แชร์

บทที่ 2

ผู้เขียน: จี้เวยเวย
ซ่งรัวเจินถามไล่เรียงกระแทกลงไป กระแทกเสียจนสีหน้าหลินจือเยว่เผือดซีด หวุดหวิดจะเป็นลมหมดสติไปแล้ว

เหตุใดนางกล้าพูดเรื่องเหล่านี้ออกมาต่อหน้าคนมากมายเพียงนี้!

“เรื่องนี้ก็ไม่ซื่อสัตย์จริงใจจริงนั่นล่ะ ได้ยินมาว่าหลินโหวและฉินซวงซวงมีใจปฏิพัทธ์ต่อกันมาตั้งแต่แรกแล้ว สองปีก่อนฉินซวงซวงไม่ยอมแต่งกับเขา นี่เขาถึงตกลงหมั้นหมายกับสกุลซ่ง ใครเคยคิดเล่าว่าทำความดีความชอบกลับมา ฉินซวงซวงกลับยอมแต่งกับเขาแล้ว ดังนั้นจึงคิดทำเช่นนี้ จุ๊ ๆ ...”

“แม่นางสกุลซ่งไม่กลายเป็นตัวโง่งมไปแล้วหรือ?”

ความทุ่มเทตลอดสองปีสูญเปล่าไปแล้ว เย็บชุดเจ้าสาวให้ผู้อื่นสวม ได้รับความทุกข์อย่างแสนสาหัสแต่ยังต้องกลั้นก้อนสะอื้น นี่ใครยังสามารถทนได้กันเล่า?

“พี่หญิง อย่าโมโหไปเลย”

ฉินซวงซวงก้าวเท้าฉับไวขึ้นมา มิอาจข่มความแปลกใจภายในใจเอาไว้ได้

เห็นได้ชัดว่าซ่งรั่วเจินเป็นพลับอ่อนให้คนบดขยี้ แต่งเข้าบ้านพร้อมกันก็เป็นนางและจือเยว่ร่วมกันวางแผน แม้นางไม่ยอมแต่ก็ต้องกล้ำกลืนฝืนรับปาก ไม่โวยวายใหญ่โตอันใด

ใครคาดคิดนางถึงขั้นเปิดผ้าคลุมหน้าลงจากเกี้ยวเจ้าสาว โวยวายอยู่ที่หน้าประตูเช่นนี้?

“ล้วนเป็นความผิดของซวงซวง ท่านอย่าโมโหเลย แม้เป็นภรรยาศักดิ์เทียมกัน ท่านและท่านโหวมีสัญญาหมั้นหมายก่อน ข้าก็ต้องล้วนเชื่อฟังพี่หญิงในทุกด้าน ทั้งหมดล้วนเคารพพี่หญิง”

“ข้ารักท่านโหวด้วยใจจริง ครานั้นเพราะครอบครัวไม่เห็นด้วย จึงไม่สามารถอยู่ร่วมกับท่านโหวได้...”

ฉินซวงซวงพูดไปก็ตาแดงระเรื่อ คล้ายโศกเศร้าเหลือหลาย ร้องไห้สะอึกสะอื้นซับหางตา “หากพี่หญิงไม่เห็นด้วย ข้ายินดีเป็นอนุ ขอท่านอย่าขุ่นเคืองท่านโหวเลย”

“ซวงซวง ข้าจะให้เจ้าเป็นอนุได้อย่างไรกัน?”

หลินจือเยว่เห็นฉินซวงซวงทุกข์ใจถึงเพียงนี้ ภายในก้นบึ้งของสายตาเปี่ยมความปวดใจ “ครานั้นหากมิใช่ครอบครัวเจ้าไม่เห็นด้วย พวกเราก็แต่งงานกันตั้งแต่แรกแล้ว!”

ซ่งรั่วเจินมองฉากรักหวานซึ้งตรงหน้า ปรบมืออย่างสุดระงับ “แสดงได้ยอดเยี่ยมยิ่งนัก!”

“เจ้าทำอันใด?” หลินจือเยว่ถามอย่างรำคาญ

ซ่งรั่วเจินยกมุมปากน้อยๆ “สองปีก่อนท่านเป็นฝ่ายสู่ขอข้า มิใช่ข้าต้องแต่งกับท่านให้ได้ เดิมทีครอบครัวข้าก็ไม่เห็นด้วย เป็นท่านที่คุกเข่าหน้าจวนสกุลซ่งของข้าถึงสองวัน”

“เห็นแก่ความจริงใจของท่าน ฮูหยินผู้เฒ่าพูดรับปากว่าจะดูแลข้าอย่างดิบดี ท่านพ่อท่านแม่ข้าจึงตอบตกลง เหตุใดบัดนี้ทำคล้ายข้ามาตียวนยาวทำลายความรักผู้อื่นกันเล่า?”

“ในเมื่อพวกเจ้ารักกันหวานซึ้งเพียงนี้ ข้าเองก็ไม่ขอเป็นคนชั่วทำลายงานแต่งแล้ว”

“ข้าทำให้พวกเจ้าสมปรารถนาแล้ว งานแต่งนี้ก็ขอให้จบลงเพียงเท่านี้ พี่หญิงน้องหญิงอะไร ดูแล้วอายุเจ้ามากยิ่งกว่าข้าอีกนะ ไฉนเลยจะให้เจ้าเรียกข้าว่าพี่หญิงได้?”

“เจ้าไม่ต้องร้องไห้พูดพร่ำยอมถอยยอมหลีกทางอีก ข้ายกตำแหน่งฮูหยินจวนนี้ให้เจ้าแล้ว”

ซ่งรั่วเจินยิ้มดูเบาทีหนึ่ง นางไม่คิดมอบสินเดิมให้ชายหลายใจหรอกนะ

ในเมื่อทั้งสองคนมีใจปฏิพัทธ์ต่อกัน เหตุใดต้องทำร้ายเจ้าของร่างเดิมด้วยเล่า?

ฉินซวงซวงเองก็ตกตะลึงเพราะการเปลี่ยนแปลงนี้ มิใช่ว่าซ่งรั่วเจินต้องฝืนตอบตกลง ชนิดที่ว่าให้นางเป็นอนุก็ยอมหรอกหรือ?

นางถึงขั้นถอนหมั้น?

นางจะกล้าถอนหมั้นได้อย่างไร!

“พี่หญิง ปีนี้ท่านก็ยี่สิบแล้ว ผ่านช่วงวัยแต่งงานมาแล้ว หากถอนหมั้น น่าจะออกเรือนไม่ได้แล้วกระมัง?”

“เรื่องของข้ายังไม่ต้องให้เจ้าใส่ใจ ยิ่งไปกว่านั้นเจ้าอายุมากกว่าข้า เจ้ายังสามารถแต่งออกเรือนได้ ข้ามีอันใดให้กังวลกัน?”

ซ่งรั่วเจินเพ่งพิศฉินซวงซวงขึ้นลงแวบหนึ่ง ภายในสายตาหญิงผู้นี้ล้วนแต่คืออุบาย เพียงมองผ่านใบหน้าแวบเดียวก็เห็นแค่ผลประโยชน์ เจ้าเล่ห์เพทุบาย ไร้น้ำใจไร้คุณธรรม เหมาะสมกับหลินจือเยว่ยิ่งนัก

ทั้งสองคนอยู่ร่วมกัน โชตชะตาของจวนโหวที่ดีขึ้นมาอย่างยากลำบากตลอดสองปีนี้จะต้องถูกทำลายอย่างรวดเร็วเป็นแน่

แน่นอน มีนางอยู่ อย่าหวังว่าโชคชะตาของจวนโหวจะดีเลย!

“ซ่งรั่วเจิน เจ้าต้องคิดให้ดี หากวันนี้เจ้าถอนหมั้นแล้ว ก็อย่าได้คิดว่าจะมีโอกาสเข้าจวนโหวอีก!”

สีหน้าหลินจือเยว่แข็งทื่อดุจเหล็ก เขาไม่เชื่อว่าซ่งรั่วเจินจะมีความกล้านี้ ถอนหมั้นในวันแต่งงาน เล่าลือออกไปชื่อเสียงนางก็จบสิ้นแล้ว!

“ใครเสียดายกัน?”

“ดี คำนี้เป็นเจ้าพูดเอง เจ้าอย่าเสียใจภายหลัง!”

“พวกเราก็ถอนหมั้นกันแล้ว อย่าได้ข้องเกี่ยวกันอีก!”

“ช้าก่อน” ซ่งรั่วเจินเปิดปากแล้ว

ภายในสายตาหลินจือเยว่สะท้อนความลำพองใจวูบหนึ่ง ก็รู้ว่าซ่งรั่วเจินมิอาจหักใจจากเขา!

“บัดนี้เจ้านึกเสียใจภายหลังแล้ว...”

ยังไม่ทันพูดจบก็ถูกซ่งรั่วเจินเอ่ยขัดขึ้น “งานแต่งก็ยกเลิกแล้ว แต่จวนโหวกินของข้าใช้ของข้า เครื่องยศสตรีที่ท่านสู่ขอแม่นางฉิน เกี้ยวเจ้าสาว และอีกหลายอย่างล้วนใช้เงินของข้ากระมัง?”

“จวนโหวเตรียมงานมงคล ตกแต่งจัดงานเลี้ยง ล้วนเป็นจวนสกุลซ่งออกค่าใช้จ่ายทั้งสิ้น ก่อนนี้ท่านกับข้าแต่งงานกัน ข้าย่อมไม่ถือสา บัดนี้ยกเลิกงานแต่งแล้ว ยังคิดใช้เงินของข้าแต่งหญิงอื่นเข้าจวน เกรงว่าจะไม่เหมาะสมกระมัง?”

ถ้อยคำนี้พูดออกไป สายตาทุกคนในงานที่ทอดมองทางหลินจือเยว่ล้วนเปลี่ยนไปแล้ว

“แม้หลินโหวทำความดีความชอบ แต่ยามฝ่าบาทพระราชทานรางวัลเขากลับปฏิเสธรับเงินทองทั้งหมดเพื่อแสดงความภักดี ข้ายังคิดว่าเขาซื่อสัตย์จงรักภักดีเสียอีก ที่แท้ก็ใช้เงินของสกุลซ่งมาโดยตลอดกระนั้นหรือ?”

ตลอดสองปีมานี้จวนหลินโหวอาศัยเงินสกุลซ่งมาโดยตลอด เดิมทีคิดว่าหลินจือเยว่ได้รับยศถาบรรดาศักดิ์พรั่งพร้อมสมบัติพัสถานกลับมาจะคืนเงินเป็นร้อยเท่า ไม่คาดคิดเลยว่าจะใช้เงินของสกุลซ่ง ทั้งยังพูดจาองอาจผ่าเผยเช่นนี้?

สีหน้าหลินจือเยว่แข็งทื่อ เขาไหนเลยจะคาดคิดว่าคนสุภาพนุ่มนวลอย่างซ่งรั่วเจินจะฉีกหน้าเขาต่อหน้าทุกคนเช่นนี้ คิดคำนวณหนี้เก่าต่อหน้าธารกำนัล นี่เห็นได้ชัดว่าไม่ไว้หน้าเขาเลยแม้แต่น้อย!

เหตุใดจึงอำมหิตถึงเพียงนี้?

“ก่อนนี้เป็นเจ้าต้องการช่วยข้า ข้าปฏิเสธหลายครั้งก็ไม่เป็นผล บัดนี้เจ้าถึงขั้นคิดบัญชีกับข้า?”

“เจ้าวางใจเถิด ข้าจะต้องคืนเงินให้เจ้าไม่ขาดไปแม้ตำลึงเดียว!”

“หวังว่าท่านโหวจะพูดจริงทำจริง” ซ่งรั่วเจินปรบมือ กระซิบข้างหูเฉินเซียง “ไปตามพี่สามของข้ามา ให้เขาพาคนมามากหน่อย”

“เจ้าค่ะ คุณหนู”

“ฟังให้ดี บัดนี้จงเข้าไปยกของของข้าในจวนโหวออกมา วันนี้ท่านโหวอยู่จวนพอดี จงคำนวณบัญชีให้ชัดเจน!”

สายตาซ่งรั่วเจินเบือนมองขบวนต้อนรับเจ้าสาวของฉินซวงซวง “เงินค่าจ้างของพวกเจ้าก็เป็นข้าจ่ายกระมัง? ในเมื่อเป็นคนของข้า บัดนี้ก็ไปยกของ ไม่ไปก็อย่าหวังจะได้ค่าจ้างจากข้า”

สีหน้าฉินซวงซวงเปลี่ยนไปแล้ว หากแม้แต่พวกเขาก็ไปทั้งหมดแล้ว เช่นนั้นศักดิ์ศรีตนเองจะยังมีอยู่อีกหรือ?

“จือเยว่ นี่จะทำอย่างไรดี?”

“ซ่งรั่วเจิน เจ้าจะต้องก่อความวุ่นวายที่งานแต่งในวันนี้ให้ได้เลยกระนั้นหรือ?”

ดวงหน้างดงามพริ้มเพราของซ่งรั่วเจินเผยแววฉงน “ท่านโหวพูดผิดไปแล้ว นี่จะเรียกว่าก่อความวุ่นวายได้อย่างไร? ข้าเพียงต้องการรีบคิดบัญชีให้ชัดเจนโดยเร็วก็เท่านั้น”

“เชื่อว่าแม่นางฉินต้องมอบสินเดิมให้ท่านโหวเป็นแน่ ก็ไม่หวังให้ทุกหนแห่งในจวนโหวล้วนมีของของข้าหรอกกระมัง? ทุกคืนพวกท่านนอนบนเตียงที่ข้าซื้อ ห่มผ้าที่ข้าซื้อ เหมาะสมแล้วหรือ?”

ถ้อยคำนี้พูดออกมา ยังไม่ต้องพูดถึงฉินซวงซวง แม้แต่หลินจือเยว่เองก็กระวนกระวายแล้ว

“ใช่แล้ว กำไลมรกตที่แม่นางฉินสวมเป็นสินเดิมที่ท่านแม่ข้ามอบให้ข้า ก็สมควรคืนให้ข้าใช่หรือไม่?”

ฉินซวงซวงชะงักงัน ก่อนจะพูด “กำไลนี้เป็นท่านโหวมอบให้ข้า จะเป็นสินเดิมของเจ้าได้อย่างไร?”

“โอ้? เช่นนั้นมิสู้เจ้าถามท่านโหว ซื้อกำไลนี้มาจากที่ใดราคาเท่าใด มีใบเสร็จหรือไม่? สินเดิมที่ท่านแม่มอบให้ข้า ข้างบนยังแกะสลักชื่อของข้าเอาไว้ด้วย”

หลินจือเยว่หน้าเปลี่ยนสีในทันทีทันใด เขาพบกำไลนี้ในคลังเก็บของ คิดได้ว่าซวงซวงชอบกำไลหยกมากที่สุด มิหนำซ้ำชิ้นนี้ยังคุณภาพยอดเยี่ยม จึงนำไปมอบให้นาง เดิมทีคิดว่าเป็นของซ่งรั่วเจินก็ไม่เป็นไร ถือเป็นของขวัญแรกพบที่นางมอบให้ซวงซวงก็ใช้ได้แล้ว

ไม่คาดคิด...ข้างบนถึงขั้นสลักชื่อของนางไว้แล้ว?
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (2)
goodnovel comment avatar
Pavinee
เรื่องน่าติดตาม
goodnovel comment avatar
Suthida Pornjamroen
สนใจอ่านต่อ
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 3

    “แม่นางฉิน ได้โปรดถอดออก เพียงมองดูก็จะทราบได้” เฉินเซียงเอ่ยเพียงฉินซวงซวงถอดออก เฉินเซียงก็หยิบกำไลหยกไปให้ทุกคนดูหนึ่งรอบ “ทุกท่านล้วนเห็นอย่างชัดเจนแล้ว ด้านบนแกะสลักชื่อเล่นของคุณหนูข้าเจินเอ๋อร์เอาไว้!”“ยังไม่ต้องพูดว่าท่านโหวและคุณหนูข้ายังไม่แต่งงานกัน ต่อให้แต่งงานแล้วจริง คนมีหน้ามีตาที่ใดยักยอกสินเดิมของฮูหยินตนเองด้วยหรือ?”นับแต่โบราณจนถึงตอนนี้ สินเดิมล้วนเป็นสิ่งของติดตัวฝ่ายหญิง แม้แต่บ้านสามีก็ไม่มีสิทธิ์แตะต้อง เว้นเสียแต่ตนเองยินยอม ทว่าหลินจือเยว่หยิบไปโดยตรงไม่บอกกล่าวเช่นนี้ เรียกว่าขโมยก็ไม่เกินจริงครั้นซ่งจืออวี้พี่ชายสามของซ่งรั่วเจินเร่งเดินทางมาถึงก็ได้ยินว่าหลินจือเยว่ยกกำไลหยกที่ท่านแม่มอบให้เจินเอ๋อร์เป็นสินเดิมให้กับฉินซวงซวง กำปั้นเจือความเกรี้ยวกราดกระแทกเข้าไปโดยตรงหนึ่งหมัด!“ไอ้สารเลว!”หลินจือเยว่ถูกกำปั้นกระแทกหน้าอย่างไม่ทันตั้งตัว ดวงหน้าหันไปอีกฝั่งหนึ่ง เลือดไหลออกจากมุมปากซ่งจืออวี้ไม่คิดยั้งมือเลยแม้แต่น้อย วันนี้เป็นวันมงคลยิ่งใหญ่ของน้องหญิง พวกเขาทั้งครอบครัวส่งนางออกจากจวนอย่างดีใจมีความสุข ใครคาดคิดมาถึงจวนหลินโหวจะถูกหมิ่นแคล

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 4

    “เรื่องนี้โทษท่านแม่ไม่ได้ พูดได้เพียงว่าหลินจือเยว่แสดงละครได้อย่างยอดเยี่ยม หน้าหนาไร้ยางอาย!”ซ่งรั่วเจินยิ่งพูดยิ่งรังเกียจ โชคดีช่วงเวลาที่นางทะลุมิติเข้ามาในหนังสือยังมิได้แต่งเข้าจวนสกุลหลิน หากแต่งเข้าไปแล้ว นั่นต่างหากถึงจบสิ้น!หลิ่วหรูเยียนเห็นลูกสาวผู้เพียบพร้อมของตนพูดถ้อยคำหล่านี้ออกมา ยิ่งมั่นใจว่านางกำลังเสียใจ น้ำตาคลอหน่วย “ลูกสาวชะตาอาภัพของข้า...”แต่น้ำตาที่หางตายังไม่ทันตกก็ได้ยินเสียงเอะอะโวยวายจากด้านนอก ของทั้งใหญ่ทั้งเล็กถูกยกเข้ามา หยาดน้ำตาหยุดชะงักในทันใด“เจินเอ๋อร์ นี่ นี่คืออะไรกัน?”“อย่างไรเสียก็ไม่แต่งแล้ว สิ่งของย่อมต้องนำกลับมา ฉินซวงซวงคนนั้นพูดทุกคำว่ารักชอบท่านโหว ข้าอยากเห็นเหลือเกินว่านางจะยอมหักใจชดเชยจวนโหวโล่งโจ้งนั่นหรือไม่!”ซ่งรั่วเจินเคยอ่านต้นฉบับหนังสือมาก่อน ย่อมรู้ว่าฉินซวงซวงก็คือคนมีอุปนิสัยชมชอบความร่ำรวยคนหนึ่ง หาไม่แล้วเพียงนางเอ่ยปาก หลินจือเยว่ก็ต้องถอนหมั้นนางเป็นแน่!แต่นางกลับไม่ทำ ก็เพื่อเงินของจวนสกุลซ่งบัดนี้เงินตกอยู่ในมือนางแล้ว ฉินซวงซวงทางหนึ่งคิดจะหลับนอนกับบุรุษของเจ้าของร่างเดิม ทางหนึ่งใช้จ่ายเงินของเจ้า

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 5

    ซ่งรั่วเจินพูดอย่างจริงจัง อาการป่วยนี้สำหรับนางกลับรักษาไม่ยาก แต่ต้องใส่ใจมากก็เท่านั้นเดิมทีซ่งอี้อันคิดว่าน้องหญิงปลอบโยนตนเอง มิได้เก็บมาใส่ใจ ทว่าเห็นนางพูดอย่างตั้งใจมากเป็นพิเศษ ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเชื่อขึ้นมาหลายส่วน“น้องหญิงคนดี พี่รองเชื่อเจ้า”ซ่งจืออวี้เห็นซ่งอี้อันคล้ายถูกเกลี้ยกล่อมสำเร็จแล้ว เอ่ยถามอย่างอดไม่ได้ “พี่รอง ท่านเชื่อจริงหรือ? น้องหญิงห้าไม่เคยเรียนวิชาแพทย์มาก่อนนะ”“น้องหญิงห้าดีใจก็พอ ตอนนี้ข้าก็กลายเป็นเช่นนี้ไปแล้ว หมอทั้งเมืองหลวงล้วนมาดูแล้ว ยังมีอันใดให้กลัวอีกเล่า?”ซ่งอี้อันยกมุมปากยิ้มขมปร่า นับตั้งแต่วันที่ตาบอดอนาคตอันรุ่งโรจน์ของเขาก็สูญสลายกลายเป็นหมอกผ่านตา ถอนหมั้นก็คือเรื่องที่คาดการณ์ไว้แล้ว น้องหญิงไม่ยอมให้เขายอมแพ้ ก็เพราะหวังดีต่อเขาส่วนเป็นเรื่องจริงหรือไม่...สำคัญด้วยหรือ?ซ่งรั่วเจินมิได้ใส่ใจบทสนทนาของทั้งสองคน สายตานางเบือนไปทางด้านหลัง นับตั้งแต่เหยียบเท้าเข้าจวนสกุลซ่ง นางก็สังเกตุเห็นว่าเรือนด้านหลังถูกพลังชั่วร้ายปกคลุมอยู่เห็นได้ชัดเจนว่าเป็นวันแสงแดดจ้า ทว่าด้านหลังกลับอึมครึม ต้องมีบางสิ่งกำลังสร้างปัญหาอย่างแน

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 6

    “เจ้าหมายถึงสร้อยข้อมือเส้นนี้หรือ?”ซ่งอี้อันถอดสร้อยข้อมือออกแล้วส่งมาให้ ก่อนหน้านี้ตัวสร้อยถูกแขนเสื้อปกคลุมเอาไว้ ซ่งรั่วเจินจึงมองไม่เห็น ครั้นเมื่อเห็นสร้อยข้อมือที่สะท้อนใต้แสงแดด ก็พบว่าของสิ่งนี้มีกระแสไอของความอัปมงคลที่หมุนวนขึ้นมา“เจ้าไม่พูดข้าก็เกือบลืมไปเสียสนิท สร้อยข้อมือเส้นนี้เป็นของที่หลินโหวส่งมาให้ ตอนนี้งานวิวาห์ยกเลิกไปแล้ว สร้อยข้อมือเส้นนี้ก็ไม่ควรเก็บไว้”ผู้เป็นพี่คิดเพียงว่าน้องสาวของเขาแค่ตั้งใจเตือนตนเอง เพราะอย่างไรเสีย ตอนนี้สองตระกูลไม่มีความเกี่ยวข้องกันแล้ว เก็บไว้ก็ไม่เหมาะสมจริง ๆ“ท่านบอกว่าสร้อยข้อมือเส้นนี้เป็นของที่หลินจือเยว่ส่งมาหรือ?”ของสิ่งนี้อาบชโลมด้วยโลหิตมนุษย์ ไออัปมงคลหลอมรวม เป็นของสกปรกขุ่นมัว หลินจือเยว่จงใจหาของแบบนี้มามอบให้ ช่างมีน้ำใจนัก!ซ่งอี้อันพยักหน้า “ครั้งก่อนที่หลินโหวมาเยี่ยมเจ้าที่จวน เขาก็ให้ข้ามา บอกว่ารู้ว่าข้าชื่นชอบ ใช้เงินไปไม่น้อยเพื่อซื้อมาให้โดยเฉพาะ”“หากพี่ชายรองชอบสร้อยข้อมือก็เอาเส้นที่เป็นของข้าไปก่อน ส่วน ‘ของล้ำค่า’ ชิ้นนี้ส่งคืนให้หลินจือเยว่เถิด”ซ่งรั่วเจินหยิบสร้อยข้อมืออีกเส้นส่งไปให้ หล

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 7

    จวนตระกูลซ่งหลิ่วหรูเยียนค่อย ๆ ตื่นขึ้นมา เมื่อเห็นซ่งรั่วเจินอยู่ตรงหน้าก็รีบเอ่ยถามว่า “เจินเอ๋อร์ จวนตระกูลจ้าวขอถอนหมั้นแล้วจริงหรือ?”ซ่งรั่วเจินพยักหน้า มองดูใบหน้าซีดเผือดของผู้เป็นมารดาด้วยแววตาที่ไม่อาจหักหาญใจ “ท่านแม่ ในเมื่อจวนตระกูลจ้าวเลือกที่จะเลิกหมั้นในช่วงเวลานี้ ก็เห็นได้ชัดว่านางมิใช่คู่ที่ดีของพี่ชาย เราไม่จำเป็นต้องสนใจเรื่องการหมั้นนี้”“เดิมทีจ้าวซูหว่านก็ไม่เหมาะสมกับพี่ชายรองอยู่แล้ว ข้าคิดว่าการถอนหมั้นเป็นเรื่องดี มิฉะนั้น การแต่งงานกับหญิงสาวเช่นนี้ เกรงว่าในอนาคตคงไร้ซึ้งความสุขสงบ”“แม่รู้ดีว่าจ้าวซูหว่านไม่เหมาะกับพี่ชายของเจ้า แม่เองก็ไม่เห็นด้วยกับการหมั้นหมายนี้ตั้งแต่แรก เพียงแต่พี่ชายของเจ้าไม่มีหญิงสาวที่หมายปองเสียที ในเมื่อทั้งสองคนรักกัน แม่ก็ไม่อยากจะขัดขวาง”“ตอนนี้พี่ชายของเจ้าตาบอด หมอจากทั่วเมืองมาตรวจดูแล้วล้วนบอกว่ารักษาไม่ได้ แม่ไม่อยากให้พี่ของเจ้าต้องเจ็บปวดซ้ำ ๆ …”“พ่อของเจ้าจนถึงบัดนี้ก็ยังไม่รู้ว่าอยู่ที่ใด ถ้าเขารู้ว่าในเวลาที่ตนไม่อยู่ ข้าไม่สามารถดูแลพวกเจ้าให้ดีได้…”หลิ่วหรูเยียนพูดพลางน้ำตาก็คลอเบ้า หมู่นี้ในจวนมีแต่

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 8

    สองปีก่อนเขาไม่อาจแต่งงานกับนางในดวงใจได้จึงรู้สึกหมดหวัง ตอนรู้ว่าผู้เป็นแม่ได้จัดการหมั้นหมายให้แล้ว เขาก็ตอบรับทั้ง ๆ ที่สติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ไม่แม้แต่จะชายตามองนางเลยสักนิด คิดเพียงว่าคุณหนูตระกูลใหญ่ส่วนมากจะหัวโบราณและขี้ขลาด ไม่เหมือนกับซวงซวงผู้น่ารักและมีเสน่ห์ดึงดูดใจทว่าในขณะนี้เมื่อเขาเห็นซ่งรั่วเจิน ถึงได้รู้ว่านางนั้นงดงามน่ามองเพียงใดซ่งรั่วเจินเห็นหลินจือเยว่จ้องนางตาไม่กะพริบ ใจของนางก็เต็มไปด้วยความไม่พอใจ มีเพียงความคิดเดียวในหัวคืออยากจะควักลูกตาของคนผู้นี้ออกมาเสียมองอะไร! อัปมงคลเสียจริง!“แม่นางซ่ง เรื่องวันนี้เป็นความผิดของข้าเองที่ไม่ได้บอกเจ้าตั้งแต่แรก ข้าขอโทษ” หลินจือเยว่กล่าวซ่งรั่วเจินหัวเราะเบา ๆ “หลินโหว ตอนขบวนเจ้าสาวของข้ากำลังจะเข้าเรือน ก็พึ่งได้รู้ว่ามีสตรีอีกนางจะแต่งเข้าพร้อมกับข้า วันนี้ท่านยังพูดต่อหน้าแขกมากมายอีกว่าในใจท่านมีเพียงแม่นางฉินเท่านั้น”“ในเมื่อพวกท่านรักกัน ข้าก็ยินดีทำให้สมหวัง ไยต้องมาที่นี่อีก?”เมื่อเห็นหญิงสาวพูดจาไม่น่าฟัง หลินจือเยว่ก็ขมวดคิ้วไม่พอใจ เขายอมมาขอโทษด้วยตัวเองก็ถือว่าให้เกียรติตระกูลซ่งมากแล้ว

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 9

    “นางย่อมเป็นคนใจดีและใจกว้าง นางเป็นคุณหนูตระกูลฉิน ฐานะไม่ต่ำกว่าเจ้า แต่เพราะข้ายอมรับเจ้า เจ้ากลับมีจิตใจคับแคบ เทียบกับนางไม่ได้เลยแม้แต่น้อย และไม่มีวาสนาพอรับน้ำใจของนางได้!”หลินจือเยว่คว้าสร้อยข้อมือไปและสวมไว้ที่ข้อมือตนเองซ่งรั่วเจินยกคิ้วขึ้น คดีไขได้แล้ว เป็นฉินซวงซวงจริง ๆ ด้วย!“ฮูหยินซ่ง เรื่องนี้ต้องคิดให้รอบคอบ!”หลินรั่วหลานร้อนใจมาก สองปีนี้นางนำเงินของตระกูลซ่งไปใช้ชีวิตอย่างสบาย ออกไปที่ใดก็มีแต่คนอิจฉา นางใช้ชีวิตกินดีอยู่สบายจนเคยชินแล้ว ไหนเลยจะยอมกลับไปใช้ชีวิตลำบากแบบเดิมได้?หากซ่งรั่วเจินไม่แต่งงานเข้ามา จวนหลินโหวก็จะว่างเปล่า อย่าว่าแต่ชีวิตที่กินดีอยู่สบายเลย เงินที่มีก็ชักหน้าไม่ถึงหลัง แม้แต่เงินที่จะจ่ายให้คนรับใช้ก็ไม่มี“ความสัมพันธ์ของสองตระกูลดีเพียงนี้ จะขาดสะบั้นเพราะเรื่องเล็กน้อยนี้ได้อย่างไร? เยว่เอ๋อร์ยังหนุ่ม เพียงแค่หลงผิดไป รอให้เวลาผันผ่านย่อมรู้ว่ารั่วเจินต่างหากที่เป็นคู่ครองที่ดี”หลิ่วหรูเยียนปัดมือของหลินรั่วหลานออก “ไม่จำเป็น ลูกสาวของข้าไม่จำเป็นต้องอดทนรอให้ใครกลับใจ การหมั้นหมายล้มเลิกแต่เพียงเท่านี้ เราทั้งสองต่างก็เป็นค

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 10

    เฉินเซียงตกตะลึง “คุณหนู นี่อาจจะเป็นเรื่องเข้าใจผิดหรือไม่เจ้าคะ?”“เจ้าดูสิ ชุดที่นางใส่อยู่เป็นผ้าแบบเดียวกับคนใช้ของฉินซวงซวง คนรู้ก็รู้ว่าเจ้าเป็นสาวใช้ของข้า แต่คนไม่รู้คงคิดว่าเจ้าเป็นสาวใช้ของนาง!”ซ่งรั่วเจินมองด้วยสายตาเย็นชา ตอนที่อ่านนิยายนางก็รู้เรื่องนี้แล้ว เหตุผลที่ฉินซวงซวงรู้เรื่องของตัวเอกคนเดิมได้ดี เพราะนางได้วางคนเอาไว้ใกล้ตัวนางเอกมานานแล้วเมื่อคิดดูอย่างละเอียด เพ่ยหลานก็คือสาวใช้ที่ ‘ท่านน้าคนดี’ ของนางเลือกมาให้โดยเฉพาะนอกจากนี้ ตั้งแต่ที่นางทะลุมิติมา ก็ได้ตรวจร่างกายอย่างละเอียด พบว่าสุขภาพแข็งแรงดี ไม่มีปัญหาใด ๆ แต่ตัวเอกหลังจากแต่งงานกับหลินโหวเพียงสองปีก็เสียชีวิตก่อนหน้านี้ที่อ่านนิยายนางไม่ได้คิดเรื่องนี้ เพียงคิดว่าไม่ได้รับความรักจากสามี และทำงานหนักเพื่อจวนหลินโหวจนป่วย แต่ตอนนี้พอคิดถึงวิธีการที่โหดร้ายและเพ่ยหลานที่อยู่ข้างกาย เกรงว่าอาจมีสาเหตุการตายที่น่าสงสัยกว่านั้น มิใช่เพราะร่างกายอ่อนแอ แต่เพราะมีคนไม่อยากให้นางมีชีวิตอยู่ต่างหาก!คนชั่วช้าเช่นนี้ต้องรีบจัดการออกไปโดยเร็ว!“พวกเจ้า นำตัวเพ่ยหลานไปตระกูลหลิ่ว!” ซ่งรั่วเจินยกมือขึ้น

บทล่าสุด

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1026

    พวงแก้มซ่งรั่วเจินแดงเรื่อ รู้สึกเขินอายอยู่บ้าง สังเกตเห็นกลิ่นสุราบนตัวของฝ่ายชายจึงพูดว่า “ท่านดื่มมากหรือ?”“เปล่า” ฉู่จวินถิงหัวเราะเบาๆ “ข้าเดาได้ตั้งแต่แรกแล้วว่าวันนี้จะมีคนมอมเหล้า จึงตั้งใจจัดเตรียมมือดีคอยดื่มเหล้าเอาไว้หลายคน หาไม่แล้วตอนนี้ข้าคงไม่ได้เดินเข้ามา แต่ถูกหามเข้ามาแทน”สีหน้าซ่งรั่วเจินสะท้อนความแปลกใจ “หม่อมฉันยังคิดว่าด้วยอุปนิสัยของท่าน วันนี้น่าจะไม่มีคนกล้ามอมเหล้าท่านเสียอีก”“ลูกหลานขุนนางและตระกูลเหล่านั้นย่อมไม่กล้า แต่ทหารภายในกองทัพอยู่ที่ชายแดนกับข้ามานานหลายปี รู้จักกันดีมากนัก ยังมีทหารที่วันนี้ติดสอยห้อยตามท่านพ่อตามาด้วย”“โชคดีข้ากลับมาเร็ว ตอนนี้พวกเขาน่าจะหาข้าไม่พบ”พูดถึงพวกขี้เมาข้างนอกกลุ่มนั้น ฉู่จวินถิงส่ายหน้า สีหน้าเจือความเอือมระอาหลายส่วนซ่งรั่วเจินกลั้นยิ้มไม่ไหว “หม่อมฉันเห็นด้านนี้ของท่านน้อยมาก ดูท่าแล้วท่านมีความสัมพันธ์อันดีกับทหารภายในสนามรบ”ภายในความทรงจำฉู่จวินถิงในสายตาผู้อื่นเป็นคนสูงส่งมิอาจแตะต้อง เย็นชาไร้ความรู้สึก เข้าถึงได้ยากยิ่ง แต่บัดนี้ยามเขาเอ่ยถึงทหารในกองทัพ ความรู้สึกนั้นกลับต่างออกไปมองผ่านภาพนี้

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1025

    ตอนนี้พวกซ่งเยี่ยนโจวกำลังต้อนรับแขกเข้างาน อวิ๋นอ๋องตะโกนเรียกสหายที่ดีและพูดว่า “เสด็จพี่สั่งไว้ วันนี้ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องดูแลต้อนรับพวกพี่ภรรยาทั้งสี่ท่านดีๆ!”“อวิ๋นอ๋อง เรื่องนี้วางใจยกให้พวกเราเถอะ จะทำให้พวกเขาไม่เมาไม่กลับเลยทีเดียว!”พวกซ่งเยี่ยนโจวมองทหารคอแข็งแต่ละคนตรงหน้า รีบโบกมือ “ไม่ต้องๆ ดื่มให้หมดก็พอ”“วันนี้จะต้องให้พวกเจ้าดื่มจนหมดให้ได้!”เพียงซ่งจิ่งเซินได้เห็นก็รู้ว่าวันนี้คนเหล่านี้จะต้องจับพวกเขากรอกเหล้าแน่ หันมองทางซ่งจืออวี้อย่างอดไม่ได้ “พี่สาม คราวนี้ต้องพึ่งท่านแล้ว!”“เจ้าสี่ เจ้าเองก็ดื่มเก่งไม่ใช่หรือ?” ซ่งจืออวี้หันมองเขาแวบหนึ่ง เขารู้ดีอย่างมากว่าซ่งจิ่งเซินคอแข็ง อย่ามองเพียงท่าทางเรียบเฉยในเวลาปกติของเขาเชียว แต่ทำการค้าใดไม่ดื่มเหล้าบ้างเล่า?ท่ามกลางพวกเขาสี่คน เขามองดูแล้วดื่มเก่งที่สุด แต่ซ่งจิ่งเซินต่างหากดื่มเก่งที่สุดซ่งจิ่งเซินยิ้มเจ้าเล่ห์ “มองท่าทางนั้นของพวกเขาคล้ายต้องการล้มท่านให้ได้”ซ่งรั่วเจินและฉู่จวินถิงคารวะฟ้าดินแล้วก็ถูกส่งตัวเข้าห้อง มองการประดับตกแต่งอย่างเป็นมงคลภายในห้อง แตกต่างจากห้องเย็นเยือกของฉู่จวินถิงครั้ง

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1024

    หากก่อนหน้านี้ไม่เกิดเรื่องกับอี้อัน บัดนี้ก็คงแต่งงานไปแล้ว” กู้หรูเยียนนึกขึ้นได้จึงพูดว่า “โชคดีที่ตอนนั้นไม่ได้แต่งเข้าบ้าน หาไม่แล้วตระกูลจะต้องประสบเคราะห์ร้ายจริงๆ!”ซ่งหลินเองก็ได้ยินเรื่องนี้มาก่อน พยักหน้าลง “แม่นางคนนั้นรับเข้ามาไม่ได้จริงๆ งานแต่งนี้ของอี้อันเป็นเขากำหนดด้วยตนเอง มองออกว่าสายตาเขาใช้ไม่ได้ ภายภาคหน้าจะแต่งงาน เจ้ายังต้องช่วยดูสักหน่อย”ซ่งอี้อันที่ถูกเรื่องบางอย่างทำให้เสียเวลาจึงยังไม่ได้จากไป “...”เขาหันหน้ารีบเดินไป หาไม่แล้วโทสะจะตกลงมาที่ตน!ซ่งหลินเหล่มองคนหันหน้าเดินจากไปคล้ายตัดสินใจบางอย่างแล้วอย่างซ่งอี้อัน พูดว่า “ช่วงนี้คนสกุลหลิ่วมาหาเจ้าหรือไม่?”“พวกเขาเคยมา แต่ก่อนหน้านี้ข้าสั่งบ่าวไว้แล้ว ห้ามไม่ให้พวกเขาเข้ามาเจ้าค่ะ”กู้หรูเยียนนึกได้ว่าตอนนั้นสกุลหลิ่วทำกับนางเยี่ยงไร รู้สึกขยะแขยงอย่างมาก หลายปีถึงเพียงนี้ นางเสียใจมาโดยตลอดที่ตนเองไม่ได้รับความโปรดปรานจากบิดามารดา ไม่ว่าทำเยี่ยงไรก็ไม่สามารถทำให้พวกเขาพึงพอใจได้เพราะเหตุนี้ ไม่รู้นางต้องเสียใจมากน้อยเพียงใดจนกระทั่งตอนนี้ลูกๆ ล้วนเติบโตแล้ว นางถึงรู้ความจริง เพราะนางไม่ใช่ลูก

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1023

    ซ่งรั่วเจินสวมชุดแต่งงาน มือสองข้างจับพัดกลม เดินมาที่ห้องโถงโดยมีแม่นมและสาวใช้คอยประคองนางมองแวบหนึ่งก็มองเห็นฉู่จวินถิงในชุดแต่งงานสีแดง เห็นเขาสวมใส่เสื้อผ้าสีสดเช่นนี้น้อยมาก เทียบกับความสุขุมลุ่มลึกเหมือนที่ผ่านมา กลับมีรัศมีเปล่งประกายอยู่รางๆ สายหนึ่งใบหน้าเขาหล่อเหลา ยามแย้มยิ้มยิ่งมีชีวิตชีวา ความเย็นชาลดลงหลายส่วน คล้ายดวงอาทิตย์เปล่งประกายทำให้คนไม่อาจละสายตาได้“พวกเจ้าดูท่านอ๋องมีความสุขเถอะ ข้าไม่เคยเห็นท่าทางมีความสุขของฉู่อ๋องเช่นนี้มาก่อน” เมิ่งชิ่นลอบหัวเราะอย่างอดไม่ได้“ฮ่าๆ เจ้าบ่าวจะไม่มีความสุขได้เยี่ยงไร? ในเทศกาลโคมไฟวันนั้น ท่านอ๋องมีความสุขเป็นพิเศษ วันนี้ได้อุ้มหญิงงามกลับแล้ว!” อวิ๋นเนี่ยนชูพูดด้วยใบหน้าประดับยิ้ม “ข้าได้ยินมาว่าเมื่อครู่ท่านอ๋องมอบเงินมงคลให้ไม่น้อย พวกบ่าวดีใจกันแทบแย่”กู้ฮวนเอ๋อร์พยักหน้า หยิบเงินมงคลกั้นประตูออกมา “ข้าเองก็แย่งมาให้พวกเจ้าส่วนหนึ่ง รีบรับไปเถอะ ฮ่าๆ”เมิ่งชิ่นและอวิ๋นเนี่ยนชูรีบรับไปอย่างมีความสุข หลังมองเห็นเงินมงคลภายในนั้นแล้ว ตกตะลึงอย่างอดไม่ได้ มิน่าเล่าบ่าวในจวนถึงดีใจกันแทบแย่ เปลี่ยนเป็นผู้อื่น ใครบ้าง

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1022

    ฉู่จวินถิงอารมณ์ดีมาก ผินมองฉู่อวิ๋นกุยแวบหนึ่ง “วันแต่งงานของเจ้าไม่มีผู้ใดสามารถกลบรัศมีของเจ้าได้”“หลายปีมานี้ ข้าเห็นรัศมีของท่านเปล่งประกายถึงเพียงนี้เป็นครั้งแรก น่าเกรงขามเสียยิ่งกว่าตอนนำชัยชนะกลับมาในตอนนั้นเสียอีก!”ฉู่อวิ๋นกุยยิ้มกว้าง ยังมีความรู้สึกย้อนนึกถึงวันวานอีกด้วย เมื่อแรกเขากังวลเสด็จพี่จะไม่แต่งงานไปชั่วชีวิต บัดนี้ไม่เพียงแต่งงาน ยังแต่งได้ดีถึงเพียงนี้!หลายปีมานี้ เวลาส่วนใหญ่ฉู่จวินถิงมักอยู่ในค่ายทหาร ดังนั้นวันนี้ตอนมาต้อนรับ คนในค่ายทหารมากมายเร่งเดินทางมา รู้สึกเพียงว่าเสียงตีฆ้องกลองใสกังวานเสียยิ่งกว่าปกติสี่พี่น้องสกุลซ่งเตรียมตัวดีแล้ว กำลังรออยู่ที่หน้าประตู ชะเง้อมองขบวนต้อนรับเจ้าสาวที่เดินทางมา ญาติพี่น้องชายสกุลกู้เองก็ยืนเรียงแถว ญาติพี่น้องหญิงยืนถัดไปทางด้านหลัง“หากน้องเขยไม่มอบเงินมงคลให้ เช่นนั้นคงเข้าไปไม่ได้ง่ายๆ!” ซ่งเยี่ยนโจวร้องตะโกนใบหน้าประดับยิ้มพวกฉู่จวินถิงย่อมเตรียมไว้ดีแล้ว ฉู่อวิ๋นกุยรีบนำเงินออกมาแจกจ่ายทุกคนและพูดว่า “พวกเจ้ารับเงินมงคลไว้แล้ว เช่นนั้นก็สามารถปล่อยพวกเราเข้าไปได้แล้วกระมัง?”“ไฉนเลยจะง่ายดายถึงเพียงน

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1021

    เมิ่งชิ่นพูดถึงตรงนี้ก็อยากร้องไห้แต่ไร้น้ำตาทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ทุกคนยังไม่มีตัวเลือกที่เหมาะสม เวลาเพียงชั่วพริบตาวันนี้รั่วเจินก็แต่งงาน เนี่ยนชูและอวิ๋นเฉิงเจ๋อก็จะแต่งงานกันแล้ว กู้ฮวนเอ๋อร์และอวิ๋นอ๋องเองก็มีจิตปฏิพัทธ์ต่อกันมีเพียงตนเองยังเล่นสนุก จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีคนที่ชอบแม้คนเดียวได้ยินคำพูดของเมิ่งชิ่น พวกซ่งรั่วเจินกลั้นยิ้มไม่อยู่ คิดๆ ดูแล้วช่วงนี้พวกนางคืบหน้าไปอย่างว่องไวจริงๆ“เมิ่งชิ่น เจ้าอย่าเพิ่งรีบเลย ข้าเห็นวาสนาของเจ้า ไม่แน่ว่าอีกไม่นานก็จะมาแล้ว!”อวิ๋นเนี่ยนชูหัวเราะเบาๆ นับตั้งแต่สารภาพความในใจกับญาติผู้พี่และมารดาไม่ขัดขวางพวกเขาแล้ว ช่วงนี้อารมณ์ของนางดีมากนักหลังคบหากัน ญาติผู้พี่ไม่หลบเลี่ยงนางเหมือนที่ผ่านมาอีก ในที่สุดนางก็ได้สัมผัสยามที่เขาดีต่อนางอย่างเปิดเผย ความหวังในอดีตเหล่านั้น บัดนี้กลายเป็นจริงแล้ว“ข้า? เป็นไปไม่ได้” เมิ่งชิ่นส่ายหน้า “พวกเจ้าแต่ละคนไม่เพียงหน้าตางดงาม อุปนิสัยอ่อนโยน คุณชายที่มาชอบพวกเจ้ามีมากมายนัก แต่พวกเจ้าดูข้า...ข้าเพียงคนเดียวสามารถสู้ได้หลายคน!”กู้ฮวนเอ๋อร์กุมท้องหัวเราะดังลั่น “เมิ่งชิ่น เจ้าอย่าพูดเช่

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1020

    กู้หรูเยียนส่ายหน้า เดิมทีพี่น้องก็ควรประคับประคองกัน ทว่าตอนนี้ความสัมพันธ์เช่นนี้กลับเข้ามาแทรก หากในภายภาคหน้าฐานะเซียวอ๋องเปลี่ยนไป นั่นก็พูดยากแล้ว...“ท่านแม่ นี่ล้วนเป็นเรื่องของบ้านผู้อื่น พวกเราเห็นเป็นความครึกครื้นอย่างหนึ่งก็พอ ไม่จำเป็นต้องใส่ใจเจ้าค่ะ”ซ่งรั่วเจินยิ้มน้อยๆ “บัดนี้เช่ออ๋องไม่อยากแต่งงานกับหลิงเชี่ยนเอ๋อร์ น่ากลัวว่าเป็นไปไม่ได้แล้ว ช่วงนี้มีงานแต่งไม่น้อยจริงๆ”กู้หรูเยียนและฮูหยินผู้เฒ่ากู้สบตากันแวบหนึ่ง ล้วนรู้สึกแปลกใจเหตุใดนางมั่นใจนักว่าเช่ออ๋องจะต้องแต่งงาน ต่อให้จงเฟยยึดมั่นถึงเพียงนี้ แต่บัดนี้เช่ออ๋องก็อายุไม่น้อยแล้ว สามารถตัดสินใจเรื่องเช่นนี้เองได้ความคิดของจงเฟย ใช่ว่าเขาจะรับฟังทั้งหมด“จงเฟยเพียงแต่ต้องการรักษาความรุ่งโรจน์ ไม่มีวันทอดทิ้งสกุลหลิง ส่วนสกุลหลิงช่วยเหลือจงเฟย ย่อมต้องให้เช่ออ๋องแต่งงานกับหลิงเชี่ยนเอ๋อร์”“ทว่า สกุลหลิงมีความแค้นกับพวกเรา จะต้องเตือนท่านพ่อให้ระวังสักหน่อย” ซ่งรั่วเจินพูดวันแต่งงานมาถึงโดยไม่รู้ตัวซ่งรั่วเจินถูกปลุกขึ้นมาตั้งแต่เช้าตรู่ มงกุฎหงส์เสื้อคลุมแดงถูกตระเตรียมเอาไว้เรียบร้อยแล้ว ก่อนหน้านี้

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1019

    “ภรรยาหลวงที่มีศักดิ์เทียมกัน? นางกลับอยากให้เป็นเช่นนั้น แต่เรื่องนี้วุ่นวายน่าอับอายถึงเพียงนี้ อยากเป็นภรรยาหลวงที่มีศักดิ์เทียมกันย่อมเป็นไปไม่ได้”ฮูหยินผู้เฒ่ากู้ส่ายหน้า “ต่อให้นางเป็นน้องสาวแท้ๆ ของพระชายาเซียวอ๋อง แต่เรื่องนี้เล่าลือออกไปกลับน่าอับอายมาก แม้พูดว่าชื่อเสียงของเจียงฉิงหลานเสียหาย แต่ภายในใจของทุกคนกลับรู้ดี ผู้ที่ได้รับความทุกข์ใจที่แท้จริงก็คือพระชายาเซียวอ๋อง”“ได้ยินมาว่าตอนนางจับได้ เสื้อผ้าที่นางสวมเป็นของพระชายาเซียวอ๋อง ดังนั้นเซียวอ๋องเมาสุรากลับไปจึงไม่ระวังจำคนผิดไป”สีหน้ากู้หรูเยียนซับซ้อน “อิงตามคำพูดนี้ เห็นได้ชัดว่ามีเจตนายั่วยวน นางแม่นางในห้องหอยังไม่ออกเรือนคนหนึ่ง ชาติกำเนิดเองก็ไม่เลว ไม่เข้าใจจริงๆ เพราะเหตุใดถึงต้องทำเรื่องพรรค์นี้”เช่นนี้แล้ว ต่อให้เข้าจวนเซียวอ๋อง มีตำแหน่งชายารอง แต่ทุกคนล้วนรู้ดีอยู่ภายในใจ ใช้วิธีการต่ำช้าเช่นนี้เข้าจวนอ๋อง นั่นคือชนักติดหลังไปชั่วชีวิตซ่งรั่วเจินนึกถึงวันที่ได้พบสองพี่น้องสกุลเจียง ใคร่ครวญจึงพูดว่า “เจียงฉิงหลานสวมเสื้อผ้าของพระชายาเซียวอ๋อง นั่นหรือว่านางอยู่ภายในห้องของพระชายาเซียวอ๋องจึงถูกเ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1018

    “นึกถึงตอนแรกนางได้พบรั่วเจินก็รู้สึกชอบมากเป็นพิเศษ บัดนี้จะกลายเป็นพี่สะใภ้น้องสะใภ้กันแล้ว คิดไม่ถึงเลยว่าจะบังเอิญมีวาสนาเช่นนี้!”“ยังไม่ใช่อีกหรือ? ข้าเห็นฮวนเอ๋อร์เป็นแม่นางที่ดีคนหนึ่ง อวิ๋นอ๋องเองก็ดีไปหมดทุกอย่าง หลังทั้งคู่แต่งงานกันแล้วจะต้องใช้ชีวิตอย่างดีแน่เจ้าค่ะ” กู้หรูเยียนพูดยิ้มๆ“ข้าได้ยินมาว่าจงเฟยวางแผนให้เช่ออ๋องแต่งงานกับหลิงเชี่ยนเอ๋อร์ เช่ออ๋องคล้ายไม่ยินดีเท่าใดนัก กำลังโวยวายอยู่เชียว”ฮูหยินผู้เฒ่ากู้เล่าข่าวที่เพิ่งได้ยินกลับมา “พระชายาคนก่อนของเช่ออ๋องกลับไม่ได้เรื่อง บัดนี้จะแต่งงานใหม่ หากต้องไปพัวพันกับตระกูลหลิง น่ากลัวว่าจะยุ่งยาก”แม้ว่าปกติราชครูกู้ไม่เล่าเรื่องในราชสำนักให้นางฟังสักเท่าใด แต่กลับมาครั้งนี้ เรื่องที่ซ่งหลินประสบยามอยู่เมืองผิงหยางมีความเกี่ยวพันกับสกุลหลิงหลายส่วน นางเองก็รู้เรื่องนี้“ข้าได้ยินมาว่าทีแรกเช่ออ๋องมีจิตปฏิพัทธ์ต่อหลิงเชี่ยนเอ๋อร์ ทว่าต่อมาคล้ายทิ้งแผนการไป เพราะเหตุใดตอนนี้จงเฟยถึงยังดึงดันเช่นนี้?”กู้หรูเยียนขมวดคิ้ว บัดนี้ความสัมพันธ์ระหว่างซ่งหลินและสกุลหลิงดุจน้ำกับไฟ ต่อให้ไม่ฉีกหน้ากัน แต่ทั้งสองฝ่ายกลับ

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status