Home / โรแมนติก / บ่วงเล่ห์บำเรอรัก / บทที่4.การใช้ชีวิตร่วมกับคนแปลกหน้าที่หล่อเหลือร้าย 3

Share

บทที่4.การใช้ชีวิตร่วมกับคนแปลกหน้าที่หล่อเหลือร้าย 3

last update Last Updated: 2025-07-30 18:50:13

“ไปพ่อหนุ่ม ร้านหน้าปากซอยมีทุกอย่าง มีงบเท่าไรล่ะ”

“มีไม่เยอะ อยากได้ที่นอนกับของใช้บางอย่าง” ให้นอนบนพื้นแข็งๆ เขาจะไม่ทน ไหนๆ ก็ต้องทนลำบาก ขอความสบายช่วงนอนหลับหน่อยก็แล้วกัน สาวใหญ่เดินนำ เขามองบั้นท้ายเป็นปั้นๆ ของนางแล้วจึงส่ายศีรษะ...

ร้านเครื่องนอนมีให้เลือกมากมาย แต่หากเป็นตัวแวซ็องเลือกเอง เขาไม่มีทางชายตาแลของคุณภาพต่ำเช่นนี้แน่ เมื่อจำเป็นจริงๆ ก็ต้องทน...หากไม่อยากนอนบนพื้นแข็งๆ เย็นๆ

“เอาแบบนี้ล่ะ...พร้อมอุปกรณ์ด้วยนะ ผ้าห่ม พัดลม และหมอน...” ใจของชายหนุ่มอยากจะติดแอร์คอนนิชั่น แต่มันจะหรูหราอลังการจนอาจจะทำให้เมวิกายิ่งขยับหนีไปไกลๆ อีก...เอาเท่าที่ได้ก็แล้วกัน

สภาพห้องพักดูดีขึ้นกว่าเดิม หลังจากร้านเครื่องนอนเอาของมาส่ง...ชายหนุ่มจ่ายค่าแรงให้ผู้หญิงชื่อเขียว หล่อนส่งสายตาฉ่ำหวานให้เขา จนต้องรีบชิ่งหนี แวซ็องกลัวหล่อนกระโจนปล้ำ เมื่อดวงตาของหล่อนฉายแววเช่นนั้น

กลิ่นผ้าใหม่ที่ยังไม่ผ่านการทำความสะอาด...เขาต้องทำใจให้ชิน ไม่ได้อยู่ในสภาพเดิมๆ คงต้องทนไปก่อน แต่ไม่นานหรอก...ชายหนุ่มทิ้งตัวนอนบนฟูกนอนของใหม่ มันก็พอใช้ไม่ถึงกับกระด้างจนเจ็บหลัง...ก่อนจะหลุบตาลงมโนภาพเมวิกาในสมอง...หากจับหล่อนใส่ชุดนอนสุดเซ็กซี่!! ผิวของหญิงสาวคงลออองค์จนเขาขนลุกซู่ ชายหนุ่มยื่นมือหมายจะคว้ารูปโฉมที่สร้างขึ้นเองในจินตนาการแต่ทุกอย่างหายวับ!! ไปกับอากาศ เมื่อเผลอตัวลืมตาขึ้นมอง...

“โว๊ะ!” ดวงตาคมกล้าดุดัน ฉายแววไม่พอใจ เขายกมือขึ้นปิดใบหน้าพลางคิดในใจด้วยความสับสนในตัวเอง เขาเป็นหนักขนาดนี้เชียวเหรอ?

ทางที่ดีที่สุดสำหรับเขา คือต้องจัดการรวบหัว รวบหางเมวิกาให้ได้ในเร็ววัน ไม่เช่นนั้นตัวเองนั่นแหละที่จะแย่

หากเผลอตัวหลงเสน่ห์หล่อนเข้า!!

ความเสี่ยงค่อนข้างสูง...เมื่อตัวเองไม่เคยเป็นเช่นนี้ มันอาจจะเป็นเพราะหล่อนท้าทายเขา เลือดนักล่าจึงพล่าน...

“ใจเย็นๆ น่าแวซ็อง ยังไงหล่อนก็หนีแกไม่พ้นหรอก”

ความผยองทำให้ชายหนุ่มมั่นใจ ไม่มีผู้หญิงคนไหนที่ตัวเองหมายตาจะหลุดรอดไปได้ ต่อให้หล่อนดื้อด้านขนาดไหน...พอตกอยู่ใต้ร่างกายเขาส่วนมากจะพร่ำเพ้อ หลงละเมอตามเกาะหนึบ...เขามีเวลาให้หล่อนสุขจนพอใจ1อาทิตย์จากนั้นก็เหมือนกันหมด...เมวิกาก็เช่นกัน

ในขณะที่แวซ็องกำลังไม่เข้าใจตัวเอง เมวิกาเองก็เช่นกัน

หัวใจสาวเริ่มไหวหวั่นตามประสาผู้หญิง...ชายหนุ่มใช่ว่าจะขี้ริ้วเมื่อไรล่ะ เขามีสิ่งที่ผู้หญิงทุกคนต้องการ ไม่ว่าจะรูปร่างหน้าตา หรือพลังดึงดูดที่ไร้รูปทรง แต่ทุกคนจะรู้สึกหากอยู่ใกล้เขา...เธอจะทำอย่างไรถึงจะดี เมื่อรู้สึกถึงรางแพ้...ไม่หวั่นไหวสิแปลก ก็ชายหนุ่มเหมือนภาพในฝัน เขาทำให้คนอยู่ใกล้รู้สึกอบอุ่น เมื่อตัวเขาเข้มแข็งแม้จะตกระกำลำบาก...ชายหนุ่มไม่ได้ปริปากบ่น...เขายังยิ้มได้...

มันเป็นการยากที่จะห้ามความสนใจที่เกิดขึ้น แม้จะรู้ว่ามันไม่มีทางเป็นไปได้ ลักษณะบางอย่างของผู้ชายคนนั้นบ่งบอกว่าเขากับเธอห่างกันคนละชั้น แม้เขาจะไม่เปิดปากบอก แต่พฤติกรรมบางอย่างของเขาบอกเช่นนั้น ดูท่าทางเขาไม่เดือดร้อนใจเลย หากเป็นคนธรรมดาคงกำลังทุกข์ ถูกชิงทรัพย์ในต่างแดน...ไม่มีที่นอน ไม่มีความหวัง แต่เขาก็ยังอยู่มาได้ แถมมีสมบัติติดตัวชนิดที่ราคาแพงระยับ เขาเป็นใครกันแน่?

“คุณเป็นใครก็ช่าง...เมจะพยายามอยู่ให้ห่างคุณที่สุด...เพื่อตัวเอง”

หญิงสาวตั้งปณิธานไว้กับตัวเอง...เธอต้องระวังตัวและหัวใจตัวเองอย่างดี ไม่เช่นนั้นเธอคงไม่แคล้วที่จะเป็นฝ่ายเสียใจ เมื่อรู้สึกว่าการที่เขายังรีรออยู่ทั้งที่มีสตางค์มากพอที่จะกลับไปยังที่เดิมของตัวเอง แต่ชายหนุ่มเลือกที่จะไม่ไป...เธอพยายามจะไม่ใส่ใจแต่ก็อดไม่ได้สักที...

บทที่5.เกมสนุกๆ ของเศรษฐีขี้เบื่อ

แค่ย่างเข้าต้นเดือนพฤษภาคมของปี ฝนก็พรำไม่หยุด เหมือนกับว่ามันอั้นมานาน...ปีก่อนระหว่างทางกลับบ้านเธอไม่เคยเจอฝนสักวัน เพราะเทวดาของฤดูฝนทำเหมือนจะอู้งาน...เขาลืมหน้าที่ตัวเอง จนเกิดภัยแล้งไปทั่วทั้งประเทศ พอนึกขึ้นได้ท่านก็เร่งทำหน้าที่ชดเชย มากมายเสียจนคนทำมาหากินพลอยลำบากไปด้วย เมื่อต้องคอยตั้งท่ารับกับสายฝนเย็นชื่นที่เทกระหน่ำลงมาแบบไม่ลืมหูลืมตา...

แล้วมันก็เป็นเหมือนทุกวัน เมวิกาเดินออกมาจากที่ทำงานพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมองละอองฝนที่โปรยลงมาจากฟากฟ้า

“ตกอีกแหละ!!” เธอบ่น พร้อมกับล้วงมือเขาไปในย่ามสะพายไหล่ กระเป๋าโดเรม่อนของเธอเมื่อมีทุกสิ่งที่ต้องการ ใครๆ ก็ชอบว่าแบบนั้น

ร่มราคาถูกแม้จะคุ้มฝนได้ไม่มากพอ แต่ก็ทำให้เธอไม่ต้องกลายเป็นลูกหมาตกน้ำเหมือนทุกวัน...

พรึ่บ! เธอกดปุ่มที่ปลายคันร่ม จนสวิตช์ทำงานดีดผึ่งออกไป ร่มกาง แต่ก็ได้แค่นั้น พอลมกรรโชกมาแรงๆ ครั้งเดียว ‘กร็อบ!!’ ไม่ต้องเดาก็พอรู้ เสียงลั่นแบบนั้น ขาร่มคงหักก็มันแค่ร่มถูกๆ อันละไม่ถึงร้อย หญิงสาวโยนมันทิ้งถังขยะใกล้ตัวโดยไม่จำเป็นต้องตรวจสภาพ เธอเตรียมพร้อมเก็บของที่เปียกน้ำไม่ได้ใส่ในซองพลาสติก...เงยหน้ามองสายฝนครั้งสุดท้าย...เมื่อตัดสินใจจะวิ่งสู้ฝน จะเปียกเหมือนลูกหมาก็ช่าง เพราะเธอกำลังจะกลับบ้าน

“เดี๋ยวสิ! ฝนตกไม่เห็นเหรอ?”

มือแข็งๆ รั้งไว้ พร้อมกับเสียงห้าวๆ เอ่ยท้วงดังๆ

หญิงสาวผ่อนลมหายใจช้าๆ “เห็น...แต่หากยืนรอตรงนี้ ก็ไม่ได้กลับกันพอดี ฝนแบบนี้คงอีกนานกว่าจะหยุด ฉันอยากนอนพัก” กว่า12 ชั่วโมงในการทำงาน เธอยืนทนจนเมื่อยขา...อยากจะกลับไปพักก่อนที่จะล้มพับไป

“ทำเหมือนไม่รักตัวเอง...ตากฝนทุกวันเดี๋ยวก็ไม่สบายไปหรอก”

ความรู้สึกอุ่นวาบแทรกเข้ามาในใจ น้ำตาร้อนๆ ไหลเอ่อ...จนต้องรีบสะบัดทิ้ง เพราะหากเธออ่อนแอเช่นนี้อาจจะเผลอตัวเข้าสักวัน...และคนที่เสียใจคือตัวเอง

“ฉันหัวแข็งค่ะ ว่าแต่คุณเถอะมาทำอะไรแถวนี้” เธอย้อนถามพร้อมกับหยุดรอคำตอบ

“มารับ...เห็นฝนตกเลยเป็นห่วง” กระแทกเข้ามาอีกครั้งกับความรู้สึกร้อนวาบ เหมือนไม่ได้อยู่คนเดียวในโลก เธอยังมีเพื่อน แม้จะยังไม่ไว้ใจเจตนาของเขาเลย

“ขอบคุณค่ะ แต่ฉันชินเสียแล้วล่ะ...วันหลังไม่ต้องนะคะ คุณเองก็อาจจะไม่สบาย ฉันแน่ใจว่าคุณคงไม่ชิน”

หญิงสาวติงเสียงเรียบ ความเป็นอยู่ของเขากับเธอน่าจะแตกต่างกัน...และเมวิกาคิดว่าเขาไม่น่าจะคุ้นกับเหตุการณ์แบบนี้...

3วันกับความเฉยชาที่ยังคงเส้นคงวา แวซ็องเริ่มหงุดหงิดเขาไม่เคยต้องเสียเวลานานเท่านี้ หากคิดจะ ‘ฟัน’ ใครสักคน ขณะนี้มันเกิดขึ้นแล้ว ยัยดื้อตรงหน้าเขานี่พยายามถอยหนี...แทบทุกครั้ง หล่อนขีดเส้นชัดเจน...จนเขาชักเบื่อ แต่กลับไม่คิดถอดใจ...คงเพราะอยากจะเอาชนะนั่นแหละ...ชายหนุ่มคิดแบบนั้น มันไม่น่าจะมีอย่างอื่น เมื่อตัวเองไม่เคยคิดจะผูกติดอยู่กับใคร? ผู้หญิงทุกคนคือทางผ่าน หล่อนทั้งหมดคือเครื่องบันเทิงอารมณ์ และจุดจบของพวกหล่อนย่อมเหมือนกัน...

“ใช่! ฉันไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อน...แต่ฉันคิดว่าตัวเองสามารถผ่านมันไปได้”

ชายหนุ่มพูดย้ำ บอกทั้งตัวเองและเมวิกา เขาต้องผ่านมันไปได้สิ ไอ้ความรู้สึกน่ารำคาญแบบนี้จะได้หมดไปเสียที

“ฉันจะวิ่งฝ่าฝนไปล่ะ...คุณจะรอตรงนี้ก็เชิญนะ...ฉันอยากนอน เพลียจะแย่”

ชีวิตคนทำงานมีรายได้ไม่แน่นอน...เธอแกร่งพอและมั่นใจว่าแค่ฝนตกคงไม่ทำให้ตัวเองถึงกับล้มหมอนนอนเสื่อ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • บ่วงเล่ห์บำเรอรัก   บทที่9.ฉาวโฉ่!! 2

    “คงมีคนใจดีเอามันไปเลี้ยงแล้วมั้งคะป้า” เขาใจดีกับสัตว์ แต่ใจดำกับเธอจนอยากที่จะลืม“จริงเหรอ...บุญของมัน อย่าบอกนะว่าพ่อฝรั่งนั่นเอามันไปเลี้ยง อย่างนี้คงไม่ได้เจอกันแล้วล่ะอยู่คนล่ะซีกโลกแบบนี้”นางบ่นไปแกนๆ แล้วจึงเดินกลับไปประจำที่ตัวเอง ปล่อยให้เมวิกาเดินคอตกกลับห้องพักอย่างหงอยเหงาเธอทรุดตัวลง นั่งเอนกายลงนอน คู้เข่าขึ้นมากอดไว้พร้อมกับน้ำตาที่ค่อยๆ หลั่งริน“ไหนว่าจะไม่คิดถึงเขาไงเม”เสียงเครือสะอื้นต่อว่าตัวเอง มือที่กอดตัวเองไว้ไม่ได้อุ่นร้อนเหมือนที่เขาเคยกอด ตอนนี้เมวิกาหนาวจับขั้วหัวใจทางเดินของเธอกลับไปหม่นหมองเหมือนเดิม และดูท่าจะมืดมิดกว่าเดิมด้วยซ้ำ“เรายังโตมาแบบตัวคนเดียวได้เลย หากท้อง!! จะกลัวอะไรล่ะ เขายังมีเราอยู่ทั้งคน”สิ่งต่างๆ ในร่างกายที่เปลี่ยนไป มันย้ำให้เมวิการู้ถึงบางสิ่งบางอย่างที่กำลังจะอุบัติขึ้นมา เธอต้องตั้งสติจะมามัวจมอยู่กับความทุกข์ไม่ได้ หญิงสาวยันตัวลุกขึ้นนั่ง เธอควานมือลงไปใต้หมอน เพื่อหยิบซองสีน้ำตาลขนาดใหญ่สิ่งสุดท้ายที่ผู้ชายใจร้ายคนนั้นทิ้งไ

  • บ่วงเล่ห์บำเรอรัก   บทที่9.ฉาวโฉ่!! 1

    บทที่9.ฉาวโฉ่!! ออกัสตัสอินเตอร์เทรต...“หลุยส์...ตามมาดามโจนส์ให้ฉันหน่อยสิ!”เซดริกกดอินเตอร์คอมสั่งงานเลขานุการคู่ใจเสียงลั่น!!หนุ่มหล่อตาสีน้ำขาว ผมสีน้ำตาลอ่อนขมวดคิ้ว ก่อนจะย้อนถามเสียงไม่ใคร่แน่ใจ“มาดามโจนส์แห่งปารีสเพรสน่ะเหรอครับ?”“อืม...ใช่...ขอด่วนด้วยนะ บอกหล่อนไปนะว่าฉันมีข่าวเด็ดสะเทือนปารีสจะให้ฟรี!!”เซดริกพูดไปยิ้มไป การยืมมือสื่อคือการดัดหลังพี่ชายได้อย่างชะงัด แถมมาดามแลงก้าก็ไม่กล้าโวยเพราะพี่ชายเขากับมารดารักหน้าตัวเองมากกว่าสิ่งอื่นใด“ครับ” หลุยส์แม้จะงงแต่ก็รีบรับคำคนภายนอกมองเซดริกเป็นพ่อพวงมาลัย เขาไม่หนักแน่นดั่งเช่นพี่ชาย แต่หารู้ไม่...บุรุษผู้น้องนี่ล่ะตัวดี เขาเจ้าแผนการมากเล่ห์เหลี่ยม การเสี้ยมให้สองฝ่ายชนกันนั้นเซดริกถนัด แต่เขาก็รักพี่น้องไม่แพ้คนอื่นๆ เพราะฉะนั้นสิ่งที่เซดริกลงมือทำมั่นใจได้ว่าเป็นเรื่องดีไม่เกิน1ชั่วโมงก็อตซิปชื่อดังของปารีสก็รีบสลัดงานรัดตัวทิ้ง บึ่งหน้าตั้งม

  • บ่วงเล่ห์บำเรอรัก   บทที่8.ฟันแล้วชิ่ง 1

    “อย่าเดาส่งเดชว่ะ แกไม่รู้หรอกว่าฉันคิดอะไรอยู่...อย่าแส่!”เสียงตวาดขุ่นขวาง ดวงตาคมดุลุกโพลง...อารมณ์เดือดพล่านปานลาวาปากปล่องภูเขาไฟ พร้อมจะทำลายล้างทุกสิ่งหากเกิดความไม่พอใจขึ้นมา...“โอ๊ะโอ!”เซดริกคอหด เขางอตัวลงและเบียดตัวเองกับเก้าอี้นั่ง ทำเหมือนกับว่ากลัวฤทธิ์เดชของแวซ็องเสียหนักหนา...แต่แววตาของหนุ่มรุ่นน้องกับเต้นระริก เหมือนกำลังขำขันอะไรบางอย่าง แววตาของเซดริกเปล่งแสงระยิบ เหมือนกับรู้ว่าสิ่งที่พี่ชายกำลังกังวลคือเรื่องอะไร?รอยยิ้มรู้ทันที่ผุดขึ้นมุมปากของน้องชาย แวซ็องต้องรีบเบือนหน้าหนี พร้อมกับรีบสะกดอารมณ์พลุ่งพล่านของตัวเองให้สงบลงโดยไว ก่อนที่ความจะแตก...และถูกกระแหนะกระแหนไปอีกนานแสนนาน“นายคิดอะไรกับหล่อนงั้นสิ?”อาการพี่ชายแปลกๆ เซดริกจึงอดถามไม่ได้แวซ็องหันขวับรู้สึกเหมือนงูพิษ ถูกตีที่ขนดหาง แววตาของเขาลุกโชน ก่อนจะมีเสียงกระซิบแหบแห้งดังตามมา “อย่าแส่เซดริก!! แกไม่รู้ตัวใช่ไหม...ว่าพูดอะไรออกมา”ผู้อ่อนอาวุโสกว่าไหวไหล่ เขาเบ้ปากก่อนตอบเสียงแข็ง “

  • บ่วงเล่ห์บำเรอรัก   บทที่7.ทาสสวาท บ่วงเสน่ห์ 3

    แหงนเงยใบหน้ายอมรับรสจุมพิตแสนรัญจวน ที่ทำให้เธอหลงเคลิบเคลิ้ม เสนอสนองตอบรับรสจูบแสนหวานนั้น ไม่คิดแม้แต่จะต่อต้านหรือผลักไส แพขนตางามงอนหลุบปิดลง...ยอมแพ้อย่างราบคาบ ยอมศิโรราบให้แก่พายุสวาทหวานหวามที่พัดพาให้เธอล่องลอยไปยังดินแดนในห้วงฝัน“เมจ๋า ฉันไม่เคยจูบใครแล้วชื่นใจเหมือน...เมสักคน”เสียงแผ่วปร่ากระซิบบอกชิดริมหู หญิงสาวได้แต่ยิ้มรับและครางสะอื้น เมื่อชายหนุ่มเริ่มปลุกปั่นเธอจนแทบจะดิ้นพล่านเพราะความซ่านสยิวเสียงครางแผ่วๆ ผสมกับเสียงหอบหายใจแรงๆ เมื่อคนทั้งคู่จมดิ่งในกองไฟแห่งความปรารถนา...กลิ่นเหงื่อเค็มๆ ลอยฟ่อง! กลิ่นคาวของความรัก แผ่กระจาย เสียงครางหวานแหลมทวีความดังขึ้น ทุกช่วงจังหวะที่เจ้าของร่างใหญ่ถาโถมเข้าใส่ เงาร่างกลางแสงสลัวๆ ที่แยงผ่านรอยแตก จึงมองเห็นเพียงร่างขาวโพลนโอบรัดกันแนบแน่นเหมือนดั่งเช่นสัตว์โลกทั่วไปที่กำลังเสพสังวาสกัน เพียงแต่ความมหัศจรรย์พันลึกของมนุษย์เป็นอะไรที่สุดจะหยั่งถึง มีความดุดันและอ่อนหวานอยู่ในที่ที่เดียวกัน...เพียงแค่มองเห็นผ่านตาแวบๆ ก็ชวนให้หัวใจกระเส่า ขนกายลุกซู่...เมวิกาแทบจะแดดิ้น

  • บ่วงเล่ห์บำเรอรัก   บทที่7.ทาสสวาท บ่วงเสน่ห์ 2

    ระหว่างที่หญิงสาวยังลังเลอยู่ แวซ็องเองเป็นฝ่ายรอไม่ไหว เขารั้งเธอเขามาในวงแขนและมอบจุมพิตหวานฉ่ำให้หล่อนเสียเอง ทั้งสองคนหลงเพลิดอยู่ในห้วงปรารถนา จนร่ำๆ จะเกินเลย เมื่ออารมณ์พาไป มือใหญ่เคลื่อนที่เหมือนงูเลื้อย...ลูบคลำหญิงสาวด้วยใจพิศวาส“พอค่ะ พอนะคะ!!”เมื่อริมฝีปากร้อนผ่านเคลื่อนที่ลงต่ำๆ เมวิกาจึงมีเวลารวบรวมสติที่กระเจิดกระเจิงไป กลับคืนมาทัน เธอวิงวอนเขาเสียงหวานพร่า จนชายหนุ่มต้องยอมอ่อนให้...เขายังมีเวลาเหลือ ครั้งนี้เขาจะปล่อยเธอไปก่อน แต่หลังจากนั้นเธอจะต้องกลับมาชดเชยให้ เขาเกินคุ้ม!!“ได้เลยเม...รีบไปรีบกลับนะ ฉันรออยู่”ชายหนุ่มเอ่ยย้ำ เขายอมรามือให้ ปล่อยเธอออกไปทำงานเฉกเช่นคนอื่นๆเมวิกาลนลานก้าวลงจากเตียง เรียวขาเพรียวสั่นระริก...มันอ่อนแรงเสียแทบจะทรงตัวไม่อยู่“ให้ช่วยไหมทูนหัว”เสียงกระเซ้าของผู้ชายตัวใหญ่ที่นั่งเอนหลังพิงหัวเตียง แววตาของเขาเต้นระริก มันฉ่ำเยิ้มจนเธอผวา กลัวว่าตัวเองจะไม่ได้ก้าวออกจากห้องพัก หากเธอหันหลังกลับแล้วถลาเข้าหาอ้อมแขนแข็งแรงนั่นอีกครั้งหญิงส

  • บ่วงเล่ห์บำเรอรัก   บทที่7.ทาสสวาท บ่วงเสน่ห์ 1

    ชายหนุ่มวางถุงอาหารมื้อเช้าไว้บนโต๊ะเตี้ยๆ ข้างที่นอน เขาหย่อนตัวลงนั่งพร้อมทั้งรวบกอดเมวิกาไว้ในอ้อมแขน... “นึกว่าฉันชิ่งไปแล้วสินะ?” ชายหนุ่มพูดกลั้วเสียงหัวเราะ มันยังไม่ถึงเวลานั้นสักหน่อย ตอนนี้เขากำลังหลงเมวิกาหัวปัก จะให้ทิ้งเธอไปตอนนี้เสียดายแย่...“...” ไม่มีเสียงตอบกลับแต่ร่างอวบอุ่นซุกตัวในอ้อมแขนของเขา เธอสอดมือโอบรัดรอบเอว เหมือนลูกนกที่หลงรังฝากตัวกับผู้ปกครองคนใหม่“หึๆ” ชายหนุ่มโยกตัวไปมา ปลอบประโลมหล่อน “แบบนี้คิดว่าจะมีแรงไปทำงานไหมล่ะ...เครื่องฉันร้อนง่ายเธอก็น่าจะรู้นะเม” เสียงของแวซ็องแหบปร่า...เขาซุกใบหน้ากับพวงผมยาวสยาย สูดกลิ่นหอมๆ ปนกลิ่นเหงื่อจางๆ ของเธอจนชุ่มปอด...หญิงสาวรีบผลักอกของเขาแรงๆ แต่เหมือนจะช้าไป ไฟปรารถนาของแวซ็องถูกจุดขึ้นมาเสียแล้ว เมื่อกลิ่นหอมหวานลอยยั่วเย้าอยู่แค่ปลายจมูก“โทร. ลางานได้เลยจ้ะ เพราะเธอหมดแรงยืนแน่ๆ”ชายหนุ่มกระซิบบอกชิดริมใบหู เขาผลักเมวิกาจนหงายหลังพร้อมกับโถมเข้าใส่ โดยที่เมวิกาทำได้แค่กะพริบตาปริบๆ เพราะไม่เคยห้ามได้หากแวซ็องเ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status