Share

ตอนที่ 9 มองทำไม

Penulis: Bunmeebooks
last update Terakhir Diperbarui: 2025-06-28 16:04:53

เมื่อเห็นบรรดาทหารนายกองยืนละล้าละลังทำอะไรไม่ถูก ร่างสูงใหญ่ของแม่ทัพก็ก้าวพรวดเดียวก็เอื้อมถึงนาง มือแกร่งคว้าเอาร่างบางของนางขึ้นมาแบกไว้บนบ่าราวกับไม้ท่อนหนึ่ง จากนั้นก็มุ่งหน้าไปยังกระโจมของตน

ทุกคนที่อยู่ ณ ที่นั้นต่างอ้าปากค้าง ตกตะลึงกับสิ่งที่เห็น แม่ทัพผู้ไม่เคยแตะต้องสตรี บัดนี้กับแบกนางงามผู้หนึ่งเข้าไปในกระโจม

“ยืนนิ่งทำไม มองทำไม ไม่มีอะไรให้ดูแล้ว แยกย้าย ๆ ไปช่วยกันขนเสบียง และอาวุธ  เก็บให้เรียบร้อย”

รองแม่ทัพเฉิงอี้ตั้งสติได้ก่อนใคร จึงตะเบ็งเสียงสั่งเหล่าทหาร ก่อนที่จะรีบก้าวเท้าวิ่งตามแม่ทัพเข้ากระโจมไปติด ๆ

“เจ้าแม่ทัพหน้าโหดปล่อยข้าลงเดี๋ยวนี้นะ ข้าจะบอกเสด็จพ่อประหารเจ้า”

องค์หญิงปิงหลินทั้งตะโกนทั้งทุบแผ่นหลังบุรุษที่แบกนางอย่างบ้าคลั่ง ไม่มีผู้ใดกล้าบังอาจทำกับนางเช่นนี้

เมื่อเดินเข้ามาถึงในกระโจม แม่ทัพหยางจงก็ปล่อยร่างนางให้ร่วงลงกับพื้นราวกับสิ่งของไร้ค่า

ตุบ !

“โอ๊ย ! ข้าจะสั่งตัดหัวเจ้า !”

องค์หญิงปิงหลินก้นกระแทกพื้นอย่างแรง เจ็บทั้งตัวเจ็บทั้งใจ

รองแม่ทัพเฉิงอี้ที่ตามเข้ามาติด ๆ ได้แค่ยืนห่าง ๆ อย่างรู้กาลเทศะ เขายังไม่อยากแส่หาเรื่องใส่ตัว คนหนึ่งก็จอมทัพเลือดเย็น อีกคนก็องค์หญิงปีศาจ ร้ายกาจทั้งคู่ !

“เป็นเจ้าต่างหากที่ต้องถูกข้าสั่งตัดหัว โทษฐานดูหมิ่นเหยียดหยามแม่ทัพ และบุกเข้าค่ายทหารโดยพลการ…. อ่อ และอีกหนึ่งข้อหาคือ ทำร้ายแม่ทัพ”

หยางจงเค้นเสียงต่ำอย่างน่าสะพรึงกลัว

“เจ้ากล้ารึ !”

องค์หญิงปิงหลินหยัดตัวลุกขึ้นจ้องตาเขากลับ มือน้อยทั้งสองข้างกำหมัดแน่น น้ำเสียงของนางแฝงด้วยความหวาดหวั่นอยู่เล็กน้อย

“ทำไมจะไม่กล้า ในค่ายแห่งนี้ข้ามีอำนาจสูงสุด ในค่ายย่อมมีกฎของกองทัพ เมื่อทำผิดกฎเจ้าต้องถูกลงโทษ.... ดูหมิ่นเหยียดหยามแม่ทัพต้องโทษโบย 50 ที บุกเข้าค่ายทหารโดยพลการต้องโทษโบย 50 ที และทำร้ายแม่ทัพต้องโทษโบย 100 ที”

ร่างสูงใหญ่สืบเท้าเข้าหานางมากขึ้น ดวงตาดำสนิทหรี่ลงครึ่งหนึ่งอย่างเยียบเย็น รอยยิ้มที่มุมปากของเขายักขึ้นน้อย ๆ คล้ายรอยยิ้มของมัจจุราชที่กระหายกลิ่นคาวโลหิต

“รวมทั้งหมดก็..... โบย 200 ที”

องค์หญิงปิงหลินถึงกับผงะถอยหลังไปอย่างไม่รู้ตัว แต่เขายังสืบเท้าก้าวตามไม่ลดละ เมื่อทนความกดดันไม่ไหวนางจึงแผดเสียงขึ้นมาอีกคราว่า

“นี่ท่านแม่ทัพจะรังแกข้าเกินไปแล้วนะ ท่านยังมีความเป็นบุรุษอยู่หรือไม่ ข้าเป็นสตรีจะทนรับการโบยมากมายได้อย่างไร”

“เหอะ”

หยางจงแค่นเสียงออกมาคำหนึ่งอย่างเย็นชา ตอนที่นางสั่งลงโทษผู้อื่นยังไม่ลดหย่อนผ่อนโทษ แต่พอตัวเองจะถูกทำโทษเสียเองกลับแหกปากร้องขอความเป็นธรรม

“ได้.... หากเจ้าไม่ถูกโบยก็ต้องยอมเป็นทาสรับใช้ข้าหนึ่งปี”

เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงเยียบเย็นแฝงเลศนัย

“หนึ่งปี”

องค์หญิงปิงหลินจ้องหน้ารก ๆ ของเขาตาแทบจะถลน

“เลือกเอาจะเป็นทาสข้า หรือจะยอมถูกโบย 200 ที”

เขาปั้นสีหน้าเคร่งขรึม

องค์หญิงปิงหลินเม้มริมฝีปากแน่น จากนั้นก็คลายออกคล้ายกับตัดสินใจได้แล้วว่า

“ได้ ข้าจะยอมเป็นสาวใช้ท่าน”

ดวงตาดำสนิทของเขาปรากฏรอยยินดีขึ้นมาวูบหนึ่งคล้ายน้ำกระเพื่อมแล้วจางหายไปอย่างรวดเร็วก่อนถามขึ้นว่า

“ดี บอกชื่อเจ้ามา ข้าจะได้เรียกใช้ถูก”

“หลินหลิน”

องค์หญิงปิงหลินเอ่ยนามรองออกไป บัดนี้ความเย่อหยิ่งในตัวของนางลดลงจนเกือบหมด เขาทำให้นางรู้สึกจิตใจห่อเหี่ยวราวกับผักที่ขาดน้ำมาหลายวัน จากองค์หญิงผู้สูงศักดิ์ กลายเป็นทาสรับใช้ในกระโจมชั่วพริบตา

“หลินหลิน งานแรกของเจ้าคือ ทำความสะอาดกระโจมข้า”

เขาสั่งงานต่อโดยไม่ใส่ใจกับท่าทีเหนื่อยล้าเศร้าสลดของนางแม้แต่น้อย

“ว่าไงนะ ข้าเดินทางมาเหนื่อยจะแย่แล้ว จะให้ข้ามาทำความสะอาดกระโจมให้ท่านอย่างนั้นรึ จะไม่ใจร้ายกับสตรีตัวเล็ก ๆ อย่างข้าไปหน่อยรึ”

หลินหลินอุทานเสียงหลง เบิ่งตาโต สวรรค์ ! แม้แต่สวมใส่อาภรณ์นางยังไม่ต้องทำด้วยตนเอง แต่ตอนนี้เขากลับสั่งให้นางไปกวาดกระโจม ถูพื้น !

“จะทำ หรือจะยอมถูกโบย 200 ทีเลือกเอา”

เขายื่นคำขาดเสียงเข้ม แววตาดุดันไม่มีความเมตตาต่อนางแม้แต่น้อย

“ได้ ทำก็ทำสิ”

นางสะบัดเสียงเบ้ปากใส่เขาอย่างขุ่นเคือง ในเมื่อตอนนี้นางอยู่ในฐานะทาสรับใช้ ก็ไม่ต้องระวังกิริยาอีกต่อไป รู้สึกอย่างไรนางก็จะแสดงออกมาอย่างนั้น

“เฉิงอี้ ไปเอาไม้กวาด กับผ้าถูพื้นมาให้นาง”

หยางจงหันไปสั่งรองแม่ทัพที่ยืนรั้งรออยู่ไม่ไกลนัก เฉิงอี้พยักหน้ารับอย่างลำบากใจ แล้วรีบไปนำสิ่งของมาตามที่ผู้เป็นนายสั่ง 

“หากเจ้าทำความสะอาดกระโจมข้าไม่เรียบร้อย เจ้าก็ไม่มีสิทธิ์กินข้าว”

เขาขู่นางเป็นครั้งสุดท้ายก่อนเดินออกจากกระโจมไป หลินหลินได้แต่ส่งสายตาแค้นเคืองตามร่างสูงใหญ่

ทางด้านเกวียนพ่อค้าที่เดินทางลงทิศใต้นั้น เมื่อถึงที่พักก็ได้หยุดเกวียนลง ชิงชิงจึงเดินตามหาองค์หญิงปิงหลินในเกวียนคันแล้วคันเล่า

“หลินหลิน เจ้าอยู่ที่นี่หรือไม่”

“หลินหลิน”

ชิงชิงขอเปิดดูเกวียนสินค้าทุกคัน เมื่อไม่พบผู้ที่นางค้นหาสีหน้าจึงย่ำแย่ลงทุกที

“หลินหลินซ่อนตัวอยู่ที่ใด ออกมาเถอะ อย่าทำให้ข้าตกใจเลย”

นางตะโกนจนเสียงแหบแห้ง

อค้าทนเห็นนางเที่ยวขึ้นลงสำรวจเกวียนทุกคันโดยมิได้หยุดพักไม่ได้ จึงเข้าไปบอกกับนางว่า

“แม่นาง ข้ารับเจ้าขึ้นเกวียนมาคนเดียวเท่านั้น”

“น้องสาวของข้าแอบขึ้นเกวียนมาก่อนแล้ว”

ชิงชิงยืนยัน น้ำใส ๆ เริ่มเอ่อล้นขอบตา หรือว่านางกับองค์หญิงจะพลัดพรากจากกันโดยไม่รู้ตัวเสียแล้ว

“ไม่มีแน่ ๆ เพราะข้าดูแลเกวียนสินค้าทุกลำ ไม่มีสตรีนางใดเลยนอกจากแม่นางเท่านั้น”

พ่อค้าส่ายหน้าอย่างจนปัญญา

“ถ้า.... ถ้าเช่นนั้นน้องสาวข้าหายตัวไปไหน”

น้ำตาของชิงชิงหยดแมะลงอย่างห้ามไม่ได้ คนที่นางรู้จักเพียงคนเดียวได้หายตัวไปแล้ว

“อาจจะขึ้นเกวียนไปกับพ่อค้าขบวนอื่น หรืออาจจะพลัดหลงไปกับเกวียนเสบียงทหาร เพราะวันนี้มีเกวียนไปรับสินค้าที่ประตูท้ายวังมากนัก”

“ในเมื่อน้องข้าไม่ได้ติดตามมาด้วย ข้าก็จะไม่อยู่ทางใต้แล้ว ข้าจะออกตามหาน้องสาวข้า”

ชิงชิงปาดน้ำตาออกจากแก้ม มือหนึ่งกระชับห่อผ้าแน่น เพราะในนี้มีป้ายหยกสัญลักษณ์องค์หญิงแห่งแคว้นฉู่ นางจะทำหายไม่ได้ และต้องเร่งติดตามหาเจ้าของของมันโดยเร็ว

“งั้นเจ้าอยู่รอที่โรงเตี๊ยมนี้เถิด ราว ๆ สี่ห้าวันจะมีขบวนเกวียนพ่อค้ากลับขึ้นไปทางเหนือ”

“ขอบคุณท่านมาก”

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ท่านแม่ทัพ อย่ารังแกข้า   ตอนที่15 น่าตายนัก!

    เช้าตรู่ของวันใหม่แม่ทัพหยางจงรู้สึกถึงน้ำหนักบางอย่างที่กดทับบนตัว เขาจึงลืมตาตื่นขึ้นแล้วพบว่า องค์หญิงปีศาจกำลังหลับใหลเกยตัวอยู่บนอกเขา มือข้างหนึ่งของนางกอดเอวเขาไว้ ทรวงอกนุ่มนิ่มบดเบียดกับหน้าอกแกร่งของเขา สัมผัสจากเรือนกายนั้นทำเอาเขาหายใจแรงขึ้น ร้อนผ่าวขึ้นทั้งตัว อีกทั้งหัวใจยังเต้นโครมครามอย่างบ้าคลั่ง“น่าตายนัก !”เขาสบถออกมาเบา ๆ ราวกับกลัวว่าจะทำให้แมวขี้เซาบนอกตื่นขึ้น ใบหน้าเขาแดงก่ำไปทั้งหน้า นางใส่ยาอะไรให้เขากิน เหตุไฉนเขาจึงมือไม้อ่อนระทวยจนไม่กล้าแม้จะขยับตัว อีกทั้งยังไม่อาจถอนสายตาจากใบหน้าอันงดงามที่กำลังหลับตาพริ้มอย่างสุขสบายมิได้ใบหน้านางนั้นงามตรึงใจยิ่งนัก ทั้งพวงแก้มยังเนียนนุ่มราวกับผิวเด็กทารก ริมฝีปากแดงระเรื่อเผยอขึ้นน้อย ๆ เขาเคยลิ้มลองความหวานของมันมาแล้ว อารมณ์ปรารถนาในใจทำให้เขาค่อย ๆ โน้มลงสัมผัสริมฝีปากนุ่มนิ่มอีกครั้ง“ท่านแม่ทัพ ! ท่านแม่ทัพ !” เสียงร้องเรียกดังลั่นขึ้นที่นอกกระโจมทำให้สติของเขากลับคืนมา หยางจงรีบผลักร่างสวยของนางออกจากตัว แล้วรีบร้อนก้าวลงจากเตียงเพราะกลัวว่าใครจะเข้ามาเห็นว่าเขาและองค์หญิงนอนร่วมเตียงเดียวกันเมื่อร่

  • ท่านแม่ทัพ อย่ารังแกข้า   ตอนที่14 ลงมือ

    พลบค่ำและแล้วม่านสีดำในเวลากลางคืนก็โรยตัวลงมาอีกครั้ง คบเพลิงต่างถูกจุดขึ้นทั่วทั้งค่ายทหารเพื่อให้ความสว่าง ร่างสูงสง่าของแม่ทัพย่ำเท้าหนัก ๆ มุ่งหน้าเข้าสู่กระโจมที่พักของตนนับตั้งแต่เขาสั่งให้องค์หญิงปิงหลินทำความสะอาดกระโจมก็ยังไม่ได้พบกันอีกเลยจนกระทั่งถึงตอนนี้ เพราะตนต้องออกไปลาดตระเวนและฝึกซ้อมทหารในค่าย แต่แล้วเมื่อเขาเดินเข้ามาในกระโจมก็รู้สึกประหลาดเป็นอย่างมาก กระโจมของเขาดูสะอาดเรียบร้อย อีกทั้งยังมีอาหารร้อน ๆ วางไว้บนโต๊ะพร้อมกับสุราหลินหลินที่เพิ่งจะจัดเตรียมอาหารเสร็จก็ส่งยิ้มมาให้เขา พร้อมกับเสียงใส ๆ เอ่ยขึ้นว่า“ท่านแม่ทัพ ท่านคงจะเหนื่อยมาก วันนี้ข้ากับป้าจูจึงช่วยกันทำอาหารอย่างสุดฝีมือเพื่อท่านโดยเฉพาะ”เสียงหวาน ๆ พร้อมกับรอยยิ้มที่ดูใสซื่อนั้นทำให้เขาชะงักฝีเท้ารู้สึกแคลงใจกับท่าทีอ่อนหวานของนาง องค์หญิงปีศาจแห่งวังหลวงเปลี่ยนไปแล้วจริง ๆ รึ หรือว่านางมีแผนการอันชั่วร้ายอันใดซ่อนอยู่เมื่อเห็นแม่ทัพหน้าโหดยังไม่ยอมเข้ามานั่งลงเสียที นางจึงรีบเข้าไปดึงแขนคนตัวโตกว่ามานั่งลงที่โต๊ะอาหารพร้อมกับรินสุราให้เขาอย่างเอาอกเอาใจ“อย่ามัวชักช้าอยู่เลย เดี๋ยวอาหารเหล

  • ท่านแม่ทัพ อย่ารังแกข้า   ตอนที่13 ลองทำดูนะ

    หลินหลินเดินตามป้าจูไปอย่างว่าง่าย บนโต๊ะมีผักหลากหลายชนิดที่นางไม่เคยรู้จัก นางจึงหยิบต้นนั้นต้นนี้ขึ้นมาดม ๆ ดู แล้วก็ต้องย่นจมูกเพราะบางต้นกลิ่นฉุนนัก“นี่ นังหนูหยุดดมเป็นสุนัขได้แล้ว เดี๋ยวจะเอาลงไฟไม่ทัน ดูป้าไว้นะ... จับแบบนี้ แล้วก็หั่นแบบนี้ กะระยะให้เท่ากัน เข้าใจไหม”ป้าจูรวบผักบุ้งไว้เต็มกำมือ จากนั้นก็ใช้มีดหั่นตัดลงไปเป็นท่อน ๆ เท่ากัน อย่างคล่องแคล่วหลินหลินมองดูก้านผักบุ้งที่ถูกหั่นออกเป็นท่อนเท่า ๆ กันตาโต สตรีชราผู้นี้หั่นให้เท่ากันได้อย่างไร โดยไม่ต้องใช้อะไรวัด“ลองทำดูนะ”ป้าจูส่งมีดให้หญิงสาวข้างกาย นางรับมีดมาถือไว้อย่างเงอะงะหลินหลินรวบผักบุ้งมาเต็มกำมือ แต่ดูเหมือนว่าผักบุ้งจะไม่ให้ความร่วมมือกับนางเอาเสียเลย ผักบุ้งแต่ละลำชี้โด่ชี้เด่ไปคนละทิศละทาง นางพยายามรวบใหม่อยู่หลายครั้งก็ไม่สำเร็จ จึงกำ ๆ ไว้ในมือแล้ววางลงบนเขียง จากนั้นก็เพ่งสายตาวัดระยะการหั่นให้ได้ท่อนที่มียาวเท่า ๆ กันฉับ...... ฉับ....... ฉับ......หลินหลินค่อย ๆ กดมีดลงบนก้านผักที่รวบไว้ในมืออย่างตั้งอกตั้งใจป้าจูหันมาเห็นว่าผักยังหั่นไม่เสร็จก็ส่งเสียงเร่งขึ้นว่า“อ้าว ๆ หั่นแบบนั้นเมื่

  • ท่านแม่ทัพ อย่ารังแกข้า   ตอนที่12 รันทด

    “ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร ชุดที่เจ้าสวมเป็นของลูกสาวป้าเอง บัดนี้ นางไม่มีโอกาสได้ใช้แล้ว เก็บไว้ก็ไม่มีประโยชน์”ป้าจูเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ เมื่อนึกถึงลูกสาว“ทำไมเล่า”หลินหลินขยับเข้าไปใกล้สตรีผู้นั้น น้ำเสียงของนางช่างรันทดใจเหลือเกิน“นางถูกพวกทหารแคว้นอ้ายฉีฉุดไปเป็นเชลย ไม่รู้ว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไร”ป้าจูใช้แขนเสื้อซับน้ำตา“หน็อยพวกแคว้นอ้ายฉี ไอ้พวกชั่ว ไอ้สารเลว ต่อหน้าอยากเชื่อมสัมพันธไมตรี ลับหลังบังอาจรุกรานแคว้นข้ารึ ข้าจะสั่งประหารพวกมันแล้วสับเป็นหมื่น ๆ ชิ้น !”หลินหลินโวยวายเดือดดาลเป็นสองเท่า ทั้งโกรธแค้นที่พวกมันทำร้ายประชาชนแคว้นฉู่ ทั้งโมโหที่พวกมันหลอกลวงเรื่องการแต่งงานเชื่อมสัมพันธไมตรี จนทำให้นางต้องมาตกระกำลำบากอยู่นอกวังเช่นนี้ป้าจูอดยิ้มขำกับท่าทีคลุ้มคลั่งของสาวน้อยมิได้ แม้วาจานางจะฟังดูเลอะเลือนมากไปหน่อย แต่ความโกรธแค้นของสตรีเสียสติผู้นี้ที่มีต่อแคว้นอ้ายฉีทำให้นางรู้สึกซาบซึ้งใจมิใช่น้อย“ใครส่งเสียงโวยวายในค่ายของข้า”แม่ทัพหยางจงย่ำเท้าหนัก ๆ เข้ามาในกระโจม เขาลุกขึ้นมาฝึกกำลังพลทหารตั้งแต่เช้าตรู่ จนกระทั่งได้ยินเสียงกรีดร้องของสตรีตัวร้ายผู้นี้

  • ท่านแม่ทัพ อย่ารังแกข้า   ตอนที่11 อ่อนเพลีย

    “ท่านแม่ทัพ เกิดอะไรขึ้น” เฉิงอี้ร้องถามขึ้น เมื่อเห็นนายของตนสวมเพียงเสื้อตัวในสีขาว ส่วนเสื้อตัวนอกนั้นห่อหุ้มร่างขององค์หญิงอย่างมิดชิดราวกับบ๊ะจ่าง เหลือเพียงศีรษะของนางเท่านั้นที่โผล่พ้นออกมา“นางเป็นลมที่บ่อน้ำร้อน”เขาตอบสั้น ๆ พลางสาวเท้าไปยังกระโจมอย่างเร่งรีบ กลัวว่าจะมีผู้พบเห็นมากขึ้น แล้วปัญหายุ่งยากจะตามมา แต่ทันทีที่เขาจะเข้าประตูกระโจน ร่างของรองแม่ทัพก็เข้ามาขวางเอาไว้“เดี๋ยวก่อนท่านแม่ทัพ ข้าว่าท่านพานางไปที่กระโจมรับรองเถิด”“ทำไม”หยางจงขมวดคิ้วดกดำเข้าหากัน เขาอยากจะรีบโยนเผือกร้อนในอ้อมแขนออกจะตัวไว ๆ เพราะยิ่งใกล้ชิดนางมากเท่าไหร่ เขายิ่งรู้สึกว่าจะควบคุมตนเองไม่ได้มากขึ้นทุกที“เอ่อ... คือ.....”เฉิงอี้พูดไม่ออก เขาไม่อยากให้แม่ทัพเห็นสภาพกระโจมของตนในตอนนี้ เพราะเกรงว่าองค์หญิงจะถูกลงโทษไปมากกว่านี้“เฉิงอี้หลบไป !”หยางจงตะคอกออกมาอย่างเกรี้ยวกราด คนที่ยืนขวางหน้าประตูจึงจำใจเบี่ยงกายหลบให้ และเมื่อเขาเข้ามาก็พบว่า กระโจมของตนเละเทะไม่มีส่วนไหนที่เรียกได้ว่าสภาพดีราวกับว่าถูกพวกโจรเถื่อนเข้ามารื้อค้นแม่ทัพใหญ่ยืนนิ่งอึ้งกับสภาพที่เห็น กล้ามเนื้อที่โหนกแก้ม

  • ท่านแม่ทัพ อย่ารังแกข้า   ตอนที่10 อะไรกันนี่

    รองแม่ทัพเฉิงอี้นำไม้กวาด ผ้าขี้ริ้ว และถังน้ำสำหรับทำความสะอาดเข้ามาในกระโจมส่งให้กับองค์หญิงเรียบร้อยแล้วก็รีบหายหัวออกไปทันทีหลินหลินจับไม้กวาดขึ้นมาท่าทางนั้นเหมือนจะจับไม้ไล่ตีคนมากกว่าจับเพื่อกวาดพื้น นางออกแรงขูดไม้กวาดไปกับพื้นกระโจมที่ปูด้วยหนังสัตว์หยาบ ๆ ฝุ่นก็ฟุ้งขึ้นมาในอากาศ นางไม่ทันระวังจึงสูดเอาฝุ่นนั้นเข้าไป จนระคายเคืองจมูกไปหมดฮัดฉิ่ววววว....เมื่อฝุ่นลอยเข้าปากนางก็ไอออกมาแค่ก ๆ ๆ“โอ๊ย อะไรกันนี่”ยิ่งกวาดฝุ่นก็ยิ่งฟุ้งเข้าทั้งจมูก ทั้งตา นางจึงต้องหรี่ตาลงทำให้มองเห็นไม่ชัด ไม้กวาดในมือก็กวัดแกว่งไปมาแล้วไปปัดข้าวของบนโต๊ะร่วงลงพื้นระเนระนาดไปคนละทิศละทางหลินหลินมองข้าวของบนพื้นอย่างอ่อนใจ ยิ่งกวาดก็ยิ่งรก สุดท้ายนางก็ขว้างไม้กวาดลงบนพื้น แล้วเปลี่ยนไปยกถังน้ำขึ้นมาเทราดลงบนโต๊ะหมายจะขัดมันให้สะอาดเอี่ยมซ่า !เพราะถังน้ำหนักเกินไป นางไม่ทันระวังจึงทำให้มันพลิกคว่ำ น้ำไหลไปถูกกับหมึกที่ฝนไว้จึงเกิดเป็นน้ำสีดำไหลนองลงพื้น อีกทั้งเอกสารบนโต๊ะก็เปียกชุ่มไปทั้งกองด้วยความตกใจ นางจึงรีบขว้างถังน้ำออกไปให้พ้นมือตุบ !โครม !เคร้ง !ถังน้ำใบใหญ่ลอยไปชนเข้ากับแท่น

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status