บทที่ 80 จัดการคนร้าย (ตอนปลาย) พรืดดดด ซวินเหิงเยว่หลุดขำ ส่วนคนอื่นๆก็กำลังกลั้นเสียงหัวเราะกันจนไหล่สั่น ท่านหญิงเฉินเล่อชิงช่างมีความคิดสร้างสรรค์เป็นเลิศ หลังสรุปข้ออ้างถึงสาเหตุที่ทำให้ว่านซูเฟยหน้าแหกได้ เซียวหนิงชิงจึงป้อนยาเพื่อทำให้นางฟื้น ฮ่องเต้และหวายกงกงรีบเล่นงิ้วตามบททันที หัวหน้าหมอหลวงฟ่งซึ่งถูกขันทีหน้าใหม่เรียกมา เวลานี้ยืนเกาหัวแกรกๆ ยามได้ยินสาเหตุอาการบาดเจ็บของซูเฟย 'พระสนม เดินสะดุดพรมล้มหน้าฟาดขอบแท่นบรรทม จากนั้นกระเด้งไปฟาดกับเสา แล้วไถลร่วงไปฟาดกับกระโถนเนี่ยนะ?!' เมื่อยามรัตติกาลมาเยือน คืนนี้เป็นอีกหนึ่งคืน ที่ซวินเทียนอวิ๋นลอบพาชายาเอกออกมานอกตำหนักบูรพา รถม้ากลางเก่ากลางใหม่ไร้ซึ่งสัญลักษณ์และจุดเด่น กำลังวิ่งตรงไปยังถนนที่ตั้งของหออ้ายเสิน ระหว่างที่ต้องขับผ่านตรอกเปลี่ยว ชายชุดดำราวสิบนายปรากฏตัวขึ้นขวางทางรถม้าเอาไว้ พวกมันเข้าจู่โจมเต็มกำลังทันที องครักษ์สองคนที่นั่งอยู่หน้ารถม้าและที่นั่งอยู่ด้านหลังอีกสองคน รีบชักดาบคู่ใจขึ้นมาต่อกร ครั้นผู้ที่อยู่ภายในรถม้ารับรู้ว่าตนเกิดเรื่อง อาการหวาดผวาระคนตื่นตระหนกเข้าครอบงำทั้งคู่ทันที "
บทที่ 80 จัดการคนร้าย (ตอนต้น) เซียวหนิงชิงนั่งอยู่บนตั่งในห้องอุ่น โดยมีวรกายสูงสง่าของอ๋องหนุ่มนอนหนุนตัก เขากอบกุมมือบางของนางมาแนบแก้ม รับสั่งถึงที่เรื่องตนต้องแอบเข้าวัง เพื่อเยี่ยมอาการฮ่องเต้และสืบข่าวเรื่องของว่านซูเฟย "ข้ามีความคิดดีๆเจ้าค่ะ เพียงแต่ต้องขอความร่วมมือจากหวายกงกง ล่อนางมาตำหนักของฝ่าบาท จากนั้นก็ให้ข้าและพี่หลี่โหยวจับง้างปากล้วงเอาความจริงออกมา ถ้านางทำจริงจะได้จัดการเสียตรงนั้นเลย" เซียวหนิงชิงเสนอความคิด อันที่จริงนางคนเดียวก็สามารถล้วงความลับได้เหมือนกัน ไม่มีใครต้านทานพลานุภาพของหมอกปีศาจได้ โดนมันโอบล้อมเมื่อใดรับรองว่าคายความลับออกมาหมด "ชิงเอ๋อร์ยอมเข้าวังกับข้าหรือ" ซวินเหิงเยว่หยัดวรกายขึ้นมานั่ง รับสั่งถามคนรักอย่างกระตือรือร้น "ถ้าคนในวังอนุญาตเจ้าค่ะ" นางแค่ถามพอเป็นพิธีไปอย่างนั้นเอง เพราะรู้อยู่แล้วว่าคนรักต้องหาทางหนีบนางพาเข้าวังไปด้วยแน่นอน "หากเป็นเรื่องนี้ย่อมไม่มีปัญหา" สองวันถัดมา พระราชวังหลวง ในช่วงสายของวัน หวายกงกงไปเชิญว่านซูเฟย มาเยี่ยมพระอาการประชวรของฮ่องเต้ซวินเสวียนคงถึงตำหนักด้วยตนเอง โดยอ้างว่าฝ่าบาทมีเรื่องสำคั
บทที่ 79 ปลาฮุบเหยื่อ (ตอนปลาย) หญิงสาวปรือตาฉ่ำน้ำตอบรับเขาอย่างลืมตัว "เจ้าเก่งเหลือเกิน อื้ออ ถูกใจข้ายิ่งนัก แรงอีกหน่อย อ๊าา ข้าเกือบถึงอีกแล้ว" เสียงครวญครางด้วยความสุขสมของหญิงสาว ดังเข้าหูชายหนุ่มอีกคนที่นั่งรออยู่ข้างห้อง มือแกร่งกำเข้ากันแน่นจนข้อนิ้วลั่น ถอนหายใจออกมาหนักหน่วง ก่อนยกจอกสุราขึ้นกระดกจนหมดในรวดเดียว ผู้ติดตามที่มาด้วยยืนก้มหลุบตาต่ำ ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรง ผ่านไปแล้วสามเค่อ การเคลื่อนไหวในห้องข้างๆ ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลง อีกทั้งเสียงเนื้อกระทบกันเคล้าเสียงครวญครางด้วยความเมามันกลับดังขึ้นเรื่อยๆ ช่างเสียดแทงหูของผู้ได้ยินยิ่งนัก ปัง! "มันจะทำกันนานเกินไปแล้วนะ!" เขาตบโต๊ะด้วยความขุ่นเคือง เค้นเสียงเอ่ยลอดไรฟัน ใบหน้าหล่อเหลาดำทะมึนอย่างหงุดหงิด ผู้ติดตามยังคงเงียบงันไร้ซึ่งวาจา ทว่าต่างแอบคิดเหมือนกันไม่มีผิด 'ดูท่าเจ้าหนุ่มนั่นคงมีฝีไม้ลายมือเรื่องอย่างว่าน่าดู นางถึงได้ครางเสียงหลงขนาดนี้…' ราวสองเค่อต่อมาเสียงการเคลื่อนไหวก็เงียบลง ร่างกายเปลือยเปล่าขาวผ่องของหญิงสาว นอนทับอกแกร่งของชายหนุ่มด้วยรอยยิ้มอิ่มเอม นางหอบหายใจจากความเหนื่อยอ่อนทว่าสุข
บทที่ 79 ปลาฮุบเหยื่อ (ตอนต้น) "หัวหน้าหมอหลวงฟ่งปรุงยาถอนพิษได้หรือไม่" สุรเสียงของซวินเหิงเยว่เต็มไปด้วยความกังวลขณะรับสั่งถาม หวายกงกงส่ายหน้า “ท่านหมอฟ่งกำลังตรวจสอบหาที่มาของพิษอยู่พะย่ะค่ะ หากไม่ทราบว่าเป็นพิษชนิดใด ก็มิอาจปรุงยาถอนได้ ระหว่างนี้จึงได้ทำการฝังเข็มเพื่อชะลอการแพร่กระจายของพิษไว้ก่อน“ "กงกงโปรดรออยู่ที่นี่สักครู่" รับสั่งเสร็จก็เดินหายไปยังห้องนอน และกลับออกมาพร้อมกล่องใบเล็กในมือ ก้มลงกระซิบบางอย่างกับหวายกงกง วันรุ่งขึ้นข่าวเรื่องฮ่องเต้ประชวรได้ถูกแจ้งแก่ขุนนางที่มารอประชุมเช้า ราชกิจทั้งหลายถูกโอนไปให้องค์รัชทายาทรับผิดชอบแทนชั่วคราว ตำหนักหวงหยาง องค์ชายห้าซวินเหอเยี่ยนสีหน้าเต็มไปด้วยคำถาม หลังจากกลับออกมาจากวังหลวง ทั้งที่ปกติพระบิดาของเขามีพระวรกายแข็งแรงมาตลอด นานๆครั้งถึงจะเป็นหวัดเพราะต้องลมเย็นสักครา ทว่าจู่ๆกลับทรงประชวรหนักจนถึงขั้นมิอาจเข้าประชุมเช้า ครั้นจะขอเข้าเยี่ยมพระอาการ กลับถูกหวายกงกงห้ามไว้ โดยอ้างว่าที่ฝ่าบาทประชวร เป็นเพราะทรงเสียพระทัยเรื่องการสิ้นพระชนม์ของไทเฮา รวมทั้งเรื่องของฮองเฮาและตระกูลหลิน หัวหน้าหมอหลวงฟ่งกำชับให้
บทที่ 78 ดำเนินแผนการท(ตอนปลาย) ดวงตาของหลินเจาถิงแดงช้ำ เพราะร้องไห้คร่ำครวญมาสองวันสองคืน จนน้ำตาแทบเป็นสายเลือด จากที่เคยดูอ่อนเยาว์มีสง่าราศี บัดนี้ดูทรุดโทรมและแก่ขึ้นสิบปีภายในระยะเวลาสั้นๆ บาดแผลฉกรรจ์บนดวงหน้าสร้างความเจ็บปวดไม่น้อยในฤดูหนาว นางพยายามฝืนทนต่อความง่วงงุนที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ทว่าสุดท้ายแล้วร่างกายก็มิอาจต้านทานต่อความเหนื่อยล้า หลินเจาถิงผล็อยหลับในที่สุด เซียวหนิงชิงเพ่งเนตรปีศาจสำรวจตำหนักเย็นอยู่ครู่หนึ่ง ครั้นพบเป้าหมายที่ตามหา ดวงตาคู่งามทอประกายชั่วร้ายวาวโรจน์ในบัดดล เอี๊ยดดด เสียงบานประตูห้องของหลินฮองเฮาเปิดออก ตามด้วยเสียงแแมวร้องฟังดูวังเวง เมี้ยวววว เมี้ยววววว…คนบนเตียงสะดุ้งตื่นอย่างเสียขวัญ รู้สึกถึงสัมผัสจากมือผอมแห้งเย็นยะเยือก กำลังลูบไล้ลงบนแก้มซ้ายของนาง "หลินเจาถิงงง หลินเจาถิงงงง" เสียงเยียบเย็นยานคางฟังแล้วขนหัวลุก คล้ายดังแว่วมาจากที่ห่างไกล ปังงงงง!! เสียงบานประตูกระแทกปิดลงทั้งไม่มีลมพัด หลินเจาถิงสะดุ้งโหยง ส่งเสียงกรีดร้องดังลั่น ตะโกนขอความช่วยเหลือจากทหารที่เฝ้าทางเข้าตำหนักเย็น "กรี๊ดดดดด ผีหลอกกก ทหารช่วยข้าที ช่วย
บทที่ 78 ดำเนินแผนการ (ตอนต้น) หากคำกล่าวของแม่เล้าเป็นเรื่องจริง บุรุษผู้นี้อาจเป็นตัวช่วยที่เขากำลังมองหา "พานักสังคีตคนนั้นมาให้นายท่านของข้าดูตัวทันที หลังจากที่เขาเล่นดนตรีเสร็จ" ผู้ติดตามโยนถุงเงินให้แม่เล้า อีกฝ่ายรับไปด้วยรอยยิ้มกว้าง คาดเดาจากน้ำหนัก ก็พอรู้ว่าจำนวนเงินในถุงคงไม่ใช่น้อยๆ "แน่นอนเจ้าค่ะนายท่าน" ครึ่งชั่วยามถัดมา แม่เล้าก็เดินมาเคาะประตูห้องรับรองส่วนตัวของลูกค้าเงินหนัก เพื่อขออนุญาตพาเอ้อร์หลิงเข้าไปพบตามที่รับปากไว้ "นายท่าน ข้าน้อยพาคนมาแล้วเจ้าค่ะ" ผู้ติดตามเปิดประตูออก แม่เล้าก้าวเข้าไปก่อน ตามด้วยร่างสูงของเอ้อร์หลิงในชุดสีขาวบริสุทธิ์ สวมหน้ากากสีขาวเข้ากันกับชุดปิดบังใบหน้าครึ่งบน เพียงแค่ได้เห็นรูปร่างและท่วงท่าอันสง่างามราวคุณชายจากตระกูลใหญ่ บุรุษหลังฉากพยักหน้าอย่างพอใจ เอ่ยปากสั่งให้เขาถอดเสื้อคลุมและหน้ากากออก ทว่าคำตอบที่ได้รับ คนฟังถึงกับคิ้วกระตุก "ข้าน้อยต้องขออภัยนายท่านด้วยจริงๆขอรับ เนื่องจากตัวข้าน้อย ขายเพียงความสามารถทางดนตรีและการร่ายรำ หาใช่ขายเรือนกาย ขอนายท่านโปรดอภัยให้ด้วยขอรับ" เอ้อร์หลิงประสานมือค้อมเอวอย่างนอ