Share

บทที่ 8

Auteur: พิณเคล้าสายฝน
พ่อบ้านฉินเป็นคนดูแลจัดการโกดังของจวนอ๋อง

ค่าใช้จ่ายทั้งหมดในจวนอ๋องไม่ว่าจะมากหรือน้อยจะต้องได้รับการอนุมัติจากพ่อบ้านฉิน

สาวใช้สามารถรับเสื้อผ้าตามฤดูกาลได้ปีละสองชุด หากอยากได้มากกว่านี้จะต้องจ่ายเพิ่มอีกห้าสิบเหรียญทองแดง

เสื้อผ้าที่หลินซวงเอ๋อร์ใส่นั้นเก่ามาก เป็นเสื้อผ้าที่พ่อบ้านฉินมอบให้ตอนที่พี่ชายของนางเข้าจวน หลังจากนั้นอีกสองปีหลินซวงเอ๋อร์ก็ไปรับมาหนึ่งครั้ง พ่อบ้าน ฉินเห็นว่าหลินซวงเอ๋อร์ไร้ญาติขาดมิตร ก็เบียดเบียนรีดไถ ให้นางจ่ายเงินเพิ่มอีกห้าสิบเหรียญทองแดงก่อนจึงจะรับเสื้อผ้าได้

ไม่เพียงเท่านั้น พ่อบ้านฉินมักจะฉวยโอกาสตอนที่ไม่มีคนจับมือของนาง และหยิกเอวของนาง และชอบเรียกนางอย่างสนิทสนมว่าซวงซวง

ต่อหน้าคนอื่น พ่อบ้านฉินจะเป็นคนน่ารัก แต่ลับหลังแล้วเขาเป็นเดรัจฉานในคราบมนุษย์

หลินซวงเอ๋อร์เกลียดพ่อบ้านฉินมาก ทุกครั้งที่นางเห็นเขาจะหลบให้ไกลๆ อีกอย่างนางก็ไม่อยากใช้เงินตนเอง หลังจากนั้นก็ไม่ไปรับเสื้อผ้าอีกเลย

เมื่อนึกขึ้นได้ว่าจะออกจากจวนไปกับเยี่ยเป่ยเฉิงในวันพรุ่งนี้ หลินซวงเอ๋อร์ก็ลำบากใจ

นางจะไม่แต่งตัวโทรมเกินไปไม่ได้ ไม่เช่นนั้นจะทำให้จวนอ๋องเสียหน้า

สุดท้าย หลินซวงเอ๋อร์ก็เอากล่องไม้ออกมาจากใต้กระดานเตียง หยิบเหรียญทองแดงออกมาห้าสิบเหรียญ และตัดสินใจไปที่โกดัง

พอพ่อบ้านฉินเห็นหลินซวงเอ๋อร์นัยน์ตาก็เป็นประกายทันที

ตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นหลินซวงเอ๋อร์ พ่อบ้านฉินก็รู้สึกว่าคนๆนี้หน้าตาดี แม้ว่าจะเป็นผู้ชาย แต่รูปร่างหน้าตาสวยงามไม่แพ้ผู้หญิงเลยแม้แต่น้อย

พ่อบ้านฉินที่อยู่ในวัยสามสิบ ไม่เคยแต่งงาน เวลาผ่านไปนานแล้ว เขาก็ยังไม่สามารถควบคุมความใคร่ของตนเองได้ พอเขาเห็นหลินซวงเอ๋อร์ ก็อดไม่ได้ที่จะพูดจาแทะโลม

“พ่อบ้านฉิน ข้ามาเอาเสื้อผ้าสองชุด” หลินซวงเอ๋อร์กระจายเหรียญทองแดงต่อหน้าพ่อบ้านฉิน และตนเองถอยหลังยืนอยู่ห่างๆ

“ห้าสิบเหรียญทองแดง นับดูสิ”

พ่อบ้านฉินจ้องมองนางด้วยสายตาที่เฉียบคม

เขาพบว่า หลังจากที่ไม่ได้เจอกันมานาน หลินซวงเอ๋อร์ดูหน้าตาดีขึ้น พอนัยน์ตาเลื่อนไปที่หน้าอกแบนๆ พ่อบ้านฉินก็รู้สึกเสียดายอยู่ในใจ

น่าเสียดาย ที่เขาเป็นผู้ชาย

พ่อบ้านฉินนับเหรียญทองแดงที่อยูี่บนโต๊ะ และมองหลินซวงเอ๋อร์อย่างมีนัยความหมาย

หลินซวงเอ๋อร์ถูกเขาจ้องจนขนลุกชูชัน นางแค่อยากรับเสื้อผ้าแล้วจากไป

แต่พ่อบ้านฉินกลับผลักเหรียญทองแดงที่อยู่ตรงหน้าเลื่อนไปข้างหน้า

“ซวงซวง เงินไม่ครบนะ”

หลินซวงเอ๋อร์คิดไม่ถึงว่าพ่อบ้านฉินจะขึ้นลดราคาเองตามใจชอบ จึงกล่าวอย่างร้อนใจทันทีว่า: "จะไม่พอได้อย่างไร? ปีนี้ข้ายังไม่ได้รับเสื้อผ้าเลย ท่านเรียกเก็บเงินเพิ่มอีกห้าสิบเหรียญทองแดงก็ช่างเถิด แต่เหตุใดตอนนี้ราคาถึงได้แพงขึ้น?"

พ่อบ้านฉินยิ้มแล้วพูดว่า: "ซวงซวง บอกตามตรงว่า ตอนนี้ราคาผ้าสูงขึ้น สาวใช้และทาสในจวนก็มากขึ้น ในฐานะพ่อบ้านของจวน ก็จะต้องลดค่าใช้จ่ายให้กับจวน"

“่ท่าน…” หลินซวงเอ๋อร์โกรธมาก แต่นางก็ทำอะไรไม่ได้

พ่อบ้านฉินเป็นคนที่ท่านแม่บ้านของจวนอ๋องเลื่อนตำแหน่งให้ด้วยเอง ว่าไปแล้ว ยังเกี่ยวดองกับญาติพี่น้องของท่านแม่บ้านด้วย หลินซวงเอ๋อร์จึงไม่อาจทำให้เขาขุ่นเคืองใจได้

ตอนนั้นเธอยังเคยรายงานเรื่องนี้ให้ท่านป้าจ้าวฟัง แต่ท่านป้าเจ้าเกลี้ยกล่อมนางให้ยอมความไป และอย่าทำให้เขาขุ่นเคือง

หลินซวงเอ๋อร์ที่ไม่มีที่พึ่งพักพิง ทุกครั้งที่ทุกข์ใจ นางก็ทำได้เพียงแค่กล้ำกลืนฝืนทนเท่านั้น

เมื่อเห็นหลินซวงเอ๋อร์จนใจ พ่อบ้านฉินก็รู้สึกภูมิใจ

ก็แค่บ่าวรับใช้ผู้ต่ำต้อยคนหนึ่งจะบังคับให้ทำอะไรก็ย่อมได้

เมื่อเห็นว่าไม่มีใครอยู่ที่เรือน พ่อบ้านฉินจึงลดเสียงลง และกล่าวว่า "เอาอย่างนี้ไหม เจ้าตามข้าเข้าไปในโกดัง แล้วพวกเรามาทำข้อตกลงกัน?"

หลินซวงเอ๋อร์กล่าวอย่างระมัดระวัง: "ข้อตกลงอะไร?"

พ่อบ้านฉินยิ้มด้วยสีหน้าที่หยาบคาย: "เจ้าเคยได้ยินไหมว่า ในราชวงศ์ที่ผ่านมา มีกษัตริย์หลายองค์รักร่วมเพศ?"

หลินซวงเอ๋อร์ตกใจจนต้องถอยหลังกลับไปหลายก้าว สีหน้าเปลี่ยนไปเป็นซีดเผือด

“ไม่... ไม่ล่ะ ข้ายังมีเรื่องที่ต้องทำ ขอตัวกลับไปก่อน” หลินซวงเอ๋อร์มีลางสังหรณ์ไม่ดี จึงหันหลังกลับแล้วจะวิ่งหนีไป

พ่อบ้านฉินกลืนน้ำลาย จากนั้นก้าวไปข้างหน้าทันทีและคว้าแขนของหลินซวงเอ๋อร์เอาไว้ แล้วลากนางเข้าไปในโกดัง

“ซวงซวง ข้าชอบเจ้ามานานแล้ว ข้าอยากจะลิ้มรสความรู้สึกนั้นด้วย เพวกเรามาลองกันดูไหม?”

หลินซวงเอ๋อร์ดิ้นรนสุดฤทธิ์ แต่ก็สู้แรงของพ่อบ้านฉินไม่ได้

นางร้อนใจมากจนน้ำตาไหล พลางพยายามดิ้นรนพลางตะโกนว่า: "พ่อบ้านฉิน ท่านอย่าทำแบบนี้ ท่านอ๋องเป็นคนให้ข้ามาที่นี่เพื่อมาเอาสื้อผ้า ถ้าท่านกล้าล่วงเกินข้า ท่านอ๋องจะไม่ปล่อยท่านไปแน่!"

พ่อบ้านฉินยิ้มอย่างภาคภูมิใจมากขึ้น: "เจ้าเป็นเพียงคนปัดกวาดลานจวนคนหนึ่ง ท่านอ๋องจะสนใจเจ้าได้อย่างไร หากเจ้ายอมเชื่อฟังข้าเสียแต่ดีๆ จากนี้ไปทุกฤดูกาล ข้าจะมอบเสื้อผ้าที่ดีที่สุดให้แก่เจ้า"

“ไม่ ข้าไม่ต้องการเสื้อผ้าแล้ว ปล่อยข้านะ!” เมื่อเห็นว่ากำลังจะถูกเขาดึงเข้าไปในโกดัง หลินซวงเอ๋อร์ร้อนใจมาก จนกัดแขนพ่อบ้านฉิน

พ่อบ้านฉินรู้สึกเจ็บ จึงปล่อยนางทันที

หลินซวงเอ๋อร์ทำราวกับว่าถูกนิรโทษกรรม หันกลับมาแล้ววิ่งออกไป

พ่อบ้านฉินก่นด่าสาปแช่งตามหลัง และข่มขู่ว่าถ้าจับนางได้จะให้นางชดใช้ด้วยความเจ็บปวดแสนสาหัส

หลินซวงเอ๋อร์ตกใจสุดขีด พอหันหลังกลับ จู่ๆก็ก็ชนเข้ากับกำแพงเนื้อ

กลิ่นไม้จันทน์เย็นที่คุ้นเคยกระทบใบหน้า เมื่อหลินซวงเอ๋อร์เงยหน้าขึ้น ก็เห็นดวงตาที่เย็นชาคู่หนึ่ง จ้องมองนางอย่างใจจดใจจ่อ

ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเหตุใด หลินซวงเอ๋อร์รู้สึกเสียใจเล็กน้อย และไม่สามารถกลั้นเอาไว้ได้ครู่หนึ่ง ทันใดนั้นน้ำตาก็ไหลพลั่งพรูออกมา

“ท่านอ๋อง……”

เยี่ยเป่ยเฉิงลดสายตาลงแล้วมองดูคนที่วิ่งเข้ามาในอ้อมอกของเขา ในเวลานี้กำลังหน้าบูดบึ้ง เหมือนอยากจะร้องไห้ อารมณ์ความรู้สึกแปลกๆก็แพร่กระจายอยู่ในใจของเขา
Continuez à lire ce livre gratuitement
Scanner le code pour télécharger l'application

Latest chapter

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 655

    วันที่เจียงหว่านกำลังจะถูกเนรเทศ ในที่สุดเจียงเช่อก็มาหาถึงหน้าประตูเขาคุกเข่าเบื้องหน้าเยี่ยเป่ยเฉิง เว้าวอนขอเยี่ยเป่ยเฉิงปล่อยเจียงหว่านไปขณะที่เดินทางมา เขารับรู้เรื่องราวทั้งหมดแล้วเจียงหว่านลอบวางยาพระชายาเยี่ย ใช้ประชาชนที่ติดโรคทดลองยา เข่นฆ่าคนบริสุทธิ์ ผลาญชีวิตคนดุจผักดุจปลา นับเป็นอาชญากรรมอันชั่วร้ายที่สุด......แต่ไม่ว่าอย่างไร เจียงหว่านก็เป็นน้องสาวเขา เป็นคุณหนูหนึ่งเดียวของตระกูลเจียง เจียงเช่อมิอาจนั่งนิ่งดูดาย ปล่อยให้นางไปตายได้“ขอร้องท่านอ๋องไว้ชีวิตนางเถิด เป็นเพราะข้าตามใจนางจนเสียคน หากท่านอ๋องจะลงโทษ โปรดลงที่เจียงเช่อเถิดพะยะค่ะ”เมื่อเห็นเจียงเช่อ สายตาสิ้นหวังของเจียงหว่านพลันมีประกายความหวังขึ้น“พี่......ท่านพี่ ช่วยข้าด้วย ข้าไม่อยากไปแดนเถื่อน ข้าอยากกลับบ้าน ท่านพี่ช่วยข้าด้วย......”เจียงเช่อขมวดคิ้วเขม็งจ้องเจียงหว่าน สายตาแฝงเร้นด้วยแววเกยีดชังเข้าไส้เขารู้ว่าเจียงหว่านต้องโทษตาย ยามนี้แค่เนรเทศ ถือว่าเมตตามากแล้ว แต่เขาเองก็รู้ว่า สถานที่อย่างแดนเถื่อนนั้น มิใช่สถานที่ที่สตรีตัวคนเดียวจะไปได้ การเนรเทศนางไปที่นั่น เท่ากับส่งนางไปขุมนร

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 654

    “เลือดของนาง...”เจียงหว่านสีหน้าตกตะลึงตอนนั้น ตอนที่ฮุ่ยอี๋มอบยาถอนพิษใส่ในมือนาง นางเคยเอาทิ้งไว้หลายขวด เดิมทีคิดศึกษาส่วนผสมในนั้น ทว่าด้านในกลับมีส่วนผสมยาเพียงหนึ่งเดียว นั่นคือเลือดมนุษย์...แรกเริ่ม นางคิดว่าเป็นเรื่องเหลวไหล! กระทั่งยามนี้นางถึงได้เชื่อความจริง ส่วนประกอบของยานั้น มีเพียงเลือดมนุษย์จริงๆ! ทั้งยังเป็นเลือดของหลินซวงเอ๋อร์! เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว ในที่สุดนางก็เข้าใจ!มิน่า...ตอนนั้น นางใช้ยาปริมาณมาก แต่กลับไม่อาจทำให้หลินซวงเอ๋อร์ถึงตาย! ไม่คิดว่าเลือดของนางจะขจัดพิษในร่างนางโดยมองไม่เห็น...ฮุ่ยอี๋เอ่ย “เจ้ายังมีหน้าพูดว่าไม่ได้ฆ่าคนเป็นผักเป็นปลาอีก! เจียงหว่าน เจ้าลืมแล้วหรือว่าเจ้าวางยาซวงเอ๋อร์อย่างไร? เสด็จอาให้อภัยเจ้าครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ข้าไม่มีวันเกรงใจเจ้า!”คำพูดนี้สองแง่สองง่าม เห็นชัดว่ากำเย้ยหยันเยี่ยเป่ยเฉิงที่ดึงหมาป่าเจ้าเล่ห์เข้าบ้าน!เยี่ยเป่ยเฉิงตัวแข็งทื่ออยู่ที่เดิม ไร้ซึ่งแรงโต้กลับยามนี้ เขามิอาจชำระคืนได้ ซวงเอ๋อร์ของเขาไม่มีวันกลับมาอีกต่อไป!สิ่งเดียวที่ทำได้ตอนนี้ คือทำให้เจียงหว่านชดใช้อย่างสาสมที่สุด ส่วนตัวเขา ชีวิตที่

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 653

    เยี่ยเป่ยเฉิงมีสีหน้าเคร่งขรึม สายตาที่มองเจียงหว่านเยือกเย็นดุจน้ำแข็ง ไม่มีความอ่อนโยนเลยสักนิดเขาอยากฆ่านางตั้งนานแล้ว ที่ปล่อยนางรอดมาจนถึงตอนนี้ ก็แค่อยากให้นางได้รับความทรมานจนตายบัดนี้เห็นนางตกยากเช่นนี้ เยี่ยเป่ยเฉิงกลับรู้สึกว่าบทลงโทษแค่นี้ยังมิพอเจียงหว่านถูกทรมานจนเหมือนตายดีกว่าอยู่มานานแล้ว นางรู้ เยี่ยเป่ยเฉิงไม่มีทางปล่อยนางไปง่ายๆ หลังจากคิดดูแล้ว หากตายด้วยน้ำมือของเยี่ยเป่ยเฉิงได้ ก็คงจะดีกว่าตอนนี้ ที่ดูดซับยาเข้าสู่ร่างกายทุกวัน ถูกฝันร้ายหลอกหลอนทุกคืนสุดท้ายก็ไม่สามารถหนีจากพิษและเสียชีวิตลงได้!อย่างไรก็ตาย มิสู้ให้เยี่ยเป่ยเฉิงจบชีวิตนางด้วยมือเขาเอง!เมื่อคิดได้เช่นนี้ นางก็ยิ้มเยาะ จงใจกล่าวยั่วยุเขา “เยี่ยเป่ยเฉิง เจ้ามีฝีมือแค่นี้หรือ? แน่จริงก็ฆ่าข้าไปเลยสิ!”“ฆ่าข้าให้มันจบๆ ไปเสีย!”เยี่ยเป่ยเฉิงปรายตามองนาง พลางกล่าวอย่างเย็นชา “ตอนนั้น เจ้าก็ทรมานซวงเอ๋อร์เช่นนี้!”เจียงหว่านกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ใช่แล้วอย่างไร!”“ลูกในท้องนางข้าก็เป็นคนทำร้ายเอง! ร่างกายอ่อนแอแบบนั้นของนางต่อไปจะตั้งครรภ์ไม่ได้อีกแล้ว!”“ที่นางฝันร้ายทุกคืน ก็เป็นข้าที่ทำเอง

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 652

    หลายสิบปีมานี้ นางทำเรื่องชั่วมานับไม่ถ้วน ทุกเรื่อง นางจิตใจสงบ ไม่เคยรู้สึกผิดเลยมีเพียงเจียงหลิง…มีเพียงการตายของเจียงหลิง ทำให้นางยากจะข่มตานอนได้…ตลอดเวลาที่ผ่านมา ในฐานะคุณหนูรอง เจียงหว่านไม่เป็นที่ชื่นชอบของพ่อแม่มาตลอด พี่ชายก็ยิ่งไม่สนใจนาง ทว่าเจียงหลิงกลับได้รับความรักมากมาย…นางอิจฉาเจียงหลิง และแทบอยากทำให้อีกฝ่ายหายไปจากโลกใบนี้แต่เจียงหลิงกลับรักเอ็นดูนางมาตั้งแต่ต้นจนจบ ปกป้องนาง มอบของที่ดีที่สุดในโลกใบนี้ให้แก่นาง…เจียงหลิงเป็นพี่สาวที่ดีต่อนางที่สุดบนโลกใบนี้…ทว่าที่นางต้องการหาใช่แค่พี่สาวอย่างเดียว นางต้องการความรักของทุกคน นางต้องการให้พ่อแม่ พี่ชายรกนางแค่คนเดียว นางอยากครอบครองของที่ดีที่สุดไว้กับตัวเอง ไม่ใช่รอให้คนอื่นมอบให้!ดังนั้น ในคืนวันหิมะตก นางผลักเจียงหลิงตกน้ำ มองนางจมตายทั้งเป็นอยู่ใต้น้ำ หลังจากนั้นนางก็ติดวันเกิดเวลาเกิดของเจียงหลิงบนตุ๊กตาคุณไสย แทงเธอทุกวัน สวดภาวนาทุกคืน นางต้องการให้เจียงหลิงไม่มีโอกาสได้ผุดได้เกิด ไม่หวนกลับมาตลอดกาล!เพราะมีเพียงแค่ทำแบบนี้ นางถึงจะไม่มีโอกาสแก้แค้นตัวเอง!แต่ทำไม…ทำไมตอนนี้นางถึงยังหาตัวเอง

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 651

    ยาซึมเข้าสู่ร่างกายติดกันหลายวันทำให้เจียงหว่านค่อยๆ เป็นบ้าในห้องที่ปิดสนิท เจียงหว่านหดตัวอยู่บนพื้นเหมือนดินโคลนตัวนางเหม็นมาก ชุดกระโปรงสีรากบัวเปลี่ยนเป็นสกปรกและเก่าองครักษ์ทำให้เส้นเอ็นมือของนางขาด ตรงบาดแผลถูกทาขี้ผึ้งปิดแผลชั้นแล้วชั้นเล่าแม้ขี้ผึ้งปิดแผลจะเป็นยาสำหรับปกปิด ทว่ากลับมีผลดีต่อการหยุดเลือดบาดแผลแข็งตัวจนกลายเป็นสะเก็ดไปแล้ว เพียงแต่ไม่ได้รับการรักษาที่ดีกว่านี้ แม้จะดีขึ้นก็ยังเหลือรอยแผลเป็นอัปลักษณ์เอาไว้ธูปในห้องไม่เคยลดลงเลยทั้งวัน ประกอบกับกระกระตุ้นของต้นคลีเวีย ความคิดต่ำช้าที่อยู่ในตัวนางแทบจะถูกกระตุ้นออกมาทั้งหมดสองตานางแดงก่ำ ดูฉุนเฉียวไม่น้อย กรีดร้องโวยวายอยู่ในห้อง ประหนึ่งคนบ้าคนหนึ่งองครักษ์ที่เฝ้าอยู่หน้าห้องไม่สนใจนางสักนิด ได้แต่ทรมานนางไม่ให้นางตายทุกวันความเคียดแค้นฉายออกมาจากในตาเจียงหว่าน เวลานี้ นางได้ปล่อยว่างความหลงใหลต่อเยี่ยเป่ยเฉิงแล้ว ไม่ว่าจะรักมากขนาดไหนก็แปรเปลี่ยนเป็นความชิงชังเข้ากระดูก“เยี่ยเป่ยเฉิง! ปล่อยข้ากลับไป! ปล่อยข้ากลับไปสิ!”“แน่จริงก็ฆ่าข้าเลยสิ!ฆ่าข้าให้มันจบๆ ! ท่านมีสิทธิ์อะไรมาขังข้าไว้เช่นนี

  • ทาสสาวพราวพิลาส   บทที่ 650

    “ได้ยินว่าพ่อแม่ที่เลี้ยงดูเจ้าเสียไปนานแล้ว แล้วเจ้ากับพี่ชายอยู่มาได้อย่างไร?”“แล้วเหตุใดเจ้าจึงขายตัวไปเป็นบ่าวไพร่? หลายปีมานี้ เจ้าคงผ่านความลำบากมิใช่น้อย เคยถูกใครรังแกหรือไม่?”หลินซวงเอ๋อร์พลันเกิดความขมขื่นในจิตใจเดิมที หากไม่เอ่ยถึงเรื่องเหล่านี้ นางยังพออดทนได้บ้าง แต่เมื่ออวี๋หว่านหนิงถามขึ้นมา นางก็อดรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจเสียมิได้นางเม้มปากพลางจ้องมองนิ้วมือตนเอง น้ำตาเริ่มเอ่อล้น พร้อมหยดแหมะลงหลังมือทีละหยดนางอยู่สบายหรือไม่?นางเคยถามตนเองอยู่เช่นกันหลายปีมานี้ นางผ่านเรื่องราวมากมาย สูญเสียบิดามารดา สูญเสียพี่ชายไป กลายเป็นเด็กกำพร้าที่ไร้ญาติขาดมิตรโดยแท้แต่หากคิดดีๆ ชีวิตนางก็เคยอยู่สุขสบายมาช่วงหนึ่งนั่นคือตอนอยู่กับเยี่ยเป่ยเฉิง นางมีความสุขจริงๆในตอนนั้น เยี่ยเป่ยเฉิงเป็นกำลังใจให้นาง ซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่ให้ หาของดีมาให้กิน สอนนางเรียนหนังสือ พาไปเดินเล่นท่องทะเลสาบ ให้ความรักต่อนางอย่างชนิดไร้ผู้เทียบเทียม...ในเวลานั้น นางมีความสุขเหลือล้น เป็นความสุขมากที่สุดในชีวิต แม้แต่ฝันก็ยังเป็นฝันหวาน...แต่ต่อมา ทุกอย่างกลับแปรเปลี่ยน ก่อนหน้านี้เคยสุ

Plus de chapitres
Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status