Share

บทที่ 3

last update Last Updated: 2025-08-29 15:41:02

หลังจากล้างเนื้อล้างตัวเสร็จเรียบร้อย ซูหนี่ว์และซูเจียวก็พากันมาที่ห้องครัว บรรดาบ่าวรับใช้ถึงกับมองด้วยความแปลกใจที่นายสาวมาเยือนถึงห้องครัว ลู่กังหัวหน้าพ่อครัวจึงต้องเอ่ยถามออกไป

“คุณหนูรองต้องการสิ่งใดหรือขอรับ?”

“บุตรสาวข้าอยากลองทำอาหาร ท่านหัวหน้าพ่อครัวรบกวนช่วยเตรียมสิ่งของที่นางที่นางอยากได้ด้วย”

“เอ่อ…ขอรับ” ลู่กังเอ่ยตอบแต่แอบชำเลืองมองซูหนี่ว์ที่ดูยังไงก็ไม่น่าจะทำอาหารได้ แต่ก็ช่างเถอะในเมื่อผู้เป็นนายอยากลองเขาผู้เป็นบ่าวก็ไม่กล้าขัด

บ่าวในห้องครัวยืนรวมตัวกัน เพื่อรอคำสั่งว่าจะให้ทำอะไรบ้าง เห็นคุณหนูซูหนี่ห์งดงามราวตุ๊กตา ไม่อยากเชื่อว่านางจะอยากมาลองทำอาหาร สงสัยคงนึกสนุกตามวัยของนาง คุณหนูส่วนใหญ่ไม่ชอบการเข้าครัว เพราะการทำอาหารทำให้ มีกลิ่นติดตามเนื้อตามตัว ซึ่งเป็นสิ่งที่คุณหนูทั่วไปไม่ปรารถนา

ซูหนี่ว์เดินสำรวจห้องครัวด้วยความพอใจ สมกับเป็นห้องครัวของคหบดีอันดับ1มีทุกอย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นเนื้อสัตว์และผักต่างๆ แม้แต่เครื่องเทศและเครื่องปรุง แต่นางลืมไปว่ายุคนี้เป็นยุคจีนโบราณ เครื่องปรุงรสยังไม่ได้ทันสมัยมากนัก ถ้าหากว่านางมีมิติกลับไปที่ห้องครัวของนางได้คงดีไม่น้อย จะได้นำผงปรุงรส นำ้มันหอย ซีอิ๊ว มาใช้แต่ก็นั่นแหละมันจะเป็นไปได้ยังไง ซูหนี่ว์ปัดความคิดออกไป และเดินไปเลือกปลาที่อยู่ในถัง ก่อนที่บ่าวคนหนึ่งจะรีบถลามาจับปลาเสียเอง

“คุณหนู!!!จะใช้ปลาหรือเจ้าค่ะ? ท่านจะใช้กี่ตัว? เอ่อ…คุณหนูบอกข้ามาเลยเจ้าค่ะว่าจะให้ทำเช่นไร คือปลามันคาวมาก ให้ข้าเป็นคนทำเถอะเจ้าค่ะ” บ่าวที่มีหน้าที่ทำอาหารในห้องครัว คิดว่าคงไม่เหมาะที่ให้คุณหนูเป็นคนลงมือทำปลาเอง

“ได้เจ้าเลือกปลามา6ตัว นำไปล้างขอดเกล็ด ผ่าท้องล้างให้สะอาด แล้วเอามาให้ข้า”

“เจ้าค่ะ”

ซูหนี่ว์หันไปสั่งบ่าวคนอื่นให้หั่นผัก เตรียมสิ่งของที่นางอยากได้อย่างคล่องแคล่ว ซูเจียวที่ยืนมองดูอยู่ก็ได้แต่ประหลาดใจกับท่าท่างของบุตรสาว ซูหนี่ว์ที่หันมาเห็นมารดาทำหน้าสงสัย ก็รีบเดินมาเกาะแขนแล้วกระซิบเบาๆ

“ท่านแม่ช่วงที่ข้าป่วยนอนไม่ได้สติ ข้าได้ไปยังอีกโลกหนึ่งและได้เรียนรู้อะไรมากมาย หนึ่งในนั้นก็คือการทำอาหาร เดี๋ยวข้าจะเล่ารายละเอียดให้ท่านฟังอีกทีนะเจ้าค่ะ” ซูเจียวพยักหน้ารับรู้ ก่อนจะหันไปช่วยบ่าวอีกคนแกะกระเทียม โดยไม่ได้ถามสิ่งใดกลับไป เพราะตั้งแต่นางหายป่วยก็เปลี่ยนไปมาก และตัวนางเองก็ทำใจยอมรับมาได้ซักระยะแล้ว

ซูหนี่ว์เห็นมารดาไม่ถามอะไรอีกก็ ถอนหายใจอย่างโล่งอก นางโชคดีจริงๆ ที่มีมารดาที่รักและพร้อมเข้าใจนางเช่นนี้ อย่างไรนางจะหาทางเล่าให้มารดาฟังอีกที แม้บางเรื่องบางครั้งอาจจะดูเชื่อยากก็ตาม

ซูหนี่ว์เลือกทำปลาผัดคึ่นช่ายและปลาราดพริก ต้มกระดูกหมูใส่กาดดอง และผัดผัก ทุกอย่างถูกบ่าวในห้องครัวจัดเตรียมมาให้ซูหนี่ว์เตรียมปรุง นางทำเผื่อบ่าวรับใช้ในจวนให้ได้ชิมด้วย เพราะนางเชื่อว่าฝีมือการทำอาหารของนางไม่เป็นสองรองใครอย่างแน่นอน ซูหนี่ว์เตรียมตั้งกระทะเทนำ้มันลงไป แล้วหันมาบั้งปลาสามตัว แล้วโรยเกลือนิดหน่อย อีกสามตัวนางแลเอาแต่เนื้อจะทำปลาผัดคึ่นช่าย ด้วยความเคยชินที่จะหมักเนื้อปลาก่อนทอด จึงหันไปหยิบผงปรุงรสมาใส่ลงไป แต่เดี๋ยวก่อน!!ผงปรุงรสมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง? เกิดอะไรขึ้น!!! ซูหนี่ห์หันไปมองรอบๆ ก็ไม่เห็นมีใครสนใจ จึงเริ่มทำอาหารต่ออย่างงงๆ กับเหตุการณ์นี้ แต่ก็ยังมีเรื่องให้แปลกใจเพิ่มขึ้นไปอีก เมื่อนางคิดว่าอยากได้ซีอิ้วหรือนำ้มันหอย ทุกอย่างก็มาวางอยู่ในถ้วยเรียบร้อย นี่มันเป็นเพราะกำไลที่นางสวมอยู่หรือไม่นะ แต่ก็สุดยอดไปเลยต่อไปจะได้ไม่ต้องกังกล เรื่องการทำอาหารในยุคนี้แล้ว

ไม่นานกลิ่นหอมของอาหารก็ส่งกลิ่นหอมตลบอบอวลคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ บ่าวในห้องครัวพากันได้กลิ่นอาหารก็พากัน นำ้ลายไหลท้องร้องกันเป็นแถว ไม่อยากเชื่อว่าคุณหนูในห้องหอและหน้าตางดงาม จะทำอาหารได้คล่องแคล่วว่องไว แถมอาหารยังออกมาน่ากิน จนพวกเขาต้องแอบกลืนน้ำลายไปตามๆ กัน

หลังจากอาหารเสร็จซูหนี่ห์ก็หันไป จะบอกกับบ่าวในครัวว่า เครื่องปรุงรสเหล่านี้ห้ามเอาไปไหน แต่พอหันไปดูเครื่องปรุงเหล่านั้นก็หายไปแล้ว นี่มันอะไรกันเนี่ยะ!!แปลกประหลาดมากเกินไปแล้ว ซูหนี่ว์เลิกใส่ใจขนาดทะลุมิติมาอยู่ในร่างนี้ ก็ยังเกิดขึ้นมาแล้ว นับประสาอะไรกับเครื่องปรุงทะลุมิติจะเกิดขึ้นไม่ได้

เมื่อทุกคนมาพร้อมกันที่โต้ะอาหาร ก็ต้องตกใจกับอาหารที่อยู่ตรงหน้า กลิ่นของอาหารและสีสันที่น่ากิน

“หลานรักอาหารพวกนี้เจ้าทำเองทั้งหมดเลยรึ? ไป่เฉิงหันมาถามซูหนี่ว์ เพราะไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง

“เจ้าค่ะ” ซูหนี่ห์ตอบและยกยิ้มอย่างภาคภูมิใจ

“โอ..หลานยาย หน้าตาเจ้างดงามแล้วยังเป็นแม่บ้านแม่เรือนอีกด้วย เจียวเอ่อร์เจ้าเลี้ยงลูกได้ดีเสียจริง” ฮูหยินไป๋รู้สึกปลาบปลื้มใจยิ่งนักที่เห็นซูเจียวบุตรสาว ที่แม้จะเลี้ยงบุตรมาเพียงลำพังแต่ก็ทำได้ดี ซูหนี่ว์เติบโตมางดงามและมีความสามารถเช่นนี้ น่าชื่นชมจริงๆ

“ท่านพ่อท่านแม่ท่านก็อย่าเพิ่งชมเลยเจ้าค่ะ รสชาติจะได้เรื่องหรือเปล่าข้าเองก็ยังไม่รู้เลย” พอซูหนี่ว์

ได้ยินมารดาเอ่ยเช่นนั้นก็ยืดอกเชิดหน้าขึ้นอย่างไม่รู้ คอยดูเถอะได้ชิมแล้วจะติดใจ

“น้องหญิง!มาถึงแล้วรึ? เสียงบุรุษที่อยู่ในเครื่องแบบ ของทางราชการเอ่ยถาม พร้อมเดินเข้ามาร่วมวงที่โต้ะอาหาร

“โอ้โฮ!!อาหารน่ากินทั้งนั้นเลย” ซูอันคุณชายใหญ่ที่ชอบการกินเป็นที่สุดตาลุกวาว

“คารวะพี่ใหญ่/คารวะท่านลุง”

ซูอันหันกลับมามองน้องสาวที่ไม่เจอกันหลายปี นางยังคงเป็นสตรีที่สวยสดงดงาม แม้วันเวลาผ่านไปหลายปี ข้างกายนางมีดรุณีแรกแย้ม งดงามไม่ต่างกันเพียงแต่เยาว์วัยกว่า นี่คงเป็นหลานสาวของเขาเป็นแน่

“เป็นไงหนี่ว์เอ่อรชอบเมืองหลวงหรือไม่?

“ชอบเจ้าค่ะ” ซูหนี่ว์ยกยิ้ม แอบสังเกตซูอันผู้เป็นลุงที่ปากสนทนา แต่สายตากลับเหลือบมองแต่อาหารบนโต้ะ ท่าทางท่านลุงคงจะเป็นคนชอบกินคนหนึ่ง

“อาหารมื้อนี้น่ากินทั้งนั้นเลย ข้าหิวมากเลยขอเริ่มก่อนได้หรือไม่?” ซูอันหันไปขอความคิดเห็น แต่ก็ไม่ได้รอคำตอบรีบนั่งลงแล้วรีบจัดการคีบอาหารที่อยู่ตรงหน้า มาใส่ถ้วยข้าวแล้วคีบใส่ปากทันที ก่อนที่จะหยุดชะงักนิ่งไป

“ฮะ…อาหารนี่ผู้ใดเป็นคนทำ เหตุใดรสชาติแย่ขนาดนี้!! ซูหนี่ว์ที่ได้ยินก็รู้สึกไม่มั่นใจในฝีมือการทำอาหารขึ้นมา

“ท่านลุงข้าเป็นคนทำเองเจ้าค่ะ” พอได้ยินว่าหลานสาวเป็นคนทำ ซูอันก็หน้าซีดเผือดก็รู้สึกผิดขึ้นมาทันที

“อะไรนะเจ้าเป็นคนทำหรือ?

“ก็ใช่นะสิ หลานตาไม่ต้องไปสนใจลุงที่โง่เขลาของเจ้า อาหารที่เจ้าทำรสชาติต้องดีมากแน่ ทุกคนรีบลงมือกินก่อนที่จะโดนเจ้าตะกละนี่จัดการหมดซะก่อน” ไป๋ซูเฉิงแอบมองค้อนบุตรชาย นึกว่าเขาไม่รู้หรือไงว่า ที่พูดว่ารสชาติแย่นั้นเพราะอยากจะเก็บไว้กินคนเดียว

“หนี่ว์เอ่อรลุงขอโทษ ลุงผิดไปแล้ว ให้อภัยลุงเถอะนะ จริงๆ อาหารที่เจ้าทำรสชาติดีและอร่อยมาก ลุงก็เเค่พูดไปแบบนั้นเองเพราะไม่อยากให้ใครแย่ง”

“ซูอันนี่เจ้าจะเห็นแก่กินมากเกินไปแล้ว แถมพูดจาไม่รักษาน้ำใจหลาน น่าจะให้อดอาหารสักสามมื้อ” ฮูหยินไป๋ตวัดสายตาดุไปทางบุตรชายคนโต

“ท่านยายไม่เป็นไรเจ้าค่ะ อร่อยก็ดีแล้วงั้นเรามาลงมือกันเถอะเจ้าค่ะ เดี๋ยวอาหารจะเย็นเสียก่อน ท่านลุงกินเยอะๆ นะเจ้าค่ะ หากท่านชอบข้าจะทำให้กินทุกวันเลยเจ้าค่ะ”

ซูอันพอได้ยินว่าจะได้กินทุกวัน ก็ตาโตรีบจับมือซูอันอย่างตื่นเต้น” เจ้าพูดจริงรึหลานรัก”

“ฮึให้มันน้อยๆ หน่อยเถอะ เจ้าลูกเต่าจอมตะกละ” ไป๋ซูเฉิงที่ค่อนข้างสนิทกันกับบุตรชาย เอ่ยแขวะเข้าให้ ซูอันก็ส่งสายตาขัดเคืองไปให้บิดา ก่อนจะหันไปจัดการอาหารต่ออย่างรวดเร็ว จนไป๋ซูเฉิงส่ายหัวอย่างเอือมระอา พลอยทำให้ทุกคนหัวเราะกับกิริยาท่าทางของทั้งสองพ่อลูก

เย็นนั่นทุกคนเอร็ดอร่อยกับอาหารที่ไป๋ซูหนี่เป็นคนทำ โดยเฉพาะซูอันที่กินอย่างเอาเป็นเอาตาย จนซูหนี่รู้สึกเป็นห่วงว่าเขาจะไม่สบายท้องเพราะกินมากเกิน
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ทะลุมิติมาพลิกชะตา   บทที่ 67

    สองเดือนต่อมาอยู่ๆ ฮ่องเต้ก็เกิดอาการเวียนหัว คลื่นไส้อาเจียนอยากหนัก จนเขาลุกไม่ไหวที่ออกมาว่าราชกิจในท้องพระโรง หมอหลวงจึงรีบมาตรวจอาการก็ยังหาสาเหตุไม่พบ มีเพียงซูหนี่ว์ที่พอจะเดาได้ว่าเขาเป็นอะไร ก่อนนางจะให้หมอหลวงตรวจอีกคนเพื่อยืนยันความแน่ใจ หลังจากตรวจอาการของฮองเฮา หมอหลวงก็เผยยิ้มด้วยความย

  • ทะลุมิติมาพลิกชะตา   บทที่ 66

    ข่าวจากทางราชสำนักออกติดประกาศ ฮ่องเต้สละราชบัลลังก์และแต่งตั้งเฉินตงหยางเป็นฮ่องเต้ ส่วนซูหนี่ว์ถูกแต่งตั้งเป็นฮองเฮา ทำเอาฮือฮากันทั้งเมืองหลวง ช่วงนี้สถานการณ์บ้านเมืองมีเปลี่ยนแปลงมากมาย หลายคนคอยจับตาและฟังข่าวว่าจะเกิดเหตุอันใดต่อไป เช้าวันต่อมาการประชุมในท้องพระโรงก็เริ่มขึ้น เหล่าขุนนางทยอ

  • ทะลุมิติมาพลิกชะตา   บทที่ 65

    สามวันต่อมาการจัดทำโรงทานแจกอาหารก็มาถึง ซูหนี่ว์ให้องครักษ์ที่เป็นทหารยี่สิบคนช่วยทำ เพราะพวกเขาคล่องแคล่วและเรียนรู้ได้ไวมาก จึงคิดจะดึงพวกเขาไว้ที่จวนส่วนทหารอีกแปดสิบคนนางส่งไปอยู่ที่วังหลวง นางจะทำโรงทานสามวัน วันแรกนางตั้งใจจะทำโจ๊กทรงเครื่อง น้ำเต้าหู้ ปาท่องโก๋ ซึ่งนางคิดว่าดูเรียบง่ายและสะด

  • ทะลุมิติมาพลิกชะตา   บทที่ 64

    “อืมได้” เขารู้ว่านางและเฉินอ๋องคงอยากใช้ชีวิตอิสระอยู่นอกวัง “หลานสะใภ้งั้นเมื่อไหร่เจ้ามีเจ้าก้อนแป้ง นี่ก็แต่งงานกันมานานมากแล้ว” ไท่ซ่างหวงเอ่ยขึ้น “เสด็จปู่ช่วงนี้หม่อมฉันยุ่งๆ เลยอยากให้ผ่านไปก่อน หากทุกอย่างลงตัวเจ้าก้อนแป้งมาแน่เพคะ” ซูหนี่ว์ยิ้มเขินหันไปมองเฉินอ๋องที่หน้าแดงก่ำ “เสด็จปู

  • ทะลุมิติมาพลิกชะตา   บทที่ 63

    เช้าวันต่อมาทางราชสำนักจากวังหลวงได้ส่งทหารมาปิดประกาศความผิดของสองตระกูลหลี่และตระกูลเซี๊ยะโทษฐานเป็นกบฏ ยึดทรัพย์ตระกูลเซี๊ยะเข้าวังหลวง ส่วนทรัพย์สินของตระกูลหลี่ยึดทรัพย์เป็นกองกลาง ซึ่งชายาเฉินในฐานะทายาทที่เหลืออยู่ของสกุลจ้าว จะเป็นผู้ดูแลในส่วนนี้นางต้องการทำโรงทาน และบริจาคข้าวของเครื่องใช้

  • ทะลุมิติมาพลิกชะตา   บทที่ 62

    ฮ่องเต้สั่งให้ทหารจับกุมคนที่ส่วนเกี่ยวข้อง และเก็บกวาดทำความสะอาดรอบบริเวณ ก่อนจะตัดสินใจเอ่ยกับซูหนี่ว์ “ในฐานะที่ข้าเป็นฮ่องเต้ ข้าต้องยอมรับว่าเรื่องนี้ข้าเองก็มีส่วนผิด เพราะฉะนั้นข้าจะให้เจ้าเป็นคนตัดสินใจว่าจะทำอย่างไรต่อไป” ซูหนี่ว์มองหน้าเขาก่อนจะเอ่ยขึ้น “ตระกูลหลี่สมควรถูกประหารเช่นเดีย

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status