Accueil / รักโบราณ / บุปผาแห่งสายลมเหนือ / บทนำ บุปผาแห่งสายลมเหนือ

Share

บุปผาแห่งสายลมเหนือ
บุปผาแห่งสายลมเหนือ
Auteur: หลิน จิ่นชู

บทนำ บุปผาแห่งสายลมเหนือ

last update Dernière mise à jour: 2025-06-21 17:45:45

(เรื่องราว สถานที่ และชื่อตัวละครทั้งหมดในนิยายเรื่องนี้เป็นเหตุการณ์สมมติ ไม่ได้อ้างอิงถึงบุคคลหรือสถานที่จริงแต่อย่างใด)

ปลายรัชสมัยต้าถัง แม้แผ่นดินจะยังคงแผ่แสงแห่งอารยธรรม แต่ความอบอุ่นและอำนาจเริ่มเจือจางลงทุกขณะ เมืองเล่าหยาง ศูนย์กลางการค้าบนเส้นทางสายไหมอันรุ่งเรือง กลับคึกคักสวนกระแสความอ่อนแอของราชสำนัก กลิ่นอายเครื่องเทศหายาก กำยานหอม และเสียงต่อรองราคาของผู้คนหลากชนชาติยังคงดังก้องไปทั่ว

ท่ามกลางความวุ่นวายนั้น รถม้าคันหนึ่งซึ่งประดับตราสกุลเฟิงอย่างเรียบง่ายแต่แฝงไว้ด้วยความโอ่อ่าค่อยๆ เคลื่อนตัวผ่านประตูเมืองเข้ามา เฟิงซือเฟิง หญิงสาววัยสิบหกปีบริบูรณ์ ก้าวลงจากรถม้าด้วยท่วงท่าสงบนิ่งมั่นคง ใบหน้ารูปไข่ของนางหมดจดเกลี้ยงเกลา

ผิวพรรณละเอียดผุดผ่องราวกับหยกเนื้อดี แม้มิได้แต่งแต้มสีสันจัดจ้าน แต่ริมฝีปากอิ่มเต็มตามธรรมชาติก็ยังคงมีสีแดงระเรื่อดุจกลีบบัวแรกแย้ม ดวงตาเรียวดุจหงส์ นัยน์ตาสดใสดั่งหยาดน้ำค้าง ภายใต้แพขนตางอนราวปีกผีเสื้อ กวาดมองรอบกายอย่างพิจารณาและสุขุม ผมดำขลับของนางถูกรวบขึ้นเป็นมวยเรียบง่าย ปักปิ่นไม้เนื้อดีสลักลายดอกเหมยเพียงอันเดียว แสดงถึงความงามอันบริสุทธิ์และไม่โอ้อวด

อาภรณ์ที่นางสวมใส่เป็นชุดกระโปรงยาวผ้าไหมเนื้อดีสีฟ้าอ่อนราวกับสีครามจางของท้องฟ้ายามเช้า แม้จะดูเรียบง่ายแต่ตัดเย็บอย่างประณีตเข้ารูป ขับเน้นเรือนร่างอรชรที่เริ่มผลิบานสะพรั่งตามวัย ชายแขนเสื้อและคอเสื้อปักลวดลายเมฆมงคลด้วยเส้นไหมสีเงินอย่างละเอียดอ่อน แต่กลับไร้เครื่องประดับหรูหราใดๆ ที่จะบ่งบอกถึงฐานะอันสูงศักดิ์ของบุตรีแม่ทัพ มีเพียงต่างหูหยกขาวคู่เล็กๆ ประดับอยู่ที่ติ่งหูเท่านั้น ท่าทีสงบเยือกเย็นและความงามอันบริสุทธิ์ของนาง ผิดกับคุณหนูตระกูลสูงศักดิ์ทั่วไปที่มักจะประโคมเครื่องประดับและแต่งกายด้วยสีสันฉูดฉาด ทำให้ผู้ที่พบเห็นอดที่จะเหลียวมองด้วยความสนใจระคนประหลาดใจมิได้

การเดินทางมาเล่าหยางครั้งนี้มิใช่การมาท่องเที่ยวชมเมือง แต่เป็นบททดสอบสำคัญสำหรับเฟิงซือเฟิง บิดาของนาง แม่ทัพใหญ่เฟิงอวี่ซาน ผู้กุมอำนาจทางการทหารทางตอนเหนือ

แม้จะรักและเอ็นดูนางอยู่บ้าง แต่ฐานะบุตรีที่เกิดจากอนุภรรยาซึ่งมีพื้นเพมาจากตระกูลพ่อค้า ย่อมทำให้นางถูกมองข้ามและดูแคลนจากคนในจวน โดยเฉพาะจากฮูหยินใหญ่และเฟิงซือยวี่ พี่สาวต่างมารดาผู้เพียบพร้อม การถูกส่งมาดูแลกิจการค้าของตระกูลที่นี่จึงเป็นทั้งโอกาสและความท้าทาย หากทำสำเร็จ นางจะพิสูจน์ได้ว่าตนมิใช่เพียง "บุปผาไร้ค่า"

แต่หากล้มเหลว ชีวิตในจวนแม่ทัพคงมืดมนยิ่งกว่าเดิม เธอไม่ได้ร่ำเรียนเพียงการเย็บปักถักร้อยหรืองานบ้านงานเรือนอย่างสตรีชั้นสูงทั่วไป หากแต่มีความรู้เรื่องการค้า เส้นทางการขนส่ง และการเจรจาต่อรอง ซึมซับเข้าสู่สายเลือดผ่านทางมารดาผู้ล่วงลับ ยิ่งไปกว่านั้น ภายใต้ท่าทีสงบเยือกเย็น เธอซุกซ่อนความลับคือตำรายุทธศาสตร์การรบและการฝึกฝนการต่อสู้ขั้นพื้นฐานที่แอบศึกษาและฝึกฝนด้วยตนเองอย่างลับๆ เธอรู้ดีว่าในโลกที่อำนาจคือทุกสิ่ง ความอ่อนแอไม่เคยนำมาซึ่งความอยู่รอด

หลายวันผ่านไป เฟิงซือเฟิงเริ่มทำความคุ้นเคยกับกิจการและผู้คนในหอการค้า ความฉลาดเฉลียวและไหวพริบของนางทำให้เหล่าผู้จัดการอาวุโสที่ตอนแรกมองนางด้วยความกังขาเริ่มให้การยอมรับ

ค่ำคืนหนึ่ง หลังจากการตรวจบัญชีและวางแผนการขนส่งสินค้ารอบใหม่เสร็จสิ้น เฟิงซือเฟิงรู้สึกอึดอัดกับบรรยากาศในห้องทำงาน เธอตัดสินใจเปลี่ยนเสื้อผ้า จากอาภรณ์ผ้าไหมเนื้อนุ่มที่สวมใส่ในเวลากลางวัน มาเป็นชุดกางเกงและเสื้อตัวยาวสีน้ำเงินเข้มทึบทำจากผ้าฝ้ายเนื้อหยาบ ซึ่งเป็นแบบที่บุรุษธรรมดาทั่วไปนิยมสวมใส่ เสื้อตัวนอกนั้นหลวมเล็กน้อย ช่วยอำพรางสัดส่วนของสตรีได้เป็นอย่างดี นางรัดเอวด้วยผ้าคาดสีดำสนิท และไม่ลืมที่จะรวบผมยาวสลวยขึ้นซ่อนไว้ใต้หมวกผ้าปีกกว้างสีเดียวกันที่ดึงลงมาต่ำเพื่ออำพรางใบหน้าอันงดงามให้พ้นจากสายตาผู้คน ก่อนจะแอบออกไปเดินสำรวจตลาดกลางคืนพร้อมกับเสี่ยวชุ่ย ซึ่งถูกกำชับให้แต่งกายคล้ายกัน เสี่ยวชุ่ยอยู่ในชุดเสื้อกางเกงผ้าป่านสีเทาหม่น สวมหมวกสานใบเล็กที่พอจะบดบังใบหน้าได้บ้าง ทำให้ทั้งสองดูคล้ายบัณฑิตหนุ่มกับผู้ติดตาม มากกว่าจะเป็นคุณหนูสูงศักดิ์กับสาวใช้

ตลาดกลางคืนของเล่าหยางนั้นมีชีวิตชีวายิ่งกว่ากลางวัน แสงไฟจากโคมนับร้อยส่องสว่างราวกับกลางวัน เสียงดนตรี การแสดงริมทาง และกลิ่นอาหารหอมกรุ่นยั่วน้ำลายลอยอบอวลไปทั่ว

ท่ามกลางความคึกคักนั้น เฟิงซือเฟิงได้พบกับบุรุษผู้หนึ่ง ซึ่งต่อมาจะพลิกผันโชคชะตาของเธอไปตลอดกาล เขายืนโดดเด่นอยู่ท่ามกลางฝูงชน แม้จะพยายามกลมกลืนเพียงใดก็ตาม รูปร่างสูงโปร่งกว่าบุรุษทั่วไปเล็กน้อย บ่งบอกถึงพละกำลังที่ซ่อนเร้นภายใต้อาภรณ์ผ้าป่านหยาบๆ สีเทาเข้มที่สวมใส่ ซึ่งแม้จะดูเหมือนพ่อค้าทั่วไป แต่กลับสะอาดสะอ้านและตัดเย็บอย่างได้สัดส่วน ผิดกับชาวบ้านร้านตลาดที่มักสวมเสื้อผ้าเก่าซอมซ่อ ใบหน้าของเขาคมคาย แม้จะถูกบดบังด้วยเงาของหมวกที่สวมอยู่เล็กน้อย แต่ก็ยังพอมองเห็นสันจมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากบางเฉียบเม้มสนิท และโครงส่วนคางที่บ่งบอกถึงความดื้อรั้นและเด็ดเดี่ยว

แต่สิ่งที่จับความสนใจของเฟิงซือเฟิงได้มากที่สุดคือแววตาคมกริบคู่นั้น ดุจเหยี่ยวที่พร้อมจะโฉบเหยื่อ มันฉายประกายความเย็นชาและเฉียบแหลมเกินคนธรรมดา มองปราดเดียวก็รู้ว่าไม่ใช่บุคคลที่ควรจะต่อกรด้วยโดยง่าย เขาผู้นั้นคือ หลี่จิ่งหยวน องค์ชายแห่งเป่ยเหลียง

รัฐบรรณาการทางทิศเหนือของต้าถัง ผู้เดินทางมาเล่าหยางอย่างลับๆ พร้อมกับองครักษ์ไม่กี่คน เพื่อสืบหาหลักฐานการทุจริตของเหล่าขุนนางต้าถังที่ส่งผลกระทบต่อการค้าและเสถียรภาพของเป่ยเหลียง แผนการปฏิรูปอาณาจักรอันยิ่งใหญ่ซุกซ่อนอยู่ในใจเขา รอวันที่จะทำให้เป่ยเหลียงผงาดขึ้นอย่างแท้จริง

การพบกันโดยบังเอิญในตลาดกลางคืนของเล่าหยาง คือจุดเริ่มต้นของพายุแห่งโชคชะตาที่กำลังจะพัดพาคนทั้งคู่เข้าหากัน โดยที่ต่างฝ่ายต่างยังไม่รู้ตัวตนที่แท้จริงของอีกคน

Continuez à lire ce livre gratuitement
Scanner le code pour télécharger l'application

Latest chapter

  • บุปผาแห่งสายลมเหนือ   ตอนพิเศษที่ 10 เปลวไฟในวารี

    ค่ำคืนนั้น หลังจากจัดส่งบุตรธิดาเข้านอนเรียบร้อย ทิ้งความวุ่นวายของวันไว้เบื้องหลัง เฟิงซือเฟิงรู้สึกอ่อนล้าทั้งกายและใจจากงานที่เบียดเสียด และจากความซุกซนของหลี่หยางฉีกับหลี่เหมยลี่ นางปรารถนาแต่ช่วงเวลาแห่งการผ่อนคลายในอ่างอาบน้ำที่อบอวลไปด้วยไอน้ำอุ่นห้องอาบน้ำส่วนพระองค์ของตำหนักมังกรเหมยนั้นกว้างขวางและงดงามเสมือนห้องโถงเล็กๆ แสงเทียนจากโคมไฟกระดาษที่แขวนอยู่รอบห้องส่องแสงนวลตา ขับไล่ความมืดและสร้างบรรยากาศอันอบอุ่น อ่างหินอ่อนขนาดใหญ่ตั้งอยู่กลางห้อง น้ำอุ่นที่ผสมสมุนไพรหอมส่งกลิ่นหอมฟุ้งไปทั่ว กลีบโบตั๋นสีชมพูอ่อนและดอกเหมยขาวลอยอยู่บนผิวน้ำที่ปล่อยไอเบาๆ ดุจม่านหมอกเฟิงซือเฟิงค่อยๆ ถอดผ้าไหมบางเบาออกทีละชิ้นอย่างเชื่องช้า ผิวพรรณเนียนใสของนางเปล่งประกายใต้แสงเทียน สวยงามราวหยกเนื้อดีที่เพิ่งขัดเกลา นางก้าวลงสู่น้ำอุ่นอย่างแผ่วเบา รู้สึกถึงความอุ่นที่ซึมซาบเข้าสู่ร่างที่เหนื่อยล้า ความสบายแผ่ซ่านไปทั่วกาย นางเอนตัวพิงขอบอ่าง หลับตาลง ดื่มด่ำกับความสงบที่โอบล้อมไม่นานนัก เสียงฝีเท้าคุ้นเคยก็ดังมาในห้อง หลี่จิ่งหยวนในชุดลำลองผ้าไหมสีเข้มเดินเข้ามาเงียบเชียบ ดวงตาคมกริบจับจ้องร

  • บุปผาแห่งสายลมเหนือ   ตอนพิเศษที่ 9 สัญญาใต้ผืนฟ้า

    ในค่ำคืนสุดท้ายก่อนที่ดวงตะวันจะทอแสงแห่งการจากลา เฟิงซือเฟิงและหลี่จิ่งหยวนกลับมายังศาลาริมน้ำอันเป็นที่โปรดปรานของพวกเขา ศาลาแห่งนี้ตั้งอยู่ลึกเข้าไปในสวนลับของเรือนพัก ที่ซึ่งพวกเขาเคยแบ่งปันทั้งแผนการลับและหัวใจให้แก่กันยามค่ำคืน แสงจันทร์สีเงินนวลสาดส่องลงมายังผิวน้ำในสระบัวที่นิ่งสงบ สร้างประกายระยิบระยับราวกับดวงดาวนับพันดวงได้หล่นลงมาเต้นระบำอยู่บนผิวน้ำยามราตรี กลิ่นหอมอ่อนๆ ของดอกบัวยามค่ำคืนลอยอบอวลมาตามสายลมบางเบา คลอเคล้ากับเสียงหรีดหริ่งเรไรที่ขับขานเป็นบทเพลงแห่งความอาลัยอาวรณ์ทั้งสองยืนเคียงข้างกันบนศาลาไม้ สัมผัสถึงไอเย็นจากผิวน้ำที่พัดขึ้นมาปะทะกาย อ้อมแขนของหลี่จิ่งหยวนโอบรอบเอวบางของเฟิงซือเฟิงอย่างหลวมๆ แต่แฝงไว้ด้วยความมั่นคงอันหนักแน่น ราวกับจะบอกว่าเขาจะไม่มีวันปล่อยนางไป สายตาของพวกเขาเงยขึ้นมองไปยังดวงดาวนับล้านดวงที่ส่องแสงระยิบระยับเต็มท้องฟ้ายามค่ำคืนของเล่าหยาง เป็นดวงดาวที่สว่างไสวกว่าทุกค่ำคืนที่ผ่านมา ราวกับเป็นพยานรู้เห็นถึงพันธสัญญาแห่งหัวใจที่กำลังจะเกิดขึ้น"ข้ากลัวเหลือเกินจิ่งหยวน" เฟิงซือเฟิงเอ่ยเสียงแผ่วเบาจนแทบไม่ได้ยิน เสียงของนางสั่นเครือเ

  • บุปผาแห่งสายลมเหนือ   ตอนพิเศษที่ 8 ลมพัดเปลี่ยนใจ

    ยามค่ำคืนที่แสงจันทร์สีเงินนวลสาดส่องลงมายังเรือนพักลับอันเงียบสงัดของเฟิงซือเฟิง แสงนั้นขับไล่ความมืดมิดภายนอกให้เลือนหายไป แต่กลับมิอาจขับไล่เงามืดแห่งความกังวลที่กำลังปกคลุมจิตใจของคนทั้งสอง แผนการปฏิรูปประเทศที่หลี่จิ่งหยวนและเฟิงซือเฟิงร่วมกันสร้างสรรค์ขึ้นนั้น แม้จะเริ่มเห็นผลเป็นรูปธรรม นำพาความเจริญรุ่งเรืองมาสู่เมืองเล่าหยางอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน หากแต่คลื่นใต้น้ำแห่งความไม่พอใจจากเหล่าขุนนางเก่าที่เสียผลประโยชน์ก็เริ่มก่อตัวขึ้น ราชสำนักต้าถังที่เคยนิ่งเฉย บัดนี้เริ่มแสดงความกังวลถึงอิทธิพลของหลี่จิ่งหยวนที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เสียงกระซิบกระซาบถึง "อำนาจที่เติบโตเกินกว่าจะควบคุม" และ "ความสัมพันธ์ที่คลุมเครือกับบุตรีแม่ทัพ" เริ่มแพร่สะพัดดุจไฟลามทุ่ง เฟิงซือเฟิงเองก็รู้สึกถึงแรงกดดันที่ถาโถมเข้ามา ทั้งจากสายตาที่จับจ้อง และความระแวงที่แผ่กระจายไปทั่วในค่ำคืนที่เงียบสงัดนั้น หลังจากที่เฟิงซือเฟิงผล็อยหลับไปบนเตียง หลี่จิ่งหยวนยังคงนั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้ข้างเตียงของนาง ไม่ยอมหลับลง แสงจันทร์สาดส่องเข้ามาในห้อง เผยให้เห็นใบหน้าที่หมดจดเกลี้ยงเกลาของนางที่ดูสงบยามหลับใหล แพขนต

  • บุปผาแห่งสายลมเหนือ   ตอนพิเศษที่ 7 สัมผัสต้องห้าม

    ค่ำคืนนั้น หลังจากการหลบหนีจากการตามล่าของเหล่ามือสังหารเงาตามตัวมาได้อย่างหวุดหวิด เฟิงซือเฟิงและหลี่จิ่งหยวนก็กลับมายังเรือนพักลับของเขาที่ตั้งอยู่ในมุมหนึ่งของเมืองเล่าหยางที่เงียบสงัดราวกับถูกซ่อนไว้จากโลกภายนอก เสียงลมหายใจของคนทั้งคู่ยังคงหอบถี่ด้วยความเหนื่อยล้าและหวาดกลัวที่ยังคงเกาะกุมอยู่ในจิตใจ แม้กายจะพ้นจากอันตราย แต่ใจก็ยังคงสั่นระริกราวกับใบไม้ต้องลมยามพายุโหมกระหน่ำ สายฝนภายนอกเริ่มซาลง เหลือเพียงเสียงเม็ดฝนกระทบหลังคาแผ่วเบา คลอเคล้ากับเสียงฟืนในเตาผิงที่ลุกไหม้อย่างช้าๆ ให้ความอบอุ่นแก่เรือนพักภายในห้องที่สว่างไสวด้วยแสงเทียนสีนวลอ่อนๆ จากตะเกียงทองเหลืองเก่าแก่ที่ตั้งอยู่กลางห้อง แสงนั้นขับไล่ความมืดมิดและสร้างบรรยากาศอันอบอุ่นละมุนละไม หลี่จิ่งหยวนในชุดที่เปรอะเปื้อนคราบดินโคลนและร่องรอยของการต่อสู้ กำลังบรรจงปฐมพยาบาลบาดแผลเล็กน้อยที่หัวไหล่ของเฟิงซือเฟิงอย่างอ่อนโยน ใบหน้าคมคายของเขาฉายแววเคร่งเครียดและเต็มไปด้วยความห่วงใยอย่างเห็นได้ชัด ทุกการเคลื่อนไหวของเขาล้วนแผ่วเบาและพิถีพิถัน ราวกับกลัวว่าการสัมผัสเพียงน้อยนิดจะทำให้นางเจ็บปวดไปมากกว่านี้ เฟิงซือเฟิงอยู่ใ

  • บุปผาแห่งสายลมเหนือ   ตอนพิเศษที่ 6 ใต้เงาเพลิงไฟ

    งานเลี้ยงเฉลิมฉลองความสำเร็จในการฟื้นฟูเมืองเล่าหยางถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ตระการตา ณ โถงกลางของจวนผู้ว่าการเมืองที่เพิ่งได้รับการบูรณะขึ้นใหม่ แสงไฟจากโคมนับพันดวงส่องสว่างเรืองรองขับไล่ความมืดมิดยามค่ำคืน ผ้าแพรไหมเนื้อดีสีแดงสดและสีทองอร่ามประดับประดาไปทั่วทุกซอกมุมของโถง แสดงถึงความมั่งคั่งและปิติยินดี เสียงดนตรีบรรเลงขับขานก้องกังวานไปทั่วงาน เสียงพิณที่ไพเราะราวเสียงน้ำตก เสียงขลุ่ยที่อ่อนหวานราวสายลมพัดต้องกลีบดอกไม้ และเสียงกลองที่เร่งเร้าราวจังหวะหัวใจที่เต้นรัว ผู้คนมากมายทั้งขุนนาง พ่อค้าใหญ่ และผู้มีอิทธิพลจากทั่วสารทิศต่างมารวมตัวกันอย่างคับคั่ง ใบหน้าของทุกคนเปื้อนยิ้มแห่งความสุขและความพึงพอใจ กลิ่นหอมของสุราเลิศรส อาหารเลิศรส และเครื่องหอมนานาชนิดคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ สร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและมีชีวิตชีวา แต่ภายใต้ความคึกคักนั้น ยังคงมีกระแสคลื่นใต้น้ำแห่งการเมืองและผลประโยชน์ที่มองไม่เห็นไหลวนอยู่เฟิงซือเฟิงในชุดผ้าไหมสีเข้มเรียบง่าย ซึ่งเป็นชุดที่นางจงใจเลือกเพื่อไม่ให้เป็นที่สังเกตมากเกินไป แต่ก็ยังคงความสง่างามตามธรรมชาติของบุตรีแม่ทัพไว้ได้อย่างครบถ้วน เส้นผมดำขลับ

  • บุปผาแห่งสายลมเหนือ    ตอนพิเศษที่ 5 แววตาใต้ตะเกียง

    ค่ำคืนนั้น หลังจากการวิ่งหนีการตามล่าของเหล่ามือสังหารเงาตามตัวมาได้อย่างหวุดหวิด เฟิงซือเฟิงและหลี่จิ่งหยวนก็กลับมายังเรือนพักลับของเขาที่ตั้งอยู่ในมุมหนึ่งของเมืองเล่าหยางที่เงียบสงัด เสียงลมหายใจของคนทั้งคู่ยังคงหอบถี่ด้วยความเหนื่อยล้าและหวาดกลัวที่ยังคงเกาะกุมอยู่ในจิตใจ แม้กายจะพ้นจากอันตราย แต่ใจก็ยังคงสั่นระริกราวกับใบไม้ต้องลมยามพายุโหมกระหน่ำ แสงเทียนจากตะเกียงทองเหลืองเก่าแก่ที่ตั้งอยู่กลางห้อง ส่องสว่างนวลตาขับไล่ความมืดมิดและสร้างบรรยากาศอันอบอุ่นเล็กๆ ให้กับห้องพักที่เรียบง่ายแต่เป็นที่พึ่งพิงในยามนี้หลี่จิ่งหยวนในชุดที่เปรอะเปื้อนคราบดินโคลนและร่องรอยของการต่อสู้ กำลังบรรจงปฐมพยาบาลบาดแผลเล็กน้อยที่แขนของเฟิงซือเฟิงอย่างอ่อนโยน ใบหน้าคมคายของเขาฉายแววเคร่งเครียดและเต็มไปด้วยความห่วงใยอย่างเห็นได้ชัด ทุกการเคลื่อนไหวของเขาล้วนแผ่วเบาและพิถีพิถัน ราวกับกลัวว่าการสัมผัสเพียงน้อยนิดจะทำให้นางเจ็บปวดไปมากกว่านี้ เฟิงซือเฟิงในชุดผ้าไหมบางเบาที่บัดนี้เปื้อนคราบเลือดแห้งกรังเล็กน้อย มองดูเขาด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความซาบซึ้งใจ แสงเทียนส่องกระทบใบหน้าของเขา เผยให้เห็นรอยเหนื่อยล

Plus de chapitres
Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status