Accueil / รักโบราณ / ทะลุมิติมาเป็นสะใภ้ร้ายกาจ (ยุค80) / บทที่ 10 ด่ามาด่ากลับไม่โกงค่ะ

Share

บทที่ 10 ด่ามาด่ากลับไม่โกงค่ะ

Auteur: sanvittayam
last update Dernière mise à jour: 2025-08-21 18:18:05

บทที่ 10 ด่ามาด่ากลับไม่โกงค่ะ

“แล้วมันผิดตรงไหนคะ ในเมื่อพี่ใหญ่คือพี่ชายฉัน ส่วนบ้านใหญ่มีสายเลือดของฉันหรือเปล่า ถึงได้มาเรียกร้องอย่างกับ...” ประโยคสุดท้าย ฟางเจียวเหมยเลือกที่จะไม่พูด แต่ให้คนบ้านใหญ่คิดเอาเอง

“นี่แกกล้าด่าย่าสามีเหรอนังเจียวเหมย อีกอย่าง แกแต่งเข้าบ้านหลี่ ของทุกอย่างย่อมต้องเป็นของบ้านหลี่สิ มันไม่เกี่ยวอะไรกับบ้านเดิม หากจะชวนคนอื่นกินอาหาร หล่อนต้องชวนบ้านใหญ่ก่อนสิ นี่อะไรกลับชวนบ้านเดิมของตัวเองมากินโดยไม่ชวนบ้านใหญ่ แบบนี้มันถูกต้องที่ไหนกัน” ซ่งเจียฮุยตอบด้วยความโกรธจัด เมื่อคิดว่าอีกฝ่ายด่าตนเองและบ้านใหญ่

“ฉันด่าย่าตรงไหนป้าสะใภ้ช่วยบอกหน่อยสิ แล้วการที่ฉันแต่งเข้าบ้านสามหลี่ก็ใช่ว่าของฉันที่นำติดตัวมาจะต้องให้บ้านหลี่ทั้งหมด ฉันใช้เงินจากสินเดิมของตัวเองซื้ออาหารและข้าวของมาให้ใครมันก็เป็นสิทธิ์ของฉัน บ้านใหญ่เกี่ยวอะไรด้วยล่ะ” ฟางเจียวเหมยย้อนกลับอย่างไม่เกรงกลัว อย่างไรร่างนี้ก็คือสะใภ้ที่ขึ้นชื่อว่าร้ายกาจอยู่แล้ว หากจะด่ากลับพวกเห็นแก่ตัวคงไม่แปลกอะไรเหมือนกัน

เมื่อเจอคำตอบนี้ คนบ้านใหญ่ก็ถึงกับพูดไม่ออก แต่ก็ยังไม่ยอมแพ้เพราะต้องการอาหารพวกนี้กลับไปกินให้ได้

“แต่ถึงอย่างไรเธอแต่งก็เข้าบ้านหลี่ อีกทั้งบ้านหลี่ยังไม่มีการแยกบ้าน ไม่ว่าอย่างไร ของที่เธอซื้อมาต้องเอาเข้ากองกลางอยู่แล้ว ใช่ไหมคะย่า”

หลี่ฉีหลินเอ่ยขึ้นมาอย่างไม่ยอมแพ้ เพราะคิดว่าคำพูดของหล่อนนั้นสามารถหักล้างกับสิ่งที่ฟางเจียวเหมยพูดได้ แต่เปล่าเลย แม้ว่าฟางเจียวเหมยจะแต่งเข้าบ้านสามหลี่ ทว่าบ้านสามหลี่ก็ไม่สามารถเอาสินเดิมของลูกสะใภ้ออกมาใช้ตามอำเภอใจได้ ยิ่งบ้านใหญ่หลี่ยิ่งไม่มีสิทธิ์ เรื่องแบบนี้ไม่มีบ้านไหนเขาทำกัน

ย่าหลี่เองเพราะความโลภเข้าครอบงำ แม้จะชราแต่สายตาของนางยังสามารถมองเห็นถุงใส่ชุดที่วางอยู่ข้างกายของลูกชายบ้านฟาง จึงเอ่ย

เข้าข้างหลานสาวตัวเองทันที

“ใช่แล้ว บ้านหลี่ยังไม่มีการแยกบ้าน เช่นนั้นแล้วบ้านสามก็ควรเอาของทุกอย่างเข้ากองกลางสิ ทุกคนเข้าไปขนของกลับบ้านใหญ่ให้หมด”

ย่าหลี่พูดอย่างเห็นแก่ตัว

ฟางเจียวเหมยได้ยินก็ไม่พอใจทันที เนื่องจากบ้านใหญ่และบ้านสามนั้นแยกครัวกันแล้ว ต่อให้จะมีการส่งเสียเงินให้บ้านใหญ่ก็ตาม แต่ย่าหลี่และบ้านใหญ่ไม่ควรกระทำแบบนี้ เพราะเธอประกาศชัดแล้วว่าสิ่งของเหล่านั้นซื้อมาด้วยเงินสินเดิมของเธอเอง

พอเห็นว่าบ้านใหญ่กำลังเดินเข้ามา ฟางเจียวเหมยจึงหันไปคว้ามีดด้ามใหญ่ที่เธอใช้ทำกับข้าวเมื่อครู่นี้มาถือไว้ และกวาดมือไปมา พร้อมกับด่ากลับอย่างไม่ไว้หน้า ไม่สนหัวหงอกหัวดำ

“ใครกล้าเข้ามาฉันฟันหัวแบะแน่” หญิงสาวกวาดสายตาแล้วมาหยุดอยู่ที่หญิงชราที่สุด

“ที่ผ่านมาฉันพูดดีเพราะเห็นว่าย่าแก่แล้ว และยังเป็นย่าของสามี ฉันเลยไม่อะไรมากมาย แต่ไม่คิดว่าย่าที่มีผมขาวมากกว่าผมดำ ยังไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี ปล่อยให้ความโลภมันครอบงำทำเรื่องที่ไม่สมควร ฉันพูดออกจะเสียงดังฟังชัดแล้วว่าข้าวของพวกนี้ฉันเอาเงินสินเดิมตัวเองซื้อ ส่วนเงินที่พี่อี้ข่ายส่งมาก็หมดไปกับให้บ้านใหญ่แล้วซื้อของให้สองแฝด นี่ยังไม่รวมอาหารที่บ้านสามต้องกิน ฉันถามหน่อยนะ พี่อี้ข่ายทำงานใช้แรงงานจะมีเงินเดือนมากมายเหมือนคนที่มีความรู้และทำงานในโรงงานได้อย่างไร

คิดบ้างสิ สมองมีไว้คั่นหูหรืออย่างไร”

ฟางเจียวเหมยเหลืออด ด่าไม่เว้นหน้า ก่อนจะหันมามองป้าสะใภ้ใหญ่ของสามีก่อนจะด่าออกไปอีกรอบ “ป้าสะใภ้ก็เหมือนกัน ตอนนี้ตัวใหญ่กว่าหมูในคอมมูนเสียอีก ทำไมงานการไม่ทำเอง อะไรนิดหน่อยก็มาฟ้องแม่สามีตัวเอง ถามจริงเถอะนะ ประสาทหรือเปล่า ที่เห็นใครอยู่เหนือกว่าหรือกินดีกว่าไม่ได้ ความอิจฉามันจะจุกอกตายหรือยังไงถ้าไม่ได้มาหาเรื่องพวกฉัน”

หญิงสาวหยุดพูดเพื่อเว้นระยะหายใจ ก่อนจะด่าต่อ “คนเราเกิดมาก็ต้องตายเหมือนกัน ตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ควรจะทำตัวให้ดี ตายไปจะได้ขึ้นสวรรค์ไม่ต้องลงนรกไปชดใช้กรรม หรือว่าคนบ้านใหญ่อยากไปอยู่ในนรกกันนักถึงได้ตามล้างผลาญบ้านสามไม่หยุด

ใช่สิ!! บ้านใหญ่รู้ว่าบ้านสามของเรามีเพียงสตรีและเด็กน้อยเท่านั้น เลยคิดจะทำอะไรหรือว่าอยากจะแย่งชิงอะไรของเราไปก็ได้ ส่วนเรื่องอาหาร บ้านสามไม่เคยขอบ้านใหญ่กิน เพราะย่าและป้าสะใภ้ทั้งสองมักพูดเสมอว่าบ้านพวกเราแยกครัวกันแล้ว กินใครกินมัน หรือว่าวันนี้คนบ้านใหญ่ยอมคุ้ยน้ำลายที่ถมลงดินกลับมากินใหม่ล่ะ ถ้าทำแบบนั้นได้ ฉันจะยอมแบ่งอาหารให้กิน”

พูดจบ ฟางเจียวเหมยเชิดหน้าอย่างถือดี จะว่าเธอไม่เคารพผู้ใหญ่ก็ได้ จะว่าเธอเป็นสะใภ้ร้ายกาจก็ดี แต่ทุกคำที่พูดออกมาล้วนเป็นความจริงทั้งนั้น

“หล่อนกล้าด่าฉันหรือนังเจียวเหมย!!” ย่าหลี่เวลานี้โกรธจนลมแทบจับ ไม่คิดว่าหลานสะใภ้จะไม่เห็นตนเองอยู่ในสายตา

“ย่าจะว่าฉันด่าก็ได้ แต่ทุกคำที่ฉันพูดไปนั้นมันเรื่องจริง ในเมื่อฉันเอาเงินจากสินเดิมมาซื้อของกินและชวนพี่ชายฉันมากิน มันก็ไม่ได้ผิดแปลกอะไร เพราะสินเดิมของแม่ พี่ใหญ่กับฉันก็มีสิทธิ์ครึ่งหนึ่ง หรือย่าคิดว่าคนบ้านฟางจะให้สินเดิมฉันมาล่ะ ย่าช่วยดูสภาพของบ้านฟางก่อน”

เธอยกเรื่องสินเดิมของแม่ออกมาอ้าง ที่จริงแล้วจากความทรงจำของร่างเดิมมีสินเดิมจากแม่จริง ๆ แต่มีไม่กี่อย่างเท่านั้น ทว่าตัวเธอเองเพิ่งจะทะลุมิติมา เลยยังไม่ได้สำรวจของในกล่องนั้น

ทุกคนได้ยินที่ฟางเจียวเหมยพูดก็ได้แต่คิดตาม แต่ถึงอย่างไรบ้านใหญ่ก็ไม่คิดที่จะยอมสูญเสียผลประโยชน์ตรงหน้าไป จึงได้หันมาสบตากันเพื่อปรึกษาว่าจะเอาอย่างไรต่อไปดี ใจหนึ่งก็อยากเข้าไปเอาอาหารที่ชวนน้ำลายไหล แต่อีกใจหนึ่งก็กลัวมีดด้ามใหญ่ในมือของฟางเจียวเหมย

“ผมไม่รู้นะว่าทุกคนคิดอย่างไร แต่อย่างที่เจียวเหมยบอกว่าอาหารมื้อนี้เธอซื้อมาด้วยเงินส่วนตัว ไม่เกี่ยวกับเงินที่น้องเขยส่งมาให้ และเงินส่วนตัวของน้องสาวผมก็มาจากสินเดิมของแม่ และผมเป็นคนให้น้องเอามาทั้งหมดเอง หากบ้านใหญ่หลี่คิดจะแย่งชิงอาหารและสินเดิมของหลานสะใภ้จากบ้านสาม เห็นว่าพี่ชายอย่างผมคงต้องร้องเรียนที่สำนักงานพลเรือนเสียแล้ว” ฟางหลู่เฉินเลือกที่จะเดินหน้าเข้ามาปกป้องน้องสาว เขาเลือกที่จะพูดตามที่ฟางเจียวเหมยบอกก่อนหน้านี้ 

การที่พี่ชายของฟางเจียวเหมยเดินหน้าออกมาพูดเอง ทำให้คนบ้านใหญ่หลี่ที่ยืนอยู่ตรงนี้เริ่มมีท่าทางลังเล ที่ลังเลไม่ใช่เพราะกลัวอีกฝ่าย แต่กลัวเรื่องจะถูกร้องเรียน หากเป็นอย่างนั้นบ้านหลี่คงไม่กล้าสู้หน้าใคร

ย่าหลี่เลือกที่จะไม่พูดอะไรต่อ ก่อนจะหมุนตัวเดินกลับไปบ้านใหญ่ของตัวเองทันที พร้อมกับสะใภ้รองที่ประคองพาเดิน

ส่วนสะใภ้ใหญ่และลูกสาวยังคงมีความละโมบ แต่เมื่อย่าหลี่ไม่พูดอะไร ทั้งสองก็ทำเพียงสะบัดหน้าและเดินกระทืบเท้าตามไป

“จบเรื่องเสียที” หนิงหงชุนเอ่ยขึ้นมาพร้อมกับถอนหายใจ

“ยังไม่จบหรอกแม่ เชื่อเถอะว่าบ้านใหญ่ไม่จบแค่นี้แน่ แม่ไม่เห็นสายตาของป้าสะใภ้ใหญ่กับพี่ฉีหลินเหรอ ดูทั้งสองจะยอมเสียที่ไหน” หลี่เหว่ยเหลียนเอ่ยขึ้น เธอไม่เชื่อว่าเรื่องจะจบแค่นี้อย่างที่แม่พูดมา

“ฉันเห็นด้วยกับเสี่ยวเหลียนนะแม่ เอาล่ะ ตั้งแต่พรุ่งนี้ไปฉันขอให้แม่กับเสี่ยวเหลียนรวมถึงพี่ใหญ่ใส่เสื้อผ้าใหม่ที่ฉันซื้อมาให้ พอครบสามวัน แม่กับเสี่ยวเหลียนพาสองแฝดไปเที่ยวเล่นบ้านสหายหรือจะพาไปเที่ยวในเมืองก็ได้ เชื่อเถอะว่าเมื่อถึงวันนั้น เราอาจจะได้แยกบ้านเพราะความโลภของบ้านใหญ่เอง”

ฟางเจียวเหมยพูดถึงแผนการขั้นต่อไป เธอเชื่อว่าหากป้าสะใภ้หรือคนบ้านใหญ่เห็นว่าบ้านสามและพี่ชายของเธอมีเสื้อผ้าใหม่ใส่ คงอดใจไม่ได้ที่จะเข้ามาค้นบ้านสาม!! 

เมื่อถึงเวลานั้น ฟางเจียวเหมยคนนี้จะเอาคืนอย่างสาสม

Continuez à lire ce livre gratuitement
Scanner le code pour télécharger l'application

Latest chapter

  • ทะลุมิติมาเป็นสะใภ้ร้ายกาจ (ยุค80)    บทส่งท้าย ครอบครัวอบอุ่น

    บทส่งท้าย ครอบครัวอบอุ่นหลี่อี้ข่ายเมื่อรู้เรื่องว่าภรรยาเหมือนจะคลอดแล้วจึงรีบตามไปที่โรงพยาบาลทันที พอมาถึงก็รู้ว่าภรรยาได้เข้าไปในห้องคลอดแล้ว เขาได้แต่เดินไปเดินมาที่หน้าห้องคลอด จนทุกคนเวียนหัวไปหมดแล้วในตอนนี้“อาข่ายหยุดเดินแล้วมานั่งก่อนเถอะ ตาเวียนหัวไปหมดแล้ว” นายท่านผู้เฒ่ากงอดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นเพราะเขาเวียนหัวไปหมดแล้วจากการเดินของหลานเขย“ครับ คุณตา”แต่ถึงแม้จะบอกอย่างนั้น หลี่อี้ข่ายก็ไม่ยอมนั่ง เขาเดินไปยืนเอาหน้าแนบประตูห้องคลอด เหมือนกับว่าจะมองให้ทะลุเข้าไปในห้องให้ได้ นั่นจึงทำให้ทุกคนส่ายหัวให้กับความตื่นเต้นของเขา ทั้ง ๆ ที่เคยมีลูกมาก่อนแล้วสองคนไม่นานประตูก็เปิดออกและมีคุณหมอก็ออกมาแจ้งข่าวด้วยใบหน้าที่เปื้อนไปด้วยรอยยิ้มว่า“ยินดีด้วยนะคะ คุณเจียวเหมยคลอดลูกแฝดชายหญิงค่ะ”“ภรรยาผมเป็นอย่างไรบ้างครับคุณหมอ” ชายหนุ่มรีบถามถึงอาการของภรรยาก่อนจนคุณหมอต้องอมยิ้ม เพราะเขาไม่ถามเลยว่าแฝดกี่คน‘ดูท่าว่าคนนี้จะรักภรรยามากจริง ๆ’ หมอคิดในใจ“ภรรยาคุณหลังจากที่คลอดลูกก็เพลียจนตอนนี้หลับไปแล้วค่ะ อาการปลอดภัยทั้งแม่ทั้งลูกเลยค่ะ ว่าแต่คุณพ่อไม่ถามเหรอคะ ว่าคราวนี้ลูกแฝ

  • ทะลุมิติมาเป็นสะใภ้ร้ายกาจ (ยุค80)    บทที่ 74 รับปู่กับย่ามาอยู่ด้วย

    บทที่ 74 รับปู่กับย่ามาอยู่ด้วย“ฮือ ๆ ๆ ตาแก่นั่นตอนนี้ป่วยหนัก แต่ย่าไม่มีเงินพาไปหาหมอเพราะสะใภ้ใหญ่แอบเอาเงินที่มีไปให้บ้านเดิมยืม จนตอนนี้บ้านซ่งก็ยังไม่คืน แถมเมียอาจงพอเห็นสามีติดคุกก็หอบเงินที่มีหนีไปอีก ตอนนี้บ้านหลี่เราลำบากมาก แทบไม่มีอะไรกิน ตาแก่ทำงานหนักจนร่างกายไม่ไหวสะดุดล้มหน้าบ้าน จากนั้นก็เดินไม่ได้อีกและนอนป่วยอยู่ที่บ้าน กินน้ำต้มข้าวประทังชีวิตไปวัน ๆ ”ย่าหลี่พูดออกมาอย่างอัดอั้นตันใจ นางเคยบากหน้าไปขอจากลูกคนรอง แต่บ้านนั้นแทบจะไม่เปิดประตูต้อนรับนางเช่นกันหลี่อี้ข่ายได้ฟังอย่างนั้นก็หันไปสบสายตากับฟางเจียวเหมย เมื่อเธอพยักหน้าให้ เขาก็ออกคำสั่งกับคนที่เป็นทั้งสหายและลูกน้องคนสนิทของตนเองทันที“เผิงหยู่ นายเอารถฉันพาย่าไปรับปู่แล้วรีบไปส่งโรงพยาบาล ค่ารักษาฉันจะจ่ายเองทั้งหมด อ้อ เอาอาหารแล้วก็ของใช้ไปให้เพียงพอสำหรับปู่กับย่าด้วยนะ คนอื่นไม่เกี่ยว” ชายหนุ่มไม่อยากคิดถึงความร้ายกาจที่บ้านใหญ่มีต่อบ้านสามของเขา ครั้งนี้เขาขอทำเพื่อพ่อที่จากไป อย่างน้อยก็ได้กตัญญูแทนท่าน และเขาทำให้ปู่กับย่าเท่านั้น คนอื่นไม่มีสิทธิ์“ครับเถ้าแก่” เผิงหยู่ขานรับทันที เขารู้สิ่

  • ทะลุมิติมาเป็นสะใภ้ร้ายกาจ (ยุค80)    บทที่ 73 ความสุขที่ได้แบ่งปัน

    บทที่ 73 ความสุขที่ได้แบ่งปันข่าวเรื่องที่ร้านหลี่ฟางจะตั้งโรงทานเพื่อแจกอาหารและของใช้ให้ชาวบ้าน ต่างกระจายไปทั่ว ไม่ว่าหมู่บ้านนั้นจะอยู่ลึกและกันดารแค่ไหน สามล้อพุ่มพวงก็เดินทางไปส่งข่าวหลังจากขายของหมดแล้ว ชาวบ้านที่ได้ยินต่างก็ตื่นเต้นดีใจ ทุกคนได้แต่อวยพรให้ร้านหลี่ฟางขายดีและร่ำรวยยิ่งกว่าเดิม พอนายท่านกงและนายท่านผู้เฒ่ากงทราบเรื่อง ทั้งสองก็มาช่วยลงขันด้วย โดยการมอบทุนการศึกษาให้กับนักเรียนที่ยากไร้ ไม่มีทุนทรัพย์ในการเรียนต่อเบื้องต้นจำนวน 50 ทุนและจะพิจารณาทุนให้เป็นการเฉพาะรายที่อยากเรียนถึงระดับมหาวิทยาลัย โดยจะคัดเลือกจากคนเรียนดีแต่ยากจนจริงๆ อีกครั้งในภายหลัง พอเรื่องนี้เข้าหูชาวบ้าน ทุกคนก็ยิ่งดีใจมาก เพราะหลายครอบครัวที่อยากส่งลูกหลานเรียนแต่ไม่มีเงิน“ขอบคุณตระกูลหลี่ ตระกูลฟาง และตระกูลกง นอกจากฉันจะไม่อดตายในหน้าหนาวปีนี้แล้ว หลานของฉันมีโอกาสได้เรียนต่อตามที่เขาตั้งใจไว้อีกด้วยขอบคุณจริงๆ”ยายเฒ่าคนหนึ่งหลั่งน้ำตาออกมา เมื่อได้ยินประกาศจากรถสามล้อพุ่มพวง เนื่องจากเธออาศัยอยู่กับหลานชายและลูกชาย ซึ่งตอนนี้หลานชายเรียนอยู่ชั้นมัธยมปลาย เนื่องจากบ้านพวกเธอต่างยอม

  • ทะลุมิติมาเป็นสะใภ้ร้ายกาจ (ยุค80)    บทที่ 72 คืนกำไรให้ชาวบ้าน

    บทที่ 72 คืนกำไรให้ชาวบ้าน“เป็นอย่างไรบ้าง อย่างที่คิดไหม” นายท่านผู้เฒ่ากงสอบถามทันทีด้วยสีหน้าร้อนรนปนตื่นเต้น เมื่อหลานทั้งสองคนกลับมาถึงบ้าน“เป็นอย่างที่คิดครับคุณตา เจียวเหมยตั้งท้องแล้วครับ แปดสัปดาห์แล้วครับคุณตา” หลี่อี้ข่ายตอบกลับด้วยรอยยิ้ม เพราะเวลานี้เขากำลังดีใจที่จะมีลูกเพิ่ม“จริงหรือ” หนิงหงชุนพอได้ยินว่าลูกสะใภ้ตั้งท้องอีกครั้งก็รีบวางหลานสาวเข้าคอกกั้น ก่อนจะวิ่งออกมาด้วยความตื่นเต้นดีใจส่วนนายท่านผู้เฒ่ากงปรากฏรอยยิ้มดีใจบนใบหน้าอย่างห้ามไม่อยู่“จริงครับแม่”หลี่อี้ข่ายตอบกลับผู้เป็นแม่ด้วยรอยยิ้มเช่นกัน เนื่องจากเวลานี้เขากำลังดีใจกว่าทุกคนในเรื่องนี้ ส่วนฟางเจียวเหมยนั้นไม่ต้องห่วง เธอนั้นมีความรู้สึกที่บอกไม่ถูก ทั้งอบอุ่นหัวใจและดีใจก่อนจะเดินไปหาลูกน้อยทั้งสองคนที่กำลังนั่งเล่นอยู่ในคอก“อาหมิง หนิงหนิง เราสองคนกำลังมีน้องแล้วนะ ดีใจไหม” ความดีใจนี้เธออยากจะบอกให้ลูกทั้งสองคนรับรู้“น้อนเหยอ” หลี่ลี่หนิงละทิ้งของเล่นในมือพร้อมกับเอียงคอถามด้วยท่าทีที่น่ารัก“ค่ะลูก หนูกำลังจะมีน้องรู้ไหม” หญิงสาวตอบกลับพร้อมกับลูบหัวลูกสาวตัวน้อยด้วยความอ่อนโยน ส่วนหลี่ชุน

  • ทะลุมิติมาเป็นสะใภ้ร้ายกาจ (ยุค80)    บทที่ 71 ตั้งท้องแล้ว

    บทที่ 71 ตั้งท้องแล้วหลังจากเปิดใจกันวันนั้นฟางหลู่เฉินและหลี่เหว่ยเหลียนก็ได้เปิดตัวกับทุกคน ซึ่งทั้งสองครอบครัวต่างก็ยินดีกับทั้งสองคนด้วย รวมถึงนายท่านผู้เฒ่ากงด้วย วันเวลาล่วงเลยจนอี้เสี่ยวม่านใกล้คลอดแล้ว ส่วนกงเฉิงเสวียนก็เดินทางไปกลับระหว่างสองเมืองเพื่อดูแลงานเองทุกที่ รวมถึงร้านรับซื้อหยกของเขาด้วย มีบางครั้งที่ฟางเจียวเหมยและสามีตามไปด้วยเพื่อหาซื้อหยกแล้วขายต่อให้พี่ชายอีกทั้งเวลานี้โรงแรมและอะพาร์ตเมนต์ก็คืบหน้าไปมาก เพราะฟางเจียวเหมยทุ่มเงินไปกับส่วนนี้ไม่น้อย แม้การก่อสร้างจะเป็นไปอย่างรวดเร็ว แต่ประสิทธิภาพและความคงทนแข็งแรงนั้นไม่ด้อยไปกว่าใคร เพราะทรัพย์สินพวกนี้เป็นอะไรที่สามารถเก็บกินระยะยาวหลายสิบปีและเธอตั้งใจจะทำเพื่อมอบไว้ให้ลูก ๆฟางเจียวเหมยและหลี่อี้ข่าย ตอนนี้ทั้งสองคนมีอิทธิพลในเมืองแห่งนี้และเมืองใกล้ ๆ ไม่น้อย เพราะกิจการที่เจริญรุ่งเรืองไม่หยุดของทั้งคู่ ทำให้เป็นที่นับหน้าถือตาของกลุ่มนักธุรกิจด้วยกัน ไม่มีใครคาดคิดว่าชาวบ้านธรรมดา จะกลายเป็นผู้มีเงินได้มากขนาดนี้อีกทั้งคุณนายหลี่อย่างฟางเจียวเหมย ยังมีฐานะเป็นหลานสาวของตระกูลกงที่มั่งคั่งและร่ำรวยระ

  • ทะลุมิติมาเป็นสะใภ้ร้ายกาจ (ยุค80)    บทที่ 70 คำสารภาพของฟางหลู่เฉิน

    บทที่ 70 คำสารภาพของฟางหลู่เฉินหลังจากส่งนายท่านกงขึ้นรถแล้ว ทุกคนต่างก็แยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตนเอง รวมถึงกงเฉิงเสวียนที่เปิดกิจการใหม่ที่นี่ด้วยนั่นก็คือโรงแรมและอะพาร์ตเมนต์ตามคำแนะนำของน้องสาวอย่างฟางเจียวเหมย ซึ่งเธอก็สร้างด้วยเหมือนกัน เพราะกิจกรรมพวกนี้ มันไม่ได้แย่งชิงลูกค้ากันอยู่แล้ว เนื่องจากเป็นที่ต้องการของคนที่อยากมีบ้านแต่ทุนน้อยและไม่มีที่ดินของตนเอง ซึ่งการที่ฟางเจียวเหมยให้พี่ชายคนนี้มาทำกิจการนี้ นั่นก็เพราะว่ากงเฉิงเสวียนมีเส้นสายในการขออนุญาตกับภาครัฐอย่างไรล่ะ หากเป็นตาสีตาสาเช่นเธอ ทุกอย่างคงจะยากน่าดูพอทุกคนแยกย้ายกันไปแล้ว นายท่านผู้เฒ่ากงก็หันมาเล่นกับสองแฝดด้วยรอยยิ้ม ใบหน้าของชายชราปรากฏให้เห็นแล้วว่าเขานั้นมีความสุขที่จะอยู่ตรงนี้ ซึ่งเด็กน้อยแม้จะพูดไม่ค่อยชัดเพราะเริ่มหัดพูด แต่ก็พยายามโต้ตอบสื่อสารกับผู้เป็นทวดของทั้งสองคนอย่างร่าเริง“ฉันฝากสองแฝดหน่อยนะคะนายท่านผู้เฒ่า เดี๋ยวจะไปเตรียมอาหารไว้สำหรับมื้อเที่ยงของเด็กๆ วันนี้นายท่านต้องการรับประทานอาหารชนิดไหนคะ ฉันจะได้เตรียมไว้ให้” หนิงหงชุนพอเห็นว่าทุกคนไปหมดแล้ว เลยฝากหลานทั้งสองไว้ให้นายท่านผู้

Plus de chapitres
Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status