื่องสนุกให้สบายใจดีกว่า""เสวี่ยเอ๋อร์ ไม่สิ คุณชายเสวี่ย เจ้าจะประมูลสาวงามด้วยหรือไม่?" จื่อหนี่หัวเราะคิกคัก มองเวทีตรงกลางโถงที่คณะกายกรรมเริ่มทยอยลงจากเวที"ไม่เอาล่ะ" หมิงเสวี่ยส่ายหน้า "ข้าขอเป็นผู้ชมดีกว่า หนี่เอ๋อร์ เราขึ้นไปหาพี่ซื่อกัน"สองสาวในคราบหนึ่งบุรุษหนึ่งสตรี ต่างลืมตัว จูงมือกันวิ่งกลับชั้นบน สองร่างถลาวืดผ่านผ้าม่าน รีบแย่งกันเกาะรั้วเตี้ยเพื่อให้มองเห็นเวทีได้ชัดเจน"พี่ซื่อเจ้าคะ ด้านล่างบอกว่าจะเริ่มประมูลสาวงามแล้วเจ้าค่ะ!" จื่อหนี่ร้องบอกอย่างตื่นเต้น"มีเทียบชื่อสาวงามหรือไม่?" เซี่ยยี่หันไปถามเด็กสาวที่ยืนรับใช้อยู่
"พี่ซื่อ ข้าเพิ่งเคยมาที่นี่เป็นครั้งแรก" จื่อหนี่มองไปรอบด้านที่มีแต่บุรุษสลับกับสาวงามหน้าตาเลิศล้ำดั่งนางสวรรค์ พลางเดินตัวลีบหลบหลังเซี่ยยี่กับหมิงเสวี่ยที่เดินนำหน้า"ถ้ากลัวก็กอดพี่สาวไว้ให้แน่นๆ นะ" มือบางโอบเอวกลมไว้ ท่ามกลางสายตาริษยาของหนุ่มและสาวๆ นางโลม"นายท่านเจ้าคะ เชิญเจ้าค่ะ" เสียงหวานใสของนางคณิกาเอ่ยเชื้อเชิญหมิงเสวี่ยที่พยายามว่าทางให้เหมือนเหอหลางของนาง"ด้านบนยังว่างหรือไม่?" ซื่อเซี่ยยี่ถาม หากจะหาที่นั่งที่มองได้ชัดเจนที่สุด ย่อมอยู่ด้านบนซึ่งสงวนไว้สำหรับผู้ดีมีสตางค์"ยังว่างอยู่เจ้าค่ะ" นางตอบเสียงใส "วันนี้โถงกลางจะมีการประมูลสาวงามด้วย ถ้านายท่านสนใจเรียนเชิญนะเจ้าคะ""ขอบใจมาก" ซื่อเซี่ยยี่ตอบยิ้มๆและให้นางเดินนำบันไดไปชั้นที่สองบนชั้นสองนั้นไม่ได้จัดที่นั่งเปิดเผยแบบชั้นล่าง แต่มีลักษณะคล้ายห้องเล็กๆ หลายห้องที่ปิดด้วยผ้าม่าน มองเข้าไปด้านในเห็นชุดโต๊ะเตี้ยพร้อมเบาะรองนั่งหรูหรา ปลายห้องเป็นระเบียงไม้เตี้ยๆ สามารถมองเห็นเวทีซึ่งอยู่บริเวณโถงชั้นล่างได้อย่างชัดเจน ซึ่งที่นั่งเหล่านี้จะทำให้แขกรู้สึกมีความเป็นส่วนตัวมากกว่าเซี่ยยี่ให้อิสระในการให้สาวน้อย
มึนหัวยิ่งนัก...ไป๋จิ้งเหอที่เพิ่งฟื้นคืนสติค่อยๆ สะลืมสะลือเปิดเปลือกตาหนักอึ้งขึ้นมา เมื่อมองไปรอบตัวก็พบว่าที่ที่เขาอยู่ตอนนี้ไม่ใช่ห้องของเขา เตียง...ก็ไม่ใช่ของเขา...เมื่อพยายามจะขยับมือ ก็พบว่ามือทั้งสองข้างถูกตรึงอยู่กับหัวเตียงทั้งสองข้างจนขยับไม่ได้ เขาตื่นตระหนกแต่พยายามเก็บซ่อนอาการไว้ เขามองฉีจู้เฉิงที่โบกพัดเบาๆ เดินตรงมาที่เขา"แม่นางไป๋ ตื่นแล้วหรือนี่?" ฉีจู้เฉิงยิ้มทักทาย ทว่า ช่างเป็นรอยยิ้มที่ชั่วร้ายเหลือจะกล่าว"ท่าน! ท่านคิดทำสิ่งใด?! ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้!" ยิ่งดิ้นรนขัดขืน ไป๋จิ้งเหอก็ยิ่งพบว่า เสื้อผ้าที่ตนสวมใส่นั้นโปร่งบางและเบายิ่ง"ข้าคิดว่าท่านงามนัก งามกว่าสตรีใดที่ข้ารู้จักเสียอีก" จู้เฉิงว่า "เลยคิดว่าท่านน่าจะเข้าร่วมประมูลสาวงามด้วย"ไป๋จิ้งเหอเพ่งสายตาอาฆาตแค้นไปยังฉีจู้เฉิง รู้จักกันมานาน แม้จะทราบดีว่าอีกฝ่ายกับคู่หมั้นนั้นชอบการกลั่นแกล้งผู้อื่นยิ่ง แต่ไม่คิดว่าวันนี้โดนถึงสองเด้ง! คนหนึ่งรังแกเขาด้วยการขโมยภรรยา คนหนึ่งรังแกเขาด้วยการขายเขาให้ซ่องนางโลม!ส่วนเจ้าเฉี่ยวเหมยตัวดีก็ไปอยู่ไกลรัศมีที่ขาของเขาจะเตะถึง ยกมือขอโทษขอโพยเขาใหญ่ "ขอโทษนะขอรับ
"เฉี่ยวเหมย!" เสียงเรียกคนสนิทของเขาดังจนแทบกลายเป็นคำราม"นายท่าน!""เช่นนั้นเราไป!""...""ไปไหนขอรับ?""ไปก่อกวน อย่าให้พวกนั้นได้อยู่กันอย่างเป็นสุขน่ะสิ!" ไป๋จิ้งเหอกัดกรามจนขึ้นสัน แค้นนี้...มิอาจปล่อยไว้ได้!ภรรยาถูกช่วงชิงไปต่อหน้าต่อตา...รู้ถึงไหน อายถึงนั่น!"คิดจะไปก่อกวนใครหรือ?" น้ำเสียงนุ่มนวลติดเจ้าเล่ห์ดังขึ้นมาจากด้านหลังของทั้งสองไป๋จิ้งเหอยิ้มออกมาทันทีที่เห็นบุรุษผู้มาเยือนร่างสูงนั้นแต่งชุดสีน้ำเงินเข้มปักลายเมฆ เนื้อผ้าพลิ้วไหวบ่งบอกฐานะสูงส่ง พัดที่โบกไปมาในมือเป็นภาพวาดฝีพระหัตถ์ของฮ่องเต้องค์ปัจจุบันไป๋จิ้งเหอและเฉี่ยวเหมยรีบรุดไปประสานมือคารวะอย่างนอบน้อม "ข้าน้อยคารวะท่านโหว""ไม่ต้องมากพิธีหรอก คนกันเองทั้งสิ้น" ท่านโหวผู้นั้นเอ่ยด้วยน้ำเสียงสดใส "แล้วก็ เรียกชื่อข้าฉีจู้เฉิงดีกว่า ไม่เช่นนั้นเดี๋ยวผู้อื่นแตกตื่นกันหมด""ไม่นึกว่าท่านจะมาถึงซีหนิง" ไป๋จิ้งเหอว่า "ไม่ทราบว่ามีธุระอันใด""ข้าตามกลิ่นสาวงามมา" เขาตอบ "สาวงามแสนซนที่ชอบไปโน่นมานี่มิได้หยุด""อ้อ มาตามคู่หมั้นนี่เอง" ไป๋จิ้งเหออารมณ์ดีขึ้นทันตา "เช่นนั้นท่านควรรีบพานางกลับไป""แต่ข้าไม่ชอบขัด