Share

บทที่ 2

Author: จี้เวยเวย
ซ่งรัวเจินถามไล่เรียงกระแทกลงไป กระแทกเสียจนสีหน้าหลินจือเยว่เผือดซีด หวุดหวิดจะเป็นลมหมดสติไปแล้ว

เหตุใดนางกล้าพูดเรื่องเหล่านี้ออกมาต่อหน้าคนมากมายเพียงนี้!

“เรื่องนี้ก็ไม่ซื่อสัตย์จริงใจจริงนั่นล่ะ ได้ยินมาว่าหลินโหวและฉินซวงซวงมีใจปฏิพัทธ์ต่อกันมาตั้งแต่แรกแล้ว สองปีก่อนฉินซวงซวงไม่ยอมแต่งกับเขา นี่เขาถึงตกลงหมั้นหมายกับสกุลซ่ง ใครเคยคิดเล่าว่าทำความดีความชอบกลับมา ฉินซวงซวงกลับยอมแต่งกับเขาแล้ว ดังนั้นจึงคิดทำเช่นนี้ จุ๊ ๆ ...”

“แม่นางสกุลซ่งไม่กลายเป็นตัวโง่งมไปแล้วหรือ?”

ความทุ่มเทตลอดสองปีสูญเปล่าไปแล้ว เย็บชุดเจ้าสาวให้ผู้อื่นสวม ได้รับความทุกข์อย่างแสนสาหัสแต่ยังต้องกลั้นก้อนสะอื้น นี่ใครยังสามารถทนได้กันเล่า?

“พี่หญิง อย่าโมโหไปเลย”

ฉินซวงซวงก้าวเท้าฉับไวขึ้นมา มิอาจข่มความแปลกใจภายในใจเอาไว้ได้

เห็นได้ชัดว่าซ่งรั่วเจินเป็นพลับอ่อนให้คนบดขยี้ แต่งเข้าบ้านพร้อมกันก็เป็นนางและจือเยว่ร่วมกันวางแผน แม้นางไม่ยอมแต่ก็ต้องกล้ำกลืนฝืนรับปาก ไม่โวยวายใหญ่โตอันใด

ใครคาดคิดนางถึงขั้นเปิดผ้าคลุมหน้าลงจากเกี้ยวเจ้าสาว โวยวายอยู่ที่หน้าประตูเช่นนี้?

“ล้วนเป็นความผิดของซวงซวง ท่านอย่าโมโหเลย แม้เป็นภรรยาศักดิ์เทียมกัน ท่านและท่านโหวมีสัญญาหมั้นหมายก่อน ข้าก็ต้องล้วนเชื่อฟังพี่หญิงในทุกด้าน ทั้งหมดล้วนเคารพพี่หญิง”

“ข้ารักท่านโหวด้วยใจจริง ครานั้นเพราะครอบครัวไม่เห็นด้วย จึงไม่สามารถอยู่ร่วมกับท่านโหวได้...”

ฉินซวงซวงพูดไปก็ตาแดงระเรื่อ คล้ายโศกเศร้าเหลือหลาย ร้องไห้สะอึกสะอื้นซับหางตา “หากพี่หญิงไม่เห็นด้วย ข้ายินดีเป็นอนุ ขอท่านอย่าขุ่นเคืองท่านโหวเลย”

“ซวงซวง ข้าจะให้เจ้าเป็นอนุได้อย่างไรกัน?”

หลินจือเยว่เห็นฉินซวงซวงทุกข์ใจถึงเพียงนี้ ภายในก้นบึ้งของสายตาเปี่ยมความปวดใจ “ครานั้นหากมิใช่ครอบครัวเจ้าไม่เห็นด้วย พวกเราก็แต่งงานกันตั้งแต่แรกแล้ว!”

ซ่งรั่วเจินมองฉากรักหวานซึ้งตรงหน้า ปรบมืออย่างสุดระงับ “แสดงได้ยอดเยี่ยมยิ่งนัก!”

“เจ้าทำอันใด?” หลินจือเยว่ถามอย่างรำคาญ

ซ่งรั่วเจินยกมุมปากน้อยๆ “สองปีก่อนท่านเป็นฝ่ายสู่ขอข้า มิใช่ข้าต้องแต่งกับท่านให้ได้ เดิมทีครอบครัวข้าก็ไม่เห็นด้วย เป็นท่านที่คุกเข่าหน้าจวนสกุลซ่งของข้าถึงสองวัน”

“เห็นแก่ความจริงใจของท่าน ฮูหยินผู้เฒ่าพูดรับปากว่าจะดูแลข้าอย่างดิบดี ท่านพ่อท่านแม่ข้าจึงตอบตกลง เหตุใดบัดนี้ทำคล้ายข้ามาตียวนยาวทำลายความรักผู้อื่นกันเล่า?”

“ในเมื่อพวกเจ้ารักกันหวานซึ้งเพียงนี้ ข้าเองก็ไม่ขอเป็นคนชั่วทำลายงานแต่งแล้ว”

“ข้าทำให้พวกเจ้าสมปรารถนาแล้ว งานแต่งนี้ก็ขอให้จบลงเพียงเท่านี้ พี่หญิงน้องหญิงอะไร ดูแล้วอายุเจ้ามากยิ่งกว่าข้าอีกนะ ไฉนเลยจะให้เจ้าเรียกข้าว่าพี่หญิงได้?”

“เจ้าไม่ต้องร้องไห้พูดพร่ำยอมถอยยอมหลีกทางอีก ข้ายกตำแหน่งฮูหยินจวนนี้ให้เจ้าแล้ว”

ซ่งรั่วเจินยิ้มดูเบาทีหนึ่ง นางไม่คิดมอบสินเดิมให้ชายหลายใจหรอกนะ

ในเมื่อทั้งสองคนมีใจปฏิพัทธ์ต่อกัน เหตุใดต้องทำร้ายเจ้าของร่างเดิมด้วยเล่า?

ฉินซวงซวงเองก็ตกตะลึงเพราะการเปลี่ยนแปลงนี้ มิใช่ว่าซ่งรั่วเจินต้องฝืนตอบตกลง ชนิดที่ว่าให้นางเป็นอนุก็ยอมหรอกหรือ?

นางถึงขั้นถอนหมั้น?

นางจะกล้าถอนหมั้นได้อย่างไร!

“พี่หญิง ปีนี้ท่านก็ยี่สิบแล้ว ผ่านช่วงวัยแต่งงานมาแล้ว หากถอนหมั้น น่าจะออกเรือนไม่ได้แล้วกระมัง?”

“เรื่องของข้ายังไม่ต้องให้เจ้าใส่ใจ ยิ่งไปกว่านั้นเจ้าอายุมากกว่าข้า เจ้ายังสามารถแต่งออกเรือนได้ ข้ามีอันใดให้กังวลกัน?”

ซ่งรั่วเจินเพ่งพิศฉินซวงซวงขึ้นลงแวบหนึ่ง ภายในสายตาหญิงผู้นี้ล้วนแต่คืออุบาย เพียงมองผ่านใบหน้าแวบเดียวก็เห็นแค่ผลประโยชน์ เจ้าเล่ห์เพทุบาย ไร้น้ำใจไร้คุณธรรม เหมาะสมกับหลินจือเยว่ยิ่งนัก

ทั้งสองคนอยู่ร่วมกัน โชตชะตาของจวนโหวที่ดีขึ้นมาอย่างยากลำบากตลอดสองปีนี้จะต้องถูกทำลายอย่างรวดเร็วเป็นแน่

แน่นอน มีนางอยู่ อย่าหวังว่าโชคชะตาของจวนโหวจะดีเลย!

“ซ่งรั่วเจิน เจ้าต้องคิดให้ดี หากวันนี้เจ้าถอนหมั้นแล้ว ก็อย่าได้คิดว่าจะมีโอกาสเข้าจวนโหวอีก!”

สีหน้าหลินจือเยว่แข็งทื่อดุจเหล็ก เขาไม่เชื่อว่าซ่งรั่วเจินจะมีความกล้านี้ ถอนหมั้นในวันแต่งงาน เล่าลือออกไปชื่อเสียงนางก็จบสิ้นแล้ว!

“ใครเสียดายกัน?”

“ดี คำนี้เป็นเจ้าพูดเอง เจ้าอย่าเสียใจภายหลัง!”

“พวกเราก็ถอนหมั้นกันแล้ว อย่าได้ข้องเกี่ยวกันอีก!”

“ช้าก่อน” ซ่งรั่วเจินเปิดปากแล้ว

ภายในสายตาหลินจือเยว่สะท้อนความลำพองใจวูบหนึ่ง ก็รู้ว่าซ่งรั่วเจินมิอาจหักใจจากเขา!

“บัดนี้เจ้านึกเสียใจภายหลังแล้ว...”

ยังไม่ทันพูดจบก็ถูกซ่งรั่วเจินเอ่ยขัดขึ้น “งานแต่งก็ยกเลิกแล้ว แต่จวนโหวกินของข้าใช้ของข้า เครื่องยศสตรีที่ท่านสู่ขอแม่นางฉิน เกี้ยวเจ้าสาว และอีกหลายอย่างล้วนใช้เงินของข้ากระมัง?”

“จวนโหวเตรียมงานมงคล ตกแต่งจัดงานเลี้ยง ล้วนเป็นจวนสกุลซ่งออกค่าใช้จ่ายทั้งสิ้น ก่อนนี้ท่านกับข้าแต่งงานกัน ข้าย่อมไม่ถือสา บัดนี้ยกเลิกงานแต่งแล้ว ยังคิดใช้เงินของข้าแต่งหญิงอื่นเข้าจวน เกรงว่าจะไม่เหมาะสมกระมัง?”

ถ้อยคำนี้พูดออกไป สายตาทุกคนในงานที่ทอดมองทางหลินจือเยว่ล้วนเปลี่ยนไปแล้ว

“แม้หลินโหวทำความดีความชอบ แต่ยามฝ่าบาทพระราชทานรางวัลเขากลับปฏิเสธรับเงินทองทั้งหมดเพื่อแสดงความภักดี ข้ายังคิดว่าเขาซื่อสัตย์จงรักภักดีเสียอีก ที่แท้ก็ใช้เงินของสกุลซ่งมาโดยตลอดกระนั้นหรือ?”

ตลอดสองปีมานี้จวนหลินโหวอาศัยเงินสกุลซ่งมาโดยตลอด เดิมทีคิดว่าหลินจือเยว่ได้รับยศถาบรรดาศักดิ์พรั่งพร้อมสมบัติพัสถานกลับมาจะคืนเงินเป็นร้อยเท่า ไม่คาดคิดเลยว่าจะใช้เงินของสกุลซ่ง ทั้งยังพูดจาองอาจผ่าเผยเช่นนี้?

สีหน้าหลินจือเยว่แข็งทื่อ เขาไหนเลยจะคาดคิดว่าคนสุภาพนุ่มนวลอย่างซ่งรั่วเจินจะฉีกหน้าเขาต่อหน้าทุกคนเช่นนี้ คิดคำนวณหนี้เก่าต่อหน้าธารกำนัล นี่เห็นได้ชัดว่าไม่ไว้หน้าเขาเลยแม้แต่น้อย!

เหตุใดจึงอำมหิตถึงเพียงนี้?

“ก่อนนี้เป็นเจ้าต้องการช่วยข้า ข้าปฏิเสธหลายครั้งก็ไม่เป็นผล บัดนี้เจ้าถึงขั้นคิดบัญชีกับข้า?”

“เจ้าวางใจเถิด ข้าจะต้องคืนเงินให้เจ้าไม่ขาดไปแม้ตำลึงเดียว!”

“หวังว่าท่านโหวจะพูดจริงทำจริง” ซ่งรั่วเจินปรบมือ กระซิบข้างหูเฉินเซียง “ไปตามพี่สามของข้ามา ให้เขาพาคนมามากหน่อย”

“เจ้าค่ะ คุณหนู”

“ฟังให้ดี บัดนี้จงเข้าไปยกของของข้าในจวนโหวออกมา วันนี้ท่านโหวอยู่จวนพอดี จงคำนวณบัญชีให้ชัดเจน!”

สายตาซ่งรั่วเจินเบือนมองขบวนต้อนรับเจ้าสาวของฉินซวงซวง “เงินค่าจ้างของพวกเจ้าก็เป็นข้าจ่ายกระมัง? ในเมื่อเป็นคนของข้า บัดนี้ก็ไปยกของ ไม่ไปก็อย่าหวังจะได้ค่าจ้างจากข้า”

สีหน้าฉินซวงซวงเปลี่ยนไปแล้ว หากแม้แต่พวกเขาก็ไปทั้งหมดแล้ว เช่นนั้นศักดิ์ศรีตนเองจะยังมีอยู่อีกหรือ?

“จือเยว่ นี่จะทำอย่างไรดี?”

“ซ่งรั่วเจิน เจ้าจะต้องก่อความวุ่นวายที่งานแต่งในวันนี้ให้ได้เลยกระนั้นหรือ?”

ดวงหน้างดงามพริ้มเพราของซ่งรั่วเจินเผยแววฉงน “ท่านโหวพูดผิดไปแล้ว นี่จะเรียกว่าก่อความวุ่นวายได้อย่างไร? ข้าเพียงต้องการรีบคิดบัญชีให้ชัดเจนโดยเร็วก็เท่านั้น”

“เชื่อว่าแม่นางฉินต้องมอบสินเดิมให้ท่านโหวเป็นแน่ ก็ไม่หวังให้ทุกหนแห่งในจวนโหวล้วนมีของของข้าหรอกกระมัง? ทุกคืนพวกท่านนอนบนเตียงที่ข้าซื้อ ห่มผ้าที่ข้าซื้อ เหมาะสมแล้วหรือ?”

ถ้อยคำนี้พูดออกมา ยังไม่ต้องพูดถึงฉินซวงซวง แม้แต่หลินจือเยว่เองก็กระวนกระวายแล้ว

“ใช่แล้ว กำไลมรกตที่แม่นางฉินสวมเป็นสินเดิมที่ท่านแม่ข้ามอบให้ข้า ก็สมควรคืนให้ข้าใช่หรือไม่?”

ฉินซวงซวงชะงักงัน ก่อนจะพูด “กำไลนี้เป็นท่านโหวมอบให้ข้า จะเป็นสินเดิมของเจ้าได้อย่างไร?”

“โอ้? เช่นนั้นมิสู้เจ้าถามท่านโหว ซื้อกำไลนี้มาจากที่ใดราคาเท่าใด มีใบเสร็จหรือไม่? สินเดิมที่ท่านแม่มอบให้ข้า ข้างบนยังแกะสลักชื่อของข้าเอาไว้ด้วย”

หลินจือเยว่หน้าเปลี่ยนสีในทันทีทันใด เขาพบกำไลนี้ในคลังเก็บของ คิดได้ว่าซวงซวงชอบกำไลหยกมากที่สุด มิหนำซ้ำชิ้นนี้ยังคุณภาพยอดเยี่ยม จึงนำไปมอบให้นาง เดิมทีคิดว่าเป็นของซ่งรั่วเจินก็ไม่เป็นไร ถือเป็นของขวัญแรกพบที่นางมอบให้ซวงซวงก็ใช้ได้แล้ว

ไม่คาดคิด...ข้างบนถึงขั้นสลักชื่อของนางไว้แล้ว?
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Comments (2)
goodnovel comment avatar
Pavinee
เรื่องน่าติดตาม
goodnovel comment avatar
Suthida Pornjamroen
สนใจอ่านต่อ
VIEW ALL COMMENTS

Latest chapter

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1282

    ซ่งรั่วเจินเลิกคิ้ว การที่กำหนดไว้เป็นเดือนหน้า คาดว่าคงเป็นเพราะฮวนเอ๋อร์เพิ่งแต่งในวันนี้ จึงจำต้องเว้นระยะบ้าง ไม่เช่นนั้น ด้วยท่าทีเร่งรีบของสกุลเจียง เกรงว่าแทบอยากจะนำเจาย่วนกลับไปแต่งงานทันทีเสียด้วยซ้ำ บนโต๊ะกินเลี้ยงคึกคักเป็นอย่างมาก ที่ดังมาจากรอบข้างล้วนเป็นเสียงยกย่องชมเชย ฮวนเอ๋อร์กับอวิ๋นอ๋องแต่เดิมก็เหมาะสมกันยิ่งนัก แม้แต่ฮองเฮาก็ยังพอพระทัยยิ่งในการแต่งงานครั้งนี้ เป็นสิ่งที่ไร้ที่ติ ทันใดนั้น เสียงเอะอะดังแว่วมาเสียงหนึ่ง “ไสหัวไป ข้าไม่ต้องการให้เจ้ามายุ่ง!” “หยวนชิง เจ้าเมาแล้วนะ อย่าดื่มต่ออีกเลย!” หวังเสวี่ยรีบกล่าว สีหน้าของสวี่หยวนชิงแดงก่ำ เพราะดื่มเหล้าจนเมา ดวงตาก็พร่ามัวอยู่บ้าง เขาเห็นว่าสตรีที่ตนรักมาหลายปีแต่งงานด้วยตาตัวเองเช่นนี้ ในใจก็เศร้าจนมิอาจเอื้อนเอ่ยได้จริง ๆ ทั้ง ๆ ที่เขาเป็นคนรู้จักฮวนเอ๋อร์ก่อนแท้ ๆ พวกเขาคบหากันมาหลายปี เหตุใดฮวนเอ๋อร์ถึงมุ่งมั่นจะแต่งกับอวิ๋นอ๋องด้วย? หรือเป็นเพราะฐานะของเขาสู้อวิ๋นอ๋องไม่ได้? “เจ้าว่าเหตุใดฮวนเอ๋อร์ถึงไม่ชอบข้า? ทั้ง ๆ ที่ข้าเป็นคนที่ดีกับนางที่สุดต่างหาก!”

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1281

    ครั้นคำพูดของซ่งจิ่งเซินจบลง สายตาของทุกคนก็เหลียวไปทางซ่งรั่วเจิน แววตาปรากฏความตกใจ “คุณชายสี่ซ่ง ตามที่ท่านกล่าวมาเช่นนี้ มิใช่ว่าเรื่องเล่านี้เดิมทีเป็นสิ่งที่พระชายาฉู่อ๋องคิดขึ้นหรอกหรือ?” ซ่งจิ่งเซินยิ้มพลางพยักหน้า “นอกจากนางแล้ว คนธรรมดาเกรงว่าคงยากนักที่จะคิดเรื่องเล่าแปลกใหม่เช่นนี้ออกได้” ทุกคนตื่นรู้ แต่ละคนต่างก็รู้ว่าวิชาแห่งศาสตร์ลี้ลับของซ่งรั่วเจินนั้นเก่งกล้าเพียงใด เหล่าสัตว์ปีศาจทั้งหลาย ล้วนเป็นสิ่งที่พวกเขามิอาจพบเจอได้ในยามปกติ เรื่องของพญางูขาวนี้ พวกเขาฟังด้วยความเพลิดเพลินใจ และยังทำให้พวกเขารู้สึกว่ามิใช่ภูตผีทั้งปวงจะทำร้ายคน หวังเพียงให้ทั้งสองสามารถอยู่ร่วมกันได้สำเร็จ “พระชายาฉู่อ๋อง เรื่องเล่านี้ท่านต้องเล่าจนจบให้จงได้ พวกเราทุกคนล้วนปรารถนาที่จะได้ฟังอย่างเร็ววัน” “คาดไม่ถึงเลยว่าพระชายาฉู่อ๋องไม่เพียงแต่มีรูปโฉมงดงาม ยังเชี่ยวชาญวิชาศาสตร์ลี้ลับ แม้แต่เรื่องเล่าก็เรียบเรียงได้ดีถึงเพียงนี้!” ซ่งรั่วเจินมองไปยังพี่สี่ของตนด้วยความจนใจ นี่ก็คือขายนางไปแล้วหรือ? “น้องหญิงห้า เรื่องนี้โทษข้าไม่ได้นะ เจ้าไม่รู้ว่าตอ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1280  

    ซ่งรั่วเจินนึกขึ้นได้ว่าก่อนหน้านี้คนสนิทข้างกายอวิ๋นอ๋องยังตะโกนบ่นว่า ‘เหตุใดอังเป่าถึงได้น้อยนัก’ ก็อดไม่ได้หลุดหัวเราะออกมา “เช่นนั้นหม่อมฉันเอาเงินพวกนี้ไปซื้อของอร่อย ๆ ให้ท่านกินเป็นอย่างไร?” “ซาบซึ้งในน้ำใจของฮูหยินยิ่งนัก” ฉู่จวินถิงยิ้มบาง ๆ พลางตอบ ครั้นกู้ฮวนเอ๋อร์ขึ้นไปบนเกี้ยวบุปผาเรียบร้อยแล้ว อวิ๋นอ๋องก็ขึ้นนั่งบนหลังอาชาพันธุ์ดีอย่างองอาจ เสียงประทัดและกลองฉาบดังขึ้นกระหึ่ม ออกเดินทางมุ่งหน้าไปยังจวนอวิ๋นอ๋องอย่างครึกครื้นเอิกเกริก ซ่งรั่วเจินและฉู่จวินถิงเรียกว่าเป็นญาติฝ่ายเจ้าสาว และเป็นคนของฝ่ายเจ้าบ่าวด้วยเช่นกัน เคราะห์ดีที่วันนี้อากาศเป็นใจมากทีเดียว ทั้งคู่จึงเดินตามขบวนอยู่ด้านหลัง ไม่รีบไม่ร้อนเดินทางมุ่งหน้าไปยังจวนอวิ๋นอ๋องอย่างสบายใจ ระหว่างเดินทางผ่านร้านขายขนม ซ่งรั่วเจินแวะซื้อขนมเปี๊ยะถั่วแดงมาสองชิ้น แล้วยื่นให้ฉู่จวินถิงหนึ่งชิ้น “หม่อมฉันใช้เงินอั่งเปาที่แย่งมาได้ซื้อมา” ฉู่จวินถิงชิมไปหนึ่งคำ แล้วพูดอย่างเอาใจ “ขนมที่ฮูหยินซื้อมาต้องอร่อยอยู่แล้ว” ซ่งรั่วเจินยิ้มกว้างอย่างมีความสุข นับแต่แต่งงานกัน ความเข้าขาของพวกเขาทั้งสองนับวันยิ่ง

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1279  

    ข่าวเรื่องการหย่าร้างของซ่งปี้อวิ๋นและลู่หวยอัน ไม่นานซ่งรั่วเจินก็ได้รับรู้ผ่านปากของมารดาตนเอง “ลุงใหญ่กับป้าสะใภ้ใหญ่ของเจ้าตอนนี้ขอแค่พูดถึงชื่อเจ้าขึ้นมาก็ชื่นชมไม่หยุดปากแล้ว แม้แต่เจียงฮูหยินเองก็ยังพยักหน้าคล้อยตามอยู่ด้านข้างไม่หยุดเหมือนกัน ข้าน่ะถึงปากจะไม่ได้พูดอะไรออกมา แต่ในใจข้าน่ะภูมิใจมากจนบอกไม่ถูกเลย” ต่อหน้าซ่งรั่วเจินกู้หรูเยียนไม่เสแสร้งแม้แต่น้อย ในฐานะมารดา ได้ยินคนอื่นเอ่ยปากชมบุตรสาวของตนเอง ย่อมปีติยินดีมากเสียจนบรรยายไม่ถูก “ก่อนหน้านี้เรือนใหญ่ยังมาขอให้พวกข้าไปช่วยพูดเกลี้ยกล่อมอยู่เลย หนนี้ปี้อวิ๋นคิดเองได้แล้ว เมื่อวานพอได้หนังสือหย่าเรียบร้อยก็กลับเลยทันที” “แต่ก็เพราะเรื่องราวบานปลายใหญ่โตถึงเพียงนั้น พวกญาติ ๆ ฝ่ายนั้นก็เลยพาลไม่พอใจนางไปด้วย ตอนนี้กำลังวุ่นวายกันน่าดูเลย” กู้หรูเยียนส่ายศีรษะเบา ๆ การแต่งงานครั้งนี้ของซ่งปี้อวิ๋นคือความผิดพลาดอันใหญ่หลวง เมื่อคราวก่อนพี่สะใภ้ใหญ่เองก็เคยพยายามคิดหาหนทางแทบทุกวิธีแล้ว แต่นางก็หาได้ยอมรับ บัดนี้หากว่ากลับไป ก็มีแต่ยิ่งถูกมองไม่ดีมากขึ้นกว่าเดิม “ยังดีที่นางคิดได้เสียที ลู่หวยอันบัดนี้ไม่เหล

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1278  

    ชั่วขณะนั้น เสียงกรีดร้องของสองแม่ลูกก็ดังขึ้นระงมสลับกันไม่ขาดสาย หวงชิงชิงและหลิงอวี่เฉินถูกเรียกตัวกลับมาและได้รับเบี้ยชดเชยห้าร้อยตำลึงเงิน นี่เป็นสิ่งที่พวกเขาไม่เคยคาดคิดมาก่อน แต่เมื่อนึกถึงมารดาที่ต้องทนทุกข์ทรมาน พวกเขาก็รู้สึกว่านั่นสมควรแล้ว! ทีแรกตั้งใจจะรอให้อนุหลี่ออกจากศาลาว่าการ จากนั้นพวกเขาค่อยหาโอกาสทำร้ายอนุหลี่ให้ขาหัก เพื่อจะได้ให้นางได้ลิ้มรสความเจ็บปวดของการถูกทำร้ายจนขาหักบ้าง! คิดไม่ถึงเลยว่าเจ้าเมืองจะมีคำสั่งให้ขังนางไว้ในคุกถึงครึ่งเดือน เพื่อให้นางได้ทบทวนตัวเองและสำนึกผิด “อนุหลี่เก่งเรื่องวิวาทโวยวายก็จริง แต่ข้าดูแล้วร่างกายของนางใช่ว่าจะแข็งแรงอะไร ยามนี้ถูกโบยแล้วยี่สิบไม้ ถูกขังไว้ในคุกไร้คนดูแล อาหารการกินก็แร้นแค้น ต้องลำบากมากแน่ ๆ” หลิงอวี่เฉินกล่าว หวงชิงชิงเผยสีหน้าสะใจออกมา “ก็สมน้ำหน้า!” ส่วนซ่งปี้อวิ๋นหลังจากเห็นลู่หวยอันถูกจับตัวไปแล้ว ก็ตามมาที่ศาลาว่าการซุ่นเทียนทันที พอได้ทราบเรื่องที่สองแม่ลูกทำลงไป หัวใจของนางหมดสิ้นความหวังไปอย่างสิ้นเชิง ความจริงนางเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเหตุใดตนเองถึงได้ไม่ยอมหย่าขาดกับลู่หวยอันสักที อ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1277  

    อนุหลี่ถูกจับตัวไปโดยไม่เปิดโอกาสให้แก้ตัว ไม่ว่านางจะพยายามอธิบายอย่างไรก็ไร้ประโยชน์ “พี่หญิง ท่านทราบก่อนแล้วหรือว่านักการจะเข้ามากุมตัวนางไปลงโทษ?” หวงชิงชิงอดรู้สึกประหลาดใจไม่ได้ เพราะสำหรับชาวบ้านธรรมดาอย่างพวกเขา สิ่งที่น่ากลัวที่สุดก็คือการมีเรื่องเกี่ยวข้องกับทางการ โดยปกติแล้วหากเลี่ยงได้พวกเขาก็จะเลี่ยงอย่างถึงที่สุด เรื่องฟ้องร้องต่อทางการ พวกเขาแทบไม่เคยคิดจะทำเลยด้วยซ้ำ เพราะกลัวจะพาตนเองเข้าไปพัวพันด้วย คิดไม่ถึงเลยว่านักการเมื่อมาถึงก็เหมือนกับว่ารู้ความจริงอยู่ก่อนแล้ว และตรงเข้ามากุมตัวอนุหลี่ไปในทันที “ครั้งก่อนพระชายาได้สั่งให้คนจับตัวลู่หวยอันไปที่ศาลาว่าการซุ่นเทียน ตอนนั้นท่านใต้เท้าออกคำสั่งลงมา อีกทั้งยังตัดสินโทษโบยลู่หวยอันสามสิบไม้” “ทว่ายามนี้ลู่หวยอันยังไม่ได้รับโทษโบยที่ว่า แต่อนุของเขาก็วิ่งเสนอหน้าออกมาสร้างปัญหาแล้ว ชัดเจนว่าไม่สนใจคำสั่งของทางการเลยแม้แต่น้อย” ชิงเถิงรู้ดีแก่ใจ ว่าเหตุผลหลักที่ท่านเจ้าเมืองสั่งลงโทษอย่างเด็ดขาดเช่นนี้ ก็เป็นเพราะพระชายานั่นเอง ทางหนึ่งก็เป็นเพราะว่าลู่หวยอันทำความผิดจริง ส่วนอีกทางหนึ่งก็เป็นเพราะเกรงใจ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status