Share

บทที่ 7

Auteur: พิณเคล้าสายฝน
หลินซวงเอ๋อร์รู้สึกกลัวเล็กน้อย

ในขณะนี้ นางกำลังคุกเข่าอยู่บนพื้นเรือนอวิ๋นซวน พื้นเรียบสะอาดราวกับกระจก จนนางสามารถมองเห็นเงาสะท้อนของตนได้อย่างชัดเจน

กางเกงนั้นสั้นเล็กน้อย จึงเผยให้เห็นน่องอันเรียวเล็กของนาง พื้นแข็งมาก จนทำให้หัวเข่านางเจ็บ

นางคุกเข่านานมาก ชายหนุ่มที่อยู่หลังฉากบังลมก็ไม่ยอมให้นางลุกขึ้น ดังนั้นนางจึงคุกเข่าต่อไป

ประตูถูกผลักเปิดออก เสวียนอู่ก็เข้ามาจากด้านนอก และเดินผ่านหลินซวงเอ๋อร์ไป แล้วเหลือบมองนางเบาๆ ด้วยสีหน้าท่าทางที่แปลกมาก

เขาเดินตรงไปด้านหลังฉากบังลม และไม่รู้ว่าพูดอะไรข้างหูเยี่ยเป่ยเฉิง

จากนั้นไม่นาน เสวียนอู่ก็ออกไปอีกครั้ง ในที่สุดชายหนุ่มที่อยู่ด้านหลังฉากบังลมก็ลุกขึ้นยืน

เสียงฝีเท้าเข้ามาใกล้นางมากขึ้นเรื่อยๆ ฝีเท้ามั่นคงและเป็นจังหวะ หลินซวงเอ๋อร์ไม่กล้าเงยหน้าขึ้น จนกระทั่งรองเท้าบูทชายที่ปักด้วยเมฆมงคลคู่หนึ่งปรากฏขึ้นตรงหน้านาง

"ป้าจ้าวได้สอนกฎเกณฑ์ให้เจ้าหรือเปล่า?"

เมื่อได้ยินเสียงของเยี่ยเป่ยเฉิงอีกครั้ง หลินซวงเอ๋อร์ก็สะดุ้งกลัว นางพยักหน้า และตอบว่า "สอนแล้ว"

เยี่ยเป่ยเฉิงกล่าวว่า: "ดูเหมือนว่าท่านป้าจ้าวจะละเลยต่อหน้าที่ นางไม่ได้สอนให้เจ้า ตอนที่พูดกับเจ้านาย ให้เงยหน้าขึ้น!"

เมื่อได้ยินดังนี้ หลินซวงเอ๋อร์ก็เงยหน้าขึ้นอย่างหวาดกลัว

แต่รัศมีออร่าที่อยู่บนตัวเขานั้นทรงพลังมากเกินไป จนคนธรรมดาทั่วไปยากที่จะต้านทานได้ ไม่ต้องพูดถึงหลินซวงเอ๋อร์ในตอนนี้เลย

พอสบตาเขาได้เพียงครั้งเดียว หลินซวงเอ๋อร์ก็ลดสายตาลงอย่างรวดเร็ว ไม่กล้ามองเขาอีกเลย แต่น้ำเสียงกลับมีความเคารพนบนอบเป็นอย่างมาก: "เป็นเพราะข้าน้อยความจำไม่ค่อยดี ไม่เกี่ยวกับท่านป้าจ้าว"

เยี่ยเป่ยเฉิงยืนอยู่ตรงหน้าหลินซวงเอ๋อร์ นัยน์ตาของเขาจ้องมองนางอย่างไม่หลีกเลี่ยง

ร่างผอมบางสั่นเทาเล็กน้อย เท้าเล็กๆที่สวมรองเท้าผ้าป่านเผยให้เห็นข้อเท้าอันขาวเพรียว เสื้อผ้าเก่าๆถูกซักจนกลายเป็นสีเหลืองซีด ซึ่งไม่เข้ากับเรือนที่หรูหราของเขาเอาเสียเลย

เขาขมวดคิ้ว

เงินเดือนที่จวนอ๋องให้คนรับใช้ไม่ได้น้อยเลย แม้ว่าจะเป็นคนรับใช้ระดับล่างสุด จะได้รับเงินเพียงครึ่งตำลึงต่อเดือน สิ้นปีนี้ยังให้เงินเพิ่มอีกสามเดือน

พอเงินเดือนออกสาวรับใช้คนอื่นๆต่างก็รู้จักซื้อเสื้อผ้าเครื่องประดับใหม่ให้ตนเอง แม้แต่ช่วงเวลาที่ขัดสนก็ยังซื้อชาดปัดแก้มสองกล่อง

ในทางกลับกัน นางแต่งกายด้วยผ้าป่านเนื้อหยาบ ตัดใจซื้อเสื้อผ้าที่ดีกว่าให้ตนเองไม่ได้?

แต่งตัวเรียบๆเช่นนี้ ทำอย่างกับว่าจวนอ๋องปฏิบัติต่อนางไม่ดี!

แต่ว่า แม้ว่าเสื้อผ้าเก่า แต่ใช่ว่าจะขาดกระรุ่งกระริ่ง หัวเข็มขัดรัดแน่น ทำให้ดูสะอาดและเป็นระเบียบเรียบร้อย

สายตาเคลื่อนย้าย ไปที่บนคออันเรียวขาวของนาง ภาพเหตุการณ์คืนนั้นผุดขึ้นมาอีกครั้งทำให้เยี่ยเป่ยเฉิงฟุ้งซ่านอยู่ครู่หนึ่ง

จากนั้นไม่นาน เยี่ยเป่ยเฉิงก็ถามว่า: "เจ้าอยู่จวนอ๋องมากี่ปีแล้ว?"

หลินซวงเอ๋อร์ตอบกลับไปว่า:“สามปีขอรับ”

นางจำได้ว่า พี่ชายเข้ามาในจวนอ๋องเมื่อสามปีที่แล้ว หลังจากที่พี่ชายเสียชีวิตเมื่อสองปีก่อน เธอก็เข้าจวนอ๋องแทนพี่ชาย คำนวณดูแล้ว ก็แค่สามปีเท่านั้น!

เยี่ยเป่ยเฉิงเป็นคนขี้ระแวงสงสัย หลินซวงเอ๋อร์ไม่กล้าตอบไปมั่วๆ

แต่คำพูดต่อไป ทำให้หลินซวงเอ๋อร์ถึงกลับทำอะไรไม่ถูก

“ข้าได้ยินมาว่า เจ้ายังมีน้องสาวอีกคนหนึ่ง ชื่อหลินซวงเอ๋อร์?”

หลินซวงเอ๋อร์ตกตะลึง จนมีเหงื่อบางๆไหลออกมาบนหน้าผาก

นางไม่เข้าใจว่าเหตุใดจู่ๆเขาถึงได้ถามเรื่องนี้ แต่นางยังคงแสร้งทำเป็นสงบนิ่งแล้วตอบว่า: "มีน้องสาวอยู่คนหนึ่ง ชื่อหลินซวงเอ๋อร์ แต่เคราะห์ร้ายเสียชีวิตจากเหตุการณ์น้ำท่วมเมื่อสามปีก่อน"

เยี่ยเป่ยเฉิงกล่าวว่า: "ข้าได้ยินมาว่านางกับเจ้าเป็นพี่น้องฝาแฝดกัน?"

ผิวของหลินซวงเอ๋อร์ที่ขาวซีดเป็นทุนเดิมอยู่แล้วก็ซีดลงอีกเล็กน้อย มือทั้งสองข้างของหลินซวงเอ๋อร์กำแขนเสื้อเอาไว้แน่

"ขอรับ ท่านอ๋องกล่าวถูกต้องแล้ว"

หลินซวงเอ๋อร์อยากจะบอกความจริงกับเขามาก

เพราะการโกหก ต้องใช้การโกหกนับร้อยนับพันครั้งเพื่อปกปิดมัน อีกอย่างในช่วงสองปีที่ผ่านมาเพราะว่าต้องปกปิดตัวตน นางจึงทนทุกข์ทรมานไม่น้อย

แต่ทว่า ถ้านางพูดความจริงออกไป ท่านอ๋องจะให้อภัยนางได้จริงหรือ?

หลินซวงเอ๋อร์ไม่กล้าเดิมพัน

นางกลัวตาย และทะนุถนอมชีวิต การมีชีวิตอยู่สำคัญยิ่งกว่าสิ่งอื่นใด

นางหวังแค่เพียงว่าเวลาห้าปีจะผ่านไปอย่างรวดเร็ว จากนั้น นางก็จะสามารถออกจากจวนอ๋องได้อย่างปลอดภัย

นัยน์ตาของเยี่ยเป่ยเฉิงไม่เคยละสายตาไปจากหลินซวงเอ๋อร์เลย

ตอนที่เอ่ยถึงชื่อนี้เมื่อสักครู่ เขาเห็นปฏิกิริยาทุกอย่างของหลินซวงเอ๋อร์

เป็นไปตามคาด เขาคาดเดาถูกแล้ว คนที่อยู่ตรงหน้าไม่ใช่หลินซวง แต่เป็นหลินซวงเอ๋อร์!

ริมฝีปากอันเรียวบางโค้งขึ้น ซุ่มซ่อนตัวอยู่ในจวนอ๋องมานานแล้ว แต่กลับไม่สังเกตเห็นนาง

เยี่ยเป่ยเฉิงเกือบจะแน่ใจว่า นางซุ่มซ่อนตัวอยู่ข้างกายเขาจะต้องมีจุดประสงค์แน่

ทำทุกวิถีทางปีนขึ้นไปบนเตียงเขา ในใต้หล้านี้ถ้าไม่ใช่ฝีมือขององค์ชายสาม เกรงว่าคงจะไม่มีใครอีกแล้ว!

เยี่ยเป่ยเฉิงหรี่ตาลงเล็กน้อย เขาก็ช่างพยายามเสียจริง ถึงได้หาคนที่โดดเด่นงดงามเช่นนี้มาได้

“เจ้ารูู้จักองค์ชายสามไหม?” เสียงเย็นชาดังขึ้นอีกครั้ง นัยน์ตาของเยี่ยเป่ยเฉิงมองนางอย่างเย็นชาและพินิจพิเคราะห์

หลินซวงเอ๋อร์ส่ายหัว นางเป็นแค่คนรับใช้ระดับล่างสุดคนหนึ่ง จะไปรู้จักองค์ชายสามได้อย่างไร

สีหน้าของเยี่ยเป่ยเฉิงค่อยๆเคร่งขรึมลง

เขาให้โอกาสนางแล้ว ถ้าเธอสารภาพ บางทีเขาอาจจะผ่อนปรนไม่ตำหนิเรื่องความผิดในอดีต

แต่คนคนนี้เต็มไปด้วยคำโกหก ไม่มีสักประโยคที่เป็นความจริงเลย

ถ้าเช่นนี้ เขาก็ควรจะมอบของขวัญชิ้นใหญ่ให้องค์ทชายสามด้วยเช่นกัน!

“ไปหาพ่อบ้านฉินแล้วขอเสื้อผ้ามาสักชุด พรุ่งนี้ออกจากจวนกับข้า”

หลินซวงเอ๋อร์เงยหน้าขึ้นด้วยความงุนงง เนื่องจากเขายืนหลังตรงตระหง่าน สีหน้าของเขาจึงซ่อนอยู่ในเงามืด หลินซวงเอ๋อร์จึงไม่สามารถมองเห็นอารมณ์ความรู้สึกของเขาได้ชั่วขณะ นางสัมผัสได้เพียงแต่ความรู้กดดันที่แข็งแกร่งเท่านั้น

เมื่อเห็นหลินซวงเอ๋อร์อ้อยอิ่ง เยี่ยเป่ยเฉิงก็เหลือบมองไปด้านข้าง น้ำเสียงก็เปลี่ยนเป็นเย็นชา: "ตอนนี้ เจ้าไสหัวออกไปได้แล้ว"
Continuez à lire ce livre gratuitement
Scanner le code pour télécharger l'application
Commentaires (1)
goodnovel comment avatar
นิภาภรณ์ คูณสวัสดิ์
continue to develop
VOIR TOUS LES COMMENTAIRES

Latest chapter

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 655

    วันที่เจียงหว่านกำลังจะถูกเนรเทศ ในที่สุดเจียงเช่อก็มาหาถึงหน้าประตูเขาคุกเข่าเบื้องหน้าเยี่ยเป่ยเฉิง เว้าวอนขอเยี่ยเป่ยเฉิงปล่อยเจียงหว่านไปขณะที่เดินทางมา เขารับรู้เรื่องราวทั้งหมดแล้วเจียงหว่านลอบวางยาพระชายาเยี่ย ใช้ประชาชนที่ติดโรคทดลองยา เข่นฆ่าคนบริสุทธิ์ ผลาญชีวิตคนดุจผักดุจปลา นับเป็นอาชญากรรมอันชั่วร้ายที่สุด......แต่ไม่ว่าอย่างไร เจียงหว่านก็เป็นน้องสาวเขา เป็นคุณหนูหนึ่งเดียวของตระกูลเจียง เจียงเช่อมิอาจนั่งนิ่งดูดาย ปล่อยให้นางไปตายได้“ขอร้องท่านอ๋องไว้ชีวิตนางเถิด เป็นเพราะข้าตามใจนางจนเสียคน หากท่านอ๋องจะลงโทษ โปรดลงที่เจียงเช่อเถิดพะยะค่ะ”เมื่อเห็นเจียงเช่อ สายตาสิ้นหวังของเจียงหว่านพลันมีประกายความหวังขึ้น“พี่......ท่านพี่ ช่วยข้าด้วย ข้าไม่อยากไปแดนเถื่อน ข้าอยากกลับบ้าน ท่านพี่ช่วยข้าด้วย......”เจียงเช่อขมวดคิ้วเขม็งจ้องเจียงหว่าน สายตาแฝงเร้นด้วยแววเกยีดชังเข้าไส้เขารู้ว่าเจียงหว่านต้องโทษตาย ยามนี้แค่เนรเทศ ถือว่าเมตตามากแล้ว แต่เขาเองก็รู้ว่า สถานที่อย่างแดนเถื่อนนั้น มิใช่สถานที่ที่สตรีตัวคนเดียวจะไปได้ การเนรเทศนางไปที่นั่น เท่ากับส่งนางไปขุมนร

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 654

    “เลือดของนาง...”เจียงหว่านสีหน้าตกตะลึงตอนนั้น ตอนที่ฮุ่ยอี๋มอบยาถอนพิษใส่ในมือนาง นางเคยเอาทิ้งไว้หลายขวด เดิมทีคิดศึกษาส่วนผสมในนั้น ทว่าด้านในกลับมีส่วนผสมยาเพียงหนึ่งเดียว นั่นคือเลือดมนุษย์...แรกเริ่ม นางคิดว่าเป็นเรื่องเหลวไหล! กระทั่งยามนี้นางถึงได้เชื่อความจริง ส่วนประกอบของยานั้น มีเพียงเลือดมนุษย์จริงๆ! ทั้งยังเป็นเลือดของหลินซวงเอ๋อร์! เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว ในที่สุดนางก็เข้าใจ!มิน่า...ตอนนั้น นางใช้ยาปริมาณมาก แต่กลับไม่อาจทำให้หลินซวงเอ๋อร์ถึงตาย! ไม่คิดว่าเลือดของนางจะขจัดพิษในร่างนางโดยมองไม่เห็น...ฮุ่ยอี๋เอ่ย “เจ้ายังมีหน้าพูดว่าไม่ได้ฆ่าคนเป็นผักเป็นปลาอีก! เจียงหว่าน เจ้าลืมแล้วหรือว่าเจ้าวางยาซวงเอ๋อร์อย่างไร? เสด็จอาให้อภัยเจ้าครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ข้าไม่มีวันเกรงใจเจ้า!”คำพูดนี้สองแง่สองง่าม เห็นชัดว่ากำเย้ยหยันเยี่ยเป่ยเฉิงที่ดึงหมาป่าเจ้าเล่ห์เข้าบ้าน!เยี่ยเป่ยเฉิงตัวแข็งทื่ออยู่ที่เดิม ไร้ซึ่งแรงโต้กลับยามนี้ เขามิอาจชำระคืนได้ ซวงเอ๋อร์ของเขาไม่มีวันกลับมาอีกต่อไป!สิ่งเดียวที่ทำได้ตอนนี้ คือทำให้เจียงหว่านชดใช้อย่างสาสมที่สุด ส่วนตัวเขา ชีวิตที่

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 653

    เยี่ยเป่ยเฉิงมีสีหน้าเคร่งขรึม สายตาที่มองเจียงหว่านเยือกเย็นดุจน้ำแข็ง ไม่มีความอ่อนโยนเลยสักนิดเขาอยากฆ่านางตั้งนานแล้ว ที่ปล่อยนางรอดมาจนถึงตอนนี้ ก็แค่อยากให้นางได้รับความทรมานจนตายบัดนี้เห็นนางตกยากเช่นนี้ เยี่ยเป่ยเฉิงกลับรู้สึกว่าบทลงโทษแค่นี้ยังมิพอเจียงหว่านถูกทรมานจนเหมือนตายดีกว่าอยู่มานานแล้ว นางรู้ เยี่ยเป่ยเฉิงไม่มีทางปล่อยนางไปง่ายๆ หลังจากคิดดูแล้ว หากตายด้วยน้ำมือของเยี่ยเป่ยเฉิงได้ ก็คงจะดีกว่าตอนนี้ ที่ดูดซับยาเข้าสู่ร่างกายทุกวัน ถูกฝันร้ายหลอกหลอนทุกคืนสุดท้ายก็ไม่สามารถหนีจากพิษและเสียชีวิตลงได้!อย่างไรก็ตาย มิสู้ให้เยี่ยเป่ยเฉิงจบชีวิตนางด้วยมือเขาเอง!เมื่อคิดได้เช่นนี้ นางก็ยิ้มเยาะ จงใจกล่าวยั่วยุเขา “เยี่ยเป่ยเฉิง เจ้ามีฝีมือแค่นี้หรือ? แน่จริงก็ฆ่าข้าไปเลยสิ!”“ฆ่าข้าให้มันจบๆ ไปเสีย!”เยี่ยเป่ยเฉิงปรายตามองนาง พลางกล่าวอย่างเย็นชา “ตอนนั้น เจ้าก็ทรมานซวงเอ๋อร์เช่นนี้!”เจียงหว่านกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ใช่แล้วอย่างไร!”“ลูกในท้องนางข้าก็เป็นคนทำร้ายเอง! ร่างกายอ่อนแอแบบนั้นของนางต่อไปจะตั้งครรภ์ไม่ได้อีกแล้ว!”“ที่นางฝันร้ายทุกคืน ก็เป็นข้าที่ทำเอง

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 652

    หลายสิบปีมานี้ นางทำเรื่องชั่วมานับไม่ถ้วน ทุกเรื่อง นางจิตใจสงบ ไม่เคยรู้สึกผิดเลยมีเพียงเจียงหลิง…มีเพียงการตายของเจียงหลิง ทำให้นางยากจะข่มตานอนได้…ตลอดเวลาที่ผ่านมา ในฐานะคุณหนูรอง เจียงหว่านไม่เป็นที่ชื่นชอบของพ่อแม่มาตลอด พี่ชายก็ยิ่งไม่สนใจนาง ทว่าเจียงหลิงกลับได้รับความรักมากมาย…นางอิจฉาเจียงหลิง และแทบอยากทำให้อีกฝ่ายหายไปจากโลกใบนี้แต่เจียงหลิงกลับรักเอ็นดูนางมาตั้งแต่ต้นจนจบ ปกป้องนาง มอบของที่ดีที่สุดในโลกใบนี้ให้แก่นาง…เจียงหลิงเป็นพี่สาวที่ดีต่อนางที่สุดบนโลกใบนี้…ทว่าที่นางต้องการหาใช่แค่พี่สาวอย่างเดียว นางต้องการความรักของทุกคน นางต้องการให้พ่อแม่ พี่ชายรกนางแค่คนเดียว นางอยากครอบครองของที่ดีที่สุดไว้กับตัวเอง ไม่ใช่รอให้คนอื่นมอบให้!ดังนั้น ในคืนวันหิมะตก นางผลักเจียงหลิงตกน้ำ มองนางจมตายทั้งเป็นอยู่ใต้น้ำ หลังจากนั้นนางก็ติดวันเกิดเวลาเกิดของเจียงหลิงบนตุ๊กตาคุณไสย แทงเธอทุกวัน สวดภาวนาทุกคืน นางต้องการให้เจียงหลิงไม่มีโอกาสได้ผุดได้เกิด ไม่หวนกลับมาตลอดกาล!เพราะมีเพียงแค่ทำแบบนี้ นางถึงจะไม่มีโอกาสแก้แค้นตัวเอง!แต่ทำไม…ทำไมตอนนี้นางถึงยังหาตัวเอง

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 651

    ยาซึมเข้าสู่ร่างกายติดกันหลายวันทำให้เจียงหว่านค่อยๆ เป็นบ้าในห้องที่ปิดสนิท เจียงหว่านหดตัวอยู่บนพื้นเหมือนดินโคลนตัวนางเหม็นมาก ชุดกระโปรงสีรากบัวเปลี่ยนเป็นสกปรกและเก่าองครักษ์ทำให้เส้นเอ็นมือของนางขาด ตรงบาดแผลถูกทาขี้ผึ้งปิดแผลชั้นแล้วชั้นเล่าแม้ขี้ผึ้งปิดแผลจะเป็นยาสำหรับปกปิด ทว่ากลับมีผลดีต่อการหยุดเลือดบาดแผลแข็งตัวจนกลายเป็นสะเก็ดไปแล้ว เพียงแต่ไม่ได้รับการรักษาที่ดีกว่านี้ แม้จะดีขึ้นก็ยังเหลือรอยแผลเป็นอัปลักษณ์เอาไว้ธูปในห้องไม่เคยลดลงเลยทั้งวัน ประกอบกับกระกระตุ้นของต้นคลีเวีย ความคิดต่ำช้าที่อยู่ในตัวนางแทบจะถูกกระตุ้นออกมาทั้งหมดสองตานางแดงก่ำ ดูฉุนเฉียวไม่น้อย กรีดร้องโวยวายอยู่ในห้อง ประหนึ่งคนบ้าคนหนึ่งองครักษ์ที่เฝ้าอยู่หน้าห้องไม่สนใจนางสักนิด ได้แต่ทรมานนางไม่ให้นางตายทุกวันความเคียดแค้นฉายออกมาจากในตาเจียงหว่าน เวลานี้ นางได้ปล่อยว่างความหลงใหลต่อเยี่ยเป่ยเฉิงแล้ว ไม่ว่าจะรักมากขนาดไหนก็แปรเปลี่ยนเป็นความชิงชังเข้ากระดูก“เยี่ยเป่ยเฉิง! ปล่อยข้ากลับไป! ปล่อยข้ากลับไปสิ!”“แน่จริงก็ฆ่าข้าเลยสิ!ฆ่าข้าให้มันจบๆ ! ท่านมีสิทธิ์อะไรมาขังข้าไว้เช่นนี

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 650

    “ได้ยินว่าพ่อแม่ที่เลี้ยงดูเจ้าเสียไปนานแล้ว แล้วเจ้ากับพี่ชายอยู่มาได้อย่างไร?”“แล้วเหตุใดเจ้าจึงขายตัวไปเป็นบ่าวไพร่? หลายปีมานี้ เจ้าคงผ่านความลำบากมิใช่น้อย เคยถูกใครรังแกหรือไม่?”หลินซวงเอ๋อร์พลันเกิดความขมขื่นในจิตใจเดิมที หากไม่เอ่ยถึงเรื่องเหล่านี้ นางยังพออดทนได้บ้าง แต่เมื่ออวี๋หว่านหนิงถามขึ้นมา นางก็อดรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจเสียมิได้นางเม้มปากพลางจ้องมองนิ้วมือตนเอง น้ำตาเริ่มเอ่อล้น พร้อมหยดแหมะลงหลังมือทีละหยดนางอยู่สบายหรือไม่?นางเคยถามตนเองอยู่เช่นกันหลายปีมานี้ นางผ่านเรื่องราวมากมาย สูญเสียบิดามารดา สูญเสียพี่ชายไป กลายเป็นเด็กกำพร้าที่ไร้ญาติขาดมิตรโดยแท้แต่หากคิดดีๆ ชีวิตนางก็เคยอยู่สุขสบายมาช่วงหนึ่งนั่นคือตอนอยู่กับเยี่ยเป่ยเฉิง นางมีความสุขจริงๆในตอนนั้น เยี่ยเป่ยเฉิงเป็นกำลังใจให้นาง ซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่ให้ หาของดีมาให้กิน สอนนางเรียนหนังสือ พาไปเดินเล่นท่องทะเลสาบ ให้ความรักต่อนางอย่างชนิดไร้ผู้เทียบเทียม...ในเวลานั้น นางมีความสุขเหลือล้น เป็นความสุขมากที่สุดในชีวิต แม้แต่ฝันก็ยังเป็นฝันหวาน...แต่ต่อมา ทุกอย่างกลับแปรเปลี่ยน ก่อนหน้านี้เคยสุ

Plus de chapitres
Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status