หลังจากหนีเข้ามาในบ้านฉันก็รีบปิดประตูแล้วยืนยิ้มออกมาด้วยความเขิน "ผู้ชายอะไรเจ้าเล่ห์ชะมัดเลย" ฉันพูดแล้วยิ้มอย่างกับคนบ้าอยู่แบบนั้นสักพักก่อนจะเดินไปเข้าไปที่ห้องเพื่อเตรียมตัวอาบน้ำแล้วเข้านอน ในขณะที่ฉันกำลังจะถอดชุดออกก็นึกขึ้นมาได้ว่าตัวเองใส่ชุดและเครื่องประดับที่คุณทศให้ไว้อยู่ "ตายแล้วดาวเอ้ย~ ลืมขอบคุณคุณทศเรื่องชุดได้ไงเนี่ย" ฉันบ่นกับตัวเองที่หน้ากระจกอย่างรู้สึกเสียดาย "ไว้ค่อยขอบคุณเขาพรุ่งนี้แล้วกันจะได้เอาชุดกับสร้อยไปคืนด้วย" ฉันถอยหายใจแล้วพูดออกมาก่อนที่จะค่อย ๆ ถอดสร้อยเก็บใส่กล่องและถอดชุดไปซักอย่างทะนุถนอมจากนั้นก็กลับเข้าห้องไปอาบน้ำนอนทศราช Part00:30 น.ผมขับรถเข้ามาที่บ้านหลังจากไปส่งดาวซึ่งปกติแล้วผมจะนอนที่คอนโดเป็นส่วนใหญ่เพราะว่ามันใกล้และผมต้องทำงานตลอดเลยไม่อยากให้แม่ต้องมาเห็นผมนั่งทำงานหามรุ่งห่ามค่ำแล้วเป็นห่วงทีหลัง เมื่อก่อนผมไม่เข้าใจพ่อเลยว่าเขาจะบ้างานอะไรนักหนาแต่พอมาวันนี้ผมได้มาอยู่ตรงนี้แทนพ่อผมถึงได้เข้าใจว่า มันจำเป็นต้องทำจริง ๆ และผมก็เข้าใจความรู้สึกแม่ดีเพราะผมเองก็เคยอยู่ในจุดที่นั่งทุกข์ที่เห็นพ่อเป็นแบบนั้นดังนั้นผมจึงเลือกที
ผมนั่งฟังพวกผู้ใหญ่เขาคุยกันมาประมาณ 20 นาทีแล้วมันมีแต่เรื่องอวดกันไปอวยกันมาตลอดจนผมฟังแล้วรู้สึกเบื่อไปเลยแต่ก็ไม่สามารถแสดงอาการออกมาได้ ผมหันไปมองที่กลุ่มของดาวแต่ปรากฏกว่าเธอไม่อยู่ตรงนั้นแล้วจึงเกิดความกังวลเป็นอย่างมาก ผมกลัวว่าเธอจะกลับไปก่อนและถ้ามันเป็นแบบนั้นจริง ๆ ผมคงเสียดายแย่ที่ยังไม่ได้คุยอะไรกับเธอ ผมพยายามมองไปรอบ ๆ จนทั่วงานแต่ก็ยังไม่เจอเธออยู่ดี"ผมขอตัวก่อนนะครับ คืนนี้เชิญทุกคนตามสบายเลยนะถ้าขาดเหลืออะไรก็บอกกับออแกไนซ์ได้เลย" ผมพูดแล้วลุกออกจากโต๊ะทันทีโดยไม่รอให้พวกผู้ใหญ่ตอบกลับอะไรมาเลยเพราะกลัวเขาจะรั้งผมให้อยู่ต่อ ผมก้าวเท้าเดินไปหาชัชเพื่อถามเขา"ชัช คุณดาวไปไหนแล้ว" ผมพูดแบบเป็นกันเองกับชัชเพราะเราค่อนข้างสนิทกันบวกกับตอนนี้มันนอกเวลางานแล้วด้วย จริงๆ ถ้าเวลาทำงานผมจะเรียกเขาว่าคุณชัชตลอดเพื่อให้เกียรติเขา"คุณดาวเหรอครับ เห็นเธอบ่นว่าเบื่อ ๆ ก็เลยอยากจะออกไปสูดอากาศหน่อยครับ""ไปคนเดียวเหรอ" ผมถามด้วยความเป็นเพราะตอนนี้มันดึกมากแล้วแถมทุกคนยังดื่มกันไปไม่น้อยถ้าเกิดเป็นอะไรขึ้นมาจะทำยัง "ครับ ตอนแรกผมจะตามไปเป็นเพื่อนนะแต่เธอไม่ยอม" "ไม่เป็นไร" ผมรีบ
ฉันกลับมาถึงบ้านประมาณบ่ายโมงครึ่งด้วยความรู้สึกเหนื่อยจนไม่อยากจะทำอะไรแล้ว "นอนพักเอาแรงสักหน่อยแล้วกัน" ฉันเดินขึ้นไปนอนทิ้งตัวบนเตียงทั้งที่ยังไม่ได้เปลี่ยนเสื้อผ้าด้วยซ้ำ17:30ฉันใส่ชุดคลุมเดินออกมาจากห้องน้ำหลังจากที่อาบน้ำเสร็จแล้วจากนั้นฉันก็เดินไปหน้ากระจกหยิบกล่องที่คุณทศให้ขึ้นมาเปิดดู ภายในกล่องนั้นมีชุดเดรสยาวสีแดงประกายเพชรวิบวับดูสวยมาก"แพงมากแน่เลยเนี่ย" ฉันพูดแล้วหยิบชุดนั้นออกมาดูชัด ๆ ฉันตะลึงกับสิ่งที่คุณทศเตรียมไว้ให้มากไม่คิดเลยว่าเขาจะเลือกเสื้อผ้าให้ผู้หญิงได้เก่งขนาดนี้และที่นึกไม่ถึงมากที่สุดก็คือเขาจะช่วยเตรียมมันมาให้ฉันโดยเฉพาะ ฉันค่อย ๆ วางมันลงบนเตียงแล้วหันกลับไปมองกล่องกำมะหยี่เล็กๆ ที่คุณทศเตรียมมาให้พร้อมกับชุดนี้ หลังจากเปิดออกดูฉันก็ยิ่งตกใจยิ่งกว่าเพราะว่าฉันจำได้ว่าก่อนหน้านี้ประมาณ 2 อาทิตย์กว่า ๆ ฉันได้เอาเอกสารไปวางไว้บนโต๊ะทำงานของคุณทศก่อนที่เขาจะมาทำงานเหมือนปกติทุกวันแต่ว่าวันนั้นฉันแอบไปเห็นมันมีกระดาษจำนวนนึงถูกแฟ้มวางทับไว้อย่างไม่เป็นระเบียบก็เลยคิดว่าจัดให้มันเรียบร้อยแต่มันกลับไม่ใช่เอกสารงานอะไรเลยแต่เป็นแบบตัวอย่างสร้อยเพชร ยอม
"งานทุกอย่างเรียบร้อยไหมคะ" ฉันเดินตรวจเช็คงานกล่าวแล้วเดินไปถามกับหัวหน้าทีมออแกไนซ์ที่รับผิดชอบดูแลงานในวันนี้"เรียบร้อยดีค่ะคุณดาว" คุณนัทตอบ"ดีจ่ะ อย่าให้มีอะไรผิดพลาดนะคะ" ฉันพูด "ค่ะคุณดาว" เธอตอบแล้วก็เดินออกไปทำงานต่อ ส่วนฉันก็ยืนดูรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ต่ออีกนิดหน่อยเผื่อว่ามีอะไรจะได้แก้ไขได้ทันเวลา"เป็นไงบ้าง" ฉันหันไปตามเสียงมาดังมาจากด้านหลัง"เรียบร้อยดีค่ะคุณท" ฉันตอบ "ผมฝากคุณด้วยนะ รู้ใช่ไหมว่าผมไม่ชอบให้มีอะไรผิดพลาด" คุณทศพูด "ทราบค่ะ" ฉันตอบ วันงาน ฉันมาถึงบริษัทแต่เช้าเพื่อตรวจดูความพร้อมอีกครั้ง วันนี้เป็นวันสำคัญของบริษัท แขกและสปอนเซอร์ที่เชิญมาก็มีจำนวนมากไหนจะนักข่าวจากช่องต่าง ๆ อีกแถมเมื่อคืนนี้ฉันก็เพิ่งได้รับอีเมลว่าขอเพิ่มชื่อแขกพิเศษเข้ามาอีกหลายคนเลย วันนี้ฉันก็เลยต้องรีบมาจัดการดูแลตั้งแต่แต่เช้าตรู่เลย ในขณะที่ฉันกำลังหัวหมุนกับงานตรงหน้า ฉันก็หันไปเห็นคุณทศที่กำลังเดินเข้ามาหาฉัน(ซวยแล้วไงยัยดาวเอ้ย~ นี่เรามัวแต่เตรียมงานจนลืมเวลาไปเลยเหรอ) ฉันรีบวิ่งเข้าไปหาคุณทศแล้วก้มหัวขอโทษเขาจากใจจริง "ดาวขอโทษนะคะคุณทศ คึ...คือดาวมัวแต่ยุ่งอยู่
คุณทศเดินไปเปิดประตูที่นั่งด้านหลังให้แม่กับป้าน้อย ทั้งคู่หันมามองที่ฉันเหมือนเป็นการถามเพื่อความแน่ใจว่าขึ้นไปได้จริง ๆ ใช่ไหมฉันเลยพยักหน้าตอบเพื่อให้พวกเขาสบายใจแม้แม่กับป้าน้อยจะรู้สึกเกรงใจคุณทศมาก ๆ แต่การที่เขาเปิดประตูรอแบบนั้นก็ทำเอาแม่กับป้าน้อยไม่อาจปฏิเสธได้เลย ฉันมองดูการกระทำของคุณทศที่ปฏิบัติต่อแม่และป้าน้อยอยู่ตลอดด้วยความพอใจเพราะถึงเขาจะเป็นถึงเจ้าของบริษัทแต่ไม่มีท่าทีเย่อหยิ่งหรือทำตัวไม่ดีต่อครอบครัวที่แสนจะธรรมดาของฉันเลยแม้แต่น้อยและเพราะเขาเป็นแบบนี้เนี่ยแหละฉันถึงยิ่งประทับใจเขามากขึ้นทุกที พอแม่กับป้าน้อยขึ้นไปนั่งบนรถแล้วคุณทศก็หันกลับมามองฉัน พอสบตากับเขาอีกครั้งฉันก็ถึงสะดุ้งเลยจากนั้นฉันก็รีบเดินไปเปิดประตูแล้วขึ้นไปนั่งฝั่งข้างคนขับทันที แม้จะไม่ได้หันไปมองหน้าเขาอีกครั้งแต่ฉันรู้สึกได้เลยว่าคุณทศต้องกำลังยืนขำท่าทางตลก ๆ ของฉันเมื่อกี้อยู่แน่ ๆ ร้านอาหารมาถึงร้านฉันก็บอกให้แม่กับป้าน้อยเข้าไปก่อนเลยเพราะฉันจองโต๊ะเอาไว้แล้ว"คุณไม่ลงเหรอ" ฉันค่อย ๆ หันหน้าไปหาเขาด้วยความตื่นเต้น "หรือว่าอยากจะกลับบ้านพร้อมกับผม" น้ำเสียงและสีหน้าทีเล่นที่จริงของเขา
"เมื่อกี้คุณทศยิ้มให้เราเหรอ" ฉันถามตัวเองเบา ๆ ด้วยหัวใจที่เต้นรัวอย่างกับจะระเบิดออกมา"แล้วทำไมเราต้องดีใจขนาดนี้ด้วยละ...ฉันต้องบ้าไปแล้วแน่ ๆ เลย" หลังจากยืนคุยกับตัวเองอยู่แป๊ปนึงฉันก็เดินกลับไปนั่งที่โต๊ะทำงานจากนั้้นก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาแม่"ฮัลโหลค่ะแม่""ว่าไงจ๊ะลูก""วันนี้ช่วงบ่ายแม่กับป้าน้อยไม่ต้องทำกับข้าวออกไปขายที่ตลาดนะคะ""ทำไมล่ะลูก""ไม่มีอะไรหรอกค่ะ วันนี้ประมาณห้าโมงเย็นแม่กับป้าน้อยขึ้นแท็กซี่มาหาดาวที่บริษัทนะคะ""อะไรอีกล่ะเนี่ย""ต้องมานะคะ""จ่ะ ๆ ไว้เจอกันนะเดี๋ยวแม่ต้องไปช่วยป้าน้อยแกขายของต่อแล้ว""ค่ะ ดาวรักแม่นะคะ""จ่ะ แม่ก็รักดาวนะลูก"ทศราช Partผมนั่งมองกล่องสีดำเล็ก ๆ นั่นด้วยรอยยิ้มมาอยู่สักพักหลังจากที่เธอออกจากห้องไป"ของขวัญตอบแทนเหรอ ฮึ ๆ ดีกว่าที่คิดไว้อีกแฮะ" ผมพูดแล้วหยิบเสื้อสูทตัวโปรดที่คลุมอยู่บนเก้าอี้ขึ้นมาใส่จากนั้นก็ดึงปากกาด้ามเก่าที่เหน็บอยู่บนกระเป๋าเสื้อออกแล้วแทนที่ด้วยปากกาด้ามใหม่ที่เธอเพิ่งให้เมื่อกี้แทนดวงดาว Partหน้าบริษัทหลังจากเลิกงานฉันก็ออกมายืนรอแม่กับป้าน้อยอยู่หน้าบริษัท ในระหว่างที่ฉันยืนรออยู่นั้นรถของคุณทศ