“มีคนกรีดยางรถกู ใครมันกล้าทำขนาดนี้วะเนี่ย”แม็กซ์เวลยกมือขึ้นมาเสยผมอย่างคนหัวเสียนี่ครั้งแรกที่ไอ้ลูกชายคันโปรดโดนทำแบบนี้แถมไม่มีใครกล้าทำเช่นนี้กับเขาด้วย
“กูจะไปดูกล้องวงจร อย่าให้กูรู้ใครทำกูเอาตายแน่”พูดจบคนตัวสูงก็รีบเดินมุ่งหน้าไปห้องสำนักงาน ด้านหนุ่มหล่อทั้งสี่คนเมื่อเห็นแม็กซ์เวลเดินไปก็รีบวิ่งตามก้นไปพร้อมกับเอ่ยบอกเพื่อน “รอก่อนไอ้แม็กซ์ พวกกูไปด้วย ซวยแล้วมึงใครทำวะเนี่ย” เมื่อทั้งห้าถึงห้องสำนักงานพนักงานรักษาการก็เปิดกล้องวงจรให้ดู กระทั่ง… “โห สวย หุ่นดี มองภาพลาง ๆ ยังรู้ว่าเธอสวยมากเธอคือใครวะทำไมมาทำรถมึง”คิวท์พูดขึ้นเมื่อเห็นร่างบางเคลื่อนไหวอยู่ในจอ ถึงแม้ว่าคนในภาพจะใส่แค่เสื้อยืดกางเกงยีนส์ขาสั้นแต่ก็ไม่อาจลดความสวยของมิเรย์เลยแม้แต่น้อย “ยัยสก๊อยปากแจ๋ว”แม็กซ์เวลพูดเสียงเข้มขณะสายตาคมก็จ้องมองมิเรย์ทำบางอย่างกับรถคันโปรดของเขาอย่างคาดโทษ “สก๊อย มึงรู้จักเธอเหรอ?”ไทเลอร์ที่มองหน้าจออยู่อีกฝั่งขมวดคิ้วถามแม็กซ์เวลด้วยความสงสัย เมื่อได้ยินเพื่อนพูดพร่ำออกมา “เออ คนนี้กูขับรถเฉี่ยวเมื่อตอนบ่ายสามเองแหละ แสบฉิบหาย”แม็กซ์เวลเอ่ยตอบหน้าเซ็ง ใครมันจะไปคิดว่ายัยสก๊อยที่เขาเอ่ยว่าจะเป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้นขนาดนี้ “เอาว่ะ ตัวแรร์”ไทเลอร์พูดไปตามที่เห็นปกติไม่เคยมีใครที่ไหนจะกล้าทำแบบนี้กับแม็กซ์เวลเลยด้วยนิสัยใช้เงินแก้ปัญหาของเพื่อน มีปัญหาทีไรเงินฟาดหน้าไปคือเรื่องจบแต่ครั้งนี้เงินฟาดแล้วไม่จบ “แล้วมึงจะเอาไงต่อ” “ปล่อยไปก่อน แต่อย่าให้กูเจออีกนะ กูจัดให้หนักแน่”พูดจบแม็กซ์เวลก็จัดการกดโทรศัพท์โทรสั่งให้ลูกน้องมาลากรถไปอู่ซ่อมรถก่อนจะให้ไทเลอร์พาไปคอนโดเพื่อไปเอารถลัมโบร์กีนีอีกคัน ปรึ้น ปรึ้น~ ลัมโบร์กีนีสีเทาแล่นออกจากคอนโดหรูใจกลางกรุง มุ่งหน้าไปยันผับดังแห่งหนึ่งที่เต็มไปด้วยนักดื่มและสาวสวยออกมาท่องราตรี เมื่อเจ้าของลัมโบร์กีนีสีเทาถึงผับร่างสูงโปร่งใบหน้าหล่อเหลานิสัยรวย กวนตีนหน่อย ๆ ก็ก้าวเดินเข้ามาหาเพื่อนในโซนวีไอพีที่มีสาวสวยระดับพริตตี้ห้าคนคอยบริการ เมื่อเพื่อนทั้งสี่คนเห็นแม็กซ์เวลเดินเข้ามายังไม่ทันจะถึงที่นั่ง ไทเลอร์จึงบอกเบลหนึ่งในพริตตี้เดินเข้าไปหาแม็กซ์เวล “เติมเหล้าอีกไหมคะ”สาวสวยที่คอยบริการไทเลอร์พูดขึ้น เมื่อเห็นเหล้าในแก้วใกล้จะหมด ด้านไทเลอร์เมื่อได้ยินสาวสวยเอ่ยถามก็ยิ้มกรุ้มกริ่มตอบพลางยื่นแก้วเครื่องดื่มให้ “เติมจ้ะ” “รถซ่อมเสร็จกี่วันวะไอ้แม็กซ์ แต่เปลี่ยนแค่ล้อไม่น่านานมั้ง”เจค็อปถามเพื่อนขึ้นเพราะเห็นว่าเป็นรถคู่ใจอีกทั้งเพิ่งจะเปลี่ยนล้อไม่กี่วันที่ผ่านมาเอง เมื่อแม็กซ์เวลได้ยินแบบนั้นแล้วจึงถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ “รออะไหล่วะรุ่นนี้หายาก ต้องสั่งของมาจากญี่ปุ่น”พูดจบแม็กซ์เวลก็กระดกเครื่องดื่มเข้าปากท่าทางเซ็ง ๆ ก่อนจะเอนตัวพิงโซฟานุ่ม เบนสายตามองสาว ๆ ที่นั่งดื่มดั่งนอกโซนวีไอพีแก้เซ็ง “ที่โกดังพ่อมึงไม่มีเหลือเลยเหรอวะรุ่นนี้” “ไม่มีเพิ่งจะเปลี่ยนไป ของยังมาไม่ถึง” “แต่น้องสก๊อยปากแจ๋วอะไรนั่นก็แสบจริง ๆ นะ ทำอย่างกับรู้ว่าล้อที่มึงใช้คือตัวหายากในไทยแล้วแม่งล่อทำทั้งสี่ล้อซะด้วย”ไทเลอร์หัวเราะอย่างชอบใจกับการกระทำของมิเรย์จากนั้นแม็กซ์เวลก็จิ๊ปากและสายหน้าเนื่อย ๆ “ว่าแต่ ทำไมมึงถึงเรียกน้องเขาว่าสก๊อยปากแจ๋ว”สิ้นคำถามอีริกเพื่อนทั้งสี่คนก็จ้องรอฟังคำตอบจากแม็กซ์เวลเหมือนกดดันให้แม็กซ์เวลเล่าเหตุการณ์ที่ขับรถเฉี่ยวมิเรย์ให้ทุกคนฟัง “ยัยนั่นด่ากู ว่ากูขับรถใช้ตาหรือตาตุ่มมองทาง ทั้ง ๆ ที่ตัวเองไม่มองรถเอง” “ฮ่า ฮ่า จริงเหรอนี่ผู้หญิงคนแรกเลยนะที่กล้าด่ามึง ถ้าเป็นคนอื่นเห็นหน้าหล่อ ๆ แบบนี้คงใจอ่อนใจบางลงแล้ว” “ก็เออสิ แม่งกูให้เงินไปตั้งหมื่น เสือกไม่จบมาทำรถกูอีก เอ่อแล้วนี่อีกโต๊ะมึงจองไว้ให้ใครวะ ฝั่งนั้น”แม็กซ์เวลชี้นิ้วไปโต๊ะข้างกันในโซนวีไอพีที่มีโซฟาราวสี่ถึงห้าที่นั่ง ถ้าให้เดาว่าจองไว้สำหรับสาว ๆ ที่มาบริการก็ไม่น่าจะใช่ “อ่อ รุ่นน้องกูเองแหละ นั่นไง มากันแล้วตายยากฉิบหาย” ******************** ไรท์มาต่อตอนที่ 3 ให้แล้วนะคะ 😍🔥 แอบเอ็นดูไอ้หนุ่มปากหนัก โดนกรีดล้อรถซะแล้ว ความแสบเข้าเส้นของสาวมิเรย์ก็ยังไม่จบเพียงแค่นี้น้าา ไรท์ฝากจิ้มปุ่มติดตามให้ไรท์ด้วยน้าา #ไหว้ย่อค่ะ จิ้มโลด ๆ จิ้มโลดสู…7 ผ่านไป“แม่คะ โตขึ้นมิลินขอเป็นนักแข่งรถเหมือนลุงเก็นได้ไหมคะ”เสียงเด็กหญิงมิลินเอ่ยถามคนแม่อย่างไร้เดียงสา หลังจากที่กลับมาจากโรงเรียนอินเตอร์กับคนเป็นพ่อ ด้านมิเรย์เมื่อได้ยินลูกสาวเอ่ยพูดก็ตกใจไม่น้อย จากนั้นจึงเอ่ยถามมิลินต่อ“พ่อพาไปสนามแข่งรถมาเหรอคะ”มิลินเมื่อได้ยินมิเรย์เอ่ยถามเช่นนั้นจึงตอบไปตรง ๆ “ใช่ค่ะ คุณพ่อพามิลินกับแพนเตอร์แวะไปสนามแข่งรถมา รถซิ่งมากค่ะคุณแม่ แพนเตอร์ก็ชอบ”สิ้นเสียงไร้เดียงสาของสาวน้อยมิลินมิเรย์จึงไม่พูดอะไรต่อ จากนั้นศรีอัมพรจึงเดินมารับมิลินไปเล่นด้วยที่ห้องนั่งเล่นของบ้าน ด้านแม็กซ์เวลเมื่อเดินเข้ามาภายในบ้านเห็นมิเรย์ตาแข็งใส่ ก็พอจะเดาได้ว่าลูกสาวตัวแสบน่าเล่าเรื่องที่เขาพาตนกับน้องชายไปสนามแข่งรถมาบ้างแล้ว“คิดถึงแม่จัง กอดหน่อย”“นี่แหน่ แม่บอกพ่อแล้วใช่ไหม ว่าอย่างเพิ่งพาลูกเราไปสนามแข่งรถ ลูกเราอายุยังน้อย”มิเรย์พูดตำหนิแม็กซ์เวล ขณะใบหน้าพริ้มเพราก็หันไปมองลูกสาวที่กำลังนั่งเล่นกับศรีอัมพรในห้องนั่งเล่น“พอดีพ่อรีบเอาของไปให้ไอ้เลอร์และไอ้เก็นมัน ขอโทษน๊า ครั้งหน้าจะไม่ทำอีกแล้วครับ”ไม่เพียงแค่พูดร่างสูงยังกอดอ้อนมิเรย์พร้อมกับหอมแก้มฟอดให
วันเวลาผ่านไปเกือบปีตอนนี้มิเรย์กับแม็กซ์เวลก็ยังใช้ชีวิตคู่ด้วยกันอย่างมีความสุข โดยมีแก้วตาดวงใจตัวน้อย ๆ อย่างมิลินอยู่ด้วยไม่ห่างกาย“พ่อ อาบน้ำให้ลูกยัง”เสียงของมิเรย์เอ่ยถามแม็กซ์เวลในขณะที่กายหนาเดินอุ้มมิลินขึ้นมาบนห้องชั้นสอง“อาบแล้วครับแม่ แต่กว่าจะอาบเสร็จก็นานเลย”เนื่องจากมิลินชอบเล่นน้ำ การอาบน้ำเด็กวัยสิบเอ็ดขวบจึงเป็นเรื่องยาก หากไม่ถูกตามใจก็จะงอแง แต่มิเรย์และแม็กซ์เวลก็จะเลี้ยงแบบมีเหตุไม่ตามใจลูกอะไรมาก เว้นแต่หากมิลินอยู่กับย่าและยายก็จะโดนตามใจมากเป็นพิเศษ“แล้วแม่กลับมานานยัง ทานข้าวยังครับ”“ยังเลย ฝากพ่อดูลูกก่อนนะ เดี๋ยวเค้าอาบน้ำแป๊บนึงแล้วจะมาเปลี่ยน อยู่กับพ่อก่อนนะคะเดี๋ยวแม่มาอุ้มนะมิลินคนสวยของแม่”ด้านแม็กซ์เวลเมื่อเห็นว่ามิเรย์เข้าไปอาบน้ำ จึงพามิลินนั่งเล่นของเล่นต่อในห้อง เหลือบสายตาคมมองนาฬิกาตอนนี้ก็เกือบจะสองทุ่ม จากนั้นแกรก…“แม็กซ์ แม็กซ์ เอามิลินมาให้แม่”“มีอะไรแม่”“เอามา เอามิลินมา มาเลี้ยงเอง”ศรีอัมพรเอ่ยพูดกับลูกชาย ขณะขาก็ก้าวเข้ามาในห้องแล้วหลอกล่อมิลินไปกับเธอ ด้านแม็กซ์เวลเมื่อเห็นแม่ทำเช่นนั้นก็รู้สึกงงไม่น้อย กระทั่ง..“วันนี้มิลิน
เมื่อมิเรย์เข้าไปในห้องคลอดแม็กซ์เวลก็นั่งเก้าอี้แทบไม่ติด นั่งได้ไม่ถึงหนึ่งนาทีร่างสูงโปร่งก็ต้องยันตัวลุกเดินไปมาด้วยความตื่นเต้น ขณะใจก็ยังคงห่วงลูกกับมิเรย์ไม่หลุดด้านมิเรย์เมื่อเข้ามาถึงห้องคลอดก็ยิ่งปวดถี่เพิ่มมากขึ้นจนต้องร้องไห้ระบายความเจ็บออกมาโดยไม่อายพี่ ๆ พยาบาลและหมอตาล เมื่อหมอตาลเห็นว่ามิเรย์ปวดมาก จึงประสานงานไปยังวิสัญญีแพทย์มาทำการบล็อกหลังให้มิเรย์คลายความเจ็บปวดเมื่อบล็อคหลังเสร็จเรียบร้อยพยาบาลจึงให้มิเรย์เอาขาขึ้นขาหยั่ง จากนั้นก็ทำการคลุมผ้าปราศจากเชื้อตรงหว่างขามิเรย์อีกคราก่อนจะก้มลงตัดแผลฝีเย็บ จากนั้นหมอตาลก็สั่งให้มิเรย์เบ่ง..“คุณแม่เบ่งค่ะ อื๊ดด~”มิเรย์ออกแรงเร่งสุดกำลังแรง ขณะลมหายใจก็ร้อนพราวหายใจออกมาถี่รัว“เบ่ง อึบ..”“อื๊ด..โอ๊ย หมอตาล”“อีกนิดนึง ๆ”สิ้นเสียงที่หน้าตื่นเต้นของหมอตาล พยาบาลจึงตะโกนขึ้น“คลอดแล้วค่ะ 16:15 น. ทารกเพศหญิง”พูดจบพยาบาลที่พูดขึ้นก็ก้มลงจดอะไรบางอย่างลงไปในเอกสาร ด้านหมอตาลเมื่อมิลินออกมาลืมตาดูโลกแล้วจึงรีบอุ้มมิลินเข้าไปให้มิเรย์ดู แต่ในระหว่างที่มิเรย์ได้เห็นคนแปลกหน้าที่เธออยากเจอน้ำใส ๆ ก็ไหลออกจากตาสองข้างด้วยควา
หลายวันผ่านไปเกือบเหลืออีกเพียงสามสัปดาห์สุดท้ายของการตั้งครรภ์ ศรีอัมพรเองก็เห่อหลานใช่เล่นกดสั่งของเตรียมคลอดมาไว้เต็มบ้าน ไม่เว้นแม้กระทั่งไซมัสเขมมิกาและเก็นชิ ยอมทิ้งงานเพื่อบินกลับมารอรับขวัญหลานสาวที่ใกล้จะลืมตาดูโลกในอีกเร็ววันด้วยความตื่นเต้นกันถ้วนหน้า“รีบ ๆ เข้ามาจัดเลย ไว ๆ”เสียงของศรีอัมพรออกคำสั่งกับพนักงานราวห้าหกคนเสียงดังให้รีบขนของลงจากรถคันใหญ่เข้าในบ้านหลังโต จนทำให้ร่างบางที่นอนหลับกลางวันสะดุ้งตื่นกับเสียงที่รบกวนมิเรย์เมื่อได้ยินจึงใช้มือขยี้ดวงตาพลางยันตัวค่อย ๆ ลุกขึ้นนั่งงัวเงีย จากนั้นก็ลุกเดินไปแหวกม่านดูว่าเสียงคนกำลังทำอะไร“เฮ่อ ปวดหลังจัง”ร่างบางเอ่ยพูดพร้อมกับใช้มือพยุงท้องโต ๆ ขณะมือที่ว่างอีกข้างก็จับกระดูสันหลังเอนตัวคลายความปวด สักพักก็เดินหมุนตัวกลับมาที่เตียงนอนนุ่มด้านแม็กซ์เวลเมื่อรู้ว่าใกล้กำหนดคลอดของมิเรย์เข้ามาเรื่อย ๆ ก็ไปทำงานแค่เพียงครึ่งวันแล้วกลับบ้าน เนื่องจากกลัวว่ามิเรย์จะคลอดก่อนกำหนด มิเรย์เดินกลับมานั่งที่เตียงไม่นานแม็กซ์เวลก็เปิดประตูห้องเข้ามา“วันนี้แม่อยากให้เธอย้ายลงไปอยู่ชั้นล่าง ท้องโตมากกลัวเดินขึ้นลงลำบาก ไหนจะเท้าบว
“ทำเป็นปากหวานตลอด”ไม่พูดเปล่า มือเรียวบางยังจับคางแม็กซ์เวลส่ายไปมาอย่างหมั่นเขี้ยว ด้านแม็กซ์เวลเมื่อเห็นมิเรย์ทำเช่นนั้นจึงยิ้มหวานพลางเอ่ยถามน้ำเสียงปกติออกไป“จะอาบน้ำตอนไหน อาบน้ำได้แล้วมั้ง”เนื่องจากเข้าสู่เดือนที่แปดท้องมิเรย์โตมากจนไม่สามารถทำความสะอาดตัวได้ทั่วถึง แม็กซ์เวลจึงมีหน้าที่ดูแลในเรื่องนี้เพิ่ม เขินก็เขินแต่จะทำไงได้..“อาบเลยก็ได้จะได้เตรียมตัวลงไปทานข้าวเย็นกัน”เมื่อเห็นพระอาทิตย์ใกล้ตกมิเรย์จึงเอ่ยตอบไปอย่างไม่ขัด พูดจบร่างบางก็ยันตัวลุกขึ้นพร้อมกับพยุงท้องโต ๆ ของเธอเดินเข้าห้องแต่งตัวเพื่อถอดชุดเดรสออก“มานี่เดี๋ยวลองทำนี่ให้ดู ไปอ่านเจอมาเขาบอกจะสบาย”ร่างสูงโปร่งเดินดิ่งมาหาร่างบางที่กำลังจะถอดชุดเดรสลงตะกร้า จากนั้นก็โอบเอวมิเรย์จากด้านหลังแล้วพยุงท้องของเธอขึ้น ทว่าร่างบางกลับตกใจ“จะทำอะไร ทำได้เหรอ”“ทำได้ อยู่เฉย ๆ เขาบอกว่าจะชวนให้หายปวดหลังได้ด้วยนะ”ไม่เพียงแค่พูดแม็กซ์เวลยังวางมือหนาลงเบา ๆ พยุงท้องโต ๆ ของมิเรย์ขึ้นต่อ มิเรย์เมื่อเห็นแบบนั้นก็ไม่ว่าอะไร ขณะดวงตาคู่สวยก็มองว่าแม็กซ์เวลจะทำอะไรต่อแล้วสิ่งที่ทำมันดีจริงไหม ทว่าสิ่งที่แม็กซ์เวลทำมันทำให
ช่วงค่ำของวันของวันหลังจากทั้งคู่เดินลงไปทานข้าวเสร็จ ก็พากันกลับมาห้องนอนมิเรย์เองก็ไม่ลืมที่จะกินยาบำรุงแล้วเดินไปแปรงฟันในห้องน้ำ จากนั้นก็เดินมานั่งลงเตียงนอนนุ่มเตรียมตัวเข้านอน ทว่าก่อนนอนก็ยังคงต้องเปิดเพลงในตัวจิ๋วฟังพร้อมทั้งเปิดไฟฉายส่องกระตุ้นพัฒนาการ“ฉันขอทำนะ เธอทาออยโลชันไปยัง”“ทาแล้ว”พูดจบแม็กซ์เวลก็หยิบไฟฉายมาส่องที่หน้าท้องกลม ๆ ของมิเรย์เพื่อกระตุ้นการมองเห็นของเจ้าจิ๋วในครรภ์ ขณะที่เจ้าจิ๋วที่อยู่ในครรภ์เมื่อโดนไฟฉายส่องก็ดิ้นถีบท้องมิเรย์ใหญ่“แรงดีจริง ๆ เธอจะตั้งชื่อลูกว่าอะไร”“ฉันอยากตั้งชื่อว่ามิลิน นายคิดว่าไง”“มิลิน ที่แปลว่าฉลาด ใช่ไหม”แม็กซ์เวลพูดพร้อมกับแสดงท่าทางใช้ความคิด ขณะมือหนาก็ยังส่องไฟฉายกระตุ้นพัฒนาการต่อ ทางด้านมิเรย์เมื่อได้ยินแม็กซ์เวลพูดเช่นนั้นจึงพูดต่อ“อือหึ นายรู้ความหมายได้ยังไง”“ก็ฉันฉลาดไง”สิ้นเสียงทะเล้นของแม็กซ์เวล มิเรย์จึงเบ๊ปากมองบนขึ้นด้วยความหมั่นไส้กับความมั่นในครั้งนี้ ก็จริงอย่างที่แม็กซ์เวลพูดนั่นแหละ จากนั้นทั้งคู่ก็เล่านิทานให้ลูกน้อยฟัง“สรุปนายโอเคไหม? ที่ฉันจะตั้งชื่อลูกชื่อมิลิน”“โอเคสิ เธอว่าไงฉันก็ว่างั้น”ริมฝี